ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic bleach : renbya] ignorance ระหว่างเจ้ากับข้า [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 53


    สวัสดีค่ะ นักอ่านที่น่ารักทุกท่าน�
    สำหรับฟิคนี้อ่านตรงไหนงงอะไรคอมเม้นต์บอกกันได้เลยนะคะ หรือว่าฟิคนี้บกพร่องตรงไหนก็ติชมกันได้เต็มที่เลยนะคะ ^^
    เอาล่ะ เริ่มกันเลย
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ...ร่างอันนี้อยู่เหนือการควบคุมของเขา...

    นี่มันอะไรกัน...

    เร็นจิรั้งตัวไว้กับพื้น�� ในขณะที่ดวงตายมทูตประหลาดเริ่มขุ่นมัว�� หัวคิ้วขมวดแน่นเหมือนขัดใจ

    ทำตามข้าสั่งสิ...เจ้าหัวแดง�� เร็นจิลุกพรวดเดินเข้าไปช้อนร่างอ่อนระทวยขึ้นอุ้ม�� ชายหนุ่มกัดฟันพยายามต้านการเคลื่อนไหวของตัวเองเต็มที่�� แต่เท้ากลับเดินไปข้างหน้าเสียดื้อๆ

    ...ไม่ได้การแล้ว...ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่า...เราพาตัวอะไรก็ไม่รู้เข้าใกล้พวกยมทูตมากขึ้น...

    ชายหนุ่มข่มตาหลับพร้อมพยายามบังคับให้ตัวเองหยุดเดินแต่ไม่ได้ผล�� เขายังคงก้าวต่อไป

    เป็นอะไรไปเจ้าหัวแดง�� ร่างยมทูตปริศนายังคงอยู่ในอ้อมแขน�� แผลที่ช่องท้องเริ่มปริออกมาในขณะที่มันเบ้หน้า�� เร็วกว่านี้อีกหน่อยสิ�� แผลที่เขาฟันขึ้นเริ่มปรากฏไล่ขึ้นลามไปที่หน้าอก�� เร็นจิกัดฟันยั้งฝีเท้าให้ช้าลง�� เร็วๆ�� ร่างปริศนาร้องตะโกนเห็นได้ชัดว่าเริ่มทนพิษบาดแผลไม่ไหว

    ใกล้หน่วย...4...�� เข้าไปทุกทีแล้ว...

    เร็นจิกัดฟันแน่นก่อนจะเอื้อมมือหยิบดาบมาตัดขาตัวเอง�� ทั้งคู่ล้มกองกับพื้นไม่เป็นท่า

    เจ้าโง่...�� ร่างยมทูตหน้าเริ่มแตกกรีดร้อง�� เร็นจิเงื้อดาบขึ้นหมายจะแทงกลางหัวใจตัวประหลาดแต่ว่า...��� ฆ่าตัวตายซะ...เจ้าผมแดงไร้ประโยชน์

    แล้วปลายดาบของเขาก็เสียบทะลุกลางแผ่นหลังด้วยมือของเขาเอง

    ท่านเบียคุยะ...

    ร่างสูงสะดุ้งตื่นเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มแยงตา

    เช้าแล้วเหรอ...เรื่องบ้าๆแบบนั้น...เขาฝันไปใช่ไหม

    รองหัวหน้าเร็นจิ�� ร่างหนึ่งโถมเข้ากอดใส่ตัวของเขา�� เร็นจิจำเสียงนี้ได้ดี...

    คาริน�� ข้าเป็นหัวหน้าหน่วยห้าแล้วนะอย่าลืมสิ�� เขาตบหลังเด็กสาวที่สะอื้นร้องไห้บนบ่าเขาเบาๆ���
    เจ้าใกล้ตายแล้วนะ...ข้าว่าหัวหน้าคุจิกิคงใช้งานเจ้าหนักจนเพี้ยนมากกว่าเก่านะเลย

    อื้อ...รายนั้นน่ะไม่ไหวจริงๆ�� ฮื่อ...�� ท่านเร็นจิ�� ข้านึกว่าท่านจะตายเสียแล้ว�� คารินยังสติแตกต่อไป

    ข้าไม่ตายง่ายๆเหมือนใครบางคนที่ร้องขี้มูกโป่งหรอกน่า�� เร็นจิดันตัวเด็กสาวออกไป�� ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วสงสัย�� วันที่เท่าไหร่แล้ว

    ท่านหลับไปสองวันเต็มๆ�� คารินเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม���
    ข้าเห็นท่านนอนหมดสติอยู่กับยมทูตอีกคน�� เลยช่วยไว้ทั้งคู่

    ช่วยไว้ทั้งคู่...�� โอ๊ะ...ตายแล้ว...�� ไม่ใช่ความฝันเหรอเนี่ย...

    คาริน หมายความว่าเจ้าช่วยข้ากับ...กับยมทูตคนนั้น งั้นเหรอ?เร็นจิเขย่าตัวเด็กสาว ถามเสียงดังจนเกือบเป็นตวาด

    เอ๋ๆๆๆ ก็ใช่สิคะ หยุดเขย่าได้แล้ว ข้าไม่ใช่มิลค์เชคนะเด็กสาวตอกกลับ เร็นจิจึงปล่อยมือที่จับหัวไหล่เธออยู่ แล้วเปลี่ยนมากุมขมับแทน

    มีอะไรเหรอคะ

    อ่า...ไม่มีอะไรเขาตอบแบบไม่ค่อยเต็มเสียง ดูเหมือนคารินจะจับพิรุธได้แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไร

    อืม วันนี้ท่านก็นอนไปก่อนนะคะ พักผ่อนให้มากๆ ประเดี๋ยวจะได้กลับไปทำงานไวๆพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นเด็กสาวก็เดินออกไปจากห้อง อดีตรองหัวหน้าหน่วย 6 ค่อยๆล้มตัวลงนอนช้าๆ ก่อนปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งเพราะความอ่อนเพลีย

    อุ่นจัง...มือ?...นี่ข้า ฝันไปใช่รึไม่ สำนึกพร่ำบอกกับตนเองในขณะที่ร่างสูงพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้ง ทว่าก็ได้แค่พยายาม...อยากลืมตาทว่าหนังตามันหนักราวกับมีอะไรมากดไว้ คงรู้สึกแต่สัมผัสอ่อนนุ่มที่เกาะกุมอยู่กับอุ้งมือที่วางอยู่ข้างลำตัว...พลังวิญญาณ...กลิ่นอายนี้...ความฝันรึ

    หากเป็นความฝัน เหตุใดมันจึงแจ่มชัดเพียงนี้ รึว่าข้า อุปาทานไปเอง หูแว่วเสียงเจ้าของมือถอนหายใจ

    เร็นจิ เจ้าจะนอนไปถึงไหนนะเสียงหวานที่คุ้นหูรำพึงเบาๆ ร่างสูงมิทันได้ตอบโต้ มิทันได้เอ่ยคำใดออกไป ประสาทการรับรู้ทุกอย่างขาดสะบั้นลง ไม่สามารถรับรู้ได้อีกแล้วว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร รู้อย่างเดียว...คิดถึง อยากคุย อยากพบหน้า อยากอยู่ใกล้ๆ ทำไมกันนะ


    ใช่ ตอนนี้ข้าคือหัวหน้าหน่วย แต่ทำไมถึงไม่อยากรับตำแหน่งนี้

    ตำแหน่งนี้เทียบเท่ากับคุจิกิ เบียคุยะ คนที่ข้าฝันจะเอาชนะให้ได้นะ

    ทำไมถึงรู้สึก...

    ถ้าหากการเหนือกว่าคุจิกิเบียคุยะคือความหวังของเจ้า ความหวังของข้าคือการร่วมต่อสู้กับหัวหน้าซาราคิคำพูดของรุ่นพี่ที่เปรียบเสมือนอาจารย์พุดขึ้นมาในหัว

    ความรู้สึกของอิกคาคุ เขาเองก็คงเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้าง แต่...เขากับคนๆนั้นมันต่างกันเกินไป

    คนๆนั้นเป็นถึงขุนนางชั้นสูง ตัวเขาเป็นแค่...คนธรรมดา จากเมืองลูคอน

    ดุจวานรไขว่ขว้าดวงจันทร์ เจ้าไม่มีวันเอาชนะข้าได้หรอก

    คำพูดวันนั้นที่ท่านพูดกับข้ามันแทบจะฉีกหัวใจข้าออกเป็นชิ้นๆ หัวหน้าคุจิกิ ทำไมท่านถึงได้ใจร้ายกับข้านัก...

    เจ้าผมแดง อยากมีชีวิตอยู่ต่อมากนักรึยมทูตประหลาดที่เพิ่งพบ ปรากฏขึ้นตรงหน้า ท่ามกลางความมือมดของจิตใต้สำนึก

    เจ้า...เจ้าเข้ามาได้ไง เจ้าเป็นใครกันแน่ร่างสูงตวาดกลับ

    ฮึๆๆๆ ตอบคำถามข้ามาสิร่างนั้นพูดเสียงแหบพร่า

    ก็...แล้วมันยังไงล่ะ

    ถ้าเช่นนั้น...ถ้าเช่นนั้นทำไม...ทำไมเจ้าต้องฆ่าข้าด้วยร่างนั้นพูด ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างปวดร้าวด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด ก่อนเลือนหายไปจากการรับรู้ เมื่อนั้น เปลือกตาที่หนักอึ้งในตอนแรกก็เปิดขึ้น ร่างสูงเหลียวมองข้างกายโดยเร็ว


    ว่างเปล่า...ไม่มีผู้ใดนั่งอยู่...


    คิดไปเอง เขาคิดไปเองทั้งนั้น คนอย่างเบียคุยะน่ะหรือจะถ่อมาเฝ้าเขา มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้หรอก จริงไหม? เร็นจินึกทบทวนความฝันเมื่อครู่ ไอ้หมอนั้น มันเป็นใครกัน...และจากนั้นก็ไม่ทราบว่าท่านหัวหน้าหน่วย 5 จะม่อยกระรอกไปเมื่อไร
    มารูตัวอีกทีก็เพราะความรู้สึกว่า...อันตราย อันตรายบางอย่างกำลังอยู่ใกล้ๆ ร่างสูงเปิด

    เฮ้ยยย!!!! คาริน�� เร็นจิที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเจอใบหน้าเด็กสาวที่เอาแต่จ้องเขาไม่วางตาตะโกนสุดเสียง ก่อนเผ่นพรวดเดียวไปอยู่อีกมุมหนึ่งที่ห่างจากเด็กสาว...เด็กสาวที่หลายคนมองว่าปราศจากพิษภัยนี่เจ้าโรคจิตรึไงเนี่ย

    ตั้งนานแล้วค่ะ�� เอ้ย...ไม่ใช่�� ยมทูตสาวฉีกยิ้มหวาน (คิดว่านะ)�� เมื่อกี้ท่านเบียคุยะสั่งให้ข้าเอาอาหารว่างมาให้ท่าน�� คารินรวบตัวหนุ่มผมแดงมากอดก่อนจะมองถาดอาหารที่วางไว้บนโต๊ะ�� ถือว่าเมื่อกี้เป็นรางวัลของข้าละกันนะคะ

    ข้าจะพยายามคิดให้เป็นแบบนั้น�� เร็นจิประเคนฝ่าเท้าถีบเด็กสาวลงจากเตียงโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิงมือหนาคว้าถาดอาหารอย่างรู้งาน

    ง่ะ...ขอบคุณข้าหน่อยสิ�� คารินเบ้ปาก ขณะลุกขึ้นยืนมองการกระทำอันเป็นสุภาพบุรุษของอดีตรองหัวหน้า

    ขอบคุณ�� เร็นจิขึ้นเสียงสูงเป็นเชิงหยอกยมทูตสาวอดีตลำดับสามเล่นๆ�� ไปไกลๆเลยไป

    เออ...อีกอย่าง�� คารินเดินไปใกล้ประตูก่อนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์�� ข้าว่าท่านเบียคุยะเป็นห่วงท่านนะ�� น่าจะไปหาซักหน่อย�� ว๊า...ข้าไปแล้วๆ�� ก่อนจะรีบอันตธานตัวหายไป��ขนาดเมื่อกี๊แค่กอดยังโดนถีบ ขืนอยู่ก็โดนบังไคอะสิ...

    ...เป็นห่วงเหรอ...

    เร็นจิเผลอยิ้มน้อยๆออกมา�� เป็นห่วงข้าจริงๆหรือเปล่านะท่านเบียคุยะ...

    ณ หน่วย 6
    เสียงฝีเท้าข้างนอกทำให้เบียคุยะขมวดคิ้ว�� คารินเดินมากับใครกัน...�� สัมผัสที่ไม่คุ้นทำให้มือบางเอื้อมไปแตะปลายดาบ�� ประตูเปิดเลื่อนออกมาโดยรองหัวหน้าเขาและยมทูตอีกคน

    เอ่อ...ท่านหัวหน้า�� ยมทูตที่ข้ารายงานไว้ตั้งแต่สองวันก่อน�� คารินชี้นิ้วไปที่คนข้างหลัง�� ยมทูตหน้าตาหงอยเหงาเดินเข้ามาก้มหัวโค้งคำนับให้

    ข้าต้องขอบคุณท่าน...หัวหน้า...�� เสียงเว้นค้าง...

    คุจิกิ�� เบียคุยะละมือขึ้นมาถือด้ามพู่กัน�� แต่เสียงยังเงียบอยู่...

    ขอโทษนะครับ�� ยมทูตหางตาตกเอ่ยเสียงอ่อย�� คุจิกิ...อะไรเหรอครับ

    ไม่ใช่ธุระของเจ้า�� เบียคุยะเอ่ยเย็นชา�� รู้แค่นั้นก็เกินพอแล้ว

    หัวหน้าคุจิกิ�� คารินขึ้นเสียงมาจากที่ประตู�� สงสารเขาบ้างสิคะ

    อย่าปากโป้ง�� เบียคุยะหันไปดุรองหัวหน้าหัวดื้อ�� แต่คารินกลับแลบลิ้นแล้วเดินหายไป�� ห้องทั้งห้องเงียบไปโดยปริยาย

    หัวหน้าคุจิกิ�� เสียงเจ้าเล่ห์ดังขึ้นเมื่อพ้นรัศมีที่จะมีคนแอบสอดรู้ได้ยิน�� มือบางชะงักค้างกลางอากาศก่อนที่เจ้าของมือจะเบิกตามองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ�� วางมันลงซะเถอะ�� ท่านไม่จำเป็นต้องจำมันอีกต่อไปแล้ว�� มือเขาทำตามอย่างว่าง่าย...ง่ายเสียจนเจ้าของมือยังตกใจ

    เจ้า�� เบียคุยะใช้อีกมือแตะปลายดาบ

    ไม่หรอกท่านเบียคุยะ�� แต่มือบางก็หนักอึ้งตกลงไปที่พื้น�� ท่านไม่ทำอย่างนั้นหรอก�� เบียคุยะรู้สึกจุกที่ลำคอก่อนที่จะโดนแรงปริศนากดลงกับพื้น

    แก...เป็นใคร�� เบียคุยะกัดฟันถาม�� เปลือกตาบางหนักอึ้งจะปิดลงเสียให้ได้

    เห็นแก่หุ่นกระบอกของข้า�� หน้ายมทูตเริ่มฉีกขาด�� ข้าชื่อคุราโกะ�� มาที่นี่เพื่อ...นั่นสินะ...�� มาเที่ยวฆ่ายมทูตเล่นๆละมั้ง�� ยมทูตปริศนาฉีกยิ้ม�� ต่อไปนี้ท่านก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้วละ�� หัวหน้าคุจิกิ

    ...ไม่ต้องพูด...

    หัวหน้าหน่วยหกนิ่งอึ้งเมื่อปลายคมดาบจรดที่ลำคอ�� จะทำอะไร...

    โอ๊ะ�� ไม่หรอก...ข้าไม่โหดร้ายขนาดนั้น�� คุราโกะเปิดยิ้มอีกครั้ง�� มือซีดเซียวเหมือนไร้เรี่ยวแรงแตะที่หน้าผากขาวบาง

    อึก...�� เบียคุยะรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อตแล่นไปทั่วร่าง�� รุนแรงจนเขาสลบไป

    หืม...�� คารุโกะเบิกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนยิ้มขำ�� เคยเป็นหัวหน้าเจ้าผมแดงนั่นด้วยเหรอ�� ก็ดีนี่...ใช้ประโยชน์ได้ดีทีเดียว�� แววตาเข้มขึ้นเหมือนมีแรงแค้นจากภายใน�� ไอ้คนไม่ยอมทำตามคำสั่งแบบนั้น�� จะให้ตายยังไงดีนะ

    อ้าว...คุณเร็นจิ�� คนในหน่วยหกยิ้มให้เมื่อพบหน้าเขา�� เร็นจิยกมือทักทายเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องหัวหน้าหน่วย

    หัวหน้าอาบาราอิ�� ผีเสื้อนรกบินเข้ามาขวางพอดี�� หัวหน้ายามาโมโตะเรียกตัวท่านด่วนขอรับ�� เร็นจิทำตาละห้อย�� เป็นคำสั่งขอรับ�� แต่ไม่เคยได้ผลซะที...

    เฮ้อ...�� ไปเดี๋ยวนี้แหละ�� เร็นจิแอบบ่นไปตลอดทาง�� ให้ข้าไปทำอะไรอีกละทีนี้

    ไปรายงานขอรับ�� ผีเสื้อนรกตอบ

    ขอเวลาแป๊ปเดียวไม่ได้เหรอ�� เร็นจิยังคงแอบบ่นต่อไป

    รอท่านตื่นมาสองวันแล้วขอรับ�� แล้วก็ยังหูดีได้ยินอีกเช่นเคย...

    หัวหน้า�� คารินเปิดประตูมาพร้อมกับถ้วยชา�� อ้าวเฮ้ย�� ฮอลโลว์�� ยมทูตสาวมองร่างที่สลบบนพื้นอย่างขัดข้องใจ�� เข้ามาไง

    ...คาริน�� เด็กสาวหันไปมองร่างหัวหน้าตนเอง�� แทนที่เจ้าจะเอาแต่ถาม�� มาช่วยข้าจัดการเจ้านี่ไม่ดีกว่าหรือไง

    เอ่อ...เออ�� จริงด้วย�� เด็กสาวเกาหัว�� งั้นก็ส่งไปให้ท่านยามาโมโตะก่อนก็ละกันและแล้วรองหัวหน้าสาวตัวแสบแห่งหน่วย 6 ก็จัดการลากตัวเจ้าฮอลโลว์ที่นอนหมดสภาพไปตามคำบัญชา โดยมิทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏอยู่บนริมฝีปากได้รูปของผู้บังคับบัญชาของตน

    �...To be continued...�
    แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ บ๊ายบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×