ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6
เร็นจิดึงประตูเปิดดังพรืดก่อนจะเจอสีหน้าตกใจของคนข้างใน ร่างสูงเผลอก้าวเท้าถอยไปอย่างไม่รู้ตัว
ไม่ใช่...เร็นจิขมวดคิ้ว ภายในใจของเขาตอนนี้กำลังเป็นกังวลกับสัมผัสที่แปลกไป
“เจ้าเองเหรอ” เสียงหวานยังเย็นชาเหมือนเดิม ทั้งหน้าตากิริยาเหมือนเดิมทั้งหมด แต่สิ่งเดียวที่เร็นจิรับรู้ได้ตอนนี้คือ...มันไม่ใช่...ไม่ใช่หัวหน้าเบียคุยะของเขา...
“เจ้าไปเป็นใคร” เร็นจิเปิดฝักดาบ มือหนากุมด้ามไว้มั่น สายตายังคงจับจ้องดวงหน้าสวยหวานที่คุ้นเคย
“เจ้าเป็นอะไรไป” คารุโกะยังคงแสร้งทำเป็นจัดการกองเอกสารต่อไป “เดี๋ยวนี้เป็นถึงหัวหน้าหน่วยถึงกล้าหันคมดาบใส่ข้า” เสียงหวานชะงักกลางคันเมื่อปลายดาบของหัวหน้าหน่วยห้าจ่อที่ต้นคอ “ยังไม่ยอมระวังเหมือนเดิมนะ”
“ข้าก็เห็นอยู่หรอก” เร็นจิหรี่ตามองปลายมีดสั้นที่อยู่ห่างหน้าอกเขาไม่ถึงคืบ
“เซ็นบงหายไปไหนแล้วละท่านหัวหน้า” เร็นจิแค่นยิ้ม “บอกมาว่าเจ้าเป็นใคร”
“เอ๊ะ น่าเสียดาย” ประตูหน้าต่างทุกบานปิดดังปึงเหมือนมีแรงดึง เทียนในห้องดับสนิททุกเล่ม บรรยากาศตกอยู่ในความมืดที่เงียบงัน หน้าเบียคุยะค่อยๆถูกเศษเสี้ยวหน้ากากฮอลโลว์มาบดบัง
“บัดซบ” เร็นจิผละตัวออกห่างจากฮอลโลว์ในร่างอดีตหัวหน้าของเขา “เจ้าทำอะไรกับเบียคุยะ”
“เอ๊ะ เป็นห่วงหุ่นกระบอกของข้าด้วยหรือไง” คารุโกะฉีกยิ้มโรคจิตก่อนหน้ากากจะแตกเป็นเสี่ยงปลิวหายไป “ไม่ต้องห่วงข้าจะส่งเจ้าตามมันไปเร็วๆนี้แหละ”
“เจ้าทำอะไรลงไป” เร็นจิถลึงตามองอย่างคิดไม่ถึง ส่งตามไป... คงไม่ได้หมายความว่า...
“ใช่...” คารุโกะควงมีดสั้นในมือ “ส่งตามคนตายไปต้องทำยังไงนะ เจ้าพอรู้ไหม...เจ้าหัวแดง”
“แก...” เร็นจิกัดฟัน ไม่จริงน่า...คนอย่างท่านเบียคุยะ...ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก... “ข้าจะสวดเผื่อวิญญาณชั่วของเจ้าทีหลัง” มือหนากำซาบิมารุแน่นแล้วเข้าไปโจมตีประชิดตัวในชั่วพริบตา แต่มีดสั้นในมือบางก็ปะดาบยาวได้อย่างง่ายดาย คารุโกะจุปากเบาๆ
“เจ้าอย่าลืมสิ” เสียงหลอนดังขึ้นท่ามกลางความมืดสลัว “ยังไงๆพลังในร่างนี้ก็ยังเหนือกว่าเจ้าอยู่ดี” เร็นจิหรี่ตาลงอย่างเจ็บปวด ใช่...เขายังไม่เคยชนะร่างตรงหน้าได้ซักครั้ง... ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร...เขาก็ทำอะไรคนคนนี้ไม่ได้ “นั่งลงเจ้าผมแดง”
“ไม่” เร็นจิเปลี่ยนทิศเข้าโจมตีอีกครั้ง คารุโกะรับด้วยสีหน้างุ่นงง ก่อนที่แววตาจะแข็งกร้าวโกรธแค้นเจ้ายมทูตที่ปะดาบมากขึ้นไปอีก
“เจ้าปฏิเสธข้าได้งั้นหรือนี่” คารุโกะตวัดมีดสั้น ปลายคมดาบของเร็นจิเฉือนเสื้อคลุมขาวไปไม่กี่มิล. “เจ้าผมแดง ข้าสั่งให้เจ้าหยุด”
“เจ้าไม่ใช่เขา” เร็นจิเน้นเสียงหนัก แววตาจับจ้องร่างบอบบางที่ตอนนี้ไม่ใช่คนที่เขาเคยรู้จักอีกต่อไป “ไม่มีสิทธิ์มาสั่งอะไรข้า” ก่อนจะหยุดมองร่างบอบบางที่ยืนนิ่งเหมือนคิดวางแผนอะไร
“คนสำคัญเหรอ” คารุโกะยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นก็แย่หน่อยละ”
“หมายความว่าไง” เร็นจิลดดาบลง
“ก็คิดดูสิ บอกให้ก็ได้ว่าเจ้าหุ่นกระบอกนั่นยังไม่ตายหรอกนะ” คารุโกะเอ่ยยิ้มสะใจในที
“เบียคุยะ” เร็นจิประมวลความคิดอย่างรวดเร็ว ยังไม่ตาย...แล้วอยู่ที่ไหนกัน...
“ใช่” คารุโกะพูดเหมือนรู้ความคิด “ป่านนี้มันจะนอนใกล้ตายอยู่แถวไหนกันนะ” ยมทูตในคราบหัวหน้าหน่วยหัวเราะขึ้นมา “เจ้าจะว่ายังไงเล่า”
“แก...ไอ้บัดซบ” เร็นจิรีบก้าวพริบตาหายไป ทิ้งไว้แต่คารุโกะที่ระบายรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะเบ้เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวด
“อยู่มาเกือบพันปี” คารุโกะมองมีดสั้นที่หายเข้าไปในข้อมือขาวบาง “ทำไมถึงยังมีคนที่ต่อต้านพลังของข้าได้อยู่ละ” ก่อนที่จะมองเห็นรอยเลือดที่ซึมออกมาผ่านเสื้อขาวบางอย่างไม่สบอารมณ์ “คงต้องเอาให้มากกว่าตายเสียแล้วละมั้ง”
เบียคุยะ ...เร็นจิกัดฟันระงับความโกรธ ดวงตาหรี่ลงอย่างเจ็บปวด เรื่องแบบนี้...เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาได้ไง ต้องโทษเขาเอง...
ที่ไหนกัน... เจ้าบ้านั่นเอาตัวเจ้าไปไว้ที่ไหนกันนะเบียคุยะ... คุกที่ไหน... ไม่สิ...ฮอลโลว์ที่เข้ามาถึงที่นี่ได้ ต้องประหารเท่านั้น...
สายลมพัดผ่านเข้ามาในห้องหัวหน้าหน่วยห้า ฮินาโมริได้แต่เหม่อมองตามสายลมที่พัดผ่านไป รางสังหรณ์ไม่ดีเลยแหะ... เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าหรือเปล่านะ...
“ฮินาโมริ” เสียงเรียกชื่อทำให้เด็กสาวสะดุ้งสุดตัว โมโมะหันขวับไปค้อนคนที่เข้ามาไม่ให้สุ่มให้เสียง เด็กหนุ่มผมขาวยื่นหอบอยู่ข้างหลัง “เจ้าปล่อยให้ข้าหาตั้งนาน”
“หาข้า” โมโมะเลิกคิ้ว “ชิโร่จังมีเรื่องอะไรเหรอ”
“ก็” โทชิโร่ถึงกับต้องยกมือเกาแก้มเบาๆ “ข้าแค่...ผ่านมา...แวะมาหาเฉยๆ”
“ชิโร่จัง” เด็กสาวผมดำได้แต่ยิ้มสดใสให้ “ขอบคุณนะ ข้ากำลังเหงาอยู่เหมือนกัน”
“ว่าแต่เจ้าสักยันต์นั่นหายไปไหน” เด็กหนุ่มหันมองรอบห้อง จะว่าไปตั้งแต่ที่เข้ามาในหน่วยห้าก็ไม่เห็นเลย
“หัวหน้าเร็นจิ” โมโมะกอดตัวเองหลวมๆ หน้าเด็กสาวแสดงถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด “ออกไปหน่วยหกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ยังไม่เห็นกลับมาเลย”
“ที่ห้องนอนละ” โทชิโร่ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเด็กสาว
“ไม่อยู่เหมือนกัน” โมโมะถอนหายใจ “จะเป็นอะไรหรือเปล่านะ”
ยมทูตรองหน่วยหกแนบใบหูเข้ากับประตูห้องหัวหน้าตัวเอง
วันนี้ไม่ดื่มชาตอนเช้า...
พระเจ้า ประหลาดมากถึงมากที่สุด... หรือว่าเมื่อวานท่านเร็นจิทำอะไรรุนแรงเกินไป อ๊าย...ตายแล้วคาริน เขายังไม่ได้เป็นแฟนกันซักหน่อย
แต่มันก็แปลกจริงๆนะ...
ริคิจิก็บอกว่าเมื่อวานเร็นจิแวะมาหาเธอแล้ว แล้วทำไมไม่มาลากลับละ... คารินได้แต่ตั้งข้อสันนิษฐาน เกิดอะไรขึ้นเมื่อวานกันแน่...
ร่างหนาเดินโซเซเข้าไปลานประหารใต้ดิน กว่าจะ...เข้ามาได้... เขาต้องอดนอนทั้งคืนวิ่งวุ่นทั่วหน่วยสอง แต่ว่า...เบียคุยะ...ยังไงวันนี้ข้าก็ต้องพบเจ้าให้ได้
“ฮอลโลว์ที่เข้ามาเมื่อวานเหรอครับ” ผู้คุมนั่งนึกนาน “รู้สึกว่าจะถูกควบคุมพิเศษนะ”
“ขอข้าไปดูหน่อยได้ไหม” เร็นจิลากสังขารอิดโรยตามไป ก่อนจะพบร่างฮอลโลว์แปลกประหลาดที่นั่งทรุดตัวอยู่มุมมืดในห้องขัง “ขอบคุณมาก” ผู้คุมโค้งคำนับก่อนจะหายไปเฝ้าข้างหน้าต่อ
“เบียคุยะ” เร็นจิทรุดตัวลงเอ่ยเสียงแหบ “ท่านเบียคุยะ”
“เร็นจิ” เสียงอ่อนระทวยดังตอบมา ร่างฮอลโลว์ค่อยๆเคลื่อนตัวท่ามกลางมุมมืดของห้องขัง
“ขอบคุณสวรรค์ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เร็นจิได้ยินเสียงไอตามมา “ท่านเบียคุยะ” เสียงไอแรงขึ้นดังตามมาอีก “เบียคุยะ ไหวไหม”
“เร็นจิ เจ้า...รู้ได้ไง ว่าข้าอยู่ที่นี่”ฮอลโลว์ตรงหน้าถามเสียงสั่น
“ข้ารู้แล้วกันน่า ข้ามาช่วยท่าน”เขาพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น คลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ฮอลโลว์เบื้องหน้า
“เร็นจิข้า...”เสียงแหบพร่าพูดได้แค่นั้นแล้วก็ต้องรีบปิดปาก เสียงไอแรงๆดังติดต่อกันจนร่างสูงเบื้องนอกกรงขังออกอาการหวั่นวิตก
“ท่านอย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะ”ร่างสูงพูด เอื้อมมือลอดผ่านลูกกรงเข้าไปวางบนไหล่ของเบียคุยะ เจ้าฮอลโลว์เงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าเจ้าของมือ ถ้าหากนี่ไม่ใช่ร่างฮอลโลว์เราอาจจะได้เห็นน้ำตาที่กำลังจะไหลทะลักออกมา
“เร็นจิ”
“ข้าจะช่วยท่านให้ได้ ท่านเบียคุยะ”ร่างสูงพูดอย่างมั่นอกมั่นใจก่อนเอ่ยคำอำลาอดีตหัวหน้าในร่างฮอลโลว์ ร่างบางมองเขาเดินจากไปด้วยนัยน์ตาเศร้าซึม
เร็นจิ เจ้าจะไม่ให้ข้าได้พูดคำนั้นบ้างเลยรึไง
เบียคุยะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ อย่างน้อย เร็นจิก็ยังเหมือนเดิม ท่าทางมุ่งมั่นเอาจริงแบบนั้น...ขอบใจนะ ...เร็นจิ
ร่างสูงของหัวหน้าหน่วยที่ 5 เดินลิ่วๆไปยังที่ทำการหน่วย5ด้วยสีหน้าร้อนรุ่ม แต่ยังมิทันจะได้เข้าไปข้างในก็เจอกับ ‘ยัยตัวดี’ ที่เขาเบี้ยวนัดเธอเมื่อวาน
“คาริน มีอะไรรึ”เร็นจิถาม เด็กสาวกัดริมฝีปากแน่นจนห่อเลือดก่อนเอ่ยออกมาด้วยท่าทางหนักใจ
“คือว่า ข้า...ข้ามีเรื่องอยากปรึกษา”เร็นจิพยักหน้ารับ สังเกตดูสีหน้าของเธอดูอิดโรยเกินศพมาก เขาจึงชวนเข้าไปคุยกันข้างในห้อง
“มีอะไรรึ”เขาถามอีกครั้ง หลังจากทั้งคู่นั่งลงตรงโซฟาภายในห้องทำงานหัวหน้าหน่วย
“หัวหน้า...หัวหน้าดูแปลกไป”เธอพูด มือที่ประสานกันอยู่บนตักบีบเข้าหากันแน่นขึ้นอีก เร็นจิถอนหายใจออกมาก่อนยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอเบาๆ
“ข้ารู้แล้ว เรื่องหัวหน้าคุจิกิน่ะ เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก ถึงตอนนี้ข้าจะยังบอกเจ้าไม่ได้ แต่ขอให้เจ้าทำตัวปกติไปก่อนนะ แล้วก็...ถ้าจะให้ดีช่วยมาบอกข้าทุกครั้งที่หัวหน้าทำตัวแปลกๆ”คารินขมวดคิ้วมองหน้าเขา
“เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าคุจิกิเหรอคะ”
“อืม...มันพูดยาก เอาเป็นว่าไว้มีโอกาสข้าจะบอกนะ ตอนนี้ก็ระวังๆหน่อยล่ะ ถ้าเป็นไปได้...พยายามอย่าใกล้ชิดหัวหน้าเกินไปนัก อ้อ! เซ็นบงซากุระของหัวหน้าอยู่ไหน เจ้าช่วยดูให้ข้าหน่อยนะ” คารินที่ได้ยินคำสั่งถึงกับตกใจขีดสุด เธอหันไปมองใบหน้าอดีตรองหัวหน้าตรงๆ นัยน์ตาปรากฏแววหวั่นวิตก
“อย่ากลัวนะ เจ้าเป็นรองหัวหน้าแล้วนะคาริน เรื่องนี้อาจทำให้เจ้าไม่สบายใจ แต่ว่า ฝากด้วยนะ”เด็กสาวถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนเอนศีรษะซบไหล่รองหัวหน้าอย่างถือวิสาสะ
“หัวหน้าคุจิกิจะไม่เป็นอะไร ใช่มั้ย”
“อืม เจ้านั่นล่ะ ดูแลตัวเองดีๆ”
“แล้วท่านล่ะ ท่านจะดูแลตัวเองดีไหม ท่านจะทำอะไรเสี่ยงๆอีกรึป่าว”เด็กสาวพูด ร่างเล็กเริ่มสะอึ้น
“ข้าไม่เป็นไรหรอก อย่าขี้แงสิ น้องสาวของข้าไม่ใช่คนอ่อนแอนะ”พร้อมกับพูด ร่างสูงลูบศีรษะผู้ที่นับถือเขาเสมอด้วยพี่ชายเบาๆ ปล่อยให้เจ้าหล่อนร้องไห้ไป
“ข้าไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นซะหน่อย”หล่อนเงยหน้าขึ้นปาดน้ำตาที่แก้ม
“เรื่องหัวหน้าข้าจะดูให้ ท่านก็ระวังตัวด้วยล่ะ อย่าทำอะไรที่มันมุทะลุมากนักนะ ไม่งั้นข้าจะยุให้หัวหน้านอกใจจริงๆด้วย”หล่อนพูด ใบหน้าคมสันของท่านหัวหน้าหน่วย5ปรากฏรอยยิ้ม
“เออรู้แล้วน่า ฝากด้วยนะ”
“อือ ไปนะคะ”เด็กสาวพูด ก่อนเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เร็นจิถอนหายใจออกมาอีกรอบ งานนี้คง...อันตรายสักหน่อยสำหรับคาริน แต่นอกจากยัยนั่นแล้วก็ไม่มีใครที่ใกล้ชิดหัวหน้าคุจิกิมากกว่านั้นอีกแล้วนี่...นอกจากเขา...เอ๊ะเดี๋ยวสิ! ใกล้ชิดงั้นเหรอ...มันก็ยังพอมีอยู่นี่นา
...............
หลังจากที่ข้าน้อยปล่อยให้ไรท์เตอร์อีกคนอัพอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน ข้าน้อยก็ต้องมาทำหน้าที่เสียบ้างนะเจ้าคะ
อืม...สำหรับเรื่องนี้ที่ค่อนข้างงงๆและดูมึนๆอยู่เสียบ้าง ก็ต้องขออภัยมากๆเลยนะเจ้าคะ หวังว่าพอได้อ่านไปเรื่อยๆทุกคนคงจะพอเข้าใจขึ้นมาบ้าง (ถูกคนอ่านมองอย่างปลงๆ)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นะเจ้าคะ ขอบคุณๆๆๆๆเจ้าค่ะ
...............
หลังจากที่ข้าน้อยปล่อยให้ไรท์เตอร์อีกคนอัพอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน ข้าน้อยก็ต้องมาทำหน้าที่เสียบ้างนะเจ้าคะ
อืม...สำหรับเรื่องนี้ที่ค่อนข้างงงๆและดูมึนๆอยู่เสียบ้าง ก็ต้องขออภัยมากๆเลยนะเจ้าคะ หวังว่าพอได้อ่านไปเรื่อยๆทุกคนคงจะพอเข้าใจขึ้นมาบ้าง (ถูกคนอ่านมองอย่างปลงๆ)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นะเจ้าคะ ขอบคุณๆๆๆๆเจ้าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น