ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TODAE] Space

    ลำดับตอนที่ #5 : [TODAE] Space (end)

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 56




    ผมเห็นแหวนวงที่หายไปตกอยู่ที่พื้น ห่างจากผมไปไม่ไกลนัก


    ผมรีบตรงเข้าไปเพื่อที่จะหยิบมัน



    แต่กลับมีมือมาคว้าแหวนนั้นไปซะก่อน



    ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาคว้าแหวนนั้นไป



    คุณลุงคนเดิมคนนั้น



    ผมยืนมองหน้าเขา มีคำพูดมากมายอยากเอ่ยออกไป


    อยากขอร้องให้เขาคืนแหวนนั้นให้ผม อยากขอร้องให้เขาคืนทุกสิ่งที่เขาเอาไปจากชีวิตผม


    อยากขอร้องให้เขาคืนคนที่ผมรักที่สุดกลับมา


    แต่สิ่งที่ผมทำ คือยืนเงียบๆและปล่อยให้ทุกคำพูดในใจ ถูกระบายออกมาทางหยดน้ำตา


    ผมรู้ว่าคุณลุงต้องเข้าใจผม


    ผมเป็นคนที่แทบจะไม่ร้องไห้เลยถ้าไม่ถึงระดับที่ทนไม่ไหวจริงๆ


    เพราะผมรู้ น้ำตามันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้


    มันมีแต่จะทำให้คนรอบข้างเป็นห่วง และคนที่จะเป็นห่วงผมที่สุดเวลาที่ผมร้องไห้



    ก็คือเขาคนที่คุณลุงพาไปจากผมนั่นแหละครับ



    เรายังคงจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น น้ำตาผมยังคงไหลออกมาไม่หยุด ผมไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย ทำแค่เพียงปล่อยน้ำตาให้มันไหลต่อไปเงียบๆ


    แล้วเสียงคุณลุงดังก้องในหัวผมอีกครั้ง


    ผมยกมือปาดน้ำตา พยักหน้าอย่างหนักแน่นและชัดเจนที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้



    ครั้งนี้ ผมจะไม่ทำผิดพลาดอีกแล้ว


    -------------------------


    ผมสะดุ้งตื่นสุดตัวเพราะอะไรก็ไม่รู้ หมอนใบนั้นยังคงอยู่แนบอกเหมือนตอนก่อนที่ผมจะผล็อยหลับไป


    ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลา ก่อนจะพบว่ามันยังเช้าอยู่มาก แถมผมยังนอนไม่หลับอยู่ค่อนคืน นับๆเวลาแล้ว ผมน่าจะเพิ่งนอนไปได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมง


    ผมหลับตาลงอีกครั้ง สูดกลิ่นประจำตัวของเจ้าของหมอนที่ยังติดอยู่นิดหน่อย รู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด จนเหมือนจะเคลิ้มหลับไปอีกรอบ

    .
    .
    .
    .

    เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังอยู่ไม่ไกลตัว ...

    .
    .
    .
    .

    ผมไม่กล้าลืมตา เพราะกลัวเสียงนั้นจะหายไป


    ระหว่างที่ยังนอนหลับตาอยู่อย่างนั้น


    ผมก็ส่งเสียงแหบๆของตัวเองถามออกไป


    ถ้านั่นเป็นพี่จริงๆ ช่วยยืนยันให้ผมมั่นใจหน่อยครับ ว่าผมไม่ได้กำลังฝันหรือคิดไปเอง


    เวลาที่แท้จริงอาจผ่านไปไม่นานเท่าไรนัก แต่สำหรับผม มันคือการรอคอยที่เนิ่นนานเหลือเกิน


    ความร้อนจากร่างกายของอีกคน ค่อยๆคืบคลานรายล้อมรอบตัวผม


    ความอบอุ่นที่ขาดหายไปหลายวัน ความอบอุ่นที่ผมคงไม่สามารถหาจากที่ไหนได้อีก กำลังโอบกอดผมเอาไว้


    ขอบตาร้อนผ่าว ถ้าผมลืมตามองพี่ตอนนี้ ผมคงมองหน้าพี่ได้ไม่ชัด มันคงพร่ามัวไปด้วยน้ำตาแน่ๆ


    ริมฝีปากที่ผมจำได้และคุ้นเคยเป็นอย่างดี กำลังไล่กดจูบบนเปลือกตาทั้งสองข้างของผม


    ผมปล่อยมือออกจากหมอน วาดแขนไปกอดร่างแข็งแรงตรงหน้า ความรู้สึกจากร่างกายที่เคยคุ้นทำให้ผมเผลอปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่


    มือของเขาเลื่อนมาลูบหัวผมเบาๆ ซึ่งนั้นยิ่งทำให้ผมปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมามากขึ้น


    มือเดียวกันนั้นกดหัวผมให้เข้าไปซุกอกอุ่น ต้นกำเนิดกลิ่นที่ผมคิดถึงมากจนต้องอาศัยสูดกลิ่นนั้นจากหมอน กำลังลอยกรุ่นอยู่ที่ปลายจมูก


    ผมสะอึกสะอื้นพูดทุกอย่างที่อยู่ในใจออกมากับอกกว้างนั้น ทั้งขอโทษ เสียใจ ดีใจ ...


    ทุกคำที่ผมรู้สึกแต่ไม่เคยคิดจะพูด ตอนนี้ผมจะพูดมันออกมาให้หมด


    ผมจะทำทุกอย่างที่จะไม่ทำให้ผมต้องรู้สึกเสียใจในภายหลังอีกแล้ว ...


    ------------------------------


    กลิ่นซุปลอยอ่อนๆมาเข้าจมูกผม


    ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะพบว่ามีเพียงผมคนเดียวที่นอนอยู่บนเตียง


    เปิดประตูห้องนอนออกไป ร่างของคนที่ผมคิดถึงจับใจ ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าเตา


    ผมไม่ใช่คนเจ้าน้ำตานะ แต่ภาพที่กำลังเห็นนี้มันทำให้น้ำตาผมเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง


    ตาคมหันมาสบกับตาเล็กของผม จังหวะนั้นลมหายใจผมสะดุดติดขัด


    ... เหมือนวันแรกที่เราเจอกัน

     


    รอยยิ้มสำนึกผิดถูกส่งมาจากริมฝีปากบางนั่น ผมที่มองอยู่ทำได้แค่ยิ้มตามทั้งน้ำตา

     

    ... กลิ่นซุปกำลังเปลี่ยนไป


    มันกำลังไหม้

     

    ผมเห็นเขาตกใจและวุ่นวายกับการพยายามจัดการซุปที่กำลังไหม้ แต่นั่นคือเขา ไม่มีทางอยู่แล้วที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ



    ห้องครัวผมรกเหมือนเจอมรสุม ทุกอย่างกระจัดกระจาย ความจริงผมไม่ชอบอะไรที่เละเทะแบบนี้ แต่ถ้าความเละเทะนี้แลกมาด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเราสองคน

     

    ... ผมก็ว่ามันคุ้มค่าเหนือสิ่งใด

     

    ------------------------


    เขานั่งอยู่บนโซฟา ผมถือแก้วกาแฟที่ชงมาให้เขา

     

    เขาตบที่นั่งข้างตัวเอง ผมยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างเขาอย่างเต็มใจ

     

    วางกาแฟไว้ตรงหน้า เขาโอบแขนไว้รอบไหล่ผม ส่วนผมก็โอบแขนไว้รอบเอวเขา ก่อนจะพิงลงไปที่ไหล่กว้างนั่น

     

    เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ปลายสายคือเพื่อนสนิทของผม

     

    ผมรับโทรศัพท์ พูดคุยอยู่สักพักก่อนวางสายไป แล้วกลับไปนั่งพิงคนข้างๆอีกครั้ง

     

    วันนี้ ผมยกทั้งวันของผมให้เขาคนเดียวครับ

     

     

    เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาส่งมาให้ผม ซึงรีโทรมา

     

    ผมยิ้ม ก่อนกดรับสาย ทนฟังซึงรีที่บ่นอยู่สักพักเรื่องที่พี่ท็อปผิดนัด บอกว่าจะพาผมเข้าบริษัทพร้อมกันตอนสายๆ

     

    ผมขอโทษปลายสายที่เราสองคนไม่ได้เข้าบริษัท และสัญญาว่าพรุ่งนี้เราจะเข้าไปแน่นอน
     

    ผมวางสาย มองหน้าคนที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ

     

    สงสัยว่าเขาหายไปไหนมา เขาจะรู้ตัวไหมว่าเขาหายไป …

     

    และเขาจะรู้ไหมว่าวันที่ผมไม่มีเขา ผมไม่สามารถอยู่ต่อไปได้

     

    แต่ผมตัดสินใจที่จะไม่ถาม เรื่องที่ผ่านมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปขุดคุ้ยหาอะไรจากมันอีก

     

    เพียงแค่เก็บมันไว้เป็นบทเรียนเพื่อที่จะไม่ทำผิดซ้ำอีก ก็คงเพียงพอ
     


    ---------------------

     

    มือที่โอบรอบไหล่ผมเริ่มซุกซน ย้ายจากไหล่เลื่อนลงมาที่เอว

     

    ผมเงยหน้าสบตาเขา เห็นประกายวิบวับที่มองแล้วก็ชวนให้เขิน

     

    ก้มลงมองข้างล่าง ก็เห็นบางสิ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขากำลังต้องการอะไร

     

    เขาพยายามผลักผมลงเพื่อให้นอนบนโซฟา แต่ผมขืนตัวไว้พลางขมวดคิ้ว

     

    คนตรงหน้าเริ่มทำหน้าเสีย ผมถึงได้หัวเราะออกมาพร้อมผลักเขาลงนอนบนโซฟา

     

    ก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมเขาไว้ ...

     

    สายตาประหลาดใจถูกส่งมาให้ผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นถูกใจ เมื่อผมโน้มตัวเข้าไปใกล้เขามากขึ้น

     

    ผมกระซิบข้างริมฝีปากบางนั้นเบาๆ คำที่ผมอยากบอกเขามากที่สุดในเวลานี้

     

     

    “ขอบคุณครับที่พี่กลับมา”

     

    -----------------------------

     

    END

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×