ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 11 : FIND
CHAPTER 11 : FIND
เวลาผ่านมาราวๆเกือบเดือน คุณยังอยู่ที่นี่ในห้องนอนสี่เหลี่ยมอันคุ้นเคย ยิ่งคุณมองนานๆก็ทำให้นึกถึงสีของคนที่ชื่อพัพเพ็ตเทียร์ คุณไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาชอบสีนี้อยู่แล้วหรือเปล่า แต่ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในนี้มันก็ไม่ได้แย่เสมอไป คุณมีเอ็มร่าที่มักจะคอยมาอยู่เป็นเพื่อนเวลาที่พัพเพ็ตเทียร์ออกไปข้างนอก และเขามักจะซื้อพวกของใช้ต่างๆหรือของกินมาเสมอ
อาหารที่เขาซื้อมาอาจจะไม่เหมือนกับที่กินในบ้านของพวกสเลนเดอร์ มันดูแปลกตาและสงสัยมาก สิ่งที่ดูเหมือนแซนวิชน่าตาประหลาดที่มีทั้งผัก เนื้อ ชีสอะไรสักอย่างกับแท่งยาวๆสีเหลืองที่คุณพอจะรู้ว่ามันคือ 'เฟรนฟราย' ซึ่งทำจากมันฝรั่งที่หั่นเป็นแท่งเล็กแบบนั้น แต่ของอย่างอื่นคุณไม่รู้จักแฮะ
"มัน..คืออะไรเหรอ??"คุณถามแล้วหยิบสิ่งที่เหมือนแซนวิชทรงกลมออกมาดู
"นี่เรียกว่า 'แฮมเบอร์เกอร์' เป็นอาหารฟาสฟู้ดที่คนอื่นนิยมกินกันน่ะ"พัพเพ็พเทียร์ตอบ คุณมองสำรวจทุกซอกทุกมุมไปจนถึงเปิดขนมปังออกมาเพื่อดูข้างในจนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากชายหนุ่มคุณจึงเงยหน้า
"ม-มันแปลกเหรอ?"
"ก็คงงั้น แต่พอมาเห็นแบบนี้ก็ดูน่ารักดี"เขาสังเกตเห็นสร้อยไม้กางเขนของคุณที่มักใส่ประจำจึงสามารถเดาได้ไม่ยากว่าคุณเคยเป็นใครมาก่อน เขาบอกว่าถ้าเป็นคฤหาสน์สเลนเดอร์แมนอาจจะไม่ได้กินแบบนี้บ่อยๆเพราะคุณเจ้าบ้านนั้นค่อนข้างเคร่งเรื่องระเบียบพอสมควรซึ่งคุณไม่แปลกใจ แต่ถ้าออกมาข้างนอกก็จะได้กินแบบนี้บ่อยๆเมื่อมีโอกาส
คุณมองแฮมเบอร์เกอร์ที่อยู่ในมือก่อนจะค่อยๆอ้าปากกัดไปคำแรกก็เหมือนจะนุ่ม หนาพร้อมความกรอบของเนื้อ มันอร่อยอย่างบอกไม่ถูก แต่เล่นเอาคุณถึงกับต้องเร่งปิดปากเพราะเต็มคำเลยเนื่องจากมันเป็นเบอร์เกอร์ที่น่าจะใหญ่าำหรับคุณสักหน่อย แต่ก็อร่อยดี
"ฮ่าๆๆ เธอคงจะถูกใจนะ"เขาหัวเราะไม่ดังนัก คุณค่อยๆเคี้ยวและกลืนมันลงท้องไป มันไม่ได้แย่อย่างที่คิดเลยจริงๆ
"มัน...ไม่ได้แย่เลยค่ะ"
"ใช่มั้ยล่ะ"คุณมองพัพเพ็ตเทียร์ที่เริ่มกัดแฮมเบอร์เกอร์ของเขาไปคำหนึ่งแถมกินอย่างเอร็ดอร่อยอีก อ่าห๊ะ อาหารของคนในเมืองนี่มันมีอะไรที่แปลกตาอีกมากสินะเนี่ย คุณคิดแบบนั้น
พัพเพ็ตเทียร์มักจะแบ่งส่วนของเขาให้คุณได้ลองชิม แต่ละอย่างอร่อยมาก แต่บางอย่างคุณรู้สึกเหมือนพุ่งปรี๊ด(?)เลยไม่กินก็มีเล่นเอาอีกฝ่ายหัวเราะเลย
"เอ่อ...คุณพอจะมีพวกหนังสือให้ฉันได้อ่านเล่นหรือเปล่า?"
"หนังสืองั้นเหรอ...ไม่หรอก แต่ถ้าเธอต้องการฉันจะไปหามาให้ขอเพียงแค่เธอบอกมา"พัพเพ็ตเทียร์ยิ้มให้คุณ คุณก็ยิ้มตอบแล้วบอกความต้องการของคุณก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกไปแต่กำชับคุณไว้เสมอว่าคุณต้องอยู่แต่ในห้อง ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด แม้ว่ามันจะเป็นการกระทำที่มากเกินไปหน่อย แต่คุณก็ไม่อยากขัด กลัวว่าหากขัดคงได้เกิดเรื่องเลวร้ายแน่
"เคะๆๆ เจ้าซัคคิวบัสตัวน้อยถูกกักขังซะแล้ว~"
หลังจากที่พัพเพ็ตเทียร์ออกไปแล้ว เสียงหัวเราะอันคุ้นเคยที่คุณมักได้ยินเสมอหากมีโอกาสก็ดังออกมาจากนอกหน้าต่าง คุณไม่เข้าใจว่าทำไม ถ้าเขารู้อยู่แล้วว่าคุณอยู่ที่นี่อีกฝ่ายควรจะช่วยคุณหนีออกไป แต่หากพูดไปก็เกรงกลัวว่าจะถูกหลอกหรือกลั่นแกล้งอีกน่ะสิ
"ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเขาถึงต้องลักพาตัวฉันมา"คุณพูดพร้อมกับนั่งกอดเข่ามองประตูที่นักเชิดหุ่นเพิ่งออกไป ตั้งแต่คุณถูกลักพาตัวมาก็ไม่รู้สึกว่าเหมือนเป็นเชลย นักโทษหรือตัวประกันแต่อย่างใด อีกฝ่ายดูแลคุณไม่ต่างจากแขกพิเศษคนหนึ่ง ไม่สิ...การลักพาตัวมาที่นี่ไม่น่าเรียกว่าแขก แต่จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ?
"คงถูกใจเธอล่ะมั้ง"มันพูดแล้วกระโดดลงมานั่งขอบหน้าต่างอย่างสบายคล้ายสิ่งที่พูดเป็นเรื่องปกติ
คุณเลือกที่จะเงียบ ไม่ตอบอะไรกับสิ่งที่เขาบอกเพราะคุณรู้ดีแก่ใจว่าสาเหตุมาจากอะไรดังนั้นแม้จะไม่เป็นอันตรายช่วงแรกๆแต่พัพเพ็ตเทียร์ก็ยังไม่รู้ว่าเขาเองก็ไม่ควรเข้าใกล้หรือพบคุณบ่อยๆไม่ต่างจากคนอื่นเช่นกัน คุณกำลังคิดว่าควรบอกอีกฝ่ายอย่างไรดี
"ดื่มหน่อยมั้ย?"เขาพูดพร้อมมีขวดไวน์ แต่คุณปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ากลัวพัพเพ็ตเทียร์เข้ามาเห็น คุณยังไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของพวกเขาดีนักก็เลยกะจะป้องกันไว้ดีกว่า ไม่นานเสียงเคาะประตูของคนด้านนอกดังขึ้น เพียงพริบตาเดียวร่างของชายสวมหน้ากากสองสีได้หายตัวไปจากตรงนั้นแล้ว คุณเงียบแต่นั่นก็เป็นโอกาสดีก่อนที่จะเดินไปเปิดประตู
"ฉันกลับมาแล้ว"
เป็นนักเชิดหุ่นนั้นเองที่ยืนถือถุงใส่ของบางอย่างและยื่นมาให้คุณด้วยรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาแม้เป็นมิตรก็ตาม คุณยิ้มรับแล้วขอบคุณเขาจากนั้นจึงรับมา ข้างในนั้นเป็นหนังสือที่คุณต้องการ ทั้งคัมภีร์ไบเบิ้ล นิตยสาร สารคดี นิยายแฟนตาซี แต่ก็ยังมีหนังสือแนวอื่นที่เขาน่าจะซื้อมาเพิ่มอย่างเช่นหนังสือนิยายแนวสืบสวนกับโรแมนติก คุณยิ้มขบขันในใจเมื่อได้เห็นมุมด้านนี้ ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะมีความชอบแบบนี้ด้วย
"คุณชอบแนวนี้หรอ?"
"อ่า ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ฉันตั้งใจซื้อมาให้เธออ่านมากกว่า"เขายกมือเกาศีรษะเล็กน้อยคล้ายทำตัวไม่ถูกหรือเขินๆก็ไม่ทราบหรือไม่แน่ก็อาจจะเป็นทั้งสอง
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณพัพเพ็ตเทียร์"
"เรียกฉันว่าพัพก็ได้นะ"การถูกอนุญาตให้เรียกชื่อเล่นแบบนี้ทำให้คุณประหม่าเล็กน้อย
"ค-ค่ะ...คุณพัพ"เหมือนคุณจะสังเกตสีหน้าของเขาว่าเขาดูไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มให้คุณเหมือนปกติ พัพเพ็ตเทียร์ขอตัวไปจัดการธุระแล้วจะกลับมาอีกครั้ง...
เขาไปแล้ว...สินะ?? คุณถอนหายใจด้วยความโล่งก่อนจะมองถุงใส่หนังสือนั้นเงียบๆ
ความจริงคุณควรจะหนีออกไปจากที่นี่
แต่มีความรู้สึกอีกอย่างแย้งบอกคุณว่าเขาเป็นคนขี้เหงา...และเต็มไปด้วยความโศกเศร้า...
..........
.......
.....
...
.
คุณนั่งมองนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอยและขบคิดอะไรเรื่อยเปื่อย การใช้ชีวิตที่นี่มันไม่ได้มีอะไรมากมายนอกจากอยู่แต่ในห้อง มันน่าเบื่อดีใช่มั้ยล่ะ? แต่นั่นก็ไม่ทำให้คุณแปลกใจเท่าไหร่เพราะมันเคยเกิดขึ้นอยู่แล้ว คุณกำลังคิดว่าทางพวกสเลนเดอร์แมนจะเป็นอย่างไรบ้าง? ตอนนี้พวกเขาคงรู้และกำลังพยายามตามหาคุณอย่างเต็มที่ แซลลี่จะเป็นอย่างไรบ้าง? เธอกำลังร้องให้อยู่หรือเปล่า? หรือไม่ก็บางทีทุกๆคนอาจถูกโจมตี? หรือหากไม่อย่างงั้นพวกเขาอาจเลิกตามหาคุณแล้ว?
คุณก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเรื่อมีความคิดแบบนี้ คุณส่ายหน้าไล่ความคิด นี่ผ่านมาเกือบอาทิตย์เองจะตัดสินตอนนี้ไม่ได้
"มีอะไรรึเปล่า?"เสียงของพัพเพ็ตเทียร์เอ่ยข้างๆทำให้คุณสะดุ้งหลุดออกจากความคิดทันทีแล้วสบเข้ากับดวงตาสีทองทั้งกลวงนั้น จะว่าไปแล้ว....พอมองดูดีๆแล้วตาของเขาก็สวยเหมือนกันนะ นึกถึงตอนของฮีโร่บายเลยแต่แค่คนละสีและเสน่ห์ก็ต่างกันด้วย ยิ่งคู่กับสีผมกับสีผมแล้วก็ช่างเข้ากันอย่างน่าพิศวง
"ตาของคุณสวยจัง"คุณหลุดพูดออกมาก็เร่งยกมือปิดปาก พัพเพ็ตชะงักครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มหัวเราะเบาๆ
"ขอบใจนะ แต่คงเทียบกับความงามของเธอไม่ได้หรอก เธอเหมือนตุ๊กตาที่ถูกสร้างขึ้นจากสรวงสวรรค์"เมื่อได้รับคำตอบงี้คุรก็อดเขินไม่ได้เหมือนกัน
"ฉันคิดว่าทุกคนก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองเหมือนกันนะคะ"
"....ขอบใจนะ"คุณยิ้มให้เขา เขาเองก็ยิ้มตอบกลับแต่มันดูเป็นยิ้มที่จริงใจ...หืม?? นี่คุณกำลังจะบอกว่าที่ผ่านมาอีกฝ่ายไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจจริงงั้นเหรอ? ไม่รู้สิ ยิ้มตอนนี้ของเขามันดูมีชีวิตชีวาแล้วก็ยังดูดีกว่ามาก แถมดวงตาของเขาก็เปล่งประกายอีกด้วย อ่า...นั่นมันก็ไม่ต่างจากการกล่าวว่าเขาดูพยายามยิ้มกับดวงตาไร้ชีวาเลยนะ?
"เธออยากได้โกโก้ร้อนมั้ย? อากาศข้างนอกตอนนี้เริ่มเย็น คาดว่ากำลังเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วล่ะ"ชายหนุ่มว่า คุณพยักหน้าตอบรับจากนั้นร่างของชายหนุ่มผมดำก็เดินออกจากห้องไป เหลือไว้เพียงคุณที่อยู่ในห้องเพียงลำพัง...คุณหันกลับไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง..
ยามราตรีที่เงียบสงบ แสงไฟที่เปิดบางส่วนจากโคมไฟข้างถนน ท้องฟ้ามืดมิดไร้แสงดาว ถ้าเป็นปกติตอนอยู่ที่คฤหาสน์คุณมักได้เห็นดวงดาวระยิบระยิบแสนสวยเสมอ หรือบางทีก็อาจเห็นน้อยมาก ถึงอย่างงั้นคุณก็ยังคงชอบมองมันอยู่ดี ยิ่งหากลองมองเมืองรอบๆแล้วก็ยิ่งให้ความแปลกใหม่ดี
คุณสำรวจตัวเอง ชุดที่คุณสวมใส่ก็ยังคงเป็นผ้าเดิมๆที่ถูกซักโดยเอ็มร่า ตอนแรกที่เธอเห็นว่าคุณเอาแต่ใส่ชุดเดิมๆแต่ไม่ยอมใส่ชุดที่เธอเตรียมให้ดูตกใจนิดหน่อย คุณจึงได้อธิบายให้หญิงสาวฟังว่าสาเหตุมาจากอะไร แน่นอนว่าสาวนักบัลเล่ต์ย่อมตกใจและแทบไม่อยากเชื่อเมื่อได้ยินเช่นกัน ทว่าเธอก็ยังยอมให้คุณใส่มันจนกว่าจะครบหนึ่งเดือน แถมเจ้าตัวยังใจดีอุตส่าห์นำไปซัก ปั่นแห้งแล้วก็ตากให้คุณรวมถึงบอกว่าจะพยายามหาผ้าฝ้ายออแกนิคมาตัดชุดให้คุณ
คุณค่อนข้างยินดีที่ได้รู้จักกับเอ็มร่า แต่เธอดูเหมือนมีอะไรปิดบังอยู่นิดหน่อย
"ดื่มมั้ย?"
"ว-ว้าย!!"คุณร้องเสียงหลงแล้วหันไปก็เป็นพัพเพ็ตเทียร์นั่นแหล่ะที่เข้ามาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง คุณถอนหายใจสงสัยว่าคุณคงเผลอเหม่อนานไปหน่อย ชายหนุ่มขอโทษแล้วยื่นแก้วโกโก้ให้กับคุณ คุณขอบคุณเขาแล้วรับมาดื่ม
อร่อยจัง
"จะว่าไปเธอเหม่ออะไรอยู่เหรอ?"อึก อยู่ดีๆเขาก็ถามแบบนี้
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเหม่อเรื่องอะไรด้วย"คุณยิ้มแห้งๆตอบกลับไปโดยมีสายตาที่ถูกจับจ้องจากอีกฝ่าย...ชวนให้หวาดหวั่นใจแปลกๆนะ
"คิดถึงเรื่องพวกเขาเหรอ?"
"อ-เอ่อ...ก็นิดหน่อย..."
"......"
ความเงียบเข้าปกคลุมรอบๆภายในห้อง ยิ่งเป็นช่วงดึกที่ไร้ผู้คนแล้วไหนจะบางคนที่เข้านอนเร็วแล้วก็ยิ่งเงียบเข้าไปอีก บรรยากาศเริ่มอึดอัดชวนหายใจติดขัดเล็กน้อยไม่รู้ว่าจะต่อบทสนทนาอย่างไรจนกระทั่ง...
"อ-เอ่อคือ....ฉันอยากลองทำอาหาร ค-คุณอยากกินอะไรรึเปล่า?"
"โอ้ เธออยู่แต่ในห้องแบบนี้คงเบื่อแย่สินะ อืมม เอาเป็นอะไรก็ได้น่ะ"เขายิ้มให้คุณก่อนที่จะยื่นมือมาหา คุณจ้องชั่วครู่แล้วยื่นมือตอบกลับไป
"พวกนั้นคงไม่มาหรอก"
คุณชะงักแล้วเงยหน้าสบตาของเขา แต่เขาก็ยังคงส่งยิ้มให้...ด้วยรอยยิ้มอันแสนยากจะคาดเดานั้น แววตาของเขาไร้แววจนดูว่างเปล่าและน่าขนลุก
"เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปที่ห้องครัว"พูดจบเขาก็จับจูงมือของคุณพาเดินออกจากห้องไป คุณคงไม่ได้คิดไปเองหรอก...
ว่าเขาจับมือคุณแน่นมากจนน่าตกใจ...
..........
.......
....
..
.
"ยังไม่พบร่องรอยงั้นเหรอ.."
"ขออภัยด้วยครับมาสเตอร์"
ภายในห้องทำงานของบอสใหญ่คนหนึ่งที่คุ้นเคย แต่บัดนี้บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยความกดดันและความตึงเครียดมากกว่าปกติ ยิ่งได้ฟังรายงานจากลูกน้องก็ยิ่งเพิ่มความมาคุเข้าไปอีก มือหนาสีขาวหยาบกระด้างยกขึ้นกุมขมับเบาๆช้าๆ
หลังจากที่คุณถูกลักพาตัวไป นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว เขากังวลและกลัวว่าคุณอาจถูกทางนั้นกระทำย่ำยีก็ได้ ความอดทนของพัพเพ็ตเทียร์เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้แม้ฝ่ายนั้นจะชอบทำอะไรแบบช้าๆก่อนลงมือทำก็ตาม สเลนเดอร์แมนยอมรับว่ายามนี้จิตใจของคุณไม่ได้อ่อนแอ แต่ใครจะไปรู้ได้ล่ะว่าวันนึงเจ้านักหุ่นเชิดนั่นอาจหาวิธีทำให้คุณมีจิตใจอ่อนแอก็ได้
"ไอ้โย่ง ไอ้เจ้านักวาดสยองนั่นอยากพบแกน่ะ" น้ำเสียงหยาบคายไร้มารยาทที่เป็นเอกลักษณ์กล่าวผ่านประตู มือของร่างสูงถูกยกออกแล้วมองไปยังประตู "เข้ามาสิ"
*แกร๊ก แอ๊ด~*
พอประตูเปิด คนที่ต้องการพบไม่ใช่ใครนั่นคือเฮเลน
"เฮเลน...นายต้องการอะไรงั้นเหรอ?"สเลนเดอร์แมนกล่าวแล้วจ้องมองไปยังชายสวมหน้ากากยิ้ม เฮเลนเงียบครู่หนึ่ก่อนจะพูดถึงเรื่องที่พวกสเลนเดอร์แมนกับสามพร็อกซี่กำลังสงสัย
"สเลนเดอร์...คนอย่างพัพเพ็ตนั่นคงไม่ยอมทิ้งร่องรอยเอาไว้ง่ายๆหรอกเพราะเขาสามารถลอยตัวเองได้ อีกอย่างผมเริ่มพอจะรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน"สิ้นคำพูดของชายหนุ่ม แมสกี้ก็โพล่งออกมา
"แล้วทำไมแกถึงไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ!?"
"แมสกี้ ใจเย็นๆ""ฮู้ดดีเป็นคนที่คอยห้ามปรามเพื่อนสนิทของเขาเอาไว้ตามมาด้วยเสียงของเจฟฟ์ที่ช่วยพูดแทนเจ้านักวาดจอมเงียบนี่
"เจ้าหมอนี่ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าพวกนายกำลังพูดถึงใครเป็นคนลักพาตัว แต่พอรู้ก็บอกว่าเขาเป็นเจ้าตุ๊กตากระเบื้องนั่นเป็นเพื่อนกันกับเจ้านี่"
"อ่าจริงสิ...นายกับเขารู้จักกันสินะ งั้นพอจะรู้มั้ยว่าปกติพัพเพ็ตเทียร์อยู่ที่ไหน?"สเลนเดอร์แมนถาม
"เขาอยู่ที่เมืองยูลีรัฐฟลอริด้า ปกติเขาจะคอยย้ายที่อยู่หากจำเป็นแต่หลักๆบ้านเกิดของเขาอยู่ที่นั่นแน่"เฮเลนพูด เขาบอกกับสเลนเดอร์แมนและเหล่าพร็อกซี่ว่าตัวของเขาเคยไปเที่ยวบ้านของพัพเพ็ตเทียร์มาก่อนจึงพอรู้บ้าง และคงเป็นโชคดีที่พัพเพ็ตเทียร์ไม่รู้ว่าเฮเลนอยู่ในคฤหาสน์ด้วยก็คงง่ายต่อการลักลอบแอบเข้าไปช่วยเหลือคุณได้ หากไม่รีบช่วยตอนนี้อาจมีพวกพาสต้าตนอื่นเผลอมาเห็นคุณเข้าโดยบังเอิญล้วถูกลักพาตัวไปก็เป็นเรื่องใหญ่แน่
สเลนเดอร์แมนเห็นด้วย แล้วจะให้เฮเลนเข้าร่วมช่วยเหลือคุณด้วย
*ก๊อก ก๊อก ก๊อก*
เสียงเคาะประตูดังอีกครั้ง เจฟฟ์ถอนหายใจเมื่อถูกคนอื่นจ้องมองเพราะเขาเป็นคนที่อยู่ใกล้ประตูมากที่สุดจึงเดินไปเปิดให้
"ปะป๊า..."เด็กสาวผมสีน้ำตาลยาวลอนคลื่นกับดวงตาสีเขียวและชุดเดรสสีชมพูอันเป็นเอกลักษณ์สุดเด่น ใบหน้าของเธอดูเศร้าหมองและเต็มไปด้วยความทุกข์เล็กน้อยหลังจากที่คุณหายตัวไป สเลนเดอร์เมื่อเห็นว่าเป็นลูกบุญธรรมก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหาช้าๆ
"มีอะไรรึเปล่าแซลลี่"
"พี่สาว...ยังไม่กลับมาใช่มั้ย?"
"ตอนนี้ยัง แต่ว่าเฮเลนได้บอกพวกป๊าแล้วว่าพี่สาวอยู่ที่ไหน เดี๋ยวพวกป๊าจะไปพาเธอกลับมาให้"มือหนายกขึ้นลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลเพื่อปลอบเด็กน้อยที่กำลังซึมเศร้า เมื่อได้ยินว่าพบตัวคุณแล้วสีหน้าของเด็กหญิงจึงดูดีขึ้นเล็กน้อย "จริงเหรอคะปะป๊า? เจอพี่[ชื่อคุณ]แล้วจริงๆเหรอคะ?"
"จริงสิ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเศร้าแล้วนะเด็กดี"แม้จะไม่มีใบหน้า แต่แซลลี่ก็รู้ว่าพ่อของเธอกำลังยิ้มให้เธอจึงเริ่มกลับมายิ้มอีกครั้ง แซลลี่ค่อนข้างติดคุณมากไม่แน่ใจว่าเพราะนานๆทีจะมีพี่สาวแบบคุณหรืออย่างไรเธอเลยชอบคุณมากเป็นพิเศษ หรือหากไม่...ก็อาจเพราะอิทธิพลบางอย่างจากตัวคุณก็ได้...
แต่ถึงอย่างงั้น...พวกเขาก็จะช่วยพาคุณกลับมา...
ทว่าในส่วนลึกของจิตใจ...ทำไมมันรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ...
"แซลลี่"
"พี่เทรนเดอร์"
"เทรนเดอร์ นายช่วยพาแซลลี่ไปที่ห้องหน่อย เตรียมของไว้แล้วหรือเปล่า?"
"แน่นอนครับ ผมเตรียมของทุกอย่างที่จำเป็นครบแล้ว พี่ก็จะออกไปงั้นเหรอ?"
"เรื่องนี้มันช้าไม่ได้หรอก หากไม่รีบ[ชื่อคุณ]อาจเป็นอันตรายได้"พูดจบ ร่างสูงของชายสวมสูทลุกจากที่นั่งแล้วเดินออกมาอยู่ตรงหน้าพวกเขาด้วยท่าทีที่ยังคงสง่าและทรงอำนาจอยู่เช่นเคย
"ฉันจะให้เฮเลนเป็นคนช่วยนำทางให้"สเลนเดอร์แมนหันมาพูดกับชายจิตรกร เฮเลนพยักหน้าเงียบๆก่อนที่จะสั่งให้คนอื่นๆไปเตรียมตัวออกเดินทาง
"เราจะเดินทางด้วยประตูมิติเพื่อมุ่งหน้าไปยังที่ๆพัพเพ็ตเทียร์อยู่โดยเร็วที่สุด นั่นจะเป็นทางเดียวที่ไปถึงที่นั่นได้"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น