ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ ๕
“เร็น...จิ” ร่างบางซุกตัวเข้ากับเตียงนอนอย่างอ่อนล้า ตาสีดำสนิททอดปรื้อมองไปที่ใบหน้าคมคายของอีกฝ่าย แววตาร่างสูงฉายแววความเป็นห่วงออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่เบียคุยะมองไม่เห็นเพราะคราบน้ำตา
“มีอะไรเบียคุยะ” เร็นจิพยายามดัดเสียงเย็นชา ซึ่งเขาแสดงออกมาได้ดีเกินไป ร่างบางรีบดึงผ้าห่มมาคลุมจนซ่อนมิดใบหน้า
“ไม่...ไม่มีอะไร” เบียคุยะเม้มปากเรียวซีดเพราะไข้ที่สูงปรอทแตก
“งั้นเหรอ... ก็ดี” เร็นจิมองใบหน้าหวานที่หายไปภายใต้ผ้าห่มแพร ปลีกตัวออกมาจากห้องให้คนป่วยพักผ่อน เสียงประตูปิดลงพร้อมมือหนาที่ยกขึ้นปิดปากตัวเอง ถ้ารู้สึกไม่ผิด...มือเขากำลังสั่น
“เราเป็นอะไรไป” เร็นจิพูดเบาๆกับตัวเอง ต้องแค้นไม่ใช่เหรอ... คนคนนั้น... มันต้องได้รับมากกว่าบทลงโทษไม่ใช่เหรอไง อดีตที่แสนเลวร้ายที่พ่อของเบียคุยะมอบให้เขา ให้เบียคุยะมาชดใช้ก็ไม่ผิดอะไรไม่ใช่เหรอ
แล้วทำไม...
ทำไมถึง...เจ็บ...ตรงนี้...
มือหนาละออกมาจากริมฝีปาก ชั่ววินาทีที่นิ้วเกลี่ยไปโดนปากนุ่มมันทำให้เขานึกถึงสัมผัสจากร่างบอบบางที่นอนป่วยอยู่ในห้อง คิดว่าตอนนี้ใบหน้าเขาคงแสดงอาการเจ็บปวดแสนสาหัส ถ้าอิจิโกะรู้...แล้วถ้าโทชิโร่อีกคน... พวกนั้นคงรู้สึกเหมือนโดนเขาหักหลัง
ไม่น่า...คิดไปเอง...คิดไปเอง...
ก็แค่คนคนนั้นป่วย ถ้าหายแล้วทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ใช่...มันแค่ความสังเวชเท่านั้นเอง
ก็แค่สังเวชเวทนา!!!
ร่างสูงยกเอกสารในมือสำรวจข้อความอย่างระมัดระวัง สายตาเหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน อีเมลล์ฉบับใหม่เข้ามาส่งเสียงน่ารำคาญทำให้เขาเสียสมาธิ เร็นจิเอื้อมมือไปกดดูอย่างเสียมิได้
อะไรกัน...งานสัมมนาอีกแล้วหรือไง
ร่างมองรายละเอียดอีกที ไม่นะ...ไม่ๆ ต้องไปนี่นา เร็นจิถอดแว่นตาออกอย่างหัวเสีย ทำไมเพิ่งส่งมาวันนี้นะ ส่งมาดึกๆดื่นๆพรุ่งนี้ก็ต้องไปแล้วใครมันจะเตรียมตัวทันกันละฟ่ะ
เดี๋ยวสิ... พรุ่งนี้มัน...
พรุ่งนี้ฉันจะไม่แตะต้องนาย
จริงสิ... พรุ่งนี้ก็ไม่ได้สินะ งั้นวันนี้...แต่ก็...
วันนี้จะแถมให้อีกวันในฐานะที่นายพูดง่าย
แล้วถ้ากลับมา...
แล้วจนกว่าจะหายป่วย...ฉันจะไม่ทำอะไรที่มันรุนแรงก็ละกันนะ
เร็นจิดีดตัวจากเก้าอี้ทำงาน เก้าอี้สีดำขลับเลื่อนไปติดผนังห้อง ดวงตาสีแดงทำจะหลอมละลายด้วยความรำคาญ ขุดหลุมฝังตัวเองแท้ๆ...
“เซ็นบง” ร่างสูงตวาดใส่เครื่องติดต่อกับพ่อบ้านใหญ่ของบ้าน
“พายุเข้าเหรอครับ” เสียงจากปลายสายตอบมาด้วยความสำราญใจ มันน่าหงุดหงิดนัก...
“เออ... ช่วยจัดกระเป๋าให้ฉันด้วย สัมมนากับลูกค้าใหญ่ ไปสี่วัน”
“ได้เลยครับนายท่าน” เสียงหัวเราะนิดๆแกมมาด้วย ท่าทางจะอารมณ์ดี “ขอห้านาทีผมจะส่งของไปให้”
“นายเป็นอะไรไปเซ็นบง” เร็นจิกระตุกคิ้วรำคาญ
“เปล่านี่ครับ”
“นายทำอะไรซาบิ” เร็นจิกอดอกแต่เสียงหัวเราะชอบใจที่เขาเดาถูกเริ่มทำให้เขาหมั่นไส้ ร่างสูงถลึงตาใส่เครื่องโทรศัพท์อย่างเอาเรื่องๆ “เว้ยๆ เด็กคนนั้นฉันห่วงนะเว้ย”
“ไหนบอกยกให้ผมจัดการไงครับ”
“นั่นมันให้แกลงโทษเฟ้ย ซาบิเป็นเด็กดีนะ กรุณาอย่าทำให้เสียคน”
“แน่ใจเหรอครับ” ขึ้นเสียงสูงล้อเลียนอีก
“เออสิวะ”
“ครับๆ งั้นขอตัวเตรียมของให้ท่านก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวแกทำอะไรซาบิ” ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด... ไอ้เซ็นบง... แก...ทำ...อะ...ไร...ซาบิ!!!
เว้ย น่าหงุดหงิดทั้งบ้านเลย... รวมทั้งไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้าง เสียแผนไม่ได้หรอก ครั้งนี้มันมาไกลเกินกว่าต้องสำเร็จแล้ว ร่างสูงก่ายหน้าผากมึนศีรษะ กลิ่นหอมจางๆยังคงติดอยู่ที่มือ
เบียคุยะ... หอมจัง... คิดอะไร...อยู่... อ่า...จริงสินะ...กลิ่นแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นที่หักหลังเขา ใช่...เรื่องมันนานมามากแล้ว
ลูเคีย... ทั้งๆที่เขาแอบชอบมากขนาดนั้นแท้ๆ ทำไมถึงทิ้งเขาไว้ ทำไมไม่หาทางช่วยอะไรเขาเลย พ่อของเธอ... ลูเคียเธอปล่อยให้พ่อของเธอทำกับฉันแบบนี้นี่นะ ถึงขนาดนั้นฉันก็ยังทำร้ายเธอไม่ได้อยู่ดี ขอโทษนะ...อิจิโกะ...โทชิโร่... ถึงตอนนี้ฉันก็ยังรักผู้หญิงที่ชื่อว่าลูเคีย ยังรักอยู่เหมือนเดิมทั้งๆที่โดนหักหลังขนาดนั้นก็ตาม
ขอโทษนะ... ความผิดของฉันเองที่ยังโง่รักเธออยู่ ฉันไม่อาจให้ใครมาทำอะไรลูเคีย...โดยที่ฉันต้องยืนอยู่เฉยๆได้ลงหรอกนะ
ฉันไม่อาจให้ใครมาทำอะไรเธอได้ อาจจะต้องบอบช้ำขนาดไหน แต่ว่า...
มือหนายกหมอนขึ้นมาฟาดใบหน้าตัวเอง ไม่ได้...ลูเคียมันเป็นเรื่องที่อยู่ในดุลยพินิจของอิจิโกะ ถ้าน้องชายเขาสั่งว่าเธอต้องตาย... ลูเคียก็ต้อง...
“อิจิโกะ” เร็นจิปิดเปลือกตาคิดเรื่อยเปื่อย “คิดว่าเรื่องนี้มันชักจะหนักเกินไปแล้วสิ”
หนักเกินไป ถึงแม้ว่าเดินมาไกลเกินกว่าคำว่าต้องสำเร็จแล้วก็ตาม ประธานคุจิกิกรุ๊ปต้องตาย นั่นถูกขีดเส้นไว้แล้วมันต้องเป็นไปตามนั้น...
เบียคุยะเองก็...ต้องตาย... นั่นแหละ ทุกอย่างถูกขีดเส้นไว้แล้ว เขาก็แค่ต้องทำให้เป็นไปตามนั้น แต่ทำไม...ก้อนที่มันเต้นอยู่ในร่างกายมันถึงร้องบอกว่าเข้าใจอะไรผิดไปนะ ทำไมต้องเจ็บปวดขนาดนั้นด้วย
พอเถอะน่า... มันก็ล้ำเส้นออกไปไม่ได้แล้ว แผนอันนี้แค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่เบี้ยวไม่ได้เด็ดขาด
“ฉันจะไม่อยู่” ร่างบางขมวดคิ้วข้องใจทั้งๆที่ดวงตายังตื่นตระหนกอยู่ ไหนบอกว่าวันนี้จะไม่ทำอะไรไง “สี่วัน รีบๆหายซะ ฉันไม่อยากติดหวัดชั้นต่ำพรรค์นี้”
“คะ...คุณสิที่ชั้นต่ำ” เสียงหวานตวาดใส่อย่างถือดี
“เบียคุยะ” เร็นจิกดเสียงให้ทุ้มต่ำลงไปอีก “คิดดูดีๆบางทีฉันอาจจะต้องฝากรอยไว้บนตัวนายก่อนซักสามสี่รอยจะดีไหม”
“คนเลว”
“เบียคุยะ”
“คนบ้ากาม ต่ำช้า คุณมันคนเลว ทำแบบนี้แล้วมันมีความสุขนักเหรอไงฮะ ไปไกลๆหน้าฉัน ฉันไม่อยากเห็นคุณ”
“เงียบนะ” เร็นจิบีบที่ข้อมือร่างบางหลวมๆ ต้องไม่ทำอะไร...ต้องนิ่งเข้าไว้...สัญญาเป็นสัญญาสิ
“ฮึก...คุณมันบ้าที่สุด ปล่อยฉันตายไปไม่ได้หรือไง คุณจะทำอะไรกับฉันกันแน่”
“เบียคุยะ!!! มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องฟังนาย หุบปากไปได้แล้ว” เร็นจิตะคอกเสียงต่ำ “ฉันแค่มาบอกจะได้ไม่ต้อง... ไม่ต้อง...สงสัยว่านายพ้นโทษไปแล้วหรือยังไง มันยังไม่จบหรอกนะ ฉันไม่ปล่อยให้นายตายดีแน่”
“เร็นจิ ...คุณมัน...ไม่ใช่คน...” เบียคุยะกัดริมฝีปากอย่างอดกลั้น บานประตูปิดใส่หน้าเขาดังโครมเมื่อเร็นจิออกไปพ้นห้อง
ไอ้คนเลว... ฉันไม่ทนอีกต่อไปแล้ว...
อะไรกัน... เรื่องแค่นี้ต้องมาว่าว่าฉันต่ำ ฉันกับนายก็มนุษย์เหมือนกันไม่ใช่หรือไง มันก็แค่หวัด... อะไรกันเล่า...เร็นจิ... ทุกวันนี้นายยังทำให้ฉันห่างจากคำว่าคนไม่พออีกหรือไง
แล้วไปทำไมตั้งสี่วัน!!! เบียคุยะเม้มริมฝีปากแน่น แค่ติดหวัดฉันนายก็ยังเป็นคนอยู่นั่นแหละน่า ให้ตายสิ...
ฉันมันต่ำพอๆกับเชื้อโรคเลยหรือไง
ไม่เอาน่าๆ...
เร็นจิสตาร์ทรถยนต์คันหรูอย่างหัวเสีย
ฉันแค่มาบอกจะได้ไม่ต้อง... ไม่ต้อง...
นี่เรากำลังจะพูดว่าไม่ต้องเป็นห่วงหรือไงกัน บ้า...บ้า...บ้าไปแล้ว...
ร่างสูงมองไปที่ตัวบ้านอีกครั้งก่อนที่จะคิดถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ ซาบิ... ช่างมันก่อนดีไหม เซ็นบงไม่ทำอะไรที่รุนแรงกับเธอหรอกน่า เจ้าหมอนั่นอุตส่าห์...ชอบ...ใครขึ้นมาซักคนแล้วนี่
แล้วเบียคุยะ... ถ้าซาบิไม่ได้ดูแลแล้วเขาจะหายป่วยไหมเนี่ย เฮ้ย...พอๆ...
มือหนาปลดล็อกเกียร์ก่อนเหยียบคันเร่งให้รถแล่นไปข้างหน้า หายไปซักสี่วันเดี๋ยวก็ลืมๆไปเองนั่นแหละ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น