ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 10 : The Puppeteer
Chapter 10 : The Puppeteer
*ปึ้ง!* เสียงทุบโต๊ะดังมาจากโต๊ะทำงานของบอสใหญ่แห่งคฤหาสน์สเลนเดอร์ ทุกๆอย่างเงียบราวกับป่าช้า แต่แรงกดดันที่แผ่ไปทั่วภายในห้องนั้นเป็นตัวบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าของบ้านได้ดีว่าเขาทั้งตกใจและไม่พอใจอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีสามพร็อกซี่ที่เพิ่งกลับมาจากการพยายามตามหาตัวคุณและตามล่าชายลึกลับที่รู้จักกันดี
"ใคร"
"เป็น The Puppeteer(เดอะพัพเพ็ตเทียร์)ครับมาสเตอร์"
ทันทีที่ได้ยินคำตอบ แม้สเลนเดอร์จะไม่มีใบหน้าแต่ออร่ากับมือของอีกฝ่ายที่กำหมัดแน่นมากๆก็รู้แล้วว่าเขาคงเริ่มมีโทสะ โดยปกติเขาเป็นคนสุขุมใจเย็น แต่เรื่องนี้มันไม่อาจเย็นได้
"ไปบอกเบนและคนอื่นๆให้มารวมตัวกันที่ห้องโถงเดี๋ยวนี้"
"ครับ"ทั้งสามพร็อกซี่ต่างขานรับก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อไปเรียกคนอื่นมา เหลือไว้เพียงชายร่างสูงโปร่งที่นั่งลงพลางยกมือก่ายหน้าผากแล้วถอนหายใจ
เขาหวังว่าคุณจะปลอดภัย...และหวังเพียงแค่ว่าจะต้องรีบพาคุณกลับมา
เปลือกตาคู่สวยค่อยๆเปิดออก คุณนอนอยู่บนเตียงนอนสีขาวที่ไหนสักแห่งของห้อง..หรือบ้าน พอจะลุกขึ้นนั่งก็เกิดอาการวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย คุณค่อยๆปรับโฟกัสสายตาแล้วมองไปรอบๆเพื่อสำรวจ ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำเทาเข้ม มีสีเหลืองบ้างแต่น้อย โดยรวมมันเป็นสไตล์มืดนิดหน่อย
ที่นี่...ที่ไหน
*ก๊อก ก๊อก ก๊อก*
"แอ๊ดด~*
เสียงเคาะประตูดังขึ้นและถูกเปิดออก ปรากฎเป็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่คล้ายกับ...อะไรนะ? มันคือ..เอ่อ...เรียกว่าอะไรอ่ะ นักเต้นงั้นเหรอ? แต่เป็นแบบคล้ายๆตุ๊กตาอะไรสักอย่างที่...น่าจะเป็นตุ๊กตาบัลเลริน่า ใช่! นึกคำออกแล้ว บัลเลริน่าหรือนักบัลเล่ต์นี่เอง! แต่ก็เหมือนผสมกับความเป็นหุ่นเชิดแปลกๆ เธอเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารค่ำในมือ
"อาหารค่ำค่ะ"
น้ำเสียงของเธอนั้นมันเหมือนบ่งบอกบุคลิกที่เป็นคนพูดน้อยและค่อนข้างเบา เธอดูเป็นคนถ่อมตนแต่ก็แฝงความน่ากลัวทว่ากลับเปราะบางอย่างไม่น่าเชื่อ
"คุณ...เป็นนักเต้นงั้นเหรอคะ ที่คนภายนอกเรียกว่าบัลเลริน่า"
"ค่ะ"
"ข-ขอโทษด้วยนะคะ ฉัน...เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก ค-เคยได้ยินจากการอ่านหนังสือก็เลย...ประหลาดใจนิดหน่ค่อนข้างรอย"คุณขอโทษเธอเพราะกลัวว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีหรือว่ากลัวไปกระตุ้นอะไรบางอย่าง เพราะคุณได้เรียนรู้จากจัดจ์แองเจิ้ลและคนอื่นๆในคฤหาสน์สเลนเดอร์มาว่าทุกคนล้วนมีสาเหตุของการเป็นฆาตกรก็เลยพูดเผื่อว่ามันกระทบเธอ
"ไม่เป็นไรค่ะ"เธอตอบกลับเพียงสั้นๆเช่นเดิม คุณไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี แต่เธอได้บอกให้คุณรีบทานอาหารก่อนที่มันจะเย็นคุณจึงตอบรับแล้วเริ่มกินมัน รสชาติของมัน...ดูสดใหม่จริงๆ ถึงจะไม่ขนาดเท่าฝีมือของเทรนเดอร์ก็ตาม
คุณทานอาหารทานมันหมดและเธอก็เป็นคนที่ช่วยเก็บจานใส่ถาด เธอถามคุณว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าคุณบอกเธออย่างเกรงใจว่าไม่มีอะไรดังนั้นเธอจึงพูดทิ้งท้ายว่าสามารถบอกเธอได้หากต้องการอะไรก่อนจะเดินออกจากห้องไป...
ดวงตาสีอเมทิสต์กวาดมองไปรอบๆเพื่อสำรวจภายใน คุณค่อนข้างรู้สึกแปลกๆกับโทนของห้องเพราะปกติห้องของคุณจะตกแต่งแนวสบายๆหรือสีที่ไม่ใช่โทนมืดเทาหม่นแบบนี้ ดังนั้นสีดำเหล่านี้อาจไม่ต่างอะไรจากสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายสำหรับเหล่านักบวชหรือแม่ชี ทว่า...สำหรับคุณแล้วมันกลับแปลกตา..ไม่รู้สิ คุณแค่รู้สึกแบบนั้น
*ก๊อก ก๊อก ก๊อก*
*แอ๊ดด*
เสียงเคาะประตูพร้อมกับร่างของบุคคลที่คุ้นเคยเดินเข้ามาในห้อง คุณสะดุ้งเล็กๆจนพอได้เห็นบุคคลดังกล่าวนั้นก็ตกใจเล็กน้อย ผู้ชายคนนั้น....คนที่ลักพาตัวคุณมา...
"ตื่นแล้วสินะเจ้าตุ๊กตาเทพธิดาตัวน้อย"ร่างของผู้มาเยือนเดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มที่คุณรู้สึกไม่วางใจแปลกๆ แม้มันจะดูเป็นมิตรก็ตาม...
ถูกลักพาตัวมาจะให้มองว่าเป็นมิตรยังไงล่ะ?
"คุณ...ต้องการอะไรจากฉัน..?"คุณกล่าวด้วยท่าทีลังเลและหวาดหวั่นเล็กน้อย แต่เขายังคงยิ้มให้คุณ
"ขอโทษนะที่จู่ๆก็ลักพาตัวเธอมาแบบนี้น่ะ ฉันแค่...ตกใจที่เห็นเธออยู่กับเจ้าพวกนั้นจนไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรเธอรึเปล่า"คำพูดของเขาราวกับเป็นห่วงคุณว่าการที่คุณอยู่กับพวกสเลนเดอร์แมนจะมีอันตรายอะไร คุณไม่รู้และไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของเขากับพวกสเลนเดอร์แมนเลยแฮะว่าเป็นมิตรหรือศัตรู?
"ไม่หรอก...พวกคุณสเลนเดอร์ดูแลฉันดีมากๆ พวกเขาคอยปกป้องฉันกับคนอื่นๆ"คุณตอบอย่างมั่นใจว่าไม่เคยถูกทำร้าย ถึงแม้ว่าจะเคยเกือบแล้วก็เถอะ
"อย่างงั้นเหรอ...ถ้าอย่างงั้นฉันต้องขอโทษที่ทำตัวไม่สุภาพตอนนั้นด้วยล่ะ ฉันแค่ตกใจมากไปหน่อยที่ทนุษย์อยู่กับพวกนั้น"
"ไม่เป็นไรค่ะ..."คุณยังคงไม่วางใจเขาเท่าไหร่นักก่อนจะเอ่ยถามว่าเขาเป็นใคร
"ฉันชื่อพัพเพ็ตเทียร์ หรือจะเรียกพัพเพ็ตก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ฉัน[ชื่อคุณ]...ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ.."
"ถ้าคุณต้องการอะไรล่ะก็สามารถบอกได้ผ่านลำโพงที่อยู่หัวเตียงนะ"คุณมองไปที่หัวเตียงแล้วพบว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนคล้ายกับรั้วเป็นทรงกลม พร้อมมีปุ่มที่คล้ายกดเปิด มันคล้ายๆกับของที่คฤหาสน์สเลนเดอร์แมนเลย จนร่างของชายหนุ่มได้เดินออกจากห้องไป เหลือเพียงคุณที่อยู่คนเดียวในห้อง
คุณค่อยๆสังเกตรอบๆห้องเพื่อหวังว่าจะมีอะไรที่พอช่วยคุณได้บ้าง เผื่อในกรณีฉุกเฉิน มันไม่มีอะไรเลยในห้องนี้ราวกับทำขึ้นมาเพื่อไม่ให้คุณหนีออกไป แม้แต่หน้าต่างก็ถูกล็อคจากด้านนอก
คุณกลัวว่าถ้าหากหนีออกไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ เหตุผลเพราะว่าในตอนที่คุณจะถูกลักพาตัว คุณเห็นว่าเขาสามารถเรียกใช้สิ่งที่เรียกว่าด้าย?...ออกมา ไม่รู้สิ มันเรียกอะไรสักอย่างแหล่ะ แต่คุณก็ไม่คิดจะหนีออกไปตอนนี้...
พัพเพ็ตเทียร์มักจะเข้ามาหาคุณหากมีโอกาส เขาจะคอยชวนคุณพูดคุยถามไถ่สารสุขดิบ คุณยังไม่ไว้ใจเขาเพราะเขาเป็นคนที่ลักพาตัวคุณมา แต่สุดท้ายก็ยอมพูดคุยกับเขาเผื่อว่าจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขามากขึ้น อาจจะบอกว่าคุณโลกสวย แต่ไม่...คุณแค่อยากรู้ว่าชายคนนี้คิดอะไร และเขาคงไม่ได้วางแผนหลอกใช้ให้คุณเป็นเหยื่อล่อกับพวกสเลนเดอร์แมนใช่มั้ย?
คุณไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะคิดอะไรไกลขนาดนี้ทั้งๆที่เขาต้องรู้จักพวกสเลนเดอร์
"ฉันเห็นเธอใส่แต่ชุดแบบนี้มานานแล้วนะ ทำไมถึงไม่ยอมเปลี่ยนชุดที่ฉันหามาให้ล่ะ?"พัพเพ็ตเทียร์เอ่ยถามอย่างสงสัย คุณไม่มั่นใจว่าจะตอบอย่างไรดี..แต่มีบางอย่างเหมือนกำลังบอกว่าควรพูดออกไป
"ร่างกายของฉันเซนซิทีฟต่อพวกเสื้อผ้าทั่วไป คุณเทรนเดอร์จึงได้เลือกออกแบบทำเป็นชุดผ้าออแกนิคให้ใส่ แล้วจะต้องเปลี่ยนทุกๆเดือนน่ะค่ะ"คุณตอบเขา
"หืม? แปลกจังเลยนะ ทั้งๆที่ใส่มานานแต่ชุดของเธอยังคงมีกลิ่นที่หอมเหมือนเดิมเลยนะ..."เขาพูดด้วยรอยยิ้ม แต่คุณก็อดรู้สึกเขินนิดๆไม่ได้เหมือนกันนะ มันแปลกหรอ? คุณถามเขาไป
"ไม่รู้สิ...แต่มันหอมจริงๆนั่นแหล่ะ หอมจนน่ากลัวเลย"เหมือนจะชม แต่ก็เหมือนจะแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ชวนขนลุกแปลกๆ แต่คุณก็ได้แต่ยิ้มเล็กๆให้เขาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจเล็กๆซ่อนอยู่ บางครั้งหากพัพเพ็ตเทียร์ไม่อยู่เพราะต้องออกไปข้างนอกตอนกลางคืนก็จะมีหญิงสาวที่เหมือนนักบัลเล่ต์หญิงเข้ามาช่วยดูแลคุณแทนนั่นก็คือเอ็มร่า คุณได้มารู้ชื่อเธอในภายหลัง แล้วก็ได้รู้ว่าร่างกายของเธอนั้นเปราะบางมากๆและมีโอกาสถูกทำลายได้ง่ายจนต้องให้พัพเพ็ตเทียร์ซ่อมบ่อยๆ....
คุณเคยได้ลองพูดคุยกับเอ็มร่าอยู่บ้างเมื่อมีโอกาส เธอเป็นผู้หญิงที่ถ่อมตน แต่คุณก็สัมผัสได้ถึงความเศร้า คุณได้รับรู้ว่าเอ็มร่านั้นไม่เพียงแต่เปราะบางทางร่างกาย แต่จิตใจของเธอก็เหมือนกับร่างกาย เปรียบดั่งที่ใครๆต้องการให้เธอเป็นตุ๊กตา...
มาคิดๆดูแล้วมนุษย์นี่ก็โหดร้ายจังเลย...พวกเขาได้ทำลายชีวิตมนุษย์ด้วยกันเองไปมากแค่ไหนแล้วนะ? ไม่ใช่ว่าอนาคตอาจจะมีผู้บริสุทธิ์ต้องตายหรือกลายเป็นฆาตกรเพราะพวกเขาอีกหรอ...
"คุณเอ็มร่า คุณอยากจะมาวาดรูปด้วยกันมั้ยคะ?" ตอนนี้เองก็เช่นกัน พัพเพ็ตเทียร์ออกไปข้างนอกตอนกลางคืนอีกครั้งและเอ็มร่าที่ต้องเข้ามาดูแลคุณ คุณพยายามหาเรื่องชวนเธอคุยหรือทำอะไรสักอย่างเผื่อจะช่วยให้เธอยิ้มและมีความสุข เธอจ้องมองคุณจนคุณรู้สึกไม่ดีนิดหน่อย แต่คุณก็พยายามใจดีสู้เสือ "เอ่อ...แบบว่า ฉันแค่อยากชวนคุณทำอะไรอย่างอื่นบ้างน่ะค่ะเผื่อว่าคุณเอ็มร่าจะสนใจแล้วก็ชอบมันด้วยก็เลย....อยากลองชวนคุณมาวาดรูปก่อนเป็นอันดับแรก" คุณยิ้มให้เธอ
เอ็มร่าไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็พยักหน้าแทนและคุณก็ยิ้มให้เธอก่อนจะหากระดาษและดินสอมาวาดรูปด้วยกัน
คุณสนใจในการเต้นรำของเธอ แต่ก็กลัวว่าจะไปกระตุ้นบางอย่างเข้าก็เลยไม่ได้เอ่ยถึง คุณเลือกวาดรูปเกี่ยวกับพวกสวนดอกไม้เหมือนในตอนที่คุณเคยอยู่ในคฤหาสน์ ทำตามแบบที่เฮเลนเคยสอนคุณ แต่ก็มีคอยแอบลอบสังเกตคนตรงหน้าที่ก้มหน้าก้มตาขัดเขียนวาดรูปบนกระดาษไม่ต่างกัน ไม่นานคุณก็หันมาสนใจกับการวาดต่อ...
"เสร็จแล้วค่ะ คุณเอ็มร่าล่ะคะ?"คุณใช้เวลาในการวาดเกือบชั่วโมงกว่าจะเสร็จ หญิงสาวเงยหน้ามองคุณแล้วพยักหน้าน้อยๆ คุณถามเธอว่าอีกฝ่ายวาดอะไรอยู่ ดูเหมือนเอ็มร่าจะลังเลครู่หนึ่งนะ คุณยื่นกระดาษที่เพิ่งวาดเสร็จให้เธอดู
"ฉันวาดเป็นสวนดอกไม้น่ะ น่าเสียดายที่ไม่มีสีฉันคงจะระบายมันออกมาด้วยเพื่อให้กับคุณ"
"สวนดอกไม้..."
"อื้ม มันเป็นสถานที่ที่ดีมากๆเลย หากคุณเอ็มร่าได้ลองไปสักครั้งจะต้องชอบมากแน่ๆ มีทุ่งดอกไม้เต็มไปหมด พร้อมบรรยากาศที่โปร่งใสและบริสุทธิ์ร่มเย็น มีแสงแดดดอ่อนๆส่องเข้ามา มันชวนให้รู้สึกผ่อนคลายและก็เหมาะกับการมาพักผ่อนด้วย"คุณอธิบายให้เธอ ดูเหมือนว่าเอ็มร่าจะเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว
"มัน...ดีมากเลยเหรอ?"
"ดีสิคะ! ไว้มีโอกาสคุณเอ็นร่าจะไปดูด้วยกันมั้ยคะ?"
"......"
แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไร ทว่าคุณรู้สึกเหมือนดวงตาของเธอจะเป็นประกายบางอย่างแปลกๆ คุณไม่อาจเข้าใจได้มากนักแต่เชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงอยากไปเหมือนกัน ทว่าคล้ายมีเหตุผลที่เอ็มร่าดูจะไปไม่ได้
"ฉัน...ก็อยากไปดูนะ"เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับมีอะไรบางอย่าง คุณรู้สึกเหมือนเห็นเซดี้คนที่สองเลยแฮะ คุณยื่นมือออกไปสัมผัสกับมือของเธออย่างแผ่วเบาราวกลัวว่าจะทำมันแตกสลายอย่างไรอย่างงั้น
"ถ้ามีโอกาสเราต้องได้ไปแน่นอนค่ะ"คุณยิ้มให้เธออีกครั้ง ดวงตาสีแดงจับจ้องมายังดวงตาสีอเมทิสต์ของคุณ คุณรู้สึกว่าตาของเธอสวยราวกับทับทิมเลยแฮะ รอยยิ้มบางๆค่อยๆผุดขึ้นบนใบหน้าของหุ่นตุ๊กตากระเบื้องนักเต้นรำช้าๆจนคุณแปลกใจน้อยๆ อาจจะบอกว่าแปลกแต่สำหรับคุณมันเป็นรอยยิ้มที่สวยงามมากสำหรับคนที่เคยผ่านความทุกข์แบบเธอเลย บางทีถ้าทำให้เอ็มร่ายิ้มบ่อยๆได้ก็คงดี...
หลังจากนั้นคุณกับเอ็มร่าก็ได้สนิทและพูดคุยกัน คุณได้รู้เรื่องราวชีวิตของเอ็มร่าแล้ว ในชีวิตที่เธอเป็นมนุษย์เธอถูกพ่อแม่คาดหวังอยากให้เธอเป็นพวกดาราหรือคนมีชื่อเสียงจึงทำให้ในวัยเด็กของเอ็มร่าถูกพ่อแม่คาดหวังมากๆและถูกฝึกให้เต้นบัลเล่ต์ตั้งแต่ยังเด็ก ไม่มีโอกาสได้ทำอะไรตามใจตัวเอง จนเธอได้พบกับโจนาธาน และทั้งสองก็ได้คบกัน...
แต่เพราะว่าเธอจำเป็นต้องเลิกลากับเขาเพื่ออนาคตที่มั่นคงตามที่ทุกคนรอบตัวต้องการ...
เอ็มร่าอาจจะเหมือนกับเซดี้ตรงที่เธอเป็นซึมเศร้า แต่ก็ยังต่างจากเซดี้ที่เธอสูญเสียแม่แท้ๆไปด้วยโรคมะเร็งแล้วถูกพ่อทำร้ายร่างกายไหนจะถูกทำให้อับอายอีก แต่เอ็มร่าเธอเกิดมาโดยถูกความคาดหวังจากพ่อแม่และคนรอบตัว มันคงจะกดดันและอึดอัดใจสำหรับเธอมากๆ แต่ก็ไม่มีใครที่รับรู้ข้อนี้นัก...
"คุณ...อยากกอดหรือเปล่า?"
"..อะไรนะ?"เธอถามด้วยความงุนงง แต่คุณก็อ้าแขนน้อยๆเพื่อบอกว่าคุณพร้อมจะให้กอดเพื่อปลอบประโลม "ฉันแค่คิดว่า...ถ้าคุณได้ลองกอดอาจจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นก็ได้"
แม้ว่าคุณจะไม่เคยเผชิญกับความโหดร้ายเพราะคุณอยู่แต่ในโบสถ์ และมีเหล่าซิสเตอร์กับแม่ชีคอยเลี้ยงดู มีผู้คนบางส่วนที่เข้ามาในโบสถ์เพื่อขอขมาหรือระบายความในใจแล้วขอคำแนะนำ แต่การที่คุณมีสิ่งิดปกติที่สามารถทำร้ายต่อคนรอบข้างและตัวคุณเองได้ ถึงจะไม่หนักหนาเท่ากับเหล่าฆาตกรหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่คุณก็ต้องทนความรู้สึกราวถูกกักขังแม้จะมีเพื่อนๆอยู่ด้วยทุกครั้งหลังจบพิธีก็ตาม...
คุณไม่รู้หรอกว่าเอ็มร่าเจ็บปวดแค่ไหน แต่คุณอยากปลอบพวกเขา แม้คุณรู้ตัวดีว่าการมีปฏิสัมพันธ์ต่อพวกเขาอาจเป็นบาปก็ตาม...
*ฟึ่บ*
เอ็มร่าค่อยๆขยับตัวเข้ามากอดคุณช้าๆ เธอมีท่าทีเก้ๆกังๆเล็กน้อยเหมือนกลัวว่าจะทำให้คุณตกใจ แต่สุดท้ายเธอก็กอดคุณโดยที่คุณเองก็ตอบรับกอดของเธอ...
คุณได้ยินเสียงสะอื้นดังข้างๆหูของคุณ เธอ...ร้องให้ แม้ว่าจะไม่มีน้ำตาก็ตาม คุณเลือกให้เธอร้องให้ดีกว่าการบอกให้เธอไม่ร้อง ถ้ามันพูดยากก็ร้องออกมาเถอะ....
บางที....ความทรงจำในตอนที่เอ็มร่าเป็นมนุษย์คงมีความสุขมากที่ได้อยู่กับคนที่ชื่อโจนาธาน...
........
......
....
..
.
วันเวลาผ่านไป หลังจากที่คุณกับเอ็มร่าได้พูดคุยกัน คุณให้เธอได้กลับไปพักผ่อนเพื่อให้เธอได้มีเวลากับตัวเอง คุณจึงมาเดินรอบๆห้องแล้วลงไปที่เตียงอีกครั้ง คุณไม่สามารถติดต่อหาพวกสเลนเดอร์ได้เพราะว่าที่ห้องคุณไม่มีพวกมือถือหรือคอมพิวเตอร์แบบที่เบนกับอีเจใช้ คุณคิดถึงพวกเขา...
เปลือกตาคู่สวยค่อยๆปรือขึ้น แล้วเหมือนมีภาพเบลอบางอย่าง คุณเห็นว่ามีร่างสีดำขาวใครบางคนก้มมองดูคุณนอนอยู่ พอค่อยๆปรับโฟกัสสายตาก็เห็นเข้าเต็มๆ
"Hi~ เจ้าซัคคิวบัสตัวน้อย~"
"ว-ว้าย!?"คุณสะดุ้งตกใจ พอหันไปก็พบกับใบหน้าที่แสนคุ้นเคยของใครบางคนที่...คุณก็รู้ว่าใคร(?) คนที่ชอบแกล้งคุณเป็นประจำก็คือคนๆนี้แหล่ะ!
"คุณ...คาเงะคาโอะ?"
"ไม่นึกเลยนะว่าเธอจะถูกเจ้าหุ่นเชิดนั่นลักพาตัวมาได้ขนาดนี้ แปลกใจจริงๆ เคะๆๆ"
"คุณ...รู้จักกับเขางั้นเหรอคะ?"
"หืม~? 少し(นิดหน่อย) เอาเถอะ แต่ก็ระวังเจ้านั่นเอาไว้จะดีกว่านะ"เจ้าแมวผีเดินลงมาจากผนัง ถ้าสังเกตดีๆคล้ายจะเห็นกรงเล็บของสัตว์นะ ก่อนที่ร่างนั้นจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณ
"あいつは簡単に逃げさせないから。(เพราะเจ้านั่นก็คงไม่ยอมให้เธอหนีไปง่ายๆแน่)"คุณไม่เข้าใจความหมายมาก แต่ก็รับรู้ได้ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆถ้าหากคุณคิดหนีออกไป แต่ว่า...
"คุณเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง มันล็อคหน้าต่างจากด้านนอกนะคะ"
"มีนักเต้นคนนึงช่วยเปิดให้น่ะ"นักเต้น...หรือว่าจะเป็นเอ็มร่ากัน? แล้วทำไมเธอถึงให้คาเงะคาโอะเข้ามาได้ล่ะ? ถ้าหากพัพเพ็ตเทียร์รู้ว่ามีใครเข้ามาจะเป็นไง? เขาอนุญาตหรือว่ารู้จักกับคาเงะคาโอะจริงๆจนสนิทกัน?
"เจ้านั่นคงไม่ให้ฉันเข้ามาหรอกนะ"คาเงะคาโอะตอบราวรู้ความคิดอ่านของคุณ จนคุณได้ยินเสียงเคาะประตู ร่างของคาเงะคาโอะก็หายไปทันทีที่คุณหันมามองเขา
*แกร๊ก*
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างอันคุ้นเคย พัพเพ็ตเทียร์เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่คล้าย...บิดเบี้ยวด้วยความโกรธกับความเศร้าจนแทบสิ้นสติ
"คุณพัพเพ็ต---"
*ฟิ้ววว!!*
ร่างของคุณถูกเส้นด้ายสีเหลืองเข้ามาพันรอบๆกายและถูกรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก คุณได้ยินเสียงเอ็มร่าวิ่งเข้ามาในห้องและพยายามหยุดเขา แต่เขาไม่ฟังอะไรเลยจนสะบัดร่างของหญิงสาวเข้ากับกำแพงจนเธอเริ่มมีรอยแตกร้าวบางส่วน
"ค-คุณ อึก พ-พัพเพ็ต"
คุณพยายามหาเสียงเพื่อเอ่ยเรียกเขา และพยายามเรียกสติของเขา ในจังหวะนั้นเองก็มีร่างของชายอีกคนผู้สวมหน้ากากวิ่งเข้ามาแล้วพยายามหยุดพัพเพ็ตเทียร์ด้วยการตัดเส้นด้ายพวกนั้น ทำให้พัพเพ็ตร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของคุณร่วงลงสู่พื้นอย่างอิสระและไอออกมาด้วยความทรมาณเล็กน้อย
"เอ็มร่า...คุณเอ็มร่า!"ทันทีที่คุณได้สติก็เร่งเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้นทันที พยายามที่จะไม่แตะแรงเกินไปเพราะเธอดูบอบบางมาก
"ฉัน..ไม่เป็นไร.."เอ็มร่าเอ่ยด้วยเสียงอ่อนแรง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมอยู่ดีๆพัพเพ็ตเทียร์ถึงคลั่งแบบนั้น?
"อั้ก ก-แก"
"คุณทำอะไรน่ะคุณพัพเพ็ตเทียร์!?"คุณไม่เข้าใจในการกระทำของชายหนุ่มที่ตอนแรกดูเป็นมิตร แต่คราวนี้ดูไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่กำลังคลุ้มคลั่งเหมือนโดนกระตุ้นต่อมบางอย่างเลย
"ถอยไป! อย่ามายุ่งกับฉัน!"เขาดูเจ็บปวดมากๆ น้ำตาของเขาที่ไหลออกมาราวกับเจ็บปวดมากๆ คุณไม่มั่นใจว่ามันเกิดจากอะไร และไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาเป็นแบบนั้น พัพเพ็ตเทียร์เริ่มโจมตีอีกครั้ง แต่ชายคนดังกล่าวก็เข้ามาช่วยด้วยการปัดการโจมตีทุกอย่าง
คุณพยายามมองหาอาวุธที่พอจะช่วยหยุดเขาได้ แต่สิ่งที่คุณพอจะหาได้ก็มีแค่แจกัน หรือว่าเก้าอี้เท่านั้น ดังนั้นคุณจึงเลือกหยิบแจกันขึ้นมา แล้วหาจังหวะเพื่อลอบจากด้านหลัง ในใจก็ได้แต่สวดภาวนาขออภัยจากการกระทำของตัวเอง คุณเห็นว่าร่างของชายคนนั้นถูกพันด้วยเส้นด้ายสีเหลืองทอง เขากำลังจะขาดอากาศหายใจดังนั้นคุณต้องรีบช่วยเขา!!
*เพล้ง!!*
คุณใช้แจกันฟาดเข้าที่ศีรษะอย่างแรงแบบจังๆ ทำให้ร่างของนักเชิดหุ่นล้มลงกับพื้นสลบคาที่(?) และเพราะแบบนั้นชายคนดังกล่าวจึงเป็นอิสระ...
คุณหอบหายใจด้วยความติ่นตระหนกและหวาดกลัวปนกับความสับสน คุณไม่อยากเชื่อว่าคุณจะทำแบบนี้ คุณหวังว่าเขาจะไม่ตายนะ
"เขาไม่มีทางตายง่ายๆหรอก ไอ้หมอนี่มันอึด"ชายคนนั้นพูดพลางจับคอเบาๆ เอ็มร่าเข้าไปหาเขาช้าๆด้วยความเป็นห่วง เธอบอกว่า...เขาเป็นลูกชายงั้นเหรอ??
"แซค ลูกไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ลูกบาดเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า"
"ไม่...ผมไม่เป็นไรแม่...แม่ควรห่วงตัวเองมากกว่า"ชายคนนั้นที่ชื่อแซคกล่าว น่าจะเป็นแม่ลูกจริงๆ..?
"[ชื่อคุณ] ไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย?"เอ็มร่าหันมาถามคุณต่อ คุณบอกเธอไปว่าไม่เป็นไร แค่ตกใจ ชายหนุ่มค่อยๆยกร่างของพัพเพ็ตเทียร์ขึ้นแบบแบกกระสอบทรายพาดบ่าก่อนจะเตรียมเดินออกจากห้องเพื่อพาพัพเพ็ตเทียร์ออกไป...
"เขา...เป็นลูกของคุณเหรอคะ?"หลังจากที่ความวุ่นวายจบลง ดีที่เป็นเพียงความโกลาหลสั้นๆน่ะ คุณก็เอ่ยถามเธอถึงชายคนดังกล่าวที่บุกเข้ามาช่วยพวกคุณ
"เขาเป็นลูกบุญธรรมของฉัน ชื่อแซคคารี เขาเป็นเด็กที่น่ารักนะถึงจะทำตัวเป็นเด็กไปบ้างแต่ก็เป็นลูกชายตัวน้อยของฉันเสมอ"เอ็มร่ากล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนๆเมื่อพูดถึงลูกเลี้ยงของเธอ คุณเริ่มเข้าใจมันแล้วล่ะ
"แต่ว่า...คุณเอ็มร่า ฉันคิดว่าเราคงต้องช่วยรักษาคุณก่อนมั้ยคะ?"คุณเพิ่งนึกขึ้นได้ คุณเริ่มกลัวและกังวลแปลกๆว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไปมากกว่า เพราะร่างกายเธอนั้นเรียกว่าสามารถแตกสลายได้ทุกเมื่อเลย เอ็มร่าบอกคุณว่าไม่เป็นไร เธอบอกว่าร่างกายของเธอถูกสร้างมาจากพัพเพ็ตเทียร์ ดังนั้นคนที่จะต้องซ่อมนั่นคือเขา
"ฉันขอโทษนะที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...แต่ว่า...มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอคะ..?"คุณเอ่ยถามเธอแต่ก็เพิ่งนึกได้แล้วบอกอีกฝ่ายว่าถ้าไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร
เอ็มร่ายิ้มให้คุณ และบอกว่าจะช่วยทำความสะอาดให้ คุณอยากให้เธอพักผ่อนเพราะบาดเจ็บแบบนั้น คุณเลยปฏิเสธเธอไปแล้วบอกว่าอยากให้เอ็มร่าพักผ่อนมากกว่า และบอกอีกว่าไม่ต้องกังวลมาก...
แต่เอ็มร่าบอกว่ามันอันตรายเนื่องจากคุณใช้แจกันฟาดหัวพัพเพ็ตเทียร์ตอนนั้น ก็เกรงว่าจะเผลอเหยียบโดยไม่ทันตั้งตัว คุณเลยปฏิเสธเธอไม่ได้...
เคะๆๆๆๆ
เสียงหัวเราะอันคุ้นเคยนั้นดังเข้าโสตประสาทของคุณ คุณค่อยๆเงยหน้ามองไปยังทิศทางของเสียงแล้วพบกับใครบางคนที่กำลังแอบด้อมๆมองๆคุณอยู่ทางหน้าต่าง แต่เอ็มร่าคงไม่ได้ยินหรือเห็นมันเท่าไหร่...
คุณไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ ก็ว่าพัพเพ็ตเทียร์กับคนในคฤหาสน์สเลนเดอร์เข้าใจยากแล้วนะ แต่คนแบบคาเงะคาโอะคุณไม่เข้าใจจริงว่าเขาคิดอะไรที่ชวนเสียวสันหลังอีกมั้ยเนี่ย
The Puppeteer
พาสต้าประเภทวิญญาณพยาบาทที่มักจะกลืนกินความเหงา ความหดหู่ และความเศร้าของมนุษย์ มักเลือกเหยื่อที่มีสภาพจิตใจอันเปราะบางและอ่อนแอทางด้านอารมณ์ความรู้สึก เขาใช้อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เพื่อประโยชน์ต่อตัวเขาเองและอำนาจ สิ่งนี้นี่เองที่เขามักจะทำให้พวกมนุษย์ที่อ่อนแอคิดว่าพวกเขาไม่สามารถหนีรอดพ้นความทุกข์ทรมาณและความโศกเศร้าได้นอกจากความตาย บางทีเขาอาจจะใช้ความสามารถในการควบคุมเพื่อทำให้เหยื่อพบแต่ความทุกข์ก็ได้ใครจะไปรู้
อย่าไว้ใจเขา อย่าหลงเชื่อในคารมคมคายของเขา อย่าอยู่กับเขา คุณรู้ตัวเองดีว่าคุณไม่ควรอยู่กับใคร เขาไม่ใช่ 'โจนาธาน เบลค' อีกต่อไป
"ทั้งร่างกายอันบอบบางน่าทะนุถนอม ทั้งเส้นผมที่นุ่มสลวยชวนน่าสัมผัส และดวงตาที่เปล่งประกายราวอัญมณี เธอคือตุ๊กตาที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่รัก"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น