ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC-Gintama] OkiGagu รักมั่วๆของเจ้ารั่วสองคน

    ลำดับตอนที่ #4 : 3 คนเข้าบ้านผีสิง ไม่จำเป็นต้องกลัวผี

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.14K
      41
      10 เม.ย. 58

    3

    คนเข้าบ้านผีสิง ไม่จำเป็นต้องกลัวผี

           ณ สวนสนุก บ่ายสองกว่าๆ

           กลุ่มคู่เดทจำเป็น

              “โอ้โห้ววววว สวนสนุกนี่น่าสนุกจนอยากเล่นให้สนุกจนสุดใจขาดดิ้นเลยน่อ..” คางุระพล่ามหลังจากเข้ามาในสวนสนุกแล้ว ก่อนหน้านี้เธอได้สวาปามอาหารที่ร้านหรูและนัดหมายบางอย่างกับโอคิตะก่อนที่โอคิตะจะบอกพนักงานเก็บตังค์ว่าเก็บตังค์ที่รองหัวหน้ากลุ่มชินเซ็นฯ แล้วเดินดุ่มๆออกมาอย่างว่อง

              “อย่าพูดอะไรงงๆ จนทำทั้งคนอ่านทั้งคนเขียนงงสิ” โอคิตะว่าพลางเดินแย้งๆมาข้างหลัง “ช่วยเดินช้าๆซักนิดสิยัยหมวย เดินตามไม่ทัน”

              “โถ่ๆ อาตี๋น่อลื้อนี่เชื่องช้ากว่าที่เห็นภายนอกอีกเรอะ?” คางุระหยุดเดินแล้วส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินมาอยู่ข้างๆ

              “เธอนั่นแหละ ไม่เคยมารึไง? บ้านนอกจริงจริ๊งงงง” โอคิตะว่าพลางส่ายหัวน้อยๆ

              “ลื้อว่าใครบ้านนอกน่อ? อั้วก็แค่ไม่เคยมาสวนสนุกใหญ่ๆแค่นั้นเองน่อ” คางุระว่าพลางจะนำนิ้วมาจิ้มๆที่ตาโอคิตะ ก่อนที่โอคิตะจะจับข้อมือเธออย่างว่องไว เขาจึงจะทิ่มนิ้วไปอุดไว้ที่รูจมูกเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะทำให้มุมนั้นเป็นสงครามขนาดย่อมคางุระก็เหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า

              “โอ้ววว ไอติมมม อั้วอยากกินไอติม” คางุระกล่าวพลางโดดไปยังร้านไอติมที่ตั้งอยู่หน้ารถไฟเหาะ

              “เดี๋ยวสิยัยหมวย ทำตามแผนก่อนนน” โอคิตะลากเธอออกมาจากร้านนั่นก่อนจะพูดให้ได้ยินกันเพียงสองคน

              “อ่า แล้วลื้อจาเลี้ยงไอติมสิน้า..” คางุระกล่าวอย่างผิดหวัง

              “อืม..” แค่อืมไม่ได้แปลว่าซื้อให้.. โอคิตะคิดในใจ

              “ไปเล่นอันไหนที่มันเหมาะๆดีน่อ?” คางุระว่าพลางมองดูแผนที่ที่มาคนให้มา “รถไฟเหาะ...”

              “ไม่!” โอคิตะแย้งทันที

              “อะๆๆ อาตี๋...อั้วอยากเล่นนนนน” คางุระอ้อนวอนเสียงแข็ง

              “เอ่อ.. เธอเล่นคนเดียวเถอะ แต่หลังจากจบแผนนะ” โอคิตะว่าพลางดึงแผนที่มาดูเอง คางุระสีหน้าไม่พอใจน้อยๆ “โอ้ ไอ่นี่แหละ.. บ้านผีสิง”

              “เย้ๆๆ อั้วเล่นน่อ” คางุระสีหน้าชื่นบาน ก่อนจะเดินตามโอคิตะที่ถือแผนที่นำอยู่

              กลุ่มรักเด็กในปกครอง

              “เฮ้ยๆๆ ไอ่พวกนั้นมันไปไหนกันล่ะเหวย” คุณกินท่าทางเนื่อยๆ แคะขี้มูกพลางเดินตามหนุ่มสาวมาไกลๆ

              “ตามทางแล้วก็น่าจะบ้านผีสิงนะครับ แปปเดียวเดี๋ยวก็ถึง” ชินปาจิกล่าวนิ่งๆ พลางมองแผนที่บอกทาง

              “บ้านผีสิง!” ฮิจิคาตะกับคุณกินประสานเสียงชัดเจน

              “อะไรล่ะเหวย ไอ่มายองเนสกลัวผีเรอะ?” คุณกินข่มศัตรู โดยที่เม็ดเหงื่อเริ่มผุดบนใบหน้า

              “เปล่านี่.. เเกกลัวหรอ?” ฮิจิคาตะก็เช่นกัน

              “หยุดๆๆ ถึงแล้วครับ ถึงแล้ววว” ชินปาจิว่าพลางชี้ไปที่บ้านชั้นครึ่งทรุดโทรมดูหน้ากลัวๆ ทางเข้าดูลึกลับ เป็นบ้านที่ยาวออกไปทางด้านหลัง ข้างๆประตูทางเข้ามีจุดซื้อตั๋วดูน่ากลัว พนักงานชายคอสเป็นแดรกคูล่า พนักงานหญิงคอสเป็นแม่มด ฮิจิคาตะกับกินโทกิหวอเล็กน้อย แต่ดูสุขใจลงเมื่อเห็นคนคอสเป็นผีได้น่ารักมุ้งมิ้ง

              “เฮ้ๆ ไอ่บ้านผีสิงนี่ดูไม่หน้ากลัวเท่าไรเลยนาเหวย” คุณกินกล่าวแล้วกลืนน้ำลาย พลางจ้องไปยังฮิจิคาตะหวังเอาชนะ

              “โอ้ว แกว่ามันไม่หน้ากลัวสินะ งั้นก็เข้าไปสิ เข้าไปเลยๆ” ฮิจิคาตะว่า สีหน้าของเขาไม่สู้ดี แต่ทั้งสองก็ยังจ้องกันอย่างกินเลือดกินเนื้อ

              “ก็เอาสิ เอ็งก็เข้าไปด้วยนาเหวย อย่าให้เห็นว่ากลัวเองล่ะ” คุณกินว่าพลางเชิดหน้าไปทางอื่นสีหน้ากลับมาไร้ความรู้สึกเช่นเคย

              “อ้าวพวกคุณจะเข้ากันหรอครับ ผมไม่เข้านะน่ากลัวอ่ะ” ชินปาจิว่าพลางทำท่าขนลุก

              “อะ อ้าว” คุณกินเผลอร้องออกมาไม่รู้ตัว

              “เอ่อ.. เอ็งกลัวสินะ กลัวแน่ๆ” ฮิจิคาตะเหงื่อไหลเล็กน้อย

              “งั้นคุณก็ไปเถอะครับ ผมอยู่ข้างนอกนี่แหละ”ชินปาจิเดินไปนั่งบนม้านั่งตัวหนึ่งก่อนที่จะเริ่มเปิดเพลงของโอซือจังฆ่าเวลา จะว่าไปเขาเสียใจนะ ทั้งที่วันนี้มีคอนเสิร์ตแท้ๆอีกครึ่งชั่วโมงก็เริ่มแล้ว แต่ดันโดนเจ้าบ้าคนหนึ่งลากตัวไปเพื่อตามลูกสาวตัวเองเดทกับชายหนุ่มฐานะดีคนหนึ่งเพียงแค่นั้น ไหนจะเจ้าพวกโอตาคุที่ร่วมกลุ่มเดียวกันอีก เขากลับไปไม่โดนนินทาหรอกหรอ

              “อ่า... เฮ้ย คางุระจะเข้าไปแล้ววว รีบตามไปเร็วววว” คุณกินว่าพลางดึงแขนฮิจิคาตะให้ตามไป ฮิจิคาตะสะบัดแขนให้ออกจากการดึง

              “ไปคนเดียวดิ!” ฮิจิคาตะตะคอกตาถล่น

              “เอ็งกลัวนี่หน่า” คุณกินว่า ฮิจิคาตะสีหน้าไม่พอใจก่อนจะเดินนำไปซื้อตั๋วแต่ยังไม่วายหันมาส่งสายตาจ้องจะฆ่าก่อนจะเดินต่อ

              กลุ่มคู่เดทจำเป็น บ้านผีสิง 14:42 น.

           คางุระมองบ้านเก่าๆเข้าในที่ดูน่ากลัวและวังเวง แต่สีหน้าเธอกับโอคิตะต่างตื่นเต้นแบบสนุกสนานไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย ทั้งสองฉีกยิ้มออกอย่างพอใจ

              ด้านในของบ้านผีสิงตกแต่งด้วยของคลาสสิกแต่หน้ากลัวนิดๆบางส่วนมีร้อยสีที่พยายามทำเป็นเลือด แต่เท่าที่เห็นเป็นห้องแรกเท่านั้น มันดูเล็กและคับแคบ สุดห้องมีประตูเก่าๆบานหนึ่ง และติดป้ายว่า เริ่ม ไว้ บ่งบอกว่าที่นี่คือซ้อฟๆ ถึงแม้ว่ามันจะดูหน้ากลัวในสายตาของมนุษย์ธรรมดาๆทั้งหลาย

              “โอ้ว.. น่าสนุกจังน่อ” คางุระพึมพำเบาๆ แล้วยืดเส้นยืดสาย

              “แน่ล่ะ เหมือนกำลังจะได้ฆ่าใครซักคนเลย” โอคิตะว่าพลางปล่อยหมัดกลางอากาศ

              “แน่ล่ะ เราต่อยใครไปไม่เสียหายนี่ เพราะกลัวเฉยๆ” คางุระแถตามน้ำก่อนจะจับลูกบิดประตู “เอาล่ะนะ” โอคิตะหันมามองหน้าคู่แค้น ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

              แอ้ด.. (เปิดประตู)

           “แฮ่..” มีคนแต่งชุดคอสซอมบี้โผล่มาหลังระตูสองคน ก่อนที่คางุระจะปล่อยหมัดซ้ายใส่เบ้าตาซอมบี้ที่ใกล้ตัวที่สุดแล้วก็เตะสีข้างสองสามที จนซอมบีผู้หน้าสงสารลงไปนอนกองกับพื้น

              ทางด้านโอคิตะก็ไม่น้อยหน้า ปล่อยหมัดอย่างรวดเร็วสลับกับการเตะที่เร็วไม่แพ้กันทำให้เป้าหมายของเขานอนลงกับพื้น โอคิตะเหยียบซ้ำจนซอมบี้ตาดำๆกระอักเลือด แล้วยักคิ้วให้คางุระที่ยืนดูอยู่

              “ชิ” คางุระสบถ

              “ชิ เชอะอะไร” โอคิตะหันมาถล่นตาใส่

              “แค่นั้นอั้วก็ทำได้น่อ ไม่ต้องอวด ดูนี่” คางุระเดินไปที่ซอมบี้ตัวแรก แล้วกระทืบใส่ซอมบี้ครั้งหนึ่ง อย่างเต็มแรง คนในคลาบซอมบี้นอนกระอักเลือด คางุระหันไปทำท่าอวดๆใส่โอคิตะ เขายักคิ้วให้ก่อนจะเริ่มบทบรรเลงเลือด

              เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนตาจับภาพได้ไม่ทัน หลังจากนั้นก็พบหนุ่มสาวคู่หนึ่งยืนหอบ ใต้เท้าของหญิงสาวมีซอมบี้ตัวหนึ่งนอนทับกองเลือดของตัวเอง ข้างกายของชายหนุ่มมีซอมบี้อีกตัวสภาพไม่ต่างกันนอนหมดสภาพอยู่

              “เฮอะ ไม่เบานี่” โอคิตะชมอีกฝ่าย

              “แน่นอนน่อ” คางุระรับคำชมเสียงใส

              ก่อนที่ทั้งสองจะแปล่งออร่าสีน้ำเงินและแดงออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน สาวน้อยแสยะยิ้ม ชายหนุ่มหน้านิ่งๆกลับ

              แอ้ด...

              “เอ่อ..ขอโทษนะครับ” กินโทกิที่เป็นคิวต่อมาแง้มประตูดู ก่อนจะพบคางุระกับโอคิตะส่องแสงน่าขยะแขยง จ้องตากันราวกับจะฆ่ากันเอง ก่อนที่คุณกินจะจะกรีดร้องออกมาก็รีบปิดประตูกลับเข้ามาห้องแรก

              “ตะกี้มีอะไรอะ ยัยหมวย” โอคิตะหยุดทันที

              “หือ? อะไรน่อ ไม่มีๆ” คางุระกลับมายืนปกติก่อนจะตอบชายหนุ่มที่ทำตัวแปลกๆ

              กลุ่มรักเด็กในปกครอง

              “แฮ่ก..แฮ่ก” เสียงคุณกินหอบเหนื่อยหลังจากแง้มประตูไปดู

              “เป็นอะไรล่ะ?” ฮิจิคาตะถามเสียงสั่นก่อนจะจ้องหน้าคุณกิน ห้องแรกถูกตกแต่งให้ดูหน้ากลัว จึงทำให้ทั้งสองหลอนเมื่ออยู่ไปนานๆ

              “ปะ..ปีศาจ” คุณกินกล่าวเสียงสั่น สีหน้าไม่สู้ดี

              “หือ? คนที่แต่งตัวเป็นปีศาจ?” ฮิจิคาตะถามงงๆก่อนจะนั่งลงกับพื้น ใช้กำแพงเป็นที่พักพิง

              “ปีศาจจริงๆนะเอ็ง” คุณกินค่อยๆคลานลงมานั่งข้างๆฮิจิคาตะ “มันกระทืบซอมบี้อยู่” คุณกินเพิ่มเติมสิ่งที่เห็น

              “บะ บ้า เอ็งมั่วแน่ๆ” ฮิจิคาตะเสียงสั่นตามก่อนจะกอดเขาตัวเอง

              “...” ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ โดยมีชายสองคนนั่งกลัวโลกสร้างความเงียบ

              ”...”

              “เอ่อ.. พังกำแพงออกดีมั้ย?” คุณกินเสนอแนวทาง

              “ถ้านั่นมันโอเคก็เอาสิ” ฮิจิคาตะที่ตอนนี้สมองรวนอยู่ก็เอาด้วย

    ทั้งสองลุกขึ้นพร้อมกันก่อนที่จะวิ่งออกไปทางกำแพง ทำให้ภายในห้องไฟสลัวกลายเป็นห้องสว่าง

              ฝั่งขาตั้งแว่นและชินปาจิ

              “คุณกินนี่ช้าจริงๆ” ชินปาจิกล่าวหลังจากรอทั้งสองคนมากว่าสิบนาที “อ่า.. งั้นผมขอไปคอนเสิร์ตโอซือจังล่ะกันนะครับ เดี๋ยวจะเลทเอา” ชินปาจิขยับแว่น แล้วลุกเดินจากไป...

              กลุ่มคู่เดทจำเป็น บ่ายสามเศษ

           “ฮ้า..สนุกจังเลยน่อ” คางุระว่าพลางนวดต้นแขนตนเอง

              “อา.. ดูเหมือนแผนจะสำเร็จด้วยล่ะนะ” โอคิตะว่า ก่อนหน้านี้ในร้านอาหารเขาและเธอนัดกันว่าจะไปบ้านผีสิงก่อน เพื่อให้พวกคุณกินกลัวหัวหดหายไปเอง

              “นั่นสิน่อ..”คางุระว่าพลางหันซ้ายหันขวามองหาอากินจัง เมื่อไม่พบอะไรเธอจึงกล่าวต่อ ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ทุกคนหายไปแล้วน่อ”

              “ถ้างั้นเล่นอะไรต่อดี..?” โอคิตะหันมาถามคางุระด้วยใบหน้าเรียบเฉย

              “รถไฟเหาะไงน่อ..” คางุระยิ้มตอบ

              “ไม่เด็ดขาด!” โอคิตะตอบกลับทันที

              “หึ..ลื้อกลัว?” คางุระแสยะยิ้มถาม

           “ใครกลัว ไม่มี๊” โอคิตะไม่ยอมแพ้ กล่าวเสียงแหลม

              “งั้นลื้อต้องขึ้นน่อ” คางุระบอกแกมสั่ง

              “ไม่!” โอคิตะปฏิเสธเสียงแข็ง

              “ปอดแหกเรอะ” คางุระถล่นตาด่า

              “ชิ คอยดูนะว่าฉันขึ้นได้” โอคิตะยอมแต่โดยดี “เอามือมา”

              “หือ? ทำไมน่อ อั้วไม่ใช่หมานา” คางุระทำหน้าไม่พอใจ

              “จับมือไง เดินแล้วก็จับมือ เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง” โอคิตะกล่าวเรียบๆ

    เขายื่นมือมารับอีกมือของสาวน้อย ก่อนที่สาวเจ้าจะส่งมือให้ แล้วเดินทางไปยังรถไฟเหาะ

    “ถ้าอยู่ในการ์ตูนตาหวานต้องมีดอกไม้เป็นฉากแล้วแน่เลยน่อ” คางุระกล่าวเรียบๆ

    “อา...นั่นสิ..” โอคิตะกล่าวด้วยท่าทางเหม่อลอย

    “อ้อ..อั้วจับมือกับลื้อเพระเป็นงานน่อ อย่าคิดนะว่าอั้วจะชอบลื้อ” คางุระกลบมาพล่ามยาว

    โอคิตะอมยิ้มน้อยๆ ไม่ตอบโต้แม้แต่อย่างใด

    ..เฮ้อ..ยัยหมวยของฉัน..

     อันนี้ไรต์เติมไปนิดหน่อยจร่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×