ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Begin..พี่น้องกันไม่ทำแบบนี้
Chapter 1
:: Begin..พี่น้องกันไม่ทำแบบนี้ ::
ฉันไม่อยากเป็นน้องสาวของพี่
ได้โปรดอย่าบอกว่าฉันเป็นเพียงน้องสาวที่พี่เอ็นดู
อย่ามองฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นน้องสาวของพี่
ได้โปรดอย่าใจร้ายกับฉันแบบนี้....
.
.
.
.
"พี่...ใจร้าย...รู้มั้ยว่าฉันรักพี่มากแค่ไหน?"
.
.
.
"ซอฮยอน คิดอะไรอยู่น่ะ วันนี้เราต้องไปห้องอัดนะ"
เสียงเรียกของรูมเมทร่วมห้องพักดังขึ้น เด็กสาวร่างสูงยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง
นิ้วเรียวหมุนกระปุกยาในมือไปมาราวกับคนที่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
จนคนเรียกเดินเข้ามาในห้องนอนพลางมองซอฮยอนที่ยังไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก
"นี่ ซอฮยอนเราต้องไปกันแล้วนะ เจสสิก้ารออยู่ข้างนอกน่ะ
เดี๋ยวก็ได้โดนโมโหหรอก"ชื่อที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้า
ดูท่าจะส่งผลกระทบต่อน้องเล็กของวงเป็นอย่างดี
ใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นเงยหน้าขึ้นจากการจ้องมองกระปุกยา
"อะ อ๋อ ค่ะ...พี่ทิฟออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันตามออกไป"
ซอฮยอนบอกรุ่นพี่คนเก่งด้วยรอยยิ้ม ทิฟฟานี่มองเด็กสาวตรงหน้า
ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้วเดินออกจากห้อง
แต่ก่อนไปก็ยังไม่วายหันกลับมามองน้องด้วยความเป็นห่วง
แกร๊ก..
เสียงปิดประตูดังขึ้นรอยยิ้มบนใบหน้าจางหายไปในทันที
จมูกได้รูปพ่นลมหายใจคล้ายกับคนที่มีเรื่องกลุ้มใจ
แล้วใครว่าซอ จูฮยอนไม่มีกันล่ะเรื่องกลุ้มใจน่ะ...
ซอฮยอนเม้มปากแน่นกระปุกยาในมือถูกยกขึ้นหวังจะปามันออกไป
แต่พอหลับตาข่มอารมณ์ลงก็นึกถึงหน้าใครบางคนเจ้าของกระปุกยา...
.
.
.
.
หลายวันก่อน
"เสาร์นี้เจสสิก้า ซอฮยอนแล้วก็ทิฟฟานี่ต้องไปอัดเสียงเพลงbad oppaนะ"
หัวหน้าวงคนสำคัญก้มหน้าอ่านตารางงานของสมาชิกในวงโซนยอชีแดในอาทิตย์นี้
สามคนที่ต้องทำงานร่วมกันหันมามองหน้ากัน....
เจสสิก้าหันมาสบตากับซอฮยอนแวบนึงโดยไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ
ก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้กับทิฟฟานี่ที่นั่งอยู่ถัดจากซอฮยอน
เด็กสาวหน้าตึงเล็กน้อยกับอาการที่ดูหมางเมินแบบนั้น
ใจร้ายชะมัด....ทั้งๆที่พี่ก็รู้ว่าฉันคิดยังไง
การประชุมแจกแจงงานก่อนนอนของแต่ละคนจบลงอย่างเรียบง่าย
สาวๆทั้งเก้าคนต่างแยกย้ายกันเพื่อทำธุระส่วนตัวก่อนเข้านอน
ซอฮยอนบอกทิฟฟานี่ที่เป็นรูมเมทให้ไปนอนก่อน ส่วนตัวเองก็ปลีกตัวไปนั่งในห้องครัว
อยากนั่งคิดอะไรเงียบๆคนเดียวซักหน่อย....
"เฮ้อ....."ร่างสูงเพรียวนั้นนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ประจำบ้าน
นอนฟุบลงไปอย่างเหนื่อยล้า งานวันนี้แม้ไม่ได้เยอะมากมาย
แต่ซอฮยอนก็รู้สึกเหมือนวันนี้ทำงานหนักๆมาทั้งวันโดยไม่ได้พัก
หรืออาจจะเพราะเธอเหนื่อยใจก็ได้ล่ะมั้ง...
หากจะถามว่าน้องเล็กของวงเหนื่อยใจเรื่องอะไร?
บอกไปใครเลยจะเชื่อ คนอื่นเค้าคงหัวเราะกัน
เรื่องที่ทำให้ซอฮยอนกลุ้มใจอยู่ตอนนี้ก็คือ...เรื่องของเจสสิก้า
ความสัมพันธ์คลุมเครือที่ไม่มีใครเห็น จะมีก็เพียงเจ้าตัวสองคนที่รับรู้
เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เวลายืนข้างกันทั้งเจสสิก้าและซอฮยอนก็มักจะจับมือกันโดยไม่รู้ตั
ว
บางครั้งแค่ปลายนิ้วสะกิดกันก็กลับกลายเป็นจับมือกันโดยปริยาย
ทั้งที่รู้สึกตัวว่ามือจับกันอยู่แต่ก็เหมือนทำเป็นไม่รู้
ต่างฝ่ายต่างทำเป็นไม่สนใจมัน...ทั้งๆที่มือยังจับกันแน่นแอบอยู่ข้างตัวแบบนั้น
ราวกับว่าเราเข้าใจในความหมายของความอบอุ่นจากมือของอีกฝ่ายโดยไม่ต้องพูดจา
ซอฮยอนเองไม่รู้ว่าพี่สาวคนสวยคิดยังไง...คิดแบบเดียวกับที่เธอคิดรึเปล่า?
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาทางห้องครัว ทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆลืมตาขึ้น
เหลือบมองไปที่ประตูห้องครัวไม่นานร่างของคนที่คิดถึงก็เดินเข้ามา
เหมือนเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ซอฮยอนรีบหลับตาลงในทันที
"......ซอฮยอน"น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้นในความเงียบ
เจสสิก้ามองเด็กร่างสูงประจำวงนอนฟุบอยู่กับโต๊ะกินข้าว
ใบหน้าสวยเงยหน้ามองนาฬิกาที่บนฝาผนังก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
ร่างบางเดินผ่านซอฮยอนไปที่ตู้เย็นเงียบๆ เด็กสาวค่อยๆหรี่ตามอง
หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น..ไม่กล้าที่จะต้องเผชิญหน้ากันโดยตรง
ก็ในเมื่อเจสสิก้าเย็นชาขนาดนี้...
เจสสิก้าเปิดตู้เย็นรินน้ำเปล่าดื่มสายตามองแผ่นหลังของซอฮยอนที่นอนฟุบอยู่เงียบๆ
โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่คิดว่าหลับไม่ได้หลับอย่างที่คิด...
"........."ร่างบางเดินผ่านโต๊ะที่ซอฮยอนนั่งอยู่เพื่อกลับห้อง
แต่ก็เหมือนคิดอะไรได้ เจสสิก้าหยุดยืนอยู่ที่ประตูแล้วหันกลับมามองซอฮยอนอีกครั้ง
ชั่วอึดใจที่นิ่งคิดตัดสินใจ ร่างบางก็เดินมายืนตรงหน้าซอฮยอน
สายตาพินิจพิจารณาเรียวหน้าที่ตะแคงหันมานั้นเงียบๆ
ครืด...
เก้าอี้ตัวข้างๆถูกดึงออกพร้อมกับที่เจสสิก้าทิ้งตัวลงนั่งอย่างลังเล
นั่งนิ่งอยู่ครู่นึงโดยยังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าอ่อนเยาว์
เจสสิก้าก็นอนฟุบตะแคงหน้ามองซอฮยอนบ้าง
"ซอ จูฮยอน...."เสียงเรียกชื่อเบาราวเสียงกระซิบเช่นครั้งแรก
คนที่แกล้งหลับหัวใจเต้นเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กลัวอีกฝ่ายจะจับได้จริงๆว่าเธอไม่ได้หลับ
ปลายนิ้วเรียววาดเอาปอยผมสีดำสนิทของซอฮยอนออกไปจากใบหน้าเบาๆ
ก่อนจะไล้ไปบนคิ้วโค้งมน เลื่อนผ่านสันจมูก และแตะสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปาก
เจสสิก้าหยุดนิ่งและมองมันราวต้องมนต์สะกด......
ตึก ตัก ตึก ตัก...
เสียงหัวใจของใคร?เสียงหัวใจของฉันหรือเสียงหัวใจของพี่กัน
เจสสิก้า จอง...
ร่างบางลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มหน้าลงมาหาโดยที่ยังไม่ได้ละสายตาไปไหน
ไม่ทันที่สมองจะคิดตริตรองใดๆ กลีบปากบางก็กดทาบทับลงไปกับเรียวปากของคนแกล้งหลับ
....จูบที่เบาบางหากแต่นุ่มนวลและอ่อนหวาน
"............"เหมือนจะได้สติกลับคืนมา เจสสิก้าชะงักแล้วยืนตัวตรง
ถอยห่างจากซอฮยอนด้วยความตกใจในการกระทำของตัวเอง
มือเรียวปิดปากของตัวเอง อีกทั้งแก้มเนียนทั้งสองข้างก็ยังซับสีระเรื่อ
เจสสิก้ายืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก แม้แต่ขาก็ยังก้าวไปไหนไม่ได้
ยิ่งเห็นซอฮยอนขยับตัวตื่นขึ้นมาจะวิ่งออกไปก็ไม่ทันแล้ว
"พี่เจส..."
"มานอนทำอะไรตรงนี้น่ะ"เจสสิก้ารีบชิงถามก่อนที่ซอฮยอนจะทันได้พูดอะไร
หวังว่า...ซอฮยอนจะไม่รู้สึกตัวนะตอนที่เธอจูบน่ะ...
".......แล้วพี่ล่ะ"ซอฮยอนถามโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ
ทั้งๆที่จริงๆแล้วอยากถามเรื่องจูบเมื่อกี๊มากกว่า แต่เห็นท่าทางของอีกฝ่าย
ดูท่าแล้วคงจะยังไม่อยากตอบ และถึงถามไปก็คงไม่ตอบแต่โดยดีแน่ๆ
"ก็...มาดื่มน้ำน่ะ แล้วตกลงเธอมานอนในห้องครัวทำไม?"
เจสสิก้าเบี่ยงคำถามกลับไปคำถามเดิมอีกครั้ง สายตามองที่อื่น
เพื่อไม่้สบตากับเด็กตรงหน้าตรงๆ ซอฮยอนนิ่งไปครู่นึงอย่างชั่งใจ
"ฉันปวดหัว เลยมาหายากิน"ซอฮยอนตอบเสียงเรียบรอดูปฏิกิริยา
ของพี่สาวคนสวย...แม้ตอนร้อนรนพี่ก็ยังนิ่งได้เสมอเลยจริงๆ
หรือว่า...เมื่อกี๊พี่ก็แค่อารมณ์อ่อนไหว?
"งั้นเหรอ?งั้นเดี๋ยวฉันไปหยิบยาให้ แทยอนกับฉันเพิ่งไปซื้อมาเพิ่ม
แต่ไม่ได้เก็บที่ตู้ยา รอแป๊บนึงแล้วกันนะ"เจสสิก้าบอกแล้วเดินออกจากห้องไป
ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกระปุกยาสามัญประจำบ้านขวดใหม่ที่เพิ่งไปซื้อมา
"ขอบคุณค่ะ..."ซอฮยอนเอ่ยขอบคุณเสียงเรียบ พลางมองกระปุกยาในมือ
"รีบเข้านอนซะล่ะ พรุ่งนี้เธอต้องไปโรงเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ?
ฉัน...ไปนอนก่อนก็แล้วกันนะ เจอกันพรุ่งนี้"เจสสิก้าส่งยิ้มบางๆให้
ก่อนจะหมุนตัวเดินสาวเท้าเร็วๆจากไปก่อนเสียงปิดประตูห้องจะดังขึ้น
เป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายกลับเข้าห้องนอนไปแล้ว ซอฮยอนละสายตาจากของในมือ
ร่างสูงเพรียวนั้นฟุบลงกับโต๊ะอีกครั้ง ในหัวครุ่นคิดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
ฉันอยากถาม...อยากรู้เหตุผลแต่ฉันก็ไม่กล้า
หมายความว่ายังไง...พี่กำลังทำให้ฉันรู้สึกแปลกไปรู้มั้ย...
พี่เจสสิก้า...พี่มัน.....ใจร้าย
.
.
.
"หื้อ?ซอฮยอนน่ะเหรอซึมไป?"เสียงสูงของเพื่อนรักถามขึ้น
ทิฟฟานี่พยักหน้ารับหลังจากที่เพิ่งจะเดินไปตามซอฮยอนในห้องนอน
หญิงสาวดูมีสีหน้ากังวลใจเมื่อเล่าถึงอาการแปลกๆของรูมเมทรุ่นน้อง
เจสสิก้าเม้มปากเล็กน้อยนึกเหนื่อยใจกับการรับฟังเรื่องนี้
"อืม ฉันเป็นห่วงแต่ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นคิดอะไรอยู่ ฉันถามว่าเป็นอะไรก็ตอบว่าเปล่าตลอด"
ทิฟฟานี่บอกมองไปที่ประตูห้องนั่งเล่นหวังว่าคนที่ถูกพูดถึงจะเดินเข้ามาซักที
เจสสิก้ามองอาการกระวนกระวายของเพื่อนสนิทก็ถอนหายใจออกมา
"เค้าคงเครียดเรื่องเรียนละมั้ง แล้ว...เมื่อไหร่เธอจะบอกไปซักทีล่ะว่าคิดยังไง"
เจสสิก้าถามพลางเอนหลังพิงโซฟาทำสีหน้านิ่ง
ทั้งที่ในใจนั้นรู้สึกเจ็บแปล๊บเมื่อต้องพูดให้กำลังใจเพื่อนแบบนั้น...
"เธอก็รู้ว่าฉันไม่กล้า ซอฮยอนยังเป็นเด็กม.ปลายอยู่เลยนะ
ฉันไม่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นหรอก"ทิฟฟานี่ค้านขึ้นมา แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ
เจสสิก้ามองหน้าเพื่อนสีหน้าเรียบเฉยเฉกเช่นทุกครั้งที่เป็น
"รักก็บอกไปสิ ยัยนั่นเค้าก็อายุไม่ได้ต่างจากเรามากขนาดจะไม่ประสาเรื่องพวกนี้หรอก"
เจ้าหญิงประจำวงบอกพลางตบไหล่เพื่อนเบาๆอย่างให้กำลังใจ
ทิฟฟานี่นั่งนิ่งคิดทบทวนคำพูดของเพื่อนที่แนะนำเธอ
ใช่แล้ว...ตอนนี้ฮวัง มิยองกำลังรักซอ จูฮยอน
ไม่สิ...รักมาตั้งนานแล้วต่างหากล่ะ
เพราะการที่จากบ้านมาไกลเวลาต้องอยู่คนเดียวบ้างครั้งก็เหงา
ก็มีเพื่อนๆในวงที่ยืนอยู่ข้างกายเสมอมามีแทยอนที่เคยเป็นรูมเมทด้วยกันคอยให้กำลังใ
จ
มีเจสสิก้าที่คอยอยู่ใกล้ๆเมื่อตอนยังพูดเกาหลีได้ไม่คล่อง
มียูริคอยทำให้หัวเราะอยู่บ่อยๆ แล้วยังมีคนอื่นๆที่ทำให้ทิฟฟานี่ยิ้มได้ทุกวันอีกล่ะ
และที่สำคัญไปกว่านั้นคนที่เป็นรูมเมทด้วยกันขณะนี้
ซอฮยอน...น้องเล็กสุดของวงที่มักจะคอยปลอบเวลาที่เธอร้องไห้คิดถึงบ้าน
แม้ว่าเด็กคนนั้นจะทำเหมือนที่แทยอนเคยทำเมื่อครั้งที่เคยเป็นรูมเมทกัน
แต่จะต่างกันก็คงที่ความรู้สึก...เวลาทิฟฟานี่ร้องไห้แทยอนมักจะกอดปลอบ
และพูดอะไรไปเรื่อยๆให้เธอสบายใจ
แต่สำหรับซอฮยอนเด็กคนนั้นก็แค่เข้ามากอดโดยไม่พูดอะไร
ไม่ถาม ไม่พูดปลอบ ก็แค่ปล่อยให้เธอร้องไห้จนพอใจ
แต่น่าแปลกที่พอเธอร้องไห้เสร็จแล้ว ทิฟฟานี่ก็มักจะพูดถึงสิ่งที่เธอคิดทุกครั้ง
โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดปากถามแม้แต่คำเดียว
และเมื่อเธอพูดจบสิ่งที่ซอฮยอนทำเป็นประจำก็แค่...ยิ้ม
แล้วบอกกับทิฟฟานี่ว่า........
'พี่หยุดร้องไห้แล้ว ไหนยิ้มตอบฉันหน่อยซิ เวลาพี่ยิ้มน่ะน่ารักมากเลยรู้มั้ย?'
หากว่าทิฟฟานี่ไม่ได้คิดไปเอง เธอคงได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรง
ทุกครั้งที่ซอฮยอนพูดแบบนั้นและยิ้มให้เธอ.........
"เอาไว้ฉันพร้อมแล้วค่อยพูดดีกว่า ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าพอ"
ทิฟฟานี่บอกขึ้นหลังจากคิดทบทวนอยู่นาน เธอยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะบอก
ไม่กล้าทำลายความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ซอฮยอนมอบให้
ขอฉัน....เป็นพี่สาวของเธอไปแบบนี้ก่อนเถอะนะ ซอฮยอน......
"งั้นก็แล้วแต่เธอ.."เจสสิก้าบอกเสียงเบาเหมือนไม่ค่อยใส่ใจกับมันเท่าใดนัก
ดวงตาสวยมองไปนอกหน้าต่างของห้องราวกับมีอะไรให้ขบคิดมากมาย
"ขอโทษที่ฉันมาช้านะคะ"แล้วคนที่ถูกกล่าวถึงนานสองนานก็เดินเข้ามา
รอยยิ้มบางระบายบนใบหน้าอ่อนเยาว์ของน้องเล็กของวง
"มาแล้วก็รีบไปกันเถอะ เสียเวลามานานแล้ว"เจสสิก้าเด้งตัวขึ้นจากโซฟา
ช่วยดึงมือทิฟฟานี่ให้ลุกขึ้นแล้วเดินผ่านซอฮยอนออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร
ร่างสูงเพรียวยืนนิ่งมองตามพี่สาวคนรองประจำวงเดินผ่านไป
พี่เย็นชากับฉันอีกแล้ว....
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ จะไปร้องเพลงช่วยทำหน้าให้มันดีกว่านี้หน่อย"
ทิฟฟานี่เดินเข้าไปหาซอฮยอน ประคองใบหน้าของเด็กสาวเอาไว้
แล้วหมุนไปมาอย่างหยอกล้อปิดท้ายด้วยการดึุงแก้มนุ่มนั้นเบาๆ
ซอฮยอนยิ้มให้กับทิฟฟานี่บางก่อนจะพยักหน้ารับ.....
ตลอดการอัดเสียงในเพลงBad Oppaไม่รู้ว่าซอฮยอนคิดไปเองรึเปล่า
แต่รู้สึกเหมือนตัวเองโดนหมางเมินตลอด ทุกครั้งที่จะเข้าไปหาเจสสิก้า
อีกฝ่ายก็มักจะทำเหมือนมีอะไรต้องทำตลอดเวลา หรือบางทีก็นั่งตัวติดกับทิฟฟานี่
คุยแต่เรื่องร้องเพลงไม่มองหน้าเธอ อีกทั้งจะถามอะไรก็มักจะโยนให้ทิฟฟานี่
เป็นคนเอ่ยปากถามเธอเองตลอด...จะหลบหน้ากันไปถึงไหน
ทั้งๆที่ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่พี่จูบฉัน
เผื่อว่าอย่างน้อยพี่จะคุยกับฉันบ้างแล้วแท้ๆ
"ทิฟฟานี่ เดี๋ยวฉันมานะขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง"
เจสสิก้าหันมาบอกเพื่อนขณะที่นั่งฝึกร้องเพลงเพื่ออัดเสียงอีกรอบ
ร่างบางรีบหาทางเลี่ยงออกจากห้องในขณะที่ซอฮยอนมัวแต่ไปสนใจเครื่องเสียง
พอเดินออกมาโดยไม่มีใครเห็นได้ก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
อึดอัดจริงๆที่ต้องทำตัวแบบนี้...
เจสสิก้านึกเบื่อหน่ายกับตัวเอง ก่อนจะพาตัวเองเดินไปห้องน้ำใกล้ๆ
ถ้าขืนยังนั่งอยู่ในห้องนั้นมีหวังคงได้อกแตกตายเพราะสายตาของใครบางคน
ทั้งๆที่เธอพยายามหาทางหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงแล้วแท้ๆ
แต่ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพยายามหาทางพูดกับเธอให้ได้
แม้ตัวเจสสิก้าเองจะอยากคุยเหมือนกัน...แต่ก็เหมือนมีอะไรมาค้ำคออยู่
'รักก็บอกไปสิ ยัยนั่นเค้าก็อายุไม่ได้ต่างจากเรามากขนาดจะไม่ประสาเรื่องพวกนี้หรอก'
'เอาไว้ฉันพร้อมแล้วค่อยพูดดีกว่า ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าพอ'
บทสนทนาก่อนจะมาที่บริษัททำให้เจสสิก้าต้องหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า
เพราะเรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้...เพราะเจสสิก้า จองเป็นเพื่อนของฮวัง มิยอง
เพราะจะรักคนๆเดียวกับเพื่อนไม่ได้
ถึงต้องทำตัวเป็นพี่สาวใจร้ายที่แสนเย็นชา
ไม่ได้อยากทำแบบนี้...แต่สถานการณ์ตอนนี้เจสสิก้าเลือกไม่ได้
ทิฟฟานี่รักซอฮยอน รักมาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ
เจสสิก้าไม่กล้าจะบอกว่าเธอเอง....ก็รักเด็กคนนั้น
ตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าหญิงน้ำแข็งไม่อาจล่วงรู้ได้ รู้ตัวอีกทีก็รักเข้าไปจนถอนตัวไม่ขึ้น
รู้ตัวทุกครั้งก็มีมือของเด็กคนนั้นคอยเกาะกุมไว้ไม่ห่างและเธอเองก็ตอบรับมัน
หัวใจมันรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้จับมืออบอุ่นของซอฮยอนแม้ไม่อาจสื่อสารออกมาด้วยคำพู
ดได้
ไม่จำเป็นต้องหันมามองหน้ากัน เพราะรู้ว่า....แค่เพียงจับมือกันไว้อย่างนี้
ยืนนิ่งๆอยู่ข้างกายกันและกันเท่านั้น เราก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกัน
ไม่ต้องบอกว่ารัก.....แต่แค่นั้นก็รับรู้ว่ารัก
เจสสิก้าเท้าแขนกับขอบอ่างล้างหน้าจ้องมองฝาแฝดของตัวเองในกระจกเงา
ในหัวก็ยังคงครุ่นคิดเรื่องของเด็กสาวที่ชื่อ ซอ จูฮยอน...
"ทั้งๆที่เธอเป็นแค่เด็ก...ทั้งๆที่เธออายุน้อยกว่าฉัน บ้าจริง..."
เจสสิก้าพึมพำกับตัวเองยกมือลูบหน้าตัวเองเผื่อมันจะทำให้หายเครียดลงไปได้บ้าง
จะต้องทำยังไงดี...ตัดใจยังไงดีล่ะ
เจสสิก้า จอง..เธออ่อนไหวเกินไปแล้ว ก็แค่เค้าคอยจับมือเธอเอาไว้
แค่นั้นก็อ่อนไหวแล้วอย่างนั้นเหรอ...เธออายุเท่าไหร่แล้ว
หวั่นไหวกับเรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นั้นน่ะเหรอ?
เธอต้องช่วยทิฟฟานี่สิถึงจะถูก เพื่อนของเธอรักซอฮยอนมาตั้งนานแล้วนะ..
รักมาก่อนที่เธอจะรักซะด้วยซ้ำ
แกร๊ก...
เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้เจสสิก้าสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นมองสะท้อนกระจก
แม้คนที่ยืนอยู่จะทำให้ตกใจไม่น้อย แต่เธอก็รู้ว่าไม่ควรแสดงออกมาทางสีหน้า
"ซอฮยอนเองเหรอ...มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันสินะ ฉันเสร็จแล้วล่ะ ไปรอที่ห้องอัดนะ"
เจสสิก้าบังคับเสียงให้เป็นปกติส่งรอยยิ้มเอ็นดูให้อีกฝ่ายเช่นทุกครั้ง
ก่อนจะหาข้ออ้างหลบหลีกไปก่อน แต่ก็ดูว่าอีกฝ่ายจะรู้ทัน
"ฉันอยากคุยกับพี่ก่อน"ซอฮยอนยืนขวางทางไว้ พลางบอกด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
เจสสิก้าเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า สีหน้าเรียบดูไม่สบอารมณ์แบบนี้
ไม่้เคยเห็นซอฮยอนทำต่อหน้าใครเลยซักครั้ง...
"คุยอะไรล่ะ ไปคุยที่ห้องโน้นก็ได้"เจสสิก้าพยายามหลีกเลี่ยง
แล้วพยายามหาทางหนีแต่ซอฮยอนก็ดูจะรู้ทันไปซะหมด
"พี่หลบหน้าฉันทำไม?"ซอฮยอนถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"หลบหน้า?พูดอะไรของเธอน่ะ ฉันจะหลบหน้าทำไม เธอมาเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ?
รีบเข้าซะสิ เราจะได้รีบๆทำงานรีบๆกลับบ้าน"เจสสิก้าเริ่มขึ้นเสียงสูงอย่างไม่พอใจ
เวลาที่เจสสิก้าทำแบบนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากำลังโมโห และก็ไม่มีใครกล้าตอแย
แต่ครั้งนี้ซอ จูฮยอนจะขอไม่กลัวซักครั้งก็แล้วกัน...
"อย่าเปลี่ยนเรื่อง ถ้าไม่ได้หลบหน้าฉันแล้วทำไมถึงไม่ยอมคุยกับฉัน"
ซอฮยอนถามแขนกางกั้นไม่ให้เจสสิก้าหนีไปไหน
"ก็ฉันไม่มีอะไรจะคุย ถอยไปนะซอ จูฮยอนอย่าให้ฉันโมโห"
เจสสิก้าบอกพลางจ้องหน้าซอฮยอนนิ่งด้วยความโกรธ
"แต่ฉันมี...ตกลงพี่คิดยังไงกันแน่"
"คิดอะไรของเธอ?"คำถามแปลกๆนั้นทำให้เจสสิก้าเลิกคิ้วขึ้นสูง
ซอฮยอนจ้องหน้าสวยของคนตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจพูด
"คิดยังไงกับฉัน...พี่คิดยังไงกับฉันกันแน่"คำถามเหมือนจี้ตรงจุดเข้าอย่างจัง
เจสสิก้ายืนนิ่งไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเอ่ยถามตรงไปตรงมาแบบนี้
"คิด..คิดยังไง ถามอะไรแบบนั้น"
".........."
"ก็....คิดแบบพี่น้องไง"ความเงียบของซอฮยอนทำให้เจสสิก้าจำใจตอบออกมา
....เปล่าเลย....ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น...แต่ฉันบอกออกไปไม่ได้
"ฉันไม่เชื่อ"ซอฮยอนตอบเสียงแข็ง
"ไม่เชื่อแล้วจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันคิดกับเธอแบบไหนกันล่ะ หึ๊?"
เจสสิก้าย้อนถามเสียงสูง ใจอยากจะออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
กลัวจริงๆ..กลัวใจตัวเอง...กลัวเผลอบอกอะไรบางอย่างออกไป
"คิดแบบที่ฉันคิด..."
"คิดแบบไหนกันล่ะ"
"คิดแบบคนรัก"
"........................."คำตอบของซอฮยอนทำให้เจสสิก้านิ่งค้างไปในทันที
ซอฮยอนเม้มปากแน่น มองไปในกระจกก่อนจะหันมาจ้องมองเจสสิก้าอีกครั้ง
"ฉันคิดกับพี่แบบคนรัก ฉันไม่ได้เห็นพี่เป็นพี่เลยแม้แต่น้อย..."
"บ้าไปแล้วหรือไงซอฮยอน!!เธอเพิ่งจะอายุเท่าไหร่ แล้ว..แล้วฉัน..
ฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้นด้วย ถอยไปฉันจะกลับไปที่ห้อง!!!"
เจสสิก้าขัดขึ้นก่อนที่ซอฮยอนจะพูดจบ มือดันร่างสูงของซอฮยอนให้พ้นทาง
แต่ก่อนที่จะทันได้ก้าวออกจากประตูห้องน้ำ คำถามที่ซอฮยอนถามขึ้นก็ทำให้ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
"ถ้างั้นพี่จูบฉันทำไม...ในห้องครัวพี่จูบฉันทำไม?!!"
"......................"
"พี่รู้มั้ย?พี่น้องกัน...เค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอก......."
********************************************************
TBC.
Talking :: ฝากด้วยนะคะ ฟิตฝั่งโซนยอค่ะ~
:: Begin..พี่น้องกันไม่ทำแบบนี้ ::
ฉันไม่อยากเป็นน้องสาวของพี่
ได้โปรดอย่าบอกว่าฉันเป็นเพียงน้องสาวที่พี่เอ็นดู
อย่ามองฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นน้องสาวของพี่
ได้โปรดอย่าใจร้ายกับฉันแบบนี้....
.
.
.
.
"พี่...ใจร้าย...รู้มั้ยว่าฉันรักพี่มากแค่ไหน?"
.
.
.
"ซอฮยอน คิดอะไรอยู่น่ะ วันนี้เราต้องไปห้องอัดนะ"
เสียงเรียกของรูมเมทร่วมห้องพักดังขึ้น เด็กสาวร่างสูงยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง
นิ้วเรียวหมุนกระปุกยาในมือไปมาราวกับคนที่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
จนคนเรียกเดินเข้ามาในห้องนอนพลางมองซอฮยอนที่ยังไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก
"นี่ ซอฮยอนเราต้องไปกันแล้วนะ เจสสิก้ารออยู่ข้างนอกน่ะ
เดี๋ยวก็ได้โดนโมโหหรอก"ชื่อที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้า
ดูท่าจะส่งผลกระทบต่อน้องเล็กของวงเป็นอย่างดี
ใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นเงยหน้าขึ้นจากการจ้องมองกระปุกยา
"อะ อ๋อ ค่ะ...พี่ทิฟออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันตามออกไป"
ซอฮยอนบอกรุ่นพี่คนเก่งด้วยรอยยิ้ม ทิฟฟานี่มองเด็กสาวตรงหน้า
ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแล้วเดินออกจากห้อง
แต่ก่อนไปก็ยังไม่วายหันกลับมามองน้องด้วยความเป็นห่วง
แกร๊ก..
เสียงปิดประตูดังขึ้นรอยยิ้มบนใบหน้าจางหายไปในทันที
จมูกได้รูปพ่นลมหายใจคล้ายกับคนที่มีเรื่องกลุ้มใจ
แล้วใครว่าซอ จูฮยอนไม่มีกันล่ะเรื่องกลุ้มใจน่ะ...
ซอฮยอนเม้มปากแน่นกระปุกยาในมือถูกยกขึ้นหวังจะปามันออกไป
แต่พอหลับตาข่มอารมณ์ลงก็นึกถึงหน้าใครบางคนเจ้าของกระปุกยา...
.
.
.
.
หลายวันก่อน
"เสาร์นี้เจสสิก้า ซอฮยอนแล้วก็ทิฟฟานี่ต้องไปอัดเสียงเพลงbad oppaนะ"
หัวหน้าวงคนสำคัญก้มหน้าอ่านตารางงานของสมาชิกในวงโซนยอชีแดในอาทิตย์นี้
สามคนที่ต้องทำงานร่วมกันหันมามองหน้ากัน....
เจสสิก้าหันมาสบตากับซอฮยอนแวบนึงโดยไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ
ก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้กับทิฟฟานี่ที่นั่งอยู่ถัดจากซอฮยอน
เด็กสาวหน้าตึงเล็กน้อยกับอาการที่ดูหมางเมินแบบนั้น
ใจร้ายชะมัด....ทั้งๆที่พี่ก็รู้ว่าฉันคิดยังไง
การประชุมแจกแจงงานก่อนนอนของแต่ละคนจบลงอย่างเรียบง่าย
สาวๆทั้งเก้าคนต่างแยกย้ายกันเพื่อทำธุระส่วนตัวก่อนเข้านอน
ซอฮยอนบอกทิฟฟานี่ที่เป็นรูมเมทให้ไปนอนก่อน ส่วนตัวเองก็ปลีกตัวไปนั่งในห้องครัว
อยากนั่งคิดอะไรเงียบๆคนเดียวซักหน่อย....
"เฮ้อ....."ร่างสูงเพรียวนั้นนั่งลงที่โต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ประจำบ้าน
นอนฟุบลงไปอย่างเหนื่อยล้า งานวันนี้แม้ไม่ได้เยอะมากมาย
แต่ซอฮยอนก็รู้สึกเหมือนวันนี้ทำงานหนักๆมาทั้งวันโดยไม่ได้พัก
หรืออาจจะเพราะเธอเหนื่อยใจก็ได้ล่ะมั้ง...
หากจะถามว่าน้องเล็กของวงเหนื่อยใจเรื่องอะไร?
บอกไปใครเลยจะเชื่อ คนอื่นเค้าคงหัวเราะกัน
เรื่องที่ทำให้ซอฮยอนกลุ้มใจอยู่ตอนนี้ก็คือ...เรื่องของเจสสิก้า
ความสัมพันธ์คลุมเครือที่ไม่มีใครเห็น จะมีก็เพียงเจ้าตัวสองคนที่รับรู้
เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เวลายืนข้างกันทั้งเจสสิก้าและซอฮยอนก็มักจะจับมือกันโดยไม่รู้ตั
ว
บางครั้งแค่ปลายนิ้วสะกิดกันก็กลับกลายเป็นจับมือกันโดยปริยาย
ทั้งที่รู้สึกตัวว่ามือจับกันอยู่แต่ก็เหมือนทำเป็นไม่รู้
ต่างฝ่ายต่างทำเป็นไม่สนใจมัน...ทั้งๆที่มือยังจับกันแน่นแอบอยู่ข้างตัวแบบนั้น
ราวกับว่าเราเข้าใจในความหมายของความอบอุ่นจากมือของอีกฝ่ายโดยไม่ต้องพูดจา
ซอฮยอนเองไม่รู้ว่าพี่สาวคนสวยคิดยังไง...คิดแบบเดียวกับที่เธอคิดรึเปล่า?
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาทางห้องครัว ทำให้คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆลืมตาขึ้น
เหลือบมองไปที่ประตูห้องครัวไม่นานร่างของคนที่คิดถึงก็เดินเข้ามา
เหมือนเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ซอฮยอนรีบหลับตาลงในทันที
"......ซอฮยอน"น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้นในความเงียบ
เจสสิก้ามองเด็กร่างสูงประจำวงนอนฟุบอยู่กับโต๊ะกินข้าว
ใบหน้าสวยเงยหน้ามองนาฬิกาที่บนฝาผนังก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
ร่างบางเดินผ่านซอฮยอนไปที่ตู้เย็นเงียบๆ เด็กสาวค่อยๆหรี่ตามอง
หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น..ไม่กล้าที่จะต้องเผชิญหน้ากันโดยตรง
ก็ในเมื่อเจสสิก้าเย็นชาขนาดนี้...
เจสสิก้าเปิดตู้เย็นรินน้ำเปล่าดื่มสายตามองแผ่นหลังของซอฮยอนที่นอนฟุบอยู่เงียบๆ
โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่คิดว่าหลับไม่ได้หลับอย่างที่คิด...
"........."ร่างบางเดินผ่านโต๊ะที่ซอฮยอนนั่งอยู่เพื่อกลับห้อง
แต่ก็เหมือนคิดอะไรได้ เจสสิก้าหยุดยืนอยู่ที่ประตูแล้วหันกลับมามองซอฮยอนอีกครั้ง
ชั่วอึดใจที่นิ่งคิดตัดสินใจ ร่างบางก็เดินมายืนตรงหน้าซอฮยอน
สายตาพินิจพิจารณาเรียวหน้าที่ตะแคงหันมานั้นเงียบๆ
ครืด...
เก้าอี้ตัวข้างๆถูกดึงออกพร้อมกับที่เจสสิก้าทิ้งตัวลงนั่งอย่างลังเล
นั่งนิ่งอยู่ครู่นึงโดยยังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าอ่อนเยาว์
เจสสิก้าก็นอนฟุบตะแคงหน้ามองซอฮยอนบ้าง
"ซอ จูฮยอน...."เสียงเรียกชื่อเบาราวเสียงกระซิบเช่นครั้งแรก
คนที่แกล้งหลับหัวใจเต้นเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กลัวอีกฝ่ายจะจับได้จริงๆว่าเธอไม่ได้หลับ
ปลายนิ้วเรียววาดเอาปอยผมสีดำสนิทของซอฮยอนออกไปจากใบหน้าเบาๆ
ก่อนจะไล้ไปบนคิ้วโค้งมน เลื่อนผ่านสันจมูก และแตะสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปาก
เจสสิก้าหยุดนิ่งและมองมันราวต้องมนต์สะกด......
ตึก ตัก ตึก ตัก...
เสียงหัวใจของใคร?เสียงหัวใจของฉันหรือเสียงหัวใจของพี่กัน
เจสสิก้า จอง...
ร่างบางลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มหน้าลงมาหาโดยที่ยังไม่ได้ละสายตาไปไหน
ไม่ทันที่สมองจะคิดตริตรองใดๆ กลีบปากบางก็กดทาบทับลงไปกับเรียวปากของคนแกล้งหลับ
....จูบที่เบาบางหากแต่นุ่มนวลและอ่อนหวาน
"............"เหมือนจะได้สติกลับคืนมา เจสสิก้าชะงักแล้วยืนตัวตรง
ถอยห่างจากซอฮยอนด้วยความตกใจในการกระทำของตัวเอง
มือเรียวปิดปากของตัวเอง อีกทั้งแก้มเนียนทั้งสองข้างก็ยังซับสีระเรื่อ
เจสสิก้ายืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก แม้แต่ขาก็ยังก้าวไปไหนไม่ได้
ยิ่งเห็นซอฮยอนขยับตัวตื่นขึ้นมาจะวิ่งออกไปก็ไม่ทันแล้ว
"พี่เจส..."
"มานอนทำอะไรตรงนี้น่ะ"เจสสิก้ารีบชิงถามก่อนที่ซอฮยอนจะทันได้พูดอะไร
หวังว่า...ซอฮยอนจะไม่รู้สึกตัวนะตอนที่เธอจูบน่ะ...
".......แล้วพี่ล่ะ"ซอฮยอนถามโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ
ทั้งๆที่จริงๆแล้วอยากถามเรื่องจูบเมื่อกี๊มากกว่า แต่เห็นท่าทางของอีกฝ่าย
ดูท่าแล้วคงจะยังไม่อยากตอบ และถึงถามไปก็คงไม่ตอบแต่โดยดีแน่ๆ
"ก็...มาดื่มน้ำน่ะ แล้วตกลงเธอมานอนในห้องครัวทำไม?"
เจสสิก้าเบี่ยงคำถามกลับไปคำถามเดิมอีกครั้ง สายตามองที่อื่น
เพื่อไม่้สบตากับเด็กตรงหน้าตรงๆ ซอฮยอนนิ่งไปครู่นึงอย่างชั่งใจ
"ฉันปวดหัว เลยมาหายากิน"ซอฮยอนตอบเสียงเรียบรอดูปฏิกิริยา
ของพี่สาวคนสวย...แม้ตอนร้อนรนพี่ก็ยังนิ่งได้เสมอเลยจริงๆ
หรือว่า...เมื่อกี๊พี่ก็แค่อารมณ์อ่อนไหว?
"งั้นเหรอ?งั้นเดี๋ยวฉันไปหยิบยาให้ แทยอนกับฉันเพิ่งไปซื้อมาเพิ่ม
แต่ไม่ได้เก็บที่ตู้ยา รอแป๊บนึงแล้วกันนะ"เจสสิก้าบอกแล้วเดินออกจากห้องไป
ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกระปุกยาสามัญประจำบ้านขวดใหม่ที่เพิ่งไปซื้อมา
"ขอบคุณค่ะ..."ซอฮยอนเอ่ยขอบคุณเสียงเรียบ พลางมองกระปุกยาในมือ
"รีบเข้านอนซะล่ะ พรุ่งนี้เธอต้องไปโรงเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ?
ฉัน...ไปนอนก่อนก็แล้วกันนะ เจอกันพรุ่งนี้"เจสสิก้าส่งยิ้มบางๆให้
ก่อนจะหมุนตัวเดินสาวเท้าเร็วๆจากไปก่อนเสียงปิดประตูห้องจะดังขึ้น
เป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายกลับเข้าห้องนอนไปแล้ว ซอฮยอนละสายตาจากของในมือ
ร่างสูงเพรียวนั้นฟุบลงกับโต๊ะอีกครั้ง ในหัวครุ่นคิดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
ฉันอยากถาม...อยากรู้เหตุผลแต่ฉันก็ไม่กล้า
หมายความว่ายังไง...พี่กำลังทำให้ฉันรู้สึกแปลกไปรู้มั้ย...
พี่เจสสิก้า...พี่มัน.....ใจร้าย
.
.
.
"หื้อ?ซอฮยอนน่ะเหรอซึมไป?"เสียงสูงของเพื่อนรักถามขึ้น
ทิฟฟานี่พยักหน้ารับหลังจากที่เพิ่งจะเดินไปตามซอฮยอนในห้องนอน
หญิงสาวดูมีสีหน้ากังวลใจเมื่อเล่าถึงอาการแปลกๆของรูมเมทรุ่นน้อง
เจสสิก้าเม้มปากเล็กน้อยนึกเหนื่อยใจกับการรับฟังเรื่องนี้
"อืม ฉันเป็นห่วงแต่ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นคิดอะไรอยู่ ฉันถามว่าเป็นอะไรก็ตอบว่าเปล่าตลอด"
ทิฟฟานี่บอกมองไปที่ประตูห้องนั่งเล่นหวังว่าคนที่ถูกพูดถึงจะเดินเข้ามาซักที
เจสสิก้ามองอาการกระวนกระวายของเพื่อนสนิทก็ถอนหายใจออกมา
"เค้าคงเครียดเรื่องเรียนละมั้ง แล้ว...เมื่อไหร่เธอจะบอกไปซักทีล่ะว่าคิดยังไง"
เจสสิก้าถามพลางเอนหลังพิงโซฟาทำสีหน้านิ่ง
ทั้งที่ในใจนั้นรู้สึกเจ็บแปล๊บเมื่อต้องพูดให้กำลังใจเพื่อนแบบนั้น...
"เธอก็รู้ว่าฉันไม่กล้า ซอฮยอนยังเป็นเด็กม.ปลายอยู่เลยนะ
ฉันไม่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นหรอก"ทิฟฟานี่ค้านขึ้นมา แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ
เจสสิก้ามองหน้าเพื่อนสีหน้าเรียบเฉยเฉกเช่นทุกครั้งที่เป็น
"รักก็บอกไปสิ ยัยนั่นเค้าก็อายุไม่ได้ต่างจากเรามากขนาดจะไม่ประสาเรื่องพวกนี้หรอก"
เจ้าหญิงประจำวงบอกพลางตบไหล่เพื่อนเบาๆอย่างให้กำลังใจ
ทิฟฟานี่นั่งนิ่งคิดทบทวนคำพูดของเพื่อนที่แนะนำเธอ
ใช่แล้ว...ตอนนี้ฮวัง มิยองกำลังรักซอ จูฮยอน
ไม่สิ...รักมาตั้งนานแล้วต่างหากล่ะ
เพราะการที่จากบ้านมาไกลเวลาต้องอยู่คนเดียวบ้างครั้งก็เหงา
ก็มีเพื่อนๆในวงที่ยืนอยู่ข้างกายเสมอมามีแทยอนที่เคยเป็นรูมเมทด้วยกันคอยให้กำลังใ
จ
มีเจสสิก้าที่คอยอยู่ใกล้ๆเมื่อตอนยังพูดเกาหลีได้ไม่คล่อง
มียูริคอยทำให้หัวเราะอยู่บ่อยๆ แล้วยังมีคนอื่นๆที่ทำให้ทิฟฟานี่ยิ้มได้ทุกวันอีกล่ะ
และที่สำคัญไปกว่านั้นคนที่เป็นรูมเมทด้วยกันขณะนี้
ซอฮยอน...น้องเล็กสุดของวงที่มักจะคอยปลอบเวลาที่เธอร้องไห้คิดถึงบ้าน
แม้ว่าเด็กคนนั้นจะทำเหมือนที่แทยอนเคยทำเมื่อครั้งที่เคยเป็นรูมเมทกัน
แต่จะต่างกันก็คงที่ความรู้สึก...เวลาทิฟฟานี่ร้องไห้แทยอนมักจะกอดปลอบ
และพูดอะไรไปเรื่อยๆให้เธอสบายใจ
แต่สำหรับซอฮยอนเด็กคนนั้นก็แค่เข้ามากอดโดยไม่พูดอะไร
ไม่ถาม ไม่พูดปลอบ ก็แค่ปล่อยให้เธอร้องไห้จนพอใจ
แต่น่าแปลกที่พอเธอร้องไห้เสร็จแล้ว ทิฟฟานี่ก็มักจะพูดถึงสิ่งที่เธอคิดทุกครั้ง
โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดปากถามแม้แต่คำเดียว
และเมื่อเธอพูดจบสิ่งที่ซอฮยอนทำเป็นประจำก็แค่...ยิ้ม
แล้วบอกกับทิฟฟานี่ว่า........
'พี่หยุดร้องไห้แล้ว ไหนยิ้มตอบฉันหน่อยซิ เวลาพี่ยิ้มน่ะน่ารักมากเลยรู้มั้ย?'
หากว่าทิฟฟานี่ไม่ได้คิดไปเอง เธอคงได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรง
ทุกครั้งที่ซอฮยอนพูดแบบนั้นและยิ้มให้เธอ.........
"เอาไว้ฉันพร้อมแล้วค่อยพูดดีกว่า ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าพอ"
ทิฟฟานี่บอกขึ้นหลังจากคิดทบทวนอยู่นาน เธอยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะบอก
ไม่กล้าทำลายความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ซอฮยอนมอบให้
ขอฉัน....เป็นพี่สาวของเธอไปแบบนี้ก่อนเถอะนะ ซอฮยอน......
"งั้นก็แล้วแต่เธอ.."เจสสิก้าบอกเสียงเบาเหมือนไม่ค่อยใส่ใจกับมันเท่าใดนัก
ดวงตาสวยมองไปนอกหน้าต่างของห้องราวกับมีอะไรให้ขบคิดมากมาย
"ขอโทษที่ฉันมาช้านะคะ"แล้วคนที่ถูกกล่าวถึงนานสองนานก็เดินเข้ามา
รอยยิ้มบางระบายบนใบหน้าอ่อนเยาว์ของน้องเล็กของวง
"มาแล้วก็รีบไปกันเถอะ เสียเวลามานานแล้ว"เจสสิก้าเด้งตัวขึ้นจากโซฟา
ช่วยดึงมือทิฟฟานี่ให้ลุกขึ้นแล้วเดินผ่านซอฮยอนออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร
ร่างสูงเพรียวยืนนิ่งมองตามพี่สาวคนรองประจำวงเดินผ่านไป
พี่เย็นชากับฉันอีกแล้ว....
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ จะไปร้องเพลงช่วยทำหน้าให้มันดีกว่านี้หน่อย"
ทิฟฟานี่เดินเข้าไปหาซอฮยอน ประคองใบหน้าของเด็กสาวเอาไว้
แล้วหมุนไปมาอย่างหยอกล้อปิดท้ายด้วยการดึุงแก้มนุ่มนั้นเบาๆ
ซอฮยอนยิ้มให้กับทิฟฟานี่บางก่อนจะพยักหน้ารับ.....
ตลอดการอัดเสียงในเพลงBad Oppaไม่รู้ว่าซอฮยอนคิดไปเองรึเปล่า
แต่รู้สึกเหมือนตัวเองโดนหมางเมินตลอด ทุกครั้งที่จะเข้าไปหาเจสสิก้า
อีกฝ่ายก็มักจะทำเหมือนมีอะไรต้องทำตลอดเวลา หรือบางทีก็นั่งตัวติดกับทิฟฟานี่
คุยแต่เรื่องร้องเพลงไม่มองหน้าเธอ อีกทั้งจะถามอะไรก็มักจะโยนให้ทิฟฟานี่
เป็นคนเอ่ยปากถามเธอเองตลอด...จะหลบหน้ากันไปถึงไหน
ทั้งๆที่ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่พี่จูบฉัน
เผื่อว่าอย่างน้อยพี่จะคุยกับฉันบ้างแล้วแท้ๆ
"ทิฟฟานี่ เดี๋ยวฉันมานะขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง"
เจสสิก้าหันมาบอกเพื่อนขณะที่นั่งฝึกร้องเพลงเพื่ออัดเสียงอีกรอบ
ร่างบางรีบหาทางเลี่ยงออกจากห้องในขณะที่ซอฮยอนมัวแต่ไปสนใจเครื่องเสียง
พอเดินออกมาโดยไม่มีใครเห็นได้ก็ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
อึดอัดจริงๆที่ต้องทำตัวแบบนี้...
เจสสิก้านึกเบื่อหน่ายกับตัวเอง ก่อนจะพาตัวเองเดินไปห้องน้ำใกล้ๆ
ถ้าขืนยังนั่งอยู่ในห้องนั้นมีหวังคงได้อกแตกตายเพราะสายตาของใครบางคน
ทั้งๆที่เธอพยายามหาทางหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงแล้วแท้ๆ
แต่ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพยายามหาทางพูดกับเธอให้ได้
แม้ตัวเจสสิก้าเองจะอยากคุยเหมือนกัน...แต่ก็เหมือนมีอะไรมาค้ำคออยู่
'รักก็บอกไปสิ ยัยนั่นเค้าก็อายุไม่ได้ต่างจากเรามากขนาดจะไม่ประสาเรื่องพวกนี้หรอก'
'เอาไว้ฉันพร้อมแล้วค่อยพูดดีกว่า ตอนนี้ฉันยังไม่กล้าพอ'
บทสนทนาก่อนจะมาที่บริษัททำให้เจสสิก้าต้องหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า
เพราะเรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้...เพราะเจสสิก้า จองเป็นเพื่อนของฮวัง มิยอง
เพราะจะรักคนๆเดียวกับเพื่อนไม่ได้
ถึงต้องทำตัวเป็นพี่สาวใจร้ายที่แสนเย็นชา
ไม่ได้อยากทำแบบนี้...แต่สถานการณ์ตอนนี้เจสสิก้าเลือกไม่ได้
ทิฟฟานี่รักซอฮยอน รักมาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ
เจสสิก้าไม่กล้าจะบอกว่าเธอเอง....ก็รักเด็กคนนั้น
ตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าหญิงน้ำแข็งไม่อาจล่วงรู้ได้ รู้ตัวอีกทีก็รักเข้าไปจนถอนตัวไม่ขึ้น
รู้ตัวทุกครั้งก็มีมือของเด็กคนนั้นคอยเกาะกุมไว้ไม่ห่างและเธอเองก็ตอบรับมัน
หัวใจมันรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้จับมืออบอุ่นของซอฮยอนแม้ไม่อาจสื่อสารออกมาด้วยคำพู
ดได้
ไม่จำเป็นต้องหันมามองหน้ากัน เพราะรู้ว่า....แค่เพียงจับมือกันไว้อย่างนี้
ยืนนิ่งๆอยู่ข้างกายกันและกันเท่านั้น เราก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกัน
ไม่ต้องบอกว่ารัก.....แต่แค่นั้นก็รับรู้ว่ารัก
เจสสิก้าเท้าแขนกับขอบอ่างล้างหน้าจ้องมองฝาแฝดของตัวเองในกระจกเงา
ในหัวก็ยังคงครุ่นคิดเรื่องของเด็กสาวที่ชื่อ ซอ จูฮยอน...
"ทั้งๆที่เธอเป็นแค่เด็ก...ทั้งๆที่เธออายุน้อยกว่าฉัน บ้าจริง..."
เจสสิก้าพึมพำกับตัวเองยกมือลูบหน้าตัวเองเผื่อมันจะทำให้หายเครียดลงไปได้บ้าง
จะต้องทำยังไงดี...ตัดใจยังไงดีล่ะ
เจสสิก้า จอง..เธออ่อนไหวเกินไปแล้ว ก็แค่เค้าคอยจับมือเธอเอาไว้
แค่นั้นก็อ่อนไหวแล้วอย่างนั้นเหรอ...เธออายุเท่าไหร่แล้ว
หวั่นไหวกับเรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นั้นน่ะเหรอ?
เธอต้องช่วยทิฟฟานี่สิถึงจะถูก เพื่อนของเธอรักซอฮยอนมาตั้งนานแล้วนะ..
รักมาก่อนที่เธอจะรักซะด้วยซ้ำ
แกร๊ก...
เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้เจสสิก้าสะดุ้งเฮือก เงยหน้าขึ้นมองสะท้อนกระจก
แม้คนที่ยืนอยู่จะทำให้ตกใจไม่น้อย แต่เธอก็รู้ว่าไม่ควรแสดงออกมาทางสีหน้า
"ซอฮยอนเองเหรอ...มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันสินะ ฉันเสร็จแล้วล่ะ ไปรอที่ห้องอัดนะ"
เจสสิก้าบังคับเสียงให้เป็นปกติส่งรอยยิ้มเอ็นดูให้อีกฝ่ายเช่นทุกครั้ง
ก่อนจะหาข้ออ้างหลบหลีกไปก่อน แต่ก็ดูว่าอีกฝ่ายจะรู้ทัน
"ฉันอยากคุยกับพี่ก่อน"ซอฮยอนยืนขวางทางไว้ พลางบอกด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
เจสสิก้าเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า สีหน้าเรียบดูไม่สบอารมณ์แบบนี้
ไม่้เคยเห็นซอฮยอนทำต่อหน้าใครเลยซักครั้ง...
"คุยอะไรล่ะ ไปคุยที่ห้องโน้นก็ได้"เจสสิก้าพยายามหลีกเลี่ยง
แล้วพยายามหาทางหนีแต่ซอฮยอนก็ดูจะรู้ทันไปซะหมด
"พี่หลบหน้าฉันทำไม?"ซอฮยอนถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"หลบหน้า?พูดอะไรของเธอน่ะ ฉันจะหลบหน้าทำไม เธอมาเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ?
รีบเข้าซะสิ เราจะได้รีบๆทำงานรีบๆกลับบ้าน"เจสสิก้าเริ่มขึ้นเสียงสูงอย่างไม่พอใจ
เวลาที่เจสสิก้าทำแบบนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากำลังโมโห และก็ไม่มีใครกล้าตอแย
แต่ครั้งนี้ซอ จูฮยอนจะขอไม่กลัวซักครั้งก็แล้วกัน...
"อย่าเปลี่ยนเรื่อง ถ้าไม่ได้หลบหน้าฉันแล้วทำไมถึงไม่ยอมคุยกับฉัน"
ซอฮยอนถามแขนกางกั้นไม่ให้เจสสิก้าหนีไปไหน
"ก็ฉันไม่มีอะไรจะคุย ถอยไปนะซอ จูฮยอนอย่าให้ฉันโมโห"
เจสสิก้าบอกพลางจ้องหน้าซอฮยอนนิ่งด้วยความโกรธ
"แต่ฉันมี...ตกลงพี่คิดยังไงกันแน่"
"คิดอะไรของเธอ?"คำถามแปลกๆนั้นทำให้เจสสิก้าเลิกคิ้วขึ้นสูง
ซอฮยอนจ้องหน้าสวยของคนตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจพูด
"คิดยังไงกับฉัน...พี่คิดยังไงกับฉันกันแน่"คำถามเหมือนจี้ตรงจุดเข้าอย่างจัง
เจสสิก้ายืนนิ่งไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเอ่ยถามตรงไปตรงมาแบบนี้
"คิด..คิดยังไง ถามอะไรแบบนั้น"
".........."
"ก็....คิดแบบพี่น้องไง"ความเงียบของซอฮยอนทำให้เจสสิก้าจำใจตอบออกมา
....เปล่าเลย....ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น...แต่ฉันบอกออกไปไม่ได้
"ฉันไม่เชื่อ"ซอฮยอนตอบเสียงแข็ง
"ไม่เชื่อแล้วจะให้ฉันทำยังไง จะให้ฉันคิดกับเธอแบบไหนกันล่ะ หึ๊?"
เจสสิก้าย้อนถามเสียงสูง ใจอยากจะออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
กลัวจริงๆ..กลัวใจตัวเอง...กลัวเผลอบอกอะไรบางอย่างออกไป
"คิดแบบที่ฉันคิด..."
"คิดแบบไหนกันล่ะ"
"คิดแบบคนรัก"
"........................."คำตอบของซอฮยอนทำให้เจสสิก้านิ่งค้างไปในทันที
ซอฮยอนเม้มปากแน่น มองไปในกระจกก่อนจะหันมาจ้องมองเจสสิก้าอีกครั้ง
"ฉันคิดกับพี่แบบคนรัก ฉันไม่ได้เห็นพี่เป็นพี่เลยแม้แต่น้อย..."
"บ้าไปแล้วหรือไงซอฮยอน!!เธอเพิ่งจะอายุเท่าไหร่ แล้ว..แล้วฉัน..
ฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้นด้วย ถอยไปฉันจะกลับไปที่ห้อง!!!"
เจสสิก้าขัดขึ้นก่อนที่ซอฮยอนจะพูดจบ มือดันร่างสูงของซอฮยอนให้พ้นทาง
แต่ก่อนที่จะทันได้ก้าวออกจากประตูห้องน้ำ คำถามที่ซอฮยอนถามขึ้นก็ทำให้ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
"ถ้างั้นพี่จูบฉันทำไม...ในห้องครัวพี่จูบฉันทำไม?!!"
"......................"
"พี่รู้มั้ย?พี่น้องกัน...เค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอก......."
********************************************************
TBC.
Talking :: ฝากด้วยนะคะ ฟิตฝั่งโซนยอค่ะ~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น