ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Service] Kuroko no Basuke (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #10 : [AkaKuro] Soap Problem (Request : ไมมิจิ :3 ) Ep.01

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 57




    ประเภท กึ่ง AU : มีเค้าโครงของเรื่องจริงอยู่อย่างเช่นเรื่องบาส และก็เพิ่มเติมบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาจริงลงไปด้วย จึงจัดอยู่ในประเภทกึ่งนะจ๊ะ






     





    สบู่ที่ปกติ คือ มีส่วนผสมระหว่างกรด (ไขมัน) กับเบส (ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10

    <อ้างอิง สบู่:วิกิพีเดีย>

    สบู่ที่ผิดปกติ คือ สบู่ที่มีหน้าเพื่อนของตัวเองอยู่บนนั้น

    <อ้างอิง มโน:คุโรโกะ>





     

    แต่งให้ ไมมิจิ :3

    Pairing : อาคาชิ x คุโรโกะ

    Rate : PG-13

    Story : หวานๆมุ้งมิ้ง มีดราม่าเล็กน้อยก็ได้ ^\/^

    To Reader : คือเรื่องนี้คิดออกมากลางคัน บวกกับต้องการหักล้างกับอารมณ์ดราม่าของเรื่อง Red Legend แต่หารีเควสที่เข้าข่ายเรื่องนี้ไม่ได้เลย มีแต่รีเควสแดงดำแนวดราม่าและ SM  โฮกกก เลยคิดว่าของคนนี้เอาแบบมุ้งมิ้งน่าจะเข้ากันสุดแล้ว จริงๆต้องเรียกว่ารั่วมากกว่า ลองเสพกันดูนะจ๊ะ แม่ยกแดงดำทั้งหลาย

    ปล.ถ้าเจ้าของรีเควสไม่โอเคกับเนื้อเรื่องบอกได้นะจ๊ะ จะได้ทำการเปลี่ยนแนวอย่างเนียนๆในตอนต่อๆไป

    ปลทู.ถ้าต้องการดราม่าจะพยายามใส่สีตีไข่ให้มันดราม่าให้ได้จ้ะ



    Warning : ความรั่วและความป่วนของทีมปาฏิหาริย์





     

    <Soap problem>

    Ep.01

     

     
     

    สวัสดีครับ ผมคุโรโกะ เท็ตสึยะ มีผมสีฟ้า อยู่โรงเรียนเซย์ริน แต่ตอนนี้ผมอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆบ้าน มาทำอะไรน่ะเหรอครับ ก็มาซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันครับ

    ผมเดินเรื่อยเปื่อยในร้านพลางมองหาสิ่งที่ผมต้องการอย่างเช่นพวกอาหารสด(เผื่อเอาไปให้คากามิทำให้กิน) ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สุขภัณฑ์ต่างๆที่จำเป็น แต่ตอนนี้ผมพบเจอกับของบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ผมคงกำลังฝันร้ายอยู่

     

    จะอธิบายว่ายังไงดี ผมว่ามันเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่รู้จักกับเจ้าของภาพที่อยู่บนสิ่งๆนี้
     


     

    มือของผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับกดไปที่เบอร์ของคนรู้จักนามว่าคิเสะ และอีกฝ่ายก็รับสายอย่างรวดเร็วเทียบเท่ากับความเร็วแสงก็ไม่ปาน

    [คุโรโกจจิ~ นายโทรมาทั้งที ต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆเลย] เสียงสดใสจากปลายสายดังขึ้น

    “ผมอยากให้คิเสะคุงช่วยไปที่ร้านอะไรก็ได้ที่มีสบู่ขาย แล้วบอกผมทีครับว่ามันยังปกติดีอยู่” ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ เพราะตอนนี้ผมต้องการได้รับคำยืนยันจากคนอื่นว่าผมตาฝาดไปจริงๆ

    [ตอนนี้เลยเหรอ ก็ได้ งั้นคุโรโกจจิรอแป๊บนึงนะ] ทันทีที่จบประโยคก็เกิดเสียงคนวิ่งจากปลายสาย บ่งบอกได้ว่าอีกฝ่ายคงจะรีบไปที่ร้านไหนสักแห่งเพื่อพิสูจน์ความจริงให้กระจ่างตามที่ผมวานไป

     

    15นาทีผ่านไป

    [นะ...นี่มันอะไรกันเนี่ย!! ทำไมกล่องสบู่พวกนี้มันถึงได้...] มีหน้าของอาคาชิคุงตราหน้าอยู่สินะครับ สรุปคือฝันร้ายกลายเป็นจริง แม้แต่คิเสะคุงที่อยู่ต่างสถานที่ยังเจอสิ่งๆเดียวกัน นั่นก็คงแปลได้ว่า ตอนนี้หรือไม่ก็อีกไม่นานนี้ ร้านค้าทั่วประเทศญี่ปุ่นคงมีแต่สบู่ที่มีหน้าของอาคาชิอยู่บนกล่องเกลื่อนไปทั่วแน่ๆ

    “ขอบคุณครับคิเสะคุง ช่วยได้มากครับ” ถึงแม้ค่าโทรศัพท์ที่ผ่านไป15นาทีจะถูกผลาญไปโดยใช่เหตุก็เถอะครับ แต่คงโทษเขาไม่ได้ เพราะผมเองก็เอาแต่จดจ่ออยู่กับเจ้าสบู่ก้อนจนลืมวางหูระหว่างที่คิเสะคุงกำลังวิ่งหาร้านที่จะเข้า

    ผมตัดสายเมื่อธุระของผมกับคิเสะคุงหมดลง ตอนนี้ได้เวลามาสนใจกับแผงที่วางจำหน่ายสบู่ก้อนที่มีรูปหน้าอาคาชิคุงประดับอยู่ซึ่งวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ระเบียบมากไปจนหลอนเลยล่ะครับ คือผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อาคาชิคุงคิดอะไรแผลงๆอีกหรือยังไงกัน

    ถึงเป็นแบบนี้แล้วผมก็เป็นคนที่คิดในแง่บวกครับ เพราะฉะนั้นผมยังคิดว่านี่คงเป็นยี่ห้อใหม่ของสบู่ที่อาคาชิคุงเป็นคนควบคุมการผลิต ผมจึงลองเดินดูต่อไปเพื่อมองหาสบู่ยี่ห้ออื่นๆ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันกลับทำให้ผมรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก

    ก็ไม่ว่าจะเป็นสบู่ยี่ห้ออะไรก็จะมีรูปอาคาชิคุงประกอบอยู่หมดเลย สบู่เบบี้มายเอย โพรเทคส์เอย ลักซ์เอย ต่างก็มีอาคาชิคุงเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งสิ้น คุโรโกะเพลียครับ

     

    การแก้ปัญหาโดยการเปลี่ยนยี่ห้อใช้ไม่ได้ผล คราวนี้คงต้องเปลี่ยนเป็นใช้สบู่เหลว แต่เหมือนกับอาคาชิคุงจะรู้ทันความคิดของผู้ซื้อ เขาจึงมีรูปของเขาประดับแม้กระทั่งบนขวดของสบู่เหลว บางครั้งผมก็เผลอมีความคิดแปลกๆอย่างเช่นใช้แชมพูอาบน้ำแทนการอาบด้วยสบู่ก็ไม่เลวเหมือนกัน

     

     

     

    ตอนนี้ทุกคนซึ่งเป็นสมาชิกในทีมปาฎิหาริย์ต่างก็ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อย นั่นก็เพราะว่าคิเสะทำการส่งข้อความไปให้ทุกคนพร้อมแจ้งข่าวสารให้ทราบอย่างทั่วถึง ทำให้ตอนนี้จึงมีการเรียกประชุมย่อยในหมู่ทีมปาฏิหาริย์ว่าด้วยเรื่องของวิธีการจัดการกับอดีตกัปตันของตน ณ บ้านของคุโรโกะ

    ผมมองทุกคนด้วยสีหน้าเรียบเฉย นั่นคือสีหน้าปกติของผม และทุกคนก็ทำตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใช่ นั่นเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น ผมเชื่อว่าตอนนี้ในใจทุกคนคงมีคำถามและคำพูดมากมายที่อยากปล่อยออกมา เพียงแต่กำลังรอคอยใครคนหนึ่งที่จะทำหน้าที่เป็นผู้กล้าเพื่อเปิดประเด็นเรื่องที่เกิดขึ้น

    “พวกนายเห็นเหมือนกันใช่ไหม...” ผู้กล้าคิเสะถามคำถามที่ทุกคนรู้คำตอบ

    “ถ้างั้นก็...ไอ้เจ้าโลโก้สบู่รูปอาคาชิจจิมันคืออะไรกัน ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรอยู่!” คิเสะคุงเริ่มโวยวายเป็นคนแรกพร้อมกับหยิบก้อนสบู่ที่มีหน้าของอาคาชิคุงอยู่บนนั้นขึ้นมาโชว์ด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล(?)

    “ถ้านายมีปัญหาก็ไปถามอาคาชิเองสิ คิเสะ” มิโดริมะ มือชู้ตที่แม่นยำที่สุดในวงการบาสเก็ตบอลบอกกับอดีตเพื่อนร่วมทีมของตน

    “มิโดริมัจจิไม่มีปัญหางั้นเหรอ จะบอกว่ายินยอมใช้สบู่ที่แม้กระทั่งเนื้อสบู่ยังสลักเป็นรูปอาคาชิจจิอย่างนั้นเหรอ” ใช่ คิเสะคุงพูดไม่ผิดหรอก เพราะผมเองก็ต้องจำใจซื้อมาก้อนหนึ่ง แล้วเมื่อแกะกล่องออกมาปรากฏว่าแม้แต่ก้อนสบู่เองยังแกะสลักเป็นรูปอาคาชิคุงไว้อย่างสวยงาม งามจนรู้สึกงามไส้ครับ

    “ฉันคิดว่าจะไม่ใช้สบู่ไปตลอดชีวิต” อาโอมิเนะคุงพูดขึ้นมาดื้อๆ ซึ่งนั่นเคยเป็นความคิดของผม และผมคิดว่าอีกหลายๆคนบนโลกนี้ก็คงไม่อยากใช้มันหรอก นอกจากเหล่าผู้หญิงที่คลั่งไคล้อาคาชิคุงอะนะครับ

    “อ๋า...พวกนายเถียงกันหนวกหูจริง ก็แค่ก้อนสบู่ ไม่ใช่ขนมสักหน่อย” น้ำเสียงยืดยาดฟังดูเกียจคร้านดังมาจาก มุราซากิบาระคุง ผู้ที่มีส่วนสูงเกินคนปกติธรรมดาทั่วไป และยังเป็นผู้ที่วันๆกินแต่ขนมอีกด้วย

    “นายลองคิดดูว่าถ้าบนซองขนมที่นายชอบมีรูปอาคาชิอยู่บนนั้นนายจะรู้สึกยังไง” มิโดริมะคุงดันแว่นพร้อมกับพูดในสิ่งที่ทำให้มุราซากิบาระคุงเมื่อจินตนาการตามแล้ว ก็เริ่มรู้สึกสยองอย่างน่าประหลาด

    “ไม่เอาด้วยหรอก แบบนั้นฉันยอมเลิกกินขนมไปทั้งชีวิตเลย” พอมุราซากิบาระคุงพูดแบบนั้น ทุกคนที่ได้ฟังต่างคิดพร้อมกันในใจว่า อย่าให้เห็นว่ามันเป็นจริงแล้วนายยังไม่เลิกกินขนมหวานอีกนะ

    “เอาล่ะครับ ผมว่าพวกเรามาหาสาเหตุอย่างจริงจังกันเถอะครับ” ผมเห็นอดีตเพื่อนร่วมทีมของตัวเองนั่งถกเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องมานานจึงคิดว่ามันเสียเวลา เลยตั้งใจจะคุยกันแบบจริงๆจังๆสักที

     

    ครืดดด ครืดดด...

    เสียงสั่นดังขึ้นจากโทรศัพท์ของผม ซึ่งนั่นทำให้ทุกคนมองมาที่โทรศัพท์เป็นตาเดียวกันเลยเพราะอยากรู้ว่าใครเป็นคนส่งข้อความมา และทุกคนก็เห็นเหมือนๆกันคือ อาคาชิ เซย์จูโร่ เป็นเจ้าของเบอร์ที่ส่งข้อความเข้ามานั่นเอง

    โดยใจความมีอยู่ว่า

    เท็ตสึยะ และคนอื่นๆที่อยู่กับเท็ตสึยะ ฉันรู้ว่าพวกนายคงสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงส่งข้อความมาเพื่อให้พวกนายเปิดโทรทัศน์เพื่อฟังคำแถลงการณ์ของฉัน โดยเปิดไปที่ช่องราคุซันทีวี แล้วพวกนายจะได้รู้คำตอบของทุกอย่างที่พวกนายสงสัย

     เมื่อผมอ่านจบอาโอมิเนะคุงก็ถือวิสาสะเปิดโทรทัศน์ในบ้านของผมทันที โดยเปิดไปที่ช่องราคุซันทีวีซึ่งทุกคนเพิ่งจะรู้ว่ามันมีช่องทีวีช่องนี้อยู่บนโลกนี้ด้วย

    “สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้พบกับเรโอะอีกเช่นเคย กับรายการเปิดอกจักรพรรดิ เป็นรายการที่ตามติดชีวิตของกัปตันทีมบาสเก็ตบอลผู้มีกรรไกรพิฆาตเป็นอาวุธหลัก โดยมีดาเมจเท่า1ปีแสงกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีเนตรจักรพรรดิที่สามารถ—...”

    “พอครับ เรโอะ นี่ไม่ใช่รายการชีวประวัติของผม” อาคาชินั่งอยู่ข้างพิธีกรที่ชื่อว่าเรโอะพร้อมกับแผ่รังสีแห่งราชันย์ออกมาจนอีกฝ่ายต้องยอมเงียบปากโดยอัตโนมัติ

    “เอาล่ะครับ ก่อนอื่นเราต้องขอสัมภาษณ์คุณอาคาชิก่อนนะครับว่าคิดอย่างไรถึงเปลี่ยนให้สบู่ทุกยี่ห้อมีรูปของคุณอยู่บนนั้นครับ” เรโอะหยิบไมโครโฟนรูปกรรไกรสีแดงไปให้อาคาชิเพื่อผู้ฟังจะได้ได้ยินเสียงดังฟังชัด

    “ผมต้องการให้ทุกคนบนโลกนึกถึงผมในช่วงเวลาที่อาบน้ำ เพราะเขาว่ากันว่าช่วงที่อาบน้ำจะเป็นเวลาที่ทุกคนมีสมาธิที่สุด เป็นช่วงที่สมองของเราจะจดจำอะไรได้ดี หรือในทางกลับกันก็มีอีกจุดประสงค์คือเพื่อให้คนบางคนรู้สึกหวาดเกรงผมแม้แต่เวลาอาบน้ำ” คำตอบจากเจ้าตัวทำเอาคนฟังที่มีสีผมร่วมกันห้าสีถึงกับมีสีหน้าเอ๋อรับประทาน

    “เป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลมากเลยครับ ท่านผู้ชมเห็นหรือเปล่าว่าเขาผู้ที่ถูกขนามนามว่าจักรพรรดิเป็นผู้ที่สูงส่งเพียงใด แม้แต่อาบน้ำยังต้องการให้มีผู้คนเกรงขาม” รุ่นพี่เรโอะไม่ต้องฝืนพูดขนาดนั้นก็ได้นะครับ

    และจู่ๆก็เหมือนมีเสียงซุบซิบๆดังออกมาจากรายการ เป็นเสียงที่เบามากแต่ทุกคนในบ้านของผมก็ตั้งใจฟังจนได้ความว่า อาคาชิ นายบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงสักทีสิ อย่ามัวแต่พูดให้ดูดีเลย ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของโคทาโร่ สมาชิกอีกคนในทีมของราคุซัน

     

    “ความจริงที่ผมมาควบคุมบริษัทการผลิตสบู่ของทั่วประเทศ ก็เพื่อให้คนที่ผมกำลังแอบชอบได้คิดถึงผมแม้แต่อยู่ในห้องน้ำ และจะทำให้เขารู้สึกว่าเขาถูกผมมองอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย”

     

    แล้วคุณท่านไม่คิดถึงคนอื่นๆอีกเป็นหลักร้อยล้านว่าเขาจะรู้สึกยังไงเวลามีสบู่สลักรูปของท่านเวลาอาบน้ำบ้างเลยหรือไง นี่คือเสียงในความคิดของทุกคนที่บังเอิญใจตรงกันอย่างไม่ได้นัดหมาย และยังมีอีกเสียงที่แว่วมาด้วยก็คือ คนที่ท่านอาคาชิแอบชอบเป็นใครกัน น่าสงสารเขายิ่งนัก






    --------To be Continued--------


    ฝีมือโฟโต้ชอปได้เท่านี้จริงๆจ้า orz 
    คือแดงดำเรื่องฮันเซลเกรเทลมันหนักสมอง ก็เลยมาแต่งให้แม่ยกเบาสมองกัน(เบาปัญญาไปด้วย)
    แต่งหลายๆเรื่องอย่าว่ากันนะครับ ไรท์กลัวผู้อ่านจะไม่ชอบกัน T T
    เจ้าของรีเควสมาติเน้นๆ ชมหน่อยๆ ได้เลยจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×