คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แค้นซ่อนรัก 2
อีกด้านหนึ่ง
“วู้ๆ มันส์จังเลยเว้ย” ตูมตามโยกย้ายร่ายกายไปตามจังหวะของเพลงที่ดังกระหึ่มอย่างเมามันโดยไม่สนใจใคร เขาสะบัดร่างกายจนไปทบกับหญิงสาวที่เต้นอยู่ข้างๆโดยที่ไม่ตั้งใจ
“นี่นายหาเรื่องฉันหรอ” หญิงสาวร่างเล็กกล่าวขึ้นด้วยอาการโมโห บวกกับตอนนี้เขามีอาการเมาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำเขาไม่คิดที่จะเกรงกลัวคนร่างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
“ขอโทษ” ตูมตามพูดอย่างห้วนๆ แล้วเต้นต่อ เมื่อเห็นคนตรงหน้าพูดจาเหมือนไม่รู้เรื่อง
“พูดจาสุภาพไม่เป็นรึไงฉันเป็นผู้หญิงนะ” สาวร่างเล็กยังคงโวยวายต่อเมื่อเห็นตูมตามไม่สนใจ
“ผมก็ขอโทษแล้วไง” ตูมตามเริ่มอารมณ์เสีย
“พูดดีๆกับฉันก่อนสิ บางทีฉันอาจยกโทษให้นายก็ได้”
“นี่คุณมันจะมากแล้วนะ เมาแล้วก็กลับบ้านไปนอนไป๊” ตูมตามไล่สาวร่างบางออกไป
“ครืดๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ของตูมตามดังขึ้น
“ฮัลโหล พี่กันมีไร” ตูมตามที่ยังค้างกับอารมณ์ที่เสียพูดขึ้น
(อ้าวไอ้นี่ฉันจะกลับบ้านแล้ว แล้วนี่เป็นไรอีกละ) กันเริ่มโมโห
“อ่อๆ เปล่าหรอไม่มีอะไรพี่กันอยูไหนเดี๋ยวผมไปหา” ตูมตามปรับเสียงเป็นปกติก่อนจะมองไปที่สาวร่างบาง ที่ตอนนี้ยืนหน้าบึ้ง
(เอ่อๆ รีบมานะตอนนี้พี่รออยู่หน้าผับแล้ว)
“ครับ เดี๋ยวผมรีบไป” ตูมตามวางสายโทรศัพท์ลงแล้วกลับมาเคลียร์ปัญหาต่อ
“นี่นายทำฉันเจ็บแล้วจะซิ่งหนีไปง่ายๆหรอ” สาวร่างบางพูดขึ้นทันที
“เอาเป็นว่าผมขอโทษคุณผู้หญิงก็แล้วกันที่ทำคุณเจ็บ” ตูมตามพูดอย่างสุภาพเพื่อจบปัญหา
“ก็แค่นี้” สาวร่างบางเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินออกไปแต่ทว่าด้วยอาการที่เมา ทำเอาเขาเซไปล้มทับกับตูมตามทำให้ริมปากทั้งสองประกบกันอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นมา
“อะๆ ไอ้บ้า” สาวเจ้าพูดตะกุกตะกักก่อนจะรีบเดินออกไปด้วยอาการเขิน
“ยัยบ๊องเอ้ย” ตูมตาม อมยิ้มและหน้าแดงขึ้นมาด้วยอาการเขินเช่นกัน
“ไอ้ตามแกทำอะไรอยู่วะทำไมมาช้าจัง” กันถามตูมตามทันทีเมื่อเห็นเดินออกมาจาผับ
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ แค่เจอผู้หญิงเรื่องมากน่ะแต่จัดการไปแล้วล่ะ”
“แกทำอะไรเขาอ่ะ ไอ้ตาม” กันถามก่อนจะมองหน้าตูมตาอย่างไม่ไว้ใจ
“โหพี่เห็นผมเป็คนยังไงเนี่ย ผมไม่ทำอะไรเขารุนแรงก็แล้วกัน” ตูมตามทำท่างอนใส่กัน เหมือนเด็ก
“เอ่อๆ ฉันเชื่อแกก็ได้ ไปกลับบ้านกันเถอะ”
“อืม” ตูมตามทำหน้ายิ้มระรื้นก่อนเข้าไปนั่งรอในรถ
………
~~กรี๊งงงงงงงงงงงๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!!!!~~(มะโนว่าเป็นเสียงนาฬิกาปลุกก็แล้วกัน)
เสียงดังของนาฬิกาปลุกๆร่างบางใต้ผ้าห่มสีฟ้าใสให้ตื่นรับเช้าของวันใหม่ วันนี้กันตื่นแต่เช้า ก่อนจะเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย วันนี้เขาแต่งตัวให้ดูดีที่สุด เพราะวันนี้บริษัทของเขาจะมีการต้อนรับผู้บริหารคนใหม่
“วันนี้แล้วสินะที่เราจะเจอกันอีกครั้ง นายภาคิน” กันพูดกับตัวเองหน้ากระจกแล้วสำรวจความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน
“อ้าวพี่กันทำไมวันนี้ไปทำงานแต่เช้าจัง” ตูมตามถามขึ้นเมื่อเห็นกันเดินออกมาเช้ากว่าปกติ
“พอดีบริษัทพี่มีผู้บริหารคนใหม่มาอ่ะเลยต้องไปต้อนรับ”
“อ่อๆ” ตูมตามทำท่าเข้าใจ
“พี่ไปก่อนนะ แล้วอย่าไปเรียนสายล่ะ” กันพูดก่อนเดินออกไปหน้าบ้าน
“คร้าบคุณแม่” ตูมตามพูดกวนใส่กันอย่างเช่นเคย
“ไอ้นี่” กันกัดฟันกรอดๆ แต่วันนี้เขาต้องไปทำงานแต่เช้าเลยไม่เวลาเถียงกับไอ้เด็กบ้านี่
………
ที่บริษัท………
“สวัดดีครับพี่แอมป์” กันทักทายแอมป์ที่กำวุ่นอยู่กับการเตรียมงาน
“หวัดดีน้องกัน” แอมป์หันมาพูดกับกันแล้วกลับเตรียมงานต่อ
“พี่แอมป์ดูยุ่งๆ มีอะไรให้กันช่วยรึปล่าครับ”
“งั้นน้องกันช่วยเอาแฟ้มเอกสารไปวางที่ห้องประชุมให้หน่อยนะ” แอมป์หันมาสั่งงานให้กับกัน
“ได้ครับพี่” กับหยิบแฟ้มเอกสารกองมหึมาแล้วเดินไปทางห้องประชุม ทว่าเอกสารที่เยอะเกินทำให้บดบังสายตาของกันบ้าง เขาจึงเดินช้าๆ
ผลั่ก ร่างบางที่เดินหอบเอกสารกองมหึมาชนกับชายร่างสูงอย่างไม่ทันระวัง ก่อนที่เอกสารทั้งหมดจะร่วงกระจายเต็มพื้น
“ขอโทษครับ” ทั้งสองพูดพร้อมกันก่อนจะก้มหยิบกองเอกสารอย่างรีบร้อน ทำให้มือหนาพลาดไปจับมือของกัน ก่อนทั้งคู่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาของกันและกัน
“ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณกันเสียเวลา” ภาคินกล่าวขอโทษ
“ไม่เป็นไรครับ พอดีผมไม่ทันระวังด้วยครับ” ก่อนจะเก็บแฟ้มที่อยู่กับพื้นต่อ
“ให้ผมช่วยนะครับ” ภาคินช่วยกันเก็บแฟ้มโดยไม่ต้องรอคำตอบของอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรครับผมเกรงใจ อีกอย่างคุณเป็นถึงผู้บริหารมันจะดูไม่ดี”กันยกเหตุผลให้ภาคินฟัง
“ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่เจ้านายช่วยลูกน้องมันไม่ดีตรงไหน” ภาคินหาเหตุผลมาแก้ตัวเพื่อให้กันสบายใจขึ้น
“งั้นก็ได้ครับ” กับตอบเสียงเรียบเพราะไม่อยากทำให้เรื่องมันยุ่ง
ห้องประชุม
“ขอบคุณครับ” กันกล่าวขอบคุณภาคินที่ช่วยยกแฟ้มเอกสารมาที่ห้องประชุม ก่อนจะรีบจัดวางเอกสารตามที่นั่งของผู้ร่วมประชุมอย่างคล่องแคล้ว ทำเอาคนที่มองอยู่อดอมยิ้มไม่ได้กับท่าทางกระฉับกระเฉงของกัน
“คุณยิ้มอะไรของคุณ ผมตลกมากรึไง” กันพูดเสียงเคืองใส่ภาคิน เมื่อเห็นคนตัวโตยืนยิ้ม
“เปล่าครับ ผมแค่ชอบในความขยันของคุณ” ภาคินพูดไปตามความจริง
“ขอบคุณครับที่ชม ไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ” กันพูดเสร็จก็เดินออกไป ทิ้งให้คนตัวโตยืนยิ้มอย่าง งงๆกับท่าทางและคำพูดที่เรียบเฉยของกัน
ณ.เวลาประชุม
“สวัสดีครับทุกคน ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณทุกคนนะครับที่ไว้ใจให้ผมมาบริหารบริษัทนี้ ผมสัญญาว่าผมจะให้เต็มที่และ พาบริษัทของเราให้ก้าวหน้าทัดเทียมกับบริษัทอื่น ผมขอสัญญา”
สิ้นเสียงของผู้บริหารคนใหม่พูดจบ เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวขึ้นเปรียบเสมือนเป็นการต้อนรับด้วยความเต็มใจและเชื่อใจให้กับผู้บริหารคนใหม่
“ส่วนเลขา ผมขอให้คุณนภัทรช่วยเป็นเลขาของผมได้มั้ยครับ” ภาคินพูดจบทุกคนก็หันไปปมองนภัทรเพื่อรอคำตอบ
“ตงลงมั้ยกัน พี่ก็เห็นด้วยนะที่กันจะเป็นเลขาให้กับคุณภาคินเพราะกันก็ทำงานที่นี่มานาน” พี่แอมป์กระซิบถามกันขึ้น
เมื่อกันไม่ตอบสักทีภาคินเลยเปลี่ยนวิธีถามทุคนขึ้น
“ทุกคนเห็นด้วยมั้ยครับที่ผมจะให้คุณนภัทรเป็นเลขาของผม”
“ผมเห็นด้วยครับ” แอมป์ยกมือเป็นคนแรกโดยที่กันมองค้อนอย่างไม่พอใจ จากนั้นทุกคนในห้องประชุมก็ยกมือขึ้นตามๆกันเพราะเห็นว่าเหมาะสมที่สุด
“ในเมื่อทุกคนเห็นด้วย แล้วคุณนภัทรละจะตกลงมั้ย” ภาคินถามกันอีกครั้ง
“ตงลงครับ ผมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอยูแล้วนี่” กันพูดตัดพ้อด้วยอาการน้อยใจที่ทุกคนให้เขาแบกภาระหนักอึ้งกว่าเดิม
“เอาเป็นว่าคุณตกลงแล้วนะครับ” ภาคินยิ้มกว้างเมื่อคนตัวเล็กตอบตกลง
“วันนี้ผมขอจบการประชุมไว้แค่นี้นะครับ ขอบคุณครับ” ทุกคนปรบมือให้ภาคินก่อนจะทยอยเดินออกจากห้องประชุม
เมื่อพนักงานทุกคนออกจากห้องประชุมกันหมดแล้ว เหลือเพียงกันที่เดินเก็บแฟ้มเอกสารอยู่คนเดียวภาคินจึงใช้โอกาสนี้พูดคุยทำความรู้จักกับกันให้มากขึ้น
“มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับคุณเลขา” ภาคินพูดเสียงหวานถามคนตัวเล็กที่เดินเก็บเอกสารอยู่เงียบๆ
“ไม่มีครับงานแค่นี้ สบายมากครับ” กับตอบเสียงเรียบล้วหันไปเก็บแฟ้มเอกสารต่อ
“นี่คุณสนใจผมหน่อยสิ ผมเป็นเจ้านายคุณนะ” ภาคินพูดตัดพ้อเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่สนใจของคนตัวเล็ก
“ผมเก็บแฟ้มเอกสารเสร็จแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ” กันกำลังจะเดินออกจากห้องประชุมแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อมือของภาคินฉุดมือของกันไว้ก่อน
“ผมขอโทษ” ภาคินกล่าวขอโทษก่อนจะรีบปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระ
“มีอะไรครับ” กันถามขึ้นด้วยความสงสัย
ภาคินรวบรวมความกล้าก่อนจะถามกันขึ้น
“คืนนี้คุณกันไปทานข้าวกับผมหน่อยได้มั้ยครับ ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้”
กันชั่งใจอยู่ครุ่หนึ่งก่อนตอบออกไป
“ก็ได้ครับ”
“งั้นเย็นนี้ผมมารับนะครับ” ภาคินพูดขึ้นด้วยอาการที่ดีใจ
“ครับผมจะรอ” กันตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ภาคินเดินออกไปด้วยรอยยิ้มที่กว้างอย่างมีความสุข ต่างจากอีกคน
“นายเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเองนะนายภาคิน” กันเหยียดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
…………………………………………………………………………………………………………………
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น555+ (โรคจิตรึเปล่าตรูส์) -____-!!!
อยากรู้มั้ยค่ะว่าพี่กันจะแก้แค้นพี่โน่ด้วยวิธีอะไร ถ้าอยากรู้ก็ขอเม้นเยอะๆนะคะทุกคน
ความคิดเห็น