Larisa
นี่เป็นเรื่องราวของผมที่อยากจะเล่าให้พวกคุณฟัง เป็นเรื่องเมื่อ 5 ปีก่อนหลังจากที่ผมได้ชวนเพื่อนสนิทของผมไปเที่ยวที่อเมริกาด้วยกัน
มันเป็นสิ่งที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกอย่างไร แต่ผมก็เสียใจมากๆที่ไม่สามารถช่วยเธอได้
หากพวกคุณอยากจะรู้ งั้นผมจะเล่าให้ฟังเพราะผมเองก็ไม่สามารถระบายหรือบอกใครได้เลย…
และผมเชื่อว่าหากผมได้เขียนสิ่งนี้ให้คิดซะว่าผมก็แค่จินตนาการ
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน
สวัสดี ผมชื่อ ‘เคน แอนเดอร์สัน’ ผมเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกา แต่ผมเกิดในอเมริกาเพราะฉะนั้นพวกคุณคงไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเรื่องภาษาไทยของผมมันเป็นยังไง
ผมได้ย้ายมาเรียนที่ประเทศไทยเมื่อตอนเข้า Grade 10 หรือถ้าในประเทศไทยเขาเรียก ม.4(มัธยมศึกษาตอนปลาย) ตอนนั้นผมเป็นเด็กคนเดียวที่เป็นคนต่างแดน และผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจในภาษาไทยที่พวกเขาสื่อสารกันนัก ผมได้แต่พูดภาษาอังกฤษเพราะว่าสำเนียงอังกฤษกับอเมริกันนั้นค่อนข้างแตกต่างกันนิดหน่อยแม้จะเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม ผมจึงใช้เป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้พวกเขาเข้าใจง่าย
ผมเข้าเรียนสายภาษา แต่เป็นศิลป์-ฝรั่งเศส เพราะว่าที่ประเทศไทยนั้นหลักๆแล้วพวกม.ปลายสายศิลป์ภาษาเขาจะมีภาษาหลักๆ 3 ภาษาให้เลือกนั่นคือจีน ญี่ปุ่นและฝรั่งเศส ผมสนใจในฝรั่งเศสเพราะครั้งนึงผมเองก็อยากลองไปเที่ยวดูสักครั้งเหมือนกัน
จนกระทั่งผมได้สนิทกับผู้หญิงคนนึง เธอเป็นเด็กสายเดียวกับผม เธอชื่อ ‘ลลิสา’ หรือ ‘ลิสา’ เธอเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก แต่พอเธอเห็นว่าผมเป็นเด็กใหม่และผมก็เป็นคนต่างแดนเธอก็เลยเอ่ยปากพูดคุยทำความรู้จักกับผม เธอเป็นคนแรกที่ทักผมและคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรงเรียนแห่งนี้ในประเทศไทย ซึ่งผมยอมรับเลยว่าที่นี่แตกต่างจากประเทศบ้านเกิดผมมากๆ ทั้งวัฒนธรรมก็เป็นแบบเสรี ความเชื่อ ไปจนถึงความแตกต่างของแต่ละบุคคลที่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนพวกเขาต่างก็สนิทกันได้
บางครั้งผมเองก็แอบรู้สึกไม่โอเคเวลาถูกหยอกล้อ แต่ก็มีลลิสาคอยให้กำลังใจและให้คำแนะนำเสมอว่ามันคือเรื่องปกติ หยอกได้แต่อย่ามากเกินไป บางคนไม่รู้ว่าการพูดคำนั้นคือการเหยียดก็มีการขอโทษ ผมคงต้องใช้เวลากว่าจะปรับตัวกับที่นี่ได้เลยล่ะ ผมละยอมใจคนไทยจริงๆที่ไม่ว่าจะโดนด่าขนาดไหนก็ยังทำให้กลายเป็นเรื่องตลกได้ ถ้าเป็นคนอื่นหรือประเทศผมล่ะก็…คงได้มีเรื่องกันแน่ๆ
“เคน…เมื่อคืนฉันฝันแปลกๆว่ะ”ช่วงเวลาพักเที่ยงผมกับลิสาได้ไปซื้อของกินเล่นเพราะช่วงพักกลางวันคนในโณงอาหารค่อนข้างเยอะ แถมลิสาก็ไม่ชอบในที่ๆคนเยอะด้วยพวกเราเลยต้องซื้อของมากินที่ใต้อาคารเฉลิมราชแทน
“เธอฝันอะไรหรอลิสา?”ผมที่ยังพูดภาษาไทยไม่ค่อยคล่องมากนักก็เลยยังคงพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันนิดหน่อย ซึ่งลิสาเองก็ไม่ได้ว่าอะไรผมที่ผมยังพูดไทยไม่ได้ เพราะว่าผ่านมาตั้ง 2-3 เดือนจะให้ผมเรียนรู้เร็วขนาดนั้นก็ยังไงอยู่ ผมเองก็ไม่ได้เรียนรู้เร็วขนาดนั้นด้วย ภาษาไทยของประเทศนี้ผมยอมรับเลยว่ามันยากจริงๆ
ว่าแต่..ลิสาฝันอะไร?
“ฉันฝันว่าได้ยินเสียงแปลกๆ เป็นเสียงของปีศาจที่ทุ้มโทนใหญ่ ในฝัน..พื้นที่รอบๆมันเต็มไปด้วยความมืด เพียงแค่ฉันหันไปด้านหลังตามเสียงฉันก็ดันมาอยู่ในป่าแล้วว่ะ”เธอพูด ซึ่งผมเองก็สงสัย
“แล้วเป็นยังไงต่อล่ะ?”
"คือ…มันน่ากลัวมาก แถมมันสมจริงมากๆจนฉันแยกไม่ออกเลย ฉันฝ