ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~The kingdom of magic~

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 คำสั่งจากพ่อ

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 49


    แสงสีทองส่องกระทบตัวพระราชวังที่ประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดาทำให้เกิดแสงระยิบระยับชวนแสบตาดั่งติดไฟนีออนไว้สักพันดวง   บรรยากาศภายนอกดูอบอุ่นน่าออกมาเดินเล่นยิ่งนัก      อุทยานพระราชวังแห่งโรบาเลียดูดั่งสวรรค์   บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธ์ที่ต่างแข่งกันออกดอกชูช่อรับกับแสงอาทิตย์ยามเช้า   ลมอ่อนๆพัดพาเอากลิ่นอายแห่งธรรมชาติคละคลุ้งไปทั่ว   ท่ามกลางแมกไม้ร่างบางประทับนั่งอยู่บนโขดหิน   ดวงเนตรทอแสงพราวระริกทอดมองไปยังเบื้องหน้า

     

                    มินท์เสียงใสเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังเด็กหนุ่ม   ทำให้เจ้าของร่างบางต้องเหลียวไปมอง

     

                    มีอะไรหรอ น้ำเสียงตอบกลับเป็นมิตรที่สุด   พลางแย้มรอยยิ้มบาง

     

                    กะแล้วว่าต้องมาอยู่ที่นี่   ท่านพ่อเรียกแนะ สายลมพัดพาเอาเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวไสว

     

                    อืม   เดี๋ยวข้าขอชื่นชมดอกไม้พวกนี้อีกนิดนะ   พี่ไปก่อนเลยแล้วกันใบหน้าขาวนวลดุจสตรียามนี้ดูงดงามยิ่งนัก   ดวงตาสีเขียงมรกตเปล่งประกายทุกครั้งที่เอ่ยถึงดอกไม้ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรงโปรดที่สุด

     

                    รีบๆล่ะ   พี่ไม่อยากให้ท่านพ่อรอนาน สุรเสียงเคร่งจากเจ้าหญิงผู้ไม่ถูกกับสิ่งสวยๆงามๆก่อนจะเดินจากไป   ทิ้งเจ้าชายองค์น้อยให้เชยชมพฤกษาต่อ

    ………………………………………………….

     

                    พรมสีแดงทอดยาวไปตามทางระเบียง   เจ้าหญิงและเจ้าชายแห่งโรบาเลีย   เดินตรงไปยังห้องพักส่วนตัวของผู้เป็นบิดา   ซึ่งขณะนี้ได้ยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว   ประตูไม้บานใหญ่ที่ถูกแกะสลักลวดลายอย่างประณีตงดงามได้ถูกเปิดออก   ถ้ามองจากตรงนี้ก็จะเห็นกษัตริย์แห่งโรบาเลียซึ่งเป็นกษัตริย์สูงสุดกำลังยืนทอดพระเนตรออกไปข้างนอกหน้าต่างอย่างสบายอารมณ์

     

                    อ้าวมากันแล้วหรือ   ซาเดีร์ย   มินท์ ดานาฟ   มาทอร่ากษัตริย์แห่งอาร์เดเนททักบุตรทั้งสองอย่างแจ่มใส

     

                    ท่านพ่อเรียกพวกข้า...เอ๊ย...หม่อมฉันมามีเรื่องอะไรเจ้าหญิงองค์โตผู้ใจร้อนยิงคำถามใส่บิดาทันที

     

                    ฮ่า   ฮ่า เสียงสรวลลั่นก่อนจะดำรัสต่อ นี่เจ้าจะไม่มีเพคะ   เพขาเลยหรือ

     

                    เพคะ ผู้เป็นธิดารับสั่งอย่างฝืนใจเป็นที่สุดก่อนจะยิ้มแห้ง   เธอไม่คุ้นเคยกับการพูดแบบนั้นเลยเพราะเห็นเป็นเรื่องยุ่งยาก

     

     

                    ข้ามีเรื่องสำคัญต้องคุยกับพวกเจ้า พระพักตร์เคร่งขึ้นทันใด   เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาอยากรู้ของบุตรทั้งสองจึงรีบขยายความต่อ มันคงถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าจะต้องเข้ารับการเรียน... ดำรัสได้แค่นั้นเมื่อสีหน้าพระธิดาคนโปรดซีดเจือนลง   หมดความอยากรู้ไปโดยบัดดล   ในวินาทีที่คำว่าเรียนถูกเปล่งออกมา

     

                    เสียงสรวลดังขึ้นอีกครั้งจากดานาฟแล้วตรัสต่อ

     

                    เจ้าไม่ต้องทำหน้าเวอรี่ไปหรอก   เรียนนะไม่ได้สั่งให้ไปเสี่ยงตายสุรเสียงทีเล่นทีจริงเล่นงามผู้ถูกกล่าวจนบึ้งไปในทันที

     

                    ท่านพ่อจะให้หม่อมฉันไปเรียนอะไรหรือ   ตอนนี้ก็กำลังเรียนพระตำรากับท่านปู่ซีเลียนอยู่นี่พะยะค่ะ เสียงใสเอ่ยถามบิดา

     

                    เปล่าหรอก   ข้าหมายถึงเรียนเวทมนตร์น่ะ   มันเป็นเรื่องที่พวกเจ้าจำเป็นต้องรู้ ดำรัสเนิบๆกับประโยคต่อมาที่ทำเอาบุตรทั้งสองตาโตเท่าไข่นางพญาห่าน ข้าจะส่งพวกเจ้าไปเรียนในโรงเรียน

     

                    ห๊ะ!  ทำไมต้องเป็นโรงเรียนล่ะท่านพ่อ   ให้ครูมาสอนที่วังหรือไม่ก็ไม่เรียนเลยก็ได้นะ...เพคะ

                   

                    อืมซาเดีร์ยเจ้าจำเป็นต้องเรียนจริงๆดานาฟหันมาทางซาเดีร์ยที่ยังไม่มีคำตอบที่น่าพอใจนัก   ก่อนจะหันไปอีกทาง แล้วเจ้าว่าอย่างไรล่ะมินชาโร

     

                    เออ...หม่อมฉันว่าตามท่านพี่พะยะค่ะ กษัตริย์ดานาฟมองบุตรชายของตัวเองอย่างไม่เชื่อในวาจา

     

                    แต่ข้าอยากให้พวกเจ้าเรียนรับสั่งที่ฟังดูเอาแต่ใจของกษัตริย์ผู้ไม่ยอมแพ้ใคร   ซาเดีร์ยทำหน้ามุ้ยกับการตัดสินใจของท่านพ่อ   ที่ดูยังไงก็เหมือนเด็กดื้อๆคนหนึ่ง

     

                    ถ้าท่านพ่อชอบนักก็เรียนเองสิ ดวงเนตรของกษัตริย์ผู้เป็นบิดาบองกลายๆว่า   ข้าอายุปูนนี้แล้วยังจะให้ไปเรียนอีกรึ   ซาเดีร์ยเอ่ยต่อเชิงหยอกล้อเรียนรู้ตลอกชีวิตน่ะท่านพ่อไม่เคยได้ยินหรอเสียงสรวลเบาๆดังต่อท้ายแล้วเปรยขึ้น  

     

                    เจ้านี่น้า   เอาเป็นว่าข้าจะให้พวกเจ้าไปเรียนไม่นาน   หลังจากที่พอจะรู้เวทย์บ้างแล้วข้าจะส่งจดหมายขอรับตัวไปทางโรงเรียน   และเหตุที่ต้องส่งไปเรียนที่โรงเรียนเพราะถือเป็นการเรียนรู้โลกภายนอกอย่างหนึ่งซึ่งมันจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเจ้าในอนาคตดานาฟชี้แจงแก่บุตร

     

                    ทำไมล่ะเธอยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี

     

                    เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เองสุรเสียงเนิบๆอย่างขอไปที

     

                    เฮ้อ   ตกลงก็ได้แต่ท่านพ่ออย่าลืมไปรับตัวกลับล่ะเพคะ’” เธอเน้นคำสุดท้ายเป็นพิเศษ

     

                    งั้นก็ดีแล้ว ดานาฟแย้มโอษฐ์ให้บุตรทั้งสอง ข้าจะอธิบายครั้งเดียวฟังให้ดีนะ   เราจะออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นขอให้เตรียมเก็บข้าวของให้เรียบร้อย   เพราะคิดว่าคงต้องค้างที่นั่นในระหว่างการสอบ   เอาเฉพะของที่จำเป็นเท่านั้นที่สำคัญพวกเจ้าต้องผ่านการสอบคัดเลือกตัวให้ได้   เข้าใจนะ

     

                    สอบ!!   มันยิ่งกว่าเรียนอีกนะท่านพ่อ มันคือสิ่งที่เธอเกลียดที่สุด   มาถึงตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่เธอตัดสินใจไปมันอาจผิดถนัด   จะเปลี่ยนใจก็ไม่ได้แล้ว   ความคิดที่ซาเดีร์ยลงความเห็นว่า   ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ

     

                    แล้วเจ้าจะรู้ว่ามันสนุกแค่ไหนสุรเสียงของกษัตริย์ดานาฟปนสรวลเล็กน้อยอย่างพอพระทัย

    ……………………………………………..

                    สองพี่น้องเดินกลับห้องของตัวเองเพื่อไปเก็บของที่บิดาสั่งระหว่างทางเดินนั้นพวกเขาก็บังเอิญพบกับชายคนหนึ่งเข้า   เขาไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากมาชาร์นน้องชายคนเดียวของดานาฟ   ผู้มีศักดิ์เป็นอาของพวกเธอ

     

                    อ้าวท่านอา กำลังจะไปหาท่านพ่อสินะพะยะค่ะ มินท์ทักขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     

                    ใช่   แล้วพวกเจ้าล่ะ มาชาร์นถามกลับ

     

                    ก็ไปเก็บของเตรียมตัวไปโรงเรียนอยู่น่ะสิ   ท่านพ่อแหละไม่รู้คิดยังไง ซาเดีร์ยตอบระคนบ่นบิดา

     

                โรงเรียนเวทมนตร์สินะ   อืม   มันถึงเวลาแล้วรึเนี่ย ดำรัสขึ้นลอยๆ

     

                    ท่านอาทราบ?” น้ำเสียงฉงนของมินท์เรียกให้มาชาร์นหันมาสบ

     

                    ทุกอย่างมันเป็นเรื่องไม่แน่นอน   กันเอาไว้ย่อมดีกว่ามาแก้เอาทีหลัง   ชีวิตพวกเจ้าไม่ได้เป็นนิรันดร์การรีบแสวงหาความรู้มันคือองประกอบหนึ่งของชีวิต   บางทีสักวันพวกเจ้าอาจจำเป็นต้องใช้มัน

     

    ประโยคที่ทำเอาคนฟังชักสีหน้างงไปตามๆกัน   มาชาร์นแย้มโอษฐ์นิดก่อนที่จะขอตัวไปทำธุระต่อ

     

    พี่   ท่านอาเค้าหมายความว่าไงน่ะ คำถามที่ยิงมาโดยไม่ได้ตั้งตัว   เล่นเอาคนถูกถามเกาหัวแกรกๆอย่างไม่สมมาดเจ้าหญิง   เจ้าหญิงที่หัวสมองมีแต่ขี้เลื่อย   ตัดสินใจประมวลผมแล้วตอบน้องชายไปตามตรง

     

    ท่านอาคงพูดมั่วๆให้ดูดีไปงั้นมั้ง   ที่จริงความหมายก็แค่ให้รีบไปเรียนก่อนจะแก่หงำเหงือก คำตอบที่ผู้เป็นน้องหารู้ไม่ว่าคนบอกนั่นแหละที่มั่วเอาอย่างสดๆร้อนๆ

    ................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×