ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9
ร่างบอบบางของหัวหน้าหน่วยหกนั่งนิ่งอยู่ที่ระเบียงคฤหาสน์คุจิกิ เรียวคิ้วสวยขมวดลงทุกครั้งที่เขาพยายามนึกถึงเรื่องในอดีต
“ไม่ต้องฝืนหรอกครับหัวหน้า” เร็นจิที่ตอนนี้กลับมาใส่ชุดยมทูตสีดำเหมือนเดิมยกโต๊ะชามาตั้งไว้ให้ “ท่านต้องจำได้ในเร็วๆนี้แหละครับ”
“เจ้าเชื่ออย่างนั้นเหรอ” มือบางยกแก้วชาขึ้นดื่มด่ำกับกลิ่นใบชาหอมฟุ้ง ภาพตรงหน้าทำให้เร็นจิยิ้มหมองเศร้า
“ยิ้มอะไรของเจ้า” ใบหน้าหวานส่งสายตาดุมาให้ “หน้าข้ามีอะไรติดอยู่อย่างนั้นเหรอ” มือบางพยายามเช็ดตามริมฝีปาก น่าเอ็นดูเสียจน...หนุ่มผมแดงหัวเราะออกมา...
“ฮ่าๆๆ...อุ๊บ” เร็นจิกลั้นเสียงหัวเราะสุดกำลัง น่ารัก...จริงๆเลย หมั่นเขี้ยว...
“หัวเราะอะไรของเจ้าอีกน่ะ” คนสวยได้แต่สงสัยพฤติกรรมผีเข้าของผู้ดูแลส่วนตัว ไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ตัวเองเหมือนเด็กตัวเล็กๆมากขนาดไหน
“ฮ่าๆ...ฮะ... ก็ปกติท่าน...ไม่ค่อยทำแบบนี้” เร็นจิมองเบียคุยะด้วยสายตาอบอุ่น เพียงแต่ว่ารอยยิ้มนั่นยังเศร้าเสียจนคนตัวเล็กยังเห็นได้
“เจ้า...ทำหน้าอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” เบียคุยะยกแก้วชาขึ้นดื่มช้าๆ แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ยมทูตข้างกาย
“หน้าอย่างนั้น” เร็นจิแสร้งฉีกยิ้มสดใส “แบบไหนกันครับหัวหน้า”
“เปล่าหรอก” เบียคุยะเลิกพูดต่อ “ไม่มีอะไร”
...ทำไมเหรอครับหัวหน้า...ทำไมข้าต้องเศร้าอย่างนั้นเหรอ... ก็ข้านี่ไง... คนที่ขโมยความทรงจำของท่านไป ที่ท่านลืมอดีตไปหมดทุกอย่าง เป็นเพราะข้า... เป็นเพราะความอ่อนแอของข้า... ที่ปกป้องความทรงจำของท่านไว้ไม่ได้ ...แต่ข้าจะเอามันกลับมาให้ท่านเอง แม้ว่าจะต้องแลกด้วยลมหายใจสุดท้ายของข้าก็ตาม
“ท่านเบียคุยะ” เร็นจิหันมามองดวงหน้าหวานพร้อมชูกระดาษแผ่นสีขาวในมือ “ไปทำงานกันเถอะครับ”
“เอ๊ะ...” เบียคุยะเลิกคิ้วมอง งาน...แล้วเขาทำงานอะไร...
ร่างสูงพาเบียคุยะเดินมาที่หน่วยอย่างใจเย็น ระหว่างทางเขาต้องอดทนถามว่าเบียคุยะจำอะไรได้บ้างไหม ที่ตรงนี้ที่ไหน หน่วยนี้ใครเป็นหัวหน้า แล้วคำตอบที่เขาได้รับอย่างเดียวก็คือไม่รู้... แล้วก็ดูเหมือนว่าเบียคุยะจะไม่สนใจเรื่องที่เขาพูดด้วยซ้ำ
คนเขาอุตส่าห์พยายามอธิบายให้จำให้ได้... ทำไมไม่รู้จักฟังกันบ้างเล่า...
“ตรงนี้หน่วยห้าครับหัวหน้า” เร็นจิกัดฟันพูดต่อไป ดูเหมือนเขาจะพาเบียคุยะวนจนครบทั่วทุกหน่วยแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะจำอะไรสักอย่างได้เลย เร็นจิอยากจะบ้าตาย...
“หน่วยที่เจ้าเป็นหัวหน้าใช่ไหม” เป็นครั้งแรกที่ร่างบางเปิดปากสนทนาอย่างอื่นที่ไม่ใช่คำว่าไม่รู้ โอ้...ตัวแทบลอย โอ๊ย...เดี๋ยวนะ... เบียคุยะจำได้...
“ใช่ครับ” เร็นจิยิ้มออกมา “ท่านจำได้แล้วเหรอ”
“เปล่า” เฮ้อ...เร็นจิคอตก แต่เบียคุยะยังพูดต่อไป “ข้าอ่านจากชุดสีขาวๆนั่นตอนที่ตื่นมาเจอเจ้าในห้องพยาบาล”
“เออ...ครับๆ ขอบคุณที่ยังใส่ใจสิ่งรอบตัว” เร็นจิพาวนมาถึงหน้าหน่วยหก และเบียคุยะเกิดปฏิกิริยาเล็กน้อย
“ที่นี่” ร่างบางขมวดคิ้วมอง “ที่ไหนกัน”
“เอ่อ... หน่วยของท่านครับท่านเบียคุยะ” เร็นจิเดินนำเข้าไปพร้อมกับทักทายคนในหน่วยที่ไม่ได้เจอกันมานาน “ท่านเป็นหัวหน้าที่นี่”
“แล้วเจ้าเป็นใคร” เบียคุยะกดขมับเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บที่แล่นแปบเข้ามา “ทำไมคนในหน่วยรู้จักเจ้า”
“ข้าเคยเป็นรองหัวหน้าครับ เคยถูกท่านใช้นี่แหละ ข้าก็เคยอยู่ที่นี่ พวกนั้นต้องจำข้าได้อยู่แล้ว” เร็นจิยังคงเดินนำไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจคนตามหลัง
“ท่านปู่” เบียคุยะพึมพำ “ข้าก็เคยมาที่นี่”
“เอ๊ะ” เร็นจิหันมาทำหน้าสงสัย “อ๋อ...ใช่ ปู่ของท่านเคยเป็นหัวหน้าหน่วยที่นี่”
“ไม่ใช่” เบียคุยะตวาดเสียงเบา “โยรุอิจิ ปีศาจแมวนั่นอยู่ที่ไหนแล้ว” มือบางยังคงกดอยู่ที่ขมับ “ภาพอะไรที่มันแล่นเข้ามาในหัวของข้ากัน”
“ท่านคงปลดล็อคได้บางตอน” เร็นจิสาวเท้าเข้าไปหาคนที่ตอนนี้คงมึนศีรษะจนเดินเซไป “แบบนี้พาไปหาท่านผู้นั้นดีกว่า”
“ใคร” เบียคุยะกัดริมฝีปากแน่น “ใครกัน”
“ท่านฮิซานะ” เร็นจิพูดเสียงแผ่ว มือหนากุมข้อมือบางก่อนจะจูงเข้าไปในห้องทำงานของหัวหน้าหน่วย
“เดี๋ยว...” เบียคุยะร้องห้าม “มันหายไปแล้ว” มือบางถูกยื่นไปเหมือนจะคว้าอากาศตรงหน้า “ภาพอันนั้นมันหายไปแล้ว”
“ท่านเบียคุยะมาดูนี่หน่อยสิครับ” เร็นจินำเข้าไปที่ห้องเก็บรูปแต่คนตัวเล็กสะบัดข้อมือออก
“พอแล้ว” เบียคุยะยื้อหยุดอยู่กับที่ “เจ้าทำภาพนั่นหายไป” ดวงตาคมมองมาที่เขาอย่างเย็นชา “วันนี้ข้าจะไม่จำอะไรต่ออีกแล้ว”
“หา... ไม่ได้นะครับ ถ้าท่านไม่รีบจำให้ได้แล้ว... แล้ว...งานที่หน่วยละครับ แล้วยังงานที่ท่านยังต้องสะสางอีก” เร็นจิเอื้อมมือไปคว้าข้อมือขาวนั่นอีก
“ข้าบอกว่าพอก็พอสิ” เบียคุยะพูดเสียงเรียบเย็น “ข้าจะ...ข้าไม่สนไอ้เรื่องงานบ้าๆนั่น” ร่างบางก้าวเท้าออกไปนอกห้อง
ท่านเบียคุยะ... ข้าผิดที่ทำให้ความทรงจำของท่านหายไป ...แต่ท่านจำเป็นต้องทรมานข้าถึงขนาดนี้ด้วยเหรอ ท่านไม่คิดอยากจะให้...ข้ารีบๆแก้ความผิดพลาดที่ทำเอาไว้กับท่าน... ไม่ให้โอกาสข้าซักนิดเลยเหรอครับ...
ร่างบางเดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิมหลายๆรอบ ทำไม...ทำไม...ทำไม... ไม่มี ไม่มี...ไม่ออกมาแล้ว... เบียคุยะเดินออกไปรอบหน่วยอย่างขัดใจ ภาพที่เขาเห็น... คนคนนั้น...ใครก็ไม่รู้... รู้แค่ว่า
...อยากจำให้ได้...
ใครกัน... ใคร... ทำไมข้าถึงนึกไม่ออก...
“ไม่ดีมั้งครับ” ริคิจิเท้าคางมองอดีตรองหัวหน้าของหน่วยตน “คุณเร็นจิอย่าได้คิดจะทำอย่างนั้นเลยครับ”
“เหรอ... แต่ข้าว่ามันน่าทำนะ” เร็นจิยิ้มเจ้าเล่ห์ “เร็วสิ...ริคิจิ ช่วยข้าหน่อย”
“ถ้าหัวหน้าจำได้แล้วละก็...ข้าไม่อยากจะเห็นซากหน่วยหกนะครับ” แต่ยมทูตหนุ่มก็ยังต้องทำตามที่เร็นจิสั่งอยู่ดี “ข้าแค่เกี่ยวข้อง...ไม่มีส่วนเอี่ยวในความผิดนะครับ”
“ครับๆ...เออ ข้ารู้แล้วน่า” เร็นจิถอนหายใจ กังวลเหมือนกันแหะ... นี่เขาเร่งรัดไปหรือเปล่า ไม่หรอก...จบเรื่องความทรงจำอันน่าปวดหัวนี่เมื่อไหร่ ค่อยไปเด็ดหัวคารุโกะเมื่อมีโอกาสก็ละกัน
“หัวหน้า” เร็นจิยื่นหน้าเข้ามาในห้องพักของเบียคุยะ ร่างบอบบางนอนก่ายอยู่บนเสื่อ “ไปดูรูปกันก่อนครับ”
“ไปไกลๆ ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า” เบียคุยะลุกขึ้นมาต่อว่าทันที
“หัวหน้าเบียคุยะ ในความเห็นข้า...ท่านเป็นคนชอบทำงานนะครับ รีบๆฟื้นความทรงจำให้ได้ซักทีสิครับ” เร็นจิก็แทบจะนอนก่ายอยู่หน้าประตูเหมือนกัน เหนื่อยกาย...เหนื่อยใจ...
“เรื่องอะไรๆเจ้าก็พูดแต่คำว่างาน ไปให้พ้น...ไม่งั้นก็หุบปากไปซะ” ตอนนี้รู้แล้วว่าหัวหน้าเหมือน...ไม่ใช่...เป็นเด็กอยู่... เร็นจิคร้านที่จะพูดต่อ มือหนาช้อนเบียคุยะออกมาจากห้องหน้าด้านๆ
“ข้าไม่ใช่เด็กนะ...ปล่อย” ไม่ครับ...ท่านตอนนี้แหละเด็กสุดๆเลย
“ไม่ครับ” เร็นจิพูดเสียงแข็ง “อยู่นิ่งๆสิครับ อย่าดิ้น...เดี๋ยวผมโยนลงไปเลยนะครับ เอ๊ะ...อื้อ เลิกทุบหน้าอกผมซักที”
“โยนลงไปเลยสิ ข้าเกลียดเจ้า...เจ้าทำภาพนั้นหายไปทำไม” เบียคุยะส่งเสียงพูดอย่างดื้อดึง
“ข้าขอโทษครับ...ข้าขอโทษ” เร็นจิตบหลังคนตัวเล็กให้หยดร้องงอแงเสียที “แล้วท่านจะโกรธข้าแค่เรื่องที่ทำภาพนั่นหายไป...เท่านั้นเองหรือครับ”
“ข้ายังไม่รู้เลยว่าคนในภาพเป็นใคร ข้าไม่รู้ ...แต่เจ้าก็ทำมันหายไปแล้ว” เบียคุยะกอดอกก่อนหันหน้าเบือนออกจากอ้อมกอดร่างสูง
“หืม... ใช่...ผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า” เร็นจิวางร่างบอบบางลงนอนกองกับพื้น สายตาตื่นตระหนกที่โดนปล่อยหล่นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยสบกับผู้หญิงในรูปพอดี
“ฮิซานะ” เบียคุยะเบิกตากว้าง “ลูเคีย...”
“อ่า...ใช่ ท่านจำได้” เร็นจินั่งลงข้างๆ “พอนึกอะไรออกอีกไหมครับ”
“โทษประหาร” ใบหน้าหวานเคร่งเครียดพร้อมกับสายตาที่หม่นหมองลง แต่เร็นจิกลับยิ้มกว้าง เสียงประตูเปิดขัดจังหวะการเดินของเวลา พร้อมปรากฏร่างสูงของอิจิโกะที่ยืนเคียงข้างกับลูเคีย
“โอ๊ส ว่าไงเจ้าหมาเพื่อนรัก” อิจิโกะพูดขำขัน แต่เบียคุยะกลับยกเซ็นบงตรงมาฟาดหน้าหล่อเหลานั่นทันที “เฮ้ย แปรพักตร์กันอีกแล้ว ทุกวันนี้เล่นการเมืองทรยศเพื่อนกันหมดเลยหรือไง” แน่นอนว่าอิจิโกะรับดาบได้ทัน (คราวนี้ทันแหะ) ยมทูตผมส้มโดดหายไปจากห้อง หรือหนีดีๆนี่เอง แล้วหัวหน้าหน่วยหกที่ความทรงจำยังกลับมาไม่เต็มหน่วย ...ก็ดันเล่นเกมเล่นไล่จับนี่ไปด้วย เบียคุยะแทบถือไม่ตะพดไล่ตีหัวส้มๆของแฟนน้องตัวเอง
“ท่านพี่...ความจำเสื่อมไม่ใช่เหรอ” ลูเคียมองตามว่าที่สามีกับพี่ชายตัวเองอย่างปลงๆ
“จำได้บางอย่างแล้วละ” เร็นจิค่อนข้างพอใจฝีมือตนเอง “เป็นไง...ฉันเก่งไหม”
“มันเกี่ยวอะไรกับนายเล่า” ลูเคียเลิกคิ้วมอง เอ๊ะ...คำพูดมันมีอะไรแอบแฝงเหมือนไดนาไมต์สอดไส้ช็อกโกแลต (ไปไกลเกิน)
“เอ้า... ก็ฉันเป็นคนทำ” เร็นจิยังส่งสายตาประมาณว่า... ไม่รู้เหรอ...โง่ปะเนี่ย ยิ่งชวนให้คิด... (ลึก)
“หา... งั้นข่าวลือนั่นก็เป็นจริงสิ” เด็กสาวผมดำเผลอขึ้นเสียงตะโกนอย่างตกใจ แต่คิ้วเร็นจิกลับขมวดเป็นเงื่อนพิรอด “เอ้า...ก็เขาลือกันไปสามบ้านแปดบ้านว่านายกับท่านพี่... คบกันอยู่”
“อะไรนะ” เหวอครับท่าน... งานนี้งงอย่างเดียว ถึงมันจะเป็นความต้องการ (ชั่วนะเร็นจิ) แต่ในเมื่อข่าวมันไม่จริง...ไม่มีมูล...ลือกันชัดๆเห็นๆแบบนี้... ก็ต้องออกมาเซย์โน...ไม่ใช่ๆ...ซะก่อน
“ก็ฉันได้ข่าวจากคุณรันงิคุ” ลูเคียทำท่าคิด “คุณรันงิคุฟังมาจากเสียงบ่นของหัวหน้าฮิตซึกายะ แล้วรู้สึกว่าเจ้าเด็กเตี้ยนั่นจะฟังมาจากปากโมโมะนะ”
“แล้วโมโมะก็ฟังมาจากคาริน” เร็นจิต่อให้จบ ยัยตัวแสบ... รู้แล้วว่าขอย้ายทำไม เพื่อการกระจายข่าวอันไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหานี่เอง เสร็จงาน... เราต้องเคลียร์กัน...อีกยาว...
“ฉันจะฆ่ามันวันหลัง”
******************
“เสียงระเบิดดังมาแต่ไกลเลยแหะ” ใช่...ได้ยินกันทั่วโซลไซตี้ เด็กสาวผู้อาสามาเคลียร์งานให้อดีตรองหัวหน้านั่งมองกลุ่มควันที่ลอยมาแต่ไกลบวกกับเสียงอึกทึกครึกโครมของการต่อสู้ระหว่างว่าที่น้องเขยกับว่าที่คุณพี่ภรรยา
“แหม แต่คารินจังดูไม่ทุกข์ร้อนเลยนี่คะ”ฮินาโมริที่นั่งอยู่ข้างๆพูด ก่อนยกถ้วยชาขึ้นซด
“ฮะๆๆ ฮินาโมริจังก็”คารินพึมพำเบาๆ ก่อนจะปาดกองเอกสารไปเสียอีกทางหนึ่ง เนื่องด้วย
สกิลการปั่นงานที่เจ้าตัวมั่นใจว่าเหนือกว่าเร็นจิทำให้เธอทำงานเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว...
“โอ๊ย เหนื่อยๆๆๆ ทำไมตาเร็นจิถึงได้ดองงานเก่งขนาดนี้เนี่ย เดี๋ยวเฮอะ จะฟ้องหัวหน้าคุจิกิ”คารินบ่นพำขณะฟุบหน้าลงไปบนกองเอกสาร ฮินาโมริมองเด็กสาวรุ่นน้องด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนเดินมายกเอกสารที่คารินเขี่ยทิ้งขึ้นมาถือไว้
“เดี๋ยวข้าเอาไปส่งให้นะ”ฮินาโมริพูดยิ้มๆแต่ทว่าเงียบ ไร้เสียงตอบรับจากคนที่เพิ่งฟุบหน้าลงไปเมื่อครู่ เด็กสาวรองหัวหน้าหน่วย 5 ชะโงกหน้าเข้าไปมองรุ่นน้องใกล้ๆ
“ตายจริง หลับซะแล้ว”พูดพลางหอบเอกสารกองโตออกไปข้างนอก แล้วระหว่างทางนั่นเองเธอก็พบกับฮิสึกายะที่เดินสวนมาพอดี
“หวัดดีจ้า ชิโร่จัง อุ๊ย!”โมโมะอุทาน เพราะน้ำหนักของกองงานในมือทำให้เด็กสาวเสียหลักเล็กน้อย
“มานี่มา”โทชิโร่ที่เห็นท่าไม่ดีรีบแย่งเอกสารในมือเด็กสาวมาทันควัน
“ชิโร่จัง”
“ไม่ต้องพูดเลย หอบมาเยอะขนาดนี้ได้ไงทำไมไม่ให้พวกในหน่วยถือมาฮะ เกิดหกล้มหกลุกไปจะเป็นยังไง แล้วนี่ทำไมเจ้าบ้าอาบาราอิมันถึงไม่มาดูแลเจ้าเนี่ย แย่จริงๆ”โทชิโร่บ่นพำขณะเดินนำหน้าสาวคนรัก
“ก็...ข้า”
“ช่างเถอะๆๆๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”คนตัวเล็กกว่าบอกตัดบทในที่สุด จากนั้นทั้งคู่จึงพากันไปส่งงานยังหน่วย 1...
*****************
สวัสดีเจ้าคะ นานๆทีข้าน้อยถึงจะหายอู้นะเจ้าคะ
วันนี้ก็ได้มีโอกาสมาอัพแล้ว ไรท์เตอร์อีกคนเค้าไปขุดออกมาจากโลงศพเจ้าค่ะ
ต่อจากนี้ก็จะเป็นเรื่องสบายๆแล้วเจ้าค่ะ
จะได้ไม่ต้องมานั่งงงกันอีกเนอะ T-T มันเป็นความผิดของข้าน้อยเองที่ปล่อยให้ทุกคนสับสน
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นะเจ้าคะ
สวัสดีเจ้าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น