คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ยามเช้าของเกาะพะงัน แสงอาทิตย์กระทบหาดทรายเปล่งสีทองระยิบ สายลมจากทะเลพัดเข้าหาเกาะเป็นระลอก พาเอาผมดำเงาของสุริย์สาลู่ไปข้างหลัง ความสดชื่นของวันใหม่ทำให้สุริย์สารู้สึกแช่มชื่น เด็กสาวเดินลัดเลาะไปตามชายฝั่งอย่างไร้จุดหมาย
ทันใดนั้น สุริย์สาเริ่มหรี่ตาเพ่งมองไปยังทะเล เมื่อรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่ง และแล้วภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า คือเด็กชายคนหนึ่งกำลังแหวกว่ายบนคลื่นลูกเล็กๆอย่างสนุกสนาน
สุริย์สาลดตัวนั่งลงบนผืนทรายอย่างช้าๆ พลางทอดสายตาไปยังเด็กชายที่กำลังดำผุดดำว่ายอย่างสบายใจ ยังไม่ทันไรสุริย์สาก็รีบลุกขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่า เด็กชายกำลังพยายามดันตัวขึ้นมา ขณะที่มือนั้นโบกไปมาเหมือนกำลังจะจมลงไป สุริย์สาเริ่มวิตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเริ่มมองไปรอบๆเพื่อหาใครที่พอจะช่วยได้บ้างแต่สิ่งที่พบคือความว่างเปล่า
เมื่อเด็กชายเริ่มหายไปกับเกลียวคลื่น สุริย์สาจึงตัดสินใจคว้าห่วงยางแถวชายฝั่ง แล้วรีบว่ายตรงไปยังเด็กชายอย่างรวดเร็วแต่มันสายเกินไปเด็กชายนั้นได้จมน้ำหายไปแล้ว สุริย์สาจึงตัดสินใจรีบว่ายให้ทันร่างที่กำลังสลบอยู่อย่างไม่คิดชีวิต และแล้วเธอก็คว้าแขนของเด็กชายไว้ได้ เธอเริ่มออกแรงดึงร่างที่แข็งแรงนั้นอย่างหนักหน่วงโชคยังดีที่น้ำทะเลนั้นช่วยลดทอนน้ำหนักของเด็กชายลงอยู่บ้าง
ทันทีที่ทั้งคู่โผล่พ้นน้ำ เกิดพรายฟองขึ้นโดยรอบ สุริย์สาสูดหายใจยาวและพยายามดึงร่างของเด็กชายให้ถึงฝั่งโดยเร็ว
“ทำไมผู้ชายถึงได้หนักอย่างนี้นะ”สุริย์สาบ่น ขณะที่ดึงร่างของเด็กชายอย่างลำบาก
เมื่อถึงฝั่ง สุริย์สาก็พบกับรอยเขียวคล้ำที่ขาขวาของเด็กชาย ทำให้เธอรู้ทันทีเลยว่า ตะคริวก็ไม่ใช่เรื่องน่าภิรมย์ตอนอยู่กลางทะเลนัก ตอนนี้สุริย์สาเริ่มสังเกตเห็นว่า เด็กชายคนนี้มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ใบหน้าที่งดงามนั้นขาวซีดจนน่าตกใจ สุริย์สาเริ่มประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วกดใต้ลิ้นปี่ของเด็กชายอยู่หลายครั้งก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เธอเริ่มมองหาคนช่วยอีกครั้งแต่ก็ไม่พบใครเหมือนเดิม เธอจึงตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย สุริย์สาเอามือซ้ายบีบจมูกของเด็กชาย ส่วนมือขวาช้อนคางของเด็กชายขึ้น แล้วเป่าลมหายใจของเธอรินรดผ่านทางริมฝีปาก สลับกับการกดใต้ลิ้นปี่
สุดท้ายการกู้ชีวิตของสุริย์สาก็เป็นผลสำเร็จ รอยยิ้มที่สดใสเริ่มปรากฏบนใบหน้าของเด็กสาวทันทีที่เห็นเด็กชายเริ่มสำลักน้ำออกมา
“ดีจริงๆที่เธอไม่เป็นอะไร” สุริย์สาพูดด้วยความดีใจ
“ฉัน..จม.น้ำใช่ไหม” เด็กชายถามตะกุกตะกักขณะที่พยายามคายน้ำทะเลออกมาให้หมด
“ใช่ เธอจมน้ำลงไปลึกอยู่เหมือนกัน” สุริย์สาตอบกลับไป
“ขอบคุณมากที่ช่วยฉันไว้” เด็กชายพูดพลางมองมาทางสุริย์สาอย่างสำนึกในน้ำใจ เพราะคงมีผู้หญิงไม่มากนักหรอกที่ลงทุนช่วยคนจมน้ำด้วยตนเอง ส่วนมากมักจะเรียกให้คนช่วย
“เอ่อ...เธอเดินไหวหรือเปล่า” สุริย์สาถามขึ้น
“สบายมาก” ทันทีที่พูดจบเด็กชายลุกขึ้นพรวดพราด ตะคริวที่ขาก็ปวดแปล๊บขึ้นมาในบัดดล เด็กชายจนใจจึงต้องนั่งลงเหมือนเดิมพลางเบือนหน้าหนีสุริย์สาด้วยความอาย
“กร!เป็นอะไรน่ะ”
เสียงผู้หญิงพุ่งแทรกระหว่างคนทั้งคู่ ยังไม่ทันที่สุริย์สาจะหันไปมองต้นตอของเสียง ผู้หญิงถักเปียสองข้างก็วิ่งผ่านหน้าเธอไป ตรงเข้าโผกอดเด็กชายอย่างรวดเร็ว ทำเอาเธองงงันไปนิดนึง ไม่ทันไรเด็กหญิงถักเปียก็หันควับมาทางสุริย์สา
“เธอทำอะไรกรหน่ะ ถ้ากรเป็นอะไรไปฉันไม่ให้อภัยเธอแน่” เด็กหญิงถักเปียพูดด้วยเสียงโกรธา
“หยุดนะ!กานดา ผู้หญิงคนนี้ช่วยชีวิตฉันไว้ ขอโทษเธอเดี๋ยวนี้” กรพูดด้วยเสียงหนักแน่น พลางดันร่างของเด็กหญิงที่ชื่อกานดาออก
กานดาแสดงสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะหันมาประสานสายตากับสุริย์สา
“ขอโทษ” กานดาพูดเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน แต่สุริย์สาก็ไม่ได้ว่าความอะไร
“ไม่เป็นไรหรอก งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” สุริย์สาพูดพลางส่งยิ้มให้ทั้งคู่อย่างเป็นมิตร
“ขอบคุณมากนะที่ช่วยชีวิตฉันไว้” กรขอบคุณเด็กสาวด้วยใจจริงอีกครั้ง
สุริย์สายิ้มตอบ ก่อนจะเดินจากไปทิ้งไว้แต่ความประทับใจ กรมองเด็กสาวจนลับสายตา
ความคิดเห็น