ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3.1 : I hate my Life! (1) [ 100% ]
Chapter 3.1 : I hate my Life! (1)
ทันทีที่คุณได้ยินสิ่งที่คุณหมอของคฤหาสน์กล่าวแบบนั้นก็ทำให้คุณรู้สึกเหมือนหัวใจที่วูบลงกับดวงตาที่เริ่มสั่นไหวด้วยความสิ้นหวัง คุณไม่สามารถออกไปข้างนอกเหมือนคนปกติได้? หมายความว่ายังไงกัน
"ถ้าเธอออกไปยังไงก็ต้องสวมเสื้อผ้าแบบคนปกติใช่มั้ย..." อีเจพูดพร้อมกับชี้ไปยังเสื้อผ้าที่คุณถอดแล้ววางไว้บนเตียง "แต่ถ้าเธอใส่...เธอก็จะมีแผลกดทับเหมือนเช่นทุกครั้ง และแน่นอนว่าจะต้องรักษาทุกๆครั้งที่เธอกลับมาจากข้างนอก ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหากว่าเธออยากจะออกไปแต่ว่านี่เพื่อตัวเธอเอง...เธอไม่ควรออกไปข้างนอกนอกจากจะต้องอยู่แต่ภายในเขตของคฤหาสน์นี้เท่านั้น"
"ล-แล้ว...." คุณเหมือนราวกับต้องการจะถามบางอย่าง "ฆาตกรคนนั้น...ที่ไล่ฆ่าเหล่าแม่ชีนั่น...มีผลมาจากความผิดปกติของฉันด้วยหรือเปล่า??" คุณถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ฆาตกรหนุ่มที่เคยพบคุณโดยบังเอิญและพอผ่านไปสามวันให้หลังก็เริ่มไล่ฆ่าเหล่าแม่ชีที่พยายามปกป้องคุณไม่ให้เขาเข้าใกล้คุณ แม้ว่าพวกซิสเตอร์จะช่วยกันจับตัวเขาไว้แต่ดวงตาของผู้ชายคนนั้นก็ยังคงจับจ้องมองมายังคุณตลอด...
"ฉันไม่รู้..."หลังจากที่อีเจเงียบมาสักพักเขาจึงตอบกลับเพียงสั้นๆ เขาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจแต่ตอนนี้เขาควรที่จะอยู่ห่างจากคุณ
"ฉันคงต้องไปแล้ว ฉันไม่สามารถอยู่กับเธอนานๆได้หรอก ยังไงถ้ามีอะไรก็ให้กดปุ่มนั้นล่ะ"เขาพูดพร้อมชี้มาทางปุ่มสวิทซ์หนึ่ง ซึ่งคล้ายๆกับปุ่มสวิทซ์ของโรงพยาบาลทั่วไปหากแต่ว่าคุณไม่รู้จักมันเท่าไหร่ คุณถามเขาว่ามันควรใช้ยังไง
"แค่กด แล้วพูดสิ่งที่ต้องการมาจากนั้นพวกฉันจะช่วยนำมาให้แค่นั้นแหล่ะ ราตรีสวัสดิ์"พูดจบ ชายหนุ่มจึงรีบนำกล่องปฐมพยาบาลขึ้นมาสะพายแล้วเร่งเดินออกจากห้องของคุณไปโดยที่คุณนั้นนั่งมองตามด้วยความงุนงงว่าเหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงดูรีบร้อนจัง...
คุณมองชุดที่ถูกวางอยู่บนเตียงสักพักจึงค่อยๆนำมาพับให้เรียบร้อยแล้ววางบนโต๊ะข้างๆเตียง ตอนนี้...คุณคงไม่มีโอกาสได้สวมชุดแบบนี้แล้วล่ะ คุณคงไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติอีกต่อไปแล้ว
ร่างของคุณค่อยๆขึ้นไปบนเตียงพร้อมกับเริ่มบทสวดภาวนาก่อนนอน...เมื่อจบบทก็ค่อยๆเอนตัวนอนลงพร้อมห่มผ้าและปล่อยให้นํ้าตาไหลรินออกมา ปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดที่อยู่ภายในจิตใจ คุณคิดถึงบ้าน..คิดถึงโบสถ์หลังนั้น คิดถึงเพื่อนและคิดถึงซิสเตอร์มาเรีย คุณอยากกลับไปหาพวกเธอ อยากรู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง คุณทั้งกังวล เป็นห่วงและคิดถึงพวกแม่ชีและเพื่อนๆของคุณมากๆ...
อยากกลับบ้าน...อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความฝัน...
แต่ก็ทำได้แค่คิด เผลือกตาคู่งามของคุณก็ค่อยๆปิดลงและเข้าสู่ห้วงนิทรา....ทั้งนํ้าตา...
ในเช้าวันรุ่งขึ้น เปลือกตาคู่งามทั้งสองค่อยๆเปิดออก มองเห็นเพดานสีขาวที่อยู่หน้าบนกับรอบๆที่ยังคงปกติไม่ได้มีอะไร มันไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใด...คุณอยู่ที่นี่จริงๆ ก่อนสายตาจะค่อยๆมองดูเวลา
05:00
เป็นเวลาที่เหล่าซิสเตอร์ตื่นพอดี คุณค่อยๆลุกขึ้นจากนั้นจึงพับเก็บที่นอนให้เรียบร้อยเสร็จสิ้นและจึงเริ่มบทสวดภาวนาตอนเช้า เมื่อสวดเสร็จจึงเดินเข้าไปในห้องนํ้าเพื่อที่จะอาบนํ้าทำธุรส่วนตัวของตนเอง...
แต่เมื่อคุณเข้ามาในห้องนํ้าก็ทำเอาคุณตกตะลึงอย่างยิ่ง ภายในห้องนั้นมันเป็นห้องอาบนํ้าสีขาวลวดลายบนผนังเป็นรูปดอกกุหลาบสีซีดดูงดงาม กับลักษณะของมันออกแนวมีความผสมผสานอย่างลงตัว มีความสวยงามและความหรูในรูปแบบของคริสต์อย่างไรอย่างงั้นทำเอาคุณอดที่จะอึ้งไม่ได้
(ตัวอย่างภายในห้องนํ้า)
คุณไม่เคยเห็นอะไรที่มันงดงามเช่นนี้มาก่อน ตอนที่คุณอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของโบสถ์นั้นห้องนํ้าจะไม่หรูหราหรือสวยงามมากขนาดนี้ เพราะสำหรับพวกแม่ชีหรือพวกซิสเตอร์นั้นเขาจะอยู่กันแบบง่ายๆ พอเพียงและต้องหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาที่มนุษย์เราพึงมี คงเพื่อสอนให้เหล่าแม่ชี ซิสเตอร์ บราเดอร์ได้รู้จักการอยู่อย่างพอดีนี่แหล่ะ
โอ้พระบิดา ลูกกำลังอยู่บนสวรรค์อย่างงั้นหรือ?
สำหรับคุณแล้วการได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแบบนี้มันก็รู้สึกแปลกตานิดหน่อย มันคลับคล้ายกับว่าคุณอยู่ในสวรรค์แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่สวรรค์ซะทีเดียวเพราะคุณอยู่กับพวกฆาตกรในคฤหาสน์หลังนี้ บางที...คุณคงต้องไปสวดมนตร์ภาวนาขอให้พระเจ้าคุ้มครองแล้วสิ...
แต่ขณะเดียวกันพอคุณคิดถึงเรื่องพระเจ้าแล้ว...
คุณก็เคยถามคำถามกับตัวเอง...
พระเจ้า...มีจริงหรือเปล่า?
คุณตบหน้าตัวเองทั้งสองข้างไม่ดังแต่ก็ไม่เบานัก ไม่ ฉันไม่ควรถามอะไรแบบนี้เป็นอันขาด! ตามที่คัมภีร์หลักธรรมของเหล่านักบวชนั้นคือต้องเชื่อมั่น ศรัทธาและนับถือพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว! ฉันไม่ควรมาตั้งคำถามอะไรแบบนี้เป็นอันขาด คุณคิด ถึงแม้ว่าคุณจะเคยตั้งคำถามแบบนี้ไม่ใช่เพียงแค่ 'รอบเดียว' เท่านั้นก็ตาม คุณตัดสินเลือกที่จะตัดปัญหาแล้วรีบอาบนํ้าชะระร่างกายให้สะอาดเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านที่ไม่ใช่ 'โบสถ์' หลังนี้...
เวลาผ่านไป หลังจากที่คุณอาบนํ้าและเช็ดตัวเช็ดผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็เกิดความลังเลในใจว่าคุณควรจะแต่งตัวและออกไปร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับพวกเขาดีหรือไม่ เพราะหมออีเจก็เคยบอกคุณว่าคุณไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เหมือนคนปกติเพราะหากคุณออกไปก็ต้องสวมเสื้อผ้า...และถ้าคุณสวมใส่มัน..ก็จะเกิดแผลอีกเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่แล้วจู่ๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองถึงสามครั้งและจากนั้นประตูก็ได้ถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่คุ้นเคย เขาคือคนที่มอบจานขนมเค้กให้กับคุณเมื่อคืนในช่วงมื้อคํ่านั่นเอง และในมือของเขาก็มีถาดอาหารเช้าด้วย
"อรุณสวัสดิ์ครับคุณ[ชื่อคุณ] ผมนำอาหารเช้ามาให้คุณครับ"เทรนเดอร์กล่าว แม้เขาจะไม่มีหน้าแต่คุณก็พอจะเดาได้ว่าเขาอาจจะกำลังยิ้มทักทายยามเช้าให้คุณอยู่...มั้งนะ
"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเทรนเดอร์ ทำไมถึง...?"
"ผมรู้มาจากคุณอีเจน่ะครับว่าคุณไม่สามารถออกไปร่วมโต๊ะทานอาหารกับคนอื่นได้เพราะความผิดปกติทางสภาพร่างกายของคุณ ดังนั้นผมและคนอื่นตัดสินใจว่าจะสลับกันนำอาหารและของใช้มาให้คุณครับ"ชายหนุ่มกล่าว คุณพยักหน้าเข้าใจและกล่าวขอบคุณ เขาเองก็ตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรและจากนั้นจึงนำถาดวางอาหารบนเตียงมาวางไว้และจากนั้นจึงวางถอดอาหารลงตรงหน้าคุณ...
มันเป็นขนมปังกับซุปข้าวโพดและผลไม้ มันเป็นอาหารเช้าสำหรับคุณที่เป็นซิสเตอร์แล้วคงรับประทานได้ และคุณเองก็ไม่ค่อยชินกับอาหารจำพวกเนื้อสัตว์หรืออาหารที่พวกคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักบวชทานกันเท่าไหร่ หากจะทานเนื้อสัตว์ก็จะทานกันในวันครอบรอบหรือวันสถาปนาชาติ และในวันประสูติก็จะเป็นวันอดอาหารครั้งใหญ่เลย รวมถึงเป็นวันที่ได้รับการอวยพร...
"ผมหวังว่ามันจะถูกปากคุณนะครับ"
"ขอบคุณมากนะคะคุณเทรนเดอร์ มันรู้สึกดีขึ้นมามาก และขอโทษด้วยนะคะเพราะฉันไม่ค่อยคุ้นชินกับการทานอาหารของคนปกติที่ไม่ใช่นักบวชเท่าไหร่"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจดีแต่ยังไงเดี๋ยวคุณก็ค่อยๆปรับตัวกับที่นี่เดี๋ยวก็ชินเองแหล่ะครับ"เทรนเดอร์กล่าว คุณยิ้มบางๆจากนั้นจึงหันกลับมามองอาหารบนโต๊ะก่อนจะยกมือขึ้นกุมมือประสานกันและเริ่มบทสวดภาวนาก่อนทานอาหารเหมือนเช่นทุกครั้งและเริ่มรับประทานมัน...
อร่อยจัง...มันอร่อยเหมือนที่ซิสเตอร์มาเรียทำเลย...
"ผมดีใจนะครับที่คุณชอบมัน"คุณหันมามองเขาอย่างสงสัยและสะดุ้งเล็กน้อยที่เขาดูเหมือนจะสามารถอ่านใจคุณได้ เทรนเดอร์กล่าวขอโทษที่อ่านใจคุณแต่คุณก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร...
สิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติเหล่านี้มีสิ่งที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนอีกเยอะเลยแฮะ? คุณไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมีพลังหรือเวทมนตร์ด้วย ถ้าเป็นในโบสถ์ล่ะก็เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลยเด็ดขาด
คุณนั่งทานอาหารตรงหน้าอย่างเงียบๆ ลิ้มรสชาติของมันด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย...มันทำให้คุณนึกถึงช่วงสมัยที่คุณยังคงอยู่ที่นั่น...ได้กินอาหารร่วมกับเพื่อน..ได้พูดคุย...ถ้าหากว่าได้กลับไปแบบสมัยนั้นอีกครั้งล่ะก็คงจะดีไม่ใช่น้อยเลย...
หรือคุณควรจะลองขอร้องสเลนเดอร์ดีล่ะ?
หลังจากการทานอาหารสิ้นสุดลง คุณก็กล่าวบทสวดภาวนาหลังอาหารเพื่อขอบคุณ เมื่อเสร็จสิ้นเทรนเดอร์จึงเดินมาเก็บจาน ดูเหมือนว่าเขาจะยืนเฝ้าคุณตั้งแต่ที่คุณเริ่มทานอาหารแล้วแฮะ แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกไปคุณก็เอ่ยทักเขาไว้ก่อน
"ค-คุณเทรนเดอร์ ค-คือ..."
"มีอะไรหรือครับ?"
"ฉัน...ฉันต้องการพบคุณสเลนเดอร์แมน...ได้หรือเปล่าคะ??"คุณเอ่ยถามสิ่งที่คุณต้องการให้เขา ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะนิ่งเงียบไปสักพักแล้วจึงตอบกลับคุณมาว่าได้ เขาจะลองไปถามสเลนเดอร์ดู คุณขอบคุณเขาอีกครั้งและจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คุณอยู่ในห้องนั้นเพียงลำพังเพื่อที่คุณจะได้มีเวลาส่วนตัว...
เวลาผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วโมง คุณยังคงอยู่ในห้อง บางครั้งคุณก็เดินสำรวจรอบภายในห้องบ้างและจากนั้นคุณก็กลับไปนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงเช่นเดิมเมื่อเดินดูจนพอใจแล้ว จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงเปิดประตูเผยให้เห็นร่างของชายหนุ่มร่างสูงไร้หน้าในชุดสูทคนนั้น...สเลนเดอร์แมน
"คุณสเลนเดอร์แมน"
"เทรนเดอร์บอกฉันมาว่าเธออยากพบฉัน มีอะไรรึเปล่า?"
ร่างสูงเดินเข้ามาหาคุณพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างๆเตียงของคุณและเริ่มเปิดบทสนทนาขึ้น ตอนแรกๆคุณเองก็ยังลังเลอยู่ว่าควรจะพูดดีมั้ย แต่ก็ต้องลองพูดออกมาดูก่อน
"ฉัน....ฉันคิดถึงเพื่อนของฉัน..และซิสเตอร์มาเรีย...ฉันสามารถพบพวกเธอได้หรือเปล่าคะ?"พอคุณพูดแค่นั้น บรรยากาศรอบๆก็ตกอยู่ในความเงียบ บุรุษไร้หน้าจ้องมองคุณราวกับว่าเหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่คุณเองก็ไม่สามารถคาดเดาสีหน้าของเขาได้ ก็เพราะเขาไม่มีหน้าไงล่ะ(?)
"ฉันเสียใจด้วย...คงจะทำแบบนั้นไม่ได้"
"ทำไม...หรอคะ??"
"สาวน้อย เธอมีบางอย่างผิดปกติจากคนอื่นมาก..." สเลนเดอร์กล่าวด้วยนํ้าเสียงราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยความสุขุมและความใจเย็นแลดูแล้วเขาเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่มาก "ฉันเคยพบเธอในตอนที่เธอยังอายุน่าจะราวๆ 10 ขวบได้ บางสิ่งที่มองไม่เห็นแต่ฉันสัมผัสได้ว่าเหมือนเธอจะมีอะไรบางอย่างที่แปลกและแตกต่างออกไปนั่นจึงทำให้ฉันต้องส่งพร็อกซี่คอยติดตามและเฝ้าสังเกตการณ์เธอตั้งแต่นั้นมา..."
คำพูดของสเลนเดอร์แมนก็ทำให้คุณเบิกตากว้างอย่างตกใจ เพราะคุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเคยพบเจอคุณมาก่อนแล้วยังส่งพร็อกซี่อะไรนั่นมาจับตาดูคุณอีก แม้จะไม่เข้าใจว่าพร็อกซี่คืออะไรแต่คงจะเป็นผู้ช่วยของเขาแน่ๆ
"จากการรายงานของพร็อกซี่ที่ฉันสั่งให้ไปจับตาดูเหมือนว่าสภาพร่างกายของเธอจะเป็นแผลกดทับทุกครั้งหากว่าเธอสวมใส่เสื้อผ้า บวกกับการที่เธอมีแรงดึงดูด...ไม่สิ...นี่ไม่ใช่ 'ครั้งแรก' ที่เธอเจอเหตุการณ์แบบนี้ เธอไม่ได้มีแรงดึงดูดเพียงแค่เพศชาย...แม้กระทั่งเพศหญิงก็เช่นกัน..."เมื่ออีกฝ่ายพูดเช่นนั้นมันก็ทำให้คุณเงียบไป...
มันคือความจริงที่ว่านี่ไม่ใช่ 'ครั้งแรก' ที่คุณเจอเหตุการณ์แบบนี้...
แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงมากถึงขั้นมีการ 'ฆ่ากัน' ...
และดูเหมือนบุรุษตรงหน้าของคุณจะรู้เรื่องของคุณมาก...
"ฉันคงบอกเธอมากกว่านี้ไม่ได้...และฉันไม่สามารถที่จะอยู่คุยกับเธอได้ตลอดหรอกนะ..."
"หมายความว่ายังไงหรอคะ??"คุณถามอย่างไม่เข้าใจ อะไรคือสิ่งที่สเลนเดอร์บอกว่าไม่สามารถอยู่กับคุณต่อได้ ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้นำมือไขว้หลังและมองคุณ
"ไม่ต้องห่วง...ฉันสาบานว่าเธอจะปลอดภัย แต่ตอนนี้เธอควรอยู่ห่างจากฉันสัก 2-4 ชั่วโมงก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกครั้ง หากเธอต้องการอะไรก็สามารถบอกได้ ขอตัว"เขาพูดแค่นั้นแล้วก่อนที่จะเดินออกจากห้องคุณก็ได้พูดรั้งเขาไว้ก่อน
"ค-คือฉัน...ฉันต้องการออกไปข้างนอก ด-เดินดูรอบคฤหาสน์ก็ได้..."คุณพูด เพราะถ้หากให้คุณอยู่แต่ในนี้ต่อไปล่ะก็คุณมีหวังจะได้แย่กว่านี้แน่ๆ...
"หากเธอออกไปก็ต้องสวมมัน..."
"แค่คลุมก็ได้ค่ะ อย่างน้อยๆฉันเองก็อยากออกไปเดินดูรอบๆบ้าง..แค่ครั่งนี้เท่านั้นเองนะคะคุณสเลนเดอร์แมน.."คุณพยายามขอร้องเขาและหวังว่าเขาจะให้คุณได้ออกไปข้างนอกบ้างสักครั้งแม้อาจจะเป็นเพียงครั้งสุดท้ายก็ตาม...
"....." เขาเงียบสักพักแล้วจึงตอบกลับ "ก็ได้...แค่ครั้งนี้เท่านั้น แต่ถ้าหากว่าเธอมีแผลอีกฉันจะให้อีเจมาช่วยเธออีกที..." คำตอบของบุรุษตรงหน้าก็ทำให้คุณมีแววตาที่เป็นประกายอย่างดีใจและเต็มไปด้วยความยินดี ฉันจะได้ออกไปข้างนอกสินะ? ใช่มั้ย?
"ขอบคุณค่ะคุณสเลนเดอร์!"คุณยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่จะได้ออกไปข้างนอก
"ไม่เป็นไร ฉันต้องรีบไปแล้ว.."
"อะ! แต่เรื่องแซลลี่ ฉันขอฝากคุณช่วยบอกแซลลี่ได้มั้ยคะว่าฉันจะออกไปเล่นข้างนอกกับเธอ"
"....ได้ ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ"เมื่อจบบทสนทนาร่างสูงโปร่งของบุรุษไร้หน้าก็ได้เดินออกจากห้องของคุณไปและปิดมัน คุณถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าเขาจะไม่ยอมให้คุณได้ออกไปเสียแล้ว...
[ ต่อ ]
อีกด้านหนึ่ง
ร่างสูงโปร่งที่ยังคงยืนอยู่หลังประตูนอกห้องของคุณ มือหนาค่อยๆยกขึ้นลูบใบหน้าจรดลงมาถึงปาก(ทั้งที่ไม่มีปาก)ราวกับว่าเขากำลังพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองอย่างไรอย่างงั้นหลังจากที่ออกมาจากห้องคุณ...
"ฉันไม่ควรอยู่ใกล้เธอบ่อยๆ..."เสียงที่เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาจากนั้นจึงเดินออกมาจากจุดนั้นทันทีเพื่อที่จะไปเตรียมชุดคลุมมาให้คุณและไปบอกลูกสาวบุญธรรมของเขาให้ไปเตรียมตัวสำหรับการเล่นข้างนอก เพราะเขารู้มาว่าแซลลี่น่าจะอยากเล่นปาร์ตี้นํ้าชากับคุณ....
"ปะป๊าาา! ปะป๊าเพิ่งออกมาจากห้องพี่[ชื่อคุณ]หรอคะ??"เสียงหวานใสของเด็กน้อยของคฤหาสน์ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเด็กสาวในชุดนอนสีชมพูอันแสนคุ้นเคยกับในมือที่อุ้มตุ๊กตาหมีเท็ดดี้สีนํ้าตาลตัวโปรดนั้น เธอกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางผู้เป็นพ่อบุญธรรมราวๆกับกำลังจะไปห้องของคุณพอดี...
"อืม...แซลลี่ วันนี้พี่สาวของหนูจะออกไปเล่นข้างนอกที่สวนหลังคฤหาสน์ล่ะ.."
"เอ๋? พี่สาวออกมาเล่นกับแซลลี่ได้แล้วหรอคะ?"
"แค่ครั้งนี้...เพราะว่าอาการของพี่สาวยังมีปัญหานิดหน่อยและเธอก็ขอร้องพ่อว่าอยากจะออกไปเล่นกับแซลลี่สักครั้งน่ะ ยังไงลูกก็ไปเตรียมโต๊ะสำหรับปาร์ตี้นํ้าชารอไว้ได้เลยนะ"สเลนเดอร์แมนพูดเรียกเสียงร้องของเด็กสาวได้อย่างดี เพราะดีใจที่จะได้ออกมาเล่นข้างนอกกับคุณเป็นครั้งแรก
"ลูกดูดีใจมากเลยนะ" เขาถาม เขาเองก็สังเกตเหมือนกันว่าลูกบุญธรรมของเขาดูจะชอบคุณมากๆเลย ชอบขนาดที่ว่าเหมือนจะติดคุณแจได้เลย เด็กน้อยไร้เดียงสาหันมาตอบผู้เป็นพ่ออีกว่า "พี่สาวคนนั้นเขาดูใจดี! แซลลี่ชอบพี่สาวคนนั้นมาก! ตั้งแต่ที่แซลลี่เห็นพี่สาวคนนั้นครั้งแรกแซลลี่ก็อยากจะอยู่กับพี่สาวคนนั้น! อยากให้พี่[ชื่อคุณ]มาเป็นพี่สาวหรือไม่ก็มะม๊าของแซลลี่ด้วยเลย~!" คำพูดอันไร้เดียงสาเอ่ยขึ้นแต่เขากลับนิ่งเงียบ
"งั้นเหรอ...ลูกไปเตรียมจัดโต๊ะปาร์ตี้นํ้าชาเถอะ เดี๋ยวพี่สาวของหนูก็มาแล้ว พ่อจะให้พร็อกซี่เป็นคนนำทางพี่สาวไปหาลูกเอง"เมื่อกล่าวจบ แซลลี่ก็ขานตอบรับผู้เป็นพ่อจากนั้นจึงวิ่งตรงดิ่งออกไปเพื่อจัดโต๊ะในสวน...
บุรุษไร้หน้ามองลูกสาวบุญธรรมของเขาที่วิ่งออกสักพักจึงส่ายหน้าคลับคล้ายกับว่าเขากำลังไล่ความคิดบางอย่างและเดินกลับไปโดยพูดประโยคทิ้งท้ายว่า
"คงต้องระวังให้มากกว่านี้..."
ทางด้านของคุณ
ขณะที่คุณกำลังคิดอยู่ว่าจะออกไปอย่างไร และจะหาอะไรมาคลุมตัวคุณได้บ้าง แต่ก็หาไม่พบเพราะมันไม่มีเสื้อผ้าในตู้เท่าไหร่อาจเนื่องมาจากสภาพร่างกายของคุณที่มีโอกาสเป็นแผลได้เหมือนครั้งนั้น คุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าทั้งอีเจและสเลนเดอร์แมนเคยบอกคุณว่าถ้ามีอะไรให้กดกริ่งตรงนั้นเพื่อบอกสิ่งที่ต้องการ...
คุณกำลังจะกด แต่ยังไม่ทันไรก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นและมันก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างของชายทั้งสามคนที่คุณเคยพบในห้องทานอาหารเมื่อคืนนั้นกับในมือของชายเจ้าของหน้ากากสกีสีดำที่ถือผ้าสีขาวบางอย่างมา...
"มาสเตอร์บอกว่าเธอจะออกไปที่สวนกับแซลลี่เลยสั่งให้พวกเรานำผ้าคลุมมาให้เธอ"แมสกี้กล่าว นํ้าเสียงที่แม้จะไม่ได้ทุ้มแต่กลับฟังดูให้ความรู้สึกขนลุกแปลกๆ
"ข-ขอบคุณ"คุณพูดจากนั้นฮู้ดดี้ก็ได้ยื่นมาให้คุณ คุณรับมันมาก่อนที่จะสวมใส่มัน...
ผ้าคลุมสีขาวที่พวกเขามอบให้คุณนั้นมันเป็นผ้าคลุมยาวเกือบถึงพื้น มีหมวกคลุม แม้ว่าสภาพของคุณจะไม่ได้สวมเสื้อผ้าหากแต่ว่าถ้าจะออกไปในสภาพนี้มันก็คงไม่ได้อยู่ดีดังนั้นคงต้องหาอะไรมาคลุมนิดหน่อย
"อีเจบอกว่าเธอไม่สามารถใส่เสื้อผ้าปกติได้เพราะเธอมีความผิดปกติทางร่างกายที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปมาก..."ฮู้ดดี้เอ่ย คุณพยักหน้าเป็นคำตอบเชิงเข้าใจเพราะอีเจก็เคยบอกคุณเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่...ถึงอย่างไรคุณเองก็อยากจะออกไปข้างนอกบ้าง
"พ-พวก ฉ-ฉันจะนำทางเธอ ป-ไปที่สวน ล-หลังคฤห-หาสน์ให้ ต-ตามมาสิ"นํ้าเสียงที่ที่ดูกระตุกของชายหนุ่มเจ้าของแว่นส้มเอ่ยขึ้นกับร่างกายที่กระตุกเล็กน้อยรอบหนึ่ง โทบี้มองคุณแต่คุณเองก็ไม่เข้าใจว่าภายใต้แว่นนั้นเขากำลังมีสายตาและสีหน้าแบบไหนกัน คุณขอบคุณเขาแล้วจึงเดินตามทั้งสามคนไปโดยมีฮู้ดดี้กับแมสกี้เดินตามหลัง...
เมื่อมาถึงสวนหลังคฤหาสน์แล้ว ภายในสวนนั้นมันเต็มไปด้วยพื้นหญ้า มีทางเดินในสวนบวกกับมีนํ้าพุที่สวยงาม ไปจนถึงมีสวนดอกไม้นานาพันธ์ุ คุณรู้สึกว่าเหมือนคุณกำลังอยู่ในพาราไดส์สักแห่งของที่นี่ เพราะมันงดงามมากอย่างที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ไหนจะยังมีสิ่งแปลกๆมากมายที่คุณไม่เคยพบเจอมาก่อน
เป็นสวนที่สวยมากจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
เดินมาได้สักพัก โทบี้ก็หยุดเดินจนคุณที่มัวแต่มองสำรวจรอบๆก็ชนเข้ากับแผ่นหลังของชายหนุ่มเล็กน้อยและเอ่ยขอโทษ แต่โทบี้กลับนิ่ง....และหลีกทางให้คุณเดินไป คุณสงสัยแต่พอมองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแล้ว....
"พี่[ชื่อคุณ]!! พี่มาแล้ว!! แซลลี่เพิ่งจะจัดเตรียมปาร์ตี้นํ้าชาเสร็จพอดีเลยค่ะ!"
พื้นที่กว้างเหล่านั้นมีโต๊ะยาวอันหนึ่งที่ถูกจัดวางและบนนั้นมีขนมหวานกับตุ๊กตาที่วางประดับอยู่บนเก้าอี้แต่ละตัว โดยที่มีเพียงที่ว่างที่หนึ่งที่เหมือนมีไว้สำหรับให้คุณนั่งโดยเฉพาะ ไม่หมดเพียงเท่านั้นมันยังมีทั้งจานและถ้วยชากับกานํ้าชาจัดวางเรียงกันอย่างประณีตและสวยน่ารัก เหมือนเป็นโต๊ะนํ้าชาสำหรับเจ้าหญิงอย่างไรอย่างงั้น
"สวัสดีจ้ะแซลลี่"คุณทักทายเด็กน้อยตรงหน้าเช่นเดียวกับแซลลี่
"พี่[ชื่อคุณ]มานั่งข้างๆแซลลี่นะคะ! วันนี้จะมีปาร์ตี้นํ้าชาต้อนรับพี่โดยเฉพาะเลย~!"เด็กสาวพูดพร้อมกับวิ่งแจ้นเข้ามาหาคุณและจูงมือพาคุณมาร่วมโต๊ะนํ้าชาด้วยกัน คุณอดที่จะขำท่าทางอันแสนน่ารักของเด็กน้อยเบาๆไม่ได้เลยจริงๆ
"พี่[ชื่อคุณ] ทำไมพี่[ชื่อคุณ]ถึงสวมผ้าคลุมหรอคะ??"แซลลี่น้อยเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าคุณไม่ได้สวมเสื้อผ้าเหมือนปกติ เพราะคุณอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าแต่ก็ยังมีผ้าคลุมเอาไว้ คุณได้บอกเด็กน้อยตรงหน้าถึงสาเหตุที่คุณไม่ได้สวมเสื้อผ้าเหมือนคนอื่น
"พี่ไส่ชุดแบบปกติไม่ได้จ้ะแซลลี่ ถ้าพี่ใส่แล้วมันจะทำให้พี่เกิดแผลกดทับ"
"เห? จริงหรอคะ แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะคะ??"แซลลี่ถามอย่างสงสัย
"พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ.."คุณตอบกลับไปตามความเป็นจริง ขนาดคุณหมออย่างอีเจที่ดูมีประสบการณ์ยังไม่รู้สาเหตุที่เป็นเช่นนี้คุณเองก็จนปัญญาเหมือนกัน แต่...คุณก็ยังหวังว่าพวกเขาน่าจะสามารถช่วยคุณได้แม้จะไม่มีความหวังเลยก็ตาม...
"แต่อย่างน้อยแซลลี่ก็ดีใจนะคะที่พี่[ชื่อคุณ]ออกมาเล่นกับแซลลี่! แซลลี่ดีใจที่พี่[ชื่อคุณ]จะมาเล่นกับแซลลี่ข้างนอก!"เด็กสาวพูดด้วยรอยยิ้มที่เป็นประกายและแววตาที่เต็มไปด้วยความดีใจ คุณยิ้มให้กับท่าทางนั้นจากนั้นจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะนํ้าชาข้างๆอีกฝ่าย ส่วนหนุ่มๆทั้งสามคนก็ขอตัวกลับไปทำหน้าที่เพราะเป็นคำสั่งของสเลนเดอร์แมนว่าหากพาคุณไปถึงที่หมายแล้วก็ต้องรีบออกมาทันที แม้แซลลี่จะชวนพวกเขามาเล่นด้วยแต่โทบี้ก็ได้บอกกับแซลลี่ไปว่าไว้ถ้ามีโอกาสก็จะมาเล่นด้วยเด็กน้อยจึงยอมไป...
"พี่สาวเคยเล่นปาร์ตี้นํ้าชามั้ยคะ??"แซลลี่ถาม
"เอ่อ...ไม่จ้ะ ที่โบสถ์พี่ไม่มีการละเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆอย่างพวกปาร์ตี้นํ้าชาเท่าไหร่ ส่วนมากเด็กๆจะเล่นไล่จับหรือซ่อนแอบอะไรพวกนี้จ้ะ"คุณตอบ
"อย่างงั้นหรอคะ น่าเสียดายจัง ถ้างั้นเดี๋ยวแซลลี่จะเป็นคนสอนพี่สาวเล่นเอง!!"เด็กน้อยเอ่ยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยปณิธานแห่งความมุ่งมั่น(?)และความเป็นประกายอย่างตื่นเต้นจนคุณเองก็อดยิ้มขำๆเบาๆไม่ได้ เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กแหล่ะนะ...
หลังจากนั้นการละเล่นปาร์ตี้นํ้าชาก็เริ่มต้นขึ้น แซลลี่ได้สอนวิธีการเล่น การจับถ้วยชา การจิบไปจนถึงการพูดคุยหรือทำความรู้จักที่เป็นเหมือนคล้ายๆกับการพบปะสังสรรค์พูดคุยกับเพื่อนในชนชั้นของอังกฤษ แต่สำหรับเด็กแล้ว...มันคงจะเป็นการละเล่นแบบพูดคุย เติมชา จิบชาและกินขนมปกติมากกว่า
คุณรู้สึกสนุกกับมัน สำหรับคนทั่วไปอาจจะคิดว่ามันก็แค่การเล่นปกติแต่สำหรับคุณที่อยู่ในโบสถ์แล้วมันก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้เห็นหรือได้ทำมาก่อนเลย คุณจึงมีความสุขที่ได้ทำกับมันและสนุกกับการเล่นแบบนี้ ราวกับว่าคล้ายคุณจะย้อนวัยอีกครั้งแน่ะ...
แค่คิด...ก็คิดถึงเพื่อนๆที่นั่นแล้วสิ...ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง อยากให้พวกเธอมาอยู่กับคุณจัง แต่...มันคงเป็นไปไม่ได้...
เวลาผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่มีทีท่าว่าปาร์ตี้นี้จะจบลงเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนหนูน้อยแซลลี่จะชอบและอยากพูดคุยสนิทกับคุณถึงขนาดถามนู่นนี่นั่นสารสุขดิบเลยว่าคุณอยู่ที่นั่นเป็นอย่างไร พวกเขาใจดีมั้ย แล้วกิจวัตรประจำวันที่นั่นของคุณทำอะไรบ้างคุณก็ตอบกลับไปเหมือนปกติ แต่บางทีเหมือนแซลลี่เองก็คิดว่าที่นั่นน่าสนุกขณะเดียวกันก็น่าเบื่อนิดหน่อย แต่คุณก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่าสำหรับเหล่าแม่ชี ซิสเตอร์บราเดอร์หรือพวกบาทหลวงก็คงจะชินกับการทำพิธีพวกนี้แล้วล่ะ...
จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น...
"แซลลี่ อยู่นี่เองเหรอ"เสียงหวานทุ้มปนห้าวแต่แฝงไปด้วยความจิตเบาๆเอ่ยขึ้น เมื่อหันไปพบผู้มาใหม่เธอคนนั้นก็คือคล็อกเวิร์คที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม หนูน้อยแซลลี่ร้องเรียกชื่อพี่สาวจากนั้นจึงเอ่ยชวนให้เธอมาเล่นปาร์ตี้นํ้าชสด้วยกัน แต่คล็อกเวิร์คเองก็ไม่ได้ปฏิเสธจึงก้าวไปนั่งตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคุณจังหวะนั้นดวงตาสีเขียวมรกตก็จ้องสบตาสีม่วงมรกตของคุณพอดี
"ว่าไงสาวน้อย เจอกันอีกแล้วนะ"
"ย-ยินดีที่ได้พบค่ะคุณคล็อกเวิร์ค"
"พี่คล็อกเวิร์คจะรับชาสักถ้วยมั้ยคะ!?"
"จัดมาเลยสิสาวน้อย~"
เมื่อพูดจบ หญิงสาวก็ยกถ้วยชาขึ้นเล็กน้อยจากนั้นหนูน้อยก็ยกกานํ้าชาขึ้นค่อยๆรินใส่ถ้วยนั้นในปริมาณที่พอดีแล้ววางกลับไปยังที่เดิม เธอหันมามองคุณเลยเอ่ยขึ้น "เห็นอีเจบอกว่าเธอไม่สามารถออกมาข้างนอกเหมือนคนปกติได้เพราะร่างกายเธอไม่เหมือนมนุษย์คนอื่นนิ" เธอกล่าวแล้วจ้องมองสำรวจคุณว่าตอนนี้เหมือนคุณจะสวมผ้าคลุม
"ค่ะ...เพราะฉันไม่เหมือนคนอื่นก็เลยไม่สามารถใส่ชุดเหมือนคนปกติได้น่ะค่ะแต่ฉันก็อยากออกมาข้างนอกสักครั้งเลยขออนุญาตคุณสเลนเดอร์แมนค่ะ"คุณตอบพร้อมกับจิบชาเบาๆ
"อย่างงั้นเหรอ...ดูเหมือนเจ้าสเลนนั่นจะคอยกำชับคนอื่นๆในคฤหาสน์ด้วยว่าห้ามเข้าใกล้หรืออยู่กับเธอนานๆด้วยสิ"เมื่อพูดจบเธอจึงยกถ้วยชาขึ้นจิบ แต่คำพูดนั้นก็ทำเอาคุณรู้สึกฉงนปนไม่เข้าใจ
"หมายความว่ายังไงหรอคะ?"
"ฉันไม่รู้ แต่...เธอสนใจมาการองมั้ย?"คล็อกเวิร์คพูดพร้อมกับใช้นิ้วชี้กับโป้งหยิบมาการองรสวานิลลาขึ้นมาจ่อปากคุณ คุณตกใจกับการกระทำของผู้หญิงตรงหน้าและรู้สึกแปลกๆกับท่าทางนั้นจนทำให้เกิดอาการประหม่าเพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับคุณแม้แต่เพื่อนก็ตาม คุณลังเลแต่ก็ทำท่าจะยกมือขึ้นรับมา ทว่าหญิงสาวกลับเลื่อนมือออกแล้วจ่อริมฝีปากคุณอีกครั้งราวกับจะป้อนคุณ...
คุณถอนหายใจเบาๆแต่ก็กินมาการองวานิลลาจากมือของเธอและเคี้ยวมันอย่างละเอียดเพื่อลิ้มรสสัมผัสความหอมของวานิลลาและความกรุบปนความหวานของมัน...
"เป็นยังไงบ้าง"
"อร่อยมากเลยค่ะ ฉันไม่เคยทานมาการองมาก่อนเลย ขอบคุณ"
"พี่คล็อกขี้โกง!! แซลลี่ก็อยากป้อนพี่[ชื่อคุณ]บ้าง!!"แซลลี่น้อยพูดด้วยนํ้าเสียงติดงอนปนน้อยใจ แต่หญิงสาวเจ้าของดวงตานาฬิกากลับหัวเราะออกมา คุณยิ้มแห้งๆแต่ก็หยิบมาการองรสช็อกโกแลตขึ้นมาป้อนเพราะไม่อยากทำให้เด็กน้อยงอนเท่าไหร่และแน่นอนว่าการกระทำของคุณนั้นก็ทำให้แซลลี่ดูพึงพอใจอย่างมาก...
รู้สึกดี...อย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ...
*ตึก! ตึก! ตึก!*
*ฟึ่บ!*
"[ชื่อคุณ]!!! กลับไปที่ห้อง!!!"ระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอย่างสุขสันต์นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าของคนที่วิ่งมาในงานปาร์ตี้นํ้าชาของพวกคุณ ซึ่งคนที่เข้ามานั้นก็คือชายหนุ่มเจ้าของเส้นผมสีดำกับมุมปากฉีกอันเป็นเอกลักษณ์คนนั้นกับชายหนุ่มเจ้าของแว่นส้ม
"พี่เจฟฟ์! ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในปาร์ตี้นํ้าชานะคะ!!!"
"ตอนนี้ไม่ใช่เวลา!! ไอ้โย่งนั่นฝากให้พวกฉันรีบมาพาเธอกลับห้องเดี๋ยวนี้!! พวกนั้นกำลังจะมาที่นี่! ส่วนเธอนะยัยเด็กเปี๊ยกตอนนี้พวกเราจะต้องไปรวมตัวกันที่ห้องรับแขกก่อน"เจฟฟ์พูดจากนั้นโทบี้ก็รีบตรงดิ่งเข้ามาช้อนตัวอุ้มคุณในท่าเจ้าหญิงพร้อมกับออกตัววิ่งกลับเข้าคฤหาสน์ทันทีท่ามกลางความตกใจของทั้งสามสาวรวมถึงคุณด้วย
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน!?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น