ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เขียนตามใจเจ๊เองจ้า(?) ไม่ต้องอ่านนะจ้ะ(?)--

    ลำดับตอนที่ #13 : Special 9 : โลกคู่ขนาน เหตุการณ์จีโนไซต์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26
      0
      19 ธ.ค. 63

    Special 9 : โลกคู่ขนาน เหตุการณ์จีโนไซต์





    ความรัก...ความเชื่อใจ...


    สิ่งนี้คือของคู่กัน หากเมื่อใดก็ตามที่มีสิ่งที่กระทบต่อจิตใจก็อาจก่อให้เกิดความรู้สึกด้านลบได้...


    โดยเฉพาะพวกที่มีอาการ 'ซึมเศร้า' ...


    ถูกทรยศหักหลังความเชื่อใจเพียงครั้งเดียวก็เหมือนกับถูกหักหลังมาเป็น 10 รอบ...


    ให้โอกาสพวกเขาให้คิดทบทวนแล้วยิ่งให้อภัยมันก็เหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจตัวเองเป็น 100ๆกว่าครั้ง


    เมื่อทำผิด...


    ก็จงรับ 'ผล' ของมันเสีย...


    2 คู่รักกับเพื่อนมิตรสหายอีก 3 คนหลังจากที่จัดการชำระความแค้นและเสร็จธุระในโลกคู่ขนานนี้ก็ได้เดินทางกลับโลกหลักของพวกเขาไป...


    ทิ้งไว้เพียงเสียง 'กรีดร้อง' แห่งความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง..


    ปล่อยให้พวกมันได้รับ 'กรรม' ไปอย่างไร้เยื่อใย...


    หากอยากที่จะกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็จงหาทางทำลาย 'คำสาป' ที่ตัวเธอโลกหลักได้ร่ายใส่ตัวหญิงสาวคนนั้นซะ...


    ลองพยายามทำให้เธอกลับมา 'เชื่อใจ' พวกเขาอีกครั้ง...


    แต่ยิ่งพยายาม...มักจะแลกมาด้วยการ 'สูญเสีย' และ 'การล้างแค้น' ...


    แม้เธอจะให้อภัยพวกเขาแค่ไหน...


    แต่จิตส่วนลึกของเธอ...กลับมีความแค้นและความเกลียดชังต่อพวกเขามากเหลือเกิน...












           ในโลกอันเดอร์กราวแห่งหนึ่ง แม้มันจะเหมือนกับโลกหลักมากแค่ไหนแต่ทว่ากลับมีบางสิ่งที่แตกต่างและไม่เหมือนเดิมแบบเมื่อก่อน...


           ถึงแม้ว่ามันจะถูกรีเซ็ต แต่เหล่ามอนสเตอร์ในอันเดอรืกราวล้วนแต่จดจำทุกๆเหตุการณ์การรีเซ็ตได้ทั้งหมดเพราะได้มีหญิงสาวจากโลกหลักมอบความทรงจำให้พวกเขาจดจำทุกๆเหตุการณ์ได้และไม่ว่าจะถูกรีเซ็ตไปมากแค่ไหนก็จะจำได้เหมือนเดิม...


           มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่พวกเขาจะได้ไม่ถูก 'หลอก' อีก...


           แต่สำหรับ 'เด็กสาว' คนนั้นที่ได้ถูก 'คำสาป' เล่นงานจนครอบงำ...


           กลับแตกต่างออกไป...


           ภายในสโนว์ดินนั้นมีร่างของเด็กสาวคนหนึ่งเจ้าของเส้นผมสีดำยาวสลวยดั่งอัญมณีนิลกับดวงตาสีดำ และชุดของเธอก็เป็นชุดเดรสสีขาวแต่ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบต่อเด็กสาวที่กำลังยืนนิ่งมองพื้นหิมะด้วยสีหน้าเรียบนิ่งกับแววตาของเธอที่ไร้แววราวกับตุ๊กตาไร้ชีวิต...
           "คุณคุโระครับ! คุณคุโระ! คุณอยู่!----อะผมเจอคุณแล้ว"เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เอ่ยเรียกชื่อของเด็กสาวดังขึ้นและสายตาของเขาก็ไปพบกับร่างของเธอที่ยืนท่ามกลางหิมะอันแสนหนาวเหน็บทำให้เขาต้องรีบเข้าไปหาเธอพร้อมถอดเสื้อคลุมมาคลุมตัวเธอทันทีเพื่อไม่ให้เด็กน้อยหนาว
           "อย่าออกมาแบบนี้สิครับ ที่สโนว์ดินน่ะมันหนาวมากเพราะมีหิมะ ยิ่งคุณออกมาในสภาพชุดนี้มันจะยิ่งทำให้คุณมีโอกาสเป็นไข้สูงมากนะครับ"องค์รัชทายาทหนุ่มพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแกมตักเตือนเล็กน้อยขณะที่เด็กสาวค่อยๆเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่ไร้แววแต่ก็กลับมามีรอยยิ้มอีกเช่นเคย
           "ค่ะ...ขอบคุณค่ะคุณแอสเรียล"
           "คุณมาทำอะไรที่สโนว์ดินงั้นหรอครับ?"
           "นอนไม่หลับน่ะค่ะ เลยอยากออกมาเดินเล่น"
           "แต่มาในสภาพแบบนี้ไม่ได้นะครับ แถมออกมาไกลด้วย ยังดีนะครับที่ผมหาคุณเจอน่ะถ้าหาไม่เจอแย่แน่ๆเลยนะครับ"แพะหนุ่มพูดพลางถอนหายใจราวโล่งอก
           "ไม่จำก็ได้ค่ะ ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงถ้าอย่างงั้นฉันขอตัวกลับเข้าไปนอนก่อนนะคะ"เด็กสาวพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูสดใสหากแต่แววตานั้นมันช่างขัดกับนํ้าเสียงและรอยยิ้มเหลือเกิน แต่เธอก็เดินออกจากสโนว์ดินกลับเข้าไปในวังศ์ทันที...
           จอยแอสเรียลในโลกคู่ขนานนี้ยามเมื่อมองแผ่นหลังของเธอที่เดินกลับเข้าไปนั้น แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอจะจำเรื่องในอดีตได้หรือเปล่าแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าเธอดูแปลกไป...และไม่เหมือนเดิมอีกเลย...

           เป็นเขาเอง...เขาผิดเองแหล่ะที่ไม่เชื่อใจเธอ...

           ในพื้นที่สโนว์ดินนี้เขายังจดจำมันได้ดีว่าเขาเองก็เคยตามหาเธอแล้วเขาก็ได้เป็นคนนำเสื้อของเขามาคลุมให้เธอ ตอนนั้นเธอดูตกใจและเกร็งๆนิดหน่อยกับการกระทำของเขาแต่สุดท้ายเธอก็กลับมายิ้มร่าเริงแล้วเดินกลับเข้าไป...

           แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วล่ะ...

           องค์รัชทายาทหนุ่มหลับตาลงคลับคล้ายกับกำลังพยายามข่มความรู้สึกบางอย่างก่อนจะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งแล้วจึงเดินกลับเข้าไปในบ้านตามคุโระไป....





           ในหลายวันต่อมา หลังจากที่คุโระอยู่ที่นี่มาได้ราวๆ 10 วันแล้วก็ได้มีรุ่นน้องสาวของเธอมาชวนไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่งพอคุโระได้พบเจอกับแบล็คมันกลับทำให้คุโระดูมีชีวิตชีวามากกว่าตอนแรกๆ แววตาที่เคยไร้แววนั้นกลับมาสดใสอีกครั้งยามที่มองแบล็ค ชาร์ล จอยทอเรียลและจอยแอสกอร์ แม้ว่าคุโระจะพูดคุยกับจอยแอสเรียลเหมือนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนทำให้ดูเหมือนกับว่าเธอจำเรื่องราวไม่ได้แต่ในแววตาของเธอนั้นกลับไร้แววและไม่มีความสดใสเหลืออีกเลยนั่นยิ่งทำให้องค์รัชทายาทหนุ่มนั้นรู้สึกจุกนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา...

           ชาร์ลเองก็ทำเพียงแค่ถอนหายใจและช่วยอะไรไม่ได้ เขาจดจำเรื่องราวได้แต่เขาเองก็ไม่สามารถเข้ามายุ่งได้เพราะว่านี่มันคือผลกรรมที่อย่างน้อยพี่ชายของเขาเองก็ควรได้รับบทเรียน...

           พวกเขาทั้งหมดต่างมาที่ร้านจอยกิลบี้ แม้การแสดงออกของคุโระที่มีต่อเหล่ามอนสเตอร์ที่เข้าหาเธอและพยายามพูดคุยเหมือนปกติในรูทที่ผ่านมา แต่ปฏิกิริยาของคุโระนั้นที่ส่งกลับมาแม้จะดูเหมือนจำอะไรไม่ได้และดูร่าเริงปกติ แต่ถ้าฉลาดหน่อยจะสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม...

           ยามที่จอยกิลบี้นั้นพูดคุยกับคุโระเหมือนพ่อค้าปกติ มันกลับทำให้เด็กสาวหวนนึกถึงเรื่องราวบางอย่าง...

           จอยกิลบี้เป็นพ่อม่ายลูกติด ใช่...เขาเป็นคนใจดีและเฟลนลี่สมเป็นพ่อค้า เขาเป็นเหมือนพ่ออีกคนของเธอ...

           แต่พอได้มองหน้าจอยกิลบี้...มันกลับทำให้เด็กสาวฉายแววตาที่ดูไร้อารมณ์ความรู้สึกและรอยยิ้มได้หายไปในทันทีเมื่อจอยกิลบี้พูดในสิ่งที่ทำให้เธอหวนนึกถึงอดีต...




           "หนูคุโระ หนูเป็นเด็กดีและน่ารักมากๆ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกผมได้ยังไงเราก็เหมือนครอบครัวเดียวกันนะครับ"ภาพเหล่านั้นได้ย้อนกลับเข้ามาในหัวของเด็กสาว ฝ่ามือที่แม้จะเป็นไฟแต่กลับไม่ทำอันตรายใดๆเลยกับเธอนั้นได้ลูบศีรษะของเธออย่างอ่อนโยนและอบอุ่น...

           มันเป็นความทรงจำที่ดีมากๆ...เขาเป็นเหมือนพ่ออีกคนของเธอ เขาคอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำกับเธอหลายๆอย่าง มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นมากๆจนไม่อยากให้มันหายไป...

           แต่พอเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดมันก็ได้เกิดขึ้นเมื่อมีคนมาใส่ร้ายว่าคุโระเป็นคนที่ฆ่าลูกของจอยกิลบี้แล้วยังฆ่าพ่อแม่ของจอยแอสเรียลกับชาร์ลที่เป็นน้องชายของจอยแอสเรียล...

           ความสัมพันธ์ของพวกเธอก็แตกหัก...

           "ฉันไม่อยากจะเชื่อ...ว่ามนุษย์อย่างเธอจะทำเรื่องตํ่าทรามเหมือนมนุษย์ข้างบนได้ขนาดนี้! เธอกล้าฆ่าลูกสาวของฉัน! ฉันไม่น่าเชื่อใจคนอย่างเธอเลยจริงๆ!!"
           "แต่..ฉันไม่ได้ทำนะคะคุณกิลบี้! ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ!"

           *เพี๊ยะ!*

           "หลักฐานก็มีขนาดนี้แล้วยังจะโกหกอีกงั้นเหรอคุโระ!!"ฝ่ามือได้เข้าประทับแก้มของเด็กสาวเข้าอย่างจังจนทำให้ร่างของเด็กสาวล้มลงไปกับพื้นยกมือกุมแก้มที่ถูกตบด้วยความร้สึกที่เจ็บปวดและแววตาที่เต็มไปด้วยความสั่นไหว และยิ่งทำให้หัวใจของเธอนั้นแตกสลายยามเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
           "ฉันผิดหวังในตัวเธอมากๆ ฉันเคยคิดว่าเธอจะเป็นเด็กดีและไม่มีวันทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ เธอทำลายความเชื่อใจของฉัน ฉันไม่น่ามองแกเป็นเหมือนลูกสาวอีกคนของฉันเลย"



           หลังจากนั้น...ตัวคุโระในตอนนั้นก็ได้ถูกทหารของราชวงศ์ดรีมเมอร์พาตัวไปเพื่อตัดสินโทษ ไม่มีผู้ใดฟังเธอ...แม้ต่อให้พยายามเรียกร้องหรือพยายามปฏิเสธถึงการกระทำที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อแค่ไหนสุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดฟังเธอเลยสักคนเดียว มีแต่คนเข้าข้างฟริกส์...และมีแต่คนสงสารฟริกส์ในขณะที่สายตาเหล่านั้นจ้องมองมายังเธอด้วยความผิดหวัง โกรธ เสียใจและชิงชัง...

           ไม่มีใครเลย...

           ไม่มีใครเลยที่รักเธอจริงๆ...

           มีแต่คน 'โกหก' ทั้งนั้น...

           *ติ้ง!!*
           ' ค่าความชอบของคุโระที่มีต่อเหล่ามอนสเตอร์
           : -100% ไม่มีโอกาสสำหรับคน 'โกหก' '

           "พี่คุโระ!!!"เด็กสาวลูกครึ่งสุนัขร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อแก้วที่รุ่นพี่สาวของเธอจับนั้นมันได้แตกจนเกิดเสียงดังเพล้ง! ทำให้มือของเด็กสาวมีร่องรอยบาดแผลและเลือดที่ซึมออกมา
           "อะ ขอโทษค่ะ เผลอกำแน่นไปหน่อย"แม้ว่ามันจะแตกจนเศษแก้วตำมือของเธอแค่ไหนแต่ก็หาได้ทำให้เด็กสาวนั้นรู้สึกเจ็บเลยสักนิดเดียวจนจอยกิลบี้เร่งเข้าไปหลังร้านเพื่อเตรียมกล่องปฐมพยาบาลแล้วนำมาเพื่อรักษาแต่จอยแอสเรียลก็ได้เป็นคนขอเป็นคนช่วยรักษาเธอ...

           สัมผัสที่อบอุ่นนั้นได้ถูกส่งมาผ่านมือของเธอที่กำลังได้รับการรักษา...

           แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้รู้สึกกับมันเลย...

           มันมีแต่ความรู้สึกขมขื่น...เจ็บปวด...ผิดหวัง...และชิงชัง...

           "ดีขึ้นแล้วนะครับ"
           "ค่ะ ขอบคุณนะคะและก็ขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้"
           "ไม่เป็นไรหรอกครับ คราวหน้าก็ระวังหน่อยนะครับ อย่าเผลอกำแก้วแน่นเกินไปอีกล่ะ พวกผมเป็นห่วงนะครับ"ฝ่ามือสีขาวได้ถูกยกขึ้นมาลูบหัวของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้ม...แต่เด็กสาวที่ได้ฟังนั้นกลับรู้สึกสมเพชในใจแม้ภายนอกจะแสดงออกแตกต่างกัน
           "จะระวังตัวมากกว่านี้เพื่อไม่ให้พวกคุณเป็นห่วงอีกแน่นอนค่ะ"แม้คำพูดของเด็กสาวจะเอ่ยออกมาเหมือนปกติไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าไม่ฟังดีๆ...มันเหมือนกับเป็นการใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยความประชดประชัน...และความไร้เยื่อใยแฝงอยู่...


           ไร้ความเชื่อใจ...ไร้ศรัทธา...ไร้ความเมตตา...และไร้ความรัก...


           ไม่เหลืออีกแล้ว...คุโระที่ทั้งสดใสไร้เดียงสา และคอยมอบโอกาสกับมอบแสงสว่างให้พวกเขา...


           สิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้คือความว่างเปล่า...และไร้ชีวิตชีวาเหมือนศพ...


           สำหรับเธอในตอนนี้คนที่เธอเชื่อใจมากที่สุด...


           มีเพียง 'พวกเขา' เท่านั้น...








           ท่ามกลางหิมะที่เต็มไปด้วยกองเลือดและเศษฝุ่นมากมายจากการสังหาร กลิ่นคาวเลือดที่อบอวลไปทั่วพื้นที่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ล้วนแต่เจอกองศพมากมาย...

           รูทที่เท่าไหร่แล้วนะ?

           ท่ามกลางสโนว์ดินมีร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่ในสภาพกึ่งศพ ชุดที่เธอสวมใส่นั้นคือชุดกระโปรงแขนยาวสีขาวที่ไม่ต่างอะไรจากชุดนักโทษที่เด็กสาวเคยถูกตัดสินโทษประหารในรูทก่อนๆกับตามร่างกายของเธอนั้นมันเต็มไปด้วยเศษฝุ่นและร่างกายที่บอบชํ้าจากเหตุการณ์ก่อนถูกประหารได้ถูกประชากรมอนสเตอร์ปาข้าวของมากมายใส่เธอ บริเวณเรียวของของเธอมีเลือดที่ไหลออกมาตลอดทาง...


           ก่อนถูกประหาร...เธอกำลัง 'ตั้งท้อง' ลูกอยู่...แต่ตั้งท้องมาได้เพียงแค่ 3 เดือน...


           นํ้าตาของเด็กสาวได้ไหลลงมาอาบแก้ม ร้องให้อย่างเงียบๆ...ด้วยสีหน้าและแววตาที่ไร้ชีวาเหมือนตุ๊กตาหรือศพก็ไม่ปาน...


           ความทรงจำก่อนที่เธอจะถูกหักหลังและถูกประหารนั้น...เป็นตอนที่ทั้งคุโระกับจอยแอสเรียลยังคบกันอยู่แล้วจนกระทั่งเธอกับเขาได้มีอะไรกัน จากนั้นพอเกิดเหตุการณ์ในช่วงเดือนที่ 2 เธอก็ดันถูกใส่ร้ายต่างๆนาๆจนถูกจับขังเพื่อรอการตัดสินโทษประหารในอีก 1 เดือนข้างหน้า แต่จะโทษใครมากไม่ได้ เป็นเพราะความสมยอมของเธอเองที่ยอมให้ผู้ชายเลวๆนั่นร่วมเตียงกับเธอ...


           สภาพของคุโระจึงไม่ต่างอะไรจากกึ่งคนกึ่งศพ...นี่คือร่างจริงๆของคุโระ...เพราะคุโระนั้นได้ 'ตายไปแล้ว' และเป็นผลมาจากคำสาปที่ตัวเธอในโลกหลักมอบให้เพื่อให้เธอนั้นได้ล้างแค้นกับสิ่งที่พวกนั้นทำกับเธอและทำกับคนที่เธอรักและเชื่อใจมาตลอด...
           "สวัสดีค่ะคุณฟริกส์...โดนพวกมอนสเตอร์ไล่ออกมาใช่มั้ยคะ.."
           "ก-แก!!?"ฟริกส์ตกใจมากๆเมื่อได้เห็นเด็กสาวตรงหน้าที่เธอเกลียดอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากผีกับสภาพของคุโระที่มีแต่คราบเลือดจากการคร่าชีวิตและในมือก็ยังถือมีดที่เปื้อนเลือดอีก ดวงตาของฟริกส์มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและอยากจะหนีออกจากที่นี่ให้พ้นๆจากความผิดและความตายที่กำลังคืนคลานเข้ามา
           "คำสาปน่ะ...มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วค่ะ...ฉันเคยบอกคุณแล้ว...คุณไม่มีทางที่จะหนีจากความตายได้...ต่อให้คุณจะรีเซ็ตและพยายามไม่ตอบรับที่จะมายังอันเดอร์กราวสุดท้ายคุณก็จะถูกกำจัดอยู่ดี"
           "ก-------"

           *ฉึก!!*

           มีดที่เปรอะคราบเลือดได้พุ่งเข้าเสียบแทงไปที่ท้องของหญิงสาวคนนั้นเข้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับคว้านท้องของอีกฝ่ายจนไส้ทะลักออกมา เลือดที่กระอักออกจากริมฝีปากคำโตและแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาณ ไม่อาจที่จะกรีดร้องได้เพราะมันเจ็บเกินไป นํ้าตาสีใสที่มีเลือดออกมาจากดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดจากเหตุการณ์ที่เธอทั้งถูกทำให้ตายทั้งเป็นและถูกฆ่าอย่างทรมาณ...

           แม้ว่าสิ่งที่ฟริกส์ได้รับมันมากเกินกว่าที่คุโระเคยได้รับ...

           แต่จิตใจของคนเรามันคือสิ่งที่บ่งบอกได้ดี

           "ไร้ทางหนี...และไร้ทางออก ระบบก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ มีแต่คอยตลบหลังเธอมาตลอด และไม่ว่าเธอจะร้องขอชีวิตหรือร้องขอความเมตตามากแค่ไหนแกก็ต้องเจอกับความตายตลอดกาล!! 55555555555555!!!"
           เลือดสีแดงฉานได้สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณกับเสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดทรมาณที่ดังลั่นไปทั่ว หยาดโลหิตที่ไหลออกตามพื้นหิมะ แม้เหล่ามอนสเตอร์ที่หลบซ่อนจะได้ยินมันแต่ก็หาได้สนใจไม่ มีเพียงความกลัวและคิดว่าผู้หญิงคนนั้นสมควรได้รับมันแล้ว...

           แต่ไม่มีผู้ใดเลยที่จะรอดจากคุโระไปได้...

           แววตาของเด็กสาวได้หันไปมองร่างของมอนสเตอร์ตนหนึ่งที่ยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เป็นมอนสเตอร์ที่แม้เป็นเด็ก แต่กลับเป็นเด็กอีกคนที่ปาก้อนหินใส่เธอและทำร้ายเธอ...
           "ด-ได้โปรด ผ-ผมผิดไปแล้ว"มอนสเตอร์เด็กคนนั้นพูดด้วยความหวาดกลัว คุโระมองแล้วเผยรอยยิ้มที่ไร้อารมณ์ความรู้สึกก่อนที่จะพุ่งด้วยความเร็วฟันร่างนั้นจนขาดครึ่งโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นเด็ก...

           "ไม่มีใครที่ฉันรักและสามารถเชื่อใจได้เท่าน้องแบล็ค...คุณชาร์ล...คุณแอสกอร์...คุณฟูกุ...และคุณทอเรียลได้อีกแล้ว!"

           "พวกแกมันสมควรเจ็บปวดทรมาณยิ่งกว่าฉัน!! ต่อให้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนพวกแกก็ต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดที่ฉันเคยได้รับไปตลอดกาล!!!"

           "โอกาสของพวกแกมันหมดไปตั้งแต่รูทที่ 9 แล้ว!! พวกแกฆ่าลูกของฉันพวกแกไม่มีสิทธิ์อีกตลอดกาล!!!!"


           เมื่อคนเราทำผิดพลาดก็ไม่อาจจะย้อนกลับมาแก้ไขได้อีก...


           แม้ต่อให้รีเซ็ตแค่ไหนแต่ความรู้สึกก็ไม่อาจถูกลบออกไปได้ สุดท้ายต่อให้จดจำได้หรือเพิ่งจะได้รับความทรงจำกลับมาสุดท้ายก็ไม่อาจจะสู้ 'ความแค้น' ที่มีมากกว่า 'ความผูกพันธ์' ที่ยังเหลืออยู่...


           ยิ่งรัก...ก็ยิ่งเจ็บ...


           ยิ่งรัก...ก็ยิ่งทรมาณ...


           ยิ่งรัก...ก็มีแต่ 'ถูกหลอกลวง' ...


           จงอยู่กับความทุกข์ทรมาณและรับผลจากการกระทำที่ผ่านมาไปซะ...


           ถ้าหากไม่สามารถทำให้เด็กสาวผู้นี้กลับมาเชื่อใจเหมือนเมื่อก่อนได้...


           ก็อย่าหวังว่าจะได้ 'กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่' เหมือนเมื่อก่อน...


           โรคซึมเศร้าชนิดรุนแรง...


           "คุณแอสกอร์...คุณทอเรียล...คุณชาร์ล...น้องแบล็ค...และคุณฟูกุ..."


           "พวกคุณคือคนที่ฉันรักและเชื่อใจมากที่สุด...ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพวกคุณเด็ดขาด...


           "ฉันเกลียดพวกเขา...และฉันก็เชื่อใจพวกคุณ..."


           "ดังนั้นในโลกนี้จะมีแค่ฉันกับพวกคุณเท่านั้นที่อยู่ร่วมกันได้"


           "โปรดรักฉันและอย่าทิ้งฉันไปเหมือนพวกเขาและคุณแอสเรียลนะ~"


           "แต่ถ้าหักหลัง...ฉันจะฆ่าพวกคุณเหมือนกัน!!"


           "มันเป็นความผิดของพวกเขา!!! เป็นเพราะพวกเขา!!!"


    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×