5 เบื้องหลังความโหดร้ายของนิทานก่อนนอนที่นิยมไปทั่วโลก - 5 เบื้องหลังความโหดร้ายของนิทานก่อนนอนที่นิยมไปทั่วโลก นิยาย 5 เบื้องหลังความโหดร้ายของนิทานก่อนนอนที่นิยมไปทั่วโลก : Dek-D.com - Writer

    5 เบื้องหลังความโหดร้ายของนิทานก่อนนอนที่นิยมไปทั่วโลก

    555+

    ผู้เข้าชมรวม

    408

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    408

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 55 / 10:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    พวกคุณอาจจะไม่ต้องการดูอีกเลยก็เป็นได้
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       

      รู้จักพี่น้องกริมม์หรือเปล่า พวกเขาคือคนแต่งนิทานเทพนิยายที่โด่งดังไงละ เช่น หนูน้อยหมวกแดง, สโนว์ไวท์ฯ, ซินเดอเรลล่า ฯลฯ 

      แต่... คุณรู้หรือเปล่าว่าเบื้องหลังนิทานเหล่านั้น มันมีต้นกำเนิด..มันเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่น ซึ่งเนื้อหานี้เหลื่อเชื่อมากว่าเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กและโครงเรื่องแสนลึกล้ำยากจะจินตนาการดู 
      ว่ากันว่า พี่น้องตระกูลกริมม์เคยคิดเอาโครงเรื่องนิทานพวกนี้มาแต่งให้คงเอกลักษณ์รสชาติเดิมไว้ ผลเหรอ... ทางสำนักพิมพ์ก็บอกว่าเอาไปแต่งใหม่ดีกว่าเพราะเนื้อหาของมันไม่เหมาะต่อเยาวชนเด็กและสตรีเพราะ มีแต่ความรุนแรง โหดร้าย ทารุณ เซ็กซ์ ก่อนที่จะถูกแปลงให้สะอาดและทอนเนื้อหาที่รุนแรง โหดร้ายลง 

      และนี้คือ 5 นิทานโหด ที่คุณไม่เชื่อว่าต้นกำเนิดของมันช่างน่ากลัว.. 


      อันดับ 5. หนูน้อยหมวกแดง : เล่นเซ็กซ์ระหว่างสัตว์ , กินเนื้อคน 
      (Little Red Riding Hood: Inter-Species Sex Play, Cannibalism)
       

       

      เวอร์ชั่นที่คุณรู้ : ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เรื่องนี้ในฉบับภาษาเยอรมัน ถูกบอกเล่าให้แก่ พี่น้องตระกูลกริมม์. โดยคนพี่ เจค็อบ กริมม์ ฟังมาจาก Jeanette Hassenpflug (ค.ศ. 1791-1860) , ส่วนคนน้อง วิลเฮล์ม กริมม์ ฟังมาจาก Marie Hassenpflug (ค. ศ. 1788-1856) พี่น้องทั้งสอง ได้รวมเนื้อเรื่องจากทั้งสองฉบับนั้น เป็นเรื่องเดียว จนเป็นฉบับปี ค.ศ. 1857 ที่เป็นเนื้อเรื่องที่แพร่หลายในปัจจุบันซึ่งเนื้อเรื่องค่อนข้างจะจินตนาการมากกว่าฉบับอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดยหนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และในภายหลังคนตัดไม้ได้มาช่วย โดยการผ่าท้องหมาป่า ช่วยหนูน้อยและคุณยาย ออกมาได้โดยปลอดภัย 

      เวอร์ชั่นเดิม : ที่มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปาก แพร่หลายอยู่ในหลายประเทศในยุโรป ซึ่งคาดว่าเป็นก่อนช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 แต่เท่าที่ทราบโดยทั่วไป Le Petit Chaperon Rouge เป็นฉบับแรกสุด ที่ได้รับการตีพิมพ์ จากเนื้อเรื่องนิทานพื้นบ้านของฝรั่งเศส โดยเนื้อเรื่องนั้น ได้ถูกพิมพ์ในหนังสือ ในปี ค.ศ. 1697 ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมนิทานและเรื่องเล่าต่าง ๆ พร้อมคติสอนใจ โดย ชาร์ลส แปร์โรลต์ เนื้อเรื่องของฉบับนี้จะค่อนข้างรุนแรง เพราะมีการร่วมเพศระหว่างคนกับสัตว์ โดยหนูน้อยหมวกแดงจะระบำเปลื้องผ้าให้หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณยายดู..... ก่อนที่หนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และตายไป.. 

      ซึ่งเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า 


      อันดับ 4. สโนไวท์ : เจ้าชายล่อลวงเด็ก , มนุษย์กินคน 
      (Snow White: Prince Pedophile, More Cannibalism)
       

       

      เวอร์ชั่นที่คุณรู้ : (Snow White in her coffin, Theodor Hosemann, 1852) โดยมีเนื้อเรื่องย่อคือแม่เลี้ยงใจร้ายอิจฉาสโนไวท์ที่สวยกว่าตนเลยวางแผนให้นายพรานพาเธอไปฆ่าที่ป่าทึบ และนำหัวใจกลับมาให้เธอดูเป็นหลักฐาน แต่นายพรานกลับปล่อยสโนไวท์ เธอหนีเข้าไปยังบ้านคนแคระทั้ง 7 พอแม่เลี้ยงทราบข่าวว่าเธอยังมีชีวิตอยู่เธอเลยปลอมตัวเป็นหญิงชราเอาแอ็ปเปิ้ลพิษให้เธอกิน และสโนไวท์ก็หลับและนอนในโลงแก้ว จนเจ้าชายผ่านมาและก็จูบเธอ และสโนไวท์ก็ตื่นและอยู่ด้วยกันกับเจ้าชายอย่างมีความสุข 

      เวอร์ชั่นเดิม : ต้นฉบับดั้งเดิมเป็น นิทานพื้นบ้านของทาง ที่มีเค้าโครงเรื่องจริง ต้นฉบับเดิมคือ สโนไวท์มีแม่เลี้ยงที่บอกนายพรานว่า ให้ใส่อะไรนอกเหนือจากการนำหัวใจมาให้เธอดูด้วย โดยมี ตับ, ปอด, ลำไส้, อวัยวะภายใน และรวมเลือด 1 ขวด กับนิ้วเท้าของเธอและแม่เลี้ยงจะนำไปกิน(คงแค้นมากนะนั่น) และพอเสร็จการฆาตกรรมด้วยแอ็ปเปิ้ล แม่เลี้ยงถามกระจกอีก แล้วกระจกบอกว่าสโนไวท์ไม่ได้ตาย และตอนจบสุดท้ายสโนไวท์ ก็แก้แค้นกระทำของแม่เลี้ยงโดยให้แม่เลี้ยงใส่รองเท้าเหล็กร้อนๆ และบังคับให้แม่เลี้ยงเต้นรำไปจนขาดใจตาย... 

      และ ที่น่าสนใจคือสโนไวท์ในฉบับดั้งเดิมนั้นอายุ 7 ขวบเท่านั้น(โอ้แม่เจ้า) 
      แต่เธอต้องแต่งงานกับเจ้าชายที่แก่กว่าตนหลายเท่า 
      ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของยุโรป .. 


      อันดับ 3. รัมเปลสติลล์สกิน : ตัดเป็นชิ้นๆ , ตาย 
      (Rumpelstiltskin: Dismemberment, Dead Toddlers)
       

       

      เวอร์ชั่นที่คุณรู้ : เรื่องนี้คนไทยอาจไม่รู้จักเท่าไหร่ แต่ถ้าอ่านก็อาจคุ้นๆ (Illustration of Rumpelstiltskin from Andrew Lang's The Blue Fairy Book, ca. 1889) คือกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เจ้าของโรงสีมีลูกสาวสวยที่สามารถม้วนฟางให้เป็นทอง จนเรื่องนี้เข้าหูพระราชาโลภมากเข้า เลยจับขังหอคอยและบอกให้เธอปั่นทองให้ได้เท่านี้ถ้าทำไม่ได้เอ็งตายอย่างเขียด แต่ใครเอยจะบ้าทำได้ ในขณะที่หญิงสาวกำลังกลุ่มอยู่นั้นคนแคระก็มาหา มันเสนอแลกเปลี่ยนกับการแลกบุตรที่เธอคลอดคนแรกให้กับมัน และจะช่วยให้เด็กสาวสมปรารถนา จนกระทั่งเด็กสาวทำสำเร็จ ได้แต่งงานพระราชาโลภมาก(ดีไหมนั่น) มีบุตรคนแรก และคนแคระก็มารับเด็กตามข้อตกลงแต่เด็กสาวกลับคำ คนแคระเลยเพิ่มข้อแลกเปลี่ยนเพิ่มโดยทายชื่อเขาให้ถู ก โดยมีเวลา 3 วัน (บางเล่มบอกว่าให้ทายแค่ 3 ชื่อในเวลา 3 วัน) เจ้าหญิงเดาชื่อคนแคระไปเรื่อยๆ ทั้ง 2 วันก็ไม่ถูกสักที จนกระทั่งมีคนผ่านไปแอบได้ยินมนุษย์แคระที่ร้องเพลงบอกชื่อของตนว่าเขาชื่อ “รัมเปลสติลล์สกิน”คนผ่านมาเลยไปบอกเจ้าหญิง และสุดท้ายคนแคระเลยอดได้เด็ก 

      เวอร์ชั่นเดิม : ที่มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปากจนกระทั้งพี่น้องตระกูลกริมม์นำมาแต่งใหม่ ซึ่งเวอรชั่นเดิมนั้นหญิงสาวไม่สามารถหาชื่อจริงของคนแคระคนนี้ได้เลย จนสุดท้ายเธอแก้ปัญหานี้โดยต้องเอาลูกคนอื่นสวมรอย พอคนแคระจับได้มันเลยวิ่งจับลูกคนแรกของเด็กสาว(รวมถึงเด็กสาวด้วย)กระทืบเท้าจนขาคนแคระจมพื้นดิน จากนั้นคนแคระกระชากขาและแขนเธอและลูกจนฉีกขาด ซึ่งทหารผู้พิทักษ์ทั้งหมดต้องมาเอาคนแคระออก แต่สายไปเสียแล้วเพราะสิ่งที่เหลือจากนั้นคือซากของเด็กสาวและลูกที่ตายคาที่ เหมือนก้อนเนื้อ จนมีคำถามตามมาว่าคนแคระนั้นคือซอมบี้สัตว์ประหลาดปลอมตัวหรือเปล่า 


      อันดับ 2. เจ้าหญิงนิทรา : โคม่า เซ็กซ์ 
      (Sleeping Beauty: Coma Sex)
       

       

      เวอร์ชั่นที่คุณรู้ : เวอร์ชั่นที่คุณรู้ ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1697 เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงหนุ่มที่ถูกสาปแช่งโดยแม่มด ที่เจ้าหญิงไม่เชิญเธอในงานเลี้ยง โดยแม่มดแช่งว่าเธอจะต้องโดนเข็มเย็บผ้าทิ่มแทงนิ้วมือ และตายเมื่อวันเกิดครบรอบ 15 ปี และเมื่อเธอโดนสาป เธอหลับมานานกว่า 100 ปี(ไม่ตายเหรอนั่น แถมไม่ตื่นอีกแสดงว่ายานอนหลับแรงจัด) และแล้วเมื่อถึงวันคลายคำสาปเจ้าชายเด็กก็บุกป่าผ่าดงและพบเจ้าหญิงอายุกว่า 100 ปี จากนั้นก็จูบ เจ้าหญิงตื่นและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข(อิจฉาจังคุณยายได้คั่วเด็ก) 

      เวอร์ชั่นเดิม : คุณรู้หรือเปล่า ว่าในนิทานพื้นบ้านฉบับดั้งเดิมนั้น เจ้าหญิงนิทราไม่ได้ตื่นเพราะเจ้าชายจูบ โดยเธอถูกทำให้หลับโดยพระราชาที่มีมเหสีแล้ว โดยใช้เศษไม้ทิ่มที่ใต้เล็บ และเธอก็หลับไม่ตื่นอีกเลยทำให้พระราชาร่วมประเวณีกับเธอหลายครั้งมานานกว่าร้อยปี(พ่อกับลูก!!) ขณะที่เธอยังหลับนั้นก็ได้ตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกแฝด หลังจากที่เธอได้ให้กำเนิดลูกแฝด แฝดคนหนึ่งต้องการดูดนมแม่ แต่กลับไปดูดเศษไม้ออกจากนิ้วโป้งของเธอ ทำให้เธอได้ตื่นจากนิทราที่ถูกสาป จนเราต้องตั้งคำถามว่ายานอนหลับนี้ยี่ห้ออะไรนี้ถึงหลับนานกว่า 100 ปี โดยไม่ตื่น 


      อันดับ 1. ซินเดอเรลลา ตัดนิ้วเท้า, เซ็กซ์, สิ่งที่มากกว่าตัดนิ้วเท้า 
      (Cinderella: Mutilation, Sex, More Mutilation)
       

       

      เวอร์ชั่นที่คุณรู้ : (Gustave Doré's illustration for Cendrillon)เป็น เทพนิยายปรัมปราที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั่วทั้งโลก มีการดัดแปลงเป็นรูปแบบต่างๆ มากมายกว่าพันครั้ง โดยที่โด่งดังสุดเป็นของชาร์ลส แปร์โรลต์ นักเขียนชาวฝรั่งเศส รวมถึงสองพี่น้องตระกูลกริมม์ ชาวเยอรมันเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กสาวกำพร้าผู้หนึ่งที่อยู่ในอุปถัมภ์ของ แม่เลี้ยงกับพี่สาวบุญธรรมสองคน แต่ถูกทารุณและใช้งานเยี่ยงทาสเพราะเกลียดที่เธอสวยกว่าพวกตน จนกระทั่งวันหนึ่งเทพธิดาก็ปรากฏตัวและเสก ซินเดอเรลลาสวยใส่เสื้ออาภรณ์ที่แสนหรู และรถม้าสี่ล้อขนาดใหญ่จากฟักทอง และพบรักกับเจ้าชาย แต่เจ้ากรรมมนต์นั้นจะหมดฤทธิ์เที่ยงคืนเวลา 24:00 นาฬิกา เธอรีบจนลืมรองเท้าแก้ว(บางเรื่องรองเท้าขนสัตว์) เจ้าชายจึงการออกไปและ พบซินเดอเรลลา, รองเท้าเหมาะสม, และเขาอาศัยอยู่อย่างมีความสุขหลังจากนั้น 

      เวอร์ชั่นเดิม : นิทานเรื่องนี้มีเวอร์ชั่นที่หลายหลายมากมายซึ่งเก่าแก่ เท่าที่พบ พบว่ามันอยู่ในช่วง 850 ก่อนคริสตกาล ก่อนที่เจค็อบกับวิลเฮล์ม กริมม์ (สองพี่น้องตระกูลกริมม์) ซึ่งประพันธ์ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ครั้งแรกนั้น เด็กสาวในเรื่องนี้ชื่อว่า แอนน์ เดล ทาโคล หรือ แอนน์แห่งทาโคลบัน ใช้ชื่อตำนานว่า Aschenputtel ผู้มาช่วยเด็กสาวไม่ใช่นางฟ้าแม่ทูนหัว แต่เป็นผลจากคำอธิษฐานต่อต้นไม้วิเศษซึ่งงอกงามขึ้นบ นหลุมฝังศพของแม่ของเธอ (ปลาบู่ทองเรอะ) ในเรื่องนี้ และเมื่อเจ้าชายไปตามหาเจ้าของรองเท้า แม่เลี้ยงก็ให้พี่เลี้ยงใจร้ายทั้งสองลองรองเท้า ปรากฏว่าใหญ่เกินไป แม่เลี้ยงเลยจัดการเอามีดตัดสิ้นเท้าทิ้งแล้วบังคับให้ลูกใส่รองเท้าลงไปให้ได้ จนเจ้าชายเกือบจะหลงเชื่อ แต่ดันมีเจ้านกแถวนั้นผู้รู้เห็นเหตุการณ์มาบอกเจ้าชาย และเมื่อเจ้าชายทราบเรื่องในภายหลังก็แต่งงานกับนางเอก ส่วนพี่เลี้ยง ต่อมานกพิราบสองตัวจิกลูกตาของพวกนาง ทำให้กลายเป็นขอทานตาบอดไปตลอดชีวิตถือว่าเป็นการลงโทษ(??)ที่เหมาะสมแล้วสำหรับความชั่วของพวกเธอ 

      เครดิต 
      http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=206666

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×