ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : จบเรื่องสั้นนะเจ้าคะ
เราจะขอเท้าความไปถึงผู้ประดิษฐ์คิดค้นตัวยาสุดแสนจะพิสดารพรรค์ลึกอันนี้เสียหน่อย...อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ เจ้าของยาขนานนี้คือคุโรซึจิ มายูริ (หรือที่บางคนเรียกติดปากว่า มยุรี) เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์สติค่อนข้างจะไม่สมประกอบ อดีตเป็นนักวิจัยในหน่วยอะไรสักอย่างของกองทัพญี่ปุ่น แต่ถูกเตะก้นออกมาด้วยเหตุผลบางประการ...ขณะนี้ เขากำลังนั่งหน้าตื่นตาตื่นใจขณะฟังหญิงสาวผมสีส้มเล่าถึงผลกระทบของอาหารสัตว์ที่เธอได้ไป
“จริงๆนะคะ มันทำเอากริมคุงตัวโตขึ้นมาเลยล่ะค่ะ”โอริฮิเมะพูดด้วยหน้าตาจริงจัง ในขณะที่ กริมคุง ของเธอทำท่าอยากตาย
“อืมๆๆ แล้วหมาของคุจิกิล่ะ”
“ไม่รู้สิคะ”
“โอเคๆ ไปได้แล้ว ไว้ฉันจะหาวิธีแก้ให้แล้วกันนะ”
“ขอบคุณค่ะ”โอริฮิเมะกล่าวลา ก่อนพาอดีตแมว (?) กลับบ้าน...
“หึๆๆๆ”เสียงหัวเราะชวนสยองดังมาจากริมฝีปากของคุณนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง
“เท่านี้ก็สำเร็จแล้ว ทีนี้ล่ะ ข้าจะต้องกลายเป็นนักวิจัยที่เก่งที่สุดในโลก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”...คุดรซึจิ มายูริพูดพลางแหงนหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง...ทำเอาคุโรซึจิ เนม ลูกสาว (ที่เกิดจากหญิงคนหรือตัว
ไหนไม่ทราบ) ยืนมองด้วยสีหน้าเอือมๆ
“ฮ้าววววว งืมๆๆ ไม่อยากตื่นเลยแฮะ”เร็นจิพูดพลางบิดขี้เกียจ ขณะนี้เวลา 6 โมงเช้าแล้ว...ร่างสูงบิดขี้เกียจไปมา...แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวขี้เกียจมันหายไปหรอกนะ...ดวงเนตรสีทับทิมบังเอิญเหลือบไปเห็นเจ้าแมวคู่อริกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่ใกล้ๆ...เร็นจิค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใกล้ๆ และ...
“เฮ้ยยยยยยย”เบียคุยะที่บังเอิญลืมตาขึ้นมาพอดีถึงกับร้องเสียงหลง ร่างบางยันกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นี่นายทำอะไรของนายน่ะ”เบียคุยะตวาดลั่น ในขณะที่เร็นจินั่งขำ จึงชวนให้คิดว่า...ไอ้หมาตัวนี้มันบ้าหรือป่าว (รวมถึงคนแต่งด้วย)
“ป่าวนี่ ฉันแค่...มองหน้านายเฉยๆนะ ฮะๆๆ”เบียคุยะหันไปค้อนควับ แต่เร็นจิก็ยังทำเหมือนไม่สนใจ จนเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“มีอะไรรึป่าว เร็นจิ เบียคุยะ”ลูเคียถาม ร่างเล็กมองสองหนุ่มสลับกันไปมา...
“ไม่มีหรอกคร้าบบบ”เร็นจิว่า ทำท่าเหมือนจะวิ่งเข้าไปกอดลูเคีย แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ เบียคุยะยึดชายเสื้อเร็นจิไว้เสียก่อน
“อะไรของนายเนี่ย ฉันจะไปหาเจ้านายนะ”เร็นจิหันไปบ่นกับเบียคุยะ ร่างเล้กปล่อยมือจากชายเสื้อคู่อริ ก่อนเดินเชิดหน้าไปหาลูเคียเสียเอง
“ลงไปกินข้าวกันเถอะครับ ผมหิวแล้ว”ทั้งคู่เดินลงไปพร้อมกัน...ทิ้งให้เร็นจิยืนเป็นหมาหงอยต่อไป แต่มีหรือหมาเร็นจะยอม ทันทีที่รู้สึกตัวว่าไอ้แมวคุณชายกำลังจะแย่งเจ้านายสุดรักสุดหวงไป ร่างสูงก็วิ่งตามลูเคียไปด้วยความเร้วสูงทันที
“แล้ววันนี้นายหญิงจะไปนานมั้ยครับ”เจ้าหมาเร็นจิถาม (ประจบไปแล้วแก)
“อืม...ไม่หรอก...คิดว่านะ ถ้าไม่มีใครขอแลกเวรน่ะ”
“เย้ ดีใจจังเลย”เร็นจิพูด ลูเคียอดอมยิ้มกับท่าทีแบบเด็กๆของเขาไม่ได้
“ทำตัวเป็นเด็กไปได้”เบียคุยะพูดเสียงเรียบ...
“นี่นายจะขุดซีนฉันไปถึงไหนฮะ ไอ้แมวไฮโซนี่”เร็นจิเถียงกลับ พร้อมมองเบียคุยะด้วยสายตาเอาเรื่อง ในขณะที่ร่างเล็กกลับทำท่าไม่ใส่ใจ
“ไม่เอาน่า ทั้งสองคนนั่นแหล่ะ หยุดทะเลาะกันได้แล้ว”ถึงจะกัดกันยังไง แต่พอลูเคียห้ามก็เป็นอันเงียบไป...
“เฮ้ ลูเคียยยยยย”เสียงแปดหลอดจากหน้าบ้านดังเข้ามา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเสียงใคร
“แป๊บหนึ่ง” ลูเคียตะโกนกลับ ก่อนหันมาหาสองหนุ่ม “อยู่บ้านดีๆล่ะ อย่าทะเลาะกันด้วย เข้าใจมั้ย ฉันไปก่อนนะ”หลังจากสั่งความเสียยืดยาวแล้วเจ้าหล่อนก็รีบคว้ากระเป๋าออกจากบ้านไป...เร็นจิกับเบียคุยะหันมามองหน้ากันครู่หนึ่ง...
“มองอะไรของนาย”เบียคุยะถามเสียงขุ่น
“นายนั่นแหล่ะ มองอะไร”
“ฉันไม่ได้มองนายซะหน่อย”
“ก็เหมือนกันล่ะน่า ไปนอนดีกว่า”เร็นจิว่าพลางเดินไปนอนบนโซฟาตัวโปรด ก่อนจะหลับไปดื้อๆ
“ไอ้หมาสันหลังยาวเอ๊ย”...คำสบถเบาๆดังมาจากริมฝีปากบาง นั่นมันที่นอนสุดโปรดของเขานะ
เขาจะไม่อดทนแล้ว!!!
อีหมาโรคจิต... หมาอะไรนอนได้เป็นวรรคเป็นเวร นอนได้ทั้งวันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แกไปทำอะไรมาเหนื่อยนักหนากันฮะ!!!
“เร็นจิ” แมวตัวบอบบางเอ่ยขู่เสียงต่ำ
“อื้ม” หมาเร็นซึ่งนอนก่ายอยู่บนโซฟาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวได้แต่ปัดตัวเบียคุยะให้เลิกบังพัดลม “จะนอน”
“ออกไป ฉันก็จะนอน”
“ก็นอนข้างล่างละสิ มาบังอะไรพัดลมฉัน”
“ฉันจะนอนบนโซฟา นายนอนจนมันจะพังอยู่แล้ว”
“อื้ม ไม่นอนข้างล่าง จะนอนข้างบน โวยวายอยู่นั่นแหละ” พูดจบมือหนาก็กระหวัดร่างบางให้ล้มตัวมานอนอยู่ข้างๆ แมวน้อย(?)ดิ้นสุดกำลัง
“ปล่อย”
“ถ้าปล่อยแล้วเงียบไปซะ จะนอนไม่ใช่เหรอ”
“นายก็ลุกออกไปสิ” เบียคุยะทั้งถีบทั้งดันตัวออกจากอ้อมกอดมรณะ เร็นจิเปิดเปลือกตามาครึ่งหนึ่งอย่างนึกรำคาญ
“ไม่ยอมนอนใช่ไหม”
“ก็ฉันจะนอนบนนี้ นายมันตัวเกะกะ”
“งั้นตามใจ เตือนแล้วไม่เชื่อเองนะ” ร่างบางขมวดคิ้วไม่เข้าใจความหมาย ยังคงดิ้นรนออกจากมือที่รัดตัวเข้าไว้ เร็นจิลืมตาสะลึมสะลือเหมือนคนเพิ่งตื่นมาจ้องหน้าขาวเนียนอย่างขุ่นเคือง ริมฝีปากสีเข้มประทับไปบนปากเรียวงาม สีชมพูอ่อนของกลีบปากเบียคุยะแดงจ้ำขึ้นจากจูบที่ดูดดื่มและเอาแต่ใจ
“เอ๊ะ” ร่างบางเผยปากขึ้นอย่างตกตะลึง ลิ้นร้อนของเร็นจิได้โอกาสส่งเข้าไปชอนไชข้างในปากบาง
“อ๊า” เบียคุยะเบิกตากว้างเมื่อเร็นจิพลิกตัวขึ้นคร่อม แถมแววตาที่เหมือนจะงัวเงียอยู่ตลอดเวลากลับสะท้อนแสงประหลาดๆ จนเขาเริ่มกลัว... เร็นจิถอนจูบออกอย่างอ้อยอิง ร่างสูงพึมพำเสียดายก่อนจะก้มลงจูบข้างแก้มขาวเนียนที่เลือดฝาดพุ่งปรี๊ด ส่วนแมวน้อยตอนนี้กำลัง...อึ้ง...ทึ้ง...เสียว...
ไม่เกี่ยวกับเสียวคะ...
“นะ...นาย...คิดจะทำอะไร”
“ก็จูบไง”
“อะไรนะ”
“จูบน่ะ ที่มนุษย์ทำกันบ่อยๆไง”
“จูบน่ะเหรอ”
“ใช่”
“แล้วทำทำไม”
“ก็นายไม่เงียบ”
“ไม่เกี่ยว...นาย...ไม่จำเป็นต้องทำ... นายไม่สูงขนาดนั้น” ในความหมายของเบียคุยะคือ...นายไม่เหมาะกับการประพฤติอันเหมาะกับการเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่เร็นจิคิดว่า...
แผลบ!!!
“นายเลียฉันทำไม” เบียคุยะดันหน้าคมคายออกไปก่อนจะเช็ดน้ำลายที่เลอะข้างแก้ม
“ก็นายบอกว่าไม่เหมาะ”
“ไม่ใช่!!! นายเลียฉันทำเพื่ออะไร”
“ก็...นายไม่งะ... เออ...เปล่านี่หวา... ก็ฉันอยากทำอะ”
“เร็นจิ!!!”
“จะว่าไปนายก็สวยนะเจ้าแมวผีเปรต”
“นี่นาย” เบียคุยะหน้าซีด ชักมีอะไรไม่ชอบมาพากล “ไม่ต้องมาใช้นโยบายสมานฉันท์กันตอนนี้หรอก”
“เปล่า” เร็นจิเผยใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ มือหนากระตุกเสื้อและกางเกงนอนเบียคุยะออกมาได้อย่างรวดเร็ว มือหนาลูบคล่ำผิวเนียนด้วยแววตาสงสัยใคร่รู้ “ตัวนายก็นุ่มเหมือนกันนี่”
“เฮ้ย” เบียคุยะถีบส่งที่หน้าแต่หมาเร็นเพียงแค่ชะงักมือไปชั่วครู่ มือหนาคว้าเรียวขาบางก่อนฉีกมันออกกว้างด้วยสันชาตยาน
“หืม” เร็นจิก้มตัวลงต่ำก่อนจะเริ่มลงมือเลียผิวขาวเนียนนุ่ม ยอดอกสวยตอบสนองสัมผัสที่รุกรานมาอย่างง่ายดาย
“เร็นจิๆ” เบียคุยะดันตัวหมาเจ้าเล่ห์ออกจากการเลียที่ออกจะรักใคร่เขามากเกินไปหน่อย “ปล่อย”
“อร่อยเหมือนในปากนายเลยเบียคุยะ”
“บ้าน่า เร็นจิปล่อย”
“เบียคุยะ เงียบเหอะน่า ขอฉันทำ...” ร่างสูงพูดสั่งสั้นๆก่อนจะเริ่มเลียปลายส่วนอ่อนไหวของเบียคุยะเบาๆ “อร่อยมากเลยแหะ”
“อ๊า... อ้า...” ใบหน้าหวานสวยบิดเร้าอย่างทรมาน แค่นั้นเองเหรอ...
“หน้านายเหมือนจะไม่พอใจฉันนะเบียคุยะ”
“ไม่...พอ...”
“หืม” เร็นจิบีบเค้นตามความยาวของส่วนไวสัมผัส “ไม่พออะไรเหรอเบียคุยะ” ร่างสูงยกตัวขึ้นจูบหน้าผากมนแผ่วเบา หอมจังเลย
“เร็นจิ...ฮึก...” เบียคุยะเม้มริมฝีปากอย่างอดกลั้น นี่เจ้าหมาโง่ตัวนี้มันแกล้งเขาเล่นๆใช่ไหม
“ครับ”
“อะ...ยะ...อย่ามา...หยุด” เบียคุยะบิดตัวอย่างอ่อนแรง อยู่ๆมือที่ปรนเปรอตัวเขาก็หยุดไปเสียดื้อๆ นัยน์ตาคมหวานเอ่อล้นด้วยม่านน้ำตาแห่งความทรมาน “...เร็นจิ”
“ครับผม” หมาน้อยฉีกยิ้มไร้เดียงสาได้อย่างร้ายกาจ “ไม่พอใจผมตรงไหนครับ”
อีหมาเลว!!!!!!!!
ฮึก...
เขาทนไม่ไหวแล้ว...
เบียคุยะโอบไหล่ร่างสูงไว้แน่นก่อนจะดึงให้ศีรษะแดงๆโน้มต่ำลงมา ริมฝีปากบางที่บวมเจ่อดูดเม้นริมฝีปากเข้มอย่างหิวกระหาย จูบดูดดื่มจนเร็นจิเผลอตัวเคลิ้มไปกับสัมผัสที่อ่อนหวานและทรงเสน่ห์
พรึ่บ!!!!
แต่ชั่วพริบตาเบียคุยะก่อนดันตัวร่างหนาแนบกับเตียงแทน
เร็นจิเบิกตากว้าง เบียคุยะจะรุก!!!
ก็สนุกสิ!!!
เร็นจิฉีกยิ้มหวานให้ร่างเล็กที่ขมวดคิ้วเป็นเชิงต่อว่าเขา ร่างเล็กแนบตัวบดเบียดเข้าหาร่างหนาอย่างจงใจยั่วยวน
เจ้าบ้า...
แกมันผิดเองนะ...เร็นจิ!!!
เร็นจิยิ้มแป้นอย่างถูกใจ ดีจริงๆเลยแหะ เบียคุยะเริ่มวาดมือไปตามแผงอกด้วยความต้องการ เร็นจิรับรู้ได้ทันทีว่า...ยังไงคืนนี้แมวน้อยตัวนี้ก็ทำเขาค้างไม่ได้ เพราะอะไรน่ะเหรอ... เพราะเบียคุยะทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้วไง
“ช้าๆครับเด็กดี” เร็นจิแอบลูบไล้สะโพกมนในขณะที่ร่างบางดูดเม้มซอกคอเขาอย่างเร่าร้อน “ผมเป็นของคุณอยู่แล้ว”
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เร็นจิได้มากเกินกว่าพอในฐานะของหมาน้อยตัวหนึ่ง
“เฮ้ย” ลูเคียชะโงกมองนาฬิกา นี่เธอเผลอหลับไป หญิงสาวเอียงคอมองรอบๆอย่างงงๆ สังหรณ์ใจว่าจะเกิดอะไรกับเบียคุยะน้า...
“กลับไปดูดีไหมเนี่ย” แต่แล้วเธอก็มองเข็มนาฬิกาอีกที
ไม่เอาอะ ขี้เกียจ นอนต่อดีกว่า...
จบเถอะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น