ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ ๔ (พาไปย้อนอดีตให้งงเลี่ยนๆกันเล็กน้อย)
“เบียคุยะ...” เสียงสดใสของใครบางคนดังขึ้นภายในสมองอันว่างเปล่า ภาพขาวมัวในหัวสมองที่ผ่านฝันร้ายมาทุกค่ำวันเริ่มปรากฏเป็นใบหน้ายิ้มแย้ม เบียคุยะรู้สึกตัวว่ากำลังจ้องมองเด็กชายผิวแทนในชุดลำลองสบายๆในวันหยุด ดวงตาและสีผมแดงฉานที่ดูคุ้นตาทำให้ชายหนุ่มอดผวาไปเล็กน้อยมิได้ แต่ใบหน้าสดใสนั้นยิ่งมองก็ยิ่งทำให้เขาคลายกังวล
“เร็นจิ” เสียงหวานที่เรียบนิ่งดังมาจากข้างหลังเขา เบียคุยะหันไปพบกับตัวเขาตอนเด็กในชุดเสื้อเชิ้ตขาวบางกางเกงขาสั้น เหมาะกับวันหยุดดีๆที่เขามีตลอดเวลาในช่วงเด็ก ถ้าเขามองไม่ผิดตอนนั้นเขาก็ยิ้มบางๆให้เด็กชายผมแดงอยู่ เร็นจิ...เป็นไปไม่ได้มั้ง...
“มาทำอะไรที่นี่เบียคุยะซัง” แววตาสดใสมีประกายเป็นห่วงขึ้นมา “พ่อเบียคุยะซังไม่ว่าเหรอ”
“ไม่รู้หรอกน่า” เขาปัดเศษใบไม้ที่ติดตามกางเกง ก่อนจะหันไปทำสายตาเชือดเฉือนใส่เพื่อนผมแดง “ยกเว้นว่านายจะไปบอก”
“ไม่หรอกน่า” เพื่อนตัวเล็กของเขายิ้มออกมา แขนผิวสีเข้มกอดรัดตัวเขาอย่างดีอกดีใจ “ฉันดีใจจะตายที่เบียคุยะซังมาหา” เขายิ้มออกมาอีกครั้ง ให้ตายเถอะ...เจ้านี่เป็นใครกัน...ปกติเขายิ้มยากจะตายไป
“งั้นก็อย่าทำให้ฉันเบื่อละกันเร็นจิ” ตัวเขากุมมือเด็กชายผมแดงไว้หลวมๆ “ไม่งั้นฉันจะเก็บค่าเหนื่อยที่อุตส่าห์หนีออกมาแพงๆเลยจะบอกให้”
“เบียคุยะซังหัวธุรกิจมากเกินไปแล้ว” เร็นจิ...ตอนเด็กพูดเสียงใสแต่ก็ดึงใบหน้าเขามาหอมแก้มฟอดใหญ่ “อื้อ...ตัวเบียคุยะซังหอมจัง”
“เร็นจิก็มีแต่กลิ่นเหงื่ออะ” เด็กชายผมแดงกระตุกก่อนปล่อยตัวเขาออกห่างๆ
“อะ...โทษที” เร็นจิยิ้มเหเกในขณะที่เขาเริ่มหัวเราะชอบใจ
“แต่ฉันชอบนะ” เขาเดินเข้าไปประชิดตัวเพื่อนอีกครั้ง “ฉันชอบกลิ่นของนายเพราะว่ามันเป็นตัวของนาย ฉันชอบนายเร็นจิ” เพื่อนเขาเริ่มกลับมายิ้มน่ารักให้อีกครั้ง
“งั้นก็แต่งงานกันสิ” เห...เบียคุยะรู้สึกหูชาวาบไปชั่วขณะ “ถ้าเราแต่งงานกันละก็...เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปใช่ไหมละ”
เร็นจิ... ใช่ไหม... อะไรกันเนี่ย เราเคยมีเหตุการณ์แบบนั้นอยู่ในชีวิตด้วยงั้นเหรอ
ปวดหัว...ไปหมดแล้ว...
อื้อ...หนักจัง มือใครทับตัวเราอยู่ หายใจไม่ค่อยออกเลย
เบียคุยะลืมตามาอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น เสื้อคลุมสีขาวตัวหลวมโคร่งถูกใส่ให้อย่างลวกๆ ปลายเสื้อปกปิดไปถึงต้นขาอ่อนของเขา แต่ที่มันน่าสนใจมากกว่านั้นคือเจ้าของมือปริศนาที่วางกดทับหน้าอกเขาไม่ยอมปล่อย
“เร็นจิ” เบียคุยะเอ่ยเสียงแห้ง จะว่าไปเขาไม่ได้เจอซาบิตั้งนานแล้วนะเนี่ย แล้วถ้าเร็นจิเข้ามาในห้องเขาเมื่อไหร่ก็แสดงว่ามันต้องตกเย็นไม่ก็มืดๆค่ำๆไปแล้ว “เร็นจิปล่อยผมก่อน ผมปวดหัว” เบียคุยะเริ่มจับได้ว่าตัวเองหายใจติดขัด ร่างบางสูดหายใจหนักหน่วงแต่กลับได้อากาศเข้ามาในปอดเพียงน้อยนิด ผิวเขาร้อนแผ่วขึ้นมาจนเขาแสบตาไปหมด ไม่ต้องให้หมอมาตรวจก็รู้แล้วว่าเป็นไข้
“อื้อ...ขออีกห้านาที” เร็นจิยิ่งกระชับอ้อมกอดเหมือนเขาเป็นหมอนข้าง อึดอัด...
“เร็นจิ...หายใจ...ไม่ออก”
“หืม”
“ระ...เร็นจิ” เบียคุยะรู้สึกเหมือนคำพูดมาจุกอยู่ที่ต้นคอ เขาหายใจไม่ออก “ผม...ไม่...แฮ่ก...ปล่อย”
“เอ๊ะ...” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าแดงก่ำของเขาก่อนที่จะรีบลุกออกไป “เบีย...คุยะ”
“ขอโทษ...ที่สั่งแต่ว่า...” ร่างบางหอบหายใจถี่อย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน “ฉัน...” ไม่ต้องรอให้ร่างบางสาวความ เร็นจิยกมือทาบหน้าผากเนียนอย่างเบามือ ตัวร้อน...ทำไมตอนที่นอนกอดตอนแรกไม่เห็นเป็นเลย
“นอนไป เดี๋ยวฉันไปหยิบยามาให้” เร็นจิผละออกจากเตียงแต่กลับถูกมือบางคว้าปลายเสื้อไว้
“ไม่...อย่า...ทรมานฉัน” เบียคุยะสะบัดหน้าอย่างอ่อนแรง ร่างบางหายใจฟืดฟาดจนคนมองเริ่มอ่อนใจ “ปล่อยฉัน...ตาย”
“บ้าหรือไง” เร็นจิคว้ากระปุกยาที่เขาวางไว้ในห้องน้ำทุกห้องในบ้าน มือหนายัดเหยียดเม็ดยาขาวขมลงไปในโพรงปากบาง แต่ลิ้นเล็กดันมันออกมา “เบียคุยะ กลืนมันลงไป”
“ได้โปรด” เบียคุยะดีดตัวหนีเม็ดยาสุดฤทธิ์ “ได้โปรดเถอะ ฮึก...แค่กๆๆ”
“อะไรกันเล่า กินลงไปเร็วๆ”
“เร็นจิ...ปล่อย...ให้...ฉัน...ตายไป” ดวงตาสีดำเริ่มมีน้ำใสๆคลอเบ้า ไม่ชอบใจ... เร็นจิมองด้วยความรู้สึกคับแค้นที่สะกิดหัวใจเขาออกมาเป็นริ้วๆ ทำไมอยากตายนักนะ ทำไมต้องเห็นว่าชีวิตตัวเองด้อยค่าอะไรแบบนั้น ห้าม...เขาไม่ปล่อยให้คนคนนี้ตายเด็ดขาด เบียคุยะเป็นของเขา ลมหายของเบียคุยะก็เป็นของเขา ชีวิตของเบียคุยะก็เป็นของเขา ถ้าเขาไม่อนุญาตให้ร่างบอบบางนี่ตาย มันก็ไม่มีสิทธิ์ตายไปจากเขา
“เบียคุยะฟังนะ” แต่ทำไมเขาต้องเล่นลูกอ้อนใส่คนดื้อไม่ห่วงชีวิตตัวเองด้วย “นายกินยาเม็ดนี้ไปซะแล้วพรุ่งนี้ฉันสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับนายทั้งวันเลย”
“ไม่มีประโยชน์หรอก...ปล่อยฉันไป” ร่างบางหลบสายตาเรียบนิ่งออกไปจากระยะสายตาเขา เร็นจิเบิกตามองคนที่ทอดอาลัยตายอยากตรงหน้าอย่างแทบไม่เชื่อสายตา
เบียคุยะเลือกที่จะตาย
ทำไม...ถึงต้องทำแบบนั้น บทแก้แค้นเขามันหนักมากขนาดนั้นเชียวหรือไง แล้วทำไมถึงอยู่เป็นของเล่นของเขาต่อให้หายอยากต่อไปไม่ได้
“ฟังนะ” เร็นจิพูดเสียงทุ้ม เขารู้ว่าคนป่วยที่นอนซมหวาดกลัวเสียงนี้ และตอนนี้เขาต้องใช้มันให้เบียคุยะยอมรับยาเฮงซวยนี่ให้ได้ “นายก็รู้ว่าฉันทำให้นายกินได้แน่ นายไม่ได้ตายหรอกเบียคุยะ และถ้านายยังไม่กินฉันจะทำให้มันเป็นมากกว่านรกขุมที่สิบแปดของนายอีกต่างหาก คิดให้ดี”
“อื้อ ไม่เอา”
“เด็กดื้อ” เร็นจิส่งเม็ดยามาจ่อที่ริมฝีปาก “กินไปซะ” เบียคุยะช่างใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจรับเม็ดยาลงไป ริมฝีปากหนาจูบซับดุดันบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างหิวกระหาย “พรุ่งนี้ฉันจะไม่แตะต้องนาย วันนี้จะแถมให้อีกวันในฐานะที่นายพูดง่าย แล้วจนกว่าจะหายป่วย...ฉันจะไม่ทำอะไรที่มันรุนแรงก็ละกันนะ”
“อื้ม”
“เป็นเด็กดี รีบหายไวๆละ”
..........................................
เย้ จบไปวันหนึ่ง
ขอพูดบ่นนิดหน่อยนะเจ้าคะ
กรุงเทพฯ เครียดมากๆ
จบเจ้าค่ะ
หาสาระอันใดกับข้าน้อยไม่ได้เลย
..........................................
เย้ จบไปวันหนึ่ง
ขอพูดบ่นนิดหน่อยนะเจ้าคะ
กรุงเทพฯ เครียดมากๆ
จบเจ้าค่ะ
หาสาระอันใดกับข้าน้อยไม่ได้เลย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น