คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5
แฮ่!! หวัดดีค่ะ มาอัพแล้วค่า
รอนานมั้ยเอ่ย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เจ็บจัง...ข้อมือ เจ็บข้อมือ ข้อเท้าด้วย ปวดไปทั้งตัวเลย เกิดอะไรขึ้นกับข้า อนุสติอันเลือนรางของหัวหน้าหน่วย 6 บอกกับตนเอง ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ดวงตาสีควันกวาดมองไปทั่วท่ามกลางความมืดที่รายล้อมรอบตัว ที่นี่มัน...คุก คุกนั่นนี่นา ไม่สิ ไม่ใช่ นี่มัน...ลานประหารใต้ดินนั่น บัดซบ! ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไง เบียคุยะเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความข้องใจ ก่อนหันมาสำรวจสภาพตนเอง โซ่ตรวนอันแข็งแรงล่ามทั้งมือทั้งเท้า นี่มันเรื่องบ้าอะไร แต่เอ๊ะ! ข้าไม่ได้ใส่ชุดยมทูตหรอกหรือ มือนี่มัน...มือนี่...ไม่ใช่มือข้านี่! เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินเข้ามา แสงสว่างยามบ่ายของภายนอกเผยให้เห็นร่างสูงระหงที่ดูยังไงมันก็คือคุจิกิ เบียคุยะชัดๆ!
“เจ้า”เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น ทำเอาคนพูดถึงกับตะลึง ในขณะที่ร่างของเบียคุยะยิ้มพราย
“ฮึๆๆๆ ตกใจรึไง หัวหน้าคุจิกิ ไม่สิ! ตอนนี้เจ้าเป็นแค่ฮอลโลว์ที่รอวันประหารนี่นา”น้ำเสียงนุ่มชวนฟัง ทว่าเจือไปด้วยความเจ้าเล่ห์ จองหอง ลำพอง...ฟังยังไงก็ไม่ใช่คุจิกิ เบียคุยะแน่ๆ
“เจ้า...เกิดอะไรขึ้น ทำไม ทำไมข้าถึง...”
“หึ แค่นี้มองไม่ออกรึไง หรือว่าท่านรับไม่ได้กันแน่ตอนนี้ท่านน่ะ อยู่ในตัวของข้า ส่วนตัวข้าก็อยู่ในตัวของท่านอย่างไรเล่า”เบียคุยะในมาดชั่วร้ายพูดอย่างสบายๆ ผิดกับร่างขาวซีดเบื้องหน้าที่ออกอาการหวั่นวิตกอย่างเห็นได้ชัด
“ร่างกายของเจ้านี่มันดีจริงๆ รูปก็งาม พลังก็สูง แถมยังมีอำนาจ ฮึๆๆ ข้าจะใช้มันทำอะไรดีนะ”
“หยุดความคิดบ้าๆนั่นซะ”ร่างบางเอ่ย ทว่าคนตรงหน้ากลับหัวเราะลั่น
“เจ้าผมแดงนั่น...ข้าจะให้มันตายอย่างไรดีนะ”พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ร่างที่หลายคนคิดว่าเป็นหัวหน้าหน่วย6ก็ใช้ชุนโป (หรือโซนีด) หายลับไปจากคลองจักษุของร่างบางที่ถูกตีตรวนล่ามโซ่อย่างแน่นหนา ตามแบบฉบับของนักโทษ
เร็นจิ...เจ้าบ้านั่นจะทำอะไร บ้าเอ๊ย! เบียคุยะสบถในใจ ก่อนเหลียวมองรอบกายแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ รอบตัวมีแต่ฮอลโลว์ ไม่ก็นักโทษประหาร หล่นลงมาที่นี่...ในสภาพนี้...โอกาสรอด...มีน้อยเหลือเกิน
รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งมาคิดอะไรได้เมื่อสาย...ต่อจากนี้ข้าจะได้พบเจ้าอีกไหม เร็นจิ
ขอโทษ ที่ข้าทำเย็นชาใส่เจ้า
ขอโทษ ที่ข้าทำร้ายเจ้า
ข้าอยากขอโทษ ขอแค่พูดคำนี้...จะให้โอกาสข้าได้มั้ยนะ
คำสั้นๆที่เขาไม่เคยคิดจะเอ่ยมัน เพราะคำว่าทิษฐิที่มันค้ำคอ
เพราะแบบนี้จึงได้แต่เสียใจภายหลัง ได้แค่เสียใจ...กี่ครั้งแล้วนะ ความรู้สึกนี้
เร็นจิ ข้าอยากพบเจ้าเหลือเกิน
อยากพบหน้า
อยากสนทนา
อยาก...อยากให้เจ้ามาอยู่ข้างๆ ไม่ต้องกลับมาเป็นรองหัวหน้าก็ได้ ขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ๆกัน ก็พอแล้ว
หยาดน้ำตาที่ห่างหายไปนานหลั่งรินลงมาอาบแก้ม ร่างบางพยายามข่มความรู้สึกจากจิตใต้สำนึกนั้นไว้
‘พวกเราไม่ควรเสียน้ำตา เพราะนั่นคือความพ่ายแพ้ของร่างกายที่มีต่อจิตใจ และเป็นเครื่องหมายพิสูจน์ว่า เราไม่สามารถรับมือกับใจตัวเองได้’
“บัดซบเอ๊ย!”เสียงของหัวหน้าหน่วย 6 สบถออกมาเบาๆกับดาบฟันวิญญาณเล่มบางที่ถืออยู่เสมอหน้า คุราโกะพยายามเป็นรอบที่ร้อยแล้ว เพื่อเข้าไปในโลกภายในนั่น เพื่อที่เขาจะได้ควบคุมดาบฟันวิญญาณของไอ้เจ้าคุจิกิ เบียคุยะ ทว่าไอ้ดาบบัดซบนี่ มันไม่ยอมแม้แต่จะปรากฏกายออกมาให้เขาได้เห็น ไม่รู้แม้แต่ชื่อมัน แล้วไอ้เจ้าบ้านั่น...ยมทูตนี่มันใช้ดาบยังไงล่ะ
“บัดซบ”ร่างบางสบถ ก่อนเควี้ยงดาบคาตานะเล่มสวยไปยังมุมหนึ่งของห้อง ก่อนเดินปึ้งปั้งไปนั่งบนโต๊ะอย่างอารมณ์เสีย จริงสิ...เจ้าผมแดงนั่น...
ไม่มีใครรู้หรอก ว่านอกจากเบียคุยะแล้วใครอีกคนหนึ่งก็กำลังอยู่ในภาวะถูกจองจำเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้มีโซ่ตรวน หากแต่เป็นสายตา...สายตาคมกริบราวกับว่าจะทะลุทะลวงร่างของคนเคราะห์ร้ายคนนั้น...อาบาราอิ เร็นจิ...หลังจากได้รับหมายเรียกตัวจากหัวหน้าใหญ่ ชายหนุ่มก็ตรงดิ่งมาทันที และสิ่งที่รอเขาอยู่คือหน่วยตุลาการ...หรือจะพูดให้ถูกก็คือ หัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะ แถมให้อีกคนคือรองซาซาคิเบะ...
“อธิบายมาสิว่า เจ้าทำร้ายยมทูตนั่นทำไม หัวหน้าอาบาราอิ”
“เจ้าหมอนั่น...เจ้าหมอนั่นมันเป็นตัวอันตรายนะครับ หัวหน้าใหญ่”เขาตอบกลับ ยามาโมโตะมีสีหน้าฉงนขึ้นมาเล็กน้อย
“อธิบายมาสิ”น้ำเสียงทรงอำนาจพูด
“คือว่า...”และแล้วเร็นจิก็เริ่มเล่าเรื่องที่เขาทราบให้หัวหน้าใหญ่ได้ฟังตามตรง ซึ่งท่านผู้เฒ่าก็นิ่งฟังโดยดุษณี
“เรื่องนี้...ข้าจะรับไว้พิจารณา ตอนนี้เจ้ากลับไปก่อน”โอ้! เสียงสวรรค์
“ครับผม”ร่างสูงตอบรับ ก่อนโค้งคำนับด้วยความเคารพอย่างสูงทีหนึ่ง ก่อนจะวิ่งติดเจ็ทกลับไปยังที่ทำการหน่วย6 ทว่า...
ผลั่ก! โครม!
เสียงของหนักหล่นกระแทกพื้นดังสนั่น พร้อมๆกับร่างสูงในชุดหัวหน้าหน่วย 2 ร่างที่ลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เอกสารกองโตที่คู่กรณีหอบมาด้วยกระจายว่อนไปหมด
“อ่า... ขอโทษครับ เอ่อ...”คำพูดที่กำลังจะออกมาจุกอยู่ที่ปากของท่านหัวหน้าหน่วย 5 ก่อนจ้องมองไปที่ร่างของคู่กรณี...งานนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะฟร่ะตู ห้วงคำนึงสุดท้ายของเร็นจิบอกกับตัวเองก็จะเจอกับ...พายุทอร์นาโดลูกเบ้อเริ่ม...
“หัวหน้าค้า”เสียงหวานเอ่ยเรียกดังลั่น ทำเอาคุราโกะในร่างเบียคุยะตกใจแทบตกเก้าอี้
“เข้ามา”เขาพูดเสียงเรียบ ประตูเบื้องหน้าเปิดออกโดยเร็ว
“ยังอยู่นี่อีกเหรอคะ วันนี้มีต้องไปตรวจตราความเรียบร้อยไม่ใช่เหรอคะ”หญิงสาวพูด คิ้วเรียวขมวดมุ่นกับความประพฤติที่เปลี่ยนไปของหัวหน้าตน
“ตรวจตรา? เจ้าไปแทนข้าทีสิ”
“เอ๊ะ! ได้ไง...”ร่างบางพยายามจะเถียง ทว่าคำพูดมันจุกอยู่ที่คอหอยเพราะสายตาเย็นเยียบจากหัวหน้า...สมองเริ่มประมวลผลอย่างรวดเร็วก่อนร่างกายจะออกเดินไปตามคำสั่งนั่น ร่างบางออกมาข้างนอก แล้วมาหยุดยืนหอบหายใจอยู่หน้าห้องของนายเหนือหัว
หัวหน้า...ทำไม ปกติหัวหน้าไม่ได้น่ากลัวแบบนี้นี่ สายตานั่น ราวกับ...มนตร์สะกด นี่ข้า...เกิดอะไรขึ้น ความคิดมากมายตีกันในหัวให้วุ่นไปหมด ก่อนร่างบางจะสะบัดหัวไล่ความคิดนั่นทิ้งไปแล้วเดินออกไปตรวจตรา ต้องไปปรึกษาเร็นจิ ใช่...ตรวจให้เสร็จแล้วต้องไปหาเร็นจิให้ได้
“ไม่ ไม่นะครับ ไปหาคุณอาบาราอิเดี๋ยวนี้เลย”น้ำเสียงทุ้มชวนฟังแว่วขึ้นในจิตใต้สำนึก
“ข้าต้องทำงานนะ”หญิงสาวตอบกลับในใจ หูแว่วเสียงคนถอนหายใจ
“นายหญิงครับ เชื่อข้าคนนี้สักครั้งเถอะครับ ไปหาคุณอาบาราอิเดี๋ยวนี้เลย”เสียงนั้นยังคงพูดต่อ
“รู้แล้วๆ”หญิงสาวพึมพำออกมาก่อนใช้ก้าวพริบตาไปหาอดีตรองหัวหน้าที่หน่วย 5
“เอ่อ หัวหน้ายังไม่มาเลยค่ะ”ฮินาโมริที่ออกมารับตอบ หญิงสาวผมดำที่เดินมาถึงกับเข่นเคี้ยวเคี่ยวฟันก้นด่าเจ้าดาบฟันวิญญาณตัวดี
“ถ้ามาแล้วช่วยเรียนด้วยนะคะว่าข้ามาขอพบ ถ้าจะให้ดีบอกว่าให้ไปหาด้วยนะคะ ไม่งั้นข้าจะบุกถึงห้องนอนจริงๆนะคะ ขอบคุณค่ะ”พูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหันหลังเดินลิ่วๆไปทำงานต่อ
“ไงล่ะฮะ แหม! เชื่อข้าสักครั้ง แล้วเป็นไง ชวด! ไอ้นี่นิมันน่าฆ่านัก”คารินบ่นออกมาเบาๆ
“ขอโทษครับ”เสียงเดิมตอบกลับ
“ฮึๆเพื่อเป็นการลงโทษ รู้นะจ๊ะ ว่าต้องทำเยี่ยงไร”หล่อนเค้นเสียงพูด ในใจนึกภาพดาบฟันวิญญาณที่ยืนหน้าซีดคอตก โว้ย! ซะใจ มีดาบหน้าตาดีนี่ก็ดีแบบนี้นี่เอง เคี้ยก!ฮ่าๆๆๆ
“นายหญิงครับ อย่าทำแบบนั้นเลยครับ”เสียงละห้อยพูดต่อ ทว่าเจ้านายยังคงไม่สนใจ
“นี่ น่าจะชินแล้วนะ พอท่านเร็นจิไม่อยู่ข้าก็เหงานะ เจ้านั่นแหล่ะ ที่พึ่งหนึ่งเดียวของข้า”เธอพูด พร้อมๆกับที่ร่างของนกฮูกหิมะสีขาวตัวหนึ่งปรากฏขึ้นและบินมาเกาะที่ไหล่
“โหดร้าย”มันบ่นพึมพำเบาๆ แม้คารินจะได้ยินแต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจ เจ้าดาบฟันวิญญาณที่โชคร้ายที่สุด...
จะว่าเจ้านกฮูกของคารินซวยที่สุดก็ไม่ถูก คนที่ดูแย่กว่าก็ยังมี...เซ็นบงซากุระ...ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวจมดิ่งอยู่กับภาวะจำศีล...
ต้องทำอะไรสักอย่าง! ไม่เช่นนั้นเขาก็จะถูกควบคุม ไม่เช่นนั้นอาจเป็นเขานี่แหล่ะ ที่หันดาบเข้าใส่เจ้านายตัวเอง ชายหนุ่มเดินไปเดินมาภายใต้ร่มไม้ที่เหี่ยวเชาซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ยังบานสะพรั่ง
ทำไงดี คิดสิ คิด! ถ้าเจ้าไม่ทำอะไรเลยเบียคุยะจะไม่รอดนะ สภาพตอนนี้ของเซ็มบงซากุระคือเจ้าตัวแทบจะเอาหัวโขกกำแพงแล้วตายๆไปซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ไอ้ครั้นจะทำอย่างนั้นมันก็...
เจ้าคุราโกะบ้านั่นพยายามจะติดต่อกับเขา ความสามารถของมัน...ควบคุมใจคนสินะ ถ้าไม่รีบเกรงว่าอีกไม่นานเขาเองก็อาจจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมนั่นด้วย แต่ถ้าหากรีบร้อนออกไป ก็ต้องโดนควบคุมเอาแน่ๆ ว๊ากก! นรกมีจริง ที่นี่ ตอนนี่ไง นรกล่ะ
ท่านเบียคุยะ บอกข้าทีสิ ข้าคนนี้ทำอะไรไม่ถูกแล้ว
เร็นจิเดินกลับหน่วยด้วยสภาพโซซัดโซเซ ก็... เฮ้อ พูดแล้วเครียดชะมัด
“หัวหน้าอาบาราอิ”เสียงหวานของรองหัวหน้าดังขึ้น ก่อนร่างของเจ้าตัวจะวิ่งเข้ามาหา
“หืมม์ มีอะไรรึ”
“คุณคารินเขามาหาน่ะค่ะ บอกว่าให้ไปพบด้วย ไม่งั้นจะมาหาเอง”ฮินาโมริพูด ใบหน้าแดงเรื่อ...มาหาของยัยนั่นคง...ยัยผู้หญิงหน้าด้านนี่
“โอเคๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“เอ่อ หน้าไปโดนอะไรมาคะ บวมเชียว”หญิงสาวถามเสียงค่อย ก่อยชี้มือไปที่รอยพกช้ำดำเขียวบนใบหน้าคมสันของหัวหน้าตน
“นี่น่ะเหรอ...”
ย้อนกลับไปเมื่อกลางวัน หลังจากไปพบหัวหน้าใหญ่
ผลั่ก! โครม!
เสียงของหนักหล่นกระแทกพื้นดังสนั่น พร้อมๆกับร่างสูงในชุดหัวหน้าหน่วย 2 ร่างที่ลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ เอกสารกองโตที่คู่กรณีหอบมาด้วยกระจายว่อนไปหมด
“อ่า... ขอโทษครับ เอ่อ...”คำพูดที่กำลังจะออกมาจุกอยู่ที่ปากของท่านหัวหน้าหน่วย 5 ก่อนจ้องมองไปที่ร่างของคู่กรณี...งานนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะฟร่ะตู ห้วงคำนึงสุดท้ายของเร็นจิบอกกับตัวเองก็จะเจอกับ...พายุทอร์นาโดลูกเบ้อเริ่ม...
“หา? แกเองเรอะเร็นจิ”เจ้าของเอกสารที่ปลิวว่อนเค้นเสียงถาม เร็นจิมองต้นเสียงด้วยใบหน้าชื้นเหงื่อ...ฮิซากิ ชูเฮย์ หัวหน้าหน่วย 9 คนใหม่ที่รับตำแหน่งพร้อมเขา...
“เอ่อ ขอโทษครับ”งานเข้า! ทำไมอีตานี่ต้องมาตอนนี้ด้วยนะ พุทธโธ ธัมโม สังโฆ! ขอให้ลูกช้างรอดกลับไปหาหัวหน้าด้วยเถิด สาธุ!
“ไอ้บ้านี่! รู้มั้ยข้านั่งทำนานเท่าไหร่ วันนี้แหล่ะ เอ็งตายแน่”และแล้วฉากระเบิดอารมณ์ฟาดพสุธาหวั่นไหวของท่านหัวหน้าฮิซากิก็อุบัติขึ้น...จริงๆแล้วชูเฮย์เองก็เป็นคนอารมณ์ดีอยู่เหมือนกัน ทว่า...เนื่องจากภาวะที่งานเยอะ+ไม่มีใครช่วยผ่อนแรงเพราะตำแหน่งรองที่ว่างอยู่ทำให้ท่านหัวหน้าหน่วย 9 จิตหลุดขั้นรุนแรง และเหยื่อรายแรกก็คือรุ่นน้องของเขานั่นเอง...
“เอ่อ ท่าจะเจ็บนะคะ ไปทายาก่อนมั้ยคะ”ฮินาโมริถาม เร็นจิส่ายหน้าปฏิเสธ
“เอาไว้ก่อนเถอะ ข้าจะไปหายัยตัวแสบก่อน ฝากหน่วยด้วยนะ”ร่างสูงยิ้มให้ก่อนเดินไปยังที่ทำงานเมื่อครั้งอดีต...
“คุณเร็นจิ”ริคิจิที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่งลำดับสามทักเสียงใส
“ไง คารินล่ะ”
“รองหัวหน้าไปตรวจครับ ยังไม่กลับมาเลย” ข้ามาหาแล้วนะคาริน แต่เจ้าไม่อยู่เองฮ่าๆๆๆๆๆ
“งั้นหัวหน้าล่ะ อยู่มั้ย”เร็นจิถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อยู่ครับ นั่งทำงานอยู่”
“ขอพบหน่อยละกัน ไม่ต้องมาด้วยหรอก”ว่าแล้วร่างสูงเจ้าของตำแหน่งหัวหน้าหน่วย5ก็เดินลิ่วๆไปยังห้องของอดีตหัวหน้าหน้วยใบหน้าชื่นบาน...
ท่านเบียคุยะ...
ความคิดเห็น