คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : part 2
Part 2
1 ปีก่อน
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนที่ผมเพิ่งกลับมาที่โซลใหม่ๆ ความจริงผมไปเรียนต่อที่เยอรมันเมื่อสองปีก่อน ก่อนจะกลับมาหางานทำที่โซล บ้านเกิดของผมที่ๆผมคิดว่าผมคุ้นเคยกับมันมากที่สุดแล้ว และงานแรกของผมก็คือ...
การเป็นช่างภาพ....เพราะตัวผมชอบการถ่ายภาพมาที่สุด เพราะงั้น...มันถึงเป็นงานที่ค่อนข้างดีเลยยังไงละ J
ผมยิ้มเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ก็จะก้าวเท้าเข้าไปในบริษัทใหญ่และเดินหาสตูดิโอที่ตัวเองต้องมาถ่ายภาพวันนี้ งานแรกของผมมันเป็นแค่งานง่ายๆ เพียงแค่ถ่ายรูปหน้าปกนิตยาสารใหม่ของเดือนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าใครๆที่เรียกเกี่ยวกับด้านนี้มา แน่นอนว่าพวกเราต้องเคยทำมันมาแล้วทุกคน....แต่ถึงมันจะเป็นแค่งานง่ายๆ แต่ก็ทำให้ผมประหม่าอยู่นิดๆละนะ = =
ก็มันเป็นงานแรกนี่นา....
แอ๊ด ~
ผมผลักประตูบานใหญ่ของสตูดิโอเข้าไป ก่อนจะชะโงกหน้าเขาไปดูข้างใน (แอบดูสถานการณ์) ข้างในมีคนมายังไม่มานัก มีแค่ช่างไฟสองสามคนที่คอยเตรียมอุปกรณ์อยู่เท่านั้น....อ่า ผมไม่ได้มาช้าไปใช้มั้ยนะ - - ;
“เอ่อ..คือ” ผมเดินเข้าไปข้างในก่อนจะส่งเสียงแรกผู้หญิงที่อยู่แถวๆนั้นเบาๆ
“น้องมีอะไรหรือเปล่าค่ะ ?”
“คือว่าผมเป็นช่างภาพน่ะครับ” ผมบอกเธอพร้อมกับระบายรอยยิ้มฝืดๆ รู้สึกเกรงจังแฮะ - -+ เธอไล่สายตามองผมจรดปลายเท้า ก่อนจะยิ้มแห้งๆ ท่าทางของผมมันไม่เหมือนคนเป็นช่างภาพขนาดนั้นเลยหรือไง T^T
“ช่างภาพที่มาใหม่ใช่มั้ยค่ะ”
“ครับ”
“งั้นก็เชิญทางนี้เลยค่ะ” เธอบอกพร้อมกับพาผมไปที่โต๊ะตัวเล็กๆ เพื่อให้ผมได้วางข้างของที่หอบมาทำงานด้วยวันนี้
“เดี๋ยวฉันขอตัวไปเตรียมฉากก่อนนะ มีอะไรก็ถามได้ ^^”
“อ่อ ครับ เดี๋ยวผมว่าจะเช็คกล้องซักหน่อย ขอบคุณมากนะครับ” ผมบอกพร้อมกับก้มหัวให้เธอ เพราะดูเหมือนว่าเธอจะเป็นรุ่นพี่ผมเกือบๆ จะสามปีได้
เมื่อพี่สาวคนนั้นเดินไปแล้ว ผมก็เริ่มจัดแจงและเช็คอุปกรณ์ต่างๆของตัวเองเพื่อความสะดวกในการใช้ แล้วอีกอย่างผมจะได้ไม่ไปเป็นตัวถ่วงคนอื่นด้วยน่ะนะ ถึงผมจะเป็นตากล้องมือใหม่ แต่ผมก็ไม่อยากทำให้คนในกองเดือดร้อนไปด้วยหรอกนะ
งานแรกของผมมันต้องออกมาดีสิ !
เวลาผ่านไปเกือบๆครึ่งชั่วโมง นางแบบของผมก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย อ่า ผมชักตื่นเต้นแล้วสิ > <
การถ่ายแบบเป็นไปอย่างราบรื่น วันนี้ผมทำได้ดีเลยละ ^^ อาจจะมีบางครั้งที่มึนๆบาง (อ้าว = =) แต่ก็พอถูๆไถไปได้งานครั้งนี้ถือว่าประสบผลสำเร็จละนะ > < ฮิๆ
“นายถ่ายภาพสวยมากเลยแฮะ” จู่ๆ ทีมงานหญิงคนนึงก็เดินมาแตะบ่าผมเบาๆ (คนเดียวกับเมื่อเช้านั่นแหละ) “ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นมือใหม่ ทำได้ดีกว่าตากล้องบางคนด้วยซ้ำ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ยังต้องฝึกอีกเยอะเลย”
“แต่ฉันว่านายถ่ายรูปสวยมากเลยนะ”
“ขอบคุณครับ” พอได้ยินคนชมแบบนี้แล้วมันเขินๆ แฮะ -////- ปกติผมไม่ค่อยถูกชมบ่อยนักหรอก
“ยินดีที่ได้ร่วมงานนะ ^^”
“ครับ ^^”
“ฉันชื่อนานะ นายละ”
“ผมชื่อ จาง ฮยอนซึง”
“ชื่อเพราะแฮะ งั้นเดี๋ยวเอาไว้คุยกันนะฮยอนซึง ฉันขอตัวไปเก็บของก่อน”
“ครับ ^^”
ตอนนี้ผมก็เก็บของเสร็จแล้ว แล้วผมจะทำอะไรต่อดีนะจะกลับคอนโดเลยมันก็จะไว้ไปมั้ย ? ไหนๆก็ว่างๆอยู่แล้วผมแวะออกไปหาเดินเล่นข้างนอกดีกว่า ผมเดินออกมานอกสตูดิโอโดยไม่ลืมหยิบกล่องถ่ายรูปคู่ใจออกมาด้วย เวลาไปไหนมาไหนผมมักจะพกมันติดตัวอยู่ตลอดเวลาเลยละ เวลาเจอรูปหรือวิวสวยๆ จะได้ไม่พลาดที่จะเก็บภาพมันยังไงละ
หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วผมก็เดินสำรวจบริษัทใหญ่ยักษ์นี่ไปด้วย จนตัวเองเดินมาถึงดาดฟ้าของบริษัทตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่นี่มันกว้างมากเลยละด้านบนดาดฟ้าถูกเปลี่ยนให้เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และใช้หินอ่อนปูตามทางเดินแถมยังมีตันไม้ต้นเล็กต้นใหญ่ที่ถูกใช้ประดับสถานที่ มันทำให้ที่นี่ดูสวยมากๆเลยละ
เหมาะแก่การใช้จัดพลูปาร์ตี้มากเลยๆแหละ ผมชอบปาร์ตี้นะ > < ไหนๆก็มาแล้วถ่ายรูปไว้ซะหน่อยดีกว่า
ผมหยิบกล้องที่พกติดตัวขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้ นอกจากที่นี่จะสวยมาก พอมีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสีครามแบบนี้แล้วมันยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่เลยให้ตายเถอะ > < แบบนี้ผมคงไม่พลาดที่จะเก็บภาพแบบนี้เอาไว้
แชะๆๆๆๆ
หมับ !
ในระหว่างที่ผมกำลังรัวชัดเตอร์อยู่ มีก็มือใหญ่ๆของใครคนนึงมาคว้าข้อมือของผมเอาไว้ !!
“นายกำลังถ่ายอะไร”
เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบจนผมสัมผัสได้ แววตาสีดำคมกริบจ้องมาที่ผมด้วยความโกธรโดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองทำอะไรผิด ใบหน้าเนียนขาวถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน !!!
“ฉันถามว่านายกำลังทำอะไร เป็นนักข่าวหรือไง”
“ผะ..ผม ป่าว ไม่ใช่นะ 0.0”
“แล้วนายถ่ายรูปอะไร มายุ่งเรื่องของพวกฉันทำไม”เขาตวาดลั่นพร้อมกับกำข้อมือผมแน่นขึ้นกว่าเดิมจนผมรู้สึกปวดข้อมือไปหมด !!
“ฉันไม่ได้ถ่ายอะไรนายซักหน่อย ฉันไม่เห็นนายด้วยซ้ำไป” ผมบอกพร้อมกับปัดมือของอีกคนออกไป ให้ตายเถอะมาทำงานวันแรกก็ซวยซะแล้ว ฮยอนซึงเอ๋ย!
“เอากล้องนายมา”
“อะไรนะ ?”
“ฉันบอกให้เอากล้องนายมา”
“อะไร ทำไมฉันต้องให้นายด้วย”
หมับ !
เขาไม่รอให้ผมพูดจบ เขากระชากกล้องตัวใหญ่ที่ผมถืออยู่ตอนแรกออกไปจากมือผมโดยที่ผมเองไม่ทันได้ตั้งตัวเลยซักนิดเดียว แถมยังถือวิสาสะอดเมมโมรี่การ์ดออกมาก่อนจะโยนหักมันมิ้งและออกไปอีกทาง O.o บ้าชะมัด ! รูปสวยๆของผมเกือบทั้งหมดอยู่ในนั้นเลยนะ ! ร่างสูงทำท่าจะปากล้องราคาแพงของผมลงกับพื้นแต่เสี้ยววินาทีที่เขากำลังจะปล่อยมือนั้น กลับมีนิ้วเรียวยาวของใครอีกคนคว้าข้อมือเขาเอาไว้เสียก่อน
“ไม่เอาน่า จุนฮยอง” เสียงหวานๆมี่เพราะราวกลับเสียงเพลงลอยออกมาจากริมฝีปากบางสีนู้ดของเธอ ทำให้ผมต้องตกตะลึงกับภาพตรงหน้า นี่มัน....
ชเว จีน่า
“อย่าใจร้อนนักเลย”
“แต่มัน...!”
“จุนฮยองอ่า ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าใจร้อน” เธอปรามจุนฮยองอีกครั้งก็จะหันใบหน้าเรียวสวยมาคุยกับผม “ส่วนนาย.. ฉันต้องขอโทษแทนจุนฮองด้วยแล้วกัน ส่วนเรื่องเมมโมรี่เดี๋ยวฉันจะจ่ายค่าเสียหายให้ มันคงแพงมากเลยสินะ”
มันต้องแพงสิ !! แต่มันไม่ใช่ราคาเมมโมรี่หรอกนะ แต่มันเป็นรูปถ่ายของผมที่ถ่ายภาพเอาไว้มากมายตั้งแต่มาถึงโซลนะสิ แบบนี้ภาพสวยๆของผมมันก็หายไปหมดน่ะสิ !! แล้วแบบนี้มันจะเอาคืนกลับมาได้ยังไง TT^TT บ้าที่สุด
“ไม่ต้องหรอก ในนั่นมันไม่มีรูปอะไรมาก ส่วนเรื่องเมมโมรี่เดี๋ยวผมซื้อเองได้”
“หึ ! ทำมาเป็นหยิ่งไม่อยากรับของ แต่พอคุดคุ้ยหาข่าวของคนอื่นนี่เก่งจังนะ !”
“นี่นาย เลิกพูดจาหมาๆแบบนี้ซักที ฉันไม่ได้เก็บรูปของนายเอาไว้ซักหน่อย !” ผมเถียงออกไป ก็มันจริงนี่นาผมไม่เห็นด้วยซ้ำว่าสองคนนั้นยืนอยู่บนนี้ ถ้าเห็นผมไม่คิดจะเข้ามายุ่งหรอก !
“จุนฮยอง ฉันบอกให้ใจเย็นๆไงเล่า - -”
“เออๆ รู้แล้วน่า”
พอสิ้นเสียงของจีน่า จุนฮยองก็ทำเพียงแค่รับคำแบบส่งๆไปเท่านั้นแหละแต่สายยังคงส่งสายตาคมๆที่แฝงไปด้วยความไม่พอใจมาทางผม
“นี่นายน่ะ” จีน่าพูดเสียงเบา แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล ที่ผมเองก็ไม่เข้าเหมือนกัน “ที่นายเห็นฉันสองคนจูบกันน่ะ ช่วยเก็บเงียบเอาไว้ได้มั้ย”
“ตะ..แต่” แต่ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจูบกัน = = ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี้ย นี่พูดเลย
“จีน่า ออกไปก่อน”
“แต่นาย”
“ออกไปเถอะน่า เดี๋ยวฉันจัดการเอง” จีน่าถอนหายใจเบาๆ ก็พยักหน้ารับและเดินหายออกไปอีกทาง “คนแบบนายน่ะมันต้องเจอแบฉัน”
“หะ ?”
“อยากได้เท่าไหร่บอกมา” เขาพูดเสียงเรียบพร้อมกับหยิบเงินสดออกมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่ามันค่อนข้างเยอะเลยที่เดียว นี่เขากำลังคิดจะดูถูกผมหรือไง !!!
“ฉันไม่รับเงินของนาย”
“ทำไมละ แค่นี้มันพอเหรอ”
“ไม่ใช่มันไม่พอ”
“งั้นก็รับไปสิ”
“แต่ฉันไม่อยากได้เงินของนาย ”
“นายอยากได้เยอะกว่านี้สินะ” จุนฮยองมองผมด้วยสายตาเหยียดๆ ก่อนจะหยิบเงินขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่ง นั้นมันทำให้ผมรู้สึกเดือดดานขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ คนที่ชอบดูถูกคนแบบนี้น่ะผมเกลียดที่สุดเลย !!!
พึ่บ !!
“งั้นนายเอาไป !!!”
เพียงเสียววินาทีที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว เงินปึกหนึ่งก็ถูกโยนมากระทบใบหน้าของผมจนผมรู้สึกว่าหน้าชาไปหมด
“แค่นี่คงพอแล้วใช่มั้ย ?” เขายิ้มอีกครั้งก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไป ในขณะที่ผมยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนี่ราวกับรูปปั้น ให้ตายเถอะนี่มันน่าโมโหที่สุดเลย !!!!! คนบ้าอะไรทำไมถึงได้นิสัยเลวอย่างนี้ วันนี้มันวันซวยอะไรของผมกันนะ ทำไมต้องมาเจอคู่รักหลุดโลกนี่ด้วย !!
“บ้าชะมัด” ผมสบถเบาๆอย่างหัวเสีย ก่อนจะมองธนบัตรที่กระจายอยู่เกลื่อนไปหมด มองแล้วอารมณ์เสียชะมัดเลยแฮะ ! ผมทึ่งผมตัวเองอย่างหงุดหงิดอีกครั้งก่อนจะเดินออกมา ส่วนเงินพวกนั้นก็ทิ้งมันเอาไว้ตรงนั้นแล้วกันในเมื่อเจ้าของเขายังไม่อยากได้ผมจะไปยุ่งกับเงินของเขาทำไม !
“เธอเป็นของฉัน”
ในระหว่างที่ผมกำลังก้าวพ้นออกจากประตู ผมก็ได้ยินเสียงๆเข้มๆของใครคนหนึ่งที่ลอยเขามาในหู จนต้องหยุดฟังผมกวดสายตามองไปรอบๆบริเวณ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงบริเวณบันไดหนีไฟ เขาสบสายตาเข้ากับผมก่อนจะระบายรอยยิ้มออกมา และเดินหายไปอีกทาง ผมตกใจนิดหน่อยเพราะผมจำใบหน้าคมนั่นได้ดี แต่ก็ช่างมันเถอะ
ให้ตายเถอะมีพวกประหลาดโผล่มาอีกคนแล้ว หวังว่าพรุ่งนี้ผมคงไม่ต้องเจอกับคนพวกนี้อีกนะ
แต่...ทำไมคำพูดของ เขา มันถึงได้ดูแปลกๆนะ
เธอเป็นของฉัน งั้นเหรอ ?
2 day Later
พวกคุณเชื่อมั้ยว่าผมไม่เคยเชื่อสุภาษิตที่ว่า เกลียดอะไร ได้อย่างนั้น เลยซักครั้ง แต่วันนี้ จาง ฮยอนซึงคนนี้เชื่อมันแบสุดหัวใจเลย เป็นเพราะอะไรงั้นเหรอ....
“คุณจุนฮยองค่ะ เดี๋ยวเติมหน้าอีกนิดนะค่ะ”
เสียงช่างแต่งหน้าที่ดังลอดเข้ามาในหูทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแทบจะทันที จริงๆประโยคเมื่อกี้มันก็ไม่มีอะไรหรอกถ้ามันไม่มีชื่อของใครอีกคนลอยเข้าหูผมมาด้วย
จุนฮยอง
ใช่แล้วละ วันนี้เขาจะมาเป็นนายแบบของผมนั่นเอง ให้ตายเถอะคิดแล้วยังโกธรตัวเองเลยที่โง่รับงานมาโดยที่ไม่ตรวจสอบรายละเอียดของงานให้ดีก่อน ถ้ารู้จุนฮยองจะมาเป็นนายแบบนะ ให้ผมกี่แสนผมก็ไม่รับงานนี้หรอก
“แต่งหน้าเสร็จหรือยังครับเลยเวลามามากแล้ว” ผมตะโกนบอกพร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูเวลา ให้ตายสินี่มันเลยมาตั้งชั่วโมงกว่าแล้ว จะให้คนอื่นเขารอไปถึงไหน คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรือยังไง
ผมนั่งรอคุณชายเกือบๆห้านาทีกว่าจะได้เริ่มถ่าย ในระหว่างที่ผมกำลังถ่ายรูปเจ้าตัวทำหน้าเก๊กได้อ้อนอวัยวะเบื้องล่างของผมเป็นที่สุดเลยในตายสิ !!
“J หึ !”
ผม....
ผมน่ะนะ....
ผมน่ะ....อยากเข้าไปต่อยหน้าไอ้บ้านี่จริงๆเลย ! =[]=
เวลาผ่านไปเกือบๆสี่ชั่วโมง ในที่สุดผมก็ได้ขึ้นจากขุมนรกเสียที การถ่ายแบบที่แสนเนินนานในที่สุดมันก็ได้จบลงแล้ว T^T อาเมน ในระหว่างที่คนอื่นๆกำลังวุ่นวายอยู่กับงานของตัวเอง ผมก็กำลังนั่งเลือกรูปสวยๆที่จะเอาไปใช้ในนิตยาสาร N ยอมรับเลยละว่ารูปที่ถ่ายออกมานั้นจุนฮยองดูดีมากจริงๆ จนผมเลือกภาพไม่ถูกเลย นี่ผมไม่ได้ชมหรอกนะ ! ที่รูปมันออกมาสวยแบบนี้มันเป็นเพรีตากล้องดีแบบผมต่างหากเล่า !
“ไง” เสียงเข้มๆที่ดังขึ้นที่ข้างใบหู ทำให้ผมที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ถึงกับสะดุ้ง แล้วพอหันหน้าไปทางต้นเหตุก็เจอกับใบหน้าที่ทำให้ผมหงุดหงิดที่สุดเลย = =
“นี่นาย”
“เป็นไงบ้างละ เงินแค่นั้นน่ะ มันพอหรือเปล่า”
“ฉันไม่สนเงินของนาย ถ้าอยากได้คืนก็ไปเก็บเอาบนดาดฟ้านั้นก็แล้วกัน” ผมบอกพร้อมกับลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่จนถึงเมื่อกี้ และทำท่าจะเดินออกห่างจากจุนฮยองแต่เขากลับคว้าข้อมือผมเอาไว้เสียก่อน
“อย่ายุ่งกับจีน่า” น้ำเสียงเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความคุกกรุ่น ทำให้ผมต้องหันไปสบตากับเขาอย่างเสียไม่ได้ แววตาของที่มองมาที่ผมเต็มไปด้วยความโกธรเคืองผม โดยที่ผมเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ มีแต่พวกเขาสองคนที่เข้าใจผิดไปเอง
“ถ้าข่าวมันดังขึ้นมาฉันจะเล่นงานนายคนแรก โทษฐานที่ทำให้ผู้หญิงของฉันต้องเจ็บปวด”จุนฮยองสบตากับผม สายตาที่เขามองมามันทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น แถมแววตานั้นมันดูเป็นห่วงผู้หญิงที่กำลังถูกเอ่ยถึงมากอีกด้วย
เขาคงรักเธอมากสินะ มากขนาดไม่ยอมในชื่อเสียงของเธอแปดเปื้อนโดยที่ไม่ได้ห่วงตัวเองเลย
“เฮ้อ ~” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ “นี่ ฉันจะบอกอะไรให้นายรับรู้ไว้นะ”
“- -”
“ฉันน่ะ ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของพวกนายเลยด้วยซ้ำ ส่วนเมื่อวันก่อนฉันก็แค่ขึ้นไปถ่ายรูปวิวสวยๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนายกำลังจูบหรือทำอะไรกันแอยู่ แล้วอีกอย่างฉันไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน ต่อให้พวกนายคบกันฉันก็ไม่คิดจะเอาไปบอกใครหรอก อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่นักข่าวด้วยนายเองก็น่าจะรู้แล้วนี้ ” ผมร่ายยาวเพื่อบอกเหตุผลให้ใครอีกคนเข้าใจ จุนอยองดูงุนงงนิดหน่อยที่ผมพูดประโยคยาวๆแบบนี้ออกมา
“งั้นเหรอ” ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายขึ้นเยอะหลังจากที่ผมพูดจบประโยค ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าคนตรงหน้าเริ่มดูน่าสงสารกันนะ ทำไมกัน..ทำไมเขาถึงได้ดูรักเธอมากขนาดนี้กันนะ
“ฉันจะเชื่อใจนายได้ยังไง”
“ฉันไม่ได้บอกให้นายเชื่อ แต่ฉันก็อธิบายไปหมดแล้ว”
“ตอนนี้ฉันยังไม่เชื่อหรอกนะ....จำเอาไว้ว่านายอยู่ในสายตาของฉันตลอด”
“?”
“นายชื่ออะไร”
“จาง ฮยอนซึง”
“โอเค จาง ฮยอนซึง ยินดีที่รู้จัก J”
เขาบอกพร้อมกับคลี่ร้อยยิ้มแปลกๆออกมา... จนมันทำให้ใจผมเต้นผิดจังหวะแปลกๆ....
ตั้งแต่วันนั้นจุนฮยองก็คอยมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆกับผมเสมอ ตอนแรกผมก็ไม่ชอบที่มีคนคอยมาตามแบบนี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันกลายเป็นความเคยชินไปเสียหมดจนตัวผมลืมนึกไปว่าที่เขามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆกับผมแบบนี้ตัวเขาก็แค่อยากจะแน่ใจว่าผมจะไม่เอาเรื่องของเขากับจีน่าไปบอกกับใครต่อใคร แค่นั้นเอง
ผมน่ะ....ไม่คิดจะปากโปงหรอก
ตอนแรกตัวผมเองก็แค่เฉยๆ แต่ตอนนี้ผมก็แค่ไม่อยากให้ จุนฮยองตั้งเจ็บปวดเท่านั้นเอง เพราะผมรู้ว่าถ้าข่าวเผยออกไปจีน่านูนาจะต้องเลิกกับจุนฮยอนแน่
เพราะเธอไม่เคยให้ความสำคัญกับใครหรืออะไร มากกว่าความฝันของเธอ......
“ฮยอนซึง” เสียงเรียกพร้อมกับแรงสะกิดเบาๆที่หัวไหล่ทำให้ผมหลุดจากภวังค์
“จะเหม่อไปถึงไหนเนี้ย” กีกวังพูดพร้อมกับตบหน้าผมเบาๆเพื่อเรียกสติ
“คิดอะไรเพลินๆน่ะ” ผมบอกปัดพร้อมกับยกแก้วกาแฟที่ตอนนี้มันเริ่มละลายขึ้นมาดื่ม
“คิดถึงแฟนเหรอ”
“บ้าสิ ฉันไม่มีแฟนซักหน่อย”
“ฮ่าๆ นั่นสินะคุณหนูจาง ฮยอนซึง ผู้แสนเย็นชาจะไปมีแฟนได้ยังไง” เย็นชาบ้าอะไรละ ผมก็แค่ไม่อยากพูดอะไรมากก็เท่านั้นเอง
“เลิกพูดเถอะน่า”
“รู้แล้วๆ ฮ่าๆ” ถึงกีกวังจะบอกอย่างนั้นแต่เจ้าตัวยังคงหัวเราะไม่หยุดเลย ผมตีหน้าเซ็งใส่กีกวังก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับกาแฟของตัวเองต่อ พร้อมกับยกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูเวลา
อ่า... ใกล้ถึงเวลาแล้วแฮะ
“นี่กีกวังเข้าสตูดิโอได้แล้วนะ วันนี้นายตั้งทำงานนะลืมแล้วเหรอ”
“หะ ? จริงเหรอ นี่ถึงเวลาแล้วเหรอเนี้ย” เฮ้ออ ก็ใช่นะสิ
“ไปกันเถอะกีกวัง” บอกผมพร้อมกับวางเงินจำนวนหนึ่งลงบนโต๊ะกาแฟ ก็จะแตะบ่าของกีกวังให้เขาเดินออกมาด้วยกัน
ผมกับกีกวังแยกกันที่ชั้นสองของบริษัท เพราะกีกวังต้องเข้าไปในสตูดิโอที่อยู่ชั้นนี้ส่วนผมต้องขึ้นไปอีกสามชั้น อ่อ กีกวังกับผมเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ที่ผมเรียนอยู่มัธยมแล้วละก่อนที่ผมจะไปเรียนต่อ แต่เราก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อยๆเลยทำให้ยังสนิทกันเหมือนเดิม และแน่นอนว่ากีกวังเองก็เป็นตากล้องเหมือนกับผมเนี้ยแหละ ^^
พลั่ก !
ในระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน แต่ประตูกลับถูกจากภายในเสียก่อนจนทำให้ผมที่ไม่ทันได้มองโดนประตูกระแทกหน้าไปเต็มๆ โอ้ย ให้ตายสิ เจ็บชะมัด
“อะ ขอโทษนะ” เธอบอกเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือเล็กๆของเธอมาตรงหน้าผม พอผมเงยหน้ามองก็พบกับใครบางคนที่ผมรู้จักดี....
จีน่านูนา
“มะ..ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกเสียงตะกุกตะกักพร้อมกับลุกขึ้นจากพื้น “ผมเองต่างหากที่ไม่ได้มองทาง”
“ยังไงก็เถอะ ขอโทษด้วยแล้วกันนะจ้ะ ^^”
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวนะ”ผมบอกพร้อมกับจะเดินผ่านเธอเข้าไปในสตูดิโอ แต่เธอกลับคว้าข้อมือผมเอาไว้เสียก่อน.... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึง ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอเท่าไหร่
“เดี๋ยวสิ”
“?”
“เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า” ถ้าถามพร้อมกับเอียงคออย่างสงสัย... แต่ดูเหมือนว่าเธอจะจำผมไม่ได้แฮะ แน่ละก็มันผ่านมาปีกว่าแล้วนี่นาไม่แปลกที่เธอจะจำหน้าผมไม่ได้ ซึ่งมันก็ดีแล้วละนะ
“ไม่นี่ครับ” ผมบอกพร้อมกับระบายรอยยิ้มบางๆส่งให้เธอที่ยืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า
“งั้นเหรอ แต่ทำไมฉันถึงได้คุ้นหน้านายนักละ”
“ผมก็เดินผ่านไปผ่านมาในบริษัทค่อนข้างบ่อย คุณอาจจะเห็นผ่านๆก็ได้ เพราะนักร้องดังอย่างคุณคงไม่สนใจคนรอบข้างนักหรอก” ผมบอกพร้อมกับจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวย ที่มักปกปิดความจริงทุกอย่างเอาไว้ภายใต้ดวงตาที่สดใสตลอดเวลา ไม่เคยมีใครมองออกว่าจริงแล้วเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ผมอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่......
“นายหมายความว่ายังไง ?”
“ผมหมายถึงว่าคุณคงยุ่งมากจนไม่มีเวลาสังเกตใครน่ะ ^^”
“อ่อ นั่นสินะ ฉันก็เป็นแบบนั้นจริงๆนั่นแหละ ^^ ยังไงก็ขอตัวก่อนนะ”
“ครับ”
จีน่าเดินออกไปแล้ว แต่ผมยังคงนิ่งอยู่ที่เดิมและมองแผ่นหลังของเธอที่กำลังเดินออกไปอย่างช้าๆ.... ทุกท่วงท่าของเธอมันช่างดูดีเสียเหลือเกิน เพียงแค่เธอขยับตัวมันก็ดูมีเสน่ห์เหลือล้นจนใครๆก็ต่างหลงใหล ผมสีน้ำตาลขลับกับผิวสีน้ำผึ้งเนียนใส ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ละสายตาจากเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว.... แม้แต่ยงจุนฮยองที่มีความมั่นใจในตัวเองเอามากๆ แต่เขาก็ยังฝ่ายแพ้ให้กับเธอ
ผมถอนหายใจหนักๆ ไล่ความหงุดหงิดที่เริ่มก่อตัวขึ้นออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปในสตูดิโอเพื่อที่ตัวเองจะได้เริ่มทำงานเสียที
“อ้าว ฮยอนซึงมาแล้วเหรอ” ทีมงานที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้นร้องทักผม
“สวัสดีครับ นี่ผมมาสายไปหรือเปล่า” ผมทักทายพร้อมกับยิ้มให้เธอเหมือนกับทุกวัน
“จริงๆก็ไม่สายหรอกจ้า แต่นางแบบของนายน่ะมาแล้วนะ” หะ ? ทำไมมาเร็วนักละนี่มันยังไม่ถึงเวลาที่นัดกันเอาไว้ด้วยซ้ำ O.o ตายๆแล้วแบบนี้ผมจะเตรียมกล้องทันมั้ยเนี้ย ?
“แล้วแต่งหน้าเสร็จหรือยังครับ”
“ยังหรอกจ้า ยังไม่ได้เริ่มแต่งด้วยซ้ำไป ตอนนี้เธอไปเข้าห้องน้ำน่ะ ฮยอนซึงไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอก”
“อ่อ ผมตกใจหมดเลย = =”
“ฮ่าๆ เออนี่ ! นายรู้รึเปล่าว่านางแบบวันนี้น่ะสวยมากเลยนะ *0*” เธอบอกด้วยแววตาชื่อชมพร้อมกับสายตาเป็นประกายเลยละ นางแบบงั้นเหรอ ? ใครกันนะ...
“ใครเหรอครับ”
“ก็จีน่าไง เธอสวยมากเลยใช่มั้ยละแถมยังร้องเพลงเพราะอยู่ต่างหาก”
ชื่อที่ถูกเอ่ยขึ้นมาทำให้ผมใจหายแปลกๆ... ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากร่วมงานกับจีน่าที่เป็นรุ่นพี่หรอกนะ แต่ว่าผมแค่รู้สึกไม่สบายใจแปลกๆเท่านั้นเอง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร......
To be continued.................
ความคิดเห็น