ตอนที่ 11 : ตอนที่10 ฉันนายสายลับจำเป็น
10
ฉันนายสายลับจำเป็น
“ที่เธอสะกดรอยตามฉันวันนั้นก็เพราะเรื่องนี้ด้วยงั้นสิ เธอไม่เคยเชื่อใจฉันเลยสักนิดสินะ”
“...”
“ถ้าเธอคิดว่าฉันเป็นฆ่าตกรก็อยู่ห่างๆฉันเอาไว้ก็แล้วกัน คุณนักสืบ!”
เสียงนิ่งเรียบที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกชาไปถึงขั้วหัวใจดังก้องกังวานอยู่ในหัวของหญิงสาว ซ้ำไปซ้ำมาราวกับม้วนวีดีโอที่ถูกฉายซ้ำไปซ้ำมาไม่มีสิ้นสุด
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นนะ!”
โซจินตะโกนออกมาก่อนที่เธอจะผุดลุกขึ้นนั่ง นี่เธอหลอนที่โดนจงฮยอนว่าจนขนาดเก็บเอาไปฝันเลยงั้นเหรอ
“เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมจู่ๆก็ตะโกนออกมาละ”
เสียงของใครบางคนดังมาจากข้างๆเตียง
“ฝัน...ฝันร้ายนิดหน่อยค่ะ....เฮือก!!”
หญิงสาวตกใจจนเกือบจะร่วงลงมาจากเตียง นี่เธอหลอนจัดจนไข้ขึ้นเลยซินะคนในฝันเมื่อกี้ถึงออกมายืนจ้องเธออยู่ข้างเตียงแบบนี้!!
“ถ้าทางฉันจะยังไม่ตื่นแฮะ”
เธอล้มตัวลงบนเตียงอีกครั้ง จงฮยอนจะมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงในเมื่อตอนนั้นเขาโกรธเธอมาก แล้วนี่มันก็ห้องนอนของเธอ.....ห้องนอนของเธองั้นเหรอ!! หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงอีกครั้งก่อนจะมองบรรยากาศรอบๆตัวอย่างแปลกใจ ห้องของเธอมันไม่เคยมีกลิ่นยากับกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออบอวลอย่างนี้ ภาพวาดเชยๆที่ติดอยู่บนผนังห้องเธอก็ไม่เคยมี และที่สำคัญห้องนอนของโซจินมันไม่เคยมีถุงน้ำเกลือวางอยู่ นี่เธออยู่ที่ไหนกันเนี่ย!!!
“ให้ฉันตามอาจารย์กลับมาดูอาการเธอหน่อยมั้ยท่าทางนอกจากให้น้ำเกลือแล้วยังต้องเช็คประสาทเพิ่มอีกนะเธอ”
ชายหนุ่มพูดเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของโซจิน
“นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย”
“ห้องพยาบาลไงยัยบื้อ”
หญิงสาวก้มลงมองสายน้ำเกลือระโยงรยางค์บนข้อมือ เธออยู่ที่ห้องพยาบาลจริงๆด้วย!
“ละ...แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
โซจินถามด้วยความรู้สึกแปลกใจ ก็ก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่าอยู่บนชั้นดาดฟ้าอยู่เลยนี่นา
“ก็ฉันเป็นคนอุ้มลงมานะสิ คิดยังไงถึงได้ไปนอนเป็นลมอยู่บนนั้นฮะ ถ้าฉันไม่กลับขึ้นไปดูป่านนี้เธอได้นอนเน่าตายอยู่บนนั้นแล้ว”
โซจินอ้าปากเหมือนจะเถียง
“คนมันจะเป็นลมเลือกที่ได้รึไงนะ!!”
แต่เธอก็เลือกที่จะสงบปากสงบคำเอาไว้ เพราะถึงยังไงเขาก็คือคนที่อุตส่าห์อุ้มเธอมาห้องพยาบาล
“ฉันปวดแขนเลยรู้มั้ยผู้หญิงอะไรตัวหนักชะมัด!”
“ชิ!”
“แถมเธอยังทำให้ฉันเจอเรื่องสยองอีกต่างหาก”
“เรื่องสยอง?”
หญิงสาวทวนคำพูดของเขาด้วยความแปลกใจ นี่เขาคงไม่ได้คิดจะเล่นมุกว่าหน้าเธอตอนสลบมันทำให้เขาสยองหรอกนะ
“ให้ตาย! ฉันว่าการเจอกับเธอมันทำให้ชีวิตฉันเจอความสยองขวัญมากพอแล้วนะ”
นั่นไง! ว่าแล้วว่าจะต้องมีถ้อยคำเหน็บแนมหลุดออกมาจากปากของเขาแน่! โซจินกำลังจะคว้าหมอนที่วางอยู่บนเตียงปาหัวจงฮยอนอยู่แล้ว แต่คำพูดของชายหนุ่มมันทำให้หมอนที่กำลังจะกะแทกลงบนหัวเขาหยุดอยู่กลางอากาศ
“รุ่นพี่เจสสิก้าคนนั้น.....ฉันเจอเธอ”
“...”
“ฉันว่าถึงเวลาที่เธอต้องเล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ให้ฉันฟังแล้วละ”
จงฮยอนนั่งอึ้งไปนานกว่าสามนาทีหลังจากฟังเรื่องราววิญญาณของรุ่นพี่สาวที่คอยปรากฏตัวให้โซจินเห็นเพื่อให้ช่วยตามหาคนร้ายที่ฆ่าเธอจบ ถ้าเขาไม่เห็นกับตาว่าวิญญาณมีอยู่จริงต้องคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าเขากำลังเพ้อเจ้อเพราะดูหนังสยองขวัญมากไปแน่ๆ.....แต่หลังจากความตกใจหายไปสิ่งที่เข้ามาแทนที่ภายในจิตใจของชายหนุ่มก็คือความสงสาร...เห็นใจปะปนกันจนเขาเองก็แยกไม่ออกว่ามันคืออะไรกันแน่ ปร์าคโซจินหญิงสาวตรงหน้าเขาต้องเผชิญหน้ากับเรื่องน่ากลัวขนาดนี้คนเดียวมาตลอดงั้นเหรอ....เรื่องมากมายที่ผู้หญิงบอบบางคนนี้ไม่น่าจะรับมันไหว.......
“เพราะรุ่นพี่เจสสิก้าเธอก็เลยคิดว่าฉันเป็นคนร้ายแล้วก็สะกดรอยตามฉันงั้นเหรอ”
โซจินพยักหน้าช้าๆแทนคำตอบ ใบหน้าของหญิงสาวเหมือนกำลังซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ แม้เธอจะพยามฝังมันให้ลึกที่สุดภายใต้รอยยิ้มเจื่อนๆบนใบหน้า แต่สุดท้ายมันก็ยังแสดงออกมาจากดวงตาคู่สวยของเธออยู่ดี จงฮยอนไล่สายตาจากใบหน้าสวยลงมาจนกระทั่งสายตาไปสะดุดเข้ากับรอยช้ำมากมายบนแขนของหญิงสาว เขาถือวิสาสะถลกแขนเสื้อของโซจินขึ้นก่อนจะพบว่าใต้นั้นยังมีรอยช้ำอีกมากมายถูกปกปิดเอาไว้
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้....”
ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็เมื่อวานที่ฉันโดนพวกอันธ.....”
“เจ็บตัวขนาดนี้แล้วยังจะสืบเรื่องนี้ต่ออีกรึไง!!”
เสียงตะคอกของจงฮยอนดังแทรกขึ้นมาก่อนที่หญิงสาวจะพูดจบประโยค มันทำให้โซจินตกใจจนรู้สึกราวกับน้ำตากำลังไหลมาเอ่อคลออยู่ที่ดวงตาของเธอ เขามีสิทธิ์อะไรมาตะคอกใส่เธอแบบนี้ คนอย่างเขามันจะไปเข้าใจอะไรเธอละ!
“นายคิดว่าฉันอยากทำรึไง!”
“...”
“คนอย่างนายมันจะไปเข้าใจอะไรละ...”
น้ำตาที่หญิงสาวพยามกลั้นเอาไว้ค่อยๆไหลรินออกมาพร้อมๆกับความรู้สึกอัดอั้นและสับสนที่เธอเก็บเอาไว้
“การเจอศพเน่าๆใต้เพดานหรือต้องเจ็บตัวมันไม่สนุกหรอกนะ!”
“...”
“แต่...ฮึก..แต่จะให้ฉันปล่อยให้วิญญาณของรุ่นพี่ต้องทุกข์ทรมารไม่ไปสู่สุขติเพราะคนที่ฆ่าเธอยังไม่ถูกลงโทษ.....”
หญิงสาวใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างปิดบังใบหน้าที่กำลังเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตา และเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้ทั้งๆที่เธอเป็นแค่เด็กม.ปลายธรรมดาๆทำไมถึงต้องมาพัวพันกับเรื่องน่ากลัวแบบนี้ด้วย คดีฆ่าตกรรมมันไม่ใช่เรื่องที่เด็กผู้หญิงอย่างเธอจะแก้ได้หรอกนะ ทั้งๆที่คนบนโลกนี้มีตั้งมากมายแต่เจสสิก้ากลับเลือกเธอ...
ในขณะที่โซจินกำลังกำลังสะอึกสะอื้นจนห้ามตัวเองไม่ได้ อ้อมแขนของใครบางคนก็กำลังโอบกอดเธอไว้.......อ้อมกอดที่เหมือนกำลังถ่ายทอดความอบอุ่นและความเข้มแข็งให้หญิงสาว........
“ใช่..ฉันมันไม่เคยเข้าใจอะไรซักอย่าง”
“...”
“แต่อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็รู้ว่าเธอกำลังเสียใจ ถ้าเธอเหนื่อยฉันจะช่วยแบ่งเบามันเอง ถ้าเธอเจ็บหรือกำลังกลัวฉันก็จะปกป้องเธอเอง ขอแค่อย่างเดียวหยุดร้องเถอะนะ...”
จงฮยอนพูดเสียงแผ่วเบาก่อนจะกระชับอ้อมกอดอบอุ่นของตัวเอง เขากำลังต้องการปลอบโยนหญิงสาวในอ้อมแขน เพราะการเห็นผู้หญิงคนนี้ร้องไห้มันกำลังทำให้หัวใจของกระตุกแรงซะจนรู้สึก....เจ็บ
“นาย...นายหมายความว่าไง”
โซจินพูดเสียงอู้อี้เพราะใบหน้าของเธอกำลังซุกอยู่บนแผงอกกว้างของจงฮยอน
“ฉันจะช่วยเธอตามหาไอ้โหดที่มันทำกับรุ่นพี่ผู้แสนดีของเธอแบบนั้นเอง”
“...”
“สุภาพบุรุษแบบฉันคงทนเห็นผู้หญิงเจ็บตัวหรือต้องนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกนะ”
ทั้งคำพูดและอ้อมกอดของจงฮยอนเหมือนมันสามารถดูดซับความเศร้าและน้ำตาของหญิงสาวได้ โซจินดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของเขาก่อนจะจ้องใบหน้าของจงฮยอนด้วยความแปลกใจปะปนกับดีใจที่เธอจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องหน้ากลัวแบบนี้คนเดียวอีกแล้ว......
“นายจะช่วยฉันจริงๆใช่ไหม!”
“ฉัน...เป็นคนหน้าตาดีที่รักษาคำพูดนะบอกให้”
จงฮยอนยิ้มเพื่อให้ความมั่นใจกับเธออีกครั้ง รอยยิ้มสดใสที่ดูจริงใจและเป็นตัวตนของชายหนุ่มตรงหน้ามากกว่าใบหน้าเฉยชาไร้อารมณ์ หรือท่าทางกวนประสาทที่เขามักจะทำมันเป็นประจำโซจินดีใจมากซะจนโผเข้าไปกอดเขาอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของตัวเองกำลังทำให้ผู้ชายคนนี้หัวใจ.....เต้นแรงมากขนาดไหน
“นายเป็นคนดีแล้วก็เป็นสุภาพบุรุษมากๆเลยจงฮยอน!!”
“อะ....อือ..ก็คิดว่านะ”
ใบหน้าของชายหนุ่มกำลังร้อนผ่าว และแดงกล่ำมากขึ้นเรื่อยๆ
“ฉันต้องไม่สบายแน่ๆ กลับบ้านต้องไปกินยาๆ!”
“ว่าแต่...”
“...”
“นายไม่ใช่คนร้ายซะเองใช่ไหม”
จงฮยอนพ่นลมหายใจออกมาอย่างอารมณ์เสีย เพราะคำพูดทำลายบรรยากาศของโซจิน
“ฉันกลับบ้านละ! สวัสดี”
“อ๊า! ...ฉันล้อเล่นอย่าคิดมากเลยนะ”
โซจินรีบรัดอ้อมแขนของตัวเองกับเอวของชายหนุ่มให้แน่นขึ้นเพื่อไม่ให้เขาเดินหนีเธอไปไหน
“ฉันจะกลับบ้าน!”
“ผู้ชายอะไรขี้น้อยใจชะมัด...ไหนนายบอกว่าจะปกป้องฉันไงถ้าเกิดรุ่นพี่เจสสิก้าเกิดนึกคึกโผล่ออกมาตอนนี้ฉันจะทำยังไงละ!”
“เธอก็ใช้พลังเตะทะลุเป้าที่ชอบใช้กับฉันจัดการไปซิ”
“ผีนะนาย! จะให้ฉันทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า!”
“อยากให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหนลองพูดว่าลีจงฮยอนหล่อเทพสามครั้งซิ”
“หะ!”
“ฉันกลับบ้านละ”
“ลีจงฮยอนหล่อเทพ ลีจงฮยอนหล่อเทพ ลีจงฮยอนหล่อเทพ!!! หล่อที่สุดในปฐพีอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ!”
จงฮยอนระเบิดหัวเราะออกมาก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียง ในขณะที่โซจินทำหน้าเบ้ที่เมื่อกี้เธอต้องพูดคำกระดากปากพวกนั้นไป ถ้าเป็นในเวลาปกติเธอคงจะด่ากราดเขาไม่หยุด แต่สำหรับตอนนี้เธอกับเขาคงต้องอยู่ภายใต้สนธิสัญญาสงบศึกซินะ!!
“แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อไปดีละเนี่ย”
“หง่ำ....หง่ำ..”
“ลีจงฮยอนไม่ใช่คนร้ายแล้วทำไมรุ่นพี่เจสสิก้าถึงทำให้ฉันฝันเห็นเขาละ”
“หง่ำ...”
“หรือว่าฉันจะเพ้อเจ้อไปเองหว่า”
“หง่ำ”
“นี่นาย! หยุดกินแล้วช่วยฉันคิดหน่อยซิโว๊ย!”
โซจินทุบโต๊ะแรงจนจานข้าวที่จงฮยอนกำลังจัดการกินมันอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจลอยขึ้นมาจากโต๊ะ ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวานจงฮยอนเพิ่งบอกว่าเขาจะช่วยเธอสืบเรื่องการตายของรุ่นพี่เจสสิก้า แต่ตอนนี้เขากลับไม่สนใจแม้แต่จะฟังในสิ่งที่เธอพูด!
“เธอช่วยคิดตอนอื่นไม่ได้รึไง! ขัดจังหวะตอนคนกำลังกินข้าวมันบาปนะ!”
“แต่นี่มันข้าวบ้านฉัน แล้วนายก็กินไปสามจานแล้วด้วย!”
โซจินดึงจานข้าวที่จงฮยอนกำลังกินอยู่ออกมาอย่างหมั่นไส้สุดๆ ก็เธออุตส่าห์ชวนเขากับจองชินมาทานข้าวที่บ้านเพราะคิดว่าจะได้ปรึกษาว่าจะทำยังไงกันต่อไปดี แต่เขาก็ดันเอาแต่กิน กิน แล้วก็กิน!!
“ก็เธอชวนฉันมากินข้าวเย็นนิไม่ได้ชวนมาคิดอะไรซักหน่อย!”
“งั้นแกก็คายข้าวบ้านฉันออกมาเลยนะ!”
โซจินพุ่งเข้าไปขย้ำคอจงฮยอน ก่อนจะเขย่ามันไปมาอย่างบ้าคลั่ง!
“ปากดีนักใช่ไหมฉันจะทำให้นายไม่มีปากไว้พูดอีกเลย!”
“อ้า...อากอู้ไออืบอี่...อ็อก..อ้านอุ่น..อ็อก!!”
จงฮยอนระล่ำระลักพูดออกมาไม่เป็นภาษา
“พี่ครับจะฆ่าพี่ชายผมรึไง!”
จองชินรีบวิ่งเข้ามาแงะมือโซจินออกจากคอของพี่ชายตัวเอง แต่ฝ่ามือเล็กๆของหญิงสาวคนนี้กลับเหนียวซะยิ่งกว่ากาวตราช้าง!
“พี่โซจินเหมือนพี่จงฮยอนเขาอยากจะพูดอะไรนะค่ะ ปล่อยพี่เขาก่อนเถอะ!!”
มินอาเข้ามาช่วยพูดอีกแรง ในที่สุดหญิงสาวก็ยอมปล่อยมือออกจากลำคอของเขา คอของชายหนุ่มมันมีรอยฝ่ามือแดงแจ๋ปรากฏอยู่ชัดเจน จงฮยอนรีบสูดอากาศเข้าปอด ถ้าโซจินปล่อยเขาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวคงได้เกิดคดีฆ่าตกรรมขึ้นเป็นคดีที่สองแน่!
“ถ้าเธออยากรู้ว่าใครเป็นคนร้าย...แค็กๆ.....เธอก็ต้องไปเริ่มที่จุดเริ่มต้นของคดีนี้ซะก่อน”
โซจินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วไอ้จุดเริ่มต้นที่ว่ามันคืออะไรกันละ
“แล้วจุดเริ่มต้นของนายมันคืออะไรไม่ทราบ”
“ก็เพราะฉลาดน้อยแบบนี้เธอถึงได้คิดว่าฉันเป็นคนร้ายไงละ...”
พอพูดจบประโยคโซจินก็ทำท่าจะกระโดดเข้าไปขย้ำคอเขาอีกรอบ หมอนี่มันปากเสียได้ทุกสถานการณ์จริงๆ! แต่คราวนี้จงฮยอนเหมือนจะรู้ตัวจึงรีบถอยออกมาห่างๆเธอก่อนที่เขาจะโดนประทุษร้ายอีก
“จุดเริ่มต้นของคดี..ก็คือรุ่นพี่เจสสิก้าของเธอยังไงละยัยบื้อ จะรู้ๆได้ยังไงว่าใครเป็นคนร้ายถ้าไม่รู้อะไรซักอย่างเกี่ยวกับผู้เสียหายนะ!”
ในบ่ายวันเสาร์ที่อากาศร้อนจัด แสงแดดแก่ๆในยามบ่ายกำลังสาดส่องลงมาบนท้องถนนที่ไร้ซึ่งผู้คน และร่มเงาที่จะใช้หลบแดด คนสองคนกำลังเดินเหงื่อตกพร้อมกับกร่นด่าสภาพอากาศร้อนจัดในวันนี้ไม่หยุด
“ทำไมๆๆ ทำไมฉันถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ ถนนบ้านี่ก็จริงๆเลย!ทำไมถึงไม่มีต้นไม้เลยซักต้น!”
โซจินค่อยๆปาดหยดเหงื่อออกจากใบหน้าของตัวเองพร้อมกับคำบ่นด่าที่ออกมาจากปากของหญิงสาวไม่หยุด วันนี้เธอกับจงฮยอนรีบออกมาตามหาบ้านของเจสสิก้าตามข้อมูลที่จองชินกับมินอาหามาให้ แต่ปรากฏว่าไอ้บ้าที่ยืนอยู่ข้างๆเธอกลับพาลงรถเมล์ผิดป้ายซะนี่ ตอนนี้ทั้งเธอกับเขาถึงต้องมาเดินย่ำต็อกตากแดดร้อนจัด อาบเหงื่อแทนน้ำแบบนี้!
“หยุดบ่นซักทีได้ไหมเธอ!”
จงฮยอนที่ชักเริ่มเซ็งเพราะเสียงบ่นด่าอุบอิบตลอดเวลาของโซจินพูด
“ฉันจะไม่บ่น และเราจะไม่ต้องมาเดินกลางแดดแบบนี้เลยถ้านายไม่เฟอะฟะพาฉันลงรถเมล์ผิดป้ายนะ!”
“ก็ผิดไปแล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง นั่งทามแมชชีนกลับไปแก้ไขอดีตรึไง!”
จงฮยอนตอบหน้านิ่ง
“ชิ!”
หญิงสาวกระแทกเท้าเดินด้วยความโมโห แต่ในขณะที่เธอกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงพร้อมจะวีนแตกได้ตลอดเวลาอยู่นั้น บางอย่างที่เธอเพิ่งเดินผ่านมามันทำให้ต้องรีบหันกลับไปมอง บ้านสองชั้นหลังเล็กๆทาสีขาวเรียบๆแต่กลับดูอบอุ่นหลังหนึ่งตั้งเบียดเสียดอยู่กับหลังอื่นๆ สิ่งที่ทำให้โซจินสนใจจนถึงกลับต้องหันมามองไม่ใช่เพราะความสวยงามของบ้านหลังนี้ หรือเพราะพันธ์ไม้ที่ผลิดอกเบ่งบานอยู่หน้าบ้าน แต่มันคือป้ายสแตนเลจสีเงินแผ่นเล็กๆหน้าบ้านที่ถูกเขียนไว้ด้วยหมึกสีดำจางๆว่า “บ้านตระกูลจอง เลขที่251”
“จงฮยอน! จงฮยอนๆ เจอแล้วฉันเจอแล้ว!!”
หญิงสาวรีบร้องเรียกชายหนุ่มด้วยความดีใจ เพราะบ้านหลังนี้คือบ้านของเจสสิก้าหรือจองซูฮยอนที่พวกเขากำลังตามหาอยู่นะซิ…….
*********************************************
เริ่มสืบกันแล้วค่ะทุกคน555+เบาะแสต่อไปกำลังจะมาแล้ว อย่าลืมติดตามตอนหน้ากันนะค่ะ^^
จริงๆแล้วไรเตอร์อยากอัพอาทิตย์ละหลายๆตอนเลยค่ะ แต่มันติดอยู่ที่ว่าไรเตอร์พิมพ์ไม่ทันนี่ซิ555+
งานมันรุมเล้าจริงๆค่ะ การบ้านไรเตอร์ตอนนี้กองเท่าภูเขาเอบเว่อเรสแล้ว ถ้าไรเตอร์จัดการถล่มภูเขาลูกนี้ลงได้เมื่อเมื่อไหร่จะมาอัพให้อ่านกันเยอะๆเลยค่ะ
ปล.เหมือนเดิมอย่าลืมคอมเม้นกันน๊า^_^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกจังเลยย ไรท์เตอร์เเต่งเก่งอ่า
ชอบจังเลยย ขอบคุณมากนะคะ
กำลังเข้มข้นเลยแฮะ
หนุกเวอร์
อยากจะบอกให้ไรเตอร์อัพเร็ว แต่ก็กลัวว่าจะเป็นการสปอยด์กันเกินไป
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยไรเตอร์ด้วยนะ ทั้งเรื่องการบ้านและเรื่องแต่งฟิค สู้ๆ ^ ^ จ้า
อยาก่านต่ออีกอ่ะ...อยากอ่านถึงจบเลย
นัทลงเร็วเลยนะ รออ่านอยู่
ไรเตอร์ชอบตัดให้ค้างทุกที! จะรอศุกร์หน้าอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
ไรเตอร์Fighting!!^^
ทั้งสองคนมาช่วยกันเริ่มสืบแล้วว ฮิ้ววๆๆๆ~