ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : -EP6 ซุปเปอร์สตาร์จอมวางแผน
ในห้องน้ำของโรงแรมหรูใจกลางเมืองโซลแห่งหนึ่ง จะมีใครล่วงรู้ว่าในนั้นจะมีซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังอยู่กับผู้จัดการส่วนตัวของเขา....เสียงกดน้ำในชักโครกห้องข้างๆดังเล็ดลอดเข้ามาเป็นสัญญาณเตือนว่าใครคนนั้นได้ทำธุระในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว....
คริสยังคงแกล้งใช้ปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขาคลอเคลียไปที่แก้มนวลขาวเนียนของชานยอล...ยิ่งชานยอลนิ่งเงียบในเวลานี้คริสก็ยิ่งได้ใจในการกระทำดังกล่าวมากขึ้น...ชานยอลทั้งตื่นเต้นและอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกหากเขาทั้งสองคนถูกจับได้ว่าอยู่ในห้องน้ำเดียวกันเรื่องราวจะใหญ่โตขนาดไหน...
หลังจากที่ผู้ชายห้องข้างๆทำธุระเสร็จและกำลังจะเดินออกมาจากห้องน้ำ โทรศัพท์มือถือที่เหน็บบริเวณเอวของเขาก็พลันตกลงมาที่พื้น...ก่อให้เกิดความตกใจทั้งคริสและชานยอลเมื่อโทรศัพท์กลิ้งเข้ามาในห้องน้ำที่มีทั้งคริสและชานยอลอยู่ในนั้น...
"เอ่อ ขอโทษนะครับ....คุณห้องข้างๆ ช่วยหยิบโทรศัพท์ให้ผมหน่อยครับ"
ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยพูดออกมาในขณะที่มือถือของเขากระเด็นกระดอนไปในห้องน้ำที่มีทั้งร่างของคริสและชานยอลอิงแอบอยู่ในนั้น
"ครับ ครับ เดี๋ยวผมหยิบให้" .... คริสเอ่ยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้ดูเรียบและนิ่งเฉยที่สุด
คริสก้มลงหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นและยื่นมันกลับไปให้กลับเจ้าของดังเดิม...
"เอ่อ ...คุณ ...คุณคริสหรือเปล่าครับ ผมคุ้นเสียงคุณมาก" .... ชายหนุ่มคนนั้นรับโทรศัพท์มาพร้อมเอ่ยตอบกับคริสด้วยน้ำเสียงระคนดีใจ
คริสมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย รวมถึงชานยอลในตอนนี้ ชานยอลเอามือนาบไปกับหน้าผากของตนเองบ่งบอกถึงความปวดหัวและกังวลใจกับบางเรื่องที่มีลางสังหรณ์ว่ากำลังจะเกิดขึ้น
"ครับ ผมคริสเอง" ... คริสยังคงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูเรียบเฉยเช่นเคย
ชายหนุ่มห้องข้างๆเปิดประตูออกมาบริเวณหน้าห้องน้ำและยืนส่องกระจกรอคริสสักพัก....เขาเป็นนักข่าวสายบันเทิงที่วันนี้ก็ได้รับเชิญให้มาทำข่าวในงานนี้เช่นกัน...นักข่าวคิมยังคงยืนขยับเสื้อผ้าการแต่งกายของเขาอยู่หน้ากระจกโดยมีชานยอลยืนถอนหายใจอยู่ในห้องน้ำแต่คริสเองก็ยังมีท่าทีที่ตื่นเต้นน้อยกว่าชานยอล เขาคงผ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะมากสินะ
"อ่า ท่าทางคุณคริสคงจะทำธุระนาน เดี๋ยวออกไปผมขอสัมภาษณ์หน่อยนะครับ ขอบคุณสำหรับโทรศัพท์นะครับคุณคริส"
นักข่าวคิมเดินก้าวออกไปช้าๆจากห้องน้ำ ในขณะนี้ความเงียบได้เข้ามาปกคลุมบริเวณห้องน้ำอีกครั้งด้วยความอึดอัดใจของชานยอลที่คริสเล่นอะไรเป็นเด็กๆหลังจากที่นักข่าวคนนั้นออกไป ชานยอลก็ทุบไปที่หน้าอกของคริส 2-3 ที...
"นายนี่เล่นอะไรบ้าๆ ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้นนายจะทำยังไง!"
ชานยอลต่อว่าคริสด้วยความรู้สึกโมโห ความกลัวและความตกใจของชานยอลทำให้เขาลืมความหอมละมุนและความหวาบหวานเมื่อครู่ที่คริสบรรจงมอบให้เขา....
คริสคว้าข้อมือบางของชานยอลที่ทุบลงมาที่หน้าอกเขามาเกาะกุมไว้ รวมถึงหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน...
"ฉันอยู่วงการนี้มานานน่ะ เรื่องแค่นี้เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว"
คริสยังคงแกล้งโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ชานยอลอีกครั้งโดยจะหอมมาที่แก้มนวลใสอีก ชานยอลรีบยกมืออีกข้างมาปิดปากของคริสไว้...และใช้สายตาตำหนิคริส ดวงตากลมโตเบิกกว้างเปรียบเหมือนคำขู่ในคริสหยุดการกระทำดังกล่าว...คริสอมยิ้มออกมาพร้อมแววตาเจ้าเล่ห์ เมื่อคริสรู้สึกว่าตอนนี้หายออกมาจากในงานนานเกินไป เขาจึงตัดสินใจที่จะกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง ...เขากำชับกับชานยอลว่าให้เขาออกไปด้านนอกก่อนแล้วชานยอลค่อยตามออกมาจะได้ไม่มีใครสงสัย..ชานยอลพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงเข้าใจและยังคงทำหน้าบูดบึ้งใส่คริสด้วยความโมโห...
ไม่นานนักคริสเดินออกมาพร้อมขยับสูทและเนคไทที่ลำคอของเขาให้เข้าที่ ....เมื่อซักครู่ชานยอลทั้งทุบและตีเขาจนเสื้อสูทของเขามันยับยู่ยี่และเสียทรงหมดแล้ว...
เมื่อคริสเปิดประตูเดินออกมาได้สักพักก็เจอเข้ากับนักข่าวคิมคนที่เขาเก็บโทรศัพท์ให้...นักข่าวคิมยืนรอคริสอยู่ไม่ห่างจากบริเวณห้องน้ำนัก...เขารีบตรงเข้ามาขอบคุณคริสเรื่องโทรศัพท์และขอสัมภาษณ์คริสเล็กๆน้อยเนื่องจากหากคริสเดินไปบริเวณงานอีก คงมีแต่สื่อมารุมล้อมจนนักข่าวคิมเข้าไม่ถึงอีกตามเคย...
ระหว่างที่ทั้งคริสและนักข่าวคิมยืนคุยกันอยู่นั้น ไม่กี่นาทีต่อมาชานยอลก็เดินออกมาจากในห้องน้ำ สายตาของนักข่าวคิมเหลือบไปเห็นชานยอล...นักข่าวคิมมีท่าทีตกใจเล็กน้อยเมื่อช่วงเวลาที่เขายืนรอคริสอยู่นั้นไม่มีใครเดินเข้าห้องน้ำไป...แต่แล้วชานยอลเดินคล้อยหลังจากคริสมาได้อย่างไร...ความสงสัยใคร่รู้ตามประสานักข่าว เขาพยายามจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลที่เดินผ่านเขาไปโดยที่คริสไม่ทันสังเกตเห็น
คุณปาร์คชานยอลคนนี้เป็นผจก.ส่วนตัวคนใหม่ของคริส....หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้ชักจะมีอะไรให้น่าค้นหาซะแล้ว นักข่าวคิมคิดจะสืบค้นเรื่องบางอย่างระหว่างทั้งคริสและชานยอลมันอาจจะเป็นความสงสัยของเขาไปเอง...หรือมันอาจจะมีอะไรแอบแฝงจริงๆก็ได้...
"ขอบคุณนะครับ คุณคริส ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน เอ่อ...ว่าแต่ผมจะขอสัมภาษณ์ผจก.ส่วนตัวคนใหม่ของคุณได้บ้างมั้ยครับ"
นักข่าวคิมเอ่ยถามคริสไปตามมารยาทและสายตาของเขาก็พยายามจับพิรุธจากสีหน้าของคริส
"อย่าเพิ่งเลยดีกว่าครับ เขายังใหม่ในวงการนี้อยู่ ขอโทษด้วย" คริสเอ่ยตอบพร้อมสีหน้าเรียบเฉยและเดินจากนักข่าวคิมมาเมื่อเห็นชานยอลเดินพ้นเขาไปได้สักระยะแล้ว
ที่โต๊ะกลมขนาดใหญ่มีผ้าคลุมโต๊ะสีขาวสะอาดตา ประดับประดาด้วยแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่บริเวณกลางโต๊ะ...ชานยอลเดินไปหยิบเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ด้านข้างและปลีกตัวไปนั่งเงียบๆคนเดียว เขาไม่ถนัดนักกับงานสังคมแบบนี้และในสถานที่ที่คนเยอะแยะมากมายก็ทำให้ชานยอลมีอาการประหม่า คงจะเป็นการดีถ้าเขาหลบมานั่งที่มุมเงียบๆตรงนี้ดีกว่า...
"ตาหายเจ็บหรือยังครับคุณชานยอล" .... คิมจงอินเดินเข้ามาทักทายชานยอลหลังจากที่สายตาของเขาเห็นชานยอลเดินออกมาจากเคาน์เตอร์เครื่องดื่มได้สักพัก
"อ่อ ดีขึ้นมากแล้ว...ขอบคุณนะฮะคุณคิมจงอิน" ชานยอลมีรอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าเพราะเมื่อครู่ในห้องน้ำเขาไม่มีเวลาที่จะกล่าวคำขอบคุณกับจงอิน...
"ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ ผมก็เป็นศิลปินใหม่ไม่ค่อยรู้จักใครเหมือนกัน" คิมจงอินยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เป็นมิตรพร้อมนั่งลงข้างๆชานยอล
ทั้งคิมจงอินและชานยอลนั่งคุยกันพร้อมกับมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เขาทั้ง 2 คนยังใหม่ในวงการนี้ทั้งคู่และก็คุยกันถูกคอ เขาทั้งสองนั่งมองศิลปินคนนั้นคนนี้ที่เดินในงานพร้อมพูดถึงผลงานของคนในงานทั้งหลาย ชานยอลเองก็เป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับข่าวบันเทิง พอจะรู้เรื่องอะไรในวงการมาบ้างและพอที่จะหาเรื่องมาคุยกับจงอินได้
หลังจากที่คริสปลีกตัวมาจากนักข่าวคิมไม่นานเขาก็ต้องหยุดสนทนากับผู้ใหญ่ในวงการอีกท่านทั้งนางแบบ ศิลปิน นักแสดง ร่วมอยู่ในวงสนทนาของคริสและกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องผลงานใหม่ของคริสที่คงจะมีการโปรโมทอีกไม่นานนี้ เขามีซีรีย์ที่ต้องร่วมแสดงกับนางเอกคนหนึ่ง..ซึ่งตอนนี้กำลังติดต่อประสานงานขอคิวจากนางเอกท่านนั้น......
"ตกลงซีรีย์ของอาจะได้เปิดกล้องเมื่อไรดีคริส..ฮ่าๆ" ผู้ใหญ่ในวงการท่านนึงเอ่ยถามคริสพร้อมกับรอยยิ้ม
"คุณอาขอคิวจากนางเอกของคุณอาให้ได้ก่อนเถอะครับ...นางเอกเป็นใครนี่จะเก็บเป็นความลับอีกนานใช่มั้ยฮะ"
คริสเอ่ยตอบไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นางเอกในวงการคนที่จะต้องเล่นซีรีย์ประกบคู่กับเขายังคงเป็นความลับจากทางทีมงานและผู้จัด คริสเองก็ไม่คิดจะสนใจนักเพราะเขาเองไม่มีปัญหาอยู่แล้วในการร่วมงานกับใครท่าทางของคริสยังคงยิ้มแย้มอยู่ในวงสนทนาแต่ทั้งสายตาและหัวใจของเขาคอยมองและเป็นห่วงชานยอลที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมสีขาวนั้น...โต๊ะที่มีจงอินร่วมอยู่ในนั้นด้วย...
"เอาเป็นว่าอาได้คิวเมื่อไรจะรีบติดต่อไปทางคริสอีกทีนะ"
"ได้ครับ...ยินดีครับ"
.... คริสโค้งศรีษะให้ผู้ใหญ่ท่านนั้นพร้อมกับเดินจากมา ร่างสูงโปร่งของคริสก้าวเท้ามายืนอยู่ข้างๆชานยอลที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่ที่เก้าอี้ที่มีจงอินนั่งอยู่ใกล้ๆ
"คุยกันสนุกสนานใหญ่เลยนะ...ฉันขอคุยด้วยสิ" คริสพูดพลางลากเก้าอี้มานั่งคั่นกลางระหว่างจงอินและชานยอลจนจงอินต้องขยับเก้าอี้ของเขาหลบออกไป พร้อมกับมองหน้าคริสด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ
"คริสนายควรมีมารยาทกับคุณคิมจงอินบ้างนะ"
ชานยอลต่อว่าคริสด้วยความรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของเขาที่ดูเหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังเอาแต่ใจตัวเอง
คริสยังคงมีท่าทีเรียบเฉยต่อชานยอลและไม่สนใจในคำพูดของชานยอล
"คิมจงอิน ฉันคงยังไม่ได้บอกนายว่าฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับคนของฉัน"
สายตาของคริสเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวขึ้นเมื่อหันไปมองที่ใบหน้าของจงอิน เด็กรุ่นน้องในวงการที่เขาไม่ต้องการให้อยู่ใกล้กับชานยอลมากเกินไป...
"ผมก็แค่มาคุยเป็นเพื่อนคุณชานยอลนี่ครับ ไม่ได้ทำอะไรผิด" สายตาของจงอินที่มองมายังคริสก็เป็นสายตาที่ค่อนข้างดุดันเช่นกัน บางทีเขาก็รู้สึกว่าคริสจะใช้อำนาจที่มีในตัวมากเกินไป
"ฉันคิดว่านายคงยังไม่อยากจะเดือดร้อนนะคิมจงอิน นายยังใหม่ในวงการนี้มาก อย่าให้เรื่องอะไรมาทำลายอนาคตตัวเองเลย"
คริสยังคงใช้แววตาของเขาในเชิงตักเตือนจงอินอีกครั้งรุ่นน้องควรจะเชื่อฟังในคำแนะนำของรุ่นพี่
"ผมว่าพี่ควรจะเตือนตัวเองดีกว่านะครับ"
"คิมจงอิน!!"
คริสลุกขึ้นและกระชากคอเสื้อของจงอินด้วยความโมโห นายกล้าหาญมากที่ใช้คำพูดแบบนี้กับฉัน คริสสบถในใจ ..... สักพักเขาก็ค่อยๆปล่อยคอเสื้อของจงอินออกเมื่อคิดได้ว่าตนเองอยู่ในงานที่มีทั้งผู้ใหญ่และคนในแวดวงเยอะเกินไป
คริสผลักจงอินไปที่เก้าอี้จนแผ่นหลังของคิมจงอินกระแทกเข้ากับพนักพิงจนเขารู้สึกจุก...
ชานยอลยังคงมองทั้งสองคนที่กำลังทะเลาะกันด้วยแววตาตกใจและเจือปนไปด้วยความโมโหที่คริสไม่เคยเชื่อฟังคำพูดเขาทั้งๆที่เขาเป็นผจก.ส่วนตัวและมีหน้าที่คอยดูแลคริส...หากเขายังห้ามปรามคริสและออกคำสั่งกับคริสไม่ได้แล้วตำแหน่งผู้จัดการอย่างเขาจะมีความสำคัญอะไร
"เมื่อไรนายจะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆซักที ฉันเบื่อกับการกระทำของนายจริงๆคริส"
ชานยอลพูดต่อว่าคริสพร้อมกับก้าวเท้าเดินออกไปจากบริเวณนั้นโดยเร็ว คงจะดีหากเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้...คงจะดีหากคริสกับจงอินจะอยู่กันตามลำพังโดยที่ชานยอลไม่ใช่ตัวก่อปัญหา
ทั้งคริสและจงอินหยุดพฤติกรรมก้าวร้าวของตนเองและมองตามร่างของชานยอลที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ....แววตาของคริสที่มองจงอินเปี่ยมไปด้วยโทสะ แม้เขาจะเป็นลูกชายของประธานวูแต่ก็ไม่คิดจะใช้อำนาจของตนเองในการกลั่นแกล้งจงอิน แต่จงอินก็ควรจะมีสัมมาคารวะกับรุ่นพี่ในวงการอย่างเขาบ้าง...
งานเลี้ยงในโรงแรมหรูดำเนินไปจนถึงตอนสุดท้าย แขกเหรื่อในงานต่างทยอยเดินทางกลับพร้อมทักทายกล่าวคำอำลาคริสใช้เวลาในการทักทายกับแขกต่างๆค่อนข้างมากในบริเวณหน้างาน เนื่องจากเขาเป็นลูกชายของประธานวูที่บริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่องานนี้ มันจึงเปรียบเหมือนงานนี้ก็เป็นงานของเขาที่จะต้องดูแลต้อนรับแขกเหรื่อเช่นกัน
หลังจากคริสเสร็จจากธุระในงานแล้ว เขาก็เดินปลีกตัวออกมาเพื่อตามหาชานยอลที่หายไปได้สักพัก...เขามองหาชานยอลด้วยความร้อนรนใจ ไม่นานนักสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร่างโปร่งที่คุ้นเคย..... ชานยอลนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าสวนหย่อมของโรงแรมไม่ห่างจากตำแหน่งที่คริสยืนอยู่นัก คริสรีบเร่งฝีเท้าของเขาเพื่อเดินไปหาชานยอลก่อนที่เขาจะลุกหนีคริสไปอีก...
"เป็นอะไร ทำไมมานั่งเงียบๆคนเดียว" คริสเอ่ยถามกับชานยอลไม่เต็มเสียงนัก
"เปล่า....ฉันเบื่อ....อยากกลับบ้าน" ชานยอลนั่งเหม่อมองไปด้านหน้าของเขาอย่างไร้จุดหมาย
"อยากกล้บบ้านก็ไปสิ ฉันก็เหนื่อยละ" คริสพูดพลางดึงข้อมือของชานยอลให้ลุกขึ้นจากม้านั่งบริเวณสวนหย่อม
"ฉันอยากกลับบ้านฉัน ไม่ใช่บ้านนาย......นายหายดีแล้วก็น่าจะให้ฉันกลับไปหาแม่กับน้องบ้าง"
"ฉันไม่เจอพวกเขามาหลายวันแล้วนะ" สายตาของชานยอลดูเศร้าลงหลังจากพูดประโยคนั้นจบ
เป็นอาทิตย์แล้วที่ชานยอลไม่ได้กลับบ้านเพราะต้องมาดูแลคริสหลังจากคริสมีอาการบาดเจ็บที่แขน
ที่บ้านของชานยอลมีเขา แม่และน้องสาวเท่านั้น เวลาที่ชานยอลไม่อยู่ก็จะมีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ 2 คนเท่านั้นที่อยู่ในบ้านกันเพียงลำพัง...
คริสไม่พูดอะไรและเข้าใจชานยอลทุกอย่าง จะให้ชานยอลกลับบ้านไปเขาก็ไม่ต้องการ แต่เขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสารชานยอลที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ตอนนี้.....
"งั้นก็ลุก เดี๋ยวฉันไปส่งบ้าน".....คริสพูดออกมาพร้อมกับเดินนำหน้าชานยอลไปทางบริเวณที่รถสปอร์ตของเขาจอดอยู่...
ชานยอลยิ้มออกมาด้วยความดีใจและรีบก้าวเท้าให้ทันคริส......อย่างน้อยเขาก็ได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านบ้าง...และเขาเองก็เช็คตารางของพรุ่งนี้แล้วว่าคริสยังไม่มีคิว...จะมีก็เป็นวันมะรืนเลยคงจะเป็นการดีหากเขาได้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน
ตอนนี้ชานยอลเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังจะได้ของขวัญอย่างที่ใจหวัง...เขาเดินตามคริสและมีท่าทีอารมณ์ดีมากขึ้นชานยอลกล่าวขอบคุณคริสและให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะรีบกลับมาแต่เช้าในวันที่คริสมีคิวงาน...
รถสปอร์ตคันหรูขับมาตามถนนหนทางที่คริสไม่คุ้นเคยนัก ซอยเล็กซอยน้อยที่บ่งบอกว่าแถวนี้เป็นย่านของคนชนชั้นกลางหรืออาจจะเป็นคนที่หาเช้ากินค่ำทั่วไป...ไม่ใช่ย่านเศรษฐีคนมีเงินอย่างที่คริสอาศัยอยู่...ชานยอลคอยชี้มือเป็นเชิงเพื่อบอกทางกับคริสว่าบ้านของเขาไปทางไหน...ทั้งๆที่คริสเคยมาที่นี่ครั้งนึงแล้วแต่เขาก็จำทางไม่ค่อยได้เพราะครั้งนั้นเขาเองก็ไม่ใช่คนขับ....ใช้เวลาไม่นานนัก รถสปอร์ตราคาแพงของคริสก็มาจอดสงบนิ่งบริเวณหน้าบ้านของชานยอล....
หลังจากชานยอลเปิดประตูรถลงมาคริสก็เปิดประตูรถฝั่งคนขับของเขาลงมาช้าๆ....
"เดี๋ยวก่อนสิ นี่นายจะไม่เชิญฉันไปทานน้ำในบ้านเลยเหรอ ฉันอุตส่าห์มาส่ง"
คริสแกล้งเอ่ยถามถึงน้ำใจของชานยอลที่จะมีต่อเขาบ้าง....
"นายกินน้ำจากในงานมาน่าจะอิ่มแล้ว กลับไปกินที่บ้านนายเถอะ ขอบใจนะะะ"
ชานยอลพูดพลางเตรียมเดินหันหลังไปและเดินตรงไปยังประตูบ้านที่กำลังรอเขาอยู่...
"เดี๋ยวก่อนชานยอล!!" .... คริสพยายามเดินตามชานยอลมาติดๆ
"งั้น........ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ" คริสขอความเห็นใจจากชานยอลเนื่องจากเส้นทางที่คริสจะขับกลับบ้านก็ไม่ใช่ใกล้ๆหากเขาปวดห้องน้ำระหว่างทางก็คงจะลำบากสำหรับตัวเขา
"อือๆรีบเข้าก็รีบๆกลับล่ะ ขับรถมืดๆมันอันตราย" ชานยอลพยักหน้าหงึกหงักพร้อมกับกดออดที่หน้าบ้านและยืนยิ้มอยู่ด้วยความดีใจที่จะได้พบแม่และน้องแล้ว
ไม่นานนัก....แม่ของชานยอลเดินมาเปิดประตูและตกใจเล็กน้อยที่ชานยอลมาบ้านในเวลาดึกดื่นค่ำคืนขนาดนี้....แต่เธอเองก็ดีใจที่ชานยอลกลับมานอนที่บ้าน เพราะเธอก็คิดถึงชานยอลลูกชายของเธอมากเช่นกัน
"สวัสดีครับคุณป้า ขอผมเข้าไปหน่อยนะครับ" ... คริสโค้งศรีษะให้แม่ชานยอลอย่างมีมารยาท
แม่ของชานยอลมีท่าทียิ้มแย้มและยินดีต้อนรับคริส นานๆทีจะมีซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างคริสมาเยี่ยมเยือนที่บ้าน เธอกล่าวคำทักทายและนำน้ำมาให้คริสด้วยความมีมารยาทที่พึงมีกับแขกในบ้าน.... เมื่อคริสเดินเข้าบ้านมาสักพักเขาก็มองซ้ายมองขวาสำรวจรอบๆบ้าน...
บ้านของชานยอลไม่ใหญ่โตมากนัก เหมาะกับครอบครัวเล็กๆและดูอบอุ่นตรงที่มีแม่ลูกอยู่ด้วยกัน...ครอบครัวแบบนี้คริสเองก็เคยใฝ่หาและร่ำร้องถึงมันเมื่อตอนเขาเด็กๆแต่ตอนนี้เขาเองก็ลืมมันและไม่เคยต้องการมันอีกแล้วหลังจากที่ประธานวูแม่ของเขาไม่เคยมีเวลาแม้จะทำอาหารให้เขาทานซักครั้งเลย..........
"แม่ น้องหลับแล้วเหรอฮะ" ชานยอลเอ่ยถามพร้อมกับเข้าไปคลอเคลียเธอด้วยความคิดถึง
"นอนไปแล้วจ๊ะ ก็หนูไม่บอกแม่ว่าจะกลับบ้านจะได้บอกให้น้องรอ" .... คริสแอบอมยิ้มกับประโยคสนทนาระหว่างแม่ลูก เขาก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าแม่ของชานยอลเรียกชานยอลว่าหนู ฟังแล้วก็ดูน่ารักดี...
"คุณคริสกลับบ้านดึกๆอย่างนี้เหรอค่ะ อันตรายน่าดู เท่าที่ป้ารู้บ้านคุณคริสก็ค่อนข้างไกลจากที่นี่"
แม่ของชานยอลเอ่ยถามคริสด้วยความเป็นห่วงที่เขาต้องเดินทางไกลๆในเวลาค่ำคืน....
"ไม่ค่อยบ่อยหรอกครับแต่วันนี้ผมเหนื่อยมาก ต้อนรับแขกในงานการกุศลทั้งคืนแล้วก็.........ดื่มมานิดหน่อยด้วย"
ประโยคสุดท้ายคริสตั้งใจเน้นคำเพื่อให้แม่ของชานยอลมีความเป็นห่วงในตัวเขามากขึ้น...สายตาคมของเขาจับจ้องไปที่ปฎิกิริยาและใบหน้าของแม่ชานยอลหลังจากที่เขาพูดจบและแสร้งทำท่าทีเหมือนคนที่เหนื่อยล้ามาอย่างหนัก....
"ตายละ ดื่มมาแล้วขับรถไกลๆกลับอย่างนี้ ป้าว่าไม่ค่อยดีนะคะ.....เอ่อ.... ถ้าคุณคริสไม่รังเกียจบ้านหลังเล็กๆของเราก็นอนค้างที่นี่ซักคืนเถอะค่ะ ถือว่าพักเอาแรงก่อน"
โป๊ะเช่ะ!!!!....ลงล็อคที่คริสตั้งไว้ทั้งหมด คริสอมยิ้มในใจของเขาอย่างผู้ที่กำชัยชนะอยู่ในมือ นี่คือสิ่งที่เขารอฟังจากปากของแม่ชานยอล...แผนการณ์ที่เขาวางไว้ในหัวตั้งแต่ที่สวนหย่อมหน้าโรงแรมสัมฤทธิ์ผลแล้ว!.....
"แม่ฮะ! จะให้คริสนอนได้ไง ให้เขากลับไปสิ บ้านเราก็คับแคบ ห้องรับแขกก็ไม่มี!"
ชานยอลรีบเขย่าแขนแม่ของเขา บ้านหลังนี้มีห้องนอนแค่ 2 ห้องเท่านั้นคือห้องของแม่ที่นอนกับน้องสาวและห้องนอนของเขา.....แล้วคริสจะนอนที่ไหน จะนอนยังไง
"ชานยอล! แม่ไม่เคยสอนให้หนูเป็นคนแล้งน้ำใจ คุณคริสอุตส่าห์ขับรถมาส่งที่บ้านและคุณเขาก็ดื่มมาถ้าเกิดอะไรขึ้นลูกเองก็จะเดือดร้อน...ลูกเป็นผจก.คุณเขานะ"
แม่ของชานยอลต่อว่าลูกชายของเธอที่ดูท่าจะเสียมารยาทไปซะหน่อยหากจะไล่คริสให้กลับในเวลาค่ำมืดแบบนี้และวันนี้เธอเองก็เพิ่งดูข่าวว่าค่ำคืนนี้อาจจะมีหิมะตกบางๆทำให้ไม่ปลอดภัยในการเดินทางนัก
"แม่ฮะะะ ไม่นะะ ทำไมอ่ะ เราจะนอนกันยังไง....."
ชานยอลยังคงร้อนรนกังวลใจและงอแงกับแม่ของเขา...
"ผมไปนอนกับแม่นะ นะ แล้วก็นอนกับน้องด้วย ไม่ได้นอนด้วยกันตั้งนานละ" ชานยอลแสร้งยิ้มอ้อนกับแม่ของเขาและยังคงดื้อรั้นกับแม่ของตนเองโดยมีสายตาของคริสลอบมองมาด้วยความเจ้าเล่ห์
"ชานยอล! น้องเป็นเด็กผู้หญิงเราจะนอนกับน้องกับแม่ได้ยังไง ไปๆไปเตรียมห้องให้คุณคริสเธอ แล้วก็จัดห้องด้วยล่ะ"
แม่ของชานยอลโบกมือเป็นเชิงไล่ให้ชานยอลไปจัดการห้องนอนของตนเอง หน้าตาของชานยอลบูดบึ้งพร้อมกับมองมาที่ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของคริส คริสยักคิ้วให้ชานยอลข้างนึงและยิ้มมุมปากออกมาเมื่อสิ่งที่เขาวางแผนไว้มันสำเร็จได้ง่ายๆเพราะสมองอันชาญฉลาดของเขา...
ชานยอลเดินลงฝ่าเท้าแรงๆเพื่อให้ทราบว่าเขาไม่พอใจที่คริสต้องมานอนค้างที่บ้าน....และเดินหายเข้าไปในห้องนอน....เขาเก็บกรอบรูปบานใหญ่รีบยัดเข้าไปใต้เตียงเมื่อนึกขึ้นได้ว่านี่คือสิ่งสำคัญที่คนอื่นจะเห็นไม่ได้นอกจากเขาเท่านั้น...
คริสเอ่ยขอบคุณในความมีน้ำใจกับแม่ของชานยอลพร้อมกับรอยยิ้มละมุนของเขา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจและแผนการณ์มากมายที่เค้าสร้างขึ้นมา.....
หลังจากแม่ของชานยอลขอตัวเข้าไปดูแลลูกสาวของเธอที่นอนหลับอยู่คนเดียว...คริสก็ค่อยๆเดินมาที่ห้องนอนของชานยอลช้าๆพร้อมกับเคาะประตูเบาๆ...
ชานยอลเปิดออกดูเพราะคิดว่าเป็นแม่ของเขา...แต่แล้วดวงตากลมโตของชานยอลก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นคริสและตอนนี้คริสก็กำลังเดินเข้ามาในห้องนอนเขาแล้ว...ห้องนอนของชานยอลที่แม้แต่แม่เขาเองยังไม่ค่อยได้เข้ามายุ่มย่ามจนนับครั้งได้...
"คริส!!นี่แผนของนายใช่มั้ย!" ... ชานยอลยังคงแผดเสียงใส่คริสและจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา
"แผนอะไร แม่นายชวนฉันค้างเอง นายก็ได้ยิน" ... คริสพูดพลางหย่อนร่างของตนเองนั่งลงบนเตียงนุ่มของชานยอล...ด้วยท่าทีสบายใจ
"เตียงนายเล็กจัง คืนนี้เราต้องนอนเบียดกันล่ะสิ แต่ก็ดีอบอุ่นดี ฉันชอบ"
คริสพูดพลางยิ้มออกมาและทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ชานยอลอีกครั้ง ....หน้าตาของเขาตอนนี้มันน่าหมั่นไส้ชะมัด....
"คริส...นาย..." ชานยอลยังคงโมโหและหงุดหงิดใจที่คริสเอาชนะเขาได้อีกแล้ว เขาไม่น่าให้คริสมาส่งที่บ้านเลยไม่อย่างนั้นคริสก็ไม่ต้องมานอนค้างที่บ้านของเขาในคืนนี้
"เอาผ้าขนหนูแล้วก็เสื้อผ้านายมาให้ฉันได้แล้ว.....ฉันง่วงละ จะอาบน้ำนอน"
คริสแกล้งเอนตัวลงไปที่เตียงนอนของชานยอลด้วยท่าทางเหนื่อยล้าเต็มที...
ชานยอลเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออกและคว้าเอาผ้าขนหนูรวมถึงเสื้อผ้าของเขาขว้างไปบนตัวคริสด้วยความโมโห ชานยอลยังคงมีท่าทางกระฟัดกระเฟียดใส่คริส ซึ่งคริสเองก็อดขำไม่ได้กับปฎิกิริยาของชานยอลแบบนี้
หลังจากคริสอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จเขาก็กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงของชานยอลอย่างสบายใจ เสื้อผ้าของชานยอลที่เขาสวมใส่อยู่แม้จะไม่ใช่สินค้าราคาแพงแต่ก็ให้ความอบอุ่นกับร่างกายของเขาอย่างประหลาด....คริสหลับตาลงช้าๆ ทุกการกระทำของคริสอยู่ในสายตาของ
ชานยอล...ในคืนนี้ชานยอลเองก็กำลังวิตกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกมั้ย...แต่ผมจะกลัวทำไม ในเมื่อที่นี่มันคือบ้านของผม หากมีอะไรเกิดขึ้นผมก็แค่วิ่งออกจากห้องไปนอนกับแม่...เมื่อคิดได้ดังนั้นมันก็ทำให้ชานยอลสบายใจขึ้นและเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับปิดประตูห้องน้ำลงช้าๆ....
ร่างสูงโปร่งของคริสนอนเหยียดยาวเอนกายอย่างสบายเขาแกล้งหรี่ตาดูเมื่อได้ยินเสียงชานยอลเดินเข้าห้องน้ำและปิดประตู คริสหัวเราะออกมาด้วยความดีใจระคนสะใจ....ในที่สุดชานยอลก็ไม่เคยหนีเขาพ้น...ปาร์คชานยอล....ฉันขอให้คืนนี้นายนอนหลับฝันดีนะ.........นอนหลับฝันดีอยู่ข้างๆฉันอย่างนี้ทั้งคืน............
End EP6---------------------------------------
คริสยังคงแกล้งใช้ปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขาคลอเคลียไปที่แก้มนวลขาวเนียนของชานยอล...ยิ่งชานยอลนิ่งเงียบในเวลานี้คริสก็ยิ่งได้ใจในการกระทำดังกล่าวมากขึ้น...ชานยอลทั้งตื่นเต้นและอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกหากเขาทั้งสองคนถูกจับได้ว่าอยู่ในห้องน้ำเดียวกันเรื่องราวจะใหญ่โตขนาดไหน...
หลังจากที่ผู้ชายห้องข้างๆทำธุระเสร็จและกำลังจะเดินออกมาจากห้องน้ำ โทรศัพท์มือถือที่เหน็บบริเวณเอวของเขาก็พลันตกลงมาที่พื้น...ก่อให้เกิดความตกใจทั้งคริสและชานยอลเมื่อโทรศัพท์กลิ้งเข้ามาในห้องน้ำที่มีทั้งคริสและชานยอลอยู่ในนั้น...
"เอ่อ ขอโทษนะครับ....คุณห้องข้างๆ ช่วยหยิบโทรศัพท์ให้ผมหน่อยครับ"
ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยพูดออกมาในขณะที่มือถือของเขากระเด็นกระดอนไปในห้องน้ำที่มีทั้งร่างของคริสและชานยอลอิงแอบอยู่ในนั้น
"ครับ ครับ เดี๋ยวผมหยิบให้" .... คริสเอ่ยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้ดูเรียบและนิ่งเฉยที่สุด
คริสก้มลงหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นและยื่นมันกลับไปให้กลับเจ้าของดังเดิม...
"เอ่อ ...คุณ ...คุณคริสหรือเปล่าครับ ผมคุ้นเสียงคุณมาก" .... ชายหนุ่มคนนั้นรับโทรศัพท์มาพร้อมเอ่ยตอบกับคริสด้วยน้ำเสียงระคนดีใจ
คริสมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย รวมถึงชานยอลในตอนนี้ ชานยอลเอามือนาบไปกับหน้าผากของตนเองบ่งบอกถึงความปวดหัวและกังวลใจกับบางเรื่องที่มีลางสังหรณ์ว่ากำลังจะเกิดขึ้น
"ครับ ผมคริสเอง" ... คริสยังคงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูเรียบเฉยเช่นเคย
ชายหนุ่มห้องข้างๆเปิดประตูออกมาบริเวณหน้าห้องน้ำและยืนส่องกระจกรอคริสสักพัก....เขาเป็นนักข่าวสายบันเทิงที่วันนี้ก็ได้รับเชิญให้มาทำข่าวในงานนี้เช่นกัน...นักข่าวคิมยังคงยืนขยับเสื้อผ้าการแต่งกายของเขาอยู่หน้ากระจกโดยมีชานยอลยืนถอนหายใจอยู่ในห้องน้ำแต่คริสเองก็ยังมีท่าทีที่ตื่นเต้นน้อยกว่าชานยอล เขาคงผ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะมากสินะ
"อ่า ท่าทางคุณคริสคงจะทำธุระนาน เดี๋ยวออกไปผมขอสัมภาษณ์หน่อยนะครับ ขอบคุณสำหรับโทรศัพท์นะครับคุณคริส"
นักข่าวคิมเดินก้าวออกไปช้าๆจากห้องน้ำ ในขณะนี้ความเงียบได้เข้ามาปกคลุมบริเวณห้องน้ำอีกครั้งด้วยความอึดอัดใจของชานยอลที่คริสเล่นอะไรเป็นเด็กๆหลังจากที่นักข่าวคนนั้นออกไป ชานยอลก็ทุบไปที่หน้าอกของคริส 2-3 ที...
"นายนี่เล่นอะไรบ้าๆ ถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้นนายจะทำยังไง!"
ชานยอลต่อว่าคริสด้วยความรู้สึกโมโห ความกลัวและความตกใจของชานยอลทำให้เขาลืมความหอมละมุนและความหวาบหวานเมื่อครู่ที่คริสบรรจงมอบให้เขา....
คริสคว้าข้อมือบางของชานยอลที่ทุบลงมาที่หน้าอกเขามาเกาะกุมไว้ รวมถึงหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน...
"ฉันอยู่วงการนี้มานานน่ะ เรื่องแค่นี้เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว"
คริสยังคงแกล้งโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ชานยอลอีกครั้งโดยจะหอมมาที่แก้มนวลใสอีก ชานยอลรีบยกมืออีกข้างมาปิดปากของคริสไว้...และใช้สายตาตำหนิคริส ดวงตากลมโตเบิกกว้างเปรียบเหมือนคำขู่ในคริสหยุดการกระทำดังกล่าว...คริสอมยิ้มออกมาพร้อมแววตาเจ้าเล่ห์ เมื่อคริสรู้สึกว่าตอนนี้หายออกมาจากในงานนานเกินไป เขาจึงตัดสินใจที่จะกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง ...เขากำชับกับชานยอลว่าให้เขาออกไปด้านนอกก่อนแล้วชานยอลค่อยตามออกมาจะได้ไม่มีใครสงสัย..ชานยอลพยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงเข้าใจและยังคงทำหน้าบูดบึ้งใส่คริสด้วยความโมโห...
ไม่นานนักคริสเดินออกมาพร้อมขยับสูทและเนคไทที่ลำคอของเขาให้เข้าที่ ....เมื่อซักครู่ชานยอลทั้งทุบและตีเขาจนเสื้อสูทของเขามันยับยู่ยี่และเสียทรงหมดแล้ว...
เมื่อคริสเปิดประตูเดินออกมาได้สักพักก็เจอเข้ากับนักข่าวคิมคนที่เขาเก็บโทรศัพท์ให้...นักข่าวคิมยืนรอคริสอยู่ไม่ห่างจากบริเวณห้องน้ำนัก...เขารีบตรงเข้ามาขอบคุณคริสเรื่องโทรศัพท์และขอสัมภาษณ์คริสเล็กๆน้อยเนื่องจากหากคริสเดินไปบริเวณงานอีก คงมีแต่สื่อมารุมล้อมจนนักข่าวคิมเข้าไม่ถึงอีกตามเคย...
ระหว่างที่ทั้งคริสและนักข่าวคิมยืนคุยกันอยู่นั้น ไม่กี่นาทีต่อมาชานยอลก็เดินออกมาจากในห้องน้ำ สายตาของนักข่าวคิมเหลือบไปเห็นชานยอล...นักข่าวคิมมีท่าทีตกใจเล็กน้อยเมื่อช่วงเวลาที่เขายืนรอคริสอยู่นั้นไม่มีใครเดินเข้าห้องน้ำไป...แต่แล้วชานยอลเดินคล้อยหลังจากคริสมาได้อย่างไร...ความสงสัยใคร่รู้ตามประสานักข่าว เขาพยายามจับจ้องไปที่ใบหน้าของชานยอลที่เดินผ่านเขาไปโดยที่คริสไม่ทันสังเกตเห็น
คุณปาร์คชานยอลคนนี้เป็นผจก.ส่วนตัวคนใหม่ของคริส....หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้ชักจะมีอะไรให้น่าค้นหาซะแล้ว นักข่าวคิมคิดจะสืบค้นเรื่องบางอย่างระหว่างทั้งคริสและชานยอลมันอาจจะเป็นความสงสัยของเขาไปเอง...หรือมันอาจจะมีอะไรแอบแฝงจริงๆก็ได้...
"ขอบคุณนะครับ คุณคริส ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน เอ่อ...ว่าแต่ผมจะขอสัมภาษณ์ผจก.ส่วนตัวคนใหม่ของคุณได้บ้างมั้ยครับ"
นักข่าวคิมเอ่ยถามคริสไปตามมารยาทและสายตาของเขาก็พยายามจับพิรุธจากสีหน้าของคริส
"อย่าเพิ่งเลยดีกว่าครับ เขายังใหม่ในวงการนี้อยู่ ขอโทษด้วย" คริสเอ่ยตอบพร้อมสีหน้าเรียบเฉยและเดินจากนักข่าวคิมมาเมื่อเห็นชานยอลเดินพ้นเขาไปได้สักระยะแล้ว
ที่โต๊ะกลมขนาดใหญ่มีผ้าคลุมโต๊ะสีขาวสะอาดตา ประดับประดาด้วยแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่บริเวณกลางโต๊ะ...ชานยอลเดินไปหยิบเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ด้านข้างและปลีกตัวไปนั่งเงียบๆคนเดียว เขาไม่ถนัดนักกับงานสังคมแบบนี้และในสถานที่ที่คนเยอะแยะมากมายก็ทำให้ชานยอลมีอาการประหม่า คงจะเป็นการดีถ้าเขาหลบมานั่งที่มุมเงียบๆตรงนี้ดีกว่า...
"ตาหายเจ็บหรือยังครับคุณชานยอล" .... คิมจงอินเดินเข้ามาทักทายชานยอลหลังจากที่สายตาของเขาเห็นชานยอลเดินออกมาจากเคาน์เตอร์เครื่องดื่มได้สักพัก
"อ่อ ดีขึ้นมากแล้ว...ขอบคุณนะฮะคุณคิมจงอิน" ชานยอลมีรอยยิ้มบางๆปรากฎขึ้นบนใบหน้าเพราะเมื่อครู่ในห้องน้ำเขาไม่มีเวลาที่จะกล่าวคำขอบคุณกับจงอิน...
"ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ ผมก็เป็นศิลปินใหม่ไม่ค่อยรู้จักใครเหมือนกัน" คิมจงอินยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เป็นมิตรพร้อมนั่งลงข้างๆชานยอล
ทั้งคิมจงอินและชานยอลนั่งคุยกันพร้อมกับมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เขาทั้ง 2 คนยังใหม่ในวงการนี้ทั้งคู่และก็คุยกันถูกคอ เขาทั้งสองนั่งมองศิลปินคนนั้นคนนี้ที่เดินในงานพร้อมพูดถึงผลงานของคนในงานทั้งหลาย ชานยอลเองก็เป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับข่าวบันเทิง พอจะรู้เรื่องอะไรในวงการมาบ้างและพอที่จะหาเรื่องมาคุยกับจงอินได้
หลังจากที่คริสปลีกตัวมาจากนักข่าวคิมไม่นานเขาก็ต้องหยุดสนทนากับผู้ใหญ่ในวงการอีกท่านทั้งนางแบบ ศิลปิน นักแสดง ร่วมอยู่ในวงสนทนาของคริสและกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องผลงานใหม่ของคริสที่คงจะมีการโปรโมทอีกไม่นานนี้ เขามีซีรีย์ที่ต้องร่วมแสดงกับนางเอกคนหนึ่ง..ซึ่งตอนนี้กำลังติดต่อประสานงานขอคิวจากนางเอกท่านนั้น......
"ตกลงซีรีย์ของอาจะได้เปิดกล้องเมื่อไรดีคริส..ฮ่าๆ" ผู้ใหญ่ในวงการท่านนึงเอ่ยถามคริสพร้อมกับรอยยิ้ม
"คุณอาขอคิวจากนางเอกของคุณอาให้ได้ก่อนเถอะครับ...นางเอกเป็นใครนี่จะเก็บเป็นความลับอีกนานใช่มั้ยฮะ"
คริสเอ่ยตอบไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นางเอกในวงการคนที่จะต้องเล่นซีรีย์ประกบคู่กับเขายังคงเป็นความลับจากทางทีมงานและผู้จัด คริสเองก็ไม่คิดจะสนใจนักเพราะเขาเองไม่มีปัญหาอยู่แล้วในการร่วมงานกับใครท่าทางของคริสยังคงยิ้มแย้มอยู่ในวงสนทนาแต่ทั้งสายตาและหัวใจของเขาคอยมองและเป็นห่วงชานยอลที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมสีขาวนั้น...โต๊ะที่มีจงอินร่วมอยู่ในนั้นด้วย...
"เอาเป็นว่าอาได้คิวเมื่อไรจะรีบติดต่อไปทางคริสอีกทีนะ"
"ได้ครับ...ยินดีครับ"
.... คริสโค้งศรีษะให้ผู้ใหญ่ท่านนั้นพร้อมกับเดินจากมา ร่างสูงโปร่งของคริสก้าวเท้ามายืนอยู่ข้างๆชานยอลที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่ที่เก้าอี้ที่มีจงอินนั่งอยู่ใกล้ๆ
"คุยกันสนุกสนานใหญ่เลยนะ...ฉันขอคุยด้วยสิ" คริสพูดพลางลากเก้าอี้มานั่งคั่นกลางระหว่างจงอินและชานยอลจนจงอินต้องขยับเก้าอี้ของเขาหลบออกไป พร้อมกับมองหน้าคริสด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ
"คริสนายควรมีมารยาทกับคุณคิมจงอินบ้างนะ"
ชานยอลต่อว่าคริสด้วยความรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของเขาที่ดูเหมือนเด็กเล็กๆที่กำลังเอาแต่ใจตัวเอง
คริสยังคงมีท่าทีเรียบเฉยต่อชานยอลและไม่สนใจในคำพูดของชานยอล
"คิมจงอิน ฉันคงยังไม่ได้บอกนายว่าฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับคนของฉัน"
สายตาของคริสเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าวขึ้นเมื่อหันไปมองที่ใบหน้าของจงอิน เด็กรุ่นน้องในวงการที่เขาไม่ต้องการให้อยู่ใกล้กับชานยอลมากเกินไป...
"ผมก็แค่มาคุยเป็นเพื่อนคุณชานยอลนี่ครับ ไม่ได้ทำอะไรผิด" สายตาของจงอินที่มองมายังคริสก็เป็นสายตาที่ค่อนข้างดุดันเช่นกัน บางทีเขาก็รู้สึกว่าคริสจะใช้อำนาจที่มีในตัวมากเกินไป
"ฉันคิดว่านายคงยังไม่อยากจะเดือดร้อนนะคิมจงอิน นายยังใหม่ในวงการนี้มาก อย่าให้เรื่องอะไรมาทำลายอนาคตตัวเองเลย"
คริสยังคงใช้แววตาของเขาในเชิงตักเตือนจงอินอีกครั้งรุ่นน้องควรจะเชื่อฟังในคำแนะนำของรุ่นพี่
"ผมว่าพี่ควรจะเตือนตัวเองดีกว่านะครับ"
"คิมจงอิน!!"
คริสลุกขึ้นและกระชากคอเสื้อของจงอินด้วยความโมโห นายกล้าหาญมากที่ใช้คำพูดแบบนี้กับฉัน คริสสบถในใจ ..... สักพักเขาก็ค่อยๆปล่อยคอเสื้อของจงอินออกเมื่อคิดได้ว่าตนเองอยู่ในงานที่มีทั้งผู้ใหญ่และคนในแวดวงเยอะเกินไป
คริสผลักจงอินไปที่เก้าอี้จนแผ่นหลังของคิมจงอินกระแทกเข้ากับพนักพิงจนเขารู้สึกจุก...
ชานยอลยังคงมองทั้งสองคนที่กำลังทะเลาะกันด้วยแววตาตกใจและเจือปนไปด้วยความโมโหที่คริสไม่เคยเชื่อฟังคำพูดเขาทั้งๆที่เขาเป็นผจก.ส่วนตัวและมีหน้าที่คอยดูแลคริส...หากเขายังห้ามปรามคริสและออกคำสั่งกับคริสไม่ได้แล้วตำแหน่งผู้จัดการอย่างเขาจะมีความสำคัญอะไร
"เมื่อไรนายจะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆซักที ฉันเบื่อกับการกระทำของนายจริงๆคริส"
ชานยอลพูดต่อว่าคริสพร้อมกับก้าวเท้าเดินออกไปจากบริเวณนั้นโดยเร็ว คงจะดีหากเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้...คงจะดีหากคริสกับจงอินจะอยู่กันตามลำพังโดยที่ชานยอลไม่ใช่ตัวก่อปัญหา
ทั้งคริสและจงอินหยุดพฤติกรรมก้าวร้าวของตนเองและมองตามร่างของชานยอลที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ....แววตาของคริสที่มองจงอินเปี่ยมไปด้วยโทสะ แม้เขาจะเป็นลูกชายของประธานวูแต่ก็ไม่คิดจะใช้อำนาจของตนเองในการกลั่นแกล้งจงอิน แต่จงอินก็ควรจะมีสัมมาคารวะกับรุ่นพี่ในวงการอย่างเขาบ้าง...
งานเลี้ยงในโรงแรมหรูดำเนินไปจนถึงตอนสุดท้าย แขกเหรื่อในงานต่างทยอยเดินทางกลับพร้อมทักทายกล่าวคำอำลาคริสใช้เวลาในการทักทายกับแขกต่างๆค่อนข้างมากในบริเวณหน้างาน เนื่องจากเขาเป็นลูกชายของประธานวูที่บริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่องานนี้ มันจึงเปรียบเหมือนงานนี้ก็เป็นงานของเขาที่จะต้องดูแลต้อนรับแขกเหรื่อเช่นกัน
หลังจากคริสเสร็จจากธุระในงานแล้ว เขาก็เดินปลีกตัวออกมาเพื่อตามหาชานยอลที่หายไปได้สักพัก...เขามองหาชานยอลด้วยความร้อนรนใจ ไม่นานนักสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร่างโปร่งที่คุ้นเคย..... ชานยอลนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าสวนหย่อมของโรงแรมไม่ห่างจากตำแหน่งที่คริสยืนอยู่นัก คริสรีบเร่งฝีเท้าของเขาเพื่อเดินไปหาชานยอลก่อนที่เขาจะลุกหนีคริสไปอีก...
"เป็นอะไร ทำไมมานั่งเงียบๆคนเดียว" คริสเอ่ยถามกับชานยอลไม่เต็มเสียงนัก
"เปล่า....ฉันเบื่อ....อยากกลับบ้าน" ชานยอลนั่งเหม่อมองไปด้านหน้าของเขาอย่างไร้จุดหมาย
"อยากกล้บบ้านก็ไปสิ ฉันก็เหนื่อยละ" คริสพูดพลางดึงข้อมือของชานยอลให้ลุกขึ้นจากม้านั่งบริเวณสวนหย่อม
"ฉันอยากกลับบ้านฉัน ไม่ใช่บ้านนาย......นายหายดีแล้วก็น่าจะให้ฉันกลับไปหาแม่กับน้องบ้าง"
"ฉันไม่เจอพวกเขามาหลายวันแล้วนะ" สายตาของชานยอลดูเศร้าลงหลังจากพูดประโยคนั้นจบ
เป็นอาทิตย์แล้วที่ชานยอลไม่ได้กลับบ้านเพราะต้องมาดูแลคริสหลังจากคริสมีอาการบาดเจ็บที่แขน
ที่บ้านของชานยอลมีเขา แม่และน้องสาวเท่านั้น เวลาที่ชานยอลไม่อยู่ก็จะมีแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ 2 คนเท่านั้นที่อยู่ในบ้านกันเพียงลำพัง...
คริสไม่พูดอะไรและเข้าใจชานยอลทุกอย่าง จะให้ชานยอลกลับบ้านไปเขาก็ไม่ต้องการ แต่เขาเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสารชานยอลที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ตอนนี้.....
"งั้นก็ลุก เดี๋ยวฉันไปส่งบ้าน".....คริสพูดออกมาพร้อมกับเดินนำหน้าชานยอลไปทางบริเวณที่รถสปอร์ตของเขาจอดอยู่...
ชานยอลยิ้มออกมาด้วยความดีใจและรีบก้าวเท้าให้ทันคริส......อย่างน้อยเขาก็ได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านบ้าง...และเขาเองก็เช็คตารางของพรุ่งนี้แล้วว่าคริสยังไม่มีคิว...จะมีก็เป็นวันมะรืนเลยคงจะเป็นการดีหากเขาได้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน
ตอนนี้ชานยอลเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังจะได้ของขวัญอย่างที่ใจหวัง...เขาเดินตามคริสและมีท่าทีอารมณ์ดีมากขึ้นชานยอลกล่าวขอบคุณคริสและให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะรีบกลับมาแต่เช้าในวันที่คริสมีคิวงาน...
รถสปอร์ตคันหรูขับมาตามถนนหนทางที่คริสไม่คุ้นเคยนัก ซอยเล็กซอยน้อยที่บ่งบอกว่าแถวนี้เป็นย่านของคนชนชั้นกลางหรืออาจจะเป็นคนที่หาเช้ากินค่ำทั่วไป...ไม่ใช่ย่านเศรษฐีคนมีเงินอย่างที่คริสอาศัยอยู่...ชานยอลคอยชี้มือเป็นเชิงเพื่อบอกทางกับคริสว่าบ้านของเขาไปทางไหน...ทั้งๆที่คริสเคยมาที่นี่ครั้งนึงแล้วแต่เขาก็จำทางไม่ค่อยได้เพราะครั้งนั้นเขาเองก็ไม่ใช่คนขับ....ใช้เวลาไม่นานนัก รถสปอร์ตราคาแพงของคริสก็มาจอดสงบนิ่งบริเวณหน้าบ้านของชานยอล....
หลังจากชานยอลเปิดประตูรถลงมาคริสก็เปิดประตูรถฝั่งคนขับของเขาลงมาช้าๆ....
"เดี๋ยวก่อนสิ นี่นายจะไม่เชิญฉันไปทานน้ำในบ้านเลยเหรอ ฉันอุตส่าห์มาส่ง"
คริสแกล้งเอ่ยถามถึงน้ำใจของชานยอลที่จะมีต่อเขาบ้าง....
"นายกินน้ำจากในงานมาน่าจะอิ่มแล้ว กลับไปกินที่บ้านนายเถอะ ขอบใจนะะะ"
ชานยอลพูดพลางเตรียมเดินหันหลังไปและเดินตรงไปยังประตูบ้านที่กำลังรอเขาอยู่...
"เดี๋ยวก่อนชานยอล!!" .... คริสพยายามเดินตามชานยอลมาติดๆ
"งั้น........ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ" คริสขอความเห็นใจจากชานยอลเนื่องจากเส้นทางที่คริสจะขับกลับบ้านก็ไม่ใช่ใกล้ๆหากเขาปวดห้องน้ำระหว่างทางก็คงจะลำบากสำหรับตัวเขา
"อือๆรีบเข้าก็รีบๆกลับล่ะ ขับรถมืดๆมันอันตราย" ชานยอลพยักหน้าหงึกหงักพร้อมกับกดออดที่หน้าบ้านและยืนยิ้มอยู่ด้วยความดีใจที่จะได้พบแม่และน้องแล้ว
ไม่นานนัก....แม่ของชานยอลเดินมาเปิดประตูและตกใจเล็กน้อยที่ชานยอลมาบ้านในเวลาดึกดื่นค่ำคืนขนาดนี้....แต่เธอเองก็ดีใจที่ชานยอลกลับมานอนที่บ้าน เพราะเธอก็คิดถึงชานยอลลูกชายของเธอมากเช่นกัน
"สวัสดีครับคุณป้า ขอผมเข้าไปหน่อยนะครับ" ... คริสโค้งศรีษะให้แม่ชานยอลอย่างมีมารยาท
แม่ของชานยอลมีท่าทียิ้มแย้มและยินดีต้อนรับคริส นานๆทีจะมีซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างคริสมาเยี่ยมเยือนที่บ้าน เธอกล่าวคำทักทายและนำน้ำมาให้คริสด้วยความมีมารยาทที่พึงมีกับแขกในบ้าน.... เมื่อคริสเดินเข้าบ้านมาสักพักเขาก็มองซ้ายมองขวาสำรวจรอบๆบ้าน...
บ้านของชานยอลไม่ใหญ่โตมากนัก เหมาะกับครอบครัวเล็กๆและดูอบอุ่นตรงที่มีแม่ลูกอยู่ด้วยกัน...ครอบครัวแบบนี้คริสเองก็เคยใฝ่หาและร่ำร้องถึงมันเมื่อตอนเขาเด็กๆแต่ตอนนี้เขาเองก็ลืมมันและไม่เคยต้องการมันอีกแล้วหลังจากที่ประธานวูแม่ของเขาไม่เคยมีเวลาแม้จะทำอาหารให้เขาทานซักครั้งเลย..........
"แม่ น้องหลับแล้วเหรอฮะ" ชานยอลเอ่ยถามพร้อมกับเข้าไปคลอเคลียเธอด้วยความคิดถึง
"นอนไปแล้วจ๊ะ ก็หนูไม่บอกแม่ว่าจะกลับบ้านจะได้บอกให้น้องรอ" .... คริสแอบอมยิ้มกับประโยคสนทนาระหว่างแม่ลูก เขาก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าแม่ของชานยอลเรียกชานยอลว่าหนู ฟังแล้วก็ดูน่ารักดี...
"คุณคริสกลับบ้านดึกๆอย่างนี้เหรอค่ะ อันตรายน่าดู เท่าที่ป้ารู้บ้านคุณคริสก็ค่อนข้างไกลจากที่นี่"
แม่ของชานยอลเอ่ยถามคริสด้วยความเป็นห่วงที่เขาต้องเดินทางไกลๆในเวลาค่ำคืน....
"ไม่ค่อยบ่อยหรอกครับแต่วันนี้ผมเหนื่อยมาก ต้อนรับแขกในงานการกุศลทั้งคืนแล้วก็.........ดื่มมานิดหน่อยด้วย"
ประโยคสุดท้ายคริสตั้งใจเน้นคำเพื่อให้แม่ของชานยอลมีความเป็นห่วงในตัวเขามากขึ้น...สายตาคมของเขาจับจ้องไปที่ปฎิกิริยาและใบหน้าของแม่ชานยอลหลังจากที่เขาพูดจบและแสร้งทำท่าทีเหมือนคนที่เหนื่อยล้ามาอย่างหนัก....
"ตายละ ดื่มมาแล้วขับรถไกลๆกลับอย่างนี้ ป้าว่าไม่ค่อยดีนะคะ.....เอ่อ.... ถ้าคุณคริสไม่รังเกียจบ้านหลังเล็กๆของเราก็นอนค้างที่นี่ซักคืนเถอะค่ะ ถือว่าพักเอาแรงก่อน"
โป๊ะเช่ะ!!!!....ลงล็อคที่คริสตั้งไว้ทั้งหมด คริสอมยิ้มในใจของเขาอย่างผู้ที่กำชัยชนะอยู่ในมือ นี่คือสิ่งที่เขารอฟังจากปากของแม่ชานยอล...แผนการณ์ที่เขาวางไว้ในหัวตั้งแต่ที่สวนหย่อมหน้าโรงแรมสัมฤทธิ์ผลแล้ว!.....
"แม่ฮะ! จะให้คริสนอนได้ไง ให้เขากลับไปสิ บ้านเราก็คับแคบ ห้องรับแขกก็ไม่มี!"
ชานยอลรีบเขย่าแขนแม่ของเขา บ้านหลังนี้มีห้องนอนแค่ 2 ห้องเท่านั้นคือห้องของแม่ที่นอนกับน้องสาวและห้องนอนของเขา.....แล้วคริสจะนอนที่ไหน จะนอนยังไง
"ชานยอล! แม่ไม่เคยสอนให้หนูเป็นคนแล้งน้ำใจ คุณคริสอุตส่าห์ขับรถมาส่งที่บ้านและคุณเขาก็ดื่มมาถ้าเกิดอะไรขึ้นลูกเองก็จะเดือดร้อน...ลูกเป็นผจก.คุณเขานะ"
แม่ของชานยอลต่อว่าลูกชายของเธอที่ดูท่าจะเสียมารยาทไปซะหน่อยหากจะไล่คริสให้กลับในเวลาค่ำมืดแบบนี้และวันนี้เธอเองก็เพิ่งดูข่าวว่าค่ำคืนนี้อาจจะมีหิมะตกบางๆทำให้ไม่ปลอดภัยในการเดินทางนัก
"แม่ฮะะะ ไม่นะะ ทำไมอ่ะ เราจะนอนกันยังไง....."
ชานยอลยังคงร้อนรนกังวลใจและงอแงกับแม่ของเขา...
"ผมไปนอนกับแม่นะ นะ แล้วก็นอนกับน้องด้วย ไม่ได้นอนด้วยกันตั้งนานละ" ชานยอลแสร้งยิ้มอ้อนกับแม่ของเขาและยังคงดื้อรั้นกับแม่ของตนเองโดยมีสายตาของคริสลอบมองมาด้วยความเจ้าเล่ห์
"ชานยอล! น้องเป็นเด็กผู้หญิงเราจะนอนกับน้องกับแม่ได้ยังไง ไปๆไปเตรียมห้องให้คุณคริสเธอ แล้วก็จัดห้องด้วยล่ะ"
แม่ของชานยอลโบกมือเป็นเชิงไล่ให้ชานยอลไปจัดการห้องนอนของตนเอง หน้าตาของชานยอลบูดบึ้งพร้อมกับมองมาที่ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของคริส คริสยักคิ้วให้ชานยอลข้างนึงและยิ้มมุมปากออกมาเมื่อสิ่งที่เขาวางแผนไว้มันสำเร็จได้ง่ายๆเพราะสมองอันชาญฉลาดของเขา...
ชานยอลเดินลงฝ่าเท้าแรงๆเพื่อให้ทราบว่าเขาไม่พอใจที่คริสต้องมานอนค้างที่บ้าน....และเดินหายเข้าไปในห้องนอน....เขาเก็บกรอบรูปบานใหญ่รีบยัดเข้าไปใต้เตียงเมื่อนึกขึ้นได้ว่านี่คือสิ่งสำคัญที่คนอื่นจะเห็นไม่ได้นอกจากเขาเท่านั้น...
คริสเอ่ยขอบคุณในความมีน้ำใจกับแม่ของชานยอลพร้อมกับรอยยิ้มละมุนของเขา รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจและแผนการณ์มากมายที่เค้าสร้างขึ้นมา.....
หลังจากแม่ของชานยอลขอตัวเข้าไปดูแลลูกสาวของเธอที่นอนหลับอยู่คนเดียว...คริสก็ค่อยๆเดินมาที่ห้องนอนของชานยอลช้าๆพร้อมกับเคาะประตูเบาๆ...
ชานยอลเปิดออกดูเพราะคิดว่าเป็นแม่ของเขา...แต่แล้วดวงตากลมโตของชานยอลก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นคริสและตอนนี้คริสก็กำลังเดินเข้ามาในห้องนอนเขาแล้ว...ห้องนอนของชานยอลที่แม้แต่แม่เขาเองยังไม่ค่อยได้เข้ามายุ่มย่ามจนนับครั้งได้...
"คริส!!นี่แผนของนายใช่มั้ย!" ... ชานยอลยังคงแผดเสียงใส่คริสและจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา
"แผนอะไร แม่นายชวนฉันค้างเอง นายก็ได้ยิน" ... คริสพูดพลางหย่อนร่างของตนเองนั่งลงบนเตียงนุ่มของชานยอล...ด้วยท่าทีสบายใจ
"เตียงนายเล็กจัง คืนนี้เราต้องนอนเบียดกันล่ะสิ แต่ก็ดีอบอุ่นดี ฉันชอบ"
คริสพูดพลางยิ้มออกมาและทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ชานยอลอีกครั้ง ....หน้าตาของเขาตอนนี้มันน่าหมั่นไส้ชะมัด....
"คริส...นาย..." ชานยอลยังคงโมโหและหงุดหงิดใจที่คริสเอาชนะเขาได้อีกแล้ว เขาไม่น่าให้คริสมาส่งที่บ้านเลยไม่อย่างนั้นคริสก็ไม่ต้องมานอนค้างที่บ้านของเขาในคืนนี้
"เอาผ้าขนหนูแล้วก็เสื้อผ้านายมาให้ฉันได้แล้ว.....ฉันง่วงละ จะอาบน้ำนอน"
คริสแกล้งเอนตัวลงไปที่เตียงนอนของชานยอลด้วยท่าทางเหนื่อยล้าเต็มที...
ชานยอลเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออกและคว้าเอาผ้าขนหนูรวมถึงเสื้อผ้าของเขาขว้างไปบนตัวคริสด้วยความโมโห ชานยอลยังคงมีท่าทางกระฟัดกระเฟียดใส่คริส ซึ่งคริสเองก็อดขำไม่ได้กับปฎิกิริยาของชานยอลแบบนี้
หลังจากคริสอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จเขาก็กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงของชานยอลอย่างสบายใจ เสื้อผ้าของชานยอลที่เขาสวมใส่อยู่แม้จะไม่ใช่สินค้าราคาแพงแต่ก็ให้ความอบอุ่นกับร่างกายของเขาอย่างประหลาด....คริสหลับตาลงช้าๆ ทุกการกระทำของคริสอยู่ในสายตาของ
ชานยอล...ในคืนนี้ชานยอลเองก็กำลังวิตกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกมั้ย...แต่ผมจะกลัวทำไม ในเมื่อที่นี่มันคือบ้านของผม หากมีอะไรเกิดขึ้นผมก็แค่วิ่งออกจากห้องไปนอนกับแม่...เมื่อคิดได้ดังนั้นมันก็ทำให้ชานยอลสบายใจขึ้นและเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับปิดประตูห้องน้ำลงช้าๆ....
ร่างสูงโปร่งของคริสนอนเหยียดยาวเอนกายอย่างสบายเขาแกล้งหรี่ตาดูเมื่อได้ยินเสียงชานยอลเดินเข้าห้องน้ำและปิดประตู คริสหัวเราะออกมาด้วยความดีใจระคนสะใจ....ในที่สุดชานยอลก็ไม่เคยหนีเขาพ้น...ปาร์คชานยอล....ฉันขอให้คืนนี้นายนอนหลับฝันดีนะ.........นอนหลับฝันดีอยู่ข้างๆฉันอย่างนี้ทั้งคืน............
End EP6---------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น