คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [MayuAka] Festival of Love (Request : gomgam_nattanit) Ep.01
Warning : ความรั่วที่แฝงในความมุ้งมิ้ง
ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป xD
<Festival of Love>
Ep.01
“ทำไมถึงเสนอเรื่องหนูน้อยหมวกแดงครับ?”
ระหว่างการเดินทางกลับบ้านของอาคาชิโดยมีมายุสุมิ รุ่นพี่ปี3เดินกลับบ้านพร้อมกัน บทสนทนาถูกเปิดด้วยประเด็นที่ฝ่ายรุ่นพี่เสนอให้ทีมบาสของโรงเรียนราคุซันแสดงบทละครเรื่องหนูน้อยหมวกแดง โดยคาดว่าต้องมีอาคาชิเป็นตัวเอก เจ้าตัวจึงเกิดความสงสัยว่าเพราะเหตุใดจึงเสนอเรื่องแบบนั้นออกไป
“ก็บอกไปแล้วว่านายเหมาะกับบทนี้ที่สุดแล้ว ไม่ได้ฟังหรือไง” มายุสุมิที่เดินอ่านไลท์โนเวลไปด้วยตอบด้วยน้ำเสียงปกติที่ฟังดูแล้วเหมือนตัวเองไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย
“ผมเหมาะตรงไหน บอกเหตุผลได้ไหมครับ?” อาคาชิยังคงไม่ยอมรับกับเหตุผลส่งๆที่บอกแค่ว่า ‘เหมาะสมกับมันแล้ว’ เขาต้องการคำขยายความที่ชัดเจนกว่านี้
“อืม...เหตุผลที่เหมาะงั้นเหรอ ก็คงเพราะนายน่ารักล่ะมั้ง” มายุสุมิทำท่านึกสักพักก่อนจะหลุดคำพูดที่ทำให้คนที่ถูกชมหยุดเดินไปเลย
ว..ว่าไงนะ เขาเนี่ยนะน่ารัก เพี้ยนไปแล้วมั้งหมอนั่นน่ะ
“อ้าว จะยืนชมจันทร์อยู่แบบนั้นอีกนานไหม แค่พูดความจริงต้องอึ้งขนาดนั้นเลยหรือไง” ผู้เป็นรุ่นพี่ตะโกนเรียกคนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดส่วนตัวอย่างอาคาชิเพื่อให้สติของเขากลับคืนมา
“ถ้าไม่รีบตามมาจะปล่อยนายไว้แบบนั้นเลยนะ” มายุสุมิทำท่าโบกมือลาแบบหยอกๆ ซึ่งเมื่ออาคาชิเห็นแล้วจึงจำเป็นต้องรีบวิ่งเพื่อจะได้ตามทันรุ่นพี่ของเขา
...
แล้วทำไมเจ้ารุ่นพี่มายุสุมิถึงกลับมาที่บ้านด้วยกันกับเขาล่ะ! ด้วยกันในความหมายที่ตรงตามตัวอักษร กลับด้วยกัน...กลับมาบ้านด้วยกัน ซึ่งบ้านในที่นี้เป็นบ้านหลังเดียวกันซะด้วย
“มายุสุมิ คุณไม่กลับบ้านล่ะครับ?” อาคาชิถามขณะวางกระเป๋าลงบนโซฟา
“ฮ้าววว…ฉันกะว่าจะมาช่วยนายคิดเรื่องที่จะแสดงไง พรุ่งนี้ต้องไปบอกพวกเรโอะไม่ใช่เหรอ” มายุสุมิหาวออกมาก่อนจะชี้แจงเหตุผลให้อีกฝ่ายทราบ ซึ่งนั่นทำให้อาคาชิแอบท้วงในใจว่ามันใช่แบบนั้นจริงๆหรือ
“ว่าไปนายปฏิเสธเรื่องที่ฉันเสนอ แปลว่านายมีเรื่องที่อยากแสดงอยู่แล้ว?” ฝ่ายรุ่นพี่เปิดประเด็นขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังกับเรื่องแสดงละครพอสมควร
“เปล่า จริงๆผมไม่มีความเห็นสำหรับเรื่องนี้หรอก” ก็เขาไม่ได้อยากแสดงเลยนี่นา
“ถ้างั้นฉันจะลองเสนอให้นายพิจารณาละกัน โอเคมะ” มายุสุมินั่งลงที่โซฟาข้างๆกระเป๋า พลางเอนตัวไปด้านหลังเพื่อพิงหลังโซฟา เขาทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสนอเรื่องที่สองของวันให้รุ่นน้องได้เลือก
“สโนว์ไวท์?” ชื่อที่เสนอมาทำให้อาคาชิยั้งมือที่จะปากรรไกรใส่อีกฝ่ายแทบไม่ทัน
“มันเหมาะกับผมตรงไหนครับ”
“ก็ในเรื่องมีแอปเปิ้ลสีแดงเหมือนนายไง”
บางทีอาคาชิก็เผลอคิดว่านี่อาจจะเป็นคำพูดสุดท้ายของมายุสุมิก็เป็นได้
“แฮร์รี่พอตเตอร์?” เรื่องนี้มันก็ยาวไป...
“กล้วยหอมจอมซน?” อาคาชิไม่มีฝาแฝด...
“เจ้าชายกบ?” นั่นให้มิโดริมะ ชินทาโร่แสดงเถอะ
“เพื่อน กูรักมึงวะ?” มึงเสนอเรื่องบ้าอะไร
“ไอรอนแมน กัปตันอเมริกา ธอร์ โลกิ เดอะฮัค สไปเดอร์แมน ทาร์ซาน ฯลฯ”
“พอครับ พอ ผมว่าคุณไม่ต้องช่วยคิดแล้วครับ” ถ้ามันจะยกเรื่องของซุปเปอร์ฮีโร่มาซะขนาดนี้ ถ้าคลั่งไคล้พวกฮีโร่นักแนะนำให้ไปดูเรื่อง The Avengers เลย รวมเหล่ายอดมนุษย์ทั้งหมดที่กล่าวมาได้อย่างครบถ้วน
“ฉันว่าไอรอนแมนก็โอเคนะ ชุดเกราะเป็นสีแดงทองเข้ากับสีตาของนายเลย” มันยังไม่จบ ใครก็ได้เอามายุสุมิไปฆ่าปิดปากแทนเขาที เขายินดีเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนเรื่องอาวุธให้ โดยมอบกรรไกรให้สัก100เล่มเพื่อใช้ในการสังหารอีกฝ่าย
“มายุสุมิ ผมไม่คิดว่าคนที่เป็นถึงผู้เล่นมายารุ่นใหม่อย่างคุณจะมีความคิดที่ไร้สาระแบบนี้” อาคาชิรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับอีกฝ่ายเต็มทน หรือเพราะอีกฝ่ายจงใจจะเสนอเรื่องที่เวอร์เกินไปเพื่อให้เขาต้องจำใจเลือกแสดงเรื่องหนูน้อยหมวกแดง
“นายบอกว่าคิดไม่ออกนี่ งั้นตัดทอนตัวเลือกให้เหลือไอรอนแมนกับหนูน้อยหมวกแดง” อาคาชิรู้สึกอยากเพิ่มตัวเลือกที่สามลงไปด้วยตัวเองโดยเป็นการเลือกว่าไม่เอาทั้งคู่จริงๆ
“สรุปนายเลือกหนูน้อยหมวกแดงสินะ พรุ่งนี้นายก็ไปบอกพวกคนในทีมคนอื่นๆละกัน”
เมื่อได้ข้อสรุปแล้วว่าอาคาชิ(จำใจ)เลือกเรื่องหนูน้อยหมวกแดง มายุสุมิที่นั่งอยู่บนโซฟาตั้งนานก็ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายสักหน่อย และเขาก็ได้บังเอิญเหลือบไปเห็นสีหน้าของอาคาชิที่ดูเหมือนไม่ค่อยมีความสุขนัก
“นายไม่อยากแสดงขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ผมตัดสินใจอะไรไปแล้วก็คือข้อสรุป ถึงไม่เต็มใจแต่มันก็ต้องเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะทำเพื่อเกียรติยศของราคุซัน” นี่สินะความเป็นจักรพรรดิในตัวกัปตันของทีมราคุซัน ไม่ใช่แค่คำสั่งและแผนการที่เฉียบขาดเท่านั้น ยังมีความเป็นราชันย์ที่หาได้ยากจากเด็กปี1ทั่วไป
“เอาเถอะ แต่ฉันจะไม่แสดงถ้าไม่ได้รับบทเป็นหมาป่า” จู่ๆฝ่ายรุ่นพี่ก็ประกาศคำพูดที่แสนเอาแต่ใจออกมาทำให้อาคาชิหันมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“นายก็น่าจะรู้นะ ตั้งแต่ตอนที่นายชวนฉันเพื่อให้เข้าร่วมทีมในฐานะผู้เล่นมายารุ่นใหม่ ฉันบอกนายว่าถ้าหากจะให้ฉันทำหน้าที่แค่ส่งลูกแบบที่คุโรโกะทำ ฉันก็ขอเป็นผู้ชมอยู่ข้างสนามดีกว่า”
“นั่นคือฉันจะบอกว่าถ้าฉันไม่ได้เป็นตัวละครหลักรองจากนาย ฉันขอเป็นคนชมการแสดงดีกว่า”
“แล้วแต่คุณก็แล้วกัน ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ผมจะไม่มีความคิดเห็นกับมัน”
“จริงเหรอเนี่ย!”
ทุกคนโพล่งออกมาเป็นคำเดียวกันทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ออกมาจากปากของกัปตันทีม ไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไงในเมื่ออาคาชิผู้ที่มีเนตรจักรพรรดิแถมยังมีความเป็นราชันย์สูงขนาดนั้นดันมายอมแสดงเรื่องหนูน้อยหมวกแดงโดยที่ตัวเองรับบทเป็นตัวเอกเองซะด้วย
“แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆเซย์จังก็ได้ข้อสรุปออกมาแล้ว พวกเราก็ควรจะเริ่มต้นซ้อมบทละครกันได้แล้วนะ แต่ก่อนจะซ้อมก็ต้องกำหนดบทบาทของแต่ละคนก่อน เริ่มจากหมาป่า ใครต้องการจะรับบทนี้?”
....
ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาถือสายรอเพื่อเข้าสู่ระบบฝากข้อความเสียง...ตื๊ด
ตั้งแต่เมื่อสักครู่ที่คำถามถูกปล่อยออกมา จนถึงตอนนี้ทั้งห้องก็ยังคงเงียบสนิท ไม่มีใครเสนอตัวที่จะรับบทเป็นหมาป่าเลยแม้แต่คนเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วอาคาชิจึงเหลือบมองไปทางมายุสุมิที่เมื่อวานยังบอกอยู่เลยว่าตัวเองต้องการรับบทนี้ แล้วทำไมไม่เสนอตัวล่ะ?
“ถ้าไม่มีใครเป็นเดี๋ยวฉันเป็นเองนะ” เรโอะพูดขึ้นมาเมื่อไม่เห็นมีใครเต็มใจที่จะรับบทเป็นหมาป่า
“มายุสุมิ ให้เขารับบทนี้” เสียงเรียบๆแต่แฝงไปด้วยอำนาจโพล่งขึ้นมาทำให้ทุกคนยกเว้นเจ้าของชื่อที่ถูกเรียกหันมองไปทางเจ้าของเสียงก่อนจะสลับไปที่ฝ่ายผู้ถูกเลือก
“เซย์จังเลือกเองแบบนี้ก็คงขัดไม่ได้ล่ะนะ งั้นเดี๋ยวฉันรับบทเป็นแม่ของหนูน้อยหมวกแดงละกัน เพราะบทนี้มีน้อย พอหมดบทแล้วฉันจะได้มากำกับพวกนาย โอเคนะ” เรโอะเสนอตัวเป็นผู้กำกับเพราะคิดว่าคงไม่มีใครเหมาะไปกับเขาแล้ว
“ส่วนโคทาโร่ก็เป็นยายไปนะ มีหน้าที่นอนขดอยู่บนเตียง สบายมาก” เรโอะยังคงแจกแจงหน้าที่ต่อไป “แล้วสุดท้ายอิคิจิ นายเป็น...”เรโอะพยายามนึกบทที่นอกเหนือจากสี่ตัวละครที่กล่าวไปแล้ว แต่ก็เหมือนจะนึกไม่ออก ก็เลยให้คำตอบที่ทำเอาคนฟังแทบหัวคะมำกับพื้น “เตียงล่ะกัน เตียงที่ยายนอน”
“เดี๋ยวๆๆ ทำไมบทของฉันมันถึงเป็นฉากประกอบขนาดนั้นละฟะ” อิคิจิประท้วง
“ฮ่าๆๆ ฉันว่าฉันแย่แล้วนะ บทนายรันทดยิ่งกว่าฉันอีก” โคทาโร่ที่ตอนแรกเตรียมประท้วงเรื่องที่ต้องแสดงเป็นยาย แต่ตอนนี้กลับมานั่งหัวเราะเจ้าคนกินจุมหาศาลของทีมที่ดันได้รับบทเป็นเตียงซะได้
“ยังขาดนายพรานหรือไม่ก็คนตัดไม้” มายุสุมิที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นทำให้สามารถยุติฉากถกเถียงเรื่องที่อิคิจิต้องรับบทเป็นเตียงลงได้ ซึ่งสุดท้ายก็ได้ให้อิคิจิรับบทเป็นนายพรานไปตามระเบียบ
“งั้นฉันจะทวนบทของแต่ละคนอีกรอบนะ เริ่มจาก
อาคาชิ รับบทเป็น หนูน้อยหมวกแดง
มายุสุมิ รับบทเป็น หมาป่า
โคทาโร่ รับบทเป็น คุณยาย
อิคิจิ รับบทเป็น นายพราน
ส่วนฉัน เรโอะ รับบทเป็น คุณแม่ และก็ผู้กำกับการแสดง ถ้างั้นเดี๋ยวฉันขอตัวไปเขียนบทก่อน แล้วเราจะมาซ้อมด้วยกันเย็นวันนี้ ตอนนี้พวกนายอยากทำอะไรก็ไปทำก่อนละกัน”
เมื่อจัดแจงบทบาทสมมติกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัว บ้างก็ฝึกซ้อมกีฬา บ้างก็ไปหาอะไรทานเพื่อเพิ่มพลัง หรือไม่ก็นั่งอ่านไลท์โนเวลไปพลางๆ แต่ก็ยังมีใครบางคนที่กำลังทำใจกับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้
“หนูน้อยหมวกแดง – เข้าป่าหายาย – หมาป่าเอายายไปซ่อน – หนูน้อยมาถึงบ้านเจอหมาป่าในคราบของยาย – หนูน้อยหมวกแดงถูกหมาป่ากิน อืม...น่าจะประมาณนี้ ที่เหลือก็แต่งบทเพิ่มเพื่อให้เรื่องนี้ดูโดดเด่นก็พอแล้วล่ะ” เรโอะที่กำลังนั่งเขียนห่วงโซ่อาหาร(?)ของเรื่องหนูน้อยหมวกแดงพึมพำลำดับการที่ตนเป็นคนเขียนขึ้น
โดยหารู้ไม่ว่าที่เขียนบท ‘หนูน้อยหมวกแดงถูกหมาป่ากิน’ นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวว้าวุ่นหัวใจในทีมบาสของโรงเรียนราคุซัน
------------to be continued-----------
คู่แรร์เป็นอะไรที่แต่งแล้วต้องระวังมากจริงๆ
ขอบคุณสำหรับการติดตามคร้าบบ
หวังว่าจะสนุกนะครับ xD
ความคิดเห็น