คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4 ....King VS Joker(100%)
"สวัสดี.. (กลับ)มาแล้วหรือ?"
!!!
คำทักทายของผู้ชายตรงหน้าทำให้ผมขมวดคิ้ว เขาทักเหมือนกับว่าเขารู้ว่าผมกำลังจะมาและเขาเองก็รอผมอยู่อย่างงั้นแหละ อาจจะเป็นคำทักทายเพื่อนใหม่ของเขาก็ได้หรือไม่แล้วเขาก็อาจจะละเมอ ดังนั้นแล้วผมจึงตอบกลับไปว่า
"อืม (กลับ)มาแล้ว"
คนตรงหน้ายิ้มกว้างให้ผมที่ทรุดตัวลงนั่งอย่างงงๆ แล้วสังเกตเพื่อนใหม่(งั้นมั้ง)เงียบๆ คนตรงหน้าเป็นผู้ชายที่ตัวไม่สูงมากขนาดฟาร์คัส และดูๆไปแล้วเขาก็คงจะสูงน้อยกว่าผมอยู่ไม่มาก ใบหน้าของเขาดูสะลึมสะลืออยู่หน่อยๆแต่ก็ดูดีแม้จะค่อนไปทางน่ารักมากกว่าจะชมว่าหล่อก็เถอะ แล้วเขาเองก็กำลังมองผมอยู่เหมือนกัน แต่มองเหมือนกับที่มองเพื่อนสนิทที่ไม่เจอกันนาน ไม่ใช่มองอย่างสังเกตเหมือนที่ผมมองเขาอยู่
"นาย..ซินเซียร์สินะ" คนตรงหน้าถาม ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
ทำไมเขาถึงรู้ชื่อผมได้ล่ะ!!?
"ฉันวีแกน วีแกน ไดวีน ...อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคนสวย มีไม่กี่คนหรอกนะที่ย้ายเข้าเมืองคูปท์ในรอบยี่สิบปีมานี้ เชื่อเถอะว่านอกจากฉันแล้วมีคนอีกเยอะที่รู้จักนายและแม่ของนาย" เขาพูดพลางหาวไปพลาง ก่อนจะหยิบเอาสมุดกับดินสอออกมาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้า ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอีกทีก่อนจะพูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคน
"นายก็ควรจะเอาออกมาเหมือนกันนะ เพราะอีกสองนาทีอาจารย์คาบแรกจะเข้าแล้ว"
ผมขมวดคิ้วก่อนจะมองคนพูดอย่างสงสัย แต่ก็หยิบสมุดกับเครื่องเขียนออกมาตามที่วีแกนบอก และไม่นานหลังจากนั้น ชายวัยประมาณสี่สิบปีเศษที่ไว้หนวดทำให้ใบหน้าดูโหดก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับชีทกระดาษปึกหนาในมือ ผมหันไปมองวีแกนอย่างทึ่งๆ
นี่ถ้าเขาไม่ใช่คนช่างสังเกตอย่างร้ายกาจ ผมคงนึกว่าเขาเป็นพวกนักทำนายอะไรเทือกๆนั้นซะอีก
!!
.
.
.
วิชาเรียนคาบเช้าเป็นไปอย่างน่าเบื่อในความคิดของผม วิชาประวัติศาสตร์แล้วต่อด้วยวิชาการเรียนภูมิศาสตร์ช่างเป็นการจัดตารางเรียนที่ผิดมหันต์ในความคิดของผม ส่วนวีแกนที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆก็ฟุบหลับไปตั้งแต่เรียนประวัติศาสตร์ได้ยังไม่ถึงครึ่งคาบและนักเรียนส่วนใหญ่ในห้องก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน ผมเองที่ไม่ได้มีนิสัยชอบหลับในห้องเรียนก็ยังเกือบหลับตามเขาไปเหมือนกัน เพราะอาจารย์สอนเหมือนกับมาอ่านหนังสือให้นักเรียนฟัง จะไม่ให้เด็กหลับก็แปลกละ
อาจารย์เดินออกจากห้องไปได้เกือบๆสิบนาทีหลังจากที่ออดดังแล้ว ผมจึงเก็บของลงกระเป๋าแล้วเขย่าแขนวีแกนเบาๆ เขาตื่นขึ้นมาขยี้ตาแล้วมองไปรอบๆห้องก่อนที่จะสะดุ้งเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้ก่อนจะกวาดของทุกอย่างใส่เป้ของตัวเอง
"เซียร์ ฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกันคาบบ่าย"
วีแกนว่าแล้วรีบวิ่งออกจากห้องราวกับกำลังหนีอะไรสักอย่าง ผมมองตามเขาไปอย่างงงๆ ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากห้องแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นฟาร์คัสเดินเข้าห้องมาพอดี
"นายมาทำอะไรที่ตึกนี้ล่ะฟาร์คัส?" ผมถามเมื่อฟาร์คัสเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ท่าทางเข้าไม่ชอบใจเลยที่เดินขึ้นมาที่ตึกนี้
"มาพาไปโรงอาหาร คิดว่าเมื่อเช้าคงลืมบอกนายก่อนไป"
ผมพยักหน้าแล้วเดินตามคนตัวสูงที่เดินหันหน้าหันหลังเหมือนกับระแวดระวังอะไรสักอย่าง โรงอาหารเป็นอาคารชั้นเดี่ยวที่ต้องเดินผ่านสนามบอลที่ผมเห็นเมื่อเช้าไปเล็กน้อย ด้านในมีที่นั่งอยู่ไม่มากไม่น้อยไปกว่าจำนวนนักเรียนสักเท่าไหร่ แต่ที่แปลกคือที่นั่งแบ่งเป็นสามโซนอย่างเห็นได้ชัด โซนแรกทางขวามือเป็นพวกนักเรียนชายตัวโตๆที่ส่วนใหญ่ในนั้นใส่เสื้อแจ็คเก็ตนักกีฬากับนักเรียนหญิงที่แต่งตัวแบบโชว์หุ่นสวยงามของพวกเธอและทั้งหมดกำลังคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน โซนต่อมาที่อยู่ตรงกลางเป็นพวกเด็กที่ดูปกติธรรมดาที่สุดในความคิดของผม ส่วนโซนที่อยู่ขวาสุดพวกเขานั่งกินกันเงียบๆ แต่ใครคนนึงในพวกนั้นกำลังจ้องผมอย่างไม่วางตา และผมไม่สามารถอธิบายได้ว่าเขาจ้องผมแบบไหน หรือเพื่ออะไร รู้เพียงว่าเขามองมาที่ผมนิ่งๆจนผมต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา ฟาร์คัสที่เหมือนจะเห็นเหตุการณ์ดันตัวผมไปด้านหลังของเขาแล้วเอาตัวของเขาบังผมไว้
"เขา.. พวกนั้นเป็นใคร?" ผมกระซิบถามเขาเสียงเบาหวิวอย่างที่ผมอดจะแปลกใจไม่ได้
"ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปยุ่งกับพวกนั้น นายสัญญาไว้แล้วนะ" ฟาร์คัสพูดแต่ก็ยังเอาตัวบังผมไว้เหมือนเดิม จนกระทั่งเรารับอาหารกลางวันกันแล้วฟาร์คัสจึงพาผมไปนั่งที่โซนแรก ผมเพิ่งรู้ว่าโซนนี้เป็นโซนสำหรับเด็กห้องซีของแต่ละชั้น และเด็กที่นั่งอยู่โซนนี้ก็เป็นเพื่อนร่วมถึงรุ่นน้องที่สนิทกับฟาร์คัสทั้งสิ้น และทุกคนดูจะเป็นมิตรกับผมยกเว้นพวกผู้หญิงที่ออกอาการไม่พอใจผมอย่างชัดเจน
ผมมองไปที่โซนเอ(ฟาร์คัสบอก) ผู้ชายคนเดิมยังคงจ้องผมอยู่ แต่ต่างจากเดิมตรงที่ครั้งนี้แววตาของเขาฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน และครั้งนี้ผมเองก็จ้องเขากลับแทนที่จะหลบเขาเหมือนครั้งที่แล้วจนเขาเป็นฝ่ายละสายตาไปเอง ผมมองอย่างไม่เข้าใจแต่พอหันไปมองที่โซนบี(ตรงกลาง)ผมก็เห็นใครคนนึงที่มองมาที่ผมแล้วส่งยิ้มกว้างมาให้ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเหมือนพยายามหลบอะไรสักอย่างอยู่ และผมไม่ลังเลเลยที่จะคว้ามื้อกลางวันที่มีเพียงนมกล่องกับขนมปังหนึ่งก้อนของตัวเองเดินไปนั่งข้างๆวีแกนที่หันรีหันขวางอย่างระแวดระวังแล้วพูดราวกับคนจะร้องไห้
"นายเดินมาทำไมกันเซียร์ โธ่! นายกำลังจะทำให้ฉันเดือดร้อนนะ" วีแกนพูดด้วยน้ำเสียงพ้อๆ ผมยกยิ้มมุมปากอย่างขำๆ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าวีแกนกำลังหลบอะไรสักอย่งอยู่.. ไม่สิเขากำลังหลบใครอยู่ต่างหาก!!
"นั่งด้วยคนสิ"
น้ำเสียงติดจะเย็นชาดังขึ้นพร้องกับที่ร่างสูงที่มีผิวขาวซีดไร้สีเลือดจะทรุดกายลงนั่งอยู่ตรงข้ามกับผม คิ้วของผมขมวดเข้าหากันทันทีที่เห็นใบหน้าของคนตรงหน้า
เป็นเขา!!
"อ๊ะ! ..อ๋อๆ ได้สิคาร์ริบเบียน"
ในขณะที่ผมกำลังนิ่งอึ้งที่อยู่ๆ วีแกนก็พยักหน้าอนุญาตให้คนตัวสูงนั่งลงที่อีกฝั่งของโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งเขาเป็นคนที่ผมก็ไม่คิดว่าจะต้องมาข้องเกี่ยวและยังเป็นคนเดียวกับที่ผมสัญญาไว้กับฟาร์คัสว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด แต่ตอนนี้เขากลับกำลังนั่งลงตรงข้ามกับผมและกำลังจ้องผมอย่างไม่วางตาเสียด้วย อะไรบางอย่างในตัวของผมกำลังกรีดร้อง อะไรบางอย่างกำลังเตือนว่าคนตรงหน้าอันตรายต่อผมอย่างสิ้นเชิง ผมกำลังจะหันไปมองดูฟาร์คัสแต่เสียงตบโต๊ะที่ดังสนั่นก็ดังขึ้นเรียกความสนใจเสียก่อน
ปึ้ง !!
"ไปซะ.. อย่ายุ่งกับเขา!"
ฟาร์คัสร้องบอก น้ำเสียงของเขาบ่งบอกชัดเจนว่าโกรธมาก มากอย่างที่ผมไม่เคยคาดคิดว่าคนที่มักจะอารมณ์ดีอย่างเขาจะโกรธได้มากและรุนแรงถึงขนาดนี้ แวบนึงผมเหมือนกับจะเห็นว่านัยน์ตาสีน้ำตาลของเขากลายเป็นสีแดงอย่างน่ากลัว แต่มันก็แค่แวบเดี๋ยวเท่านั้นจนผมคิดว่าผมอาจจะแค่ตาฝาดไปเท่านั้น
" ... "
คาร์ริบเบียนไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าของเขาแทบจะไม่แสดงอาการใดๆ ยกเว้นแต่เพียงมุมปากที่ยกยิ้มคลายจะเยาะและแววตาที่ไม่ได้แสดงออกว่ากลัว ทว่ามันกลับมีแววสะใจและท้าทาย นั่นยิ่งทำให้ฟาร์คัสยิ่งโกรธมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ มือของเขากำแน่น
ผมเห็นท่าไม่ดีจึงจับแขนของฟาร์คัสไว้เป็นจังหวะเดียวกับที่ฟาร์คัสพุ่งตัวเข้าหาคาร์ริบเบียน พริบตาเดียวเท่านั้นผมก็เห็นว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ด้านหลังของคาร์ริบเบียนมีพวกเพื่อนๆที่โต๊ะโซนเอยืนเรียงกันหลายสิบคน ในขณะที่ด้านหลังพวกเพื่อนๆของฟาร์คัสก็ยืนออกกัน สิ่งที่ผมสังเกตได้ว่าทั้งสอง่ายมีเหมือนกันคือความเกลียดชังในแววตาและทั้งสองฝ่ายเตรียมตัวจะกระโจนเข้าใส่อีกฝ่ายเต็มที
" เขาเป็นคนของฉัน!! นายและพวกของนายไม่มีสิทธิ์ยุ่ง!!!"
ฟาร์คัสพูดย้ำเสียงดัง แววตาจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง น่าแปลกที่เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าของผมนี้ก็ดูจะเป็นเหตุการณ์การปะทะกันที่ดูรุนแรงอยู่ระดับหนึ่ง แต่แปลกตรงที่ว่าไม่มีอาจารย์ฝ่ายปกครองหรือคนดูแลรักษาความปลอดภัยเข้ามาห้ามสักคน และที่ดูจะแปลกมากๆเป็นพิเศษก็คือนักเรียนคนอื่นๆที่ยังนั่งกินมื้อกลางวันต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่มองมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ !!
"ฟาร์คัส...หยุดเถอะ เขาไม่ได้ทำอะไรฉันสักหน่อย" ผมพูดแล้วดึงแขนของฟาร์คัสเรียกสติคนที่โกรธจะเกือบจะคุมสติไม่อยู่ ถือว่าได้ผลเพราะอย่างน้อยฟาร์คัสก็หันมามองผมด้วยอารมณ์โกรธที่ลดลงไปบ้างพอสมควร แต่ก็ยังมีบ้างที่เขาจะมองไปที่อีกฝั่งของโต๊ะอาหารด้วยแววตากรุ่นโกรธ
" ไปเถอะซิน ฉันไม่ควรจะปล่อยให้นายอยู่ห่างจากฉันเลย" เขาพูดแล้วลากแขนของผมให้เดินตามเขาไปอย่างเร็ว ผมหันไปส่งสายตาบอกวีแกนว่า'เจอกันที่ห้องนะ' ซึ้งวีแกนก็พยักหน้าแล้วยิ้มแหยๆ ส่งมาให้ และก่อนที่ผมจะเดินตามแรงลากของฟาร์คัสไป ผมก็เห็นรอยยิ้มแปลกๆของคาร์ริบเบียนพร้อมกับเสียงกระซิบที่ทำให้ฟาร์คัสถึงกับกำข้อมือของผมแน่น
"เฝ้าคนของนายไว้ให้ดีแล้วกัน..."
!!!
.
.
.
บ่ายโมงตรงฟาร์คัสก็เดินมาส่งผมที่ห้องด้วยสีหน้าบึ้งตึงหลังจากที่ต้องเถียงกับผมอยู่นาน เนื่องจากเขาต้องการให้ผมย้ายไปเรียนที่ห้องเดียวกับเขาแต่ผมปฏิเสธและยืนยันว่าจะเรียนที่ห้องเดิม เขาค่อนข้างหัวเสียในช่วงแรกแต่ผมก็ยังไม่เปลี่ยนใจเพราะเคืองที่เขาไม่ยอมตอบคำถามผมว่าทำไมถึงได้โกรธเกลียดกันรุนแรงกับคาร์ริบเบียนขนาดนั้น
"ตอนเย็นฉันจะมารับนายที่ห้อง อย่าไปไหนและ---"
"อย่ายุ่งเกี่ยวกับพวกคาร์ริบเบียน นายกำลังจะพูดแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?"
ผมพูดดักฟาร์คัสที่สวมบทผู้ปกครองเด็กเกรดหนึ่งเป็นรอบที่สองภายในเวลาไม่ถึงห้าชั่วโมง เขาพยักหน้าแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อยแต่มันกลับดูอ่อนแรงอย่าบอกไม่ถูก ผมมองเขานิ่งๆไม่ได้พูดอะไรออกมาจนฟาร์คัสหันหลังแล้วเดินลงบันไดไปตึกที่เขาเรียน
"ไง เซียร์.." วีแกนเดินมาจากทางไหนผมก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าเขาดูเหมือนกำลังหลบหรือไม่อยากเจอหน้ากับอะไรสักอย่างอยู่ และถ้าให้ผมเดา คนที่วีแกนกำลังหลบหน้าก็คือ ฟาร์คัส แต่ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็เท่านั้น
"นายกำลังหลบหน้าฟาร์คัสอยู่หรือไง?" ผมถามคนหน้าหวานที่เตี้ยกว่าผมอยู่เล็กน้อย วีแกนหันมาทำตาโตใส่ก่อนที่จะปฏิเสธเป็นพัลวันทว่าสายตากลับหลุกหลิกอย่างคนที่กำลังโกหก ผมยิ้มมุมปาก ค่อนข้างมั่นใจว่าใช่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ใบหน้าหวานของวีแกนซีดลงเมื่อรู้ว่าผมคงไม่เชื่อเขา
"นายคงจะเล่าสาเหตุที่เกิดเรื่องเมื่อตอนกลางวันได้สินะ?" ผมถามวีแกนที่มองผมอย่างลังเลแต่ก็ยอมพยักหน้าตกลง เราสองคนเดินเข้าไปในห้องเรียนที่ยังไม่มีนักเรียนคนอื่นๆเข้ามาเลยสักคน
"นายน่าจะเดาได้นะเซียร์ ว่าสองกลุ่มนั้นไม่ถูกกัน !?" วีแกนเริ่มต้นเล่า ผมพยักหน้าตอบแล้วมองคนเล่านิ่งๆ
" ที่นี่เราเรียกกลุ่มของฟาร์คัสว่าโจ๊กเกอร์ และเรียกกลุ่มของคาร์ริบเบียนว่าคิงส์ ในสำรับไพ่คิงส์คือไพ่ที่มีค่าสูงแต่อย่าลืมว่าโจ๊กเกอร์ก็เป็นไพ่ที่สูงค่าไม่แพ้กัน เมื่ออำนาจสองขั้วที่มีค่าสูงกินกันไม่ลงมาเจอกันย่อมไม่สามารถเข้ากันได้ และยิ่งเป็นพวกเขาก็ยิ่งไม่ควรให้มาเจอกันเลยจะดีที่สุด ถ้านายจะคิดว่านี่เป็นเรื่องไร้สาระจำพวกแก๊งนักเรียนทะเลาะกันล่ะก็ ไม่ใช่เลยเซียร์... มันมีอะไรมากกว่านั้น อะไรที่นายยังไม่ควรจะรู้ตอนนี้ ไม่สิ!.. นายไม่ควรจะรู้จากฉันต่างหาก"
วีแกนพูดเสียงราบเรียบไม่แสดงอาการใดๆ ผมมองเขาอย่างไม่เข้าใจ มันเหมือนกับผมกำลังฟังเรื่องราวตำนานหรือนิทานอะไรสักอย่าง อะไรสักอย่างที่อยู่นอกเหนือไปจากที่จินตนาการของจะสามารถไปถึง
"ถ้างั้นใครที่จะสามารถบอกฉันได้ล่ะ!?" ผมถามอย่าไม่เข้าใจ วีแกนยิ้มแปลกๆก่อนที่จะถามคำถามที่ทำให้ผมยิ่งงงขึ้นไปอีก
"นายเชื่อในโชคชะตาแค่ไหนกันล่ะ??"
!!!
!!
!
( 100%)
############################################################################
ความคิดเห็น