ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    White Lighting

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 49



    บทนำ

             
    ยามเช้าของเกาะพะงัน แสงอาทิตย์กระทบหาดทรายเปล่งสีทองระยิบ สายลมจากทะเลพัดเข้าหาเกาะเป็นระลอก พาเอาผมดำเงาของสุริย์สาลู่ไปข้างหลัง ความสดชื่นของวันใหม่ทำให้สุริย์สารู้สึกแช่มชื่น เด็กสาวเดินลัดเลาะไปตามชายฝั่งอย่างไร้จุดหมาย
             
    ทันใดนั้น สุริย์สาเริ่มหรี่ตาเพ่งมองไปยังทะเล เมื่อรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่ง และแล้วภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า คือเด็กชายคนหนึ่งกำลังแหวกว่ายบนคลื่นลูกเล็กๆอย่างสนุกสนาน
             
    สุริย์สาลดตัวนั่งลงบนผืนทรายอย่างช้าๆ พลางทอดสายตาไปยังเด็กชายที่กำลังดำผุดดำว่ายอย่างสบายใจ ยังไม่ทันไรสุริย์สาก็รีบลุกขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่า เด็กชายกำลังพยายามดันตัวขึ้นมา ขณะที่มือนั้นโบกไปมาเหมือนกำลังจะจมลงไป สุริย์สาเริ่มวิตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเริ่มมองไปรอบๆเพื่อหาใครที่พอจะช่วยได้บ้างแต่สิ่งที่พบคือความว่างเปล่า
             
    เมื่อเด็กชายเริ่มหายไปกับเกลียวคลื่น สุริย์สาจึงตัดสินใจคว้าห่วงยางแถวชายฝั่ง แล้วรีบว่ายตรงไปยังเด็กชายอย่างรวดเร็วแต่มันสายเกินไปเด็กชายนั้นได้จมน้ำหายไปแล้ว สุริย์สาจึงตัดสินใจรีบว่ายให้ทันร่างที่กำลังสลบอยู่อย่างไม่คิดชีวิต และแล้วเธอก็คว้าแขนของเด็กชายไว้ได้ เธอเริ่มออกแรงดึงร่างที่แข็งแรงนั้นอย่างหนักหน่วงโชคยังดีที่น้ำทะเลนั้นช่วยลดทอนน้ำหนักของเด็กชายลงอยู่บ้าง
             
    ทันทีที่ทั้งคู่โผล่พ้นน้ำ เกิดพรายฟองขึ้นโดยรอบ สุริย์สาสูดหายใจยาวและพยายามดึงร่างของเด็กชายให้ถึงฝั่งโดยเร็ว
             
    ทำไมผู้ชายถึงได้หนักอย่างนี้นะสุริย์สาบ่น ขณะที่ดึงร่างของเด็กชายอย่างลำบาก
             
    เมื่อถึงฝั่ง สุริย์สาก็พบกับรอยเขียวคล้ำที่ขาขวาของเด็กชาย ทำให้เธอรู้ทันทีเลยว่า ตะคริวก็ไม่ใช่เรื่องน่าภิรมย์ตอนอยู่กลางทะเลนัก ตอนนี้สุริย์สาเริ่มสังเกตเห็นว่า เด็กชายคนนี้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ใบหน้าที่งดงามนั้นขาวซีดจนน่าตกใจ สุริย์สาเริ่มประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วกดใต้ลิ้นปี่ของเด็กชายอยู่หลายครั้งก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เธอเริ่มมองหาคนช่วยอีกครั้งแต่ก็ไม่พบใครเหมือนเดิม เธอจึงตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย สุริย์สาเอามือซ้ายบีบจมูกของเด็กชาย ส่วนมือขวาช้อนคางของเด็กชายขึ้น แล้วเป่าลมหายใจของเธอรินรดผ่านทางริมฝีปาก สลับกับการกดใต้ลิ้นปี่
             
    สุดท้ายการกู้ชีวิตของสุริย์สาก็เป็นผลสำเร็จ รอยยิ้มที่สดใสเริ่มปรากฏบนใบหน้าของเด็กสาวทันทีที่เห็นเด็กชายเริ่มสำลักน้ำออกมา
             
    ดีจริงๆที่เธอไม่เป็นอะไร สุริย์สาพูดด้วยความดีใจ
             
    ฉัน..จม.น้ำใช่ไหม เด็กชายถามตะกุกตะกักขณะที่พยายามคายน้ำทะเลออกมาให้หมด
             
    ใช่ เธอจมน้ำลงไปลึกอยู่เหมือนกัน สุริย์สาตอบกลับไป
             
    ขอบคุณมากที่ช่วยฉันไว้ เด็กชายพูดพลางมองมาทางสุริย์สาอย่างสำนึกในน้ำใจ เพราะคงมีผู้หญิงไม่มากนักหรอกที่ลงทุนช่วยคนจมน้ำด้วยตนเอง ส่วนมากมักจะเรียกให้คนช่วย
             
    เอ่อ...เธอเดินไหวหรือเปล่า สุริย์สาถามขึ้น
             
    สบายมาก ทันทีที่พูดจบเด็กชายลุกขึ้นพรวดพราด ตะคริวที่ขาก็ปวดแปล๊บขึ้นมาในบัดดล เด็กชายจนใจจึงต้องนั่งลงเหมือนเดิมพลางเบือนหน้าหนีสุริย์สาด้วยความอาย

             
    กร!เป็นอะไรน่ะ
             
    เสียงผู้หญิงพุ่งแทรกระหว่างคนทั้งคู่ ยังไม่ทันที่สุริย์สาจะหันไปมองต้นตอของเสียง ผู้หญิงถักเปียสองข้างก็วิ่งผ่านหน้าเธอไป ตรงเข้าโผกอดเด็กชายอย่างรวดเร็ว ทำเอาเธองงงันไปนิดนึง ไม่ทันไรเด็กหญิงถักเปียก็หันควับมาทางสุริย์สา
             
    เธอทำอะไรกรหน่ะ ถ้ากรเป็นอะไรไปฉันไม่ให้อภัยเธอแน่ เด็กหญิงถักเปียพูดด้วยเสียงโกรธา
             
    หยุดนะ!กานดา ผู้หญิงคนนี้ช่วยชีวิตฉันไว้ ขอโทษเธอเดี๋ยวนี้ กรพูดด้วยเสียงหนักแน่น พลางดันร่างของเด็กหญิงที่ชื่อกานดาออก
             
    กานดาแสดงสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะหันมาประสานสายตากับสุริย์สา
             
    ขอโทษ กานดาพูดเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน แต่สุริย์สาก็ไม่ได้ว่าความอะไร
             
    ไม่เป็นไรหรอก งั้นฉันขอตัวก่อนนะ สุริย์สาพูดพลางส่งยิ้มให้ทั้งคู่อย่างเป็นมิตร
             
    ขอบคุณมากนะที่ช่วยชีวิตฉันไว้ กรขอบคุณเด็กสาวด้วยใจจริงอีกครั้ง
             
    สุริย์สายิ้มตอบ ก่อนจะเดินจากไปทิ้งไว้แต่ความประทับใจ กรมองเด็กสาวจนลับสายตา



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×