คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4
สำหรับฟิคนี้อ่านตรงไหนงงอะไรคอมเม้นต์บอกกันได้เลยนะคะ หรือว่าฟิคนี้บกพร่องตรงไหนก็ติชมกันได้เต็มที่เลยนะคะ ^^
เอาล่ะ เริ่มกันเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
...ร่างอันนี้อยู่เหนือการควบคุมของเขา...
นี่มันอะไรกัน...
เร็นจิรั้งตัวไว้กับพื้น�� ในขณะที่ดวงตายมทูตประหลาดเริ่มขุ่นมัว�� หัวคิ้วขมวดแน่นเหมือนขัดใจ
“ทำตามข้าสั่งสิ...เจ้าหัวแดง”�� เร็นจิลุกพรวดเดินเข้าไปช้อนร่างอ่อนระทวยขึ้นอุ้ม�� ชายหนุ่มกัดฟันพยายามต้านการเคลื่อนไหวของตัวเองเต็มที่�� แต่เท้ากลับเดินไปข้างหน้าเสียดื้อๆ
...ไม่ได้การแล้ว...ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่า...เราพาตัวอะไรก็ไม่รู้เข้าใกล้พวกยมทูตมากขึ้น...
ชายหนุ่มข่มตาหลับพร้อมพยายามบังคับให้ตัวเองหยุดเดินแต่ไม่ได้ผล�� เขายังคงก้าวต่อไป
“เป็นอะไรไปเจ้าหัวแดง”�� ร่างยมทูตปริศนายังคงอยู่ในอ้อมแขน�� แผลที่ช่องท้องเริ่มปริออกมาในขณะที่มันเบ้หน้า�� “เร็วกว่านี้อีกหน่อยสิ”�� แผลที่เขาฟันขึ้นเริ่มปรากฏไล่ขึ้นลามไปที่หน้าอก�� เร็นจิกัดฟันยั้งฝีเท้าให้ช้าลง�� “เร็วๆ”�� ร่างปริศนาร้องตะโกนเห็นได้ชัดว่าเริ่มทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ใกล้หน่วย...4...�� เข้าไปทุกทีแล้ว...
เร็นจิกัดฟันแน่นก่อนจะเอื้อมมือหยิบดาบมาตัดขาตัวเอง�� ทั้งคู่ล้มกองกับพื้นไม่เป็นท่า
“เจ้าโง่...”�� ร่างยมทูตหน้าเริ่มแตกกรีดร้อง�� เร็นจิเงื้อดาบขึ้นหมายจะแทงกลางหัวใจตัวประหลาดแต่ว่า...��� “ฆ่าตัวตายซะ...เจ้าผมแดงไร้ประโยชน์”
แล้วปลายดาบของเขาก็เสียบทะลุกลางแผ่นหลังด้วยมือของเขาเอง
ท่านเบียคุยะ...
ร่างสูงสะดุ้งตื่นเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มแยงตา
เช้าแล้วเหรอ...เรื่องบ้าๆแบบนั้น...เขาฝันไปใช่ไหม
“รองหัวหน้าเร็นจิ”�� ร่างหนึ่งโถมเข้ากอดใส่ตัวของเขา�� เร็นจิจำเสียงนี้ได้ดี...
“คาริน�� ข้าเป็นหัวหน้าหน่วยห้าแล้วนะอย่าลืมสิ”�� เขาตบหลังเด็กสาวที่สะอื้นร้องไห้บนบ่าเขาเบาๆ���
“เจ้าใกล้ตายแล้วนะ...ข้าว่าหัวหน้าคุจิกิคงใช้งานเจ้าหนักจนเพี้ยนมากกว่าเก่านะเลย”
“อื้อ...รายนั้นน่ะไม่ไหวจริงๆ�� ฮื่อ...�� ท่านเร็นจิ�� ข้านึกว่าท่านจะตายเสียแล้ว”�� คารินยังสติแตกต่อไป
“ข้าไม่ตายง่ายๆเหมือนใครบางคนที่ร้องขี้มูกโป่งหรอกน่า”�� เร็นจิดันตัวเด็กสาวออกไป�� ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วสงสัย�� “วันที่เท่าไหร่แล้ว”
“ท่านหลับไปสองวันเต็มๆ”�� คารินเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม���
“ข้าเห็นท่านนอนหมดสติอยู่กับยมทูตอีกคน�� เลยช่วยไว้ทั้งคู่”
ช่วยไว้ทั้งคู่...�� โอ๊ะ...ตายแล้ว...�� ไม่ใช่ความฝันเหรอเนี่ย...
“คาริน หมายความว่าเจ้าช่วยข้ากับ...กับยมทูตคนนั้น งั้นเหรอ?”เร็นจิเขย่าตัวเด็กสาว ถามเสียงดังจนเกือบเป็นตวาด
“เอ๋ๆๆๆ ก็ใช่สิคะ หยุดเขย่าได้แล้ว ข้าไม่ใช่มิลค์เชคนะ”เด็กสาวตอกกลับ เร็นจิจึงปล่อยมือที่จับหัวไหล่เธออยู่ แล้วเปลี่ยนมากุมขมับแทน
“มีอะไรเหรอคะ”
“อ่า...ไม่มีอะไร”เขาตอบแบบไม่ค่อยเต็มเสียง ดูเหมือนคารินจะจับพิรุธได้แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไร
“อืม วันนี้ท่านก็นอนไปก่อนนะคะ พักผ่อนให้มากๆ ประเดี๋ยวจะได้กลับไปทำงานไวๆ”พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นเด็กสาวก็เดินออกไปจากห้อง อดีตรองหัวหน้าหน่วย 6 ค่อยๆล้มตัวลงนอนช้าๆ ก่อนปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งเพราะความอ่อนเพลีย
อุ่นจัง...มือ?...นี่ข้า ฝันไปใช่รึไม่ สำนึกพร่ำบอกกับตนเองในขณะที่ร่างสูงพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้ง ทว่าก็ได้แค่พยายาม...อยากลืมตาทว่าหนังตามันหนักราวกับมีอะไรมากดไว้ คงรู้สึกแต่สัมผัสอ่อนนุ่มที่เกาะกุมอยู่กับอุ้งมือที่วางอยู่ข้างลำตัว...พลังวิญญาณ...กลิ่นอายนี้...ความฝันรึ
หากเป็นความฝัน เหตุใดมันจึงแจ่มชัดเพียงนี้ รึว่าข้า อุปาทานไปเอง หูแว่วเสียงเจ้าของมือถอนหายใจ
“เร็นจิ เจ้าจะนอนไปถึงไหนนะ”เสียงหวานที่คุ้นหูรำพึงเบาๆ ร่างสูงมิทันได้ตอบโต้ มิทันได้เอ่ยคำใดออกไป ประสาทการรับรู้ทุกอย่างขาดสะบั้นลง ไม่สามารถรับรู้ได้อีกแล้วว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร รู้อย่างเดียว...คิดถึง อยากคุย อยากพบหน้า อยากอยู่ใกล้ๆ ทำไมกันนะ
ใช่ ตอนนี้ข้าคือหัวหน้าหน่วย แต่ทำไมถึงไม่อยากรับตำแหน่งนี้
ตำแหน่งนี้เทียบเท่ากับคุจิกิ เบียคุยะ คนที่ข้าฝันจะเอาชนะให้ได้นะ
ทำไมถึงรู้สึก...
‘ถ้าหากการเหนือกว่าคุจิกิเบียคุยะคือความหวังของเจ้า ความหวังของข้าคือการร่วมต่อสู้กับหัวหน้าซาราคิ’คำพูดของรุ่นพี่ที่เปรียบเสมือนอาจารย์พุดขึ้นมาในหัว
ความรู้สึกของอิกคาคุ เขาเองก็คงเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้าง แต่...เขากับคนๆนั้นมันต่างกันเกินไป
คนๆนั้นเป็นถึงขุนนางชั้นสูง ตัวเขาเป็นแค่...คนธรรมดา จากเมืองลูคอน
‘ดุจวานรไขว่ขว้าดวงจันทร์ เจ้าไม่มีวันเอาชนะข้าได้หรอก’
คำพูดวันนั้นที่ท่านพูดกับข้ามันแทบจะฉีกหัวใจข้าออกเป็นชิ้นๆ หัวหน้าคุจิกิ ทำไมท่านถึงได้ใจร้ายกับข้านัก...
“เจ้าผมแดง อยากมีชีวิตอยู่ต่อมากนักรึ”ยมทูตประหลาดที่เพิ่งพบ ปรากฏขึ้นตรงหน้า ท่ามกลางความมือมดของจิตใต้สำนึก
“เจ้า...เจ้าเข้ามาได้ไง เจ้าเป็นใครกันแน่”ร่างสูงตวาดกลับ
“ฮึๆๆๆ ตอบคำถามข้ามาสิ”ร่างนั้นพูดเสียงแหบพร่า
“ก็...แล้วมันยังไงล่ะ”
“ถ้าเช่นนั้น...ถ้าเช่นนั้นทำไม...ทำไมเจ้าต้องฆ่าข้าด้วย”ร่างนั้นพูด ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างปวดร้าวด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด ก่อนเลือนหายไปจากการรับรู้ เมื่อนั้น เปลือกตาที่หนักอึ้งในตอนแรกก็เปิดขึ้น ร่างสูงเหลียวมองข้างกายโดยเร็ว
ว่างเปล่า...ไม่มีผู้ใดนั่งอยู่...
คิดไปเอง เขาคิดไปเองทั้งนั้น คนอย่างเบียคุยะน่ะหรือจะถ่อมาเฝ้าเขา มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้หรอก จริงไหม? เร็นจินึกทบทวนความฝันเมื่อครู่ ไอ้หมอนั้น มันเป็นใครกัน...และจากนั้นก็ไม่ทราบว่าท่านหัวหน้าหน่วย 5 จะม่อยกระรอกไปเมื่อไร
มารูตัวอีกทีก็เพราะความรู้สึกว่า...อันตราย อันตรายบางอย่างกำลังอยู่ใกล้ๆ ร่างสูงเปิด
“ เฮ้ยยย!!!! คาริน”�� เร็นจิที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเจอใบหน้าเด็กสาวที่เอาแต่จ้องเขาไม่วางตาตะโกนสุดเสียง ก่อนเผ่นพรวดเดียวไปอยู่อีกมุมหนึ่งที่ห่างจากเด็กสาว...เด็กสาวที่หลายคนมองว่าปราศจากพิษภัย“นี่เจ้าโรคจิตรึไงเนี่ย”
“ตั้งนานแล้วค่ะ�� เอ้ย...ไม่ใช่”�� ยมทูตสาวฉีกยิ้มหวาน (คิดว่านะ)�� “เมื่อกี้ท่านเบียคุยะสั่งให้ข้าเอาอาหารว่างมาให้ท่าน”�� คารินรวบตัวหนุ่มผมแดงมากอดก่อนจะมองถาดอาหารที่วางไว้บนโต๊ะ�� “ถือว่าเมื่อกี้เป็นรางวัลของข้าละกันนะคะ”
“ข้าจะพยายามคิดให้เป็นแบบนั้น”�� เร็นจิประเคนฝ่าเท้าถีบเด็กสาวลงจากเตียงโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง� มือหนาคว้าถาดอาหารอย่างรู้งาน
“ง่ะ...ขอบคุณข้าหน่อยสิ”�� คารินเบ้ปาก ขณะลุกขึ้นยืนมองการกระทำอันเป็นสุภาพบุรุษของอดีตรองหัวหน้า
“ขอบคุณ”�� เร็นจิขึ้นเสียงสูงเป็นเชิงหยอกยมทูตสาวอดีตลำดับสามเล่นๆ�� “ไปไกลๆเลยไป”
“เออ...อีกอย่าง”�� คารินเดินไปใกล้ประตูก่อนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์�� “ข้าว่าท่านเบียคุยะเป็นห่วงท่านนะ�� น่าจะไปหาซักหน่อย�� ว๊า...ข้าไปแล้วๆ”�� ก่อนจะรีบอันตธานตัวหายไป��ขนาดเมื่อกี๊แค่กอดยังโดนถีบ ขืนอยู่ก็โดนบังไคอะสิ...
...เป็นห่วงเหรอ...
เร็นจิเผลอยิ้มน้อยๆออกมา�� เป็นห่วงข้าจริงๆหรือเปล่านะท่านเบียคุยะ...
ณ หน่วย 6
เสียงฝีเท้าข้างนอกทำให้เบียคุยะขมวดคิ้ว�� คารินเดินมากับใครกัน...�� สัมผัสที่ไม่คุ้นทำให้มือบางเอื้อมไปแตะปลายดาบ�� ประตูเปิดเลื่อนออกมาโดยรองหัวหน้าเขาและยมทูตอีกคน
“เอ่อ...ท่านหัวหน้า�� ยมทูตที่ข้ารายงานไว้ตั้งแต่สองวันก่อน”�� คารินชี้นิ้วไปที่คนข้างหลัง�� ยมทูตหน้าตาหงอยเหงาเดินเข้ามาก้มหัวโค้งคำนับให้
“ข้าต้องขอบคุณท่าน...หัวหน้า...”�� เสียงเว้นค้าง...
“คุจิกิ”�� เบียคุยะละมือขึ้นมาถือด้ามพู่กัน�� แต่เสียงยังเงียบอยู่...
“ขอโทษนะครับ”�� ยมทูตหางตาตกเอ่ยเสียงอ่อย�� “คุจิกิ...อะไรเหรอครับ”
“ไม่ใช่ธุระของเจ้า”�� เบียคุยะเอ่ยเย็นชา�� “รู้แค่นั้นก็เกินพอแล้ว”
“หัวหน้าคุจิกิ”�� คารินขึ้นเสียงมาจากที่ประตู�� “สงสารเขาบ้างสิคะ”
“อย่าปากโป้ง”�� เบียคุยะหันไปดุรองหัวหน้าหัวดื้อ�� แต่คารินกลับแลบลิ้นแล้วเดินหายไป�� ห้องทั้งห้องเงียบไปโดยปริยาย
“หัวหน้าคุจิกิ”�� เสียงเจ้าเล่ห์ดังขึ้นเมื่อพ้นรัศมีที่จะมีคนแอบสอดรู้ได้ยิน�� มือบางชะงักค้างกลางอากาศก่อนที่เจ้าของมือจะเบิกตามองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ�� “วางมันลงซะเถอะ�� ท่านไม่จำเป็นต้องจำมันอีกต่อไปแล้ว”�� มือเขาทำตามอย่างว่าง่าย...ง่ายเสียจนเจ้าของมือยังตกใจ
“เจ้า”�� เบียคุยะใช้อีกมือแตะปลายดาบ
“ไม่หรอกท่านเบียคุยะ”�� แต่มือบางก็หนักอึ้งตกลงไปที่พื้น�� “ท่านไม่ทำอย่างนั้นหรอก”�� เบียคุยะรู้สึกจุกที่ลำคอก่อนที่จะโดนแรงปริศนากดลงกับพื้น
“แก...เป็นใคร”�� เบียคุยะกัดฟันถาม�� เปลือกตาบางหนักอึ้งจะปิดลงเสียให้ได้
“เห็นแก่หุ่นกระบอกของข้า”�� หน้ายมทูตเริ่มฉีกขาด�� “ข้าชื่อคุราโกะ�� มาที่นี่เพื่อ...นั่นสินะ...�� มาเที่ยวฆ่ายมทูตเล่นๆละมั้ง”�� ยมทูตปริศนาฉีกยิ้ม�� “ต่อไปนี้ท่านก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้วละ�� หัวหน้าคุจิกิ”
...ไม่ต้องพูด...
หัวหน้าหน่วยหกนิ่งอึ้งเมื่อปลายคมดาบจรดที่ลำคอ�� จะทำอะไร...
“โอ๊ะ�� ไม่หรอก...ข้าไม่โหดร้ายขนาดนั้น”�� คุราโกะเปิดยิ้มอีกครั้ง�� มือซีดเซียวเหมือนไร้เรี่ยวแรงแตะที่หน้าผากขาวบาง
“อึก...”�� เบียคุยะรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อตแล่นไปทั่วร่าง�� รุนแรงจนเขาสลบไป
“หืม...”�� คารุโกะเบิกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนยิ้มขำ�� “เคยเป็นหัวหน้าเจ้าผมแดงนั่นด้วยเหรอ�� ก็ดีนี่...ใช้ประโยชน์ได้ดีทีเดียว”�� แววตาเข้มขึ้นเหมือนมีแรงแค้นจากภายใน�� “ไอ้คนไม่ยอมทำตามคำสั่งแบบนั้น�� จะให้ตายยังไงดีนะ”
“อ้าว...คุณเร็นจิ”�� คนในหน่วยหกยิ้มให้เมื่อพบหน้าเขา�� เร็นจิยกมือทักทายเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องหัวหน้าหน่วย
“หัวหน้าอาบาราอิ”�� ผีเสื้อนรกบินเข้ามาขวางพอดี�� “หัวหน้ายามาโมโตะเรียกตัวท่านด่วนขอรับ”�� เร็นจิทำตาละห้อย�� “เป็นคำสั่งขอรับ”�� แต่ไม่เคยได้ผลซะที...
“เฮ้อ...�� ไปเดี๋ยวนี้แหละ”�� เร็นจิแอบบ่นไปตลอดทาง�� “ให้ข้าไปทำอะไรอีกละทีนี้”
“ไปรายงานขอรับ”�� ผีเสื้อนรกตอบ
“ขอเวลาแป๊ปเดียวไม่ได้เหรอ”�� เร็นจิยังคงแอบบ่นต่อไป
“รอท่านตื่นมาสองวันแล้วขอรับ”�� แล้วก็ยังหูดีได้ยินอีกเช่นเคย...
“หัวหน้า”�� คารินเปิดประตูมาพร้อมกับถ้วยชา�� “อ้าวเฮ้ย�� ฮอลโลว์”�� ยมทูตสาวมองร่างที่สลบบนพื้นอย่างขัดข้องใจ�� “เข้ามาไง”
“...คาริน”�� เด็กสาวหันไปมองร่างหัวหน้าตนเอง�� “แทนที่เจ้าจะเอาแต่ถาม�� มาช่วยข้าจัดการเจ้านี่ไม่ดีกว่าหรือไง”
“เอ่อ...เออ�� จริงด้วย”�� เด็กสาวเกาหัว�� “งั้นก็ส่งไปให้ท่านยามาโมโตะก่อนก็ละกัน”และแล้วรองหัวหน้าสาวตัวแสบแห่งหน่วย 6 ก็จัดการลากตัวเจ้าฮอลโลว์ที่นอนหมดสภาพไปตามคำบัญชา โดยมิทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏอยู่บนริมฝีปากได้รูปของผู้บังคับบัญชาของตน
�...To be continued...�
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ บ๊ายบาย
ความคิดเห็น