คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
A bitter day, everything will fade away like this.
Someday, everything will be forgotten.
On that date. I would smile. But now I can not do anything with it.
No matter what. I can not do anything with it.
Although I will be sad to think of her again.
It would be difficult. But I will try to remove her out.
(a bitter day : hyuna feat.G-na junhyung)
เสียงบทเสียงที่ดูเศร้าสร้อยดังขึ้นด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังของหญิงสาว เธอสามารถแสดงอารมณ์ของเพลงได้ดีเอามากๆ น้ำเสียงหวานๆแต่กลับทรงพลังที่ดังออกมาจากริมฝีปากบางที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีกุหลาบของ chanel มันช่างเข้ากันกับใบหน้าคมๆของเธอเสียเหลือเกิน ดวงตาคมกลมโตที่แฝงไปด้วยความเศร้าถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำเงินเข้มๆ ทำให้ดูลึกลับและหน้าค้นหา จมูกโด่งเป็นสัน รับกันกับใบหน้าเรียวๆของเธอและผิวสีเข้ม มันทำให้ผู้หญิงบนเวทีดูมีเสน่ห์มากมายเสียเหลือเกิน..... เพราะมันเป็นแบบนั้น ‘เขา’ ถึงได้หลงใหลเธอ.....
เธอสวยมากจนเขาอยากจะครอบครองเธอเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว.......
เขากำลังยืนพิงประตูบานใหญ่ของสตูดิโอ พร้อมกับมองใบหน้าของเธอไปด้วย ดวงตาเรียวรีสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ดูลึกลับและแสนจะเย็นชา ทอดมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากสีแดงอ่อนๆของเขาหยักยิ้มขึ้นเล็กน้อย น้อยครั้งนักที่จะได้เห็นผู้ชายคนนี้ยิ้มเพราะตัวเขาไม่ใช่คนที่ยิ้มง่ายๆหรอก มันมีไม่กี่อย่างหรอกที่จะทำให้เขายิ้มได้ และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ไงละ นายหลงเสน่ห์รุ่นพี่จีน่าแล้วหรือไง” แรงสะกิดเบาๆที่ไหลพร้อมกับเสียงเล็กๆของใครบางคนทำให้จุนฮยองหลุดออกจากภวังค์ พร้อมกับใช่สายตาทอดมองไปยังคนที่ตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อยพร้อมกับยิ้มอีกครั้ง และพูดโต้ตอบกลับไป
“ฉันป่าวซักหน่อยโยซอบ นายเองก็น่าจะรู้”
“แต่สายตานายมันฟ้องนะ ^^” โยซอบบอกพร้อมกับยิ้มทะเล้นให้จุนฮยอง จนที่แก้มของเขาบุ๋มลงไปเล็กน้อยจนเห็นลักยิ้มเล็กๆที่ข้างแก้ม โยซอบเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ถึงแม้ว่าความจริงจะไม่เด็กแล้วก็ตาม เขามีดวงตาสีน้ำตาลกลมโต ที่ดูเข้ากับผมสีน้ำตาลอ่อนๆของเจ้าตัว รับกับผิวสีขาว มองๆแล้วโยซอบก็ดูน่ารักเหมือนกับเด็กจริงๆนั่นแหละ
“ฉันก็มองเหมือนกันหมดทุกคน”
“อ่า ฉันรู้แล้วน่า นายไม่เห็นต้องทำเสียงเข้มเลยนี่ -3-” โยซอบบอกพร้อมกับบู้ปากนิดหน่อย เขารู้ดีเลยละว่าจุนฮยองน่ะเย็นชาและโหดมากแค่ไหน แต่โยซอบเองก็ชินแล้วละ เพราะว่าจุนฮยองเป็นโปรดิวเซอร์เพลงให้เขาที่เป็นศิลปิน แถมยังเป็นคนแต่งเพลงให้เขาอีกต่างหาก เพราะงั้นขากับจุนฮยองเลยสนิทกันเหมือนเพื่อน
“นายน่ะรีบไปเตรียมตัวได้แล้ว อีกสองคิวนายต้องขึ้นร้องเพลงนะ” จุนฮยองเน็บโยซอบเบาๆทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่น่าที่ของเขาที่จะต้องมาดูแลศิลปินในค่าย แต่เพราะผู้จัดการของโยซอบไม่สบายตัวเลยต้องมาทำแทนเพราะถูกขอร้อง ทั้งๆที่เขาเบื่อหน่ายจะตายอยู่แล้ว เขาไม่ชอบออกมาทำงานแบบนี้นักหรอก เขาชอบที่จะหมกตัวอยู่ในห้องอัดนานๆ พร้อมกับแต่งเพลงไปด้วยซะมากกว่า
“รู้แล้วน่า เดี๋ยวฉันไปเตรียมตัวก่อน”
โยซอบบอกเมื่อเห็นว่าจีน่าลงมาจากเวทีแล้วก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้จุนฮยองยืนอยู่ตรงนั้นแค่คนเดียว หลังจากที่เขาละสายตาจากโยซอบ เขาก็ลากดวงตาสีดำไม่สบตากับใครอีกคน
เธอมองมาและทำเพียงแค่ยิ้มให้เขาเล็กๆ เหมือนกับพวกเขารู้กันแค่สองคน ก่อนที่เธอจะเดินจากไปและทำเหมือนว่าเขาเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศ จุนฮยองเองก็ทำแค่เพียงพยักหน้ารับเบาๆเท่านั้นเพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้....ไม่สิมันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วต่างหาก มันนานแค่ไหนแล้วที่เรื่องของเธอกับเขาเป็นได้เพียงแค่ ‘ความลับ’……
อีกด้านหนึ่ง
เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าสวยหวานราวกับผู้หญิง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสดใส กับจมูกโด่งรั้นบ่งบอกนิสัยของเจ้าด้วย ริมฝีปากบางสีเชอร์รี่ รับกับใบหน้าเรียวที่ถูกล้อมกรอบไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาล ซึ่งมันทำให้ผิวขาวๆของเขาดูขาวมากขึ้นไปอีก เขาทอดสายตามองไปยังร่างสูงพร้อมกับยกยิ้มขึ้นอย่างสมเพชตัวเองเล็กน้อย....
เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นและมองุนฮยองเงียบๆ เพราะเขารู้ดีว่าจุนฮยองกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น ตัวเขาไม่คิดจะเขาไปยุ่งหรอก ยืนดูอยู่ห่างๆมันก็มากเกินพอแล้วละ ร่างบางหันหลังกลับพร้อมกับโยนกล่องเค้กกล่องเล็กๆที่ซื้อติดมือมาลงถังขยะแถวนั้น
ตอนนี้มันก็ไม่มีความสำคัญอะไรอยู่แล้ว มันเป็นเพียงแค่ของที่ไม่มีวันส่งผู้รับก็เท่านั้นเอง
“ตื่นได้แล้ว !!!!” ผมตวาดเสียงดังพร้อมกับพยายามลากคนตัวใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงให้ตื่นเสียที เพราะนี้มันก็สายเอามากๆแล้ว อีกอย่างผมก็มีงานที่จะต้องไปทำด้วย แต่ดูเหมือนว่าคนบ้าที่นอนอยู่บนเตียงจะไม่มีท่าทางว่าจะลุกเลยให้ตายสิ !
“นี่ฉันบอกให้นายตื่นไงเล่าจะนอนไปถึงไหน !!”
ฟุบ !
ผมกระชากผ้าห่มออกอีกครั้งจนคนที่นอนอยู่บนเตียงต้องกระเด้งตัวขึ้นมาอย่างอัตโนมัติพร้อม
กับทำตาขวางใส่ผม ใบหน้าที่ดูหงุดหงิดกับผมสีน้ำตาลอ่อนๆสีดูยุ่งๆมันไม่ได้ทำให้เขาดูดีน้อยลงเลยซักนิดเดียว ใบหน้าเนียนที่ดูยุ่งๆเล็กน้อย กับดวงตาสีดำที่ดูลึกลับ ริมฝีปากสีแดงคล้ำเล็กน้อยจากการสูบบุหรี่จัดแต่มันไม่ได้ดูน่าเกลียด จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าเรียว ไหนจะผิวขาวๆที่โผล่พ้นเสื้อกล้าสีเข้มที่เขาใส่อยู่นั่นอีก ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าจุนฮยองดูดีมากจริงๆ
“ปลุกทำไมแต่เช้าหะ เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนเลยนะ !!!!”
“วันนี้ฉันต้องไปทำงาน!!!”
“แล้วฉันเกี่ยวอะไรด้วย !!! -*-”
“นายก็กลับห้องตัวเองไปสิไปนอนห้องตัวเอง ฉันจะออกไปทำงาน !!!” ผมตวาดใส่จุนฮยองอีกรอบ โดยที่เจ้าตัวยังคงได้แต่ทำหน้านิ่งเหมือนกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ! มาอาศัยห้องคนอื่นแท้ๆ ยังจะมีหน้ามาทำตัวแบบนี้อีก แต่ก็ช่างมันเถอะเพราะผมเองก็เริ่มจะชินแล้ว
“ถ้ารู้ว่านายจะบ่นมาอย่างนี้ฉันไม่น่ามาเลยให้ตายสิ”
“ฉันไม่ได้บอกให้นายมาซักหน่อยนี่ ทำไมถึงได้ชอบมากวนฉันนักหะ”
“สนุกดี”
“นายนี่มัน !!!...เอาเถอะ นายไปอาบน้ำได้แล้วไปฉันให้เวลาสิบนาทีฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว”
“สิบห้านาทีขาดตัว !!”
จุนฮยองบอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เฮ้อ ให้ตายเถอะทำไมผมถึงจะต้องมาพบมาเจอกับคนแบบนี้ด้วยเนี้ยเห็นแล้วหน้าโมโหชะมัดเลยให้ตายสิ ! อ่อ ! จุนฮยองเข้ามาแย่งที่นอนผมตั้งแต่เมื่อวานแล้วละ พอผมไล่ให้กลับก็ไม่ยอมกลับไปซะอย่างนั้นมันทำให้ผมต้องเนรเทศตัวเองไปนอนที่โซฟาที่อยุ่ให้ห้องรับแขกแทน ปวดหลังแทบตาย T^T
“เสื้อผ้าฉันอะ” ไม่นานจุนฮยองก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของผม
(ที่ตอนนี้โดนยึดไปแล้ว)เส้นผมของเขาเปียกลู่ไปกับใบหน้า พร้อมกับหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามอกขาว มันเป็นภาพที่ ถ้าผู้หญิงหลายคนมาเห็นต้องวิ่งเข้าใส่แน่ๆ = = (ความจริงมันอาจจะไม่เซ็กชี่
ปานนั้นหรอกไรเตอร์มโนเองล้วนๆ)
“อยู่ในตะกร้าไง” เมื่อวานจุนฮยองถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกและใส่เสื้อของผมนอนแทน ไม่ใช่
ว่าผมไม่ห้ามปกติผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเสื้อผ้าของผมอยู่แล้ว....แต่คนอย่างจุนฮยองเคยฟังใครที่ไหนละ - -
“มันยังไม่ได้ซักนี่ ฉันจะใส่ของนายแทนแล้วกันนะ - -”
“อะไรของนาย นี่นายยุ่งกับเสื้อผ้าฉันอีกแล้วนะ”
“ยืมเฉยๆ” เขาบอกหน้าตายพร้อมกับเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ของผมก็จะเลือกเสื้อผ้าออกมาตามใจชอบ เหมือนกับมาเลือกซื้อตามห้างอะไรอย่างงั้น - - ความเกรงใจเนี้ยมันอยู่ในสายเลือดบ้างมั้ย “เอาของเก่าไปซักให้ด้วยนะ”
“ซักอะไรของนาย - - เอากลับไปซักเองสิ”
“ไม่เอา ขี้เกลียดแบกมันหนัก” ได้ข่าวว่ามันมีแค่ชุดเดียวแถมแกยังขับรถมาเองด้วยไม่ใช่เรอะ =[]=+ !!!! “อะ เอาตัวนี้แหละ เสื้อนายสวยดีนะ” จุนฮยองบอกเสียงเรียบพร้อมกับหยิบเสื้อสีดำตัวหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้าและสวมมันแทบจะทันที ตะ...แต่นั้นมัน..เสื้อตัวโปรดของผมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม =[]= ไม่นะ !
“นี่นายนั่นมันเสื้อตัวโปรดฉันนะ ถอดๆๆ ถอดออกมาเดี๋ยวนี้ > <” ผมแทบจะเข้าไปตะกุยหน้าจุนฮยองทันที นี่มันเสื้อตัวโปรดของผมเลยนะ ผมเพิ่งได้มันมาจากปารีสเมื่อเดือนที่แล้วเองน้า T^T ยังใส่ไม่ถึงสองครั้งเลยแท้ๆ
“อย่าหวงได้ปะ แชร์ๆหน่ะ รู้จักมั้ย”
“ฉันไม่อยากแชร์ของกันนายยยยย ถอดออกมาเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่ ! มันสวยดีเพราะงั้นฉันจะใส่มันไปทำงาน” เขาบอกอย่างกวนประสาทพร้อมกับผลักหัวผมแรงๆจนหน้าผมจะจิ้มลงดินอยู่แล้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมหันมาสั่งผม “ทำรามยอนให้กินทีสิ หิวแล้ว”
กร๊าซซซซซซซ !!!! (พ่นไฟ) ไอ้บ้านี้มันจะมากเกินไปแล้วนะ หมอนั่นรู้มั้ยว่าเสื้อตัวนั้นราคาเท่าไหร่ฮือๆๆๆๆ เอาเสื้อชาวบ้านไปใส่แล้วยังมีหน้ามาสั่งให้ทำอาหารให้กินอีก T^T (สวยจะไม่ทน)
“ฮยอนซึงเร็วๆสิ กินวันนี้นะไม่ใช่พรุ่งนี้” ฮือๆๆๆ ไอ้บ้าๆๆๆๆ (ร้องไห้อย่างพ่ายแพ้)
“เอา !”
“- -” ผมวางรามยอนชามใหญ่ลงบนโต๊ะตัวเล็กๆที่ตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์ จุนฮยองที่กำลังนั่งดูทีวิอยู่หันมามองผมนิดหน่อยก่อนจะละสายตาไปหารามยอนแทน เหอะ ! เย็นชาจริงๆเลยให้ตายเถอะ แต่ยังไงจุนฮยองก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนแรกแล้วนี่นา เพราะเขาเย็นชาแบบนี้ใครหลายๆคนถึงได้หลงใหลในภาพลักษณ์ของจุนฮยอง
มีใครมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผู้ชายชื่อ ยง จุนฮยอง แต่ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะจริงจังกับใครซักคน ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาจุนฮยองมักจะเปลี่ยนคู่ควงบ่อยเป็นว่าเล่น แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเขาคบใครเกินสามวันซักคนเดียว ตอนแรกผมเองก็แปลกใจ แต่ตอนนี้ไม่แล้วละ...... ตั้งแต่ที่ผมรู้ความจริงทุกอย่างความสงสัยกับปัญหามากมายที่ตั้งขึ้นมาให้หัวมันก็จางหายไป
เพราะ....ผมรู้ว่าจุนฮยองเขามีคนสำคัญของเขาอยู่แล้ว แต่เพื่อปกป้องเธอ เขาจึงต้องออกไปกับคนอื่นๆ
“มองอะไร” เสียงเรียบๆของจุนฮยองทำให้ผมสะดุดตื่นจากภวังค์ของตัวเอง ผมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติและกลบร่องรอยเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ก่อนจะตอบจุนฮยองออกไป
“เปล่า ฉันแค่เหม่อน่ะ”
“เหม่อแล้วต้องมองมาที่ฉันด้วยหรือไง”
“ฉันมองข้ามหัวนายไปต่างหาก - -”
“อ๋อเหรอ” ถึงจุนฮยองดูเหมือนจะสงสัยนิดหน่อย แต่เขาไม่ได้ถามอะไรมากมายซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วละนะ
“ลงมานั่งกินด้วยกันสิ” ผมบอกพร้อมกับคว้าข้อมือผมให้ลงมานั่งข้างล่างด้วยกัน (เมื่อกี้ผมนั่งอยู่บนโซฟาส่วนจุนฮยองนั่งอยู่ที่พื้นน่ะ)
“ฉันไม่หิว” เพราะปกติผมไม่ค่อยทานข้าวเช้าอยู่แล้วละ ส่วนมาจะดื่มแต่กาแฟกับขนมปังมากกว่าเพราะว่าผมตื่นสายน่ะเลยไม่มีเวลาทำอาหาร = =
“กินเข้าไปเถอะน่า ไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวจะปวดท้องนะ”
“ใครที่ไหนบอกนาย”
“ยง จุนฮยอง - -”
“นี่นายจะกวนประสาทกันใช่มั้ย ? ? อิ่มแล้วก็เอาไปเก็บสิ”
“ยังไม่อิ่มแต่อยากให้นายมากินด้วย”
“ก็ฉันไม่หิวนี่”
“กินๆเข้าไปเถอะ” จุนฮยองบ่นเบาๆ พร้อมกับเลื่อนชามรามยอนที่พร่องไปกว่าครึ่งมาทางผม เอาเถอะทานเสียหน่อยมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร อีกอย่างเหมือนว่าวันนี้จะมีถ่ายงานยาวตลอดทั้งวันต่อให้เป็นตากล้องก็เถอะ มันก็เหนื่อยเหมือนกันนั่นแหละ = =
“วันนี้นายเลิกงานกี่โมง”
“หืม ?” ผมเงยหน้าขึ้นจากชามรามยอนและมองจุนอยองอย่างแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยปากตอบ “ก็น่าจะประมาณสองทุ่มละมั้งนายมีอะไรหรือเปล่า ? ”
“เดี๋ยวฉันแวะไปรับนายแล้วกัน”
“ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวฉันขับรถไปเองยังไงก็ต้องขนของไปอยู่แล้ว”
“ใครบอกว่าจะให้นายไปเอง”
“หะ ?”
“ฉันจะไปส่ง”
“ว่างมากหรือไง - -”
“วันนี้ฉันคงแวะเข้าไปนั่งเล่นอยู่ที่บริษัทรอนาย พอสองทุ่มแล้วเดี๋ยวจะไปรับ”
บอกว่าจะไปรับไปส่งขนาดนี้ มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ? - - เชื่อเถอะว่าคนอย่างจุนฮยองไม่มีทางทำอะไรแล้วไม่หวังผลเด็ดขาด มามุกนี้มันจะต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ - -
“นายจะมารับฉันทำไม ปกติก็ไม่เห็นมานี่นา”
“ฉันอยากกินข้าว - -” นั่นไงมีจุดประสงค์ชัดๆ - -
“ก็กินรามยอนไปแล้วนี่”
“ฉันหมายถึงตอนเย็น”
“นึกยังไงอยากกินข้าวกับฉันฮะ นายบ้าหรือบ้าเนี้ย ?”
“ไม่ฉันไม่ได้อยากกินข้าวกับนาย” อ้าวไอ้นี่ กินข้าวกับผมมันไม่ดีตรงไหนฮะ -*- “แต่อยากกินกับข้าวฝีมือนาย”
“ถ้าบอกว่าไม่ละ”
“นายไม่มีสิทธิปฏิเสธ” แล้วเขาจะมาถามผมเพื่ออะไรละเนี้ย ถ้าจะเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้น่ะนะ เฮ้อ ~ ให้ตายเหอะ การที่ผมได้มารู้จักกับนักแต่งเพลงชื่อดังอย่างจุนฮยองนี้มันเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีกันแน่เนี้ย - -+
“นายอิ่มหรือยัง”
“อิ่มแล้ว”
“งั้นฉันจะเห็บจานแล้วนะ จะได้ออกไปทำงานซักที”
“อือ”
หลังจากที่ผมจัดการกับซากจานชามเรียบร้อยแล้วจุนฮยองก็ขับรถมาส่งผมที่สตูดิโอที่นัดถ่ายทำ ก็จะขอตัวออกไปทำงานของตัวเอง ส่วนผมเองก็ต้องทำงานของตัวเองเหมือนกัน วันนี้ผมไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่เพราะทั้งนายแบและนางแบบน่ารักมากพวกเขามีความเป็นมืออาชีพน่าดู มันก็เลยทำให้งานเสร็จไว้กว่ากำหนดตั้งเยอะ
หลังจากที่เลิกกองเรียบร้อยแล้ว ผมก็ออกมานั่งรอจุนฮยองอยู่แถวๆหน้าบริษัท ผมนั่งรอจุนฮยองอยูเกือบๆชั่วโมงจนมันเลยเวลานัดมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววของจุนฮยองเลย ผมก้มหน้ามองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจหยิบไอโฟนที่อยู่ในกระเป๋าออกมากดโทรหาจุนฮยอง เสียงรอสายดังอยู่นานจนมันเกือบจะตัดไปแล้วแต่ปลายสายกดรับเสียก่อน
[ฮยอนซึง]
“นายอยู่ไหนนะ ฉันรอนานแล้วนะ”
[อ่อ โทษทีช่วยรออีกแปบนะ]
“นายว่างหรือเปล่า ถ้าไม่สะดวกไม่ต้องมาก็ได้นะ”
[เปล่า ฉันแค่เผลอหลับน่ะ] คงจะจริงละมั้งเสียงเขาดูเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนจริงๆนั่นแหละ ก็อย่างว่าคนทำอาชีพแบบจุนฮยองเวลานอนไม่ค่อยมีหรอก [เดี๋ยวออกไป รอซักสิบนาที]
“อืมๆ รีบมาละ”
ผมกดวางสายและเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าสะพาย ผมยอมรับเลยละว่าหัวเสียอยู่นิดหน่อยที่ต้องมานั่งรอใครนานๆแบบนี้ ทั้งๆที่ตอนนี้ผมน่าจะกลับบ้านไปตอนตีพุงแล้ว -0- ผมนั่งรอจุนฮยองอีกราวๆห้านาทีไม่นานรถสปอร์ตสีดำก็แล่นมาจอที่หน้าบริษัท(ขับรถหรือว่าบินมา ?)พร้อมกับจุนอยองที่เดินลงมาจากบนรถ
“ไง”
“ไงบ้าอะไรละ ฉันรอนายนานมากเลยนะ”
“อย่าบ่นน่า -0-”
“แล้วมันน่าบ่นมั้ยละหะ !!!”
“โทษทีแล้วหัน - -” จุนฮยองบอกปัดอย่างขอไปทีก่อนจะเริ่มหาววอดๆ เหมือนกับง่วงเต็มที ถ้ามารับผมแล้วมันลำบากขนาดนี้ก็อย่างมาเลยเหอะ - -
“นะ..”
ติ๊ด... ติ๊ด...
ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของจุนฮยองก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เขาหยิบโทรศัพท์เครื่องแพงออกมาจากกระเป๋ากางเกงตอนแรกเขาดูรำคาญนิดหน่อยที่จะรับมัน แต่พอเขาเห็นชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปทันที มันเหมือนว่าเขากำลังดีใจอยู่
“ฮัลโหล” จุนฮยองกดรับพร้อมกับกรอกเสียงลงไป แม้ว่ามันจะดูเรียบๆไม่มีอะไร แต่เสียงนั่นมัน
อ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัดเลยละ “อืม อยู่แถวบริษัทนั่นแหละ”
“เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า น้ำเสียงดูไม่ดีเลย”
“ให้ฉันไปหาได้หรือเปล่า...” เสียงของจุนฮยองดูเหมือนกำลังอ้อนวอนยังไงยังงั้น ทั้งๆที่ปกติเขาเป็นคนที่แสนเย็นชาและไม่เคยแสดงความรู้สึกอะไรเลยซักนิดเดียว แต่คนที่ทำให้จุนฮยองแสดงออกได้ขนาดนี้มีแค่เธอ คนนั้น แค่คนเดียว
“อือ แล้วจะรีบไปนะ แล้วเจอกันครับ” จุนฮยองเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะหันมามองหน้าผมด้วยสายตาราบเรียบเหมือนที่เคยเป็นก่อนที่ริมฝีปากสีแดงคล้ำนั่นจะเอ่ยออกมา
“วันนี้ขอโทษนะ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ว่างแล้ว”
“อืม ไม่เป็นไรหรอก”
“ให้ฉันแวะไปส่งนายก่อนแล้วกัน”
“ไม่ๆ ไม่ต้องหรอกคอนโดฉันกับบริษัทนายมันห่างกันตั้งเยอะ เสียเวลาเปล่าๆ”
“อือ” จุนฮยองลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่รถและกระชากเกียร์พร้อมกับออกตัวไปแทบจะ
ทันที
ผมยกมือลูบหัวตัวเองเบาๆ สัมผัสอุ่นๆจากมือของจุนฮยองเมื่อกี้ผมยังคงสัมผัสได้ จุนฮยองเป็นแบบนี้แหละแม้ภายนอกจะดูเย็นชา แต่ก็มีบางครั้งที่เขาใจดี... แต่จุนฮยองก็ใจดีกับทุกคนนั้นแหละ ผมก็แค่เป็นหนึ่งในนั้นก็เท่านั้นเอง
มีหลายครั้งที่จู่ๆจุนฮยองก็รีบออกไปแบบนี้ ขอเพียงแค่ผู้หญิงคนนั้นขอร้องให้จุนฮยองไปหา เขาก็จะรีบไปแทบจะทันทีเหมือนไม่อยากจะเสียเวลาซักวินาทีที่เขาจะได้ใช้ร่วมกับเธอ เพราะเธอคือคนสำคัญ
ทั้งๆที่ผมก็เป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องของเธอและจุนฮยองดีทุกอย่างแต่มันเป็นเพราะอะไร ทำไมหัวใจผมถึงได้เต้นผิดจังหวะแถมยังรู้สึกว่าในอกมันบีบๆ เหมือนจะหายใจไม่ออกยังไงยังงั้น.....นี่ผมเป็นอะไรงั้นเหรอ ถ้าใครรู้ก็ช่วยตอบคำถามของผมทีเถอะ......
ความคิดเห็น