23
Killer
*เพลง I'm in love ที่จงฮยอนร้องในตอนนี้ค่ะ สังเกตดีๆจะเห็นว่าในวีดีโอมีโซจินด้วย5555
ปล.เวลาฟังต้องเปิดเสียงดังๆนะวีดีโอเสียงเบามาก^^
จงฮยอน....นายต้องไม่เป็นอะไรนะ....นายอย่าเป็นอะไรไปเลยนะ
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองไม่ยอมหยุดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง เธอยังจำกลิ่นคาวเลือดและความตกใจในวินาทีแรกที่เห็นร่างของจงฮยอนทรุดลงไปกองกับพื้นทั้งๆที่ยังคงกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนได้ดี เขาบาดเจ็บก็เพราะปกป้องเธอ ถ้าเขาเป็นอะไรไปโซจินนะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด
พี่โซจินค่ะ
มินอาที่วิ่งหน้าตาตื่นมาตามทางเดินของโรงพยาบาลโผเข้าไปกอดพี่สาวที่ยังคงเสียขวัญของเธอทันที
มินอา จงฮยอนเข้าไปในห้องฉุกเฉินตั้งนานแล้วแต่หมอก็ยังไม่ออกมาเลย
หญิงสาวพูดทั้งน้ำตา
ไม่เป็นไรหรอกนะค่ะพี่ พี่จงฮยอนจะต้องปลอดภัย
เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ
จองชินที่ยืนหน้าเครียดอยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉินหันมาถาม
ฉันก็ไม่รู้.....มีใครบางคนจะยิงฉันแล้วจงฮยอน.......จงฮยอนก็เอาตัวมาบังฉันเอาไว้
โซจินเล่าไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอกมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่มันกลับกำลังดึงเอาความทรงจำบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นกลับเข้ามาในหัวของจองชินอีกครั้ง.......
หรือว่าคนที่จะถูกจัดการจะเป็น......
อะไรเหรอจองชิน
มินอาถามด้วยความสงสัย
ก็....
แต่ประโยคต่อไปของชายหนุ่มกลับถูกขัดขึ้นเพราะหมอที่เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน โซจินรีบถลาเข้าไปหาเขาเพราะความเป็นห่วงจงฮยอน
เขาเป็นยังไงบ้างค่ะหมอ
คือ.....
หมอไม่ได้กำลังจะบอกว่าเขากำลังเสียเลือดมากแล้วที่โรงพยาบาลนี้ก็ไม่มีเลือดหมู่เดียวกับเขาเหลืออยู่แล้วใช่ไหมค่ะ!
เปล่าครับ....คือว่า
หรือว่ากระสุนไปโดนจุดสำคัญในร่างกายของเขาค่ะ!!
นั่นก็ไม่ใช่ครับ.....คือ
หรือว่า....หรือว่าหมอจะบอกว่าหมอพยายามสุดความสามารถแล้ว ไม่นะจงฮยอน!!!
มินอาต้องรีบเข้าไปประคองร่างที่กำลังจะทรุดลงไปกองกับพื้นของโซจินเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง
พี่ค่ะฉันว่าเราฟังคุณหมอพูดให้จบก่อนดีกว่าคะ
คุณหมอที่โดนโซจินขัดจังหวะการพูดไปหลายรอบขยับแว่นกรอบหนาของตัวเองให้เข้าที่เล็กร้อยก่อนจะกระแอมไอออกมาพอเป็นพิธีเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครพูดแทรกเขาอีก
ที่ผมกำลังจะบอกคือ คนไข้โดนกระสุนถากบริเวณช่วงท้องไปนิดหน่อยนอนพักรักษาตัวสองสามวันก็กลับบ้านได้แล้วครับ
หา!!
โซจินถึงกับลุกขึ้นมายืนทรงตัวเหมือนเดิมแทบไม่ทัน
จริงเหรอค่ะคุณหมอ
ครับทำแผลเสร็จเรียบร้อยก็ย้ายไปอยู่ห้องผู้ป่วยปกติได้เลยครับ
คุณหมอพูดก่อนจะเดินออกไป โซจินไม่รู้สึกเสียหน้าเลยซักนิดที่เมื่อกี้ตัวเองฟุ้งซ่านและโวยวายไปมากมาย เพราะแค่ได้ยินว่าจงฮยอนปลอดภัย......แค่นั้นมันก็พอแล้ว
ห้อง305 ห้องนี้แหละ
โซจินพึมพำเบาๆกับตัวเองก่อนจะค่อยๆเปิดประตูและย่องเข้าไปในห้องๆนั้นอย่างเงียบเชียบ จงฮยอนกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงคนไข้ ชายหนุ่มหลับมาตั้งแต่เมื่อวานจนกระทั้งถึงเช้าวันนี้เขาก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมาซักที
จากที่หมอบอกนายควรจะฟื้นได้ตั้งนานแล้วนี่นา
หญิงสาวพูดก่อนจะถอนหายใจออกมา วันนี้เธออุตส่าห์ตื่นเช้าขึ้นมาทำซุปเพื่อเอามาเยี่ยมเขาก่อนจะไปโรงเรียนแต่มันดันกลายเป็นว่าจงฮยอนยังตื่นขึ้นมากินซุปของเธอไม่ได้ซะนี่
งั้นไม่เป็นไรตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ค่อยกิน
โซจินวางซุปของเธอไว้ที่โต๊ะเล็กๆข้างเตียงก่อนจะเตรียมเดินออกไปจากห้อง แต่ข้อมือเล็กๆกลับถูกคนป่วยที่ตอนนี้น่าจะยังไม่ฟื้นฉุดรั้งเอาไว้ซะก่อน
นี่เธอจะไปไหนเนี่ย
จงฮยอนพูดเสียงงัวเงีย
จงฮยอน! นายฟื้นแล้วเหรอ
เธอร้องออกมาด้วยความดีใจก่อนจะรีบวิ่งไปหาเขา
ฟื้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
แล้วตอนนี้นายรู้สึกเป็นยังไงบ้าง เจ็บแผลตรงไหนรึเปล่า ฉันตามหมอให้มั้ย!!
ชายหนุ่มหลุดขำออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของโซจิน
ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า ว่าแต่เธอนั่นแหละวันนี้วันจันทร์นิทำไมถึงไม่ไปโรงเรียน
ฉันกะว่าจะมาเยี่ยมนายก่อนแล้วค่อยไปโรงเรียนนะ
เธอพูดก่อนจะดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียงคนไข้ของจงฮยอน
ฉันทำซุปมาให้นายด้วยนะ
เธอพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะเปิดฝากล่องทัพเพอร์แวร์ออก กลิ่นหอมอ่อนๆของซุปไก่ที่อยู่ในนั้นลอยอบอวนไปทั่วห้อง ใครที่ได้กลิ่นแบบนี้ก็ต้องน้ำลายสอกันทั้งนั้นแต่จงฮยอนกลับมองซุปตรงหน้าด้วยสายตาเมินเฉยซะอย่างนั้น
ทำหน้าตาแบบนี้หมายความว่าไง ซุปของฉันไม่น่ากินรึไง
โซจินถามอย่างฉุนๆ
เปล่าซักหน่อยแค่ซุปนี่มันไม่น่ากินเท่าซุปที่เพิ่งได้มาเมื่อเช้าก็เท่านั้นเอง
หะ!
ไม่รู้ว่าเรื่องที่ฉันโดนยิงไปถึงหูคนที่อยู่ปูซานได้ยังไง แต่พอฟื้นขึ้นมาปุ๊บที่ยงฮวากับซอฮยอนก็ส่งส่งซุปนั่นมาให้ฉันแล้วนะ
จงฮยอนพูดก่อนจะชี้ไปที่ชามซุปอีกชามที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับของโซจิน
เหอะ! ซุปไฮโซจากปูซานกับซุปไก่โลโซของฉันซินะ!!
เธอคิดพร้อมกับคว้าชามซุปที่ถูกส่งตรงมาจากปูซานมาวางลงตรงหน้าจงฮยอน
กินซุปนี่ให้อร่อยนะ ชิ!
อร่อยแน่นอนอยู่แล้ว
ชายหนุ่มพูดก่อนจะตักซุปเข้าปากหน้าตาเฉย นี่เขาไม่รู้เลยเหรอว่าเธอกำลังงอนนะ!! หรือว่าการโดนยิงจะทำให้ต่อมรับรู้ความรู้สึกคนอื่นของเขาเสื่อมไปแล้ว โซจินสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างเคืองๆก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับแผ่นกระดาษแผ่นเล็กๆที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอหยิบมันขึ้นมาอ่านซักพักพอหันไปเห็นจงฮยอนที่กำลังเอร็ดอร่อยอยู่กับซุปตรงหน้ารอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นมาทันที
อร่อยนักใช่ไหม....เหอะๆๆ
นิจงฮยอน เขาเขียนส่วนผสมของซุปที่นายกำลังกินอยู่มาให้ด้วยแหละ
เหรอมีอะไรมั่งละ
มีแต่ของดีๆทั้งนั้นเลยแหละ
...
อุ้งตีนหมี กระเพาะกบ สำไส้สุนัขดำ หนอนไม้ไผ่ภูเขา ลูกกระเดือกไก่ ยิ่งอันสุดท้ายนี่เด็ดมากเลย........อัณฑะวัว!!!!
เคร้ง!! เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้ทันทีที่โซจินอ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้นจบช้อนก็ร่วงลงมาจากมือของจงฮยอนโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ชายหนุ่มจะทำหน้าเหยเกเพราะความพะอืดพะอมและต้องการอ้วกไอ้สิ่งที่กินเข้าไปทั้งหมดนั่นออกมาให้ได้
เหอะๆ แล้วทีนี้ยังจะอยากกินซุปไฮโซจากปูซานนั่นมากกว่าซุปไก่ธรรมดาสามัญของฉันอยู่อีกมั้ย!
หญิงสาวพูดก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
ยัย.......ยัยนางมารร้ายยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!
โซจินก้มลงมองนาฬิกาข้อมือสีชมพูสุดหวานแหววของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
เฮ้อ.....ทันพอดีเลย
เธอแอบย่องออกมาจากโรงพยาบาลตอนที่จงฮยอนหลับไปแล้ว เพราะชายหนุ่มเอาแต่บอกว่าซุปไฮโซสูตรพิสดารมันทำให้เขารู้สึกวิงเวียน ปวดหัว ปวดท้อง อยากจะอ้วก บลาๆๆๆ ร้อยพันข้ออ้างที่จะบังคับให้เธออยู่กับเขา มันทำให้โซจินเกือบจะมาเรียนไม่ทันแต่เพราะวันนี้การจราจรคล่องตัวมากกว่าปกติทำให้เธอกลับมาถึงโรงเรียนก่อนเริ่มคาบแรกของวันนี้พอดีเป๊ะ!
พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงค่ะ! ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้!!
เสียงตะโกนโหวกเหวกของใครบางคนทำให้ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดของโซจินหยุดชะงักก่อนจะต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ใครกันนะทะเลาะกันตั้งแต่เช้าแบบนี้
ฉันไม่ยอมให้เป็นแบบนี้หรอก! คุณต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำเอาไว้
คนๆนั้นตะโกนดังมากซะจนแทบจะกลายเป็นเสียงกรีดร้อง แต่เพราะที่ตรงนั้นไม่มีใครอยู่เลยจึงไม่มีใครได้ยินนอกจากโซจิน ที่น่าแปลกใจก็คือ.....ทำไมหญิงสาวถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงของคนๆนี้นักนะ........
คุณจะทำอะไรนะปล่อยนะ!
โซจินถึงกับสะดุ้งเมื่อจู่ๆคนๆนั้นก็ร้องออกมาราวกับว่ากำลังโดนทำร้าย พร้อมกับร่างบางที่โผล่ออกมาจากมุมอับของกำแพง ใบหน้าขาวซีดกำลังตื่นกลัวและมีเม็ดเหงื่อผุดพราวขึ้นมาเต็มไปหมด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเธอเปลี่ยนไปเป็นดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังแห่งการเอาชีวิตรอดในช่วงชั่วเสี้ยววินาทีหนึ่งที่หันมาเห็นโซจิน..........แต่มันไม่ทันซะแล้ว ร่างบอบบางถูกใครบางคนผลักให้ร่วงลงมาจากบันไดขั้นบนสุดที่เธอยืนอยู่ โซจินเบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจเมื่อเห็นชัดเต็มสองตาว่าคนที่กำลังร่วงลงมากระแทกบันไดแต่ละขั้นเป็นใคร.........................
อึนจอง!!!
หญิงสาวกรีดร้องก่อนจะวิ่งถลาเข้าไปหาร่างของเพื่อนสนิท ตามตัวของอึนจองมีแต่รอยช้ำเพราะการกระแทก เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหว่างขาของเธอไม่หยุด
ละ........ลูกของฉัน
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่อึนจองพูดออกมาก่อนจะหมดสติไป โซจินรีบเงยหน้าขึ้นไปมองจุดที่ร่างของอึนจองร่วงลงมาเพื่อหวังว่าจะได้เห็นหน้าคนร้ายที่ผลักเพื่อนของเธอลงมา แต่สิ่งที่พบมันกลับมีเพียงเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆห่างออกไป และความว่างเปล่า.............
โซจินทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอ่อนนุ่มของตัวเองอย่างหมดแรง วันนี้เธอไปโรงพยาบาลมาทั้งหมดสองครั้ง ครั้งแรกเพราะไปเยี่ยมจงฮยอน ส่วนครั้งที่สองคือการพาอึนจองไปส่งโรงพยาบาล สิ่งที่หมอบอกกับเธอเกี่ยวกับอาการของอึนจองมันทำให้โซจินเรียนไม่รู้เรื่องตลอดทั้งวัน...........
หมอค่ะเพื่อนฉันเป็นยังไงบ้างค่ะ!
โซจินรีบวิ่งเข้าไปหาหมอทันทีที่เขาเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน นี่มันเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์แล้วที่เธอมานั่งลุ้นอาการของคนป่วยอยู่ที่นี่
คนไข้ปลอดภัยดีครับ พักฟื้นอีกซักพักก็กลับบ้านได้
หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินหมอพูดแบบนั้น แต่สีหน้าเคร่งเครียดของคุณหมอคนนี้กลับยังไม่ยอมจางหายไป ทำไมกันละก็ในเมื่ออึนจองปลอดภัยแล้วแท้ๆ
แต่...
แต่อะไรค่ะคุณหมอ
แต่หมอไม่สามรถรักษาเด็กในท้องของคนไข้ไว้ได้ครับ
หมายความว่าอึนจอง......
คนไข้แท้งครับ
ถ้อยคำที่เน้นชัดหนักแน่นของคุณหมอคนนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวโซจิน ตอนนี้อึนจองยังคงไม่รู้สึกตัว แต่ถ้าเธอฟื้นขึ้นมาและพบว่าลูกที่เธออุตส่าห์ยอมทำทุกอย่างแม้แต่คุกเข่าขอร้องคนอื่นเพื่อให้เด็กคนนี้ได้เกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์...........เขาได้จากเธอไปแล้วเธอจะทำยังไงนะ.......จนถึงตอนนี้โซจินรู้แล้วว่าอึนจองผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากมายแล้วนี่ยังมาเสียลูกขงเธอไปอีก ถึงอึนจองจะเข้มแข็งแต่ผู้หญิงคนเดียวจะสามารถรับเรื่องราวหน้าเศร้าขนาดนี้ได้ยังไง.......
(Love Love Love Everybody Clap Clap Clap!!)
โซจินหันไปมองโทรศัพท์สีหวานที่กำลังส่งเสียงดังเพราะมีคนโทรเข้าของตัวเอง ความเหนื่อยล้ามันทำให้เธอยื่นมืออกไปหยิบมันมากดรับสายโดยที่ยังไม่ได้ดูเบอร์
สวัสดีค่ะ
(เมื่อเย็นเธอไม่ได้มาหาฉัน!!)
เสียงตะโกนเหมือนกำลังวีนแตกของคนที่ปลายสายมันทำให้เธอจำได้ทันทีว่าเขาเป็นใคร
ลีจงฮยอนนายจะขี้น้อยใจไปไหนเนี่ย วันนี้ฉันไปโรงพยาบาลมาสองรอบแล้วนะยังจะให้ฉันไปรอบที่สามอีกรึไง
(ไปโรงพยาบาลมาสองรอบ เธอเป็นอะไรไปนะ! ทำไมจะต้องไปโรงพยาบาลด้วย!!)
น้ำเสียงร้อนรนเพราะความเป็นห่วงของจงฮยอนมันทำให้โซจินต้องเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
เปล่า.....ไม่ใช่ฉันหรอกที่เป็น ว่าแต่วันนี้นายโทรมาแค่นี้ใช่ไหมฉันจะได้นอนซักทีเหนื่อยจนแทบจะสลบอยู่แล้ว
(เดี๋ยวซิ! อย่าพึ่งนอนนี่มันพึ่งจะทุ่มเดียวเองนะอยู่คุยเป็นเพื่อนฉันก่อน)
ชายหนุ่มพูด จริงๆแล้วมันควรจะเป็นคนป่วยอย่างเขาต่างหากที่ควรจะรีบพักผ่อน แต่โซจินที่ไม่ได้เป็นอะไรกลับทำเสียงงัวเงียใส่แล้วบอกว่าง่วงซะอย่างนั้น
ถ้าฉันไม่คิดถึงเธอไม่โทรมาหาให้เปลืองตังหรอกนะยัยบื้อ!
เขาคิด
ฉันจะนอนจริงๆแล้วนะ ราตรีสวัสดิ์
(อย่าพึ่ง! ถ้าวันนี้เธอมาหาฉันที่โรงพยาบาลฉันก็จะร้องเพลงนี้ให้เธอฟัง แต่เพราะเธอไม่มาเลยทำให้ฉันเตรียมตัวเก้อเลยรู้มั้ย มันเป็นความผิดเธอโซจิน!)
อะไรๆจู่ๆก็มาโยนความผิดให้ฉันเนี่ยนะ
(ไม่รู้ๆ เธอต้องรับผิดชอบโดยการฟังเพลงของฉันก่อนนอน จองชินมานี่ซิหยิบกีต้าร์มาด้วย)
ดูเหมือนวันนี้จองชินจะไปอยู่เฝ้าพี่ชายของตัวเองที่โรงพยาบาล เขาก็เลยกลายเป็นผู้ช่วยจำเป็นของจงฮยอนไปโดยปริยาย
(ดีมาก......ถือโทรศัพท์ไว้ให้ฉันด้วยไอ้น้องรัก)
....
เขาดีดท่อนอินโทรของเพลงออกมานิดหน่อยก่อนจะหันมาพูดกับโซจินผ่านโทรศัพท์อีกรอบ
(รู้หรือยังว่าเพลงอะไร)
ดีดมาแค่นี้ต่อให้ฉันเป็นโมสาร์ทกลับชาติมาเกิดก็ไม่รู้หรอกย๊ะ
(เพลงนี้เธอเคยฟังฉันร้องมาครั้งหนึ่งแล้วนะ)
ไม่เห็นจะจำได้เลย
(ยัยสมองปลาทอง! ฟังให้ดีๆนะ
사실은첨봤을때부터그댈좋아했다고
ซา-ชิล-รึน ชอม บวาซ-ซึล แต บู-ทอ คือ-แดล โจ-อี-แฮซ-ดา-โก
จริงๆแล้ว จะบอกว่าชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ )
ทันทีที่คำร้องท่อนแรกออกมาจากปากของชายหนุ่ม ความทรงจำบางอย่างที่น่าจะเลือนหายไปตั้งนานแล้วเพราะเรื่องวุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวของโซจินอีกครั้ง ความทรงจำเมื่อตอนที่เธอได้ฟังเพลงๆนี้ครั้งแรก และการได้พบกับจงฮยอน..............
(말하기가내겐참어려웠던거죠
มัล-ฮา-กี-กา แน-เกน ซัน ออ-รยอ-วอซ-ดอน-กอ-จโย
คำๆนั้นสำหรับฉัน จะพูดออกไปคงยาก
먼저연락하지않으면그댈놓칠까봐
มอน-จอ ออน-รัก-ฮา-จี อัน-นือ-มยอน คือ-แดล โน-ชิล-กา-บวา
กลัวจะพลาดหลุดเธอไปถ้าไม่รีบติดต่อเธอก่อน
글자를쓰고또보고지우길반복했죠
กึล-จา-รึล ซือ-โก โต โบ-โก จี-อู-กิล
พัน-บก-แฮซ-จโย
ได้แต่เขียนเมสเสจแล้วก็ลบซ้ำไปซ้ำมา
깊어지면상처뿐일거라는생각에
กิพ-พอ-จี-มอน ซิง-ชอ-ปุน-อิล-คอ-รี-นึน
ยิ่งใกล้ชิด ก็คิดแต่อาจจะต้องเจ็บ
두려움이앞선건사실이지만
ทู-รยอ-อู-มี อัพ-ซอน กอน ซา-ชิล-รี-จี-มัน
เป็นความจริงที่ฉันกลัววันข้างหน้า แต่ว่า...
간절한맘으로기도하고바랬던사람이
กัน-ชอล-ฮัน มา-มือ-โร คี-โด-ฮา-โก พา-แรซ-ดอน ซา-รัม-มี
ฉันจะสวดภาวนาด้วยใจที่มุ่งมั่นจริงใจ... คนที่ฉันเคยปรารถนา
그대라고난믿어요
คือ-แด-รา-โก นัน มี-ดา-โย
ฉันเชื่อ....ถ้าเป็นเธอ
I'm in love , I'm fall in love
ฉันกำลังมีความรัก ฉันกำลังตกหลุมรัก
두렵진않네요그대와함께라면
ทู-รยอบ-จิน อัน-เน-โย คือ-แด-วา ฮัม-เก-รา-มยอน
ฉันไม่กลัวอีกแล้ว ถ้าได้อยู่ด้วยกันร่วมกับเธอ
세상은너무아름답죠
ซอ-ซัง-งึน นอ-มู อา-รึม-ดับ-จโย
โลกใบนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน)
...
(เพลงนี้ชื่อเพลงIm in love มันเป็นเพลงที่ทำให้เราได้เจอกัน และเธอรู้ตัวมั้ยว่าฉันกำลัง in love ก็เพราะเธอนะ)
ไม่ต้องเห็นหน้าแค่ได้ยินเสียงก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้จงฮยอนกำลังเขินมากแค่ไหน
(พี่ครับทำไมผมรู้สึกเหมือนอยากจะอ้วก)
เสียงของจองชินดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์
(ไอ้น้องชั่ว!)
เมื่อกี้จงฮยอนยังเรียกจองชินว่าน้องรักอยู่เลย ทำไมสถานะของเขามันถึงได้เปลี่ยนแปลงไปเร็วขนาดนี้.......
....
(ฉันจะโทรมาบอกแค่นี้แหละ ฉันรักเธอนะฝันดีโซจิน)
เขาพูดได้แค่นั้นก็ตัดสายทิ้งไปและคงจะกำลังหันไปจัดการกับน้องชายของตัวเอง เขาจะรู้บ้างรึเปล่านะว่าคำพูดของเขามันเกือบทำให้โซจินนอนไม่หลับทั้งคืน!
ระอองฝุ่นที่ฟุ้งขึ้นมาจากพื้นและตามเฟอร์นิเจอร์ต่างๆกำลังเต้นอยู่ในอากาศเมื่อแสงแดดส่งไปโดนพวกมัน ผนังสีขาวหม่นและเฟอร์นิเจอร์ที่มักจะอยู่ในห้องเรียนเก่าคร่ำคราถูกฝุ่นจับหนาเตอะทำให้สามารถจำได้ทันทีว่าสถานที่แห่งนี้มันคือที่ไหน............ห้องชีวะวิทยาห้องนั้น ที่กลางห้องมีหญิงสาวผมซอยสั้นสีดำสนิทกำลังก้มๆเงยๆอยู่ใต้โต๊ะไม้เก่าๆตัวหนึ่ง เธอคนนั้นคืออึนจอง........ในมือของหญิงสาวมีของบางอย่างอยู่ ของบางอย่างที่หลุดออกมาจากมือเจสสิก้าหลังจากเธอถูกทำร้าย ของสิ่งเดียวที่จะเป็นหลักฐานสาวไปหาตัว ฆ่าตกร ดวงตากลมโตของอึนจองกำลังจ้องมองสิ่งของที่อยู่ในมืออย่างพินิจพิเคราะห์และเต็มไปด้วยความสงสัย
ใครกันมาทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ในที่แบบนี้
เธอพึมพำกับตัวเอง ใช่แล้วของที่อยู่ในมือเธอมันคือโทรศัพท์มือถือสีขาวสะอาดตาของเจสสิก้า
มาทำอะไรที่นี่นะ
เสียงเยียบเย็นของใครบางคนทำให้อึนจองสะดุ้งโหยง ถึงเธอจะไม่ใช่คนกลัวผีแต่การอยู่คนเดียวในสถานที่แบบนี้แล้วจู่ๆก็มีใครไม่รู้มาทักมันทำให้ตกใจไม่ใช่เล่น
อาจารย์ชีวอน
หญิงสาวยิ้มออกมาทันทีที่เห็นใบหน้าของผู้มาเยือน
ว่าไงมาทำอะไรที่นี่เหรอ
มาทำความสะอาดนะค่ะ บังเอิญโดนใช้มานิดหน่อย
แล้วนั่นอะไรนะ
ชีวอนถามเมื่อสังเกตเห็นโทรศัพท์มือถือในมือของอึนจองเขาจำได้ว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เป็นของใครอีกคนต่างหาก.......
อ้อโทรศัพท์นะค่ะฉันเจอมันที่นี่ ไม่รู้ว่าใครลืมทิ้งไว้ในที่แบบนี้นะค่ะแปลกจริงๆเลย
เธอพูดก่อนจะยื่นมันไปให้ชีวอน
งั้นฉันจะเอามันไปประกาศหาเจ้าของให้เองก็แล้วกันนะ
ว๊าว....จริงเหรอค่ะโทรศัพท์รุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ซะด้วยถ้าเจ้าของเขาได้คืนไปจะต้องดีใจมากแน่ๆ
ชีวอนยิ้มออกมาเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดแบบนั้น
ดีใจงั้นเหรอ.............เจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้คงไม่สามรถดีใจได้อีกแล้วละ
ประตูห้องพักครูวิทยาศาสตร์ถูกผลักเปิดออกพร้อมกับชีวอนที่เดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง โทรศัพท์สีขาวถูกชีวอนกดปิดก่อนจะหย่อนมันลงไปในลิ้นชัก ชายหนุ่มไม่ได้ต้องการจะประกาศหาเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเขารู้ดีว่าคนๆนั้นเป็นใคร........
กริ๊ง......กริ๊ง.....กริ๊ง เสียงนาฬิกาปลุกลายคิตตี้ที่หัวเตียงปลุกให้โซจินตื่นจากความฝัน ความฝันครั้งนี้มันต่อกับครั้งก่อนที่เธอพบว่าอึนจองเจอของบางอย่างในห้องชีวะวิทยา หญิงสาวก้าวลงจากเตียงนอนอ่อนนุ่มของตัวเองด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าหลักฐานมันอยู่ที่ไหน และเธอไม่มีทางปล่อยให้สิ่งที่จะยุติเรื่องทุกอย่างลงมันหลุดมือไปเด็ดขาด............
พี่จงฮยอนสวัสดีค่ะ!
เสียงสดใสของมินอาเอ่ยทักขึ้นทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยของจงฮยอน วันนี้เป็นวันที่เขาจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว จงฮยอนที่อยู่ในชุดลำลองนั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าบูดบึ้ง และมันยิ่งบูดหนักกว่าเก่าตอนที่เขาพบว่ามินอามาที่นี่คนเดียว
แล้วพี่สาวเธอละ
เธอกะไว้แล้วว่าจงฮยอนจะต้องถามแบบนี้ มินอาก็อยากจะตอบอยู่เหมือนกันละนะ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะซิว่าพี่สาวของตัวเองหายไปไหน ตื่นเช้าขึ้นมาโซจินก็วิ่งพรวดพราดออกไปจากบ้านพร้อมกับบ่นพึมพำอะไรซักอย่างทำนองว่า ฉันรู้แล้วว่าหลักฐานอยู่ไหน แล้วก็หายไปเลย
พี่โซจินบอกว่าเธอรู้แล้วค่ะว่าหลักฐานที่จะสาวไปหาตัวฆ่าตกรอยู่ที่ไหน
หา! แล้วยัยนั่นก็ออกไปหาเองคนเดียวงั้นเหรอ!!
มินอาพยักหน้าเป็นการยืนยัน มันทำให้จงฮยอนถึงกับต้องนั่งกุมขมับโซจินทำแบบนี้อีกแล้ว ทำเรื่องเสี่ยงอันตรายโดยไม่คิดหน้าคิดหลังไม่คิดถึงคนที่อยู่ข้างหลังเลยซักนิดว่าจะเป็นห่วงเธอขนาดไหน
พี่จงฮยอนไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ตอนนี้พี่อึนจองอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะงั้นไม่มีคนร้ายไปทำร้ายพี่โซจินหรอกค่ะ
ไม่หรอก.......
น้ำเสียงเคร่งเครียดดังมาจากจองชินที่นั่งเงียบมานาน
นายหมายความว่ายังไงจองชิน ทำไมพี่โซจินถึงจะไม่ปลอดภัยล่ะก็ในเมื่อพี่อึนจอง.........
พี่อึนจองไม่ใช่คนร้ายที่ฆ่าพี่เจสสิก้าหรอก.......
...
ผู้หญิงที่ไหนเขาเข้าห้องน้ำผู้ชายกันละ
จองชินพูดก่อนที่เรื่องราวที่เขาได้ยินมาในห้องน้ำวันนั้นจะถูกเล่าออกมาจนหมด พอเอามาผูกเข้ากับเรื่องที่จงฮยอนโดนยิงเพราะช่วยโซจินเอาไว้ ก็เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจกลัวว่าโซจินจะรู้ความลับของตัวเองก็เลยส่งคนมาเก็บเธอ........คนร้ายไม่ใช่อึนจองแน่ๆเพราะจองชินได้ยินเรื่องราวทั้งหมดมาในห้องน้ำชายในขณะที่อึนจองเป็นผู้หญิง ถ้าคนร้ายไม่ใช่อึนจองที่ตอนนี้กำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาลงั้นก็หมายความว่าตอนนี้โซจิน.....................กำลังตกอยู่ในอันตราย!
ครืด!!
ลิ้นชักไม้เก่าๆถูกโซจินกระชากเปิดออกอย่างแรง ก่อนที่ฝ่ามือขาวจะค่อยๆล้วงลงไปควานหาของบางอย่างในนั้นเธอจำได้ว่าโต๊ะตัวนี้คือตัวเดียวกับที่ชีวอนเก็บโทรศัพท์เครื่องนั้นเอาไว้......แต่มันอยู่ไหนกันละ!
อะไรเนี่ย!
หญิงสาวร้องออกมาเมื่อสัมผัสได้ว่าฝ่ามือของเธอไปแตะโดนโลหะเย็นๆบางอย่าง ก่อนที่จะพบว่ามันคือมีดปลายแหลมสีเงินวาววับที่ถูกเก็บไว้ในซองผ้าสีดำสนิทอย่างเรียบร้อย......แต่ชีวอนจะเก็บมีดไว้ใต้โต๊ะของตัวเองทำไมกัน โซจินเลิกสนใจมีดเล่มนั้นพร้อมกับปัดความคิดต่างๆที่แวบเข้ามาในหัวทิ้งไปและเริ่มควานหาโทรศัพท์เครื่องนั้นอีกครั้ง ในที่สุดดวงตากลมโตก็สังเกตเห็นโทรศัพท์สีขาวสะอาดตาที่ซุกตัวอยู่ในกองข้าวของมากมายใต้โต๊ะของชีวอน ปลายนิ้วเรียวหยิบมันขึ้นมาก่อนจะกดเปิดเครื่อง ภาพของเจสสิก้าที่กำลังยิ้มอย่างสดใสซึ่งถูกตั้งเป็นภาพวอลเปเปอร์ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ แบตเตอรี่ในเครื่องยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม โซจินพยายามมองหาว่าอะไรกันนะคือสิ่งที่เจสสิก้าทิ้งไว้ให้เธอเพื่อเป็นหลักฐานที่จะสาวไปหาตัวคนร้าย แต่ในเครื่องมันแทบจะไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากวีดีโอสองสามคลิปและรูปถ่ายสองสามรูปซึ่งดูไม่เหมือนหลักฐานที่สามรถจับใครเข้าคุกได้เลยซักนิด
ข้อความค้างส่งงั้นเหรอ
เธอพูดออกมาเมื่อพบว่ามีข้อความหนึ่งฉบับค้างอยู่ในกล่องขาออก เหมือนเจสสิก้าจะพิมพ์ข้อความฉบับนี้เอาไว้แต่ก็ไม่ได้ส่งออกไปให้ใคร ตัวอักษรเล็กๆบนหน้าจอทัชสกรีนของโทรศัพท์ทำให้รู้ว่าข้อความฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 18 เมษายน วันที่เกิดเรื่องขึ้นพอดี................หรือว่าจะเป็นไอ้นี่!
อะไรกันเนี่ย
หญิงสาวร้องออกมาเบาๆเมื่อพบว่าในข้อความฉบับนี้มีอักษรเพียงสองตัวถูกพิมพ์เอาไว้ SW อักษรย่องั้นเหรอ แล้วโซจินจะไปรู้ได้ยังไงกันละว่า SW มันเป็นชื่อย่อของอะไร
SW SW SW มันอะไรกันละเนี่ย
เธอพูดทวนตัวอักษรทั้งสองไปมา จนกระทั่งชื่อๆหนึ่งแวบเข้ามาในหัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ...........
ผลัก!! วัตถุหนาหนักบางอย่างถูกฟาดเข้าที่ศีรษะของหญิงสาวอย่างจัง ความรู้สึกมึนงงแล่นเข้ามาที่หัวของโซจินพร้อมกับร่างกายที่ทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะความเจ็บปวด โทรศัพท์ที่อยู่ในมือร่วงลงมาสู่พื้นด้านล่างก่อนจะถูกฝ่าเท้าของใครบางคนกระทืบจนแหลกละเอียด.........
ชีวอน........
เธอเรียกชื่อของบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนที่สติจะดับวูบลง ชื่อเต็มของอักษรย่อ SW
.SIWON
******************************************
ไม่ต้องแปลกใจไปค่ะทุกคนที่ไรเตอร์มาอัพวันนี้5555+
เหตุผลนั้นไซ้เพราะวันศุกร์ไรเตอร์อาจไม่ว่างมาอัพเนื่องจากต้องไปรีบปั่นงานให้เสร็จก่อนเปิดเทอมนั่นเอง
เวลาเยอะแยะไม่ทำ55555 พอพิมพ์เสร็จปุ๊บก็เลยอัพปั๊บ
ตอนหน้าตอนจบแล้วนะค่ะT^T อย่าลืมติดตามกันละ
เจอกันตอนหน้าเน้อ^^
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
หรือว่าจะเป็นฆาตกรโรคจิต
ก่อคดีมาหลายคดีเเล้ว
อยากรู้จังงง
โซจินจะเป็นอะไรไหมนะ
อัพไวๆนะค่ะ จงฮยอนแอบหวานด้วยอิอิ
ตอนที่เรากำลังลุ้นด้วยนะไรเตอร์(จบตอนทุกครั้ง...ต้องลุ้นทุกตอน)
สู้ๆนะ...อัพเร็วๆเข้าอ่า เตรียมอ่านอยู่นะ
ไรต์เตอร์คิดได้ไงเนี่ย...แสดงว่าเคยกิน^_^
ขอข้ามเรื่องหน่อยนะ...อยากอ่านเรื่องรักมีลุ้น 8 คน 4คู่ จังรีบๆๆอัพนะ
แง๊ๆๆๆๆ
ถ้าจบแล้วต่อเรื่องใหม่เลยน๊า
ขอบคุณที่ทำงานหนักนะคะ
ไรต์เตอร์ไฟล์ติ้ง ออนนี่เป็นกำลังใจให้นะ คริ คริ