ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แค้นซ่อนรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : แค้นซ่อนรัก 1

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 55


     “อ้าว พี่กันตื่นแล้วหรอ” เสียงตูมตามทักขึ้นเมื่อเห็นกันเดินออกมาสูดอากาศหน้าบ้านตัวเอง

    Tomtam

     ผมเป็นรุ่นน้องของพี่กันบ้านของผมติดกับบ้านของพี่กันทำให้ผมสนิทกับพี่กันแล้วก็ริทแต่เมื่อปีที่แล้วริทเกิดเสียชีวิตเนื่องจากผิดหวังในความรักจนฆ่าตัวตาย พี่กันเลยเปลี่ยนไปอีกคนจากเป็นคนที่ร่าเริงสดใสแต่เดี๋ยวนี้ พี่กันเอาแต่เก็บตัวอยู่กับบ้านไม่ค่อยพูดกับใคร จนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าพี่กันจะทำอะไรบ้าๆอย่างริทรึเปล่า

    “อื้ม ว่าแต่ตามเหอะสายป่านนี้แล้วทำไมยังไม่ไปเรียน” กันถามตูมตามขึ้นเมื่อเห็นคนข้างบ้านยังยืนรดน้ำต้นไม้อย่างสบายใจ

    “อะไรพี่กันวันนี้วันอาทิตย์มันมีใครไปเรียนมั้ง” ตูมตามพูดกวนใส่กัน

    “อ้าวเหรอพี่เป็นคนขี้หลงขี้ลืมไปตอนไหนเนี่ย” กันพูดแก้ตัว

    “โอ๊ะ คนแก่ก็ยังงี้แหละขี้หลงขี้ลืม” ตูมตามทำท่าคนแก่ล้อเลียนใส่

    “ไอ้ตามนี่กวนซะแล้วเดี๋ยวแกจะโดน” กันพูดเสียงเข้มใส่ตูมตาม

    “อ๊ะๆ ไม่กวนและ ผมก็แค่อยากให้พี่อารมณ์ดีขึ้นบ้างผมไม่อย่างเห็นคนแก่นั่งเหงาเฝ้าบ้านอยู่คนเดียว”   ตูมตามพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาคนตรงข้ามถึงกับชะงักเพราะตั้งแต่ที่ริทเสียไปก็มีแต่ไอ้เด็กนี้เป็นเพื่อนที่คุยด้วยมากที่สุด

    “ขอบใจนะ” คำพูดสั้นๆแต่ทำเอาคนตรงข้ามหน้าบานยิ้มแก้มปริแทบจะแตกออกจากกัน

    “แต่เดี๋ยวก่อน ไอ้ที่พูดว่าคนแก่นั่งเฝ้าบ้านแกหลอกด่าพี่ใช่มั้ย”กันเหมือนนึกได้อะไรบางอย่าง

    “อ้าว ได้ยินด้วยหรอนี่ขนาดพูดเบาๆแล้วนะ” ตูมตามก็ยังไม่เลิกกวนประสาท

    “ไอ้เด็กเปรต ไอ้เด็กผีเจาะปาก แกรออยู่ตรงนั้นเลยนะฉันจะไปเอาเลือดปากแกออก” กันทำท่าจะวิ่งไปบ้านของตูมตาม

    “อยู่ก็โง่ดิ ไปดีกว่า 555” ตูมตามรีบวิ่งเข้าบ้านของตัวเอง

     

    กันเดินกลับเข้าบ้านด้วยอาการกระฟัดกระเฟียด เพราะเจอไอ้เด็กตูมตามกวนประสาทแต่เช้า

    “หนอยไอ้เด็กนรก กวนได้ทุกวี่ทุกวันอย่าให้จับได้นะพ่อจะตีก้นลายซะให้เข็ด” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่กันก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เพราะตั้งแต่ริทเสียไปไอ้เด็กนี่ก็อยู่ข้างๆมาตลอด ถึงจะทำให้อารมณ์เสียอยู่บ้างก็เถอะแต่อย่างน้อยก็ยังมีคนคุยในเวลาที่เหงา

    ~~ยังรักเธอไม่พอใช่มั้ย รึเธอขอมันมากไป ถ้ารู้รักยังน้อยไป ฉันก็พร้อมจะทำเพื่อเธอ~~

    เสียงโทรศัพท์ของกันดังขึ้น

    “สวัสดีครับพี่แอมป์” กันพูดรับสายอย่างสุภาพ

    (อืม กันคืนนี้ว่างมั้ยพี่อยากชวนกันไปเที่ยว) พี่แอมป์รุ่นพี่ในบริษัทที่กันทำงานชวนไปเที่ยว

    “ผมไม่อยากไปเลยอ่ะพี่แอมป์ แล้วอีกอย่างผมไม่ชอบเที่ยวกลางคืนด้วย ผมไม่ไปไม่ได้หรอครับ” กันตอบตามตรงพร้อมหาเหตุผลมาต่อรอง

    (ไปนะกันะ พี่เห็นกันทำตัวเงียบมาหลายเดือนแล้ว พี่อยากให้กันกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมอีกครั้งอ่ะ นะกันนะไปเที่ยวกับพี่นะพวกพี่ในแผนกเราก็ไปกันตั้งเยอะ กันจะชวนใครไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ) แอมป์พยามอ้อนวอนกัน

    “ก็ได้ครับพี่แอมป์”กันตอบแบบอึดอัดใจ

    (เย้ แล้วเจอกันที่ผับนะน้องกัน) จากนั้นแอมป์ก็วางสายไป

    “อืมว่าแต่เราจะชวนใครไปเป็นเพื่อนล่ะ” กันนั่งคิดหาเพื่อนไปเที่ยวคืนนี้

    “นึกออกแล้ว”  ว่าแล้วกันก็วิ่งออกหน้าบ้านแล้วตะโกนเรียกคนข้างบ้านซึ่งเมื่อครู่ได้วิ่งหนีเข้าบ้านไป

    “ตาม…..ตูมตาม……ไอ้ตาม!!” กันตะโกนเรียกสุดเสียง

    “โว้ย จะเรียกเสียงดังทำไมบ้านก็อยู่แค่นี้หูจะแตก” ตูมตามเดินโวยวายออกมา

    “ก็แกอยากเงียบทำไมล่ะเรียกตั้งนานไม่ยอมออกมา” กันเริ่มหัวเสียกับไอ้เด็กคนนี้

    “เออๆ ขอโทษๆ ว่าพี่กันมีอะไร” ตูมตามถามกันขึ้นมา

    “ตาม คืนนี้ไปเที่ยวกับพี่มั้ย” คนตรงหน้าถึงกับตาโตขึ้นมา หูฝาดไปรึเปล่าเรา

    “อะไรนะ พี่กันชวนตามไปเที่ยว” ตูมตามพูดด้วยความแปลกใจ

    “เออ พี่ชวนตามไปเที่ยว  พอดีพี่แอมป์รุ่นพี่ที่ทำงานชวนพี่ไปแต่พี่ไม่มีเพื่อนพี่ก็เลยมาชวนตามนี่แหละตงลงจะไปมั้ย” กันถามตูมตามอีกครั้ง

    “ไปสิ” ตูมตามตอบอย่างไม่ลังเลใจ

    “เออ ก็แค่นี้ตกอกตกใจเป็นคนแก่ไปได้” กันพูดแหย่ใส่ตูมตาม

    “ก็อ้าวใครจะรู้ร้อยวันพันก็ไม่เห็นไปเที่ยวไหน แล้วอีกอย่างไปเที่ยวกลางคืนด้วย ไอ้เราก็คิดว่าบ้าไปแล้ว” ไม่วายตูมตามก็ยังกวนอยู่ดี

    “เออๆ แล้วพี่จะมาเรียกอีกที” กันรีบพูดตัดบทเพราะไม่อยากเถียงอีกเป็นรอบที่สอง

     

    ณ.ผับใจกลางกรุงเทพฯ

     

    Gun

    เพียงแค่ก้าวเข้ามาท่ามกลางผู้คนมากมาย ที่ต่างโยกย้ายไปตามเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มแสงไฟหลากสีที่ส่องวนเวียน  จนอาจทำให้ผู้ที่ไม่เคยชินในสถานที่แบบนี้มึนและเมา  โดยไม่ต้องพึ่งน้ำสีอัมพันที่หลากรสชาติเลยก็ได้ ผมและตูมตามเดินแหวกผู้คนที่เต้นอย่างเร้าร้อนในผับเพื่อหาโต๊ะที่พี่แอมป์นั่งอยู่ ว่าแต่ไอ้ตามมันหายไปไหนอีกเนี่ยเมื่อกี้ยังเดินมาด้วยกันอยู่เลย ผมใช้สายตาส่องหาไอ้เด็กนั้นอยู่ ว่าแล้วไอ้นี่แอบไปเต้นตั้งแต่ตอนไหนว่ะ ตกลงใครพาใครมาเที่ยวกันแน่

    “ตาม…..ไอ้ตาม” เพราะเสียงเพลงที่ดังกระหึมทำให้กันต้องตะโกนเรียกตูมตาม

    “ว่าไงพี่กัน มีอะไร” ตูมตายังคงเต้นต่อไปโดยที่ไม่สนใจคนที่มาด้วย

    “มานี่ก่อน ไปหาพี่แอมป์ก่อนหลังจากนั้นแกจะไปไหนก็เชิญ” กันดึงแขนตูมตามออกมาก

    “เอ่อๆ” ตูมตามตอบแบบหัวเสีย

    “กันทางนี้ๆ” แอมป์โบกมือเรียกกันให้ไปหา

    “หวัดีครับพี่แอมป์ นี่ตูมตามน้องชายข้างบ้านผม” กันแนะนำตูมตามให้แอมป์และเพื่อนรุ่นพี่ให้รู้จัก “สวัสดีพวกพี่เขาสิ”

    “สวัสดีครับพี่ๆ” ตูมตามสวัสดีเพื่อนรุ่นพี่ของกันตามที่กันบอก

    “หวัดดีน้องตาม นี่หรอน้องข้างบ้านที่คอยกวนประสาทน้องกันอยู่ทุกวันเก่งนะเรา” แอมป์แซวตูมตาม

    “ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ผมเห็นพี่กันทำตัวเงียบๆก็เลยหยอกล้อพอให้พี่กันยิ้มได้เท่านั้นเองครับ” ตูมตามพูดอย่างถ่อมตัว

    “พอกันเลยทั้งสองคนแค่นี้กันก็อายจะแย่อยู่แล้ว” กันรีบพูดห้ามทั้งสอง

    “ไอ้แกจะไปไหนก็ไปเลย ถ้าพี่กลับตอนไหนเดี๋ยวพี่โทรหา” กันรีบไล่ตูมตามให้ออกไป

    “ไปก็ได้ ก็ความลับจะถูกเปิดเผยละซิ” ตูมตามพูดล้อใส่กัน

    “ความลับอะไรอ่ะกัน” พี่แอมป์แซวกันขึ้น

     “ไม่มีอะไรหรอกพี่ อย่าไปเชื่อไอ้เด็กเปรตนี่เลย” กันรีบพูด

    “รีบไปเลยไอ้เด็กบ้า” กันไล่ตูมตามออกไปอีกครั้ง

    “ไปก็ได้” ตูมตามเชิดหน้าก่อนจะสะบัดก้นเดินออกไป

    ผ่านไปสักครู่

    “เป็นไงกันสนุกบ้างไหม” แอมป์ถามกันขึ้นเมื่อเห็นกันนั่งอยู่เฉยๆ

    “สนุกสิ ใครมาที่แบบนี้ไม่สนุกบ้างหละ” กันฝืนยิ้มให้แอมป์

    “ก็พี่เห็นกันนั่งอยูเฉยๆ ก็เลยคิดว่ากันไม่สนุก”

    “ถ้างั้นออกไปเต้นกับพี่มั้ย” แอมป์ชวนกันออกไปเต้น

    “ไม่ดีกว่ากันเต้นไม่เก่ง พี่แอมป์ออกไปเต้นกับพวกพี่ๆเถอะเดี๋ยวกันนั่งดูอยู่นี่แหละ”

    “งั้นก็ได้ พี่ไปก่อนนะ” หลังจากที่แอมป์ออกไปเต้น กันก็มองไปรอบๆ จนสายไปสะดุดกับผู้ชายคนซึ่งเค้ามีรสาวๆนั่งรายรอบ

    “แกคงมีความสุขมากสินะ” กันพูดขึ้นด้วยความโกรธ

    “พี่โน่คะออกไปเต้นกับเกรซนะคะ” หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยปากชวนขึ้น

    “ไม่ดีกว่าครับ เชิญน้องๆออกไปเต้นเถอะครับเดี๋ยวพี่ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ” โตโน่หาทางปฏิเสธหญิงสาว

    “ก็ไก้ค่ะ กวางจะรอนะคะ” หญิงสาวเอื้อมหน้ามากระซิบข้างหู

    “ครับ” โตโนเดินออกมาจากกลุ่มของหญิงสาว

    หลังจากที่โต่โน่เข้าห้องเสร็จ ก็เดินออกมาระหว่างที่เขาเดินออกเหมือนเขาชนใครคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้คนที่โดนชนล้มอยู่ตรงหน้า

    “ขอโทษนะครับคุณ เจ็บตรงไหนรึเปล่า” โตโนถามขึ้นพรางก้มต้วลงไปประคองคนที่ล้มให้ลุกขึ้น

    “ไม่เป็นไรครับ” กันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับโตโน่ ทันทีที่โตโน่เห็นใบหน้าของกันแบบเต็มทำเอาเหมือนกับโดนมนต์สะกด ใบหน้าที่เรียวคม ดวงตาคู่สวยที่เปล่งประกาย จมูกที่โด่งรับกับโครงหน้า ริมฝีปากทีบาง ทำเอาเขาตะลึงไปชั่วครู่

    “คุณครับ  คุณ  เป็นอะไรรึเปล่าครับ” กันถามโตโน่ขึ้นเมื่อเห็นเขาจ้องหน้าอยู่นาน

    “ปะ เปล่าครับ”  โตโน่สะดุ้งขึ้น

    “แล้วเมื่อไหร่คุณจะปล่อยผมสักที ผมยืนได้แล้ว” กันถามอีกครั้ง

    “ อ่อๆ ครับ” โตโน่รีบปล่อยแขนของกัน

    “สวัดดีครับ ผมชื่อภาคินหรือเรียกผมว่าโตโนก็ได้ครับ ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอครับ” โตโน่เอ่ยทักทายกันขึ้น

    “ผมชื่อนภัทรเรียกว่ากันก็ได้ครับ” สิ้นเสียงของกันก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งแทรกขึ้นมา

    “โน่คะทำไมเข้าห้องน้ำนานจังค่ะ ปล่อยให้กวางรออยู่ได้ แล้วนี่ใคร” กวางส่งสายตาจิกมาที่กัน

    “อ่อ เขาชื่อกันพอดีผมชนเขาล้มก็เลยช่วยประคองขึ้นมานะครับ” โตโน่ตอบกวางตามจริง

    “เหรอค่ะ” กวามมองหน้ากันอย่างไม่ไว้ใจ

    “โน่ค่ะกวางว่าเรากลับไปที่โต๊ะของเราดีกว่านะคะ เขาคงไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ” กวางเดินเข้ามาคล้องแขนโตโน่แสดงตนเป็นเจ้าของ

    “ก็ได้ครับ หวังว่าเราคงจะได้พบกันอีกนะครับคุรกัน” โตโน่พูดแล้วก็ยิ้มให้กันอย่างสุภาพ

    “ไปได้แล้วคะโน่ กวางยืนจนเมื่อยแล้วนะคะ” กวางบ่นใส่โตโน่

    “นายต้องได้เจอฉันอีกแน่ไอ้คนสารเลว” กันพูดขึ้นหลังจาทั้งสองเดินออกไป

         

     

     

    ……………………………………………………………………………………………………….

    วู้ๆ เรียบร้อยไปอีกหนึ่งตอนทุกคนคงจะเดาออกแล้วสินะว่าพี่กันจะแก้แค้นใคร มาเอาใจช่วย มาเอาใจช่วยพี่กัน กันดีกว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×