ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC-Gintama] OkiGagu รักมั่วๆของเจ้ารั่วสองคน

    ลำดับตอนที่ #7 : 6 ตามจริงไรต์ลงใหม่เพราะผิดพลาดทางเท็คนิก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 799
      30
      10 เม.ย. 58

    6

     

     

            จากตอนที่แล้วโอคิตะแข่งวิ่งแบกศรีภรรยาในอนาคต ไม่ใช่ล่ะ โอคิตะอุ้มคางุระ เพื่อมุ่งหน้าไปกรีนแลนด์ ไม่ใช่ๆ วิ่งไปหาคุณกินที่ร้านสารพัดรับจ้างสิเอ็ง เพราะเห็นว่าอยู่ๆคางุระก็สลบไปเฉยๆ เขาแกล้งนิดเดียวเองนะเนี่ย..

              “เอ่อ..อาตี๋ พะ..พาอั้วไปไหนน่อ?” คางุระที่ตะกี้สลบก็ตื่นขึ้นมาโดยที่อยู่ในแขนของชายหน้าสวยถามขึ้น

              “อ้าว ฟื้นแล้วหรอ เป็นอะไรไปล่ะเนี่ย อยู่ๆก็หลับเลยจะพาไปหาลูกพี่เฉยๆ” โอคิตะตอบเบาๆ ตัวเขาเปลียนจากวิ่งเป็นเดินในถนนที่อยู่ๆคนก็หายเกลี้ยง

              “แพ้แสงแดดอะน่อ ธรรมดาออก ถึงบอกขอร่มๆ” คางุระโวยวายนิดหน่อย “พาอั้วลงหน่อยน่อ ไม่เป็นไรแล้ว”

              “หือ แรงมาแล้ว?” โอคิตะถามเงียบๆ แล้วมองไปรอบๆ ที่ผู้คนน้อยจนชักเปลี่ยวแปลกๆ แล้ววางสาวตัวน้อยที่ค่อยๆยืนอย่างมั่นคง

              “เปล่าหรอก ให้ลุกเองไม่ไหวหรอกน่อ ถ้าเดินในร่มเฉยๆ ก็พอไปไหว เอาร่มมาสิน่อ..” คางุระแบมือขอ แล้วอยู่ๆก็ถูกชายคนเดิมผลักให้ล้มลง

              “ทีนี้ก็ล้มแล้ว” โอคิตะทำหน้าซาดิสม์ใส่ คางุระจนสาวน้อยคิ้วขมวดติดกัน แล้วจ้องมองคนบ้าตรงหน้า..

              “เฮ้.. อาตี๋ เอาร่มอั้วมาหน่อยน่อ กลับๆไปเลยก็ได้น่อ” คางุระหรี่ตาทำหน้าเบื่อโลกนั่งพับเพียบแบมือขอร่ม

              “สภาพดูไม่ได้เลยนะเธอ” โอคิตะยืนจ้องหน้าคางุระนิ่งๆ เมื่อไม่เห็นคางุระพูดอะไรก็เอาร่มวางบนมือขาวซีดที่แบออก

              “ดึงอั้วขึ้นด้วยน่อ” คางุระถือร่มไว้แล้วสั่งเสียงนิ่งๆ อีกมือล้วงกระเป๋ากางเกงคว้านหาบางสิ่ง

              “...” โอคิตะไม่บ่นอะไรเพียงนั่งยองๆลงข้างๆ แล้วเอามือสอดใต้แขนจากทางด้านหลังยกขึ้นพร้อมกับตนที่ยืนอย่างสง่างาม ส่วนคนตัวเล็กที่ดึงขึ้นมากลับลอยในอากาศเหนือกว่าความสูงของคนยกเสียอีก “เบา..” โอคิตะกล่าวเบาๆแบบได้ยินแค่เขาคนเดียว

              “หะ..เฮ้! ลื้อ.. อาตี๋หัวเป็ด ลื้อว่าไงน้า...” คางุระที่ถูกยกจนลอยกล่าวรีบๆ

              “เปล่านี่.. มีอะไรล่ะ” โอคิตะจ้องคางุระจากด้านหลังแล้ววางลงกับพื้นเบาๆ

              “โอย..ตกใจหมดน่อ นึกว่าลื้อจะโยนอั้วไปดาวอังคารเลี้ยวน่อ” คางุระหันมาบ่นกับโอคิตะ ก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นโอคิตะหันหลังให้ เธอหยิบสาหร่ายดองแผ่นสุดท้ายในซองมาแทะเงียบๆ ก่อนที่โอคิตะจะนั่งยองๆลงกับพื้น มือสองข้างวางไว้ข้างเอว “เป็นไรน่ออาตี๋?”

              “ขึ้นมาสิ แล้วกางร่มให้ชั้นด้วยล่ะ” โอคิตะกล่าวเงียบๆ

              “หือ? ลื้อไว้ใจได้รึเปล่าน่อ จะจับอั้วไปข่มขืนหรอ?” คางุระที่อารมณ์ขันจนถึงที่สุดหรี่ตาถาม

              “เด็กแก่แดดอย่างเธอเนี่ยนะ? จะขึ้นมั้ย ยัยหมวยปัญญานุ่มนิ่ม” โอคิตะปวดหัวกับสาวน้อยพลังช้างอย่างช่วยไม่ได้

              “อ่า...” คางุระพูดเพียงแค่นั้นก็กระโดดขึ้นหลังของชายหน้าสวย โอคิตะลุกยืนอย่างมั่นคง คางุระจึงกางร่มใบเก่งให้เงาของมันบังทั้งสองไว้ อีกมือก็กอดคอชายหนุ่มไว้แน่นจนรัดคอ

              “แอ้ก แค่กๆ เบาๆสิ แอ้ก ฟระ..”โอคิตะที่ถูกทารุณกรรมจึงสั่งแบบเจ็บๆ

              “อ้าว แหะๆ...โทษน่อ” คางุระที่ไม่รู้ตัวรีบขอโทษ แล้วคลายแขนออก “อั้วกลัวลื้อจะจับอั้วโยนน่อ”

              น่ารักขนาดนี้ใครจะโยนฟระ?  โอคิตะคิดในใจเงียบๆ ก่อนจะพูดส่อเสียดอย่างช่วยไม่ได้ “เดี๋ยวก็โยนมันซะตรงนี้เลย”

              “หยุดการกระทำนั่นซะน่อ” คางุระเคี้ยวสาหร่ายดองในปากจนหมด ก่อนจะเอาแก้มข้างหนึ่งซบลงกับหลังคอของชายหนุ่ม “อั้วหนักมั้ยน่อ?”

              “หนักเท่าขวดมายองเนสที่อยู่ในโกดังเก็บของของคุณฮิจิคาตะ” โอคิตะหน้านิ่งตอบ

              “โอ้ หนักมากหรอน่อ?” คางุระบ่นเบาๆ ใบหน้าบอกบุญไม่รับ

              “เปล่า..เบาตะหาก ขวดในโกดังนั่นมีขยะอยู่แปดสิบเซ็นที่เป็นขยะ..” โอคิตะกล่าวตามความจริง

              “ลื้อพูดความจริงเลี้ยวน่อ” คางุระยิ้มอย่างมีชัย

              “อ้าว.. ไหงงั้นฟระ?”

              “อั้วน่ะสวย หุ่นเริ่ด และสง่างามน่อ” คางุระกล่าวชมตัวเองด้วยรอยยิ้ม

              “จะว่าไปเธอเป็นแผลที่เข่าหรอ?” โอคิตะกล่าวแทรกต่อทันทีด้วยความหมั่นใส้

              “ลื้อๆๆ ลื้อตัดบทอั้วน่ออาตี๋” คางุระหัวเด้งออกจากหลังคอชายหนุ่ม ก่อนจะขมวดคิ้วบ่น

              “อ่า.. ร้านสาหร่ายดอง” โอคิตะกล่าวนิ่งๆ หน้านิ่งๆ ด้วยความเบื่อ

              “ไหนน่อ.. ไหนๆๆ” คางุระมองรอบๆก่อนจะหยุดที่ร้านแบบกระตุก “อาตี๋.. ซื้อให้อั้วหน่อยสิน่อ... ซองเก่าหมดแล้วน่อ”

              “ซองเดียว แล้วหุบปากเงียบๆ” โอคิตะปล่อยเธอลง ก่อนจะหันมาจ้องรอคำตอบ

              คางุระทำท่าคิดนิดหน่อย ก่อนจะหันมายิ้มให้แล้วตอบแบบเล่นๆไม่มีคำจีนด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ..ที่รัก”

              โอคิตะสะดุ้งด้วยความตกใจปนเขินอายนี้ดเดียว จึงหันหลังเดินไปซื้อเงียบๆก่อนจะหันมาหาด้วยใบหูแดงแต้มรอยยิ้ม

    “ดีมากครับ.. ที่รัก..” ก่อนจะหันไปอายคนเดียว แบบเงียบๆ

    โอคิตะทิ้งให้สาวน้อยยืนกางร่มเงียบๆ ด้วยความเขินอายจนหน้าแดงเถือก สติไปวิ่งเล่นนอกหัวสมองอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่เขาจะกลับมาพร้อมซองสาหร่ายดองในมือ

    “มาแล้ว” โอคิตะก้มมองสาวน้อยที่นิ่งเงียบไปพักใหญ่ “เอาป่ะเนี่ย” โอคิตะยื่นซองให้แบบนิ่งๆ ก่อนจะถูกสาวน้อยจอมเขมือบจกไปอย่างรวดเร็ว

    “ขึ้นหลังหน่อยน่อ” คางุระที่แกะซองแล้วกินแผ่นนึงอย่างรวดเร็วกระโดดเกาะหลังแบบง่ายๆ

    “เหมือนเด็กเลยนะ ติดหลังคุณพ่อ” โอคิตะบ่นเบาๆ

    “ก็อั้วเด็กจริงๆนี่น่อ.. อั้วสิบสี่ ลื้อก็เท่าอาเฮีย..” คางุระสะดุ้ง

    “อาเฮีย? พี่ชายเธอหรอ” โอคิตะที่เห็นสาวน้อยบนหลังเงียบไปจึงถามขึ้น

    “อา.. ลื้อก็สิบแปด” คางุระมองข้ามคำถามนั้นเหมือนมันเป็นอากาศ แล้วฟุบลงเงียบๆบนหลังคอของโอคิตะ

    “เธอตัดบทฉัน” โอคิตะเริ่มไม่พอใจหน่อยๆ ที่คางุระเงียบไป “เฮ้ เธอมีพี่ชายด้วยหรอ? ใครล่ะ?”

    “อย่าเซ้าซี้น่ออาตี๋ ก่อนหน้านี้ลื้อบอกให้อั้วเงียบหลังจาก.. ได้..สาหร่าย.. ดอง..” เสียงคางุระเริ่มขาดหายไป เป็นเสียงสะอื้นน้อยๆ ก่อนที่ปกเสื้อของโอคิตะจะเริ่มชื้น จนเจ้าของมันเริ่มรู้สึก

    “เฮ้.. เป็นไรน่ะ ยัยหมวยต่างด้าว” โอคิตะหยุดกึก

    “เงียบน่อ อั้วไม่รู้.. อาตี๋.. อั้วคิดถึงอาเฮีย” คางุระปฎิเสธ ก่อนจะค่อยๆเผยคำพูดต่างๆ ที่อยากจะพูดให้ใครซักคนฟังออกมา โอคิตะได้เพียงเดินต่อ แล้วฟังเงียบๆ

    “อั้วคิดถึง.. อาเฮีย.. อีจะไม่มาหาอั้ว อีจะไม่รักอั้วแล้ว.. อั้วคิดถึงอี.. อั้วต้องทำยังไง.. อีจะกลับมามั้ยน่อ.. อี.. อี..” คางุระที่ร้องหาบางคนอยู่ค่อยๆเงียบลง เธอหยุดพูด

    “...” โอคิตะที่ฟังเงียบๆ แต่กลับมีคำถามฝุดขึ้นมากมาย เขาคือใคร ทำไมเธอต้องโหยหา ทำไมต้องคิดถึงคนที่เขาไม่รักเธอแล้ว แต่แล้ว ความคิดที่วนว่ายอยู่ในหัวก็ต้องชะงักเมื่อมันกลับมาแทงตัวของเขาเอง.. เพราะ..เขาคนนั้นเป็นคนสำคัญ ที่สำคัญที่สุด

    “อั้ว.. รักอาเฮียน่อ.. ลื้อทำให้อั้วคิดถึงอาเฮีย.. อาตี๋ ลื้อทำอั้วเจ็บ..” ก่อนที่ครั้งนี้จะจบลงด้วยคำบางคำ โดยไม่เงียบไปเฉยๆ

    “เงียบซะ คะ.. ยัยหมวย” โอคิตะหยุดความคิดทั้งหมดไว้ด้วยความเงียบ ที่เหลือเพียงเสียงสะอื้นและน้ำตาของสาวน้อยบนหลัง

    ก่อนที่ทุกอย่างจะตกลงสู่ความเงียบ

    หลังจากนั้นพอสมควร

    คางุระที่หยุดร้องใช้มือที่ไม่ถือร่มปาดน้ำตาทิ้ง ก่อนจะยิ้มกับตัวเองแม้ไม่มีกระจก

    “อั้วว่า ถ้านี่เป็นการ์ตูนสาวน้อยต้องมีดอมไม้มาปลูกแน่เลยน่อ” คางุระที่เงียบไปแล้วพูดทำลายความเงียบ

    “อ่า.. มันบานแต่แรกแล้ว..ดอกไม้น่ะ..” โอคิตะที่นิ่งเงียบเสริมคำ

    “หือ?”

    “แถมเป็นดอกสึบากิสีเหลืองซะด้วย..” โอคิตะกล่าวด้วยรอยยิ้มที่แต้มมุมปาก

    “อะไรหรอน่อ..” คางุระที่งงๆจึงถามออกมา

    “เงียบซะเถอะ..” แล้วทั้งสองก็เดินมาเงียบๆ เรื่อยๆ

    (ดอกสึบากิหรือดอกคาเมเลียจะไม่มีกลิ่น  ในภาษาดอกไม้ดอกสึบากิที่มีสีเหลืองหมายถึงความโหยหา)

    ร้านรับจ้างสารพัด เวลาเที่ยง

    “กลับมาแล้วน่อ/ขออนุญาตนะครับ”เสียงทั้งสองประสานพร้อมกัน แม้เสียงของโอคิตะจะเบากว่าเยอะก็ตาที

    “อ้าวยัยคางะ.. โอคิตะนายก็มาด้วยเรอะ?” คุณกินที่นั่งอ่านซีคิดส์แบบสบายๆบนโซฟาที่ประจำชะงักเมื่อมาเจอแขกตัวเบ้งเข้า

    “ไรน่ออากินจะ..”

    “คุณกิ้นนนน” เสียงของชินปาจิที่โวยวายมาแต่ไกลดังขึ้นข้างหูคางุระแบบไม่ทันตั้งตัว ทำเอาคางุระและโอคิตะสะดุ้งแรง “เรื่องใหญ่คร้าบ” ชินปาจิกล่าวพลางดันแว่น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×