ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11
มือหนาวางกาน้ำชาลงข้างๆกับร่างที่นั่งชมจันทร์ เป็นคำสั่งที่...คลาสิกสำหรับเบียคุยะจริงๆ ร่างบางยกชาขึ้นดื่มพร้อมใบหน้าที่ดูผ่อนคลายกว่าครั้งไหนๆที่เร็นจิเคยเห็น
“เจ้าไม่ดื่มเหรอ” เบียคุยะเอ่ยถามคนข้างหลังอย่างสงสัย เร็นจิละใบหน้าจากการเท้าคาง ยิ้มเอ็นดูคนตัวเล็กที่ยังไม่ฟื้นความทรงจำ
“ข้าคงเหมาะกับเหล้าแรงๆซักแก้วสองแก้วมากกว่าน้ำชาในมือของท่าน ...ท่านเบียคุยะ” เร็นจิพูดยิ้มๆ เบียคุยะเลิกคิ้วมองจอกแก้วน้ำชาในมือตัวเอง ก่อนพูดสิ่งที่เร็นจิไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาสได้ยิน
“สุราซักแก้วก็ดี” เบียคุยะพูดเสียงเรียบจนเร็นจิขนลุก
“เอ๊ะ” ยมทูตผมแดงยิ้มไม่ไว้ใจ
“ข้าเองก็คงไม่ได้ลิ้มรสมันมานานแล้วเหมือนกัน” เบียคุยะวางแก้วน้ำชา “ไม่อย่างนั้นเจ้าจะแสดงสีหน้าอย่างเมื่อครู่เหรอ เปิดขวดสุรามาให้ข้าซักขวดก็แล้วกัน”
ว้าว... เร็นจิคิดออกแค่คำเดียว ควรหากล้องจากโลกมนุษย์มาถ่ายภาพเก็บไว้ไหม หรือว่าจะหาเครื่องอัดเสียงมาอัดคำสั่งเมื่อกี้เก็บไว้ดี ยมทูตผมแดงคิดทวนอีกตลบแล้วก็ลุกขึ้นไปหาเหล้าดีกรีสูงๆมาดื่มชมพระจันทร์
ที่เขาจำได้คือต่อจากนั้นเบียคุยะกระดกหมดไปหนึ่งแก้ว... ตามด้วยแก้วที่สอง... และก็ไม่เสียเวลารินเหล้าออกจากขวดอีกต่อไป หนุ่มหน้าหวานยกน้ำสุราดื่มจากปากขวดเลยทีเดียว
“ท่านเบียคุยะ” เร็นจิที่เพิ่งเต็มเป็นแก้วที่สามมองอดีตหัวหน้าของตนอย่างไม่ไว้ใจ ตอนนี้ชุดนอนที่คนรับใช้ในบ้านเปลี่ยนให้หลุดลุ่ยเผยผิวไหล่เนียนขาว และดูท่าว่าเจ้าของเสื้อจะไม่สนใจมันแม้แต่น้อย
“อ่า... ข้านี่ช่างโง่เขลาที่ละเลยรสชาติของน้ำทิพย์นี่จริงๆ เร็นจิเติมให้ข้าอีกหน่อยสิ” เสียงหวานแทบจะครางเป็นเสียงเว้าวอน กระตุ้นให้เร็นจิแทบจะคลั่งไปกับน้ำเสียงนั่น
“ท่านเมาแล้ว หัวหน้าของข้า” เร็นจิรีบเก็บขวดเหล้าของเขาให้พ้นรัศมีที่มือบางจะเอื้อมถึง อันที่จริงควรจะเก็บตัวเขาไปไกลๆจากตรงนี้ด้วยอีกคน ไม่งั้นก็ขูดเอาลูกตาออกไปจากเบ้าตาเขาที เร็นจิรีบคว้าแก้วเหล้าแก้วที่สามของเขา ...ก่อนที่จะตกไปอยู่ในมือของคนที่สติหลุดลอยไปเรียบร้อยแล้ว
“เร็นจิ ได้โปรด” ร่างบางทิ้งแก้วของเขาไว้บนโต๊ะก่อนจะค่อยๆคลานมาประชิดตัวหนุ่มผมแดง เร็นจิรับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องมองแก้วเหล้าในมือของเขา ไม่นะ...นี่ท่านยังอยากจะดื่มต่ออีกเหรอ หนุ่มร่างหนารีบกระดกน้ำสุราลงคอให้เร็วที่สุด แต่ทันทีที่เขาละริมฝีปากออกจากขอบแก้ว เนื้อแก้วที่เย็บเฉียบก็ถูกแทนที่ด้วยริมฝีปากนุ่มสีชมพู ลิ้นเล็กไล่เลียหวังว่าจะได้เข้าไปในโพรงปากของเขา มือบางที่ก่ายอยู่แถวหน้าอกทำให้เร็นจิเผลอตัวอ้าปากปล่อยให้ลิ้นนุ่มเข้าไปในตัวเขาจนได้
“อื้อ” กลายเป็นเขาที่ครางเสียงต่ำออกมาก่อน เบียคุยะดันตัวเขาแนบกับพื้นระเบียง ในขณะที่มือขาวบางก็ยังไล่วนไปทั่วตัวเขา และที่สำคัญ...เรียวลิ้นที่ชอนไชหาน้ำสุรารสหวานที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปากของเขา
โอ้... สวรรค์... บอกเขาทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น
“เร็นจิ” ในที่สุดคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตัวเขาก็ปล่อยให้เขาเป็นอิสระเสียที “เติมเหล้าอีกสิ”
“หมดแล้วครับหัวหน้า” เร็นจิพยายามล็อกมือที่เริ่มปะป่ายลงต่ำไปเรื่อยๆ หน้ายมทูตหนุ่มขึ้นสีแดง ก็คนทำไม่รู้สึกตัว เขาก็คงต้องเป็นคนอายแทน คิดแบบนี้ถูกใช่ไหม
“อื้อ...ไม่เอาแบบนั้นนะ” เบียคุยะซุกหน้าเข้าไปเป่าลมหายใจร้อนใกล้ๆต้นคอของเขา ความคิดเร็นจิแทบจะหลุดออกจากการควบคุม ใกล้จะไม่ไหวแล้วเฟ้ย... ไม่ต้องบอกใครๆก็รู้ว่าตัวตนด้านล่างของเขามันแสดงความต้องการออกมาแล้ว
“หัวหน้าๆ พยายามรั้งตัวเองไว้ซักหน่อยสิครับ” เร็นจิพูดได้น่าสงสารแต่ก็ไม่อาจต่อต้านแววตาหวานเชื่อมที่ทอดมองมายังเขา “หัวหน้า...” เร็นจิรวบข้อมือบางไว้แน่นก่อนจะดึงตัวร่างบางที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเขามาประกบจูบ โอ๊ย... ใครใช้ให้มายั่วอย่างนี้นะ
“อ๊า” เบียคุยะร้องครางแทบจะทันทีที่เร็นจิถอนริมฝีปากออก “เร็นจิ จูบ...จูบข้าอีก”
“ครับ” เร็นจิพลิกตัวขึ้นมาประกบปากจูบอย่างเร้าร้อน เรียวลิ้นพัวพันกันไปทั่วโพรงปากของร่างบาง เบียคุยะกดเล็บจิกเข้าไปกลางแผ่นหลังกว้างก่อนจะเริ่มเบี่ยงหนีเมื่อขาดอากาศหายใจ
“เจ้า...จูบเก่ง...จังนะ...เร็นจิ” ใบหน้าหวานหอบหายใจอย่างทรมานปนความเสียวที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง “เราเคย...จูบกันมา...ก่อนไหม”
“เอ่อ... อันที่จริงถ้าไม่นับเมื่อวานก็ไม่เคยนะครับ” เร็นจิเริ่มดึงทึ้งเสื้อที่หลุดลุ่ยไปกว่าครึ่ง
“หึ...น่าเสียดาย” เบียคุยะดึงใบหน้าคมคายมาจูบซับอย่างแผ่วเบา “ข้าน่าจะรักเจ้า...ให้เร็วกว่านี้...น่าจะรักตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบกัน”
“เห...” เร็นจิออกแรงจนเสื้อตัวบางขาดออกเป็นสองส่วน ผิวขาวเนียนเผยออกมาให้เห็นจนถึงหน้าท้องเนียนสวย ขาวจนอดไม่ได้ที่จะ...ขบเม้มฝากไว้ซักรอย...
“อ้า... เร็น...เร็นจิ” เบียคุยะดิ้นพล่านเมื่อมือหนาสัมผัสตัวเขาช้าๆอย่างอ้อยอิ่ง
“ทำไมครับ” เร็นจิเปิดยิ้มเจ้าเล่ห์ หน้าหวานแดงซ่านสะบัดไปมาอย่างขัดใจ ริมฝีปากขยับเป็นคำว่า ‘...มากกว่านี้อีก...’ เร็นจิกระชากส่วนที่ปกปิดด้านล่างออกอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้างทั้งสิ้น อากาศเย็นข้างนอกทำเอาร่างขาวบางสั่นสะท้าน
“หนะ...หนาว” เบียคุยะตะเกียดตะกายบดเบียดตัวเองเข้าหาร่างสูง อารมณ์เร็นจิพุ่งปรี๊ดจนปรอทแตก มือหนาปลดกางเกงตัวเองออก แล้วพลิกตัวเบียคุยะให้หันหน้าเข้าไปพื้นเร็วจนคนตัวเล็กตั้งตัวไม่ทัน เร็นจิโน้มตัวเข้าทับทามผิวขาว กัดและขบจนรอยแดงปรากฏขึ้นมาอย่างเด่นชัดทั่วแผ่นหลังขาวที่เคยไร้ริ้วรอย นิ้วมือถูกสอดเข้าไปทีเดียวถึงสามนิ้ว...
“อ๊า ไม่เอานะ นะ...นี่มัน...เจ็บ” เบียคุยะพยายามทั้งดิ้นทั้งคลานให้ห่างจากสัมผัสที่เจ็บแสบนั้น แต่ทุกอย่างเปล่าประโยชน์เมื่อตัวเขาอยู่ใต้การชักนำของเร็นจิ
“อ้า...อ๊า...” เบียคุยะจิกเล็บข่วนกับพื้น นิ้วมือขึ้นสีแดงจนน่ากลัว ถึงเร็นจิจะค่อยๆผ่อนความเร็วให้ลดลง แต่มันไม่ค่อยช่วยอะไรเลย... เร็นจิกัดต้นคอขาวแรงจนดูเหมือนกับว่าร่างสูงพยายามดูดเค้นเลือดจากร่างบอบบางนี้ก็ไม่ป่าน
“หืม...หนาวสินะครับ” เร็นจิถอนนิ้วออกก่อนจะแทนที่ด้วยตัวตนของเขาเอง
“ไม่...ไม่...อ๊า...เร็นจิ อ๊า... ไม่... พอ...พอ... พอ...แล้ว” ร่างบางอ่อนยวบไปทั้งตัว เขาถูกจับให้นอนคว่ำในท่าชันเข่า เรียวขาอ้ากว้างรับตัวตนของคนที่ครอบครองตัวของเขา เบียคุยะรู้สึกเหมือนโลกหมุนคว้าง เจ็บ...เจ็บ...และเจ็บ...และรู้สึกดี...
“อื้อ” เสียงหวานครางอู้อี้ เมื่อเร็นจิเริ่มยืดตัวขึ้นกดกลางแผ่นหลังเขา และมือข้างที่เหลือเพิ่งเริ่มจะปรนเปรอตัวเขาเป็นครั้งแรก
“ข้าไม่ชอบถูกใครเอาเปรียบ เบียคุยะซัง... ต้องขอโทษที่ใจร้ายกับเจ้ามากเกินไปหน่อย” เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู แต่เบียคุยะไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น สติทั้งหมดของเขาอยู่ที่ตัวตนของเร็นจิที่คืบคลานลึกเข้ามาในตัวเขา
“อ๊า... เร็นจิ” เบียคุยะกัดริมฝีปากสะกดกลั้นอารมณ์หวาดเสียวเมื่อร่างสูงเบื้องบนเริ่มขยับตัว มือหนาที่กอบกุมตัวตนของเขาก็เริ่มเร่งจังหวะเร้าร้อนอย่างชำนาญ “เร็นจิ... อื้อ...อ๊า...”
“เบียคุยะ” ร่างของยมทูตผมแดงขยับเร่งความเร็วตามอารมณ์ความต้องการที่เพิ่มพูนมากขึ้น ตัวร่างบางก็ตอดรัดเขาซะ...รู้สึกดีจนแทบคลั่ง “อือ” เร็นจิหลุดเสียงครางต่ำ แผ่นหลังขาวเนียนถูกเขายึดและบีบเฟ้นจนเป็นรอยแดง
“เร็นจิ” ร่างเล็กผวาเมื่อถูกพลิกตัวให้หันหลังแนบกับพื้นระเบียง หน้าเนียนใสขึ้นสีแดงก่ำเมื่อเห็นใบหน้าคมคายของเร็นจิจับจ้องร่างของตนอย่างไม่วางตา “อ๊า...” คนข้างล่างของเขาถูกกระตุ้นด้วยการขยี้อย่างเมามันจากร่างสูง “เร็นจิๆ” ร่างบางกระตุกปลดปล่อยรอบแรกก่อนหอบหายใจเหนื่อยอ่อน
“ถึงแล้วสินะครับ” ไม่ต้องให้ใครตอบคนถามก็รู้คำตอบดี ลิ้นร้อนเลียน้ำรักในมืออย่างหื่นกระหาย เบียคุยะปรือตามองอย่างคาดไม่ถึง แต่เปลือกตาเริ่มหนักจากการปลดปล่อยเมื่อครู่ “อย่าเพิ่งหลับสิครับ”
“อื้อ” อารมณ์เบียคุยะถูกปลุกให้กระเจิดกระเจิงอีกครั้ง มือหนาเริ่มไล่ไปตามยอดอกสวย
“หัวหน้าของผม... เดี๋ยวไปต่อที่เตียงนะครับ”
“ข้าว่าเจ้าของขี้เซาของข้ายังไม่ตื่นหรอก” เสียงทุ้มต่ำแบบผู้ชายดังออกมาจากปากดาบฟันวิญญาณในรูปสาวร่างสูง รูปร่างที่เคยอวบท้วมซูบลงไปมากจากการปะดาบหลายครั้งตอนที่เจ้านายของตนจัดการกับคารุโกะ ใบหน้าที่เคยเกือบจะถูกเรียกว่าเปล่งปลั่งตอบลงอย่างถนัดตา
“ข้าต้องไปหานายท่านของข้า” เสียงดังมาจากปากภายใต้หน้ากากปีศาจ น้ำเสียงกังวลที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากต่อมาจากนั้น “ไปหาที่ห้อง...ก็ไม่เจอ”
“แล้วคิดยังไงถึงมาหาที่ห้องของเจ้านายข้าละ” ซาบิมารุสาวตอนนี้แทบจะกลายเป็นเศษซากวิญญาณลอยไปลอยมา เซ็นบงซากุระหยุดกึกชั่วคราว “หา” ซาบิถามเค้นต่อ...
“...แล้วเจ้า” เซ็นบงซากุระคิดนานก่อนจะพูดต่อ “...ไม่...ได้ยิน...ข่าวลือนั่นเหรอ”
“หา...ข่าว...ข่าวอะไร” ซาบิอ้าปากค้างงงงวย
“...ข่าวว่า...” เซ็นบงหยุดพูดต่อ “ช่างเถอะ” ดาบฟันวิญญาณทั้งสองหยุดอยู่หน้าห้องเร็นจิพอดี ซาบิสาวทำท่าจะเคาะแต่ว่า...
พรืด... เซ็นบงซากุระกระชากประตูเปิดทันที และภาพที่เห็นก็ทำให้เขาแทบหยุดหายใจ
เบียคุยะที่เบิกตากว้างมองมาทางเขาโดยมีมือหนาพาดอยู่ที่รอบเอว แล้วยมทูตหนุ่มที่นอนสะลึมสะลืออยู่ข้างกายยังสับสนว่าโลกหมุนไปทางไหน ที่สำคัญ...
“เซ็นบง” เบียคุยะพูดเสียงแผ่ว ...ทั้งคู่เปลือยกาย...
พรืด... ชายหนุ่มภายใต้หน้ากากกระชากประตูปิดเร็วกว่าเดิม
“ขออภัยครับนายท่าน” พูดจบก็เดินลิ่วออกไปให้ห่างจากหน้าห้องให้เร็วที่สุด ซาบิสาวที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ก็ได้แต่มึนงง เกิดอะไรขึ้น... วิญญาณซูบซีดรีบระเหยตามหนุ่มหน้ากากไปภายในทันที
“นี่เกิดอะไรขึ้น” ซาบิถามเสียงหงอย “เซ็นบงเว้ย”
“นี่เจ้า...” เซ็นบงซากุระหันกลับมามาตวาด แต่ใบหน้าที่ขมวดคิ้วเป็นปมของซาบิสาวทำให้เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ “ไปดื่มกับข้าหน่อยสิ ...แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง”
แสงแดดอ่อนๆ แสงแดดยามเช้า... เมื่อคืนเขา...
“เร็นจิ” เสียงหวานแทบจะดังออกมาเหมือนอยากกรีดร้อง ใบหน้าขาวเนียนของเบียคุยะตอนนี้ซีดไร้เม็ดเลือดฝาด เซ็นบงซากุระเห็นเขากับเร็นจิในสภาพแบบนี้...
“หืม” เร็นจิดึงตัวเขากลับไปนอนในอ้อมกอด “เมื่อคืนเบียคุยะน่ารักจังนะ” คำชมยิ่งทำให้เขาหน้าขึ้นสี
“ปล่อย... ตื่นซิ...เจ้าต้องตื่นได้แล้ว” โธ่เว้ย...เมื่อคืนเขา...ไม่อยากนึกว่าตัวเองทำไปได้ยังไง
“ไม่ปล่อย หัวหน้าเป็นของข้าแล้วนะครับ” จะกรี๊ดดีไหม... เร็นจิยังสัปหงกกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่เลย “ต้องอยู่ข้างๆ...หาว...ข้าสิครับ”
“เร็นจิ” เบียคุยะดันตัวเองให้ออกห่างจากอ้อมกอด แต่ไร้ผลใดๆ...แรงเสียดทานสถิตยังคงมีมากกว่าแรงจลน์ คนสวยจำใจยอมนอนต่อนิ่งๆรอจนกว่าอีกคนจะตื่นขึ้นมา
เมื่อคืนเขาอุตส่าห์วางแผนไว้อย่างดีแล้วแท้ๆ กะจะยั่วนิดๆ...แต่กลับเมาจนครองสติไม่ค่อยได้ แล้วมันก็ลงเอยแบบนี้... ทำตัวเองแท้ๆ...เบียคุยะ...
ก็ใช่... เขาวางแผนเรื่องทั้งหมดเอง แล้วทำไมละ...ในเมื่อเขาปรารถนาคนข้างกายในตอนนี้มาตลอด เรื่องอะไรตอนที่สบโอกาสแล้วเขาจะไม่ลองรุกดูบ้าง
แต่นี่มันเกินแผนที่วางไว้ไป... เกินไปมากเหมือนกัน...
เบียคุยะเอื้อมมือไปกอดชายหนุ่มผมแดงแล้วซุกตัวเข้าไปหาอย่างออดอ้อน หึๆ...คงยังไม่มีใครรู้ว่าเขาได้ความทรงจำกลับคืนมาแล้วใช่ไหม คงต้องขอบใจเจ้าอิจิโกะมันซักหน่อยละมั้ง ตีถูกจุดยุทธศาสตร์มาก... ยังไง...ถึงจะเปลืองตัวไปหน่อยแต่มันก็... เบียคุยะยิ้มอ่อนหวานขึ้นมา ...คุ้มละนะ
“ข้ารักเจ้า...เร็นจิ”
******************
ทำใจเล็กน้อยเจ้าค่ะ (จะมีคนหยิบอีโต้มาไล่ฆ่าข้าน้อยหรือเปล่า) เขียนเต็มที่แล้วเจ้าค่ะ
อ๊าก... ตอนนี้เป็นตอนที่ข้าน้อยกลุ้มมากที่สุดเลยเจ้าค่ะ
ลงดีไหม (ไม่ลงดีกว่าไหม) เอิ๊กๆ...
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะเจ้าคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ที่ร่วมกันติและแสดงความคิดเห็นเข้ามา ขอบคุณมากๆเจ้าค่ะ
******************
ทำใจเล็กน้อยเจ้าค่ะ (จะมีคนหยิบอีโต้มาไล่ฆ่าข้าน้อยหรือเปล่า) เขียนเต็มที่แล้วเจ้าค่ะ
อ๊าก... ตอนนี้เป็นตอนที่ข้าน้อยกลุ้มมากที่สุดเลยเจ้าค่ะ
ลงดีไหม (ไม่ลงดีกว่าไหม) เอิ๊กๆ...
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะเจ้าคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ที่ร่วมกันติและแสดงความคิดเห็นเข้ามา ขอบคุณมากๆเจ้าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น