ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yandere Creepypasta x Reader] Love Succubus ซัคคิวบัสในร่างมนุษย์ [18+]

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 7 : Fear? [ สิ้นสุดการเลือก ตัวเลือกแรก : ไปห้องนอนข้างๆคุณ / ไปหาจัดส์แองเจิ้ล & Special ]

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 65


    Chapter 7 : Fear?





           หลังจากที่โทบี้ออกไปแล้ว คุณก็นอนลงเพื่อพักผ่อน ในช่วงทั้งวันมีแต่เรื่องที่ทำให้คุณแทบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อยู่ไม่สุขและอึดอัดเพราะถูกกลั่นแกล้งอย่างรุนแรง เอ่อ..สำหรับคนปกติเจอแบบนี้ไปก็ไม่ไหวหรอกถ้าเป็นคนที่กลัวเลือดหรือไม่เคยพบเจอพวกเครื่องในอวัยวะกับเลือดแบบนี้น่ะ

           คุณนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับพวกการเกษตร ถ้าเป็นปกติคุณคงอ่านอะไรแบบนั้น แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ดูสิ พวกพืชผักผลไม้ที่บางอย่างคุณก็ไม่เคยเห็นและไม่รู้จักเต็มไปหมดเลย แล้วยังมีเรื่องประเทศต่างๆอีกด้วยที่ขึ้นชื่อการค้าที่แตกต่างกันออกไป

           ไหนจะวิชาคณิตศาสตร์ที่อีเจกับสเลนเดอร์สอน มันยากมากเลยถ้าไม่ได้เรียนพื้นฐานมาก่อน เพราะพื้นฐานถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆ คุณก็เคยถามมาเหมือนกันนะว่าพวกวิชานี้เอาไว้ทำอะไรกัน ก็ได้รับคำตอบมาว่าเพื่อประโยชน์ในอนาคตอย่างเช่นพวกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ การก่อสร้างที่ต้องใช้การวัดขนาดว่าต้องการความกว้างยาวแค่ไหน แล้วยังเป็นการฝึกแก้ปัญหา ฝึกการวางแผนแล้วยังช่วยให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไปในตัวอีกด้วย แม้จะเป็นวิชาที่ใครหลายๆคนอาจจะไม่ชอบแต่มันก็ค่อนข้างสำคัญมากๆเลย

           และคุณเองก็รู้สึกว่าคณิตมันช่าง...โหดร้ายแปลกๆดี ไม่เพียงแค่คณิต แต่พวกวิทยาศาสตร์หรือวิชาการนี่เป็นอะไรที่บางทีหากเรียนไปเรื่อยๆจนถึงบทที่ยากที่สุดคือช่างมีอะไรซับซ้อนจริงๆ--(และอีไรท์ก็ไม่ชอบคณิต--)
           "สูตรนี้ต้องทำแบบนี้"อีเจเป็นคนที่สอนคุณในวิชานี้ แน่นอนล่ะว่าพวกแนวๆนี้ถือว่าเขาเก่งมากๆเลย แซลลี่ก็อาจจะมีให้เขาสอนบ้าง และแน่นอนว่า...คุณเองก็ต้องเรียน แต่มาเรียนเกี่ยวกับพวกสมการ!
           "เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ทำได้ดีแล้วล่ะ.."
           "ฮู้วว ไม่นึกเลยว่าจะยากขนาดนี้แฮะ"
           "ถ้าไม่ทำความเข้าใจตั้งแต่พื้นฐานแล้วฝึกก็คงทำไม่ได้หรอก เธอทำได้ดีแล้วล่ะ"อีเจกล่าวพลางเก็บพวกกระดาษเอกสาร..การเรียนการสอนและแม้กระทั่งข้อสอบก่อนเรียนอีก(?) คุณสามารถพูดได้อย่างกับวิญญาณกำลังหลุดออกจากร่างแน่ะ แม่มกินพลังงานไปขนาดไหนเนี่ย

           เป็นอีกวันที่แสนน่าเบื่อ แต่สำหรับคุณแล้วมันคงเป็นวันที่แสนวิเศษที่ได้เห็นสิ่งต่างๆน่ะนะ ในตอนที่อยู่ลำพังในห้องก็จะมีเซดี้ที่ทะลุผ่านกำแพงหรือไม่ก็เพดานมาอยู่คุยเป็นเพื่อนกับคุณ หรือบางทีจัดส์แองเจิ้ลจะรีบตรงดิ่งมาหาคุณหากเสร็จภารกิจแล้ว สำหรับจัดส์แองเจิ้ลก็คงไม่ต่าง จะมีการพูดคุยถามไถ่บ้างหรือไม่ก็อาจจะถามถึงความชอบด้วย

           คุณรู้สึกเหมือนได้เพื่อนสาวมาอีกครั้ง

           ชีวิตประจำวันที่ไม่ได้มีอะไรมากมายนอกจากวันธรรมดา ในบางครั้งสเลนเดอร์แมนอาจจะมาหาคุณเพื่อถามไถ่ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ หรือบางทีคุณมักจะรู้สึกเหมือนถูกจับตามองและสะกดรอยตามจากใครบางคน แน่นอนว่าคุณไม่อยากนึกถึงคนๆนั้นหรอก และเซดี้ก็จะช่วยคุณไม่ให้โดนเพื่อนของเธอรังแกด้วย ไม่รู้ว่าเพราะเป็นมนุษย์ถึงไม่สามารถฆ่าเลยเปลี่ยนมาแกล้งแทนหรือเพราะมันอยากแกล้งให้คุณกลัวจริงๆกันแน่

           "คาเงะคาโอะ! หยุดแกล้งนางฟ้าได้แล้ว!"
           "เคะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"

           ช่วงนี้เขามักจะแกล้งเอาอวัยวะมนุษย์มาใส่ในอาหารบ้าง หรือไม่ก็ใส่ในไวน์บ้าง ในบางครั้งก็แกล้งให้คุณตกน้ำที่ไม่ลึกเท่าไหร่ รืออะไรก็ตามที่สร้างความกลัวให้กับคุณ ถึงจะไม่ได้ร้ายแรงขั้นบาดเจ็บ แต่มันมีผลต่อจิตใจพอสมควร ดีที่คุณเข้มแข็งพอบ้างแต่ก็ยังกลัวอยู่ดี
           "อย่าหนีนะ! โธ่เอ้ย! เร็วจริงไอ้หมอนี่!"
           "ฉันก็จนปัญญาแล้วล่ะ ขอโทษนะ[ชื่อคุณ]ที่ฉันห้ามเขาไม่ได้"
           "ม-ไม่เป็นไรหรอกเซดี้ เธอไม่ผิดหรอกนะ"เซดี้ดูมีท่าทีเศร้าๆ คุณก็ปลอบเธอและจับกุมมือของเธอเพื่อบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเซดี้เลย คุณเข้าใจดีว่าเซดี้พยายามแล้วที่ไม่ให้คาเงะคาโอะมาแกล้ง แต่รายนั้นมันซนจะตายเลยจัดการยาก

           เซดี้ยิ้มให้คุณ จากนั้นพวกคุณก็มาร่วมทานของว่างด้วยกัน

           "เอ่อ...แล้วคุณ....บลัดดี้เพนเทอร์ล่ะคะ?"
           "เขาอยู่ในห้องน่ะ เฮเลนมักจะชอบหมกตัวอยู่แต่ในห้องเพื่อวาดรูปน่ะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นคุณก็มองของว่างอีกจานที่น่าจะเป็นของเฮเลน...คุณตัดสินใจว่าจะเป็นคนเอาไปให้เขาเอง จัดส์แองเจิ้ลบอกว่าจะไปกับคุณด้วย ตามเฝ้าซะเป็นองครักษ์เลย คุณคุณรู้สึกเหมือนเป็นเด็กน้อยเลยแฮะ แต่ก็ยอมให้หญิงสาวตามคุณมาด้วย









           เมื่อมาถึงห้องของเฮเลน คุณเคาะประตูสองถึงสามครั้ง จนไม่นานประตูก็ได้ถูกเปิดออกเผยให้เห็นชายหนุ่มในหน้ากากปากยิ้มสีแดงคนนั้น "เอ่อ...ขอโทษที่มารบกวน พวกฉันเอาของว่างมาให้น่ะค่ะ" เฮเลนเพียงจ้องมองคุณกับจัดส์แองเจิ้ลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปรับมาแล้วกล่าวขอบคุณ ประตูจึงถูกปิดลงทันที
           คุณถอนหายใจเล็กน้อย ก็อยากลองสนิทกับเขาดูนะอาจเพราะเขาดูโดดเดี่ยวแม้จะมีเพื่อนคู่หูอย่างนางฟ้าผู้พิพากษาก็ตาม อย่างน้อยก็จะได้เพื่อนสอนวาดรูปด้วยคง...ไม่เป็นไรหรอกนะ จากนั้นพวกคุณทั้งคู่ก็เดินกลับไปที่ห้องของคุณด้วยกันแล้วร่วมทานของว่างตามประสาสาวๆเช่นปกติ...

           เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกคุณเดินออกไปแล้ว ชายหนุ่มจิตกรก็เดินกลับมาที่นั่งของเขาเช่นเดิมพลางวางจานขนมบนโต๊ะ แต่ก็ดันไปสังเกตเห็นแผ่นกระดาษใบหนึ่งที่ถูกพับอยู่บนจาน บลัดดี้เพนเทอร์จึงหยิบออกมาเปิดดู...

           มันเป็นภาพวาดที่....ราวกับเด็กอนุบาล เอ่อ...ใช่ ฝีมือการวาดของคุณไม่ได้สวยอะไรมากเพราะคุณวาดรูปไม่เก่ง คุณลองพยายามวาดรูปดอกไม้แล้วมีคนยื่นให้พร้อมข้อความว่า 'เป็นเพื่อนกันนะ'

           และถ้าลองพลิกกระดาษดู จะเห็นข้อความด้านหลังเขียนไว้ว่า...

           ฉันวาดรูปไม่เก่ง แต่ก็อยากจะเป็นเพื่อนกับคุณ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็เป็นเพื่อนกันนะ! ฉันอยากได้ครูสอนวิชาศิลปะบ้างแล้วเห็นคุณวาดรูปสวยและสื่ออารมณ์ดีมาก! ชวนจัดส์แองเจิ้ลหรือเซดี้มาด้วยก็ได้นะ!

           อาจฟังดูธรรมดา แต่มีความไร้เดียงสาแปลกๆ นี่ถ้าเป็นชายอื่นคงคิดว่ากำลังโดนสาวจีบรึเปล่านะ แต่ดูทรงคุณแค่อยากหาเพื่อนเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆหรอก...
           ใบหน้ายังคงจับจ้องสิ่งที่เขียนบนกระดาษนั้นก่อนจะค่อยๆขยับมันมาใกล้ๆ...แนบชิดกับริมฝีปากผ่านหน้ากากของตนเองก่อนจะมองจานขนมสักพักจึงค่อยๆถอดหน้ากากเพียงครึ่ง เห็นริมฝีปากหนาอันแสนนุ่มน่าสัมผัสพลางหยิบมันมาตักกิน...

           "ภาพวาดในกระดาษ...อาจจะสวยงามไม่เท่ากับชีวิตจริงเลยนะ..."

           รอยยิ้มที่ถูกยกขึ้นมุมปากอย่างไม่อาจคาดเดาอารมณ์ความคิดของเขาด้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มออกมาแบบนี้...









           หลังอาหารว่างได้สิ้นสุดลง เทรนเดอร์จะเป็นคนเข้ามาเก็บ แล้วก็จะไปเก็บที่ห้องของเฮเลนด้วยเพราะคุณบอกว่าเอาไปให้เขาที่ไหน พวกคุณคิดว่าจะออกไปเดินเล่นที่สวนด้วยกันจึงตกลงปลงใจ(?)ลุกขึ้นเดินไปด้วยกันโดยที่คุณต้องสวมผ้าคลุมตัวอยู่ตอดที่ออกไป อะ ตอนไปหาเฮเลนคุณก็สวมผ้าคลุมห่อตัวไว้นะ!!

           พวกคุณหัวเราะคิกคัก พูดคุยสารสุขดิบแบบที่สาวๆคุยกัน แต่อาจไม่มากเพราะพวกเธอเองต่างก็ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอะไรแบบที่เด็กผู้หญิงควรจะเป็นเท่าไหร่นอกจากคุยกันเรื่องที่...การออกล่าจัดการพวกคนชั่วเอย หรือคุยเรื่องการร่วมผจญภัย(?)ไปกับคู่หูของตัวเองงี้
           "โอ้ว สวัสดี My princess~"เสียงนุ่มทุ้มเล็กของใครบางคนดังขึ้น เมื่อหันไปคุณก็พบกับคนที่แสนคุ้นเคย บุคคลหูยาวและชุดสีเขียวนั่น...
           "คุณคือ...เบน"
           "ดีใจจังเลยนะที่เจ้าหญิงจำกระผมได้~ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ให้กระผมเป็นคนนำทางเดินสวนดีมั้ย--"

           *ชิ้ง!*

           "ออกไปห่างๆจากMy Angelเลยนะไอ้เอลฟ์โรคจิต!"ในคฤหาสน์นี้ แม้ออฟเฟนเดอร์จะเจ้าชู้ แต่เขาก็ไม่ได้ถึงขั้นโรคจิตวิตถารแบบอีเบนที่ชอบแอบส่องผู้หญิงหรอกนะ! ใครจะยอมให้มันเข้าใกล้นางฟ้าได้ล่ะ! เดี๋ยวก็แปดเปื้อนมลทินหมดหรอก!
           "หวาาา ใจร้ายอ่าาา ฉันแค่อยากมีส่วนร่วมมม"
           "นี่มันเรื่องของผู้หญิง! นายไม่เกี่ยว ออกไปเลยนะ กลับไปเล่นเกมของนายสิ!"คุณเห็นท่าไม่ดี จึงเอ่ยห้ามปรามแองเจิ้ลเบาๆว่าให้ลดดาบลงก่อน จัดส์แองเจิ้ลแม้ไม่พอใจแต่ก็ต้องทำตามคุณ..อย่างว่าง่ายเลย?
           "เอ่อ ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกเราเดินเล่นแค่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ"
           "แย่จังเลยนะ นี่ฉันโดนสุภาพสตรีปฏิเสธหรอเนี่ย กระซิกๆ"พร้อมถืออะไรบางอย่าง
           "ฉันแค่...อยากโชว์อะไรนิดหน่อยน่ะ เธอคงยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีมากนี่นา"
           "เทคโนโลยี..?"
           "หยุด อย่าคิดอะไรแผลงๆเชียวนะไอ้เอลฟ์วิปริต เรารีบไปกันเถอะคุณนางฟ้า เร็วเข้า"จัดส์แองเจิ้ลเร่งเข้ามาขัดก่อนจะจับแขนพาคุณเดินผ่านออกมาจากจุดนั้นเช่นเดียวกับเซดี้

           *หมับ!*

           "แล้วเจอกันนะ เจ้าหญิง~"
           โดยไม่ทันตั้งตัวก็ถูกมือเรียวบางของเบนจับแขนของคุณไว้แล้วเอ่ยกระซิบข้างหูชวนจั๊กจี้แปลกๆ ก่อนจะเดินยกแขนขึ้นพิงศีรษะเดินออกไปทิ้งให้จัดส์แองเจิ้ลทำท่าขู่ฟ่อแบบสุนัขหวงเจ้าของแน่ะ(?)
           "เขาพูดอะไรกับเธอหรอ[ชื่อคุณ]?"เซดี้หันมาถามคุณด้วยความกังวลและเป็นห่วง คุณส่ายหน้าบอกไม่มีอะไร แต่สาวๆก็บอกว่าถ้ามีอะไรก็บอกพวกเธอได้...

           ทำไมคุณถึงรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีแปลกๆนะ...

           คุณเริ่ม...กังวลขึ้นมาแล้วสิ...

           ในคนนั้นเอง คุณนอนไม่หลับ จึงคิดว่าจะออกไปเดินเล่นอีกครั้ง แต่ว่าถ้าออกไปเดินเล่นตอนนี้ก็เกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งโดยคาเงะคาโอะนั่นอีกน่ะสิ ไม่รู้ว่ามันจะมาไม้ไหน จึงคิดว่าจะไปหาสาวๆ แต่ก็ไม่กล้ารบกวนเท่าไหร่ แต่ไฟในห้องของจัดส์แองเจิ้ลยังเปิดอยู่ ว่าแต่....

           คุณจะไปห้องไหนดี...
           [ ห้องนอนข้างๆคุณ / ไปหาจัดส์แองเจิ้ล ]
           [ เรียกเซดี้ออกมา ]
           [ ไปที่ห้องศิลปะ ]
           [ ไปห้องครัว ]
           [ ไปห้องนั่งเล่น ]
           [ ไปห้องรับแขก ]
           [ ไปที่สวนทันที ]
    [ คุณได้เลือกคำตอบของคุณแล้ว ]

    [ ไปห้องนอนข้างๆคุณ / ไปหาจัดส์แองเจิ้ล ]

           คุณเดินไปที่ห้องข้างๆของคุณ คุณเคาะประตูสองถึงสามครั้งไม่นานประตูก็ได้ถูกเปิดออกเผยให้เห็นนางฟ้าแห่งคำพิพากษาที่บัดนี้อยู่ในชุดลำลองเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวสบายๆที่ยาวถึงต้นขา สวมกางเกงขาสั้นแบบสบายๆ ดูๆไปแล้วคนตรงหน้าก็งดงามจริงๆ งดงามแบบพิศวงเลยล่ะ
           "อะ คุณนางฟ้า มีอะไรรึเปล่า?"คุณรู้สึกเขินเล็กน้อยที่ถูกอีกฝ่ายเรียกนางฟ้าบ่อยๆ แรกๆมันก็แอบทำตัวไม่ถูกบ้างแต่พอยิ่งนานๆเข้าก็เริ่มเขินแล้วสิ คุณบอกเธอว่าคุณนอนไม่ค่อยหลับเลยอยากจะชวนจัดส์แองเจิ้ลไปเดินเล่นด้วยกัน แต่ก็ไม่กล้ารบกวนเลยอยากมาลองถามดู และคำตอบที่ได้ก็คือ...

           "ได้สิ!! ฉันจะเป็นเกราะป้องหันให้คุณนางฟ้าเอง!"

           คงไม่ต้องบอกก็รู้แหล่ะ






           ในที่สุดทั้งคุณและจัดส์แองเจิ้ลก็เดินออกมาด้วยกัน คุณเลือกไปเดินเล่นที่สวนเพราะช่วงยามกลางคืนนั้นมันสวยมากๆเลยอยากพาอีกฝ่ายมาด้วย คุณกุมมือของหญิงสาวเดินไปด้วยกันเพื่อความปลอดภัยกันคลาดสายตา เล่นเอาแองเจิ้ลรู้สึกเขอะเขินเลย ได้จับมือกับนางฟ้าเป็นอะไรที่โชคดีสุดๆไปเลยนี่ แถมนางฟ้าก็ดูไร้เดียงสามากด้วย! จะปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เด็ดขาด
           "ดูนี่สิแองเจิ้ล สวนหลังบ้านยามกลางคืนสวยมากเลย แถมมีหิ่งห้อยด้วย"
           "ว้าว สวยจริงๆเลยคุณนางฟ้า คุณนางฟ้าชอบออกมาบ่อยๆหรอ?"
           "ก็มีบ้างจ้ะ เฉพาะเวลาที่ฉันนอนไม่หลับน่ะ"
           คุณตอบ แล้วชวนเธอมานั่งเล่นที่ม้านั่งด้วยกันเพื่อชมแสงจันทร์กับดวงดาวระยิบระยับยามค่ำคืน เสียงจิ้งหรีดที่ดังในยามราตรีฟังแล้วรู้สึกสงบใจดี ยิ่งมาเห็นพวกดอกไม้ก็ยิ่งผ่อนคลาย
           "รู้สึกสงบจัง ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้วแฮะ"
           "มันดีมากเลยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นคุณที่ต้องออกไปจัดการพวกคนบาปการได้พักผ่อนในที่สงบๆแบบนี้มันดีมากเลยนะ"คุณยิ้มให้เธอ
           "นั่นสินะ..หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย ตั้งแต่ที่ฉันเสียแม่ไปก็แทบไม่ค่อยรู้สึกอะไรแบบนี้เลย"เธอพูดแล้วเงยหน้ามองพระจันทร์เต็มดวงราวกับความรู้สึกที่หนักอึ้งได้ค่อยๆมลายหายไป คุณพอเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรมากเกี่ยวกับชีวิตก่อนเป็นฆาตกรนั้นเป็นอย่างไร แต่คุณก็เลือกที่จะยื่นมือไปกุมมืออีกฝ่ายไว้เพื่อให้เธอสบายใจ
           "ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกเศร้าหรือว่ากังวลใจอะไรอีกแล้วนะคุณแองเจิ้ล ฉันเชื่อว่าคุณต้องผ่านมันไปได้และแม่ของคุณก็อยากเห็นคุณยิ้มมีความสุขที่ได้พบเจอทั้งเพื่อนและครอบครัวใหม่ที่ดีกับคุณด้วย"คุณกอบกุมมือแน่นๆเพื่อบอกความจริงใจ หญิงสาวมองคุณคล้ายจะตกใจเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยิ้มออกมา...

           มันเป็นรอยยิ้มที่ดูมีชีวิตชีวาและมีความสุขมาก

           "ใช่แล้วล่ะ ฉันต้องมีความสุข"

           และยิ่งมีความสุขมากๆ...ที่ได้พบเจอคุณ เธอไม่ได้สนิทกับคนบางคนในกลุ่มพาสต้าทั้งหมด แต่ก็รู้สึกยินดีและดีใจมากๆที่ได้สนิทกับคุณ มันเป็นเหมือนครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา ความทุกข์ทรมาณที่เคยถูกพ่อกดดัน ข่มขู่บังคับแล้วยังกักขังเธอเพียงเพราะเธอเป็นตัวประหลาดที่มีสีผมกับดวงตาไม่เหมือนคนในครอบครัว...

           มันค่อยๆมลายหายไป...ราวกับมันได้ถูกปลดปล่อยออกไปแล้ว

           พวกคุณนั่งชมพระจันทร์กับดวงดาวด้วยกัน พูดคุยกันเล็กๆน้อยๆ แตต่ก็เพียงไม่นานคุณก็ค่อยๆหลับไป..โดยหัวพิงกับไหล่ของหญิงสาว จัดส์แองเจิ้ลก็ยิ้มแล้วอุ้มคุณในท่าเจ้าสาวพาไปส่งที่ห้องนอนด้วยตัวเอง

           *ชิ้ง!*
           *ควับ!*

           หญิงสาวกระโดดหลบแต่ก็ยังโอบอุ้มกอดคุณไว้ไม่คิดปล่อยหลบบางสิ่งที่พุ่งเข้ามา เมื่อมองดีๆมันคือเศษคล้ายๆกับขวด..บางอย่าง ไม่สิ หญิงสาวรู้ว่ามันคือเศษแก้วจากขวดอะไร
           "อย่าหวังจะทำร้ายนางฟ้าของฉันนะไอ้แมววิปริต"
           จัดส์แองเจิ้ลสบถออกมาก่อนจะเร่งเข้าไปในคฤหาสน์ทันที เธอรู้ดีว่าไอ้หมอนั่นมันคงจับตามองอยู่ตลอดเวลา แต่เธอจะไม่ยอมให้ใครมารังแกนางฟ้าได้หรอก!!

           คุณนางฟ้า ฉันจะปกป้องและภักดีต่อคุณนางฟ้า ฉันจะขอมอบปณิธานนี้ทั้งกายและจิตวิญญาณของฉัน!

           หญิงสาวพาคุณกลับมาที่ห้องอย่างปลอดภัย แล้วค่อยๆวางคุณนอนลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมโดยไม่ลืมที่จะห่มผ้าให้กับคุณ ถึงสเลนเดอร์แมนจะบอกกล่าวตักเตือนว่าห้ามอยู่กับคุณเป็นเวลานานๆก็เถอะ แต่มันทำไงได้ล่ะ...

           เธอรู้สึกดีต่อคุณจริงๆ...มันผ่อนคลายมากๆเลย..


    ******************************************************
    มีคนเลือกตัวเลือกอีกแบบงั้นหรอ?
    .
    .
    =)
    ******************************************************

    [ คุณได้เลือกคำตอบของคุณแล้ว ]

    [ ไปที่สวนทันที ]

           คุณไม่กล้ารบกวนเวลาพักผ่อนของเธอ อีกอย่างสเลนเดอร์แมนก็สั่งห้ามไม่ให้คุณอยู่กับคนใดคนหนึ่งนานๆ ยิ่งวันนี้ทั้งวันคุณก็อยู่กับจัดส์แองเจิ้ลและเซดี้นานแล้วด้วย ดังนั้นคุณก็จะไม่ทำแบบนั้น คุณคิดว่าคุณคงต้องเสี่ยงดวงสักหน่อย ไม่สิ...ถ้าคุณจะไปคนเดียวก็ต้องมีอาวุธติดตัวเพื่อป้องกัน คุณลองกลับเข้าไป ค้นหาสิ่งที่พอจะเป็นอาวุธได้ และนั่นคือ...

           ไม่มี

           ไม่มีอะไรเลย คุณคงต้องหาอาวุธจากที่อื่น หรือในสวนก็ได้ คุณอาจจะต้องการพวกจอบหรือที่ขุดแทนอาวุธ คุณเดินออกจากห้อง พยายามทำให้เงียบที่สุด...

           การเดินคนเดียวถ้าเป็นปกติคุณคงจะไม่อะไร แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป คุณเริ่มรู้สึกขนลุกและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เย็นแปลกๆอยู่รอบๆตัว ความเงียบที่มันควรจะเป็นปกติของยามค่ำคืนแต่ตอนนี้มันกลับชวนให้รู้สึกกดดันและวังเวง คุณคงต้องเร่งฝีเท้าเดินไปที่สวนแล้วค่อยกลับมาที่ห้องเลยดีกว่า

           คุณเดินมาถึงสวน สวนนี้ยังคงเงียบสงบและให้ความผ่อนคลายเหมือนเช่นเดิม

           แต่มื่อเดินไปเรื่อยๆคุณก็พบกับโต๊ะกลมสีขาวพร้อมผ้าปูโต๊ะสีขาวกับเก้าอี้สีขาวที่แกะสลักลวดลายสวยงาม บนโต๊ะมีทั้งแก้วไวน์ และไวน์กับจานสเต็ก และแจกันที่ใส่ดอกกุหลาบสีแดงไว้หนึ่งดอก
           "เคะๆๆๆ"คุณสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปตามเสียง มันอยู่ข้างหลังคุณแล้วกำลังจ้องมองคุณ
           "มาได้จังหวะพอดีเลยนะ~ ซัคคิวบัสตัวน้อย~"
           "อ-เอ่อ....คุณเป็นคนทำหรอ?"
           "ใช่แล้ว~"ชั่วพริบตาเดียวเขาก็ไปปรากฎอยู่ที่โต๊ะนั่นแล้ว เขานั่งโต๊ะด้านข้างพร้อมกับผายมืออย่างเชิ้นเชิญให้คุณมาร่วมด้วย คุณไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน บางทีมันอาจเป็นแผนหลอกที่จะแกล้งคุณอีกก็ได้ คาเงะคาโอะบอกว่าครั้งนี้เขาไม่ได้คิดจะแกล้งคุณ เขาอยากเชิญคุณมาร่วมดินเนอร์ด้วยกันนิดหน่อย แม้จะไม่อยากเชื่อแต่ก็ยอมเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา แต่ก็พยายามที่จะไม่แสดงออกว่าคุณกลัวหรือระแวงเขามาก

           ถึงจะพยายามแบบนั้นแต่มือคุณก็เริ่มสั่นเล็กน้อยแล้วจึงเก็บซ่อนไว้ใต้โต๊ะ

           "ไวน์หน่อยมั้ย~"เขายกขวดไวน์ขึ้นมา ถ้าเป็นในอาราม...ไวน์ถือเป็นสัญลักษณ์เลือดของพระเยซูตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ เพราะไวน์นั้นมีสีที่คล้ายกับเลือดสดๆจนในปัจจุบันคนในโบสถ์สามารถดื่มไวน์ได้...
           "อ-เอ่อ...ล-ลองหน่อยก็ได้ค่ะ"เมื่อได้รับคำตอบ เขาก็เทไวน์ลงในแก้วของคุณ ไวน์สีแดงที่เปรียบดั่งเลือดแต่ขณะเดียวกันก็ทำใ้ดูสวยงามดั่งสีทับทิม คุณไม่เคยดื่มไวน์จึงไม่ค่อยรู้รสชาติเท่าไหร่ คาเงะคาโอะยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นเหมือนเป็นการสาธิตให้ดู คุณเองก็ลองทำตามจากนั้นเขาก็ยื่นมาให้คุณเพื่อชนแก้ว

           *แก๊ง*

           เสียงชนแก้วกระทบกันแต่ก็ไม่ได้ดังมากแม้จเเสียงจะชวนให้แสบแก้วหูก็ตามหากมันดังกว่านี้ เขายกมันดื่มโดยที่หน้ากากของเขาถอดครึ่งดื่ม คุณเห็นว่าคางของเขา...เป็นสีดำ? กับปากเหมือนจะเป็นสีขาว เขามองคุณแล้วชักชวนให้คุณลองดื่มดู คุณลังเลเล็กน้อยแต่ก็ค่อยๆยกดื่มอย่างระมัดระวัง...

           รสชาติของไวน์นั้นมันหอมและเข้มข้น แต่สำหรับมือใหม่อย่างคุณก็รู้สึกถึงความฝาดเล็กๆ ทว่าคุณกลับรู้สึกอร่อยดีแฮะ "เป็นยังไงบ้างล่ะเจ้ากระต่ายน้อย~" "มันมีรสชาติหอม..และเข้มข้นดีจังค่ะ" ชายหนุ่มหัวเราะคิกคักเบาๆในลำคอ ดินเนอร์ก็ได้เริ่มขึ้น ไวน์มักนิยมกินคู่กับเนื้อสัตว์สี่ขา พอกินไปแล้วกลับอร่อยดี

           คุณกับคาเงะคาโอะได้เริ่มบทสนทนากันแบบตัวต่อตัว(?)ครั้งแรก เขาดูเป็นคนขี้เล่นและค่อนข้างพูดเก่ง เขามักจะพูดคุยเรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องการฆ่าเหยื่อที่เขาทำมา ไวน์ รวมถึงภาษาที่เขาใช้นั้นมันคือภาษาญี่ปุ่น คุณรู้สึกสนใจขึ้นมานิดหน่อย ที่แท้เขาเป็นคนญีุ่่นนี่เองสินะ มิน่าล่ะทำไมชื่อของเขาคุณไม่คุ้นเคย คุณเองก็บอกเล่าเรื่องราวของคุณบ้างอย่างการอยู่ในอารามโบสถ์ การมีเพื่อนๆที่น่ารักที่นั่น แต่คุณไม่เคยออกมาโลกภายนอก และพอมาอยู่ที่นี่ก็ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมาก แม้จะมีกฎข้อห้ามเล็กน้อยก็ตาม
           "ฟังดูน่าเบื่อ แต่ก็สมเป็นเจ้ากระต่ายน้อยที่อยู่ในกรงขังจริงๆ~"แม้คำพูดจะฟังดูโหดร้าย แต่มันคือความจริง จนเมื่อดินเนอร์ผ่านพ้นไป เขาลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาจับผ้าคลุมของคุณกระชับให้ดีๆ
           "เจ้าซัคคิวบัสตัวน้อย~ รู้อะไรมั้ยว่าโลกภายนอกน่ะมันน่าสะอิดสะเอียนแต่ก็มีอะไรน่าสนุกอยู่เยอะเลย~"
           "เอ๊ะ?"คุณมองเขาอย่างงุนงงแล้วจับผ้าคลุมแน่น ชายหนุ่มหน้ากากสองสีเดินไปยังทิศทางนึง ดูเหมือนว่าเขาจะอยากให้คุณดูอะไรบางอย่าง ด้วยความสงสัยคุณจึงยอมเดินตามเขาไป...


           "ว้าว..."เมื่อเดินมาถึงที่หมาย คุณก็ตกตะลึงในสิ่งที่เห็นเพราะมันคือทุ่งดอกไม้ที่อยู่ในป่ารายล้อมมากมาย ส่วนใหญ่เป็นดอกสีขาวอย่างเช่นดอกเดซี่ ยิ่งเป็นเวลากลางคืนแบบนี้มันก็ยิ่งงดงามมาก แม้ว่าในคฤหาสน์จะมีสวนก็ตาม คุณเดินมองดูรอบๆชื่นชมบรรยากาศที่แสนน่าอัศจรรย์  คาเงะคาโอะให้คุณทำตัวตามสบายและสามารถเด็ดดอกไม้ได้ คุณคิดว่าจะลองเด็ดไปใส่ในแจกันดู...

           ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากลางป่าแบบนี้จะมีพวกดอกไม้ด้วย คุณคิดแต่ก็นั่งลงบนทุ่งดอกไม้สีขาวเด็ดมันขึ้นมาสูดดมเบาๆแล้วจากนั้นก็เริ่มเด็ดมาทีละดอก...

           รู้ตัวอีกทีคาเงะคาโอะก็หายไป...เขาไม่อยู่ตรงนั้น คุณตกใจแล้วมองซ้ายมองขวาเพื่อมองหาเขา เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินอยู่ข้างหลังคุณ คุณคิดว่าเป็นเขา "คาเงะคาโอ----"
           "ว้าว กลางป่าแบบนี้มีสาวงามด้วยหรอ"
           ดวงตาสีม่วงอเมทิตส์ของคุณเบิกกว้างด้วยความตกใจและตื่นตระหนก คุณไม่คิดเลยว่าจะมีมนุษย์เดินเข้ามาในป่าแบบนี้ แล้วพวกเขามาได้ยังไง สายตา...น้ำเสียง..และท่าทางที่ไม่น่าไว้วางใจมันทำให้คุณกลัว
           "คนสวย ทำไมถึงออกมาในสภาพแบบนั้นล่ะ~ อยู่คนเดียวหรอ~"
           "ไม่ต้องกลัวนะคนสวย พวกเราไม่ทำอะไรหรอก ก็แค่อยากช่วยพาไปส่ง"
           อยากช่วย...กับผีน่ะสิ! คุณเริ่มหวาดกลัว ตัวสั่นเล็กๆ สัญชาตญาณบอกคุณว่าให้คุณรีบหนีไป คุณลุกขึ้นแล้วเริ่มออกตัววิ่งเพื่อกลับไปที่คฤหาสน์ แต่เส้นทางที่คุณกับคาเงะคาโอะมามันช่างไกลนัก

           เสียงฝีเท้าของพวกมันวิ่งตามไล่หลังคุณ คุณรู้ว่าพวกมันตามคุณมา คุณหวาดกลัวและเริ่มนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอาราม คุณไม่อยากนึกถึงมัน คุณกลัว กลัว วิ่ง วิ่ง ต้องวิ่ง!

           "อร๊าย!"ไม่ทันไรคุณก็สะดุดล้มเข้ากับรากต้นไม้และล้มลง คุณหันมามองพวกมันที่ตามคุณมาแล้วยังมีสีหน้าที่หื่นกระหายยิ่งทำให้คุณเสียขวัญ
           "อย่าเข้ามา!! อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!"
           "โอ๊ะ ไม่ต้องกลัวพวกเราหรอกแม่สาวน้อยไนติงเกล พวกเราไม่ได้อยากทำเธอกลัว~"
           "พวกเราแค่อยากชวนเธอมาร่วมสนุกเท่านั้นเอง"
           คุณหวาดกลัว พยายามเขยิบถอยออกมาให้ห่างพวกมันที่กำลังเข้ามาใกล้คุณเรื่อยๆ สายตาของคุณมองพวกมันไม่ต่างจากปีศาจที่กำลังยื่นกรงเล็บเข้ามาหาคุณ คุณกรีดร้องลั่นกำดินแน่นแล้วปาใส่หน้าทันที เสียงร้องของชายคนนั้นดังขึ้น
           "ยัยบ้านี่! เธอโดนดีแน่!"
           "อร้าย!"

           *พรึ่บ!*

           .......เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น? คุณไม่รู้สึกถูกสัมผัสหรือถูกดึงกระชากใดๆเลย พอค่อยๆหันมามองอีกทีเป็นอันต้องแทบหยุดหายใจและเบิกตากว้างและดวงตาที่สั่นระริก พลันยกมือปิดปากตนเองแน่น สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือมนุษย์เพศชายทั้งสามที่นอนลงไปกองกับพื้นในสภาพอันน่าสยดสยอง เลือดไหลนองพื้นหญ้า บางคนเหมือนถูกควักอวัยวะภายในออกมา
           "อั้ก...อั้ก"
           "เฮือก!!"
           คุณหดขาและลำตัวด้วยความหวาดกลัวจนแทบจะร้องออกมา แต่ร้องไม่ออกราวกับเสียงร้องนั้นถูกดูดหายไป ร่างของชายคนหนึ่งที่ถูกยกขึ้นโดยชายหนุ่มผู้สวมผ้าพันคอลายทางขาวดำอันคุ้นเคยที่กำลังยกจับจิกเล็บลงบนคอของมัน

           *แคว้ก!!*

           คอของมนุษถูกฉีกกระชากออกมาจนเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วและนั่นยังกระเด็นโดนใบหน้าของคุณเล็กน้อย เลือดสีแดงสดไหลออกมาเหมือนน้ำก๊อกที่ยังปิดไม่สนิท คุณมองภาพนั้นด้วยความสยดสยอง
           "อุ้ย ขอโทษทีนะซัคคิวบัสตัวน้อย~ กะอยากจะโชว์ให้เห็นกับตาเสียหน่อยแต่ดันทำเลอะหน้าสวยๆจนได้~"เสียงหัวเราะอันน่าขนลุกและน่ากลัวดังขึ้นอีกครั้งเหมือนกับตอนที่คุณพบเขาครั้งแรก คุณลุกขึ้นแล้วเตรียมตัววิ่งหนีอีกครั้ง หนี หนีไปให้ไกล คุณไม่น่าตามเขามาเลย! ไม่น่าเลย!!!

           *หมับ!*

           คุณร้องลั่นด้วยความตกใจกลัวเมื่อถูกอ้อมแขนของคนที่คุณพยายามหนีโอบกอดเอวรั้งไว้ คุณดิ้น แต่เขาไม่ยอมปล่อยคุณ ใบหน้าของมันอยู่แนบชิดกับแก้มของคุณและเอ่ยกระซิบข้างหู "จะไปไหนล่ะซัคคิวบัสตัวน้อย~ ฉันยังมีอีกหลายๆอย่างอยากโชว์อยู่เยอะเลยน้า~" น้ำตาของคุณค่อยๆไหลอาแก้มทั้งสองข้าง ตัวสั่นและหัวใจที่เต้นแรงด้วยความหวาดกลัว คุณขอร้องให้เขาปล่อยคุณไปอย่างสั่นกลัว แม้การกลั่นแกล้งของเขาปกติเป็นแค่นำชิ้นส่วนอวัยวะมาใส่ แต่ครั้งนี้มันมากเกินไป!
           "ไม่เอาน่า~ ถ้าเป็นไอ้ตัวตลกขาวดำนั่นเธอคงได้เห็นยิ่งกว่านี้นะ~ เพราะฉันไม่ใช่สายทรมาณแบบกับหมอนั่นสักหน่อย~ อยากลองฟังมั้ยล่ะ?"คุณส่ายหน้ารัวๆ ไม่! คุณไม่อยากฟัง! เสียงหัวเราะของคาเงะคาโอะดังข้างหูของคุณก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่ก็ถูกฝ่ามือหนาปิดปากคุณเอาไว้

           เขากัดคุณ! เขากัดซอกคอของคุณอย่างแรงมากขึ้นจนทำให้เลือดค่อยๆไหลออกมาช้าๆ

           ด้วยความกลัว ทำให้คุณช็อกสลบไป ลิ้นหนาเลียเลือดของคุณๅพลางหัวเราะขบขันคล้ายจะเอ็นดู
           "เจ้าซัคคิวบัสตัวน้อย~ เสียงร้องของเธอมันช่างไพเราะจริงๆ น่าเสียดายจังที่เธอดันสลบไปก่อน~"มือหนาปัดผมที่บดบังใบหน้าของคุณ เขามองอย่างหลงใหล แต่เป็นความหลงใหลที่อันตราย

           "แล้วเจอกันนะเจ้านกน้อย~"



           คุณสะดุ้งตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งหายใจรัวเร็วพร้อมหยาดเหงื่อที่อยู่บนใบหน้าราวคนเจอฝันร้าย คุณมองไปรอบๆแล้วพบว่าตอนนี้คุณอยู่บนเตียงแล้ว...ผ้าม่านที่ถูกปิด แต่ก็มองเห็นว่าข้างนอกตอนนี้คงจะเป็นช่วงหกโมงครึ่งแล้ว

           คุณลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าเผื่อมันจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น...

           แต่ก็ต้องตกใจพร้อมหัวใจที่คล้ายหยุดเต้นไปชั่วขณะยามมองผ่านกระจก...

           เงาสะท้อนตัวของคุณ...เห็นว่าที่บริเวณซอกคอนั้นมีรอยกัดที่เหมือนเพิ่งมาอย่างสดๆร้อนๆ คุณเริ่มตัวสั่นอีกครั้ง และเริ่มได้ยินเสียงหัวเราะอันแสนคุ้นเคยดังไปทั่วภายในห้องจนคุณอยากจะปิดหู แต่ยิ่งปิดก็ยิ่งดังมากขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คุณประสาทหลอนไปเองรึเปล่า...





    [ คุณได้เลือกคำตอบของคุณแล้ว ]

    [ ไปห้องนั่งเล่น ]

           คุณคิดว่าคุณจะไปห้องนั่งเล่น อย่างน้อยที่ห้องนั่งเล่นอาจจะมีคนอยู่ด้วย คุณสวมผ้าคลุมแล้วเดินออกจากห้อง เดินไปตามทางแล้วเดินหาห้องนั่งเล่นจนเดินไปไม่นานก็เจอ...เป็นห้องนั่งเล่นรูปแบบที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ มีโซฟา และเทคโนโลยีที่...คาดว่าน่าจะเป็นโทรทัศน์หรือไม่ก็คอม? หรือทีวี?

           คุณเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วถอนหายใจออกมา

           "เจ้าหญิง ดีใจที่ได้เจอเธอน้า~"เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น คุณหันไปมองตามเสียงก็ดันพบกับเด็กหนุ่มที่เจอกันเมื่อตอนช่วงบ่าย เบนนั่นเอง เขาปรากฎตัวอยู่ตรงทีวี
           "เอ่อ..คุณเองก็นอนไม่หลับงั้นเหรอ?"
           "ปกติฉันไม่ค่อยนอนอยู่แล้วล่ะเจ้าหญิง~ ก็ฉันเป็นผีนินาา"ร่างของเอลฟ์หนุ่มเดินมาหยิบจอยเกมแล้วยื่นให้ เขาเอ่ยชวนคุณมาเล่นเกมด้วยกันแต่คุณไม่รู้จักเครื่องเล่นเหล่านี้ เลยปฏิเสธเขาและบอกเขาว่าคุณเล่นไม่เป็น แต่เบนก็บอกว่าเดี๋ยวจะสอนเล่นให้ ทีแรกคุณก็ลังเลแต่สุดท้ายก็ยอมมานั่งข้างๆเขาแล้วรับจอยเกมนั่นมา...

           หน้าจอนั้นถูกฉายเป็นเกมหนึ่ง เหมือนจะเป็นเกมแนวปริศนาและการเอาตัวรอด เบนสอนวิธีการเล่น เขาสอนวิธีเล่น และวิธีบังคับตัวละคร หรือแม้แต่การเรียกไอเท็ม ในแต่ละเกมที่เขาเลือกมาให้นั้นแตกต่างกันออกไป บ้างก็เกมแนวเอาชีวิตรอด บ้างก็แนวปริศนาท้าทาย บ้างก็เกมแนวเกรียนๆ มัน...น่าสนุกดี ไม่สิ คุณรู้สึกสนุกกับมันแปลกๆ นี่คือเกมที่คนภายนอกเขานิยมเล่นกันงั้นเหรอ? มันเจ๋งดีนะ

           ทั้งคุณกับเบนต่างเล่นเกมกันหลายๆแบบ ด้วยความที่คุณเพิ่งหัดเล่นใหม่ๆเขาจึงแนะนำเกมง่ายๆก่อน ถ้าเจอเกมตามเน็ตล่ะก็คงมีไม่มากนอกจากเกมแนวคลิกหรือใช้คีย์บอร์ดมากกว่า
           "สุดยอดเลย มันสนุกมากจริงๆ"
           "ใช่มั้ยล่ะ ฉันบอกแล้วว่าเกมมันสนุกก"
           "เอ๊ะ? นั่นอะไรน่ะ?"ตอนนี้คุณกำลังเล่นเกมที่มีชื่อว่า Minecraft เ็นเกมที่โลกมีแต่สี่เหลี่ยม แล้วยังเป็นเกมแนวเอาชีวิตรอดอีกด้วยอย่างเช่นการสร้างบ้าน สร้างสิ่งต่างๆ ปลูกผักผลไม้และล่ามอนสเตอร์ตอนกลางคืน แต่คุณดันไปสะดุดเห็นตัวละครตัวนึงในเกมเข้า...
           "อ้อ เจ้านั่นคือ 'ฮีโร่บาย(Herobrine)' น่ะ"
           "ฮีโร่บาย? ว-ว้าย!!!!"
           "เฮ้!! ไอ้หน้าสตีฟ! อย่ารบกวนเวลาเล่นของฉันกับเจ้าหญิงสิ!"
           เบนเริ่มโวยวายเมื่อเห็นตัวละครที่ชื่อฮีโร่บายจั้มสแกร์หรือพุ่งมาจ้ะเอ๊(?)ใส่หน้าจอ ทำให้คุณตกใจจนแทบร้องลั่น ไม่นานก็มีมือโผล่ออกมาจากหน้าจอเล่นเอาคุณสะดุ้ง ร่างของชายคนนั้นที่อยู่ในเกม พอออกมาก็ดันมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ ดวงตาสีขาวทั้งกลวงและส่องประกายจนทำคุณไม่อาจละสายตาได้เลยแทนที่จะกลัวมัน รึคุณสติไม่ดีนะ?
           "ให้ตายสิเบน นายกำลังเล่นกับสาวไหนอีกล่ะ"ชายคนนั้นถอนหายใจออกมาด้วยรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าแม่มกะล่อนขนาดไหน แถม...ผู้หญิงแบบคุณยัง...อยู่กับไอ้เอลฟ์นี่เพียงลำพังแบบนี้มีใครเตือนบ้างมั้ยเนี่ย? อยู่ในความดูแลของพวกสเลนเดอร์แมนแท้ๆ ที่เขารู้ก็เพราะเบนเล่าให้ฟังเนี่ยแหล่ะคิดว่าน่าจะเป็นคุณ
           "เรื่องของฉันน่า อ้อ นี่คือ[ชื่อคุณ] ส่วนนี่นะเจ้าหญิง เขาคือฮีโร่บาย ไอ้หมอนี่มันออกจะพิลึกหน่อย"
           "แกนั่นแหล่ะที่พิลึกกว่าฉันอีก คนบ้าอะไรโรคจิตวิตถารแอบถ่ายคนอื่นเนี่ย"
           คุณมองดูทั้งสองยืนโต้เถียงกัน มันเป็นเหมือนเพื่อนสนิทมาเจอกันแปลกๆแล้วจากนั้นก็จะมีโต้เถียงเรื่องไร้สาระบ้าง แต่มันก็ทำให้คุณอดยิ้มขำเบาๆไม่ได้แฮะ
           "เพื่อนของคุณเบนมีดวงตาที่งดงามมากเลยค่ะ"พอคุณพูดงี้เล่นเอาคนทั้งสองเงียบกริบเลยแล้วจ้องมองคุณ เมื่อบรรยากาศเงียบแบบนี้ทำเอาคุณเริ่มคิดว่าคุณพูดอะไรผิดรึเปล่าเลยเริ่มกระวนกระวายราวคนทำผิด คุณขอโทษหากพูดอะไรผิดไป
           "ไม่หรอก แค่แปลกใจที่เธอชมดวงตาฉันแบบนั้น"อีกฝ่ายหันหน้าไปทางอื่นก่อนที่เขาจะขอเข้าไปในครัวเพื่อหาอะไรดื่มนิดหน่อย เข้าบ้านคนอื่นแล้วยังมาขอของกินราวบ้านตัวเองเฉยเลย(?)

           ทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้าไปในครัวแล้วนั้น อยู่ดีๆร่างของคุณก็ถูกกดลงกับพื้นโดยฝีมือของเด็กหนุ่มเอลฟ์ตาแดงที่ตอนนี้อยู่เหนือคุณ

           "เจ้าหญิง ทำไมต้องไปชมไอ้บ้านั่นด้วยเล่าา"
           "อ-เอ๊ะ? ฉ-ฉันแค่เอ่ยตามความจริงเท่านั้นนะคะ  เอ่อ มันแปลกหรอ?" คุณไม่เข้าใจการกระทำของอีกฝ่ายเท่าไหร่ รึการชมคนอื่นว่ามีดวงตาสีขาวแบบนั้นมันแปลกนะ? ยังไม่ทันที่คุณจะคิดอะไรต่อ ริมฝีปากก็ถูกปิดด้วยปากของอีกฝ่ายสร้างความตกใจให้คุณเป็นอย่างมาก คุณเบิกตากว้างและเร่งผลักเขาออกไป "ค-คุณทำอะไร!?"
           ท่าทีของอีกฝ่ายนั้น...แปลก...แปลกไปมาก ดูเงียบแล้วยังก้มหน้าอีก คุณเริ่มรู้สึกขนลุกปนกลัวขึ้นมาแล้วสิ คุณลุกขึ้นแล้วเตรียมวิ่งแต่ก็ถูกมือบางจับฉุดกระชากจนร่างของคุณมานั่งบนตักอีกฝ่ายทันที "คุณเบน!?"
           "อย่าเพิ่งไปสิ...เธอจะทิ้งฉันไว้คนเดียวหรอ"เบนเริ่มทำหน้าหงอยๆเหมือน...สุนัขแปลกๆ คุณพยายามแกะมือของเขาที่กอดเอวคุณออก คุณบอกเขาว่าคุณจะกลับห้องเพราะนี่มันเลยเวลานอนของคุณแล้ว

           "อยู่กับฉันก่อนสิ..เรายังมีเกมสนุกๆอย่างอื่นอยู่นะ"

           แม้น้ำเสียงจะฟังดูเป็นมิตรเช่นปกติ แต่มันกลับ..ดูน่ากลัวและน่าขนลุกแปลกๆ ลมหายใจคล้ายจะหยุดเต้น ร่างกายหยุดนิ่งไม่อาจขยับเขยื้อนได้ราวถูกสะกดจิตให้อยู่กับที่ ดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความกลัว คุณรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว

           *ป้าบ!!!*

           ฝ่ามืออรหันต์ของใครบางคนฟาดศีรษะของเอลฟ์หนุ่มอย่างแรงจนมันสลบเมือดไปกับพื้นทันที
           "ให้ตายสิไอ้เจ้าบ้า ขืนมาช้ากว่านี้เธอโดนจับเข้าไปในโลกเกมแน่ๆ"ฮีโร่บายเป็นคนเข้ามาช่วยคุณพร้อมในมือถือน้ำผลไม้แก้วหนึ่ง คุณมองและถอนหายใจอย่างโล่งอกและขอบคุณเขาก่อนที่อีกฝ่ายจะยื่นน้ำส้มให้
           "ดื่มหน่อยมั้ย? แล้วค่อยกลับไปนอน"คุณมองเขาเงียบๆและกล่าวขอบคุณ ยื่นมือไปรับน้ำส้มมาดื่ม อย่างน้อยมันก็ช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและหายจากอาการตื่นกลัวเมื่อครู่นี้ได้
           "ขอบคุณอกีครั้งนะคะ งั้น...ราตรีสวัสดิ์นะคะ"ฮีโร่บายหยักหน้า สายตาของเขาจ้องมองตามแผ่นหลังของคุณที่เดินหายออกไปจากห้องแล้วหันมามองเพื่อนโลกไซเบอร์ของเขาและถอนหายใจ

           "เฮ้ออ จะจัดการไอ้หมอนี่ยังไงดีวะเนี่ย"

           ปกติไอ้เบนก็เจ้าชู้กะล่อนหลี่สาวอยู่แล้ว มาเจอคุณแบบนี้อาการหนักSusๆเลย แล้วแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะต้านไหวมั้ยเนี่ย!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×