ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิชาดนตรีศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 50


    เวทย์เสียงศักดิสิทธิ์

    ในร่างการของเรามีศูนย์พลังที่เรียกว่า "จักร" อยู่ 7 จักรด้วยกัน  

    1. สหัสราร อยู่ที่กลางกระหม่อม เป็นธาตุสปิริตหรือจิตวิญญาณ ควบคุมอารมและความนึกคิด เกี่ยวกับความู้สึกเป็นหนี่งเดียวกับสรรพสิ่ง การบรรลุทางจิตวิญญาณ
    2. อาชนาหรือตาที่ 3 อยู่ตรงหว่างคิ้ว เป็นธาตุไรไม่ทาบ เป็นจุดที่นิยมกำหนดจุดในการเพ่งสมาธิ เกี่ยวกับการรับรู้ สัมผัสพิเศษ ญาณทรรศนะ
    3. วิสุทธิ อยู่ระหว่างไหปลาร้า (กระดูกนะ) เป็นธาตุไฟ เกี่ยวกับ การสื่อสาร การแสดงออกซึ่เจตนา จะสั้นสะเทือนเมื่อจุดที่ 4 หรือ อนาหตะ มีอารมณ์โกรธ
    4. อนาหตะ อยู่ระหว่างกลางร่องอก (บางตำราว่าหัวใจ แต่หัวใจจะเอียงซ้ายไปนิดๆ) ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความรัก ความเมตตาและความผูกพันที่มีต่อผู้อื่นและโลก
    5. มณีปุระ อยู่ตรงซี่โครงซี้สุดท้ายหรือ เหนือสะดือ 2-3 นิ้ว เป็นธาตุไม้  เกี่ยวกับพลังชีวิต อัตตา ความความคิดและเหตุผล
    6. สวาธิษฐาน อยู่บริเวณหัวหน่าวท้องน้อย เป็นธาตุน้ำ เกี่ยวกับพลังทางอารมณ์และสัญชาติญาณ
    7. สุดท้าย มูลธาร เป็นจักระต่ำที่สุด อยู่ตรงก้นกบ(ปลาดกระดูสันหลัง) เกี่ยวกับพลังทางกายภาพทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ดิบเถือนหรือความฮึกเหิม

    จักรเหล่านี้สามารถรับอารมณ์จากการสั่นสะเทือนในความถี่ต่างๆของเสียงดนตรีได้

                    เวทย์เครื่องเป่าถ้าเทียบกับเวทย์มนตร์ธาตุ ก็นับว่าเป้น "ธาตุลม" จักรนี้จะอยู่บริเวณหน้าอกหรืออนาหตะเป็นที่ตั่งของจิต เพื่อรับรูถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ควบคุมและปลดปล่อย ควมรัก ความอาลัย ตลอดจนความทรงจำทั้งหลายที่จิตบันทึกไว้

    เครื่องตีต่างๆ อาทิเช่น กลอง เป็นสาย "ธาติดิน" จะกระตุ้นจักรมูลธารที่เป็นจักรที่ต่ำสุด ปลดปล่อยอารมณ์ดิบๆ พื้นฐาน เช่นความฮีกเฮิม ความโกรธแค้น ตลอดจนพลังทางเพศ

                    ส่วนเครื่องสายต่างๆ(เป็นเครื่องดีดและเครื่องสี) เป็นสายธาตุวิญญาณจะกระตุ้ตจักรสหัสราร ที่อยู่บนกลางกระหม่อมเพื่อเปิดประตูแห่งจิตสู่มิติเหมือนโลกติดต่อกับเทพหรือเพื่อความหลุดพ้น

    ดนตรีจะเกิดขี้นได้ต้องประกิบด้วยองค์ประกิบ 4 อย่าง จังหวะ ระดับเสียง คุณภาพเสียง และ การหยุด

    จังหวะ   เป็นตัวกำหนดความช้า เร็ว กระแทกการทั้นหรืออ่อนโยน

    ระดับเสียง  คือ ความสูงต่ำของเสียงเพลง เมื่อนำมาเรียงร้อยกันก็กลายเป็นทำนอง และตามด้วยคุณภาพเสียงและการหยุด

    เคล็ดลับ ของวิชาดนตรีในการกระทำต่อเป่าหมาย ก็เป็นเช่นเดียวกับที่สตรีมากรักทำต่อบุรุษผู้อ่อนโลก

    หยั่งเชิง  คือการเงียบฟังเสียงดนตรีจากจิตใจบุรุษเพศและนั้นคือโน๊ตตัวแรกที่ท่านจะเล่น(หรืออีกนัยหนึ่งคือการที่เราจะเล่นดนตรีเวทย์ให้ได้ผลกับคนนั้นเราจะต้องรู้โน๊ตตัวแรกหรือความเป็นตัวตนของคนั้นๆเสียก่อน)

    ชักชวน  บทเพลงที่ท่านบรรเลงนั้น ยังคงเป็นท่วงทำนองจากจิตใจของเขา แต่เริ่มแฝงด้วยทำนองของท่านเอง (คือการต่อโน๊ตตัวที่สองให้เข้ากับตัวแรกซึ้งเป็นตัวตนของเขา และเริ่มใส่ความนัยหรือโน๊ตของเราแทรกลงไปในบทเพลง)

    พัวพัน  ท่วงทำนองเพลงจะผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกับจิตของเขาจนไม่อาจแยกออกจากกันได้(เป็นช่วงที่เราทำให้โน๊ตตัวแรกและโน๊ตของเราเป็นเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยการบรรเลงได้อย่างราบรื่น)

    ชักพา  ถึงตอนน้าสท่นก็สามารถเปรียนท่วงทำนอง ชักนำเขาได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะพาไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรก "ช่วงนี้คือการที่เราสามารถเอาโน๊ตเพลงที่เราต้องการนำเสนอให้เขาออกมาเป็นตัวเด่นได้อย่างแท้จริง)

    เพราะฉะนั้นการฟังเสียงดนตรีในใจคนให้ออกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ  เพราะจะทำให้เราหาโน๊ตตัวแรกที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเจอ  แต่ก็ใช้ว่าไม่มีโน๊ตตัวแรกจะบรรเลงเพลงไม่ได้ แต่การที่ไม่มีโน๊ตตัวแรกนั้นจะทำให้การบรรเลงดนตรีเวทย์ศักดิสิทธิ์นั้นทำได้สำเร็จยากขึ้น  โน๊ตที่สำคัญอีกตัวคือโน๊ตตัวสุดท้าย ถ้าเปรียนเทียบว่าโน๊ตตัวแรกคือ "อดีต" โน๊ตตัวสุดท้ายก็คือ "อนาคต" เช่นที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นการบรรเลงดนตรีศักดิ์สิทธิ์นั้นถ้าสามารถบรรเลงได้อย่างถูกต้องจะสามารถพาผู้คนขึ้นสวรรค์หรือลงนรกได้ ในกรณีที่ใช้กับคนหมู่มากนั้นเราจะต้องหา "โน๊ตกลาง" ของผู้คนเหล่านั้นให้ได้เสียก่อน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×