ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicJunseung] Game of hearts เกมส์(รัก)ร้ายพลิกล็อคหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 56


    บทนำ

     

     

    A bitter day, everything will fade away like this.

    Someday, everything will be forgotten.

    On that date. I would smile. But now I can not do anything with it.

    No matter what. I can not do anything with it.

    Although I will be sad to think of her again.

    It would be difficult. But I will try to remove her out.

    (a bitter day : hyuna feat.G-na junhyung)


    เสียงบทเสียงที่ดูเศร้าสร้อยดังขึ้นด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังของหญิงสาว เธอสามารถแสดงอารมณ์ของเพลงได้ดีเอามากๆ น้ำเสียงหวานๆแต่กลับทรงพลังที่ดังออกมาจากริมฝีปากบางที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีกุหลาบของ chanel  มันช่างเข้ากันกับใบหน้าคมๆของเธอเสียเหลือเกิน ดวงตาคมกลมโตที่แฝงไปด้วยความเศร้าถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำเงินเข้มๆ ทำให้ดูลึกลับและหน้าค้นหา จมูกโด่งเป็นสัน รับกันกับใบหน้าเรียวๆของเธอและผิวสีเข้ม มันทำให้ผู้หญิงบนเวทีดูมีเสน่ห์มากมายเสียเหลือเกิน..... เพราะมันเป็นแบบนั้นเขาถึงได้หลงใหลเธอ.....


    เธอสวยมากจนเขาอยากจะครอบครองเธอเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว.......


    เขากำลังยืนพิงประตูบานใหญ่ของสตูดิโอ พร้อมกับมองใบหน้าของเธอไปด้วย ดวงตาเรียวรีสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ดูลึกลับและแสนจะเย็นชา ทอดมองไปยังหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ริมฝีปากสีแดงอ่อนๆของเขาหยักยิ้มขึ้นเล็กน้อย น้อยครั้งนักที่จะได้เห็นผู้ชายคนนี้ยิ้มเพราะตัวเขาไม่ใช่คนที่ยิ้มง่ายๆหรอก มันมีไม่กี่อย่างหรอกที่จะทำให้เขายิ้มได้ และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น


    ไงละ นายหลงเสน่ห์รุ่นพี่จีน่าแล้วหรือไงแรงสะกิดเบาๆที่ไหลพร้อมกับเสียงเล็กๆของใครบางคนทำให้จุนฮยองหลุดออกจากภวังค์ พร้อมกับใช่สายตาทอดมองไปยังคนที่ตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อยพร้อมกับยิ้มอีกครั้ง และพูดโต้ตอบกลับไป


    ฉันป่าวซักหน่อยโยซอบ นายเองก็น่าจะรู้


    แต่สายตานายมันฟ้องนะ ^^” โยซอบบอกพร้อมกับยิ้มทะเล้นให้จุนฮยอง จนที่แก้มของเขาบุ๋มลงไปเล็กน้อยจนเห็นลักยิ้มเล็กๆที่ข้างแก้ม โยซอบเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ถึงแม้ว่าความจริงจะไม่เด็กแล้วก็ตาม เขามีดวงตาสีน้ำตาลกลมโต ที่ดูเข้ากับผมสีน้ำตาลอ่อนๆของเจ้าตัว รับกับผิวสีขาว มองๆแล้วโยซอบก็ดูน่ารักเหมือนกับเด็กจริงๆนั่นแหละ


    ฉันก็มองเหมือนกันหมดทุกคน


    อ่า ฉันรู้แล้วน่า นายไม่เห็นต้องทำเสียงเข้มเลยนี่ -3-โยซอบบอกพร้อมกับบู้ปากนิดหน่อย เขารู้ดีเลยละว่าจุนฮยองน่ะเย็นชาและโหดมากแค่ไหน แต่โยซอบเองก็ชินแล้วละ เพราะว่าจุนฮยองเป็นโปรดิวเซอร์เพลงให้เขาที่เป็นศิลปิน แถมยังเป็นคนแต่งเพลงให้เขาอีกต่างหาก เพราะงั้นขากับจุนฮยองเลยสนิทกันเหมือนเพื่อน


    นายน่ะรีบไปเตรียมตัวได้แล้ว อีกสองคิวนายต้องขึ้นร้องเพลงนะจุนฮยองเน็บโยซอบเบาๆทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่น่าที่ของเขาที่จะต้องมาดูแลศิลปินในค่าย แต่เพราะผู้จัดการของโยซอบไม่สบายตัวเลยต้องมาทำแทนเพราะถูกขอร้อง ทั้งๆที่เขาเบื่อหน่ายจะตายอยู่แล้ว เขาไม่ชอบออกมาทำงานแบบนี้นักหรอก เขาชอบที่จะหมกตัวอยู่ในห้องอัดนานๆ พร้อมกับแต่งเพลงไปด้วยซะมากกว่า


    รู้แล้วน่า เดี๋ยวฉันไปเตรียมตัวก่อน


    โยซอบบอกเมื่อเห็นว่าจีน่าลงมาจากเวทีแล้วก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้จุนฮยองยืนอยู่ตรงนั้นแค่คนเดียว หลังจากที่เขาละสายตาจากโยซอบ เขาก็ลากดวงตาสีดำไม่สบตากับใครอีกคน


    เธอมองมาและทำเพียงแค่ยิ้มให้เขาเล็กๆ เหมือนกับพวกเขารู้กันแค่สองคน ก่อนที่เธอจะเดินจากไปและทำเหมือนว่าเขาเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศ จุนฮยองเองก็ทำแค่เพียงพยักหน้ารับเบาๆเท่านั้นเพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้....ไม่สิมันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วต่างหาก มันนานแค่ไหนแล้วที่เรื่องของเธอกับเขาเป็นได้เพียงแค่  ความลับ’……

     

    อีกด้านหนึ่ง


    เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าสวยหวานราวกับผู้หญิง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสดใส กับจมูกโด่งรั้นบ่งบอกนิสัยของเจ้าด้วย ริมฝีปากบางสีเชอร์รี่ รับกับใบหน้าเรียวที่ถูกล้อมกรอบไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาล ซึ่งมันทำให้ผิวขาวๆของเขาดูขาวมากขึ้นไปอีก เขาทอดสายตามองไปยังร่างสูงพร้อมกับยกยิ้มขึ้นอย่างสมเพชตัวเองเล็กน้อย....


    เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นและมองุนฮยองเงียบๆ เพราะเขารู้ดีว่าจุนฮยองกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ทำได้เพียงแค่มองเท่านั้น ตัวเขาไม่คิดจะเขาไปยุ่งหรอก ยืนดูอยู่ห่างๆมันก็มากเกินพอแล้วละ ร่างบางหันหลังกลับพร้อมกับโยนกล่องเค้กกล่องเล็กๆที่ซื้อติดมือมาลงถังขยะแถวนั้น

    ตอนนี้มันก็ไม่มีความสำคัญอะไรอยู่แล้ว มันเป็นเพียงแค่ของที่ไม่มีวันส่งผู้รับก็เท่านั้นเอง

     


     
    @คอนโดซี

    ตื่นได้แล้ว !!!!” ผมตวาดเสียงดังพร้อมกับพยายามลากคนตัวใหญ่ที่นอนอยู่บนเตียงให้ตื่นเสียที เพราะนี้มันก็สายเอามากๆแล้ว อีกอย่างผมก็มีงานที่จะต้องไปทำด้วย แต่ดูเหมือนว่าคนบ้าที่นอนอยู่บนเตียงจะไม่มีท่าทางว่าจะลุกเลยให้ตายสิ !


    นี่ฉันบอกให้นายตื่นไงเล่าจะนอนไปถึงไหน !!”


    ฟุบ !


    ผมกระชากผ้าห่มออกอีกครั้งจนคนที่นอนอยู่บนเตียงต้องกระเด้งตัวขึ้นมาอย่างอัตโนมัติพร้อม
    กับทำตาขวางใส่ผม ใบหน้าที่ดูหงุดหงิดกับผมสีน้ำตาลอ่อนๆสีดูยุ่งๆมันไม่ได้ทำให้เขาดูดีน้อยลงเลยซักนิดเดียว ใบหน้าเนียนที่ดูยุ่งๆเล็กน้อย กับดวงตาสีดำที่ดูลึกลับ ริมฝีปากสีแดงคล้ำเล็กน้อยจากการสูบบุหรี่จัดแต่มันไม่ได้ดูน่าเกลียด จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าเรียว ไหนจะผิวขาวๆที่โผล่พ้นเสื้อกล้าสีเข้มที่เขาใส่อยู่นั่นอีก ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าจุนฮยองดูดีมากจริงๆ


    ปลุกทำไมแต่เช้าหะ เมื่อคืนฉันไม่ได้นอนเลยนะ !!!!”


    วันนี้ฉันต้องไปทำงาน!!!”


    แล้วฉันเกี่ยวอะไรด้วย !!! -*-


    นายก็กลับห้องตัวเองไปสิไปนอนห้องตัวเอง ฉันจะออกไปทำงาน !!!”   ผมตวาดใส่จุนฮยองอีกรอบ โดยที่เจ้าตัวยังคงได้แต่ทำหน้านิ่งเหมือนกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ! มาอาศัยห้องคนอื่นแท้ๆ ยังจะมีหน้ามาทำตัวแบบนี้อีก แต่ก็ช่างมันเถอะเพราะผมเองก็เริ่มจะชินแล้ว


    ถ้ารู้ว่านายจะบ่นมาอย่างนี้ฉันไม่น่ามาเลยให้ตายสิ


    ฉันไม่ได้บอกให้นายมาซักหน่อยนี่ ทำไมถึงได้ชอบมากวนฉันนักหะ


    สนุกดี


    นายนี่มัน !!!...เอาเถอะ นายไปอาบน้ำได้แล้วไปฉันให้เวลาสิบนาทีฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว


    สิบห้านาทีขาดตัว !!”


    จุนฮยองบอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เฮ้อ ให้ตายเถอะทำไมผมถึงจะต้องมาพบมาเจอกับคนแบบนี้ด้วยเนี้ยเห็นแล้วหน้าโมโหชะมัดเลยให้ตายสิ ! อ่อ ! จุนฮยองเข้ามาแย่งที่นอนผมตั้งแต่เมื่อวานแล้วละ พอผมไล่ให้กลับก็ไม่ยอมกลับไปซะอย่างนั้นมันทำให้ผมต้องเนรเทศตัวเองไปนอนที่โซฟาที่อยุ่ให้ห้องรับแขกแทน ปวดหลังแทบตาย T^T


    เสื้อผ้าฉันอะไม่นานจุนฮยองก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำสีขาวของผม
    (ที่ตอนนี้โดนยึดไปแล้ว)เส้นผมของเขาเปียกลู่ไปกับใบหน้า พร้อมกับหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามอกขาว มันเป็นภาพที่ ถ้าผู้หญิงหลายคนมาเห็นต้องวิ่งเข้าใส่แน่ๆ
    = = (ความจริงมันอาจจะไม่เซ็กชี่
    ปานนั้นหรอกไรเตอร์มโนเองล้วนๆ)  


    อยู่ในตะกร้าไงเมื่อวานจุนฮยองถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกและใส่เสื้อของผมนอนแทน ไม่ใช่
    ว่าผมไม่ห้ามปกติผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเสื้อผ้าของผมอยู่แล้ว....แต่คนอย่างจุนฮยองเคยฟังใครที่ไหนละ - -
     


    มันยังไม่ได้ซักนี่ ฉันจะใส่ของนายแทนแล้วกันนะ - -


    อะไรของนาย นี่นายยุ่งกับเสื้อผ้าฉันอีกแล้วนะ


    ยืมเฉยๆเขาบอกหน้าตายพร้อมกับเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ของผมก็จะเลือกเสื้อผ้าออกมาตามใจชอบ เหมือนกับมาเลือกซื้อตามห้างอะไรอย่างงั้น - - ความเกรงใจเนี้ยมันอยู่ในสายเลือดบ้างมั้ย  “เอาของเก่าไปซักให้ด้วยนะ


    ซักอะไรของนาย - - เอากลับไปซักเองสิ


    ไม่เอา ขี้เกลียดแบกมันหนักได้ข่าวว่ามันมีแค่ชุดเดียวแถมแกยังขับรถมาเองด้วยไม่ใช่เรอะ =[]=+ !!!! “อะ เอาตัวนี้แหละ เสื้อนายสวยดีนะจุนฮยองบอกเสียงเรียบพร้อมกับหยิบเสื้อสีดำตัวหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้าและสวมมันแทบจะทันที ตะ...แต่นั้นมัน..เสื้อตัวโปรดของผมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม =[]= ไม่นะ !


    นี่นายนั่นมันเสื้อตัวโปรดฉันนะ ถอดๆๆ ถอดออกมาเดี๋ยวนี้ > <” ผมแทบจะเข้าไปตะกุยหน้าจุนฮยองทันที นี่มันเสื้อตัวโปรดของผมเลยนะ ผมเพิ่งได้มันมาจากปารีสเมื่อเดือนที่แล้วเองน้า T^T ยังใส่ไม่ถึงสองครั้งเลยแท้ๆ


    อย่าหวงได้ปะ แชร์ๆหน่ะ รู้จักมั้ย


    ฉันไม่อยากแชร์ของกันนายยยยย ถอดออกมาเดี๋ยวนี้เลย


    ไม่ ! มันสวยดีเพราะงั้นฉันจะใส่มันไปทำงานเขาบอกอย่างกวนประสาทพร้อมกับผลักหัวผมแรงๆจนหน้าผมจะจิ้มลงดินอยู่แล้ว ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมหันมาสั่งผม ทำรามยอนให้กินทีสิ หิวแล้ว


    กร๊าซซซซซซซ !!!! (พ่นไฟ) ไอ้บ้านี้มันจะมากเกินไปแล้วนะ หมอนั่นรู้มั้ยว่าเสื้อตัวนั้นราคาเท่าไหร่ฮือๆๆๆๆ เอาเสื้อชาวบ้านไปใส่แล้วยังมีหน้ามาสั่งให้ทำอาหารให้กินอีก T^T (สวยจะไม่ทน)


    ฮยอนซึงเร็วๆสิ กินวันนี้นะไม่ใช่พรุ่งนี้ฮือๆๆๆ ไอ้บ้าๆๆๆๆ (ร้องไห้อย่างพ่ายแพ้)

     เคร้ง !


    เอา !”


    - -ผมวางรามยอนชามใหญ่ลงบนโต๊ะตัวเล็กๆที่ตั้งอยู่หน้าโทรทัศน์ จุนฮยองที่กำลังนั่งดูทีวิอยู่หันมามองผมนิดหน่อยก่อนจะละสายตาไปหารามยอนแทน เหอะ ! เย็นชาจริงๆเลยให้ตายเถอะ แต่ยังไงจุนฮยองก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนแรกแล้วนี่นา เพราะเขาเย็นชาแบบนี้ใครหลายๆคนถึงได้หลงใหลในภาพลักษณ์ของจุนฮยอง


    มีใครมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผู้ชายชื่อ ยง จุนฮยอง แต่ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะจริงจังกับใครซักคน ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาจุนฮยองมักจะเปลี่ยนคู่ควงบ่อยเป็นว่าเล่น แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเขาคบใครเกินสามวันซักคนเดียว ตอนแรกผมเองก็แปลกใจ แต่ตอนนี้ไม่แล้วละ...... ตั้งแต่ที่ผมรู้ความจริงทุกอย่างความสงสัยกับปัญหามากมายที่ตั้งขึ้นมาให้หัวมันก็จางหายไป


    เพราะ....ผมรู้ว่าจุนฮยองเขามีคนสำคัญของเขาอยู่แล้ว แต่เพื่อปกป้องเธอ เขาจึงต้องออกไปกับคนอื่นๆ


    มองอะไรเสียงเรียบๆของจุนฮยองทำให้ผมสะดุดตื่นจากภวังค์ของตัวเอง ผมพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติและกลบร่องรอยเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน ก่อนจะตอบจุนฮยองออกไป


     เปล่า ฉันแค่เหม่อน่ะ


    เหม่อแล้วต้องมองมาที่ฉันด้วยหรือไง


    ฉันมองข้ามหัวนายไปต่างหาก - -


    อ๋อเหรอ”  ถึงจุนฮยองดูเหมือนจะสงสัยนิดหน่อย แต่เขาไม่ได้ถามอะไรมากมายซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้วละนะ


    ลงมานั่งกินด้วยกันสิผมบอกพร้อมกับคว้าข้อมือผมให้ลงมานั่งข้างล่างด้วยกัน (เมื่อกี้ผมนั่งอยู่บนโซฟาส่วนจุนฮยองนั่งอยู่ที่พื้นน่ะ)


    ฉันไม่หิวเพราะปกติผมไม่ค่อยทานข้าวเช้าอยู่แล้วละ ส่วนมาจะดื่มแต่กาแฟกับขนมปังมากกว่าเพราะว่าผมตื่นสายน่ะเลยไม่มีเวลาทำอาหาร = =


    กินเข้าไปเถอะน่า ไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวจะปวดท้องนะ


    ใครที่ไหนบอกนาย


    ยง จุนฮยอง - -


    นี่นายจะกวนประสาทกันใช่มั้ย ? ? อิ่มแล้วก็เอาไปเก็บสิ


    ยังไม่อิ่มแต่อยากให้นายมากินด้วย


    ก็ฉันไม่หิวนี่


    กินๆเข้าไปเถอะจุนฮยองบ่นเบาๆ พร้อมกับเลื่อนชามรามยอนที่พร่องไปกว่าครึ่งมาทางผม เอาเถอะทานเสียหน่อยมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร อีกอย่างเหมือนว่าวันนี้จะมีถ่ายงานยาวตลอดทั้งวันต่อให้เป็นตากล้องก็เถอะ มันก็เหนื่อยเหมือนกันนั่นแหละ  = =


    วันนี้นายเลิกงานกี่โมง


    หืม ?” ผมเงยหน้าขึ้นจากชามรามยอนและมองจุนอยองอย่างแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยปากตอบ ก็น่าจะประมาณสองทุ่มละมั้งนายมีอะไรหรือเปล่า ? ”


    เดี๋ยวฉันแวะไปรับนายแล้วกัน


    ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวฉันขับรถไปเองยังไงก็ต้องขนของไปอยู่แล้ว


    ใครบอกว่าจะให้นายไปเอง


    หะ ?”


    ฉันจะไปส่ง


    ว่างมากหรือไง - -”


    วันนี้ฉันคงแวะเข้าไปนั่งเล่นอยู่ที่บริษัทรอนาย พอสองทุ่มแล้วเดี๋ยวจะไปรับ


    บอกว่าจะไปรับไปส่งขนาดนี้ มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ? - - เชื่อเถอะว่าคนอย่างจุนฮยองไม่มีทางทำอะไรแล้วไม่หวังผลเด็ดขาด  มามุกนี้มันจะต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ - -


    นายจะมารับฉันทำไม ปกติก็ไม่เห็นมานี่นา


    ฉันอยากกินข้าว - -นั่นไงมีจุดประสงค์ชัดๆ - -


    ก็กินรามยอนไปแล้วนี่


    ฉันหมายถึงตอนเย็น


    นึกยังไงอยากกินข้าวกับฉันฮะ นายบ้าหรือบ้าเนี้ย ?”


    ไม่ฉันไม่ได้อยากกินข้าวกับนายอ้าวไอ้นี่ กินข้าวกับผมมันไม่ดีตรงไหนฮะ -*- แต่อยากกินกับข้าวฝีมือนาย


    ถ้าบอกว่าไม่ละ


    นายไม่มีสิทธิปฏิเสธแล้วเขาจะมาถามผมเพื่ออะไรละเนี้ย ถ้าจะเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้น่ะนะ เฮ้อ ~ ให้ตายเหอะ การที่ผมได้มารู้จักกับนักแต่งเพลงชื่อดังอย่างจุนฮยองนี้มันเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีกันแน่เนี้ย - -+


    นายอิ่มหรือยัง


    อิ่มแล้ว


    งั้นฉันจะเห็บจานแล้วนะ จะได้ออกไปทำงานซักที


    อือ


    หลังจากที่ผมจัดการกับซากจานชามเรียบร้อยแล้วจุนฮยองก็ขับรถมาส่งผมที่สตูดิโอที่นัดถ่ายทำ ก็จะขอตัวออกไปทำงานของตัวเอง ส่วนผมเองก็ต้องทำงานของตัวเองเหมือนกัน วันนี้ผมไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่เพราะทั้งนายแบและนางแบบน่ารักมากพวกเขามีความเป็นมืออาชีพน่าดู มันก็เลยทำให้งานเสร็จไว้กว่ากำหนดตั้งเยอะ


    หลังจากที่เลิกกองเรียบร้อยแล้ว ผมก็ออกมานั่งรอจุนฮยองอยู่แถวๆหน้าบริษัท ผมนั่งรอจุนฮยองอยูเกือบๆชั่วโมงจนมันเลยเวลานัดมาเกือบยี่สิบนาทีแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววของจุนฮยองเลย ผมก้มหน้ามองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจหยิบไอโฟนที่อยู่ในกระเป๋าออกมากดโทรหาจุนฮยอง เสียงรอสายดังอยู่นานจนมันเกือบจะตัดไปแล้วแต่ปลายสายกดรับเสียก่อน


    [ฮยอนซึง]


    นายอยู่ไหนนะ ฉันรอนานแล้วนะ


    [อ่อ โทษทีช่วยรออีกแปบนะ]


    นายว่างหรือเปล่า ถ้าไม่สะดวกไม่ต้องมาก็ได้นะ


    [เปล่า ฉันแค่เผลอหลับน่ะ] คงจะจริงละมั้งเสียงเขาดูเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนจริงๆนั่นแหละ ก็อย่างว่าคนทำอาชีพแบบจุนฮยองเวลานอนไม่ค่อยมีหรอก [เดี๋ยวออกไป รอซักสิบนาที]


    อืมๆ รีบมาละ


    ผมกดวางสายและเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าสะพาย ผมยอมรับเลยละว่าหัวเสียอยู่นิดหน่อยที่ต้องมานั่งรอใครนานๆแบบนี้ ทั้งๆที่ตอนนี้ผมน่าจะกลับบ้านไปตอนตีพุงแล้ว -0-  ผมนั่งรอจุนฮยองอีกราวๆห้านาทีไม่นานรถสปอร์ตสีดำก็แล่นมาจอที่หน้าบริษัท(ขับรถหรือว่าบินมา ?)พร้อมกับจุนอยองที่เดินลงมาจากบนรถ


    ไง


    ไงบ้าอะไรละ ฉันรอนายนานมากเลยนะ


    อย่าบ่นน่า -0-


    แล้วมันน่าบ่นมั้ยละหะ !!!”


    โทษทีแล้วหัน - -จุนฮยองบอกปัดอย่างขอไปทีก่อนจะเริ่มหาววอดๆ เหมือนกับง่วงเต็มที ถ้ามารับผมแล้วมันลำบากขนาดนี้ก็อย่างมาเลยเหอะ - -


    นะ..


    ติ๊ด... ติ๊ด...


    ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของจุนฮยองก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เขาหยิบโทรศัพท์เครื่องแพงออกมาจากกระเป๋ากางเกงตอนแรกเขาดูรำคาญนิดหน่อยที่จะรับมัน แต่พอเขาเห็นชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอสายตาของเขาก็เปลี่ยนไปทันที มันเหมือนว่าเขากำลังดีใจอยู่


    ฮัลโหลจุนฮยองกดรับพร้อมกับกรอกเสียงลงไป แม้ว่ามันจะดูเรียบๆไม่มีอะไร แต่เสียงนั่นมัน
    อ่อนโยนอย่างเห็นได้ชัดเลยละ
    อืม อยู่แถวบริษัทนั่นแหละ


    เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า น้ำเสียงดูไม่ดีเลย


    ให้ฉันไปหาได้หรือเปล่า...เสียงของจุนฮยองดูเหมือนกำลังอ้อนวอนยังไงยังงั้น ทั้งๆที่ปกติเขาเป็นคนที่แสนเย็นชาและไม่เคยแสดงความรู้สึกอะไรเลยซักนิดเดียว แต่คนที่ทำให้จุนฮยองแสดงออกได้ขนาดนี้มีแค่เธอ คนนั้น แค่คนเดียว


    อือ แล้วจะรีบไปนะ แล้วเจอกันครับจุนฮยองเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะหันมามองหน้าผมด้วยสายตาราบเรียบเหมือนที่เคยเป็นก่อนที่ริมฝีปากสีแดงคล้ำนั่นจะเอ่ยออกมา


    วันนี้ขอโทษนะ ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ว่างแล้ว


    อืม ไม่เป็นไรหรอก


    ให้ฉันแวะไปส่งนายก่อนแล้วกัน


    ไม่ๆ ไม่ต้องหรอกคอนโดฉันกับบริษัทนายมันห่างกันตั้งเยอะ เสียเวลาเปล่าๆ


    อือจุนฮยองลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่รถและกระชากเกียร์พร้อมกับออกตัวไปแทบจะ
    ทันที


    ผมยกมือลูบหัวตัวเองเบาๆ สัมผัสอุ่นๆจากมือของจุนฮยองเมื่อกี้ผมยังคงสัมผัสได้ จุนฮยองเป็นแบบนี้แหละแม้ภายนอกจะดูเย็นชา แต่ก็มีบางครั้งที่เขาใจดี... แต่จุนฮยองก็ใจดีกับทุกคนนั้นแหละ ผมก็แค่เป็นหนึ่งในนั้นก็เท่านั้นเอง


    มีหลายครั้งที่จู่ๆจุนฮยองก็รีบออกไปแบบนี้ ขอเพียงแค่ผู้หญิงคนนั้นขอร้องให้จุนฮยองไปหา เขาก็จะรีบไปแทบจะทันทีเหมือนไม่อยากจะเสียเวลาซักวินาทีที่เขาจะได้ใช้ร่วมกับเธอ เพราะเธอคือคนสำคัญ


    ทั้งๆที่ผมก็เป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องของเธอและจุนฮยองดีทุกอย่างแต่มันเป็นเพราะอะไร ทำไมหัวใจผมถึงได้เต้นผิดจังหวะแถมยังรู้สึกว่าในอกมันบีบๆ เหมือนจะหายใจไม่ออกยังไงยังงั้น.....นี่ผมเป็นอะไรงั้นเหรอ ถ้าใครรู้ก็ช่วยตอบคำถามของผมทีเถอะ......

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×