ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yandere Creepypasta x Reader] Love Succubus ซัคคิวบัสในร่างมนุษย์ [18+]

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 6 : Dangerous guest TW: Blood

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 65


    Chapter 6 : Dangerous gueat





           ในรุ่งอรุณที่แสนสดใสและเงียบสงบ แสงแดดอันอบอุ่นต้อนรับวันใหม่ เป็นวันที่คุณได้นอนหลับเต็มอิ่ม ไม่ได้รู้สึกนอนหลับสบายแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ หรือว่าที่ผ่านมาคุณนอนไม่สบายเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนั้นกันแน่นะ นี่ก็ผ่านมาราวๆสองเดือนกว่าแล้ว สเปรนเดอร์แมนกลับไป แต่กว่าจะลาก(?)ออฟเฟนเดอร์กลับไปด้วยกันได้นั้นก็ใช้เวลานานพอสมควรเลยเพราะเขาดูหมกมุ่นกับคุณมากแล้วยังพยายามอยู่ต่ออีกด้วยจนต้องใช้วิธีฝ่ามืออรหันต์(?)เข้าให้ถึงจะสลบ

           เขาทำให้คุณกังวลและหวาดระแวงหน่อยๆ แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว

           *ก๊อก ก๊อก ก๊อก*
           *แอ๊ด~*

           "อรุณสวัสดิ์ครับคุณ[ชื่อคุณ]"
           "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเทรนเดอร์"
           ทั้งคุณและเทรนเดอร์แมนต่างก็สนิทสนมกันมาก แต่เขาก็ยังคงพยายามรักษาระยะห่างไว้ให้คุณโดยรวมเขาเป็นผู้ชายที่ใส่ใจดีนะ แถมยังสอนหนังสือต่างๆให้คุณ น่าเสียดายที่อยู่ด้วยกันนานไม่ได้เลยให้คนอื่นมาทำแทนอย่างเช่นคุณหมออีเจ

           จะว่าไปแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นคุณแทบไม่ได้คุยกับเขาอีกเลยนอกจากมาตรวจอาการบาดแผลแล้วกลับไป แซลลี่บอกคุณว่าอีเจมักจะชอบหมกตัวอยู่แต่ในห้อง อ่านหนังสือตำรับตำรา ศึกษาค้นคว้าสิ่งต่างๆหาความรู้เข้าตัว คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าโลกภายนอกมีวิชาการเรียนที่น่าสนใจนอกจากการท่องบทสวด คัมภีร์ไบเบิ้ล คัมภีร์เกี่ยวกับพระเจ้าจนเพียงคุณได้ฟังก็รู้สึกสนใจมันขึ้นมา

           พอคุณขอสเลนเดอร์แมนว่าอยากจะลองทำดู ทีแรกเขาก็เหมือนจะไม่อนุญาตเพราะมันจะมีปัญหาตรงที่ว่าทุกคนไม่สามารถเข้าใกล้คุณนานได้ ถึงกระนั้นคุณก็ไม่อยากยอมแพ้จึงพยายามขอร้องเขาอยู่นานพอสมควรสเลนเดอร์จึงยอม แต่มีเงื่อนไขว่าทุกครั้งที่เรียนถ้านานเกินสองชั่วโมงคุณจะต้องดึงสติคนที่สอนด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่สามารถทนได้นาน มีแค่แมสกี้กับเบนเท่านั้นที่เป็นข้อต้องห้ามมิให้อยู่ใกล้คุณเด็ดขาด พอจะถามว่าทำไมเขาก็ไม่ให้คำตอบนอกจากบอกให้คุณกลับไป

           แต่คุณก็ไม่นึกขุ่นเคืองใจในสิ่งที่สเลนเดอร์ทำหรอก เพราะคุณรู้และเข้าใจดีว่าคนที่อยู่กับคุณนั้นจะมีอารมณ์ความรู้สึกลุ่มหลงมากเกินไปแล้วจะเป็นอันตรานต่อตัวคุณเองด้วย

           "อาหารเช้าวันนี้เป็นเบลกฟรัส ผมหวังว่าคุณจะชอบนะครับ"เทรนเดอร์วางถาดอาหารเช้าบนโต๊ะรองจานบนเตียงให้ มันมีทั้งไข่ดาว 2ชิ้น ขนมปังปิ้ง 2แผ่น เบค่อน 2ชิ้น และไส้กรอก 2ชิ้น รวมถึงมีสลัดผักกับนมและน้ำส้มด้วย เป็นอาหารเช้าที่แปลกตาดีเพราะถ้าเป็นตอนอยู่ในอารามก็จะมีขนมปังหรือพวกถั่วหรือผักบางชนิด ซึ่งการจะได้ทานเนื้อก็เป็นในวันขอบคุณพระเจ้าหรือวันสำคัญเท่านั้น
           "มันน่าอร่อยมากเลยค่ะคุณเทรนเดอร์"คุณตอบแล้วหยิบขนมปังขึ้นมาทาน ไม่ว่าเมนูไหนชายร่างสูงก็ทำออกมาอร่อยทั้งหมดเลย
           "วันนี้เป็นยังไงบ้าง คุณรู้สึกร่างกายเป็นยังไง? นอนหลับสบายรึเปล่า"
           "สบายมากค่ะ ส่วนร่างกายฉันยังไม่มีหวังเลยว่าจะได้กลับมาเป็นคนปกติมั้ย แต่โดยรวมก็ปกติทุกอย่าง"
           "อย่างงั้นเหรอ น่าเสียดายเหมือนกันนะ แต่ผมเชื่อว่าสักวันจะต้องมีหวังแน่ๆ"เทรนเดอร์มักจะคอยปลอบใจและให้กำลังใจคุณเสมอ และมันทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจมากๆ จนพอทานเสร็จเขาก็เป็นคนเก็บจานแล้วบอกว่าแซลลี่จะมาหาคุณ...

           *ก๊อก ก๊อก ก๊อก*

           "พี่[ชื่อคุณ]!"
           "แซลลี่"
           ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แซลลี่มักจะมาเยี่ยมเยียนคุณบ่อยๆหรือบางทีก็มานอนด้วยกันกับคุณเลยไม่รู้สึกเหงาและไร้ความกังวลใดๆ บางครั้งแซลลี่มักจะเตรียมพวกตุ๊กตาหรือพวกโต๊ะน้ำชามาเล่นด้วย ในบางครั้งก็จะพาใครก็ตามที่ว่างงานมาร่วมเล่นเป็นเพื่อนอย่างเช่นเจฟฟ์ ฮู้ดดี้ ทีแรกเด็กคนนี้อยากชวนเบนมาด้วยแต่โดนพ่อบุญธรรมห้ามไว้ก่อน

           ใครมันจะยอมให้ไอ้โรคจิตนี่มาอยู่กับคุณด้วยล่ะ เดี๋ยวแม่มมันก็พาซวยจับคุณกินตับพอดี

           จะว่าไปแล้วคุณเองก็ไม่ค่อยสนิทกับเบนมากเท่าไหร่นัก ส่วนแมสกี้คุณก็เคยเห็นพบปะเจอเขาโดยบังเอิญแต่ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่หรือไม่ก็พบกันในห้องทานอาหาร นอกเหนือจากนั้นก็ไม่เคยเจอกันแล้วก็ไม่ค่อยได้คุยกันด้วย
           "แซลลี่ เบนกับแมสกี้เป็นคนยังไงหรอ?"คุณถาม
           "พี่แมสกี้กับพี่เบนงั้นหรอ? อืมม ถ้าเป็นพี่เบนล่ะก็เขาเหมือนเป็นพี่ชายคนที่ 3 ของแซลลี่เลยล่ะ ทั้งแซลลี่กับพี่เบนมักชอบดูการ์ตูนด้วยกัน เล่นเกมไม่ก็คุยเล่นกัน แต่ถ้าเรื่องนิสัยล่ะก็ อืมม เป็นคนที่ขี้แกล้งมากๆเลย เขาชอบเล่นวิดีโอเกมเป็นชีวิต อะ แต่ถึงพี่เขาจะขี้แกล้งแต่จริงๆก็ใจดีแล้วก็ๆ เราเป็นคู่หูดูโอแกล้งพี่เจฟฟ์ด้วยถึงขั้นเคยจับพี่เจฟฟ์แต่งชุดหญิงล่ะ!"
           พอได้ยินแล้วนึกจินตนาการเจฟฟ์แต่งหญิงก็อดขำเบาๆไม่ได้ มันไม่น่าเข้ากับเขาเลยจริงๆ แถมผมอีกฝ่ายก็ยาวพอดีด้วยไม่แปลกจะโดนจับแต่งหญิง อืมม อยากเห็นแปลกๆแฮะ(?)
           "แล้วแมสกี้ล่ะ?"คุณถาม แต่ครั้งนี้ดูคล้ายแซลลี่จะ...ตอบยากนิดนึงนะ
           "พี่แมสกี้เขาเป็นคนที่ค่อนข้างใจร้อนไปสักหน่อย แต่พี่แมสกี้ก็ลึกๆเป็นคนที่ใจดีนะคะ บางครั้งเขาก็มีดื้อ(?)กับปะป๊าบ้าง ปากไม่ดีบ้าง"คำตอบนั้นถ้าเป็นจริงล่ะก็...คุณอาจได้เห็นฉากตะลุมตุมบอลแปลกๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะแอบมีความวุ่นวายแม้จะเล็กน้อยก็ตาม
           "เสียดายที่ชวนพี่เบนมาไม่ได้ ปะป๊าห้ามไม่ให้พี่เบนมาเจอพี่สาวด้วย"
           "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแซลลี่ บางทีปะป๊าอาจมีเหตุผลก็ได้ ไว้ถ้ามีโอกาสค่อยพาเขามาแนะนำก็ได้นะ"
           "อืมมม นั่นสิ ไว้มีโอกาสเดี๋ยวแซลลี่จะพาพี่เบนมาหานะ!"
           คุณยิ้มให้ ยังไงเด็กก็คือเด็กอ่ะนะ คงจะอยากชวนคนอื่นๆมาแนะนำให้คุณรู้จักตามประสาคนที่อยากแนะนำเพื่อนใหม่ให้รู้จัก คุณนั่งคุยกับเด็กหญิงวัย 8-9 ขวบในหลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องบุคคลบ้าง การละเล่นบ้าง ภายในคฤหาสน์บางส่วนบ้างหรือแม้แต่เรื่องอาหารแสนอร่อยที่เทรนเดอร์กับสเลนเดอร์แมนทำบ้าง ไหนจะเรื่องสเปลนเดอร์แมนที่เป็นเหมือนลุงของเธอที่มักจะกลับมาพร้อมของฝากให้บ่อยๆ แต่เรื่องลุงออฟเฟนเดอร์นั้น...

           แซลลี่คงกลัวว่าถ้าเอ่ยถึงบุคคลนี้จะทำให้คุณกลัวแล้วไม่สบายใจ เป็นเด็กดีจริงๆเลยนะ

           "แล้วออฟเฟนเดอร์ล่ะ"เพื่อให้เด็กน้อยข้างๆรู้สึกว่าตนสบายดี คุณจึงถามออกไปโดยบ่งบอกว่าคุณไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นอีกแล้ว แซลลี่ดูลังเลแต่สุดท้ายพอเห็นว่าคุณไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวก็สบายใจ "ลุงออฟเฟนเป็นคนที่ไม่ค่อยมาคฤหาสน์สักเท่าไหร่ค่ะ เห็นพี่เจฟฟ์กับพี่เบนเคยพูดว่าออกไปหาสาวๆ"

           เอ่อ....เอิ่ม....มันคือคำพูดแบบไหนเนี่ย? มันคือคำพูดที่คุยกับเด็กรึเปล่าหว่า?

           "เอ่อ ฮะๆ..แล้วแซลลี่ชอบอะไรรึเปล่าจ้ะนอกเหนือจากการเล่นพวกปาร์ตี้น้ำชาหรือพวกตุ๊กตาน่ะจ้ะ"คุณเปลี่ยนเรื่องทันที กลัวว่ามันจะ...ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน(?)
           "แซลลี่ชอบพวกลูกอมกับขนมหวาน! ชอบการแต่งตัวหรือพวกแต่งหน้า แซลลี่ชอบสีชมพู ชอบเล่นเกม ชอบนมช็อกโกแลต แล้วๆๆก็ชอบพวกดูหนังสยองขวัญด้วยย"หืม? หนังสยองขวัญหรอ? มันคืออะไรน่ะ คุณไม่รู้จักและก็ไม่เคยดูด้วยแฮะ คุณถามแซลลี่ว่าหนังสยองขวัญมันคืออะไร
           "ไว้เดี๋ยวแซลลี่จะเปิดให้ดูนะคะ แต่ต้องเป็นตอนกลางคืนเท่านั้นนะ! ถ้าดูตอนกลางคืนจะได้อารมณ์มากกว่าเยอะเลย"สงสัยจะเป็นหนังผีสินะ เอ่อ แฮะๆ คุณพูดไม่ออกเลยแต่ก็เพียงตอบรับเด็กหญิงข้างๆเท่านั้น

           คุยไปคุยมานี่ก็เย็นแล้ว แซลลี่จึงชวนคุณไปกินมื้อเย็นด้วยกันเหมือนเช่นปกติ แม้เด็กหญิงจะแอบเสียดายที่ไม่สามารถจับคุณแต่งตัวสวยๆได้ก็ตามเถอะ คุณบอกกับแซลลี่ว่าไว้ถ้ามีโอกาสก็จะให้แต่งตัวสวยๆเลย

           "พี่โทบี้!"เสียงเล็กแหลมเอ่ยทักพี่ชายอีกคนในคฤหาสน์สเลนเดอร์ พร็อกซี่หนุ่มผู้สวมแมสปิดปากกับแว่นสีส้มคุ้นเคย คุณไม่ค่อยได้พบหรือพูดคยกับเขาตั้งแต่ช่วงพบกันแรกๆนานแล้ว จะพบกันก็ช่วงดินเนอร์เท่านั้นไม่ต่างจากคนอื่นๆบางคนเลย แต่คุณก็ไม่ค่อยมองหรือว่าได้พูดคุยกับเขาเท่าไหร่
           "เอ่อ สวัสดีค่ะคุณโทบี้"คุณทักทายเขา และเขาก็เพียงจ้องมองคุณสักพักก็พยักหน้าให้ช้าๆ
           "มาพาพี่[ชื่อคุณ]ไปกินข้าวเย็นสินะคะ ดีเลย! งั้นไปด้วยกัน 3 คนนี่เลย!"
           เด็กหญิงพูดจบ ก็เข้ามาจับจูงมือทั้งคุณกับโทบี้แล้วกึ่งลากกึ่งจูงไปด้วยกันจนคุณเกือบล้มแน่ะ "ซ-ซ-แซลลี่ ย-อย่า อย่าวิ่งสิ" โทบี้เอ่ยเตือนเสียงตะกุกตะกักเหมือนเช่นทุกที คุณพอจะรู้ว่าที่โทบี้พูดเสียงแบบนี้ก็เพราะมีปัญหาด้านเสียง


           เป็นช่วงเวลาที่แสนธรรมดาแต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ตกเย็นคุณก็ได้ดูหนังสยองที่แซลลี่พูดถึง มันเป็นหนังฆาตกรรมที่...

           กระทั่งวันหนึ่ง...ตกดึกคุณได้ออกไปเดินเล่นข้างนอกเพราะความนอนไม่ค่อยจะหลับคุจึงคิดว่าจะลองเดินเล่นรอบๆสวนภายในคฤหาสน์นี้สักหน่อย คฤหาสน์สเลนเดอร์มันมีสวนหลายแห่ง มีทั้งน้ำตก หุบเขา สวนดอกไม้และอีกมากมายเสมือนเป็นอีกแผ่นดินหนึ่งแห่งความลับที่มนุษย์เข้ามาไม่ได้ง่ายๆ เสียงหิ่งห้อยยามกลางคืนนั้นฟังแล้วเพลินแปลกๆ เพราะมันให้ความรู้สึกเงียบสงบ

           คุณเดินชมนกชมไม้แล้วก็สำรวจดูดอกไม้รอบๆด้วยความเพลิดเพลิน คุณเริ่มรู้สึกแปลกๆเหมือนมีคนจ้องมองแปลกๆ แต่พอลองเงยหน้ามองดูรอบๆก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลย

           *แซ่ก แซ่ก*

           คุณได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากอีกทาง คุณนิ่งชะงักเล็กน้อยจ้องมองดูสักพักจึงค่อยๆลองเดินไปตามเสียงดู...

           คุณเดินไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...และเรื่อยๆ..จนคุณได้กลิ่นคาวบางอย่างก็เริ่มฉงนใจ พอจะเดินต่อไปอีกครั้งเป็นอันต้องหยุดชะงักยกมือปิดปากตนเองแน่นพร้อมดวงตาที่เบิกกว้าง...

           เศษซากอวัยวะที่กระจัดกระจายไปรอบๆพื้นที่ในป่า คราบเลือดที่อยู่ตามหญ้าและต้นไม้ ทั้งศีรษะที่ถูกตัดออกแล้วนำมาปักเสียบไม้ตั้งอยู่บนพื้นอย่างน่าสยดสยอง ซากศพที่ถูกควักไส้ หรือมีรอยแผลคล้ายถูกสัตว์ฟันหรือกัด หรือบางศพก็ถูกตัดชิ้นส่วนเป็นชิ้นๆ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วพื้นที่จนคุณแทบจะอาเจียนออกมา ไหนจะ...ภาพบุคคลหนึ่งที่ยืนอยู่ท่ามกลางร่างไร้วิญญาณมากมายนั่น...

           คุณจะค่อยๆก้าวถอยหลังเพื่อหนี แต่เท้าบางก็ดันไปเหยียบกับกิ่งไม้บางอย่างจนเกิดเสียงดังกร๊อบ! คุณสะดุ้งเฮือกพร้อมกับศีรษะของคนๆนั้นหันมาทางคุณพอดี..

           ใบหน้าที่สวมหน้ากากสองสี...กับรอยยิ้มที่จะบอกว่าเป็นมิตรก็ไม่เป็นมิตร ดวงตาที่จ้องมองมามันช่างน่ากลัวเหลือเกินแม้ต่อให้จะไม่รู้ภายใต้หน้ากากว่าเขาแสดงอารมณ์แบบไหนก็ตาม แต่สำหรับคุณแล้วแค่เห็นก็รู้สึกไม่เป็นมิตรเสียแล้ว
           "KEKEKEKEKEKE"
           เสียงหัวเราะอันน่าสยดสยองดังบริเวณพื้นที่รอบๆชวนให้คุณหวาดผวา สัญชาตญาณมันบอกให้คุณรีบวิ่ง วิ่งและวิ่ง คุณก้าวถอยแล้วหันหลังวิ่งทันที

           *ฟึ่บ!*

           โดยไม่ทันตั้งตัว มันพุ่งกระโดดมาอยู่ตรงหน้าของคุณ คุณแทบกรี๊ดแต่ก็เลือกที่จะวิ่งไปอีกทางเพราะเขาดักคุณไม่ให้หนีไปที่คฤหาสน์สเลนเดอร์...

           คุณวิ่ง วิ่ง วิ่ง วิ่ง และวิ่ง วิ่งไปเรื่อยๆโดยหวังว่าจะหนีจากเขาได้พ้น คุณพยายามอย่างมากเพื่อจะหยิบจับสิ่งรอบๆกายมาขว้างปาใส่เพื่อถ่วงเวลา มันก็ยังคงหลบและไล่ตามคุณติดๆอย่างไม่ลดละ บ้างก็กระโดดขึ้นต้นไม้ตามคุณมา มันทำให้คุณนึกถึงหนังสยองที่เพิ่งดูกับแซลลี่ไปเมื่อไม่นานมานี้เลย ไม่นึกว่าจะมาเจอของจริง!

           *ฟึ่บ! แอ๊ดด!!*

           "อ-อร๊าย!"ต้นไม้ล้มลงต่อหน้าขวางเส้นทางในการหนี คุณเลือกไปอีกทางแต่ก็ยังมีต้นไม้มาขวางกั้นคุณจึงกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางแล้วออกตัววิ่งอีกครั้ง

           "遊びたいか?(Do you want to play?)"

           ภาษาที่คุณไม่ค่อยเข้าใจมาจากปีศาจตนนั้น คุณไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร แต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ คุณจะต้องรีบไปที่คฤหาสน์ให้เร็วที่สุด!

           *ฟ้าวว!!*

           "ว้าย!"ต้นไม้ทุกต้นที่อยู่รอบๆตัวคุณล้มลงขวางเส้นทางการหลบหนีทุกทิศทางราวปิดตาย คุณหยุดวิ่งยกมือปิดปากด้วยความตกใจและหวาดกลัว หันไปข้างหลังก็พบกับเจ้าสิ่งมีชีวิตสวมหน้ากากยิ้มประหลาดที่ยืนอยู่ห่างจากคุณไม่มาก เข่าทั้งสองทรุดลงฮวบกับพื้นเขยิบหนีถอยห่างจากเขาทุกย่างก้าวที่อีกฝ่ายค่อยๆเดินเข้ามา

           แต่คุณก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลยเพราะกลัวเกินกว่าจะพูด ร่างของชายลึกลับเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคุณที่ตัวสั่นราวลูกนก จะเขยิบถอยหนีก็ไม่ได้แล้ว เพราะแผ่นหลังของคุณชิดกับลำต้นของมัน

           ร่างของชายลึกลับค่อยๆนั่งยองๆมองคุณ ดวงตาสีม่วงสบกับดวงตากลวงโบ๋ชวนน่าขนลุกจนรู้สึกคล้ายแทบจะถูกสูบวิญญาณ คุณหันหน้าหลบมันหลับตาแน่น จนคุณเกือบร้องเมื่อมือหน้าจับคางของคุณให้หันมา
           "KEKEKEKE"
           เสียงหัวเราะประหลาดดังเป็นระยะ กรงเล็บที่นิ้วโป้งมันทั้งแหลมคมและค่อยๆงอกออกมาจนมันปาดกรีดแก้มของคุณช้าๆ ร่างน้อยๆของคุณสะดุ้งเล็กๆด้วยความเจ็บ..มันเจ็บแบบแสบมากดั่งคมมีดที่กรีดร่างของคุณไปทั่ว เลือดสีแดงดั่งโกเมนค่อยๆไหลออกมาช้าๆ เขาบังคับให้คุณหันสบตากับเขาอีกครั้ง...

           "ปล่อยเธอซะ"

           เสียงทุ้มเรียบนิ่งเย็นชาเอ่ยหยุดการกระทำของชายลึกลับเพื่อไม่ให้ทำอะไรคุณไปมากกว่านี้ ชายสวมหน้ากากสองสีหันไปมงแล้วพบกับเขา...ชายสวมหน้ากากสีน้ำเงิน...อีเจ

           "ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสำคัญของสเลนเดอร์แมน นายไม่สามารถทำอะไรเธอได้..."น้ำเสียงของเขาแม้จะราบเรียบ แต่กลับแฝงไปด้วยความเย็นชาและแข็งกระด้าง ชายลึกลับคนนั้นมองอีเจสักพักค่อยๆหันกลับมามองคุณแล้วยอมผละมือปล่อยคุณไป

           "またね (See you again)"

           ก่อนที่ร่างนั้นจะกระโดดหายไปในความมืดมิด ทิ้งให้คุณยังคงนั่งนิ่งค้างตัวสั่นอย่างหวาดกลัวแบบนั้น
           "ลุกไหวมั้ย..?"
           เสียงของอีเจเรียกสติให้คุณหลุดจากความคิด คุณเงยหน้ามองมือหนาสีเทาที่ยื่นมาเพื่อช่วยพยุงคุณ คุณส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปจับแล้วค่อยๆลุกขึ้น "เธออกมาทำอะไรกลางดึกแบบนี้.." คุณตอบเขาว่าคุณแค่ออกมาเดินเล่นเพราะนอนไม่หลับแล้วตอนนั้นได้ยินเสียงแปลกๆก็เลยเดินไป คุณเพียงหวังแค่ว่ามันอาจจะมีสัตว์แถวนี้ก็ได้
           "ในเขตของสเลนเดอร์แมนมันไม่มีพวกสัตว์อะไรแบบที่เธอคิดนอกจากสิ่งอันตราย คราวหน้าเธอก็ระวังด้วยหรืออย่าออกมาจะดีที่สุด.."น้ำเสียงของเขาทั้งจริงจังและน่ากลัวแปลกๆจนคุณไม่เคยเห็น
           "อ-อื้ม เข้าใจแล้ว...ขอโทษนะ"คุณขอโทษเขาด้วยความรู้สึกผิด อีเจถอนหายใจเบาๆ
           "เธอยังไร้เดียงสาเรื่องโลกภายนอก[ชื่อคุณ]"
           พูดจบ อีเจจึงอุ้มคุณขึ้นในท่าเจ้าสาวจนคุณตกใจ เขาบอกว่าจะพาคุณกลับคฤหาสน์แล้วจะทำแผลให้...

           คุณกลับมาที่ห้อง โดยที่อีเจหยิบกล่องปฐมพยาบาลแบบพกพาออกจากกระเป๋าแล้วตรวจดูทั่วร่างกายว่าคุณมีบาดแผลตรงจุดไหนบ้าง เขามีถามว่าที่เท้าของคุณไปโดนอะไรมา ซึ่งมันเหมือนจะมีแผลคล้ายถูกกิ่งไม้ตำ คุณบอกเขาไปว่าน่าจะตอนนั้นคุณกำลังจะแอบย่องหนีแล้วเผลอไปเหยียบกิ่งไม้เข้า
           "เดินเท้าเปล่า..ไหนจะออกไปในสภาพไร้เสื้อผ้าแบบนั้นถ้าคนอื่นคงจับเธอข่มขืนไปแล้ว"
           "ต-ตอนนั้นฉันสวมผ้าคลุมแล้วนะ แต่มันเกิดเหตุการณ์นั้นก็เลย...ฉันขอโทษ"
           อีเจเงียบ ไม่ได้พูดอะไรนอกจากไปเอาน้ำใส่อ่างเล็กเพื่อนำมาล้างเท้าทำความสะอาดบาดแผลแล้วใช้ยาฆ่าเชื้อเพื่อทำแผลให้กับคุณทั้งเท้าและแก้มที่โดนกรีดนั้นด้วย..
           "เธอนอนพักเถอะ ดึกมากแล้ว...และอย่าออกไปข้างนอกอีก"ขณะที่เขากำลังจะเดินออกไป มือของคุณก็เร่งจับแขนของเขารั้งไว้ อีเจค่อยๆหันมามองคุณจนคุณเพิ่งนึกได้ว่าไม่ควรขออะไรแบบนั้นจึงค่อยๆปล่อยมือแล้วกล่าวขอโทษ
           "ฉ...ฉันขอโทษ"คุณขอโทษเขาอีกครั้ง เขายังคงเงียบ
           "...ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนกับเธอจนกว่าจะหลับก็ได้..เธอเพิ่งเจอสถานการณ์เฉียดตายมานี่.."
           "ข-ขอบคุณ"
           เขาเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างเตียงคุณ คุณมองหน้าเขาสักพักก่อนจะค่อยๆเอนตัวนอนลงโดยที่อีเจเป็นคนห่มผ้าให้กับคุณ คุณขอบคุณเขาอีกครั้งและครั้งนี้เขาพยักหน้า

           และคืนนั้น...คุณก็ได้เข้าสู่ห้วงนิทรา อาจเพราะความอ่อนเพลียจากการวิ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย...

           ชายหนุ่มมองคุณจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าคุณหลับไปแล้ว มือหนาค่อยๆยื่นมาลูบแก้มข้างที่มีแผลเบาๆและช้าๆเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคุณ..สักพักค่อยๆเดินออกจากห้องไปหลังเช็คว่าทุกอย่างไม่มีอะไรและปลอดภัยดี..





           ในช่วงเช้าของอีกวัน คุณมองไปรอบๆแล้วไม่เห็นอีเจอยู่ตรงนั้นอีกเลย เขาทำตามที่พูดคือจะอยู่จนกว่าคุณจะหลับ แต่พอมีคนเคาะประตูเข้ามาก็พบกับเจฟฟ์
           "แก้มเธอไปโดนไรมาน่ะ?"
           "เอ่อ...เกิดเหตุนิดหน่อยในตอนที่ฉันออกไปเดินเล่นข้างนอกน่ะ"
           "นี่เธอไปเจออะไรมา?"
           "เรื่องนั้น..."แต่เมื่อคุณนึกถึงเหตุการณ์นั้นก็ทำคุณเริ่มหน้าซีดปิดหน้าตัวเองแล้วบอกเจฟฟ์ว่าคุณยังไม่พร้อมและไม่อยากจะนึกถึงเหตุการณ์นั้นตอนนี้ เจฟฟ์สงสัยแต่ก็ไม่อาจเซ้าซี้คุณได้นอกจากต้องปล่อยให้คุณทำใจและพักผ่อนก่อน ชายปากฉีกบอกคุณว่าอาหารเช้าเขาวางไว้บนโต๊ะ ให้คุณรีบกินเพราะเดี๋ยวช่วงเที่ยงแมสกี้กับฮู้ดดี้จะมาหาคุณต่อ เพราะต้องสลับกันมาน่ะนะ...

           คุณไม่ตอบแต่พยักหน้าแล้วนั่งกินอาหารเช้า แต่ก็กินไม่ค่อยลงเท่าไหร่แฮะทว่าคุณก็ต้องกินมัน...

           และเมื่อถึงช่วงเที่ยง...แมสกี้ก็เข้ามาพร้อมกับฮู้ดดี้
           "หน้าเธอไปโดนอะไรมา?"ฮู้ดดี้เป็นคนถาม กระทั่งแมสกี้เดินเข้ามาใกล้คุณแล้วจับคางให้หันมาสบตากับดวงตาสีดำของหน้ากากจนคุณสะดุ้ง
           "บอกมา ใครทำ"
           "แมสกี้ ใจเย็นๆ นายกำลังทำเธอตกใจ"ฮู้ดดี้เข้ามาห้ามปรามเพื่อนและคู่หูคนสนิทแล้วจับแขนของเขาให้ออกห่างจากคุณเล็กน้อย
           "ฉัน....ไม่อยากพูดถึงมัน ขอโทษนะ มันเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืน"คุณยกมือกุมปิดหน้าตนเอง พอจะนึกถึงเหตุการณ์นั้นทีไรเป็นต้องทำคุณขวัญเสียทุกครั้ง ฮู้ดดี้บอกว่าเขาจะไม่บังคับคุณให้ตอบแล้วบอกว่าตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรแล้ว มันพอจะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายลงบ้าง...

           ทุกคนที่นี่...ใจดีจัง แต่บางทีก็น่ากลัวไปนะ..

           .......

           .....

           ...

           .


           ช่วงมื้ออาหารเย็นก็เหมือนปกติทุกทีนั่นแหล่ะ ถ้ามีคุณมาก็ต้องจัดดินเนอร์ใต้แสงเทียนทุกครั้งไป หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ เทรนเดอร์ก็เข้ามาเก็บจานไปล้างเช่นปกติ กระทั่งสเลนเดอร์แมนเอ่ยขึ้น "พรุ่งนี้จะมีแขกมาเยือน เธอก็อยู่แต่ในห้องไปก่อนนะ[ชื่อคุณ]" "แขก....งั้นเหรอคะ" ดูเหมือนว่าครั้งนี้แขกจะพอๆกับออฟเฟนเดอร์แมนสินะ
           "อะไรนะ อีกแล้วงั้นเหรอ!? คราวนี้เป็นใครอีกล่ะ!"เจฟฟ์โพล่งขึ้น
           "โทบี้ ฉันขอฝากพวกนายเฝ้าดู[ชื่อคุณ]ด้วยล่ะ เธอก็ด้วยคล็อกเวิร์ค"
           "ครับ / ค่ะ"
           "เฮ้ๆๆๆไอ้โย่ง นายบอกฉันมาก่อนสิว่าคราวนี้เป็นใครมาอีกล่ะ ไม่ใช่ไอ้เสือผู้หญิงนั่นใช่มั้ย"สเลนเดอร์แมนถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วตอบกลับ "คาเงะคาโอะจะมาที่นี่ พร้อมกับเฮเลน เซดี้และจัดส์แองเจิ้ล" "ห๊ะ!? ไอ้ไวน์วิปริตนั่นน่ะนะ!"
           ณ จุดๆนี้คุณเริ่มเอ๋อบ้าใบ้กินไปแล้ว คราวนี้เป็นใครคุณก็ไม่รู้จักหรอกนะ แต่เหมือนว่าคนที่นี่จะมีแต่ฆาตกรดังนั้นแขกที่จะมาก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกัน แล้วไหนจะท่าทีของเจฟฟ์หลังได้ยินว่ามีแขกที่เขาไม่อยากเจอด้วยแบบนี้...คุณได้แต่ภาวนาว่าจะไม่ทำให้ชีวิตคุณอายุสั้นเกินไปก็พอ
           "แล้วจะไม่บอกพวกนั้นหน่อยหรอมาสเตอร์ ถึงต่อให้จะเก็บซ่อนเธอไว้ยังไงพวกนั้นก็อาจรู้อยู่ดี"เบนที่ยังคงนั่งเล่นเกมมือถือต่อไปเอ่ยขึ้น เล่นไปฟังไปคุยไปงี้ก็ได้เหรอ(?)
           "ฉันจะบอกพวกเขาเองในภายหลัง แต่เราจำเป็นต้องซ่อนเธอไว้ก่อนเพราะครั้งนี้มีคาเงะคาโอะกับพัพเพ็ตเทียร์ด้วย"
           คุณอยากจะบอกคำนี้เหลือเกินว่า....


           ความสงบของฉันอยู่ที่ไหน(?)


           แต่มาอยู่ในดงฆาตกรแบบนี้...เพิ่งนึกได้ว่ามันแทบจะหาความสงบไม่ได้ถ้าหากไม่ทำความสนิทหรือว่าเอาตัวรอด แล้วคุณจะรอดยังไงในเมื่อคุณก็ยังถูกห้ามขนาดนี้


           โอ๊ยย ชีวิต พระผู้เป็นเจ้า โปรดบอกลูกทีว่าลูกทำเวรทำกรรมอะไรมาถึงได้มีชีวิตรันทดในชาตินี้


           คุณถูกพาส่งกลับมาที่ห้องโดยโทบี้เป็นคนพามาส่ง ส่วนแซลลี่ก็ขอมานอนด้วยกันกับคุณ คุณหันมาขอบคุณที่เขาพามาส่งอีกครั้ง "เอ่อคุณโทบี้...ขออนุญาตินะคะ" คุณเอ่ยอย่างระมัดระวังเล็กน้อยก่อนจะหยิบผ้ามาเช็ดที่หน้ากากของเขาอีกครั้งโดยที่เขายืนนิ่งมองคุณอยู่
           "ตัวคุณเปื้อนอีกแล้ว ข-ขอตัวก่อนนะคะ"
           "...ขะ...ขอบคุณ..."
           คุณกล่าวอำลาเขาอีกครั้งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องโดยไม่ลืมปิดประตู ในช่วงที่ประตูกำลังปิดนั้น คุณเห็นโทบี้ยังคงยืนจ้องมองคุณจนลับสายตา....
           "พี่[ชื่อคุณ]! มาอาบน้ำกัน!"
           เสียงเรียกของแซลลี่เอ่ยชักชวนให้คุณมาอาบน้ำด้วยกัน ทุกครั้งที่มานอนค้างด้วยกันเด็กน้อยก็มักจะขอคุณมาอาบด้วย คุณยิ้มตอบรับแล้วเดินตามเข้าห้องน้ำไปกับแซลลี่ด้วย...





           อ่า...ในที่สุด วันนี้ก็มาถึงจนได้

           เพราะเป็นวันที่แขกกำลังจะมาที่นี่

           คุณอยู่ในห้องพร้อมกับมีคล็อกเวิร์คที่อยู่เป็นเพื่อนกับคุณ แมสกี้กับฮู้ดดี้มีภารกิจจึงอยู่เฝ้าระวังไม่ได้เลยให้เป็นหน้าที่ของโทบี้กับคล็อกเวิร์ค แต่ต้องเป็นการอยู่เฝ้าแบบผลัดกัน ซึ่งจะมีคนออกไปอยู่ที่นอกระเบียงห้องแต่ก็ต้องไม่ให้เป็นจุดสังเกต แซลลี่ก็ออกไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อทำให้ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ

           คุณได้แต่ภาวนาสวดมนต์อ้อนวอนว่าขออย่าให้มันเกิดขึ้นแบบซ้ำๆ...



           "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ..พวกนาย"เจ้าของคฤหาสน์สเลนเดอร์ออกมาต้อนรับแขกที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะคนพวกนี้ไม่ค่อยอยู่ในคฤหาสน์เนื่องจากบางคนก็มีที่พักอาศัยเป็นหลักของตัวเองหรือเพราะชอบออกไปเที่ยวไล่ล่ามนุษย์บ่อยๆอย่างเช่น...

           เจ้าหน้ากากสองหน้า

           "ฉันดีใจที่ได้พบนายนะ~ สเลนดี้~"ชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากสองสีสองหน้า(?)ขาวสลับดำกับฮู้ดสีดำและผ้าพันคอลายทางสีขาวดำ ท่าทางแค่นี้บอกเลยว่าบ่น่าไว้ใจ(?) แน่นอนว่าเขาก็คือ 'คาเงะคาโอะ(Kagekao)' ฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนบ่อยที่สุด ส่วนคนอื่นก็พยักหน้าไม่ก็ทักทายตอบเจ้าบ้านก่อนที่จะพาพวกเขาไปที่ห้องรับแขกเพื่อพูดคุยกันตามประสา...

           "พวกนายจะมาค้างที่นี่งั้นเหรอ.."เสียงเจ้าบ้านเอ่ยขึ้นหลังจากพูดคุยกันจนได้รู้ว่าคนพวกนี้จะมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว ส่วนเหตุผลนั้น...บางคนก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศหรือไม่ก็อยากมาเยี่ยมเยียนหรือบางที...ก็เพื่อหลบสายตาพวกมนุษย์
           "ก็นะ บางทีเบื่อๆก็อยากมาเยี่ยมบ้างแหล่ะ~"คาเงะคาโอะกล่าวอย่างขี้เล่นเหมือนเช่นที่เขาทำ
           "ส่วนฉันกับเฮเลนก็จำเป็นจะต้องหลบสายตาพวกมนุษย์ไม่ให้ถูกสงสัยด้วยค่ะคุณสเลนเดอร์แมน"หญิงสาวผมบลอนด์ทองตัดซอยสั้นกับดวงตาสีดำทั้งกลวงกับชุดสีขาว ในมือของเธอถือดาบคู่กายประจำตัวของเธอ

           'Judge Angel' คือชื่อของเธอที่เป็นอยู่ตอนนี้

           ส่วนคนที่อยู่ข้างๆหญิงสาวนั้น เป็นชายหนุ่มสวมหน้ากากที่มีปากรูปยิ้มสีแดงคล้ายคนเอามาปาดจนน้ำสีแดงไหลหยดบางส่วน ผมสีดำขลับ สวมเสื้อสีน้ำเงินที่มีเข็มกลัดติดอยู่ตรงอกซ้ายสีเหลืองรูปยิ้ม กางเกงขายาวสีดำให้อารมณ์คล้ายๆจิตกรลึกลับปริศนาแต่แฝงไปด้วยความไม่เป็นมิตรบางอย่าง

           เขาก็คือ 'Bloody Painter' หรือ 'เฮเลน' ฆาตกรสายจิตกรที่ใช้เลือดในการละเลงบนกระดาษเพื่อสร้างสรรค์ผลงาน แต่บางครั้งเขาก็อาจไม่ใช้เลือดในการสร้างผลงานก็ได้

           อีกคนเป็นหญิงสาวที่...มีร่างกายที่คล้ายกับวิญญาณ สภาพมีบาดแผลที่น่ากลัวไม่ว่าจะรอยกรีดทั้งแขนและขา ศีรษะที่เห็นสมองข้างในและดวงตาข้างซ้ายที่กลวงโบ๋คล้ายถูกควัก 'Suicide Sadie' วิญญาณสาวที่ฆ่าตัวตายเพราะพ่อของเธอ ส่วนนึงก็เพราะแม่ของเซดี้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง พ่อของเซดี้เป็นคนดีมากทว่าหลังจากเสียภรรยาไปเขากลับดื่มเหล้าหนักแล้วยังทำร้ายร่างกายของเซดี้อีก นั่นจึงทำให้เธอซึมเศร้าแล้วฆ่าตัวตายแล้วก็ฆ่าพ่อของตนเองให้เหมือนฆ่าตัวตายจริงๆ...

           เหล่าพาสต้าแต่ละคนล้วนแต่เคยพบเจอเหตุการณ์อันเลวร้ายก่อนจะกลายเป็นฆาตกร แต่บางคนก็ไม่เปิดเผยข้อมูลหรืออาจจะบ้าเองก็ได้ เช่นเดียวกับคนในคฤหาสน์ของสเลนเดอร์แมนเองโดยส่วนใหญ่พบเหตุการณ์ที่สภาพแวดล้อมย่ำแย่ทั้งนั้น..

           "ฉันจะให้พวกเธออยู่ด้วย แต่มีเงื่อนไขในการมาพักที่นี่"
           "หมายความว่ายังไงเหรอคะคุณสเลนเดอร์?"
           "เพราะเรามีคนพิเศษที่อาศัยอยู่ที่นี่ยังไงล่ะ"
           "โอ้วว คนพิเศษหรอ ถ้าอย่างงั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหานี่นา~"แต่ไอ้คำว่าไม่มีปัญหาของแกมันไม่น่าไว้วางใจยังไงล่ะเจ้าบ้า สเลนเดอร์แมนส่ายหน้าคล้ายระอาเล็กน้อย "พวกนายทำอะไรเธอไม่ได้อยู่แล้วล่ะ ไว้ช่วงดินเนอร์พวกนายจะรู้เอง" แม้จะสงสัยแค่ไหนก็คงไม่มีใครเซ้าซี้ถาม...เว้นเสียแต่เจ้าคนไม่อยู่กับที่อย่างคาเงะคาโอะนี่แหล่ะที่คาดเดาอารมณ์ยากหน่อย...
           "เอาล่ะ ฉันได้เตรียมห้องของพวกเธอไว้แล้ว พวกเธอเดินทางมาเหนื่อยๆก็พักผ่อนตามอัธยาศัยเถอะ"สิ้นเสียงของนายเหนือหัวของคฤหาสน์เขาก็ได้บอกให้แขกคนอื่นๆกลับไปพักผ่อน ส่วนตัวเขาก็กลับไปที่ห้องทำงานเช่นเคย...


           โดยที่มีชายในชุดฮู้ดสีดำที่นั่งไขว้ขา...ภายใต้หน้ากากของเขาที่ไม่อาจรับรู้อารมณ์ความรู้สึกได้ แต่ก็อาจจะมีอะไรแอบแฝงก็เป็นได้...





           คุณยังคงอยู่ในห้อง คุณอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่ทำไม่ได้เพราะแขกยังอยู่ บวกกับมีโทบี้และคล็อกเวิร์คคอยเฝ้าคุณอยู่ เหมือนคุณจะเห็นโทบี้ออกไปพูดคุยกับเทรนเดอร์ที่มาอยู่หน้าห้อง เขาบอกว่าช่วงมื้อเย็นจะให้คุณไปที่ห้องอาหารเช่นปกติเพราะเหมือนสเลนเดอร์น่าจะพูดคุยบอกแขกไว้แล้วเกี่ยวกับตัวคุณ แต่การมาพบปะครั้งแรกอย่างไรก็ต้องสวมเสื้อผ้า ไม่งั้นได้แตกตื่นเพราะคุณออกมาในสภาพล่อนจ้อนแน่ๆ(?) เทรนเดอร์จึงได้จัดเตรียมชุดให้คุณพร้อมกับมีแซลลี่เป็นคนช่วยแต่งตัวให้
           "ดินเนอร์คืนนี้พี่[ชื่อคุณ]จะต้องสวยที่สุด!"
           "ฮะๆ งั้นเหรอ ฉันจะตั้งตารอเลย"
           แซลลี่เป็นคนช่วยคุณแต่งตัวให้ แต่คุณบอกเธอว่าไม่จำเป็นก็ได้เพราะนี่แค่กินมื้อเย็นเฉยๆเอง อย่างไรเดี๋ยวก็ต้องล้างสิ่งที่เรียกว่าเครื่องสำอางออกอยู่ดี แม้เด็กน้อยดูไม่อยาก แต่เธอก็ยอมรับมัน...

           แต่อาจเพราะเป็นดินเนอร์อาหารแบบปกติ เพิ่มเติมคือแขกก็เลยแต่งตัวสวยเหมือนไปงานเลี้ยงดินเนอร์ออกเดท(?)ไม่ได้มาก ชุดของคุณจึงออกมาแบบเรียบง่าย เป็นชุดเดรสสีฟ้าเปิดไหล่กับทำผผมเล็กน้อยแบบปล่อยผม ด้วยความที่คุณสวยอยู่แล้วจึงแต่งไม่มาก



           คุณส่องตัวเองในกระจกก็ต้องร้องว้าวออกมาด้วยความตกตะลึงในความงามของตน คุณไม่นึกเลยว่าตัวเองจะสวยขนาดนี้ นี่คุณไม่ได้หลงตัวเองนะแต่มันคือความจริง ทว่า...ความสวยงามนั้นมันกลับสร้างความลำบากและทำให้ชีวิตของคุณแทบพังเลย แซลลี่เรียกคุณให้ไปที่ห้องอาหารซึ่งคุณก็เดินจับมือกับเธอเดินออกไปโดยที่โทบี้กับคล็อกเวิร์คนั้นเดินตามหลังมา
           "วันนี้พี่เฮเลนมาด้วยล่ะ"
           "เฮเลนงั้นเหรอ แขกที่มาใหม่เป็นคนยังไงกันนะ"
           "ฮิๆ พี่เฮเลนน่ะชอบวาดรูปมากๆเลยล่ะ พี่แองเจิ้ลเองก็เป็นพี่สาวที่ใจดี พี่คาเงะก็ อืมม แซลลี่ไม่ค่อยได้เล่นกับเขาเท่าไหร่นะ"แซลลี่ตอบพร้อมทำท่าจับคางนึกด้วย เป็นภาพที่น่าเอ็นดูเสียจริงๆจนคุณยิ้ม

           แต่เมื่อมาถึงห้องทานอาหารคุณก็มีร่างของใครบางคนพุ่งเข้ามาใกล้คุณพร้อมจับบีบแก้มคุณให้หันมาสบตาและนั่นเองพอได้เห็นหน้าคุณต้องชะงักและสะดุ้งเฮือกใจหาย ตัวสั่นเทาด้วยความตกใจปนหวาดกลัว

           "またお会いできて嬉しいです(ฉันดีใจที่ได้พบเธออีกครั้งนะ) =)"


           เป็นเขา เขาอยู่ที่นี่!!



    รีดเดอร์อาจจะสงสัยว่าทำไมนีน่าถึงไม่ปรากฎ อย่างแรกคือเจ๊ไรท์ได้ลองไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับพาสต้าปัจจุบันบางส่วน ซึ่ง Nina the killer ได้รับการปรับปรุงในปี 2021 ให้กลายเป็นฆาตกรที่ชิงชังเจฟฟ์ และต้องการตามล่าเจฟฟ์เพื่อล้างแค้นให้กับครอบครัว เหมือนเป็นดาร์กโรแมนติกที่นางเอกรับรู้ภายหลังว่าถูกหลอกใช้แล้วตามล้างแค้น ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าแฟนพาสต้าจะเอนเอียงไปทางไหน แต่ก็มีคนวาดแฟนอาร์ตนีน่าลุคเวอร์ชั่น 2021 บ้างแล้ว แถมลุคนีน่า 2021 ก็...แซ่บดี(?)

    อาจจะคิดว่านีน่าคงร่วมมือกับเจนได้ แต่เปล่าหรอก เพราะเหมือนว่านีน่าก็ยังคงดูถูกเจน เหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่อาจจะยังไม่ลงรอยนะจ้ะ เพราะแต่เดิมนีน่าก็เคยเป็นแฟนตัวยงของเจฟฟ์มาก่อน สาเหตุหลักที่นีน่าคลั่งไคล้เจฟฟ์ส่วนนึงก็มาจากความเบียวของวัยรุ่นแหล่ะจ้ะ สมัยนั้นนีน่าอายุแค่ 15-17 เอง เด็กฝรั่งจะถูกเลี้ยงดูให้รู้จักลองผิดลองถูกหรือให้ทำอะไรด้วยตัวเอง ตัดสินใจเองหรือแล้วแต่ทางเลือก(เว้นแต่จะมีเด็กหรือครอบครัวบัดซบที่คิดได้บัดซบหรือเลี้ยงลูกตามใจจัดๆจนผิดทาง) อาจจะมีสอนบ้างแล้วแต่ว่าเขาจะสอนแบบไหน ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านเรามาก ดังนั้นอาจจะมีความเสี่ยงกว่าบ้านเราบ้างหน่อย

    เอาไว้กระแสเขาเอนเอียงไปทางไหนเด๊ะจะเอานีน่ามาใส่นะจ้ะะะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×