ข้อมูลเบื้องต้น
ณ ประเทศไทย เช้าวันจันทร์เวลา 5.30 am
เจ ตื่นๆ ตื่นได้ลูกแล้ววันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกนะ เสียงคุณแม่ดังก้องโสตประสาท
เด็กชายสะดุ้งลุกขึ้นมาจากเตียงขนาดใหญ่ที่พอสำหรับคนห้าคนนอนได้สบายอย่างงัวเงีย มองซ้ายมองขวา แล้วลุกขึ้นไปชำระร่างกายเตรียมตัวต้อนรับวันเปิดเทอม
ซ่าๆ! เสียงน้ำอุ่นที่ตกกระทบร่างบาง อาจจะทำให้ร่างกายสดชื่นแต่ไม่อาจลบเลือนความน่าเบื่อของวันเปิดเทอมในฤดูการใหม่ได้
ผมชื่อ เจ ครับ ผมก็เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่ง อายุ13ปี ที่เป็นนักเรียนของโรงเรียนในเครืออัสสัมชัญ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่น่าเบื่อสุดๆหลังจากที่มีความสุขจากวันปิดเทอมไม่นาน ปีนี้ก็เข้าสู่ศักราชใหม่ของปี 2007 ที่ผมจะต้องเลื่อนชั้นไปเป็นนักเรียนชั้น ม.2 แต่ก็อย่างว่าหละครับมีใครหน้าไหนจะอยากไปโรงเรียนมั่ง เฮ้อคิดแล้ว เซ็งจิต
ปี๊นๆ!ปิ๊นๆ! เสียงแตรรถบีบรัวราวกับจะเร่งให้ไปวิ่งโอลิมปิก
ผมรีบจัดเตรียมของแล้วแล้วกระโดดขึ้นรถแล้วไปนั่งที่ประจำของตัวเอง ในใจก็คิดเสียดายเวลาปิดเทอมเพราะไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากนัก เอาแต่เล่นเกมแล้วก็อ่านนิยาย อีกใจก็คิดถึงบ้านเพราะผมเป็นเด็กหอน่ะครับ
รถค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ภาพบ้านของตัวเองค่อยๆลางเลืองขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งหายลับตาไป สองตาค่อยๆปิดลงช้าๆ
หัวสมองก็คิดแต่เรื่องของเปิดเทอมครั้งใหม่ จนกระทั่งผล็อยหลับไป
กึก! เด็กหนุ่มร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะรถตู้มันหยุดกะทันหัน
ถึงแล้วหรอเนี่ย ยังง่วงอยู่เลย!
รถจอดสนิทอยู่หน้าหอพักชายที่สร้างขึ้นมาใหม่แทนหอเดิมที่นำไปใช้เป็นอาคารเรียน intensive(อินเท็นซีฟ) หรืออาคารเรียนสอนหลักสูตรการเรียนภาคภาษาอังกฤษ หอพักนี้เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สามชั้นที่เพิ่งสร้างได้ไม่นานยังไม่ถึงสองปี
ข้าวของสัมภาระทุกอย่างของผมยกเว้นกระเป๋านักเรียนถูกวางกองพะเนินอยู่หน้าหอพัก
เด็กร่างบางรีบหิ้วกระเป๋านักเรียนวิ่งไปหน้าโรงเรียน เพราะวันนี้ต้องวุ่นวายแน่ๆ วันเปิดเทอมวันแรกต้องหาห้องแล้วก็อะไรสารพัด
อ้อ! นึกว่าลืมอะไร ผมลืมเล่าประวัติของโรงเรียนนี้นี่เอง!
โรงเรียนที่ผมเรียนอยู่หรืออัสสัมชัญคอนแวนต์ ลำนารายณ์ เป็นโรงเรียนคริสต์ บริหารงานโดยมาร์เซอร์ อัลฟองส์ วรศิลป์ เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานเองครับแต่! พื้นที่ก่อนที่จะมาสร้างโรงเรียนนั้นเก่าแก่มากเลยครับ บริเวณโดยรอบอาจเรียกได้เลยว่าเป็นป่า แต่ก็ไม่บ้านนอกนะครับ ของเก่ามันก็ต้องคู่กับสิ่งลี้ลับเป็นธรรมดา เรื่องเล่าประวัติของพื้นที่นี้มีมากมาย บ้างก็ว่าเป็นที่ของขอมเก่า บ้างก็ว่าเป็นป่าช้าเก่า และหน้าโรงเรียนของผมก็มีอะไรที่น่ากลัวอยู่อย่างนึง (ผู้อ่านไปหาเอาเองในกูเกิลน่าจะมีนะครับ) แต่ผมไม่บอกหรอกครับ เฮ้อไม่เล่าละ กลัว!
ตึกๆๆๆๆ! ผมวิ่งอย่างรวดเร็ว สองตาก็กวาดตาหาเพื่อน
จะไม่ทันแล้วๆ โรงเรียนจะขึ้นแล้วๆ
เหงื่อแตกพลั่กๆ เนื่องจากว่าระยะทางจากหอไปหน้าโรงเรียนมันไกลพอดู โรงเรียนนี้ก็กว้างเหลือเกิน
ฟิ้ว~ว เหมือนกาลเวลาหยุดนิ่ง สายลมโบกสะบัดพัดปอยผมที่ยังไม่ตัดเกรียนปลิวไสวไปมา สายตาของผมเหลือบไปเห็นไปเห็น อ๊าก นั่นมันสาวน้อยน่าร๊ากน่ารักนี่
รู้สึกว่าผมละสายตาจากเธอไม่ลง สองขาก็ยังก้าวต่อไปเรื่อยๆด้วยความสามารถพิเศษที่ไม่รู้จะพิเศษรึปล่าว
ตึง! เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินและความรู้สึกเจ็บแปลบๆที่หน้าผาก ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดไปหมด
สาวน้อย สาวน้อยน่ารักไปไหนแล้วจ๊ะ จู่ๆคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเล็กๆก็ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมพร่ามแปลกๆหน้าตาเฉย ทำเอาคนรอบข้างหัวเราะกันไม่หยุด
สาวน้อยไหนวะไอ้คุณเจ เสียงกวนๆดังขึ้นจากข้างเตียงที่เจผู้น่าสงสารนอนอยู่
ที่นี่มันที่ไหนวะ การเปลี่ยนบทถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้ขายหน้าไปมากกว่านี้
อ่าว นี่ก็ห้องพยาบาลไง ตาบอดรึไงนี่เพื่อนเรา กรูเห็น *** ไปนอนสลบอยู่ใต้ต้นไม้น่ะ กรูเลยแบก *** มากับอ้ายซัน แบงค์เพื่อนของผมพูดด้วยน้ำเสียงติดตลก ข้างๆเตียงอีกฟากนึงก็เป็นเพื่อนตัวใหญ่ อ้ายซันนั่นเอง
แบงค์กับซันเป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุด อ้ายแบงค์เนี่ยมันเตี้ยๆดำๆแต่มันก็ดูดีมีสาวจีบ อ้ายซันมันก็เป็นคนตัวใหญ่ๆแต่ใจดี
ต้องรีบแล้ว เจยังไม่เห็นรายชื่อห้องเลยอ่ะ ผมสลบอยู่ที่ห้องพยาบาลตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ป่านนี้เค้าไม่เข้าไปห้องเรียนกันหมดแล้วรึ
โถๆ คุณเจเด็กดี ไม่ต้องรีบหรอก คุณมาเซอร์ท่านยังเทศน์ไม่เสร็จเลย เออ แล้วแกน่ะก็อยู่ห้อง 2/6 แบงค์ยังไม่ทันพูดจบผมก็รีบก้าวฉับๆออกจากห้องพยาบาล ลงมาหาแถวของห้องที่ชั้นล่าง
โรงเรียนนี้เป็นอาคาร 4 ชั้น ห้องพยาบาลชายที่ผมนอนอยู่ อยู่ชั้นสอง
แฮกๆ ผมรีบมากเกินไปจนวิ่งหอบมาเลย ผมเป็นคนสุขภาพไม่แข็งแรงเลยทำอะไรหนักๆไม่ได้
ฟิ้ว~ว แล้วลมประหลาดนั่นก็พัดมาอีกครั้งพร้อมๆกับใบหน้าอันงดงามของผู้หญิงที่ผมเพ้อ
ปึก! ตึง! เสียงคุ้นหูที่คล้ายจะบ่งบอกว่าคุณกำลังสลบอีกครั้งดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่กำลังล้มคะมำ
สายตานับพันหันมามองราวกับมีมหกรรม คราวนี้สติผมกลับมาเต็มเปี่ยม ด้วยความอายหรือด้านก็ไม่รู้ผมรีบเดินฉับๆไปในหมู่เพื่อนฝูงอย่างไม่อายใคร
เสียงเทศนาผ่านไมค์ บรรยายสดโดย มาร์เซอร์ อัลฟองส์ ทำให้เสียงทั่วอาณาบริเวณเงียบไปถนัดตา อาจจะเป็นมารยาทสังคมหรือความกลัวก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็มีเสียงจ๊อกแจ๊กเล็กน้อยโผล่มาประปราย ใครล่ะน้อจะไปห้ามปากตัวเองได้เต็มร้อย
แล้วในขณะนั้นเอง ผมก็เกือบจะหลับแล้วแต่ก็
แปลก! ทำไมเงียบผิดปกติ เสียงคนก็ไม่มี เสียงนกก็ไม่มี!
ปีนี้เป็นปีที่พิเศษสุด พระเจ้าได้ประทานพระพรให้เด็กทั้งสิบเก้าคน เป็นพรอันประเสริฐ ดั่งพระพรแห่งอับราฮัม พอเสียงประกาศแปลกๆผ่านไมด์จบแล้วสรรพสิ่งรอบตัวก็บังเกิดเสียงอีกครั้ง!
<<เด๋วมาต่อ
ความคิดเห็น