ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกผจญภัยโลกต่างมิติ All Rewrite

    ลำดับตอนที่ #1 : บันทึกที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 57


    วันที่ 1/10/200Xเวลา 15.00 น.

    โรงเรียนเทพีธารา ห้องเรียนมัธยมปลายปีสอง

    ในห้องเรียนบรรยากาศวุ่นๆของเด็กวัยคึกคะนอง บ้างจับกลุ่มคุย บ้างนั่งอ่านการ์ตูน

    เด็กหนุ่มผมสีดำรองทรงสูงตามแบบมารฐานทั่วไปของนักเรียกไทย กำลังจดบันทึกบางอย่างลงสมุดของเขา ดวงตาสีเหลืองนวลกรอกไปมาอย่างรวดเร็ว คิ้วขมวดกันเป็นปม ใช่แล้วนี่คือตัวหลักของเรื่อง สายธาร จันทรา

    วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ต้องมาสถานที่น่าเบื่อที่เดิม ที่ที่ถูกเรียกว่า “โรงเรียน” ที่นี่จะมีการแบ่งชนชั้นกันไปตามปีการเรียน แล้วแบ่งเขตเดนตามระดับความสามารถ ผมผู้ที่เก่งที่สุดในโลก อยู่ชั้นปีที่ 5 (ม.5) เขตเดนห้อง 5 ช่างเป็นการแบ่งที่ไม่ถูกต้อง ผมที่เก่งที่สุด มาอยู่ห้องห่วยที่สุดเป็นไปไม่ !@#$%^%^&*  

    เฮ้ย ! ยังเขียนบันทึกมืดมนอยู่เหรอ นที” เพื่อนหัวเกรียนในห้องทักเขา

    เห้ย อย่ามาเขียนเล่นดิ..

    ไปๆ คาบพละแล้วนะเว้ย ไปสายได้วิ่งรอบสนามเพิ่มนะ

    เฮ้ย รอด้วย” นทีพูดและวิ่งตามไป

    สนามกีฬาประจำโรงเรียน

    วิ่งไป ไอ้พวกขี้เกียจทั้งหลาย ฮ่าๆๆ ” 

    อาจารย์ประจำวิชาตะโกนเร่งอย่างสบายใจ เขานั่งดูพวกนักเรียนที่วิ่งกันแทบตายอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ข้างสนาม

    เพราะพวกกรรมการนักเรียนแท้ๆเล้ย

    นทีบ่นอุบอิบ เพราะตอนที่วิ่งมาที่สนามพละกลุ่มของนทีเจอกับกรรมการนักเรียนจึงถูกว่ากล่าวตักเตือนอยู่นานทำให้มาสาย และพออธิบายให้อาจารย์ฟังก็โดนสั่งให้วิ่งรอบสนามทันที

    กิ๊ง.. ก๊อง.. กิ๊ง.. ก๊อง..

    เสียงกริ่งหมดคาบเรียนดังขึ้นช่วยชีวิตนทีไว้ คาบเรียนพละของเขาเป็นชั่วโมงสุดท้ายก่อนกลับบ้านพอดี เหล่าบรรดานักเรียนส่วนมากต่างทยอยเดินกลับบ้านผ่านสนามกีฬา

    ไปนะเว้ย ไอ้ที” 

    เพื่อนสนิทของนทีบอกลาก่อนจะออกไปกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง นทีถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วจึงเดินออกจากห้องเรียนเพื่อกลับบ้าน

    ทำไม ไม่มีอะไรน่าทำบ้างนะ ทุกวันมาแต่โรงเรียน น่าเบื่อจะตาย ..” เขาบ่นระหว่างทางที่กลับบ้าน

    เอี๊ยดดด !! 

    เสียงรถเบรกที่ดังสนั่นทำให้นทีสนใจเพราะว่าสามแยกตรงนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

    เดินไม่ดูทางแบบนี้ อยากตายเหรอยัยหนู” 

    คนขับรถบรรทุกชะโงกหน้าออกมาต่อว่าและขับรถไปต่อโดยไม่สนใจคนที่ถูกเฉี่ยว

    นทีเดินมาจนถึงที่เกิดเหตุก็เห็นว่ามีผู้หญิงผมสีน้ำตาลคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างถนน เขาจึงเดินเข้าไปช่วยตามประสาคนดีทั่วๆไป

    เป็นอะไรไหมครับ” 

    นทีพูดและยื่นมือไปให้เธอ เขาแอบลอบพิจารณาใบหน้าอ่อนหวานของเธอด้วยความสนใจ

    “kara owa shichi ?” เธอพูดและจับมือนที ที่งงกับภาษาที่ไม่เคยได้ยิน

    อะ .. are you okay ?” นทีลองใช้ภาษาอังกฤษพูดด้วย

    “watashi odite ra” เธอพูดออกมาและทำท่างงๆ

    ซวยแล้วไง .. ช่วยคนต่างประเทศเหรอเนี้ย ทำไงดีอ่ะ

    หลังจากที่พยายามสื่อสารกับเธอหลายๆวิธีสุดท้ายนทีก็กวักมือเรียกเธอไปที่ป้อมตำรวจใกล้ๆ เจ้าหน้าที่ก็พยายามช่วยแต่ว่าสื่อสารกันไม่รู้เรื่องกินเวลาไปกว่าสองชั่วโมงนทีจึงขอตัวกลับก่อน

    พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไปแล้ว ไฟกิ่งตามถนนเริ่มสว่างขึ้น นี่เป็นเวลาที่นทีชอบที่สุด เพราะจะได้นั่งเล่นคอมที่บ้านอย่างสบายใจ แต่ว่า..

    หวา.. เวลาขนาดนี้แล้วเหรอเนี้ย” นทีพูดก่อนจะวิ่งกลับบ้าน

    เมื่อนทีกำลังจะเข้าบ้านก็ได้สังเกตด้านหลังของเขามี 'เธอที่พูดไม่รู้เรื่องวิ่งตามมา ยืนหอบหน้าตาจะร้องไห้คล้ายลูกหมาที่รู้สึกว่าจะถูกทิ้ง

    เฮ้ย !! มาได้ไง” 

    นทีตกใจพูดขึ้นอย่างลืมตัว เธอทำหน้าจะร้องไห้พอดีกับที่น้องสาวของนทีเปิดประตูออกมาหน้าบ้าน

    อ่าว พี่ กลับซะค่ำเลยนะ..

    ผมสีเทาทรงทวินเทลของเธอสะบัดน้อยๆ คิ้วบนหน้าขมวดเป็นปม ดวงตาสีเหลืองนวลจ้องไปที่คนที่อยู่หลังพี่ชายของเธอ

    พี่.. นั้นใครอ่ะแฟนเหรอ...

     โครม ! เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง

    ในที่สุด นทีลูกแม่ก็มีแฟนแล้วเหรอฮือๆ

    ผู้หญิงผมสีเทา นัยน์ตามีสีเหลืองนวลอีกคนนึงพูดและทำท่าซับน้ำตาเดินออกมา
    แม่ ป่าวนะมันไม่ใช่..

    ไหนๆ ขอแม่ดูหน่อยสิ แฟนลูกหน่อยนะ

    แม่ของนทีพูดขัดโดยไม่สนนที เธอเดินไปดูหน้าเด็กสาวคนนั้นทันที แม่ของเขาจับไหล่เธอแล้วหมุน

    อายุเท่าไหร่จ๊ะ สาวน้อย ”

    “nanda kode kasa” 

    เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับเดินไปหลบด้านหลังของนที แม่ของนทีมีสีหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยินก่อนจะยิ้มตามเดิมโดยไม่มีใครสังเกตทันเพราะมัวแต่มองที่ผู้หญิงปริศนาคนนั้น

    วะ..ว้าว นี่ลูกได้แฟนเป็นคนต่างประเทศด้วยเหรอ แล้วนั้นภาษาอะไรสอนแม่หน่อย แม่อยากพูดกับแฟนลูก” 

    น่ารักจัง แฟนพี่ชื่ออะไรค่ะ

    ทั้งสองคนครับจะบ้าก็น้อยๆหน่อย นี่ใครก็ไม่รู้ไม่ใช่แฟนผมแน่นอน ผมเจอเธอตอนที่ถูกรถเฉี่ยวเลยช่วยแล้วก็พาตัวไปส่งป้อมตำรวจแล้ว พอกลับมาก็พึ่งรู้ว่าเธอตามมานี่แหละ ส่วนที่เธอพูดภาษาอะไรผมก็ไม่รู้เข้าใจรึยังเนี้ย

    ห๊า ..!!” ทั้งแม่และน้องของเขาหลุดปากพร้อมกัน

    เย็นนั้นที่บ้านของเขาจึงมีแขกพิเศษอยู่กินข้าวเย็นและค้างด้วย แม่และน้องสาวของนทีดูแลเอาใจใส่เธอเป็นพิเศษ จนนทีเซ็งเลยขึ้นไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่สนใจสายตา ‘หมาน้อยจะโดนทิ้ง’ ของเด็กผมสีน้ำตาล

     

    วันที่ 1/10/200X  เวลา 20.00 น.

    วันนี้ผมได้ช่วยเด็กสาวที่พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ไว้ และเธอก็กำลังอาบน้ำอยู่ด้านล่างกับแม่และน้องของผม ซึ่งส่งเสียงดังมาก ผมไม่ได้คิดอยากแอบดูนะแค่รู้สึกรำคาญ แม่กับน้องพากันเรียกเธอว่า “เอด้า” นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตน่าเบื่อของผมกัน.. บางทีพรุ่งนี้ผมอาจไปอยู่ต่างโลกก็ได้ 555  ’

    ก่อนที่จะได้เขียนมากไปกว่านี้ ประตูห้องของเขาก็เปิดออกและยังไม่ทันรู้ว่าใครเข้ามาก็ถูกกระแทกจนตกเก้าอี้

                “เฮ้ย ! เธอ..” นทีสังเกตเห็นคนที่กอดตัวเองอยู่ใส่ชุดโกธิคโลลิต้าอยู่ก็พูดไม่ออก

    เอด้าจ๊ะ มาใส่ชุดนี้ก่อนนน

    พี่เอด้ามาลองชุดนี้ด้วยค่า

    เอด้าถูกจับให้ลองชุดเล่นเหมือนตุ๊กตา เมื่อทนไม่ไหวจึงได้วิ่งมาที่ห้องของนที นทีจึงได้จัดการอบรมสั่งสอนทั้งคนอายุมากและคนอายุน้อยแล้วจึงให้เอด้าเปลี่ยนเป็นชุดนอนธรรมดาที่ยืมจากน้องเขา หลังจากนั้นเขาก็ทำการบ้านโดยมีเอด้าเฝ้าอยู่ข้างๆ

    ไปส่งเอด้านอนได้แล้วลูก” 

    แม่ของเขาพูดเมื่อเห็นว่าสาวน้อยทำท่าจะหลับอยู่ข้างๆนทีแล้ว

    เอด้า ไปนอนได้แล้ว” นทีพูดพร้อมกับจูงมือเธอไปที่ห้องที่จัดไว้เพื่อเธอ

    เธอคงเหงามาก ที่พูดกับใครไม่ได้ ดูแลดีๆนะ” เมื่อออกมาจากห้อง แม่ของเขาก็พูดให้ฟังก่อนจะเดินจากไป

    เหงา.. เหรอ ” 

    นทีพูดแล้วก็เดินกลับห้องของตัวเอง คืนนี้นทีนอนไม่หลับเพราะคิดเรื่องต่างๆของเอด้า จนในที่สุดเขาก็ออกไปยืนตากลมที่ริมหน้าต่างห้องตัวเอง

    เหงาเหรอ..” 

    เขาคิดถึงคำพูดของแม่ระหว่างยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืน เพราะความเงียบในเวลานี้ทำให้ได้ยินเสียงมาจากห้องข้างๆนทีจึงตัดสินใจเข้าไปดู เมื่อเข้ามาก็พบว่าเอด้านอนละเมอร้องไห้พูดอะไรบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ  นทีนั่งลงข้างๆเธอและลูบหัวเธอพลางปลอบด้วยวิธีที่แม้ของเขาทำให้เขาบ่อยๆเวลานอนไม่หลับหรือตื่นเพราะฝันร้าย

    นอนหลับเถอะเด็กน้อย.. ตอนนี้คนที่คอยปกป้องเธออยู่ตรงนี้แล้ว.. เพราะงั้นหลับให้สบายเถอะ

    เอด้าหยุดละเมอและเอามือของนทีที่ลูบหัวเธออยู่ไปกุมไว้อย่างไม่รู้ตัว คนที่เข้ามาปลอบหายห่วงจนง่วงตาม นทีคิดว่าจะอยู่ดูเธออีกสักนิดก่อนจะออกไป แต่สุดท้ายก็เผลอหลับไปข้างเตียงของเอด้า

    หลับแล้วสินะทั้งสอง..” 

    แม่ของนทีเดินเอาผ้าห่มเข้ามาห่มให้นทีก่อนจะคิดสงสารสาวน้อยที่พลัดหลงมา

    ที่รักคะ ขอให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันในที่ๆเหมาะสมและไม่มีอะไรมาพลัดพรากเขาทั้งสองเหมือนอย่างเราเลยค่ะ

    เธอพูดพลางแหงนมองท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่างห้อง ลมพัดพาเอาถ่อยคำวิงวอนนี้ลอยออกไปเบาๆ จนทำให้คนๆนึงนอนน้ำตาไหล แม้จะอยู่ห่างกันแสนไกลแต่ลมก็พัดโบกความคำนึงไปให้เขา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×