ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความลับของซุปตาร์ #KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #8 : -EP8 การกลับมาของความปวดร้าว

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 56


    อากาศหนาวเย็นในตอนเช้าเป็นผลเนื่องมาจากเมื่อคืนนี้มีหิมะตกโปรยปรายลงมาตลอดทั้งคืน แสงจากดวงอาทิตย์ด้านนอกสาดส่องเข้ามาในห้องนอนของชานยอลก่อให้เกิดแสงสว่างรำไรขึ้น บนเตียงขนาดเล็กของชานยอลมีทั้งร่างของคริสและชานยอลนอนกอดกันกลมด้วยความหนาวและเมื่อคืนทั้งสองก็เผลอหลับไปโดยไม่มีอาภรณ์ใดๆสวมใส่ที่ร่างซักชิ้น...มีแต่เพียงผ้าห่มผืนใหญ่ที่ทาบทับมาบนร่างของเขาทั้งสองเท่านั้น....

    คริสค่อยๆลืมดวงตาคมของเขาขึ้นมาช้าๆเมื่อรู้สึกตัวว่าตอนนี้คือรุ่งสางของเช้าวันใหม่แล้ว...เขามองไปที่ใบหน้านวลใสของชานยอลที่ตอนนี้ยังคงอยู่ในอ้อมกอดภายใต้แขนแกร่งของเขา...คริสอมยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน..........เช้านี้หากชานยอลตื่นขึ้นมา คงแทบจะไม่อยากเจอหน้าเขาเลยด้วยความเขินอาย....

    ปลายนิ้วเรียวยาวของคริสค่อยๆเกลี่ยลูบผมที่ลงมาปรกหน้าผากของชานยอลออกช้าๆและใช้ริมฝีปากของเขาบรรจงจูบไปเบาๆ.....เมื่อคืนเขามีความสุขมากและชานยอลเองก็คงเช่นกัน...ความรู้สึกหลายอย่างเกิดขึ้นในใจของคริส....เขาเริ่มสับสนว่าเมื่อคืนที่เขาทำไปทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเขาชอบชานยอลจริงๆหรือต้องการแค่กลั่นแกล้งชานยอลเท่านั้น......ตอนนี้แม้แต่ตัวคริสเองก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้...เขารู้แต่เพียงว่าในเวลานี้เขามีความสุขกับคนตรงหน้าก็คงเพียงพอแล้วสำหรับคำตอบทั้งหมด....

    ชานยอลพลิกขยับตัวช้าๆเมื่อเขาเริ่มรู้สึกตัว.....ดวงตากลมโตของชานยอลค่อยๆเปิดเปลือกตาออกเพื่อรับแสงอาทิตย์อ่อนๆที่สาดส่องเข้ามาในห้องยามเช้า....บ้าจริง...นี่ผมนอนกอดคริสทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย เขาสบถกับตัวเองเมื่อรู้สึกว่ามือของเขายังคงกอดรัดที่ร่างของคริสอย่างอบอุ่น...ชานยอลค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าคมคายของคริสและภาวนาให้คริสยังหลับอยู่ เขาจะได้รีบอาบน้ำแต่งตัวและออกไปข้างนอกเพื่อหลบหน้า...

    แต่เมื่อดวงตากลมโตของชานยอลเหลือบไปมองที่ใบหน้าคริสนั้น พลันสายตาของคริสก็กำลังมองมาที่ใบหน้าของชานยอลเช่นกัน...เขาไม่ได้หลับและเขาก็ตื่นก่อนชานยอลด้วยซ้ำ...คริสอมยิ้มขึ้นมาน้อยๆพร้อมกับกล่าวประโยคที่ทำให้ชานยอลแทบจะมุดแผ่นดินหนี.....

    "ตื่นแล้วเหรอครับคุณผู้จัดการ......เมื่อคืนเรียกชื่อฉันทั้งคืนเลยนะ" คริสแสร้งพูดหยอกล้อชานยอลแต่เช้า...

    ตอนนี้ใบหน้าของชานยอลที่ขาวใสได้เปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว....ความเขินอายจากใบหน้าได้สร้างเม็ดเลือดสีแดงให้ผุดขึ้นมาแซมพื้นที่สีขาวและลามไปถึงใบหูของชานยอล.....เขาแทบจะอยากหายตัวไปต่อหน้าคริสในตอนนี้แต่ก็ทำไม่ได้...คงได้แต่นอนหน้าแดงและถลึงตาใส่คริสที่นอนอยู่ข้างๆเท่านั้น....

    คริสยังคงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นชานยอลที่นอนอยู่ในอ้อมกอดเขามีอาการเขินอายอย่างเห็นได้ชัด...

    .....เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดังขึ้นมา 2-3 ครั้งพร้อมกับเสียงเรียกที่อบอุ่นของแม่ชานยอล

    "ชานยอลลูก.......คุณคริส ตื่นกันหรือยังคะ แม่ทำอาหารเช้าไว้ให้ ออกมาทานกันได้เลยนะ.."

    "ฮะๆแม่ .... เดี๋ยวผมรีบออกไป"

    ........ ชานยอลรีบตะโกนตอบแม่ของเขาพร้อมกับลุกขึ้นมานั่งโดยที่ลืมไปว่าตอนนี้ที่ตัวเขาไม่มีเสื้อผ้าอะไรที่ปกปิดร่างกายเขาเลยซักนิด....รอยจ้ำแดงๆที่ผิวขาวเนียนของชานยอลยังมีปรากฎที่แผ่นหลังและตรงลำคอแต่มันก็เป็นรอยจางๆที่ถ้าใครไม่สังเกตก็คงไม่เห็น แต่คริสกำลังใช้สายตาคมของเขานอนมองร่างของชานยอลที่มีรอยจ้ำนั้นปรากฎอยู่...ผิวกายขาวสะอาดตาเมื่อมีรอยแดงๆมาประดับมันก็ทำให้รอยดูเด่นชัดขึ้น...

    "ไปอาบน้ำทานข้าวได้แล้วปะชานยอล รีบหาผ้ามาพันคอซะ ที่คอแล้วก็ที่หลังนายมีรอยแดงๆ" .... คริสพูดพร้อมจับจ้องไปที่ร่างกายของชานยอลอีกครั้ง....

    ชานยอลตกใจและเอามือจับไปตามตัว ตายแล้วนี่เขาไม่ได้ใส่อะไรนอนนี่ แล้วตอนนี้ก็ยังลุกมานั่งทั้งๆที่ไม่ได้ใส่เสื้อด้วย....เขาอายจนแทบอยากจะนั่งร้องไห้อยู่บนเตียง....

    "คะ คริส...นายหยิบเสื้อผ้าตรงนั้นให้หน่อย" ...... ชานยอลพูดโดยไม่มองหน้าคริสและชี้มือไปตรงข้างเตียงที่มีเสื้อผ้าเขากองอยู่

    "จะใส่ทำไมจะอาบก็ต้องถอดอยู่ดี" .....คริสแกล้งพูดพร้อมกับยังอมยิ้มขำๆ

    "ฉันบอกให้หยิบก็หยิบมาสิ!" ชานยอลไม่ขำอย่างที่คริสกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้และคงจะมีอารมณ์โมโหคุกรุ่นขึ้นมาในไม่ช้า

    "ครับ ครับ คุณผู้จัดการ" .... คริสรับคำอย่างว่าง่ายพร้อมยังมีเสียงหัวเราะและเอื้อมไปหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่ข้างเตียง

    ชานยอลรีบแต่งตัวโดยเร็วหลังจากได้รับเสื้อผ้าของเขามา ใช้เวลาไม่นานนักหลังจากการสวมใส่เสื้อผ้าเขาก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ.....เสียงปิดประตูดังๆบ่งบอกว่าชานยอลอาจจะกำลังโมโหที่คริสแกล้งเขามากเกินไป...บางทีคริสอาจจะต้องลดความกวนประสาทของเขาลงมาบ้าง....

    ทั้งคริสและชานยอลอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จโดยมีชานยอลเดินออกมาจากห้องนอนของเขาก่อนและนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร

    โต๊ะอาหารขนาดไม่ใหญ่มากนักภายในบ้านหลังเล็กๆหลังนี้....สำรับอาหารถูกตั้งวางไว้กลางโต๊ะทั้งแม่ น้องสาว และชานยอลพร้อมสำหรับการรับประทานอาหารแล้วคงจะมีแต่คริสที่กำลังเดินก้าวเท้าพาร่างสูงโปร่งของเขาตรงเข้ามาที่โต๊ะพร้อมกับโค้งศรีษะให้คุณแม่ชานยอลอย่างมีมารยาท

    "ขอโทษทีนะครับ เมื่อคืนผมนอนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย" คริสยิ้มละมุนให้กับคุณแม่ของชานยอลซึ่งเธอก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน...

    "เมื่อคืนนี้นอนหลับสบายมั้ยคะ" แม่ของชานยอลเอ่ยถามบ้างพร้อมกับคริสเองก็พยักหน้ายิ้มตอบรับช้าๆ

    "พี่พระเอกมานอนบ้านเราด้วย ดีจังงงง" น้องสาวตัวเล็กของชานยอลยิ้มออกมาด้วยความดีใจ...

    "หนูขอถ่ายรูปพี่คริสหน่อยได้ไหมคะ" เด็กหญิงตัวน้อยเอ่ยถามตามมารยาทก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างกายเธอขึ้นมา

    "ได้สิครับ" คริสตอบรับพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม...เขามองไปที่เลนส์กล้องและยิ้มออกมาพร้อมกับทำท่าชูสองนิ้วอย่างคุ้นเคย...

    หลังจากกล่าวคำทักทายในช่วงเช้ากันสักพัก ทั้ง 4 ก็ลงมือทานอาหารกัน ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม คงจะมีก็แต่ชานยอลที่บางครั้งแสร้งหัวเราะขึ้นมากลางวงสนทนา แต่บางทีก็นั่งเงียบและเขี่ยอาหารในจานเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรอยู่...

    "อือ ชานยอล นายมีอะไรจะบอกกับแม่นายหรือเปล่า" คริสเอ่ยถามชานยอลกลางวงสนทนาเมื่อเห็นชานยอลเงียบไป

    "หือ...อะไรเหรอลูก มีอะไรจะปรึกษาแม่เหรอ".....แม่ของชานยอลเอ่ยถามหลังจากคริสพูดจบ...

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคริสมองไปที่ใบหน้าของชานยอลที่กำลังสายตาเลิ่กลั่ก นี่เขากำลังหาเรื่องแกล้งผมอีกแล้วใช่มั้ย...

    "อ่อ เปล่าฮะแม่ ผะ ผม จะบอกว่าเมื่อคืนนี้ เอ่อ...เครื่องทำความร้อนในห้องมันไม่ค่อยดีแล้วมั้งครับ เมื่อคืนไม่ค่อยอุ่น"

    ชานยอลพยายามหาเรื่องอื่นมาบอกแม่เขาจนได้......คริสหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับตักอาหารใส่จานและรับประทานมันอย่างเอร็ดอร่อย....

    "อือ แต่ฉันก็ว่าเมื่อคืนนี้ก็อุ่นดีแล้วนะ อบอุ่นดี เอ๊หรือนายอาจจะหนาวคนเดียว" ..... คริสยังคงนั่งยิ้มกับคุณแม่ของชานยอลและน้องสาวตัวเล็ก....เขามีท่าทีสนุกเหลือเกินกับการร่วมโต๊ะอาหารกับทั้งแม่และน้องสาวของผม

    ชานยอลวางช้อนลงที่จานเสียงดังพร้อมกับเอ่ยบอกกับแม่ของเขาว่าอิ่มแล้วพร้อมหันไปออกคำสั่งกับคริสตามหน้าที่ของผจก.ส่วนตัว...

    "เลิกพูดอะไรเหลวไหลได้แล้ว! รีบกินแล้วก็รีบไปแต่งตัวซะ วันนี้นายมีงาน" ... ชานยอลพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนจากโต๊ะอาหารและเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองอีกครั้ง...

    คริสมองตามแผ่นหลังของชานยอลที่กำลังเดินออกไปทางห้องนอน พลางพูดขอตัวกับแม่ของชานยอลเพื่อจะเดินตามชานยอลมายังห้องนอนของเขา....

    ไม่นานนักเขาก็เดินทันชานยอลพร้อมกับเดินคว้าแขนชานยอลเดินจูงเข้าไปในห้องนอน....

    "นายโกรธฉันเหรอที่ฉันแกล้งนาย" คริสเอ่ยถามกับชานยอลอย่างต้องการคำตอบ

    "ทำไมนายชอบเล่นอะไรเป็นเด็กๆ" ......... ชานยอลยังคงมีสีหน้าและท่าทางที่กำลังต่อว่าคริส

    "งั้นไม่เล่นแล้วก็ได้....พูดจริงๆเลยแล้วกัน" .... คริสดึงชานยอลเข้ามากอดช้าๆพร้อมกับใช้แขนแกร่งทั้งสองข้างของเขาโอบชานยอลไว้แนบร่าง...

    "วันนี้นายไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวฉันไปคนเดียว วันนี้ให้พัก 1 วัน ตอนเย็นจะมารับกลับบ้านนะครับ" ....

    ชานยอลอยู่ในอ้อมกอดของคริสและแอบอมยิ้มออกมาบางๆกับสัมผัสที่แสนจะอบอุ่นที่คริสมอบให้กับเขา....วันนี้ได้หยุดอยู่กับแม่และน้อง 1 วันถือเป็นเรื่องที่ดีที่ชานยอลต้องการมานานแล้ว เขาได้มีเวลาส่วนตัวตามที่เขาเคยเรียกร้องมัน ขอแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นเขาก็มีความสุขกับครอบครัวได้....

    "ขอบใจนะ" .... ชานยอลตอบรับคริสพร้อมกับพยักหน้าออกมาด้วยความดีใจ.......



    ช่วงบ่ายของวันนี้หลังจากคริสเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จ เขาสวมใส่เสื้อของชานยอลที่เขายืมมาก่อน คริสเดินออกไปหน้าบ้านพร้อมกับสวมใส่แว่นกันแดดและหมวกของเขาที่นำติดรถมาด้วย....ชานยอลเดินมาส่งเขาที่หน้าบ้านพร้อมกับมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มขึ้นมากกว่าเคย คงค่ำๆกว่าคริสจะกลับเพราะตามตารางวันนี้คริสต้องไปถ่ายโฆษณาให้กับสินค้าตัวหนึ่งซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกหลายชม.


    ที่กองถ่ายโฆษณาคริสยังคงตั้งใจทำงานของเขาออกมาให้ดีที่สุด แม้ไม่มีผู้จัดการส่วนตัวอยู่เคียงข้างเขา....วันนี้ทั้งวันคริสอยากจะให้งานของเขาเสร็จไวๆเพราะเขามีอะไรบางอย่างที่จะให้กับใครคนหนึ่งด้วย....อะไรบางอย่างที่เขาเห็นว่ามันเหมาะสมและคู่ควรกับคนที่จะได้รับมัน.....


    "คัท!!" สิ้นเสียงผกก.โฆษณาคริสรีบกุลีกุจอเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาในห้องแต่งตัวพร้อมกับเอ่ยคำอำลากับทีมงานเอ็กตร้ารวมถึงสไตลิสต์คอสตูมต่างๆแม้เข้าจะเป็นคนขี้เหวี่ยงขี้วีนแต่การมีมารยาทในสังคมที่พึงมีคริสก็ไม่เคยที่จะทำให้มันขาดตกบกพร่อง...

    ขายาวพาร่างสูงโปร่งของเขาตรงมายังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่ถ่ายทำโฆษณานัก....

    "คริส !! เดี๋ยวก่อนจ๊ะ" ..... เสียงใครคนหนึ่งตะโกนเรียกคริสไว้ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นรถสปอร์ตคันหรู

    "อ่า ว่าไงครับ" คริสหันไปตามเสียงเรียกและเอ่ยตอบกับทีมงานคนหนึ่ง

    "พี่ลืมบอกไปว่าคุณอาผู้จัดโทรเข้ามาที่เครื่องพี่เมื่อครู่ บอกว่าได้นางเอกซีรีย์ของคริสที่กำลังจะเปิดกล้องแล้วนะ"

    "อ่อ งั้นก็ดีสิครับ..... อือพี่มีอะไรอีกหรือเปล่าครับ พอดีผมจะรีบไปธุระ"

    คริสเอ่ยถามกับทีมงานหญิงคนนั้นด้วยท่าทางร้อนรนใจ....

    "อือ ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ แล้ว......คริสไม่อยากรู้เหรอว่าเขาเป็นใคร" ทีมงานหญิงในกองโฆษณายังคงเอ่ยถามคริสต่อด้วยความสงสัย...

    "อ่อ ไม่หรอกครับ...ผมร่วมงานกับใครก็ได้ ไม่มีปัญหา" .....

    "เดี๋ยวพอเปิดกล้องละครก็รู้เองล่ะครับ" ....

    คริสยังคงมีท่าทีไม่สนใจกับรายชื่อนางเอกซีรีย์ของเขา พร้อมกับก้าวขึ้นไปนั่งบนรถโดยหย่อนกายลงประจำตำแหน่งคนขับ

    "ขอตัวก่อนนะครับ" คริสโค้งศรีษะให้กับทีมงานหญิงท่านนั้นพร้อมขับรถออกไปด้วยความเร็ว...

    ถ้าคริสรู้ว่านางเอกที่เขาจะร่วมงานด้วยเป็นใครเขาจะดีใจหรือเสียใจนะ.........ทีมงานหญิงคนนั้นยังคงสงสัยในคำตอบ....ที่เธอเองก็อยากรู้เช่นกัน


    ที่ห้างสรรพสินค้าที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง คริสเดินมองหาของที่เขาต้องการหลายชิ้น ชั้นเสื้อผ้าแบรนด์เนมคือสถานที่ที่คริสมุ่งหน้าไป...เขาเลือกทั้งเสื้อผ้าราคาแพงและสินค้าที่ดูเหมาะสม...เสื้อยืด เสื้อเชิ๊ต รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ เครื่องสำอางค์ต่างๆสำหรับผู้ชายทั้งครีมบำรุงผิวหน้า เซรั่ม น้ำหอมหลากหลายยี่ห้อที่คริสเดินสำรวจและใช้บัตรเครดิตของเขารูดจ่ายค่าสินค้าพวกนั้น....

    คริสค่อยๆเดินดูที่แผนกสินค้าต่างๆที่เขาต้องการจะเลือกซื้อของที่ดีที่สุด.....ดวงตาคมของเขามองผ่านแว่นกันแดดสีดำเพื่อพินิจถึงสิ่งของตรงหน้าว่าควรจะมอบมันให้กับใครคนนั้นดีหรือไม่....เขารู้สึกสะดุดตากับนาฬิกาเรือนนึง...

    นาฬิกาแบรนด์เนมราคาแพง.......ที่หน้าปัดฝังเพชรเป็นรูปหิมะกำลังตกโปรยปรายตรงบานหน้าต่าง

    ....ระบบของนาฬิกาเรือนนี้ทำออกมาได้ดีและงดงาม เพชรเม็ดเล็กๆที่ฝังบนตัวเรือนสะท้อนกับหน้าปัดเหมือนเกร็ดหิมะระยิบระยับที่ต้องกับแสงแดดยามเช้า...

    มันทำให้คริสนึกถึงใครคนนึงที่ทำให้เขามีความสุขในตอนนี้.....คริสตัดสินใจซื้อนาฬิกาเรือนนั้นและเก็บมันไว้ในถุงห่ออย่างดี....รอยยิ้มละมุนปรากฎบนใบหน้าของคริส...เขาทำท่าดีใจเหมือนเด็กเมื่อคิดว่าคนที่เห็นมันจะชอบมันมากแค่ไหน..

    เมื่อได้ของต่างๆตามที่เขาต้องการครบแล้ว คริสก็ไม่รอช้าที่จะพาร่างสูงของเขาเดินจากแผนกสินค้าต่างๆออกมา...

    เสียงริงโทนที่ดังเข้ามาในโทรศัพท์ของเขาบ่งบอกว่าตอนนี้มีคนที่กำลังต้องการคุยสายกับเขาอยู่...คริสคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อดูรายชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์....พร้อมกับกดรับเมื่อเห็นว่าปลายสายที่โทรมาเป็นใคร...

    "สวัสดีครับคุณอา" .... เสียงตอบรับของคริสตามสายน้ำเสียงบ่งบอกถึงความเคารพในตัวของผู้ที่โทรเข้ามา

    "คริส อาได้นางเอกที่เล่นซีรีย์คู่กับคริสแล้วนะ ได้คิวเขาเป็นอะไรที่ลำบากมากเพราะเขาเพิ่งกลับมาจากอเมริกา"

    "อ่อครับ นางเอกของผมเป็นเด็กนอกซะด้วย ฮ่าๆ" คริสหัวเราะตอบกลับไป เป็นที่รู้กันดีว่าคริสเป็นคนขี้เล่นมากแค่ไหนและคุณอาผู้จัดคนนี้ก็สนิทกับคริสมากรวมถึงคริสก็ให้ความเคารพท่านในระดับหนึ่ง

    "อือ เย็นนี้ว่างมั้ย อานัดเขาทานข้าวน่ะ อยากจะให้มาเจอกันเพื่อรู้จักกันไว้" ....ปลายสายเอ่ยถามคริสเป็นเชิงแต่ในใจลึกๆก็หวังอยากให้คริสมาร่วมทานอาหารเย็นกับเขาแลเธอคนนั้นด้วย...

    "คุณอาอยู่ที่ไหนครับ" .... คริสกำลังตัดสินใจว่าหากไม่ไกลมากนักเขาอาจจะแวะไปทักทายและทำความรู้จักกับเธอสักพัก ก็คงจะดีเช่นกันหากร่วมงานกันโดยที่รู้จักกันไว้ก่อน รวมถึงตามมารยาทแล้วคริสเองก็ไม่ต้องการปฎิเสธความต้องการของผู้ใหญ่ท่านนี้เช่นกัน...

    เมื่อทราบสถานที่ที่ทั้งคุณอาและเธอผู้นั้นไปแล้ว....คริสจึงรับปากว่าจะไปทานข้าวเย็นด้วยแต่คงจะไม่นาน...เพราะเขาเองก็มีธุระสำคัญที่จะต้องจัดการเช่นกัน.......


    เขาไม่ลืมที่จะส่งข้อความหาชานยอลผจก.ส่วนตัวของเขาเพื่อให้รู้ว่าเขายังไม่ตรงกลับบ้านเพราะมีธุระกับผู้ใหญ่ในวงการ

    "กลับช้าหน่อยนะไปทานข้าวกับผู้ใหญ่น่ะ....ฉันรู้ว่านานแค่ไหนนายก็รอฉัน :P"

    คริสส่งข้อความหาชานยอลพร้อมกับรอยยิ้มและถ้อยคำกลั่นแกล้งที่มันเป็นนิสัยประจำตัวของเขาไปแล้ว....


    ที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ไม่ห่างไกลจากห้างสรรพสินค้าที่คริสไปมากนัก....รถสปอร์ตคันหรูของคริสตรงเข้ามาจอดทางช่องทางวีไอพี...ร้านนี้เขาคุ้นเคยดีและเขาก็มามันประจำ....

    ร่างสูงโปร่งของคริสก้าวเท้าเข้ามาหน้าร้านพร้อมกับบริกรที่ตรงเข้ามาต้อนรับและโค้งศรีษะให้เขาอย่างนอบน้อม...

    เมื่อบริกรสอบถามกับคริสเรียบร้อยก็พาเขาเดินตรงมายังห้องอาหารสำหรับแขกวีไอพีที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการทานอาหารโดยเฉพาะ...

    บริกรเปิดประตูออกช้าๆโดยมีร่างของคุณอาผู้ใหญ่ในวงการนั่งรออยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม....และเรียกให้คริสมานั่งข้างๆเขา

    "อ่าว นางเอกของผมยังไม่มาเหรอครับ" .... คริสยังคงยิ้มแย้มทักทายด้วยท่าทีปกติของเขา....

    "ฮ่าๆ ไปเข้าห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวก็คงจะมา อาดีใจจริงๆที่ได้นางเอกคนนี้มาได้" .....คุณอายังพูดออกปากชมเธอไม่หยุดในความน่ารักอ่อนหวานของเธอผู้นั้นจนอยากได้เธอมาเป็นนางเอกและเขาก็สมหวัง

    "แหม ผมเห็นตื่นเต้นกันจังนะครับ อยากรู้แล้วสิว่าจะเป็นใคร" คริสยังคงอมยิ้มออกมา...พร้อมกับค่อยๆหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาและขอตัวเปิดอ่านข้อความของชานยอลที่ส่งเข้ามาที่ตัวเครื่องพอดี

    "ใครเขารอนายกัน แหวะ!" ........ ปาร์คชานยอล

    คริสอมยิ้มออกมาเมื่อได้อ่านข้อความนั้น....ว่าแต่เขาที่กวนประสาทชานยอล ชานยอลเองก็กวนประสาทเขาไม่หยอกเช่นกัน


    ...ไม่นานนักประตูห้องอาหารเปิดออกช้าๆพร้อมกับมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก้าวเดินเข้ามาอย่างสง่างามโดยที่คริสยังไม่ใส่ใจเงยหน้าขึ้นไปมอง...เขายังคงนั่งยิ้มหัวเราะเบาๆกับข้อความของชานยอล....

    "อ่าวมาแล้ว....ยุนฮี นั่งลงสิ" .... เสียงคุณอาเอ่ยทักทายหญิงสาวคนนั้นพร้อมๆกับที่คริสเงยหน้าขึ้นไปมองเธอพอดี

    หญิงสาวมีท่าทียิ้มน้อยๆและดูสงบนิ่ง...ผิดกับใบหน้าของคริสที่ยิ้มแย้มเมื่อซักครู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นเฉยชาอย่างเห็นได้ชัดความเฉยชาบนใบหน้าคริสเจือปนอยู่กับความตกใจของตัวเขา แต่เขาก็พยายามเก็บอาการอย่างถึงที่สุด....ใบหน้าของคริสนิ่งเฉยไม่บ่งบอกความรู้สึกยินดียินร้ายอะไรที่ได้พบเจอกับเธอคนนี้เท่าใดนัก....



    "ยุนฮี" หญิงสาวสวยงามสูงส่งและดูสง่า นางเอกที่เคยร่วมงานในวงการกับคริสมาก่อนตั้งแต่คริสเข้าวงการแรกๆ ผู้หญิงคนเดียวที่คริสหลงรักตั้งแต่แรกเจอ.....ผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขารู้จักความรักไปพร้อมๆกับความเจ็บปวด...น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องของคริสเรื่องนี้นอกจากคนที่สนิทกับคริสจริงๆหรือพวกแฟนคลับที่ตามขุดคุ้ยประวัติความเป็นมาของเขาถึงแม้เขาจะเคยพูดว่าเขาไม่มีปัญหาในการร่วมงานกับใคร แต่การกลับมาของยุนฮีครั้งนี้ก็ทำให้เขาหนักใจไม่น้อย

    หลังจากที่คริสตัดใจจากยุนฮีไปเธอก็ไปเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศกับชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นคู่หมายของเธอแต่ไม่นานหลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาว่าเธอได้เลิกรากับชายผู้นั้นก่อนที่จะได้แต่งงานกันโดยที่คริสเองก็ไม่ต้องการรู้เหตุผล

    ยุนฮีคือผู้หญิงคนเดียวที่คริสรักและเคยคิดจะขอเธอแต่งงาน แต่มันก็เป็นเพียงความคิดของเขาเพียงคนเดียว เพราะตอนนั้นเขาเป็นแค่คนในวงการที่เพิ่งแจ้งเกิดได้ไม่นาน ผิดกับยุนฮีที่เป็นนางเอกระดับแถวหน้าของเกาหลีแล้ว

    ยุนฮีทิ้งคริสไปอย่างไม่เหลือเยื่อใยกับผู้ชายคนใหม่ที่มีฐานะดีกว่าเขาและมีหน้าตาทางสังคมมากกว่าเขา....แต่บัดนี้เขาทั้งสองคนได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งเพราะคุณอาผู้จัดคนที่คริสให้ความเคารพเป็นอย่างมาก

    "ไม่เจอกันนานนะคริส สบายดีเหรอ"

    ยุนฮีเอ่ยถามคริสด้วยสีหน้านิ่งเฉยซึ่งเธอเองรู้แต่แรกแล้วว่าจะได้กลับมาร่วมงานกับซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังอย่างคริส

    "เป็นไงคริส นางเอกของอาสวยมั้ย ไม่เจอกันนานนี่นะหลายปีมากแล้ว"

    ........คุณอาเอ่ยถามความเห็นคริส เขาไม่รู้จริงๆว่าทั้งยุนฮีและคริสเคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อนและเนื่องจากการทำงานของคนในวงการมักไม่โฟกัสที่เรื่องส่วนตัวมักคิดว่างานควรมาก่อนเป็นอันดับแรกเสมอๆ...

    "อ่อ ครับ ก็สวยดีครับ" .... คริสแสร้งพูดโดยไม่มองที่ใบหน้าของเธอ...

    บรรยากาศภายในห้องอาหารค่อนข้างน่าอึดอัดสาเหตุมาจากทั้งคริสและยุนฮีเอง....ทั้งสามร่วมรับประทานอาหารไปได้สักพักคริสก็ขอตัวกลับก่อนโดยบอกว่ามีธุระที่จะต้องทำ หากคุณอาตกลงคิวได้เมื่อไรก็ติดต่อผ่านทางผจก.ส่วนตัวของเขาได้เพื่อจัดคิว....คริสยังคงโล่งใจว่าชานยอลคงจะไม่เคยรู้เรื่องของเขาและยุนฮีเพราะมันก็เป็นเวลาเนิ่นนานมากแล้วตั้งแต่ทั้งสองคนเคยคบกัน....ชานยอลยังใหม่ในวงการนี้และคงไม่มีใครใส่ใจในเรื่องของเขาเรื่องนี้เท่าไรนัก.....



    ใช้เวลาไม่นานนักคริสก็ขับรถมาตามทางจนถึงที่หน้าบ้านของชานยอล...คริสค่อยๆจอดรถสปอร์ตของเขาช้าๆและก้าวลงไปจากรถ เขามารับชานยอลกลับบ้านตามคำสัญญา...หลังจากชานยอลบอกลาทั้งแม่และน้องสาวเขาก็ขนของขึ้นมาบนรถและสังเกตว่าคริสมีท่าทีนิ่งเฉยกว่าปกติ....

    "เป็นอะไร เหนื่อยเหรอ ให้ฉันขับรถให้มั้ย" ชานยอลเอ่ยถามคริสที่นั่งข้างๆด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากสีหน้าของเขาบ่งบอกว่ามีอะไรในใจบางอย่าง

    "ไม่ต้องหรอก นั่งเฉยๆเหอะ นั่งเป็นกำลังใจแบบนี้ดีละ"

    คริสยังคงแสร้งยิ้มเหมือนปกติทุกอย่างทั้งที่จริงในตอนนี้เขาเหมือนมีหินก้อนใหญ่ที่หนักอึ้งทาบทับลงมาในใจ....

    "อือ วันนี้มีทีมงานโทรมาขอคิวซีรีย์ของนายละนะเรื่องที่คุณอาเป็นผู้จัดน่ะ" .....ชานยอลพูดกับคริสหลังจากเขานึกได้

    "เมื่อไร?!" ..... คริสมีท่าทีตกใจหลังจากได้ยินประโยคนั้น.....

    "อีก 3 วันข้างหน้า ฉันจัดคิวไว้ให้แล้ว"

    ......ชานยอลพูดพลางคว้าสมุดบันทึกในกระเป๋าของเขามาเปิดดูและดวงตากลมโตของชานยอลก็อ่านมันช้าๆ

    คริสเผลอมองใบหน้าของชานยอลด้วยความสงสาร เขาคิดจะปกปิดเรื่องของยุนฮีไว้โดยไม่ต้องการให้ชานยอลรู้ว่าทั้งเขาและยุนฮีเคยเป็นอะไรกัน เพื่อจะได้เกิดความสบายใจกันทุกฝ่าย...ทั้งชานยอลและตัวเขา.......

    "เออว่าแต่นางเอกนายชื่ออะไรอ่ะ ฉันรู้จักมั้ย" ชานยอลเอ่ยถามด้วยความสงสัย....

    คริสไม่ตอบคำถามนั้นแต่คว้ามือของชานยอลมากุมไว้ขณะขับรถ เขากังวลใจว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น

    "นายต้องอยู่เคียงข้างฉันนะชานยอล....ถ้าฉันเข้มแข็งนายก็ต้องเข้มแข็งเหมือนฉัน" .....

    คริสพูดในใจโดยไม่คิดจะพูดให้ชานยอลฟัง......ตอนนี้หัวใจของคริสเข้มแข็งขึ้นมากแล้วหลังจากเขาได้พบกับยุนฮี เมื่อชานยอลเลือกที่จะอยู่ข้างเขาก็ต้องเข้มแข็งเหมือนๆกับเขาและก้าวข้ามผ่านเรื่องพวกนี้ไปให้ได้...

    "นางเอกซีรีย์ที่ฉันจะร่วมงานด้วยคือ ลียุนฮี".... คริสตัดสินใจเอ่ยตอบชานยอลไป เขาเลือกที่จะเป็นคนบอกชานยอลเองดีกว่า....เพราะไม่ช้าก็เร็วชานยอลต้องรู้ชื่อเธออยู่ดี....

    ชานยอลหันไปมองหน้าคริสพร้อมกับแววตาที่ดูเศร้าลงทันที ดวงตากลมโตของเขาฉายความหวาดหวั่นในนั้น....."ลียุนฮี" ผู้หญิงคนเดียวที่คริสเคยรักและยอมรับกับทุกๆคนว่าเธอคือคนรักของเขา...ผู้หญิงที่เคยทำให้คริสเสียใจมากที่สุด....ไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผลว่าผมรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร....แม้เรื่องนี้จะผ่านมานานแล้วแต่ผมก็ยังจำชื่อของเธอได้ขึ้นใจ...."ลียุนฮี" ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่เคยได้หัวใจของคริสไป ....ผู้หญิงที่คริสจะฝากหัวใจของเขาไว้กับเธอคนเดียว............

    END EP8 ------------------------------------------------------

    #Writer talk ชานยอลต้องสู้ครับ ในเมื่อพี่คริสเข้มแข็งแล้วชานยอลก็ต้องเข้มแข็งตามพี่คริส...ถ้าเลือกที่จะเดินเคียงข้างพี่คริสอาจจะต้องพบเจออะไรอีกมากมาย T^T ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ หากอยากสครีมแทคนี้ในทวิตได้เลย เลาจะตามอ่าน ฮิ #Secretofsuperstar
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×