ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 6.5 : Dangerous guest (2) [100%]
Chapter 6.5 : Dangerous guest (2)
ชายคนนั้นได้ปรากฎอยู่ตรงหน้าคุณ...บุคคลอันตรายที่คุณได้พบไปเมื่อวานคืน บัดนี้...เขามาอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว
ร่างอันบอบบางค่อยๆเริ่มสั่นเทาราวลูกนกด้วยความกลัว คุณไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขา ถ้าคุณรู้ชื่อก่อนหน้านี้คงจะไม่กล้ามาเจอเขาเป็นแน่ อีเจเข้ามาแทรกกลางเพื่อมิให้ชายสวมหน้ากากสองสีคล้ายโมโนคุมะ
"หืม~? เมื่อคืนยังออกมาในสภาพแก้ผ้าอยู่เลยนี่นา ทำไมวันนี้ถึงใส่ล่ะ~"
"เพราะเป็นการพบปะครั้งแรกก็จำเป็นจะต้องใส่เพื่อไม่ให้พวกนายตกใจยังไงล่ะ.."อีเจเป็นคนตอบขณะที่ยังเอาตัวเองมาบังคุณไว้ กระทั่งเสียงของเจ้าบ้านบอกให้พวกคุณไปนั่งประจำที่ คาเงะคาโอะก็เพียงยักไหล่กระโดดกลับมานั่งที่ของตัวเอง แพทย์ประจำคฤหาสน์ค่อยๆหันมาถามว่าคุณโอเครึเปล่า แต่ดูจากท่าทีตื่นตูมและตัวสั่นเล็กๆนั้นแล้วคงไม่น่าจะโอเคเท่าไหร่ เขาจึงค่อยๆพยุงพาคุณไปนั่งที่...
แต่ที่นั่งของคุณข้างแซลลี่นั้น...ดันกลายเป็นว่าคุณนั่งฝั่งตรงข้ามกับ 'เขา' พอดีเป๊ะเลย
"ว้าว เธอช่าง...เหมือนนางฟ้าเลย เธอเป็นนางฟ้าที่ตกมาจากสวรรค์ใช่มั้ย"เสียงหวานมีเสน่ห์ของหญิงสาวผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น เมื่อคุณหันไปก็พบหญิงสาวประหลาดที่มีดวงตาสีดำกลวงโบ๋ แต่ว่า...คุณรู้สึกว่าพอมองดูดีๆแล้วกลับสวยงาม...คล้ายดวงดาวยามกลางคืนแปลกๆ
"คุณเอง...ก็มีดวงตาที่สวยงามมากเลยค่ะ"คุณเอ่ยชมอย่างเผลอตัว ซึ่งจัดส์แองเจิ้ลเมื่อได้ยินก็แทบยกมือปิดปาก
"ขอบคุณ นอกจากเฮเลนแล้วก็มีเธอที่ชอบดวงตาของฉัน"สาวผมบ๊อบบลอนด์เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดีใจ สเลนเดอร์แมนจึงเอ่ยแนะนำตัวคุณ
"นี่คือ[ชื่อคุณ] เธอเคยอาศัยอยู่ในอารามโบสถ์แห่งหนึ่งแล้วเกิดโศกนาฎกรรมเพราะบางสิ่งในตัวเธอ ส่วนเรื่องที่นายบอกว่าทำไมเธอถึงเปลือยกาย..."สเลนเดอร์เว้นวรรคหันมามองทางคุณเหมือนเชิงขออนุญาต คุณมองเขาเงียบๆก่อนจะพยักหน้าแล้วค่อยๆหันหลังถอดชุดส่วนบนออกแล้วปัดผมไปข้างหน้าโดยมีแขกอย่างพวกเขามองอย่างตกตะลึงและแทบจะตกใจเพราะคุณกำลังจะถอดเสื้อ...
แต่สิ่งที่เห็นกลับสร้างความประหลาดใจมากกว่า เพราะร่างกายของคุณ..ผิวเรียบเนียนอันงดงามดั่งไข่มุกบัดนี้มีรอยแผลกดทับที่เริ่มจะแดงมากขึ้น
"นี่มัน..."
"บาดแผลกดทับนี้มนุษย์ทั่วไปอาจจะต้องนั่งทับนานๆหรืออะไรบางอย่างที่นานเกินไปหรือมนุษย์บางคนอาจมีผิวหนังบาง ขาดการเคลื่อนไหว โรคเบาหวานหรือโรคที่เกี่ยวกับเส้นเลือด แต่สำหรับเธอแล้ว...การสวมเสื้อผ้าหรือเสื้อผ้าบางๆก่อให้เกิดแผลกดทับได้อย่างน่าประหลาด ทำให้เธอต้องอยู่ในสภาพที่ไร้เสื้อผ้าอาภรใดๆ.."อีเจผู้เป็นหมอตอบคำถามข้อสงสัย
"และเพราะแบบนั้นทุกๆช่วงเย็นฉันจะต้องมาตรวจดูอาการและทำแผลให้เสมอเผื่อเวลาที่เธอออกมาข้างนอกหรือตรวจหาสาเหตุ แต่มีเงื่อนไขว่าทุกๆคนในคฤหาสน์นี้ต้องสลับกันเปลี่ยนเวรมาหาเธอ หรือหลีกเลี่ยงการพบปะบ่อยๆ"
"เพราะอะไรกัน..?"คราวนี้เป็นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเป็น...วิญญาณ? หรือผี?
"อ่า~ แต่ฉันพอรู้นะ~"เสียงของคาเงะคาโอะเอ่ยขึ้น และไม่รู้เมื่อไหร่กันที่เขามาอยู่ตรงหน้าคุณอีกครั้ง คราวนี้เล่นเอาคุณต้องสะดุ้งโหยงจนแมสกี้กับเจฟฟ์ต้องผุดลุกขึ้น(ผมนี่ลุกขึ้นเลย--) คุณถูกอีกฝ่ายจับคางสบตา ตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันมาก
"kekeke เจ้าซัคคิวบัสตัวน้อย~"
*ปั้ก!*
ร่างสูงกระโดดตีลังกาหลบคมมีดที่ถูกปามาโดยฆาตกรต่อเนื่องที่แสนโด่งดังที่สุดนั่นคือ เจฟฟ์เดอะคิลเลอร์
"อะไรกันเจ้าปากฉีกเพื่อนยาก ฉันก็แค่หยอกเล่นนิดๆหน่อยๆเอง~"
"หยุดเลยไอ้แมวผีหน้าหลอน! ครั้งที่แล้วพวกฉันสู้กับไอ้โรคจิตแDกผู้หญิงไป ฉันยังไม่อยากออกแรงนะเว้ย!!"
คาเงะคาโอะเพียงยักไหล่ตอบแลดูไม่แยแสก่อนจะยอมกลับมานั่งที่ของมันโดยที่คุณได้แต่หน้าซีด ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้เจฟฟ์เพื่อขอบคุณเขา แต่เขาก็นั่งลงทำเสียงเหอะหะแบบนั้น
"ก็ตามนั้นแหล่ะนะ...เพราะฉะนั้นพวกนายเองก็อย่าได้พบเธอบ่อยๆ ให้สลับกัน...โดยเฉพาะนาย..คาเงะคาโอะ นายห้ามทำอะไรเธอเป็นอันขาด"
"ว้าๆ~ เจ้าบ้านหวงล่ะ~"
ท่าทางขี้เล่นดูไม่ใส่ใจแบบนั้นมันชวนให้คุณรู้สึกหวาดระแวงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เพราะโดยธรรมชาติและนิสัยของเขานั้น...เป็นพวกอันตรายที่ชอบเล่นเกมสร้างความเจ็บปวดที่แสนยาวนานแล้วยังเป็นพวกที่โหดร้ายมากพอสมควรอีกด้วย..เหยื่อที่คาเงะคาโอะฆ่าล้วนแล้วแต่เขาทำไปเพราะความบันเทิง..
ตอนนี้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว เทรนเดอร์ยกอาหารมาเสริฟเตรียมพร้อมสำหรับทุกคนรวมถึงแขกด้วย อาหารมื้อนี้เป็นสตูเนื้อ ขนมปัง สลัดมันฝรั่ง เป็นอาหารที่น่าทานมากๆ แต่ว่า...ยามอยู่ต่อหน้า...ปีศาจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมันทำให้คุณเริ่มหวาดระแวง...
และมันก็เกิดขึ้น...เมื่อคุณตักสตูเนื้อมากินแล้วดันพบ....สิ่งที่เหมือนไม่ใช่เนื้อ...แต่เป็น...
' ลูกตามนุษย์ '
คุณหน้าซีดแทบร้องเฮือกด้วยความตกใจปนหวาดกลัว เมื่อมองสลัดก็จะเห็นเครื่องในมนุษย์อย่างเช่นนิ้วราวๆ 3 ชิ้น คุณยิ่งหน้าซีดตัวสั่นเล็กๆอย่างหวาดกลัว
"อาหารเย็นอร่อยจังน้าา เป็นอะไรไปล่ะซัคคิวบัสตัวน้อย~"คุณไม่กล้าเงยหน้าสบตาคนตรงหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะกินมันลง คุณเกือบจะอาเจียนกับภาพตรงหน้านี้ นี่มัน...บ้า...บ้ามากๆ
"คุณ[ชื่อคุณ] เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ"เทรนเดอร์สังเกตเห็นคุณก็เกิดความเป็นห่วง จึงเดินเข้ามาดูแล้วเห็นบางสิ่งอยู่ในนั้น
"คุณคาเงะคาโอะ...แกล้งเธอแรงไปนะครับ"
"ฉันเปล่าน้า~ แต่....เธอดูน่ารักดีตอน 'กลัว' น่ะ~"ยิ่งได้ยิน...ยิ่งสบตา...คุณก็ยิ่งหวาดกลัว แม้น้ำเสียงจะติดเล่นแต่กลับน่ากลัวและอันตรายสำหรับคุณ ใช่...คุณกลัวชายคนนี้
และขอร้อง...ใครก็ได้ช่วยคุณที
"เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนใหม่ให้นะครับ" ร่างสูงโปร่งถอนหายใจก่อนจะนำจานอาหารทั้งสองไปเก็บล้างในครัวแล้วกลับมาพร้อมกับอาหารมือใหม่แล้ววางตรงหน้าคุณ "อย่าแกล้งคุณ[ชื่อคุณ]อีกนะครับ" แต่คาเงะคาโอะก็ยังยักไหล่จนเขาต้องส่ายหน้า คุณสวดมนต์ขอบคุณพระเจ้าอีกครั้งแล้วกินมัน คราวนี้คุณจะต้องรีบกินก่อนจะโดนอีกฝ่ายเอาเนื้อคนมาใส่อีก!
ช่วงหลังดินเนอร์ แซลลี่ชวนคุณมาที่ห้องนั่งเล่นด้วยกัน คุณก็อยากไปนะ แถมจัดส์แองเจิ้ลเองก็ดูจะสนใจคุณมากๆถึงขั้นตามติดคุณแน่ะ เพราะเหมือนเธอจะเริ่มมองสำรวจคุณทุกอย่างเลย(?)
"นางฟ้า ฉันไม่เคยเห็นนางฟ้าตัวเป็นๆแบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลย นี่ๆฉันจัดส์แองเจิ้ล เรียกแองเจิ้ลก็ได้นะ"
"อ-อื้ม ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณแองเจิ้ล"
"ส่วนนี่เฮเลน พวกเราเป็นเพื่อนและคู่หูกันน่ะ แล้วก็อีกคนน่ะคือเซดี้"จัดส์แองเจิ้ลกล่าวแนะนำตนเองแล้วชี้ไปทางชายอีกคนที่นั่งข้างๆเธออยู่และหญิงสาวที่เหมือนเป็นวิญญาณศพ คุณยิ้มแล้วพยักหน้าทักทายทั้งสองคน แต่แล้วคุณมองชายคนนั้น...เหมือนว่า..เขากำลังวาดรูปอยู่และมีบางครั้งที่จ้องมองคุณบ้าง
"สิ่งที่เขากำลังทำอยู่มันเรียกว่าวาดรูปหรอ??"
"อื้ม นางฟ้าไม่รู้หรอ?"
"อ-อืม ที่โบสถ์ฉันกับเพื่อนไม่ค่อยวาดรูปน่ะ พอมาอยู่นี่ก็เลยได้รู้อะไรเกี่ยวกับการเรียนบ้าง"
"อย่างงี้นี่เอง นี่ๆเฮเลน นายลองโชว์ภาพวาดของนายให้เธอดูหน่อยสิ"หญิงสาวหันมาพูดกับเพื่อนสนิท เฮเลนเงยหน้าผละสายตาจากกระดาษ
เขามองคุณสักพัก จึงยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้คุณ คุณจึงขออนุญาตเขาเสียงแผ่วแล้วรับมาดู
"ว้าว....สุดยอดเลย"ภาพวาดของเขาใช้สีที่คุณไม่รู้และไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นภาพวาดเกี่ยวกับดวงดาวบ้าง ภาพวาดของบุคคลที่อยู่ในโลกแห่งจินตนาการและความฝัน แม้กระทั่งภาพวาดเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆที่คุณเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะอยู่แต่ในอาราม คุณรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็น
"คุณวาดเองทั้งหมดเลยหรอคะ?"คุณถาม และเขาพยักหน้าเงียบๆ คุณบอกเขาว่าคุณชอบภาพวาดของเขามากๆ มีภาพที่คุณไม่เคยเห็นหลายๆอย่างจนน่าประหลาดใจและน่าตื่นเต้นบวกกับคุณไม่เคยเห็นสีในการใช้วาดระบายแบบนี้มาก่อนด้วย เฮเลนเพียงขอบคุณเบาๆ คุณคิดว่า..เขาอาจจะรู้สึกดีก็ได้ที่ได้รับคำชมถึงจะไม่รู้ภายใต้หน้ากากก็ตาม
"สอนฉันวาดรูปบ้างได้รึเปล่าคะ เอ่อ...ถ้ามันไม่เป็นการรบกวน"เฮเลนมองคุณสักพักจึงพยักหน้าแทนคำตอบ คุณยิ้มร่าด้วยความดีใจแล้วจ้องมองภาพวาดเหล่านั้นอย่างสนอกสนใจและชื่นชม
"กำลังดูอะไรกันอยู่หรอ~ ขอดูด้วยคนสิ~ =D"
เฮือก!! ร่างของคุณคล้ายจะตัวแข็งค้างไปพลันร่างกายที่เย็นวาบกับหัวใจที่แทบจะหยุดเต้นเมื่อสัมผัสได้ถึงเสียงที่คุ้นหูเอ่ยข้างๆหูของคุณกับลมหายใจที่ลดต้นคอ ร่างของคุณคล้ายกับกำลังถูกแช่แข็งจนขยับไม่ได้ จัดส์แองเจิ้ลจึงเป็นคนที่เข้ามาดึงคุณไปหลบด้านหลังของเธอพร้อมยกดาบขึ้นจ่อหน้าเจ้าปีศาจญี่ปุ่น "หยุดนะ! นายกำลังทำให้มายแองเจิลกลัว!" "ว้าา แย่จังเลยนะ~ ฉันก็แค่อยากมีส่วนร่วมด้วยเท่านั้นเอง~~"
"แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เคะๆๆ"
เสียงหัวเราะอันน่าขนลุกดังขึ้นจนคุณตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว เขาเป็นพวกโหดร้ายซาดิสต์ถึงขนาดชอบทำให้คนหวาดกลัวขนาดนี้เชียวเหรอ? คุณคิดว่าเขาเป็นบุคคลที่ไม่ควรเข้าใกล้แปลกๆ
"หยุดแกล้งนางฟ้าสักทีเถอะ! ถ้านายทำอะไรเธอฉันไม่ยอมแน่!"
"แองเจิ้ล ใจเย็นๆ"
"แองเจิ้ล ใจเย็นๆ"
"จะให้ใจเย็นได้ไงเล่า ดูสิ นางฟ้าของฉันกลัวแล้วเนี่ยเห็นมั้ยเฮเลน!"เธอพูดพลางหันมากอดคุณด้วยความเป็นห่วง ดูสิ คุณตัวสั่นขนาดนี้จะไม่ให้เธอเป็นห่วงได้ยังไง
"อุ้ย ฉันทำเธอกลัวหรอเนี่ย~ ごめんなさい(Sorry)น้า~ เห็นแบบนี้เธอ 'น่ารัก' ดี"แล้วทำไมต้องมาน่ารักตอนกลัวด้วยเล่า!! อีทางนั้นก็จะแกล้ง อีทางนี้ก็เริ่มขู่ฟ่อๆใส่เจ้ปีศาจร้ายนั่นละ แล้วคนที่เข้ามาห้ามเหตุการณ์ก็คือแซลลี่น้อย เพราะเธอมาขอให้เฮเลนช่วยสอนวาดรูปแล้วยังชวนคาเงะคาโอะกับจัดส์แองเจิ้ลมาเล่นด้วยกันอีก ทำให้บรรยากาศมาคุได้หายไป
ต้องขอบคุณแซลลี่อ่ะนะที่ช่วยกำจัดบรรยากาศอันตรายนี่ออกไป
แต่การพบเจอกับคาเงะคาโอะคงได้เป็นฝันร้ายของคุณไปอีกนาน
ในปาร์ตี้น้ำชาของแซลลี่ คุณก็ยังคงนั่งข้างเธอเหมือนเช่นเคยโดยมีแขกที่เรารู้กันดีร่วมวงด้วย ทว่า...ในช่วงงานเลี้ยงน้ำชาก็มักมีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องมองคุณแทบตลอดจนทำคุณรู้สึกอึดอัด
"พี่แองเจิ้ล พี่เซดี้จะรับชาเพิ่มมั้ยคะ"
"ได้สิ นางฟ้าล่ะจะรับเพิ่มมั้ย"
"อ-อื้มเอาสิ"
ปาร์ตี้น้ำชาที่ไม่มีอะไรมากนอกจากจิบชาคุยกัน เติมน้ำชา กินขนม การสนทนาของแต่ละคนก็เหมือนเป็นเรื่องทั่วๆไป อาจเพราะแซลลี่เป็นเด็กคนอื่นจึงไม่ค่อยพูดเรื่องฆาตกรรมให้ได้ยินเท่าไหร่ คุณรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย แองเจิ้ลเองก็จะมีการถามเรื่องส่วนตัวของคุณแบบเล็กๆน้อยๆ พยายามไม่ทำให้คุณอึดอัด คุณเองก็ตอบเธอ แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ เซดี้เองก็เป็นคนเงียบๆ มีพูดคุยบ้างแต่...คุณก็อยากทำความรู้จักและช่วยให้เธอรู้สึกดีเพราะว่าใบหน้าของวิญญาณสาวมักปรากฎในรูปแบบเศร้าหมอง คุณเลยอยากช่วยให้เธอผ่อนคลาย
ส่วนเฮเลนนั้น....คุณเห็นว่าเขาเอาแต่นั่งฟังพวกคุณกับแซลลี่คุยกันพลางมีการจิบชากินขนมบ้างเล็กน้อย คุณจึงเห็นเพียงปากของเขาเท่านั้น
แต่คาเงะคาโอะน่ะสิ คุณสงสัยว่าเขากินดื่มยังไง เพราะไม่เคยเห็นตอนอีกฝ่ายเปิดหน้ากากเท่าไหร่สักเสี้ยววิ
"อยากเห็นหน้าฉันเหรอสาวน้อย~"
"อะ ป-เปล่าค่ะ"คุณสะดุ้งเบาเมื่อถูกอีกฝ่ายเหมือนจับไต๋ได้ แม้คุณจะสงสัยอยากรู้อยากเห็นแค่ไหนก็กลัวจะโดนจับฉีกปากเสียก่อน เสียงหัวเราะของเขาดังขึ้นอีกครั้งและเสียงหัวเราะนี่มันทำคุณหลอนหูขึ้นมาด้วยความกลัวแปลกๆ
ทว่าเมื่อคุณจะยกชาขึ้นดื่มก็เป็นอันต้องเบิกตากว้างกรี๊ดลั่นด้วยความตกใจถึงขนาดทำถ้วยชาตกพื้นพลางยกมือปิดปากด้วยความช็อกปนตกใจสุดขีด แซลลี่ถามด้วยความกังวลและเป็นห่วงคุณมากๆ แองเจิ้ลกับเฮเลนสังเกตเห็นว่าในชามันมีเส้นผม...กับฟันของมนุษย์และลูกตาอยู่ในนั้นตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบ
"เกิดอะไรขึ้นหรอคะพี่[ชื่อคุณ]---"
"แซลลี่ ไม่มีอะไรหรอก แค่คาเงะคาโอะมันไปแกล้งนางฟ้าอีกแล้วน่ะ"จัดส์แองเจิ้ลเร่งพยายามหันเหความสนใจไม่ให้แซลลี่เห็นชาบนพื้นที่มีเครื่องในมนุษย์บางส่วนอยู่ก่อนจะก้มลงไปเก็บทันที "นี่นายรังแกคุณนางฟ้าอีกแล้วหรอ"
"เปล่านะ แค่แกล้งเล็กๆน้อยๆเอง~ เคะๆๆๆ"
คำว่าเล็กน้อยของแกมันไม่เคยมีจริง!! จัดส์แองเจิ้ลจ้องเขม็งก่อนจะหันมาขอโทษแซลลี่แทนคาเงะคาโอะที่ทำให้งานปาร์ตี้น้ำชาครั้งนี้ไม่สนุก แซลลี่ก็เพียงทำปากแก้มพองเพราะชายหนุ่มดันแกล้งคุณขณะงานเลี้ยงน้ำชาจนได้
"คาเงะคาโอะ คุณนี่ชอบแกล้งเธอจัง"เซดี้ถอนหายใจกับนิสัยของเขาที่ชอบกลั่นแกล้งรังแกคนอื่น ตอนทำกับเหยื่ออีกฝ่ายก็ปั่นหัวจนมนุษย์หลายรายแทบเป็นบ้า คาเงะคาโอะก็เพียงหัวเราะเป็นคำตอบว่าเขาสนุกกับการแกล้งคุณ 'มากๆ' ....
ถ้าเขาขี้แกล้งแบบนี้...แล้วตอนกลางคืนคุณจะหลับลงมั้ย!?
งานเลี้ยงน้ำชาจบลง ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง จัดส์แองเจิ้ลดูอยากอยู่กับคุณต่อมากๆ แต่เพราะมีภารกิจที่ต้องทำนั่นคือการ 'พิพากษาคนผิด' เธอเลยฝากเซดี้ดูแลแทนแล้วยังสัญญากับคุณอีกว่าจะกลับมาให้เร็วที่สุดให้จงได้...
คุณเร่งออกมาจากจุดนั้น...ออกมาให้ห่างจากปีศาจนั่น เพราะขืนอยู่ต่อคุณได้ประสาทหลอนแน่
"ไม่เป็นไรนะคะคุณ[ชื่อคุณ] คาเงะคาโอะมักจะชอบกลั่นแกล้งมนุษย์แบบนี้แหล่ะค่ะ แต่เขาทำอะไรคุณไม่ได้หรอกค่ะ"เซดี้คล้ายพยายามปลอบคุณ คุณส่งยิ้มบอกขอบคุณเธอแล้วบอกว่าตอนนี้คุณไม่เป็นไรแล้ว ดังนั้นคุณกับเซดี้จึงเดินไปที่ห้องด้วยกัน ไม่สิ เธอพาคุณมาส่งมากกว่า ระหว่างนั้นก็มีการคุยกัน
"คุณกับเขาสนิทกันงั้นเหรอคะ?"คุณถาม
"อืม ก็สนิทกันนะคะ เราเคยพบเจอกันมาก่อน เขาเป็นคนที่มีนิสัยออกจะแปลกๆหน่อย ขี้เล่น ขี้แกล้ง บางครั้งเขาก็ทำอะไรที่นอกเหนือไปบ้าง เป็นคนที่ออกแนวไฮเปอร์ไม่ค่อยอยู่กับที่เท่าไหร่ค่ะแต่โดยรวมแล้วเขาเองก็มีด้านดีๆอยู่นะคะ"เซดี้เอ่ยถึงเรื่องของคาเงะคาโอะให้ฟัง คุณถามเธออีกเกี่ยวกับจัดส์แองเจิ้ลและเฮเลนว่าสนิทกันรึเปล่า
"ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันหรอกค่ะ เราอยู่คนละที่กันด้วย"
"อย่างงี้เองงั้นเหรอคะ"
"แล้วคุณล่ะคะคุณ[ชื่อคุณ] คุณอยู่ที่นี่แล้วเป็นยังไงบ้างหรอคะ เอ่อ...ฉันหมายถึง สนิทกับใครบ้างรึเปล่า"คล้ายหญิงสาวจะอายเล็กน้อยคุณบอกเธอไปว่าคุณค่อนข้างสนิทกับฮู้ดดี้พอสมควรแล้วบอกว่าฮู้ดดี้ค่อนข้างดูขี้อายแปลกๆดี แล้วยังสนิทกับแซลลี่มากด้วยเพราะเธอมักจะมาเยี่ยมที่ห้องบ่อยๆ ส่วนอีเจเป็นหมอที่คอยมาตรวจอาการให้คุณ แม้จะไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากแต่ก็สนิทระดับนึงเล็กน้อย ส่วนสเลนเดอร์แมนก็เป็นคนที่ช่วยเหลือคุณจากเหตุการณ์โศกนาฎกรรมครั้งนั้น
เซดี้คอยเป็นผู้ฟังให้คุณ เธอยิ้มยามที่คุณเล่าเรื่องของคนในคฤหาสน์สเลนเดอร์ แต่พอเป็นเรื่องพี่น้องครอบครัวของสเลนเดอร์แมน คุณก็ไม่อยากพูดถึงออฟเฟนเดอร์แมนเท่าไหร่เลยไม่พูดถึงเขานัก
"อะ เรามาถึงงแล้วล่ะ คุณเซดี้อยากจะเข้าไปด้วยกันรึเปล่าคะ?"พูดคุยกันเพลิน รู้ตัวอีกทีก็มาถึงห้องของตัวคุณเองแล้วหรอเนี่ย เซดี้บอกว่ามันก็ดี เธอจึงตามคุณเข้ามาในห้องด้วย
ทั้งคุณกับเซดี้ต่างก็เริ่มพูดคุยเล่าเรื่องราวในชีวิต คุณมักจะเล่าชีวิตที่อาศัยอยู่ในอารามโบสถ์ แน่นอนว่าคุณไม่ได้เรียนหนังสือแบบคนภายนอก พอมาอยู่ที่นี่ก็เหมือนได้เปิดหูเปิดตาเลย ส่วนเซดี้เธอเล่าว่าเธอเคยอาศัยอยู่กับครอบครัวแบบสามคนพ่อแม่ลูก แต่เมื่อแม่เสียด้วยโรคมะเร็งพ่อของเธอก็เปลี่ยนไป...
ตัวของเซดี้ถูกผู้เป็นพ่อทำร้ายยามเมื่อเขาเมาจนยิ่งทำให้เธอเป็นโรคซึมเศร้ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม คุณรู้สึกหดหู่ใจกับชีวิต เหตุใดถึงได้ทำกับมนุษย์ผู้บริสุทธิ์เช่นนี้ แถมคนที่ทำยังเป็นพ่อแท้ๆอีก คุณเอ่ยปลอบเธอ ยื่นมือมากุมมือหญิงสาวแล้วบอกว่าตอนนี้ทุกอย่างจะต้องไม่เป็นไร มันจะต้องดีขึ้นเพราะเซดี้ยังมีแซลลี่และก็คุณด้วย
เธอยิ้มให้คุณ เป็นรอยยิ้มที่ดูผ่อนคลายและโล่งอกมากๆ พอเห็นแบบนี้วแล้วก็พลอยทำให้คุณรู้สึกดีด้วย
กว่าจะรู้ตัวก็ถึงเวลามื้อเที่ยงแล้ว นี่พวกคุณคุยกันเพลินเหรอเนี่ย
"คุณโทบี้"
"มื้---อ ท-ท-เที่ยงน่ะ"คนที่นำอาอาหารมาให้ครั้งนี้เป็นโทบี้งั้นเหรอ คุณยิ้มให้พลางกล่าวขอบคุณแล้วรับมา ใบหน้าของเขาคล้ายจะจับจ้องภายในห้องของคุณว่ามีใครอยู่
"เอ่อ...มีอะไรรึเปล่าคะ?"
"อยู่ด้วยกั---น ม-มากี่ชั่วโมง?"
"เรา....ตั้งแต่ช่วงสายจนถึงเที่ยง"คุณตอบเสียงแผ่ว แต่กระนั้นเหมือนว่าอีกฝ่ายก็คงได้ยิน ท่าทีของโทบี้เริ่มแปลกไปคล้ายตัวเริ่มกระตุกแรงเล็กน้อย ไหนจะกลิ่นอายความรู้สึกราวกับว่าบรรยากาศมันเริ่มอันตราย...
"เซดี้...อ--ออกไปได้--ล-ล-แล้ว"น้ำเสียงของโทบี้เข้มมากขึ้นแม้จะตะกุกตะกักเสียงบ้าง เซดี้ดูนิ่งและตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลาวอำลาคุณแล้วเดินลอยทะลุกำแพงออกไปจนเหลือเพียงคุณกับเขา
"ม--มาสเตอร์บอกว่า ห-ห้ามอยู่กันนานเกิน--ม-ไม่ใช่เหรอ"
"ร-เราคุยกันเพลินไปหน่อย ฉ-ฉันขอโทษ ข-ขอโท----"
"เงียบ"
น้ำเสียงที่แข็งกระด้างและน่ากลัวเอ่ยออกมาจนคุณสะดุ้งตัวสั่นน้อยๆราวกับว่าลมหายใจได้ถูกตัดขาดหายไป ท่าทีของโทบี้มันเริ่มน่ากลัวมากขึ้นและคล้ายจะพยายามควบคุมอารมณ์บางอย่างเมื่อเห็นเขายกมือกุมศีรษะทั้งสองข้าง ความรู้สึกของคุณในตอนนี้มันทั้งสับสน หวาดกลัวแต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับอาการของเขาด้วยในเวลาเดียวกัน คุณจะยื่นมือไปหาเขาเพื่อถามไถ่อาการ
"โอ้ย!"
แต่ก็ถูกมือหนาจับกระชากข้อมือเข้าไปหาอย่างแรงจนคุณร้องด้วยความเจ็บ ดวงตาสีม่วงสบกับแว่นสีส้มหนา แม้จะไม่เห็นสีตา แต่คุณก็ยังพอเห็นผ่านแว่นได้บ้าง ตอนนี้เขาดูน่ากลัวกว่าปกติมาก
"ค-ค-คราวหลัง ห-ห้ามอยู่กับใครก็ตามน--นา--น อีก!"มือหนาเริ่มกำข้อมือคุณแน่นขึ้นจนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บและร้องเบาๆ
"อ-อื้ม ข-เข้าใจแล้ว ฉ-ฉันจะไม่ลืมอีก ฉ-ฉันเจ็บคุณโทบี้"
คุณยกมือข้างที่ว่างไม่ได้ถูกกุมจับมือข้างที่กำข้อมือคุณแน่นของเขาด้วยความเจ็บ คุณพยายามบอกเขาว่าครั้งต่อไปคุณจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีก ไม่นานเขาถึงยอมปล่อยมือจากคุณ
คุณและโทบี้ต่างเงียบกันอยู่นาน มือบางกอบกุมข้อมือตนเองแล้วลูบเบาๆด้วยความเจ็บราวกระดูกข้างในเกือบแหลก อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรแต่เดินออกไปทั้งแบบนั้น คุณถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วเดินกลับไปนั่งที่เตียง
เพียงไม่นาน โทบี้ก็กลับมาพร้อมกับถุงประคบเย็น เขาจับมือข้างที่ถูกอีกฝ่ายกำแน่นมาประคบด้วยความเย็น มัน...จี๊ดเลยแฮะ แต่ดีตรงที่เขาทำอย่างเบามือที่สุด
"ด-ดี ข-ข-ขึ้นมั้ย"
"อื้ม..ดีขึ้นมากเลย ขอบคุณ..."โทบี้ยังคงเงียบก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ข-ขอโทษนะ.."
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจคุณดีว่าคุณแค่เป็นห่วง"คุณกล่าวแล้วยิ้มบางๆให้ อีกฝ่ายจ้องมองคุณนิ่งๆเงียบๆ คอยช่วยประคบเย็นรอบๆข้อมือของคุณอยู่แบบนั้นจนกว่าจะแน่ใจว่ามันทุเลาลงแล้ว...
บางที...เขาอาจแค่เป็นห่วงคุณมากเกินไปเลยเผลอทำรุนแรง คุณคิดอย่างงั้น..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น