คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : part 3
ติ๊ด ติ๊ด...
เสียงโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องทำให้ผมต้องละสายตาไปจากเลนส์กล้องที่ตอนนี้กำลังปรับอยู่ และหันไปกดรับมันโดยไม่ได้มองชื่อคนที่โทรเข้ามาด้วยซ้ำไป
“ฮัลโหล”
[นายอยู่ไหนน่ะ] อีกฝ่ายกรอกเสียงห้วนๆลงมา เลยทำให้ผมรู้เลยละว่าคนที่โทรมาคือใคร คนที่พูดแบบนี้ไม่มีใครหรอกนอกจาก จุนฮยองน่ะ = =
“ฉันทำงาน”
[ที่ไหน]
“ที่บริษัทนั่นแหละ” ผมบอกพร้อมกับถอนหายใจอีกรอบ ให้ตายสิน่า ทำไมถึงได้ชอบโทรมารบกวนเวลาทำงานทำการของคนอื่นเขานักนะ
[ฉันอยู่ที่บริษัทพอดี สตูไหนละเดี๋ยวฉันเข้าไปหา] ความจริงแล้วผมทำงานอยู่กับบริษัทที่จุนอยองเซ็นสัญญาอยู่น่ะ ความจริงแล้วปกติที่นี่จะแบ่งออกเป็นสองตึก อีกตึกหนึ่งจะเกี่ยวกับด้านดนตรี โดนส่วนมากพวกนักร้องหรือนักแสดงร่วมถึงพวกเทรนนี่จะอยู่ที่นี่ ส่วนผมจะอยู่อีกตึกหนึ่งเพราะว่ามันไม่ค่อยเกี่ยวข้องกันมากเท่าไหร่เพราะที่ผมทำงานอยู่ พวกเราทำงานเกี่ยวกับนิตยสารต่างๆ
“นายจะมาทำไม ฉันทำงานนะ”
[แวะไปไม่ได้หรือไง - -]
“แล้วแต่นายก็แล้วกัน ฉันอยู่สตูดิโอ B1 แค่นี้นะ”
[ดะ..เด]
ยังไม่ทันที่จุนฮยองจะได้พูดอะไร ผมก็กดตัดสายเสียก่อน ให้ตายสิ - -* ทั้งๆที่ผมกำลังทำงานอยู่แท้ๆ แต่ทำไมเขาถึงได้ชอบมากวนทุกทีเลยนะ
“ฮยอนซึงนางแบบพร้อมแล้วนะ”
“ครับ เข้ามาได้เลย” ผมบอกพร้อมกับเช็คเลนส์กล้องอีกที เพื่อดูความเรียบร้อย ไปนานจีน่าก็
เดินออกมาพร้อมกับชุดราตรีสีแดงเพลิงที่ขลับให้ผมสีเข้มๆของเธอดูเซ็กซี่มากขึ้น เธอดูแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นว่าผมมาเป็นช่างภาพ แต่เธอก็เก็บความสงสัยนั่นเองไว้พร้อมกับระบาย
รอยยิ้มมาให้ผม
การถ่ายแบบเริ่มได้ซักพักหนึ่งแล้ว จีน่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว มันไม่แปลกหรอกที่เธอจะทำได้
ดีเพราะว่าเธอคงเคยชินกับการถ่ายแบบมามากมายแล้วนับไม่ถ้วน ทุกท่วงท่าที่เธอขยับตัวมัน
ช่างดูดีมาก จนผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์เหลือล้นเสียจริงๆ
แชะๆ
ผมกดชัดเตอร์รัวๆ เพื่อเก็บภาพเซ็ตสุดท้าย เพื่อให้ภาพมันออกมาดูดีที่สุดผมเลยพยายามจัดมุมให้มันดูดีมากที่สุด อีกอย่างมันก็เพราะจีน่าดูดีอยู่แล้ว ผมเลยไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่เธอยืนอยู่เฉยๆ เธอก็ดุดีอยู่แล้ว
“เสร็จแล้วครับ สวยมากเลย” ผมบอกพร้อมกับลดกล้องลง และเดินมาที่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อดู
รูปที่เพิ่งถ่ายเสร็จไป
“ขอฉันดูหน่อยได้มั้ย”
“ได้สิครับ รูปที่ผมเลือกเอาไว้มันโอเคมั้ย ?”
“ว้าว สวยมากเลยแฮะ นายนี่มีฝีมือเหมือนกันนะ”
“เห็นแบบนี้ผมก็เป็นตากล้องมาเป็นปีแล้วนะ”
“ฉันชอบมากเลย รูปพวกนี้โอเคเลย เดี๋ยวฉันขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ ขอบคุณที่ทำงานอย่างนักนะ”
“เหมือนกันครับ”
เธอระบายร้อยยิ้มให้ผมอีกครั้ง ก่อนที่ร่างบางกำลังจะก้าวไปทางห้องแต่งตัวประตูบานใหญ่ก็ถูกผลักเข้ามาเสียก่อน
แอ๊ด....
“ฮยอนซึง” เสียงเรียกที่คุ้นหูทำให้ผมหันไปมองตามต้นเสียง และแน่นอนว่าจีน่าเองก็เช่นกัน..... ทั้งเขาและเธอดูแปลกใจที่ได้พบกัน... จีน่าดูตกใจนิดหน่อยแต่เธอก็ซ้อนอาการต่างๆไว้ได้อย่างแนบเนียนเพียงแค่ไม่กี่วินาที
ผิดกับจุนฮยองที่ตอนนี้สายตาดูดีจนใจปิดแทบไม่มิด……
“จีน่า” จุนฮยองเรียกชื่อเธอเสียงเบาก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ และฮาร่าก็เดินไปทางเขาเช่นกันแต่เธอกับเดินผ่านตัวจุนฮยองไปเสียเฉยๆ ก่อนที่จะมองจุนฮยองด้วยสายตาประมาณว่า
‘จุนฮยอง อย่า...’
แม้แต่เวลาที่เจอกับจุนฮยองข้างนอก เธอก็จะทำเหมือนกับว่าไม่สนใจเลยซักนิด แถมยังไม่มีท่าทีอะไรเลย ที่มันเป็นแบบนี้เพราะว่าเธอไม่ได้รับอนุญาตจากทางบริษัทให้คบใคร และเธอก็ยินดีให้มันเป็นแบบนั้น...
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันทำร้ายหัวใจของใครอีกคน
“จุนฮยองอา’ ผมเรียกจุนฮยองที่ยืนนิ่งอยู่นานเพื่อเรียกสติเขา
“ไง ฮยอนซึง เราไม่ได้เจอกันนานเลยแฮะ”
“ก็นายเอาแต่ทำงานนี่นา”
“นั่นสินะ” จู่ๆจุนฮยองก็เหมือนกับคนที่เป็นใบ้ไปเสียเฉยๆ ทั้งๆที่ปกติเขาไม่เป็นแบบนี้เลยซักนิด
“นี่จุนฮยอง” ผมเรียกเขาอีกครั้งพร้อมกับลงมือเก็บข้าวของของตัวเองไปด้วย “ไปนั่งรอฉันแปบ
นึง”
“?”
“วันนี้ไปกินบะหมี่กันเถอะนะ ^^” ผมบอกพร้อมกับระบายรอยยิ้มกว้างส่งให้อีกคน จุนฮยองเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างสงสัยนิดหน่อย ที่เห็นว่าผมทำตัวน่ารัก (?) แปลกๆ
“ไม่สบายเหรอ” จุนฮยองถามผมกลับมาด้วยท่าทางกวนประสาท จนผมอยากจะกล้องราคาแพงปาใบหน้าหล่อๆของเขาซักทีสองที
“กวนนักนะ ไมไปก็ไม่เป็นไร”
“อืมไปสิ เร็วๆนะฉันจะรอ” จุนฮยองบอกพร้อมกับระบายรอยยิ้มที่มุมปากเหมือนที่เขาชอบทำบ่อยๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาแถวๆนั้น
ผมมองตามแผ่นหลังของจุนฮยองที่กำลังเดินไป ให้ตายสิ ! ทำท่าทางแบบนั้นจะเป็นอะไรอีก
หรือเปล่านะ จู่ๆผมก็รู้สึกเป็นห่วงจุนฮยองขึ้นมาเสียเฉยๆเลย แต่ผมก็ห่วงแค่ตามประสาเพื่อนเท่านั้นแหละไม่มีอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น เพราะจุนฮยองเป็นเพื่อนที่ดี(?) โอเคผมยอมรับว่าแม้บางครั้งเขาจะกวนประสาทไปบ้าง แต่ผมก็รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้อยู่กับจุนอยองไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
เพราะงั้น ผมเลยไม่ชอบที่จะเห็นจุนฮยองทำสายตาเศร้าแบบนั้น..... แค่ให้เขายิ้มได้ซักนิดผมก็พอใจแล้ว
ผมใช่เวลาไม่นานในการเก็บของข้าวของของผมไม่ได้เยอะอะไรมากมาย แต่ก็มีบางส่วนที่จุนฮยองเอาไปช่วยถือเอาไว้ พวกเราเดินมาได้ซักพักจนจะถึงที่จอดรถอยู่แล้ว แต่ผมกลับนึกขึ้นได้ว่าตัวเองดันลืมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่สตูดิโอ
ให้ตายสิเมื่อไหร่ผมจะเลิกนิสัยขี้ลืมซักทีนะ
“นี่จุนฮยองไปรอที่รถเลยนะ”
“แล้วนายจะไปไหน - -”
“ฉันลืมโทรศัพท์เอาไว้ที่สตูดิโอน่ะ”
“ให้ตายสิ เบอะจริงๆเลยนายเนี้ย”
“รออยู่นี่แหละไม่ต้องพูดมาก”
“รีบไปรีบมาละ”
“รู้แล้วน่า”
ผมทำหน้าหงิกใส่จุนฮยองก่อนจะวิ่งออกมากลับมาเอาโทรศัพท์ที่สตูดิโอ แต่จู่ๆก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเสียเฉยๆ - - เข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า ถ้าให้รอไปเข้าที่คอนโดไม่ไหวแน่ๆ ในระหว่างที่ผมกำลังเดินไปที่ห้องน้ำผมก็ได้ยินเสียคนคุยกัน ซึ่งมันเป็นเสียงที่ผมคุ้นหูอย่างประหลาด จนทำให้ผมต้องหยุดฟัง
“นายก็รู้ว่าเราไม่ควรมาเจอกัน”
“เธอคิดว่าฉันสนหรือไง”
“นายไม่สนแต่ฉันสน แล้วนายก็รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร”
“ทำไม เป็นเพราะมันหรือไง”
“นายก็รู้ว่ามันไม่เกี่ยวกับจุนฮยอง”
“ทำไมละจีน่า เธอไม่ยอมกลับมาหาฉันเพราะมันงั้นเหรอ”
“ฉันกับนายน่ะเรา...” เธอพูดเสียงเบาราวกับกำลังเจ็บปวด
“เธอลืมฉันได้งั้นเหรอจีน่า”
“…..”
“เลิกรักฉันได้งั้นเหรอ”
“ฉะ..ฉัน”
“ฉันรักเธอ”
เขาไม่รอให้เธอพูดอะไร พร้อมกับประกบริมฝีปากของตัวเองลงมาที่ริมฝีปากของจีน่า ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ขัดขืนอะไรเลยซักนิดเดียว เรียกว่าขัดขืนไม่ได้เสียมากกว่าเพราะตอนนี้เธอดูเหมือนสติจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยด้วยซ้ำ
ผมเห็นน้ำใส่ๆ ที่รดรินอยู่บนแก้มขาวของเธอ.....
ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจผมหยุดนิ่ง.... นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่กับแน่
ทำไมถึงได้ทำอะไรลับหลังจุนฮยองโดยที่ไม่รู้สึกผิดเลยซักนิดเดียว ทำไมเอถึงได้มาจูบกับผู้ชายอีกคนโดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แถมคนที่เธอกำลังจูบอยู่มันยังเป็นคนที่ทั้งเธอและจุนฮยองรู้จักเป็นอย่างดี..... แถมเขายังเป็นเพื่อนสนิทของจุนฮยองด้วย ทำไมเขาสองคนถึงได้ทำแบบนี้......
ยุน ดูจุน กับ... ชเว จีน่า
ทำไมถึงได้ทำอะไรลับหลังจุนฮยองโดยที่ไม่รู้สึกผิดเลย.....
ดีแล้วที่จุนฮยองไม่ได้ตามผมมา ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องรู้สึกเจ็บปวดมากแน่ๆที่เห็นภาพแบบนี้....
“พอได้แล้ว ! ” เธอบอกพร้อมกับผลักดูจุนออกไปอีกทาง “ฉันจะไม่มาพบนายอีกแล้ว”
“ถ้าเธอทำได้ก็ลองดู” ดูจุนพูดด้วยเสียงเดือดดานไม่แพ้กัน เขาจ้องเธอด้วยความโกธร
“พอซักที” จีน่าบอกพร้อมกับเดินออกมาทางที่ผมกำลังยืนอยู่ !
ให้ตายสิ ! แบบนี้หลบไม่ทันแล้ว
“นาย”
“เอ่อ คือ...ฉันลืมของน่ะ”
“เมื่อกี้นาย... ช่างเถอะ” ดูเหมือนว่าเธอจะพูดอะไรซักอย่าง แต่ก็ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นไว้ ก่อนที่ร่างบางจะเดินออกไปอีกทาง ทิ้งผมเอาไว้กับความคิดมากมายที่พุ่งเข้ามาในหัว
ให้ตายสิ... เรื่องนี่จุนฮยองจะรู้ไม่ได้เด็ดขาด....
ผมจะไม่บอกถ้ามันจะทำให้จุนฮยองเจ็บปวด..... เรื่องนี้ผมต้องเก็บมันไว้....
ผมเดินกลับมาที่รถด้วยสายตาเหม่อลอย ก่อนจะถูกจุนฮยองบ่นอีกยกใหญ่ว่าทำไมถึงได้ไปนานอย่างนี้ แต่ผมก็บอกปัดไปว่าไม่มีอะไร ตลอดทางผมไม่พูดอะไรกับจุนฮยองเลยซักคำเดียว เพราะผมรู้ว่าถ้ามองหน้าจุนฮยองนานกว่านี้ซักเสี้ยววินาทีเดียว ผมอาจจะสงสารเขาจรบอกเรื่องทั้งหมดไปเลยก็ได้
จุนฮยองขับรถมาไม่นานก็มาถึงคอนโดของผม ที่อยู่ใกล้ๆบริษัท
“นายอยากกินอะไร” ผมถามพร้อมกับเดินเข้าไปในครัวเพื่อหาวัตถุดิบเพื่อเตรียมอาหาร
“อะไรก็ได้”
พอเห็นจุนฮยองบอกแบบนั้นผมก็เลือกทำอาหารง่ายๆแบบรามยอนซึ่งผมเป็นห่อติดบ้านไว้อยู่แล้ว ผมจัดการลวกเส้นรามยอนพร้อมกับใส่ไข่ลงไป และเทมันใส่หม้อใหญ่ๆ พร้อมกับเดินไปหยิบโค้กที่อยู่ในตู้เย็นออกมาก
ความจริงแล้วผมไม่ชอบดื่มโคล่า แต่เพราะว่าจุนฮยองชอบดื่มมัน ไม่สิต้องเรียกว่าชอบมากๆเลยต่างหาก จนผมเคยคิดว่าถ้าซักวันเขาขาดมันเขาอาจจะตายก็ได้ = = เพราะงั้นผมเลยมีโค้กติดอยู่ในตู้เย็นสองสามขวด โดยที่บ้างครั้งจุนฮยองก็ซื้อมาไว้ แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่ผมซื้อเข้ามาเอง
“เสร็จแล้ว” ผมบอกพร้อมกับวางหม้อลงบนโต๊ะตัวเตี้ยๆที่อยู่หน้าโซฟา
“ทำไมใส่หม้อใหญ่จัง”
“กินไปเถอะฉันขึ้เกลียดล้างจานน่ะ”
“นายจะกินด้วยหรือเปล่า”
“แน่นอนสิ” ผมบอกพร้อมกับนั่งลงข้างๆจุนฮยอง โดยมองใบหน้าด้านข้างของเขาไปด้วย ทำไมกันนะผมถึงได้รู้สึกว่าใบหน้านี้มันดูเศร้ายังไงไม่รู้
“มองออะไร”
“นายโอเคหรือเปล่า” จู่ๆผมก็ถามออกไป ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ชอบเห็นเขาทำหน้าเศร้าแบบนี้ก็ได้
“ฉันเหรอ….”
“….”
“ก็คงจะโอเคละมั้ง”
“แล้วทำไมถึงได้ทำหน้าเศร้าแบบนั้นละ”
“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกแบบไหน” จุนฮยองพุดเสียงเรียบแต่มันกลับเต็มไปด้วยความเศร้าที่แฝงออกมาจากทางน้ำเสียงอย่างชัดเจน... ผมรู้ดีว่าเขารู้สึกแบบไหน
การรักใครซักคนแต่ไม่สามารถแสดงออกมันได้อย่างเต็มที่
“จะบอกว่าเจ็บปวด มันก็ไม่ใช่ เพราะตัวฉันเริ่มชินชาซะแล้ว”
“….”
“แต่เพราะว่าฉันรักเธอมาก ฉันเลยไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาเท่าไหร่”
อ่า... นั่นสินะ อาจจะเป็นผมเองละมั้งที่คิดมาไปเอง เพราะจุนฮยองดูเหมือนจะยอมทุกอย่างให้ผู้
หญิงคนนั้น....
“ถ้างั้นนายก็เลิกทำหน้าเศร้าเสียที เพราะนายเลือกแบบนี้เอง” ผมบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบแก้มจุนฮยองเบาๆ
“นั่นสินะ”
“รู้แล้วนายก็ยิ้มซะสิ” ผมบอกพร้อมกับยืดแก้มของเขาทั้งสองข้างเพื่อให้จุนฮยองยิ้ม จนเจ้าตัวทำหน้าเซ็งๆออกมา
“เลิกหยิกแก้มฉันซักที - -”
“ทำไมหะ ! ที่นายยังแกล้งฉันเลย”
“เพราะนายเป็นแมวของฉัน ฉันเลยแกล้งนายได้”
“แมวบ้านนายสิ - -”
“ฮ่าๆ แมวโกธรซะแล้ว”
“นี่นาย !!!!” ให้ตายสิพอยิ้มได้แล้วก็มาแกล้งผมแบบนี้เนี้ยนะ -3- ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้นะสู้ให้นั่งหงอยเป็นหมา(บ้า)ไปนั่นแหละดีแล้ว “ฉันเกลียดนายแล้ว !”
“ฮ่าๆๆๆ เวลาอยู่กับนายแล้วฉันรู้สึกดีนะ”
“อะ...อะไร คิดจะแกล้งกันอีกแล้วงั้นเหรอ”
ประโยคเมื่อกี้ของจุนฮยองทำให้หัวใจผมเต้นรัวขึ้นอย่างกับมีคนเอามือมาเขย่ามันแรงๆยังไงยังงั้น นี่ขาพูดอะไรออกมาเคยรู้ตัวบ้างมั้ยเนี้ย !!!
“ฉันเปล่าแกล้งนายซักหน่อยนี่นา”
“….”
“ที่ฉันพูดเป็นความจริง” อ่า....ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าตัวเองตัวเบาๆแบบแปลกๆ แถมในหัวใจมันยังกลวงโบ๋ไปหมดเลย....ให้ตายสิ
“งั้นเหรอ ก็ดี”
“อะไรกันพูดแค่นี้น่ะเหรอ” จุนฮยองบอกยิ้มๆพรอมกับผลักหัวผมเบาๆ
“ไม่คุยกับนายแล้ว !!” ผมบอกพร้อมกับปัดมือของจุนฮยองออกไป และแกล้งหันไปให้ความ
สนใจกับราเมงที่อยู่ในหม้อแทน >//< ให้ตายสิ ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกันแน่เนี้ย !!
“ฮ่าๆ อะไรกันพูดแค่นี้ก็เขินซะแล้ว”
“เหอะ !” ผมสบถเบาๆพร้อมกับเบ้ปากใส่จุนฮยองที่เอาแต่นั่งหัวเราะหึๆเป็นคนบ้าอยู่ข้างๆ.... ผมมองใบหน้าด้านข้างของจุนฮยองที่ตอนนี้มันดูสดใสมากเหลือเกิน.....จุนฮยองหัวเราะไม่บ่อยนักหรอก แต่ผมน่ะชอบทุกครั้งที่เป็นจุนฮยองยิ้มเลยละ.....ผมไม่เคยคิดเลยว้าผู้ชายที่แสนจะเย็นช้าคนนี้เวลายิ้มแล้วจะทำให้โลกสดใสขนาดนี้
มันอาจจะเป็นเพราะว่า....ผมชอบรอยยิ้มของเขาละมั้ง
แต่มึงแม้ว่าจุนฮยองจะกำลังยิ้มอยู่ แต่แววตากลับไม่เคยยิ้มตามเลยซักครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามปกปิดมันเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน แต่ผมรู้ดีเลยละว่ามันดูเศร้ามากแค่ไหน.....
“อยู่ข้างฉันแบบนี้นะฮยอนซึง” จุนฮยองบอกพร้อมกับยิ้มบางๆที่มุมปาก “นายน่ะคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน”
“อืม ^^”
ผมบอกพร้อมกับยิ้มตอบกลับไป....ถึงจะเป็นแค่เพื่อนกันแต่ผมได้ยืนอยู่ข้างๆเขาตรงนี้มันก็ดีมากแล้วละ
ผมชอบที่จะเห็นจุนฮยองยิ้มและมีความสุขโดยการที่ผมทำเพียงแค่มองดูเขาอยู่ห่างๆ และอยู่เคียงข้างเขาเวลาที่เขารู้สึกไม่สบายใจ...... ผมไม่อยากจะให้รอยยิ้มแบบนี้มันจางหายไป....
เพราะงั้นเรื่องของจีน่าผมจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นและลืมๆมันไปซะ.....เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดเพรารู้ว่าคนรักของตัวเองไม่ซื่อสัตว์
เพราะผมอยากเห็ยรอยยิ้มของจุนฮยอง......
To be continued..........
ความคิดเห็น