คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : EP4- การกลับมาของอู๋อี้ฟาน ครบ 100% แล้ว
คริสใช้เวลาไม่นานในการขับรถมาถึงที่นี่ หลังจากที่เขาออกมาจากร.ร.มงกูในช่วงเย็นมากแล้วเขาก็กลับไปเก็บของใช้ส่วนตัวที่บ้านและแต่งตัวออกมาที่ผับแห่งนี้อีกครั้ง โดยมีจงอินและคยองซูล่วงหน้าไปก่อน
คยองซูเป็นแฟนของจงอินที่คบหาดูใจกันมาหลายปีในช่วงระหว่างที่จงอินอยู่แคนาดาและเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นั่น....คริสไม่เคยพบกับคยองซูเพราะคยองซูศึกษาอยู่ที่เกาหลีและก็อาศัยในประเทศเกาหลี...แต่วันนี้จงอินต้องการแนะนำให้คริสรู้จักแฟนของเขา คริสเองก็ยินดีเช่นกัน...
บรรยากาศในร้านมืดมิดมีเพียงแสงไฟสลัวๆตามแบบฉบับผับทั่วไป เสียงเพลงดังและเบาสลับกันตามจังหวะ...ที่โซฟาตัวใหญ่มีร่างของจงอิน คยองซู และใครคนนึงที่กำลังฟุบคาโซฟาเนื่องจากอาการเมามาย...การแต่งกายของคริสวันนี้เรียกความสนใจจากคนในผับได้ไม่น้อย ร่างสูงโปร่งของเขาดูสง่าและโดดเด่นเมื่อเขาก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้....
เสื้อสูทยาวสีดำคลุมทับเสื้อเชิ๊ตตัวในสีขาวและกางเกงสแลคเข้ารูป ผมสีทองที่จัดแต่งทรงอย่างดีพร้อมที่ใบหูก็สวมต่างหูแนววัยรุ่นที่เขาโปรดปราน หน้าตาหล่อคมคายและรอยยิ้มที่มีมารยาทเมื่อมีหญิงสาวยิ้มให้ทำให้เขาเป็นที่สนใจจากคนในผับได้ไม่ยากนัก...
"เห้ยคริส...แกจะหล่อไปไหนวะ น่าเบื่อจังเวลาที่ใครๆก็มองแต่แก" จงอินแกล้งแซวเพื่อนสนิทหลังจากที่คริสนั่งลงบนโซฟานวมตัวใหญ่ไม่ห่างจากร่างของใครคนนึงที่กำลังฟุบไปกับโต๊ะ
คริสอมยิ้มบางๆให้กับคยองซู รวมถึงคยองซูก็ยิ้มตอบกลับให้เขาเช่นกัน....
"นี่เหรอจงอิน เพื่อนที่ชื่อคริสที่จงอินเล่าให้เราฟัง .....หน้าตาดีจริงๆนะ แฟนคงจะน่ารักน่าดู" คยองซูพูดพลางหัวเราะและยิ้มอย่างมีไมตรีให้กับคริส
"โอ๊ย อย่างมันอ่ะนะ ไม่มีหรอกฟงแฟน มันฝากหัวใจไว้กับใครคนนึงแล้ว" จงอินพูดขัดขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะร่วนเมื่อแซวเพื่อนรักได้
"เลิกอำฉันได้ละจงอิน...แล้วนี่ใคร ไหวมั้ย" คริสชี้ไปที่ร่างของคนที่นอนฟุบไม่ได้สติตรงโต๊ะตัวยาวด้านหน้า...ชายร่างสูงบางผมสีน้ำตาลอ่อนปรกหน้าปรกตาจนมองไม่เห็นใบหน้าของเขา...ซึ่งตอนนี้ผมของเขาก็เริ่มเปียกเครื่องดื่มที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าแล้วด้วย...
"เพื่อนฉันเองน่ะ เขามีปัญหาชีวิตนิดหน่อย" คยองซูพูดพร้อมกับเขย่าไปที่แขนของหนุ่มน้อยผู้นั้นเบาๆ
"จะไหวมั้ยนะ นี่ๆจะไปล้างหน้าหน่อยมั้ย เดี๋ยวฉันพาไป" คยองซูลูบไปบนผมเส้นเล็กๆของเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
"อย่ายุ่งกับฉันน่ะ ฉันจะนอน!" ..... หนุ่มน้อยร่างบางตะเบ็งเสียงออกมาเพื่อห้ามปรามเพื่อนตัวเล็กของเขาให้เลิกตอแยเขาซักที
"เห้ออออ เมาไม่ได้สติเลย ....ฉันแบกนายกลับบ้านสภาพนี้ไม่ไหวหรอกนะ!" คยองซูบ่นพร้อมทำหน้ากระเง้ากระงอดเพื่อนคออ่อนของเขาที่นอนฟุบมาหลายชม.แล้ว
"แบกไม่ไหวก็ให้ไอ้คริสมันแบก มันเป็นนักกีฬาตัวสูงใหญ่ แข็งแรงกว่าพวกเรา" จงอินยกภาระให้คริสแบกหนุ่มน้อยขี้เมาตรงหน้าซึ่งคริสเองก็ไม่ได้ใส่ใจคนตรงหน้ามากนัก...ตอนนี้เขากำลังมองอะไรเรื่อยเปื่อยมากกว่า...ผับที่นี่มีผู้คนมากหน้าหลายตา จะมีซักคนมั้ยที่รู้จักชานยอลและช่วยเขาตามหา
ทั้งจงอิน คยองซู และคริสนั่งคุยเกี่ยวกับแผนการณ์ลงทะเบียนเรียนในวันพรุ่งนี้...ทั้งสามนั่งคุยกันอย่างออกอรรถรสได้สักพัก...ไม่นานนักก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาที่โต๊ะโดยถือแก้วแชมเปญและนั่งลงบนโซฟาข้างๆคริสและแทบจะเกยลงไปที่ตักของเขา...สาวสวยหุ่นบางระหงพร้อมชุดเดรสเกาะอกสีดำยกแก้วแชมเปญเป็นเชิงจะขอชนแก้วกับคริส ซึ่งคริสเองไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีแต่เพียงน้ำเปล่าในแก้วของเขาเท่านั้น...
"ขอนั่งด้วยคนนะคะ" เธอกล่าวเพื่อเป็นมารยาท ซึ่งจริงๆเธอเองก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าเจ้าของโต๊ะจะอนุญาตหรือไม่
"เอ่อ คะ ครับ" คริสพยักหน้าตอบช้าๆพร้อมเขยิบหนีเธอผู้นั้นมาจนประชิดตัวหนุ่มน้อยที่ยังคงนอนฟุบอยู่ที่โต๊ะข้างๆคยองซู
"มากับเพื่อนเหรอคะ ท่าทางเพิ่งมาครั้งแรก เรามาที่นี่บ่อยไม่เคยเห็นคุณเลย" หญิงสาวผู้นั้นยังคงรุกต่ออีกครั้ง ลิปสติคสีแดงที่วาดลงบนปากได้รูปไม่ได้ดึงดูดความสนใจของคริสเท่าไรนัก เขากลับกลัวด้วยซ้ำกับผู้หญิงที่รุกเข้าหาผู้ชายแบบนี้...
"ครับ ผมเพิ่งกลับจากแคนาดา" คริสพูดพลางตั้งท่าเขยิบหนีอีกครั้งเมื่อเธอผู้นั้นเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
"แคนาดาอีกแล้วเหรอ หึ...เอิ๊ก" เสียงหนุ่มน้อยข้างคริสกำลังพูดพร่ำเหมือนคนละเมอพร้อมกับสะอึกคล้ายกับอาการของคนเมามาก...
เขาลุกขึ้นมานั่งช้าๆแต่ยังคงก้มหน้าก้มตาพร้อมกับใช้มือควานหาแก้วเครื่องดื่มตรงหน้าของเขาที่หายไป...
"นายเลิกดื่มได้แล้ว ฉันเป็นห่วง" คยองซูปรามเพื่อนเมื่อเห็นอาการเมามายของเขาในขณะนี้...
"คยองซูวววว พาฉันไปห้องน้ำหน่อย ฉันปวดห้องน้ำ" หนุ่มน้อยร่างบางโผเข้ากอดคยองซู พร้อมกับนอนฟุบลงไปบนตักโดยจงอินมีท่าทางตกใจไม่น้อยแต่คยองซูก็โบกมือเป็นเชิงว่าไม่ต้องเป็นห่วง...
"เดี๋ยวฉันพาไปเองคยองซู" คริสได้โอกาสหาจังหวะหนีอีกแล้ว เพื่อนของคยองซูคงช่วยเขาได้ เขาจะใช้โอกาสนี้เพื่อเดินหนีหญิงสาวข้างๆที่ยังคงกระแซะเข้ามาหาเขาไม่ห่าง
"ขอตัวก่อนนะครับ"
คริสค่อยๆจับแขนเพื่อนขี้เมาของคยองซูขึ้นพาดบ่าและกอดที่เอวบางของเขาที่ด้านหลัง...ผู้ชายอะไรตัวบางอ้อนแอ้นชะมัด...ไม่ต้องใช้กำลังเยอะนักคริสก็สามารถฉุดร่างของเพื่อนคยองซูให้ลุกขึ้นยืนและเดินประคองไปที่ห้องน้ำชายได้...ผมที่ปรกหน้าปรกตาของหนุ่มน้อยทำให้คริสไม่ได้สนใจที่จะมองไปที่ใบหน้าเขา...หนุ่มน้อยขี้เมายังคงเดินคอตกไปตลอดทางโดยที่คริสเองก็ต้องพยายามไม่ใช่น้อยเพราะเขาเดินไม่ค่อยตรงทางนัก
เมื่อถึงห้องน้ำชายที่เป็นจุดหมายของเขาทั้งสอง...คริสก็กอดที่เอวของหนุ่มน้อยเพื่อประคองและผลักประตูห้องน้ำเข้าไปเพื่อจะช่วยให้เขาทำธุระส่วนตัว
"นี่นายไหวมั้ย...ให้ฉันช่วยหรือเปล่า" คริสเอ่ยถามหนุ่มน้อยขี้เมาด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าเขาจะเสียหลักล้มลงในห้องน้ำ
"ไม่ต้องๆ.....ฉันไหว....ฉันไม่ได้เมาาา" หนุ่มน้อยพูดพลางส่ายหัวไปมาพร้อมกับเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำไป...
เวลาผ่านไปหลายนาทีที่คริสยืนรออยู่ที่หน้าห้องน้ำ ซึ่งไร้วี่แววที่จะมีร่างของหนุ่มน้อยเดินออกมา คริสตัดสินใจเดินเข้าไปดูและเคาะที่หน้าห้องน้ำเบาๆเพื่อดูว่าเพื่อนของคยองซูยังคงมีสติดีหรือไม่
"นี่ๆนาย...เงียบไปนานแล้วนะ" คริสออกแรงเคาะที่ประตูหน้าห้องน้ำให้ดังขึ้น ห้องน้ำยังคงล็อคอยู่ เขาก้มลงดูที่พื้นก็เห็นเพียงปลายเท้าของเพื่อนขี้เมาของคยองซูที่กำลังยืนนิ่งๆเท่านั้น
"นี่..นายขี้เมา เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!เป็นอะไรหรือเปล่า!" คริสพยายามดันประตูเข้าไปเพื่อช่วยเหลือหนุ่มน้อยคนนั้น...แต่ไม่นานเขาก็เปิดประตูออกช้าๆโดยที่ร่างของเขายังคงยืนโงนเงนและค่อยๆโถมร่างลงมาใส่คริสอย่างจังจนคริสเกือบล้ม...
ร่างของหนุ่มน้อยขี้เมาโผซบคริสและพิงศรีษะที่ไหล่กว้าง คริสจับตัวของเขาเอาไว้เพราะเกรงว่าจะล้มลงไปทั้งคู่....ไม่นานนักคริสก็เกิดความรู้สึกแปลกๆในสัมผัสนี้..มันดูอบอุ่นและคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก...ร่างบางของหนุ่มน้อยโผเข้ากอดและเริ่มละเมอพูดจาเมามายเหมือนคนไม่ได้สติ...
"นายตัวหอมจังงงง...คุณคนแคนาดา....ดีนะ คุณเป็นคนแคนาดา เห้อออ ผมไม่ชอบคนจีนเลย คนจีนใจร้ายกับผมมม" .... หนุ่มน้อยเริ่มละเมอเหมือนคนฝันร้ายเสียงของเขาเริ่มสะอึกสะอื้น...คริสค่อยๆจับไหล่ทั้งสองข้างของเขาเพื่อให้ผละออกมาจากตัวเขาและต้องการจะมองไปที่ใบหน้านั้น...
หนุ่มน้อยขี้เมายังคงซุกหน้าลงที่ไหล่ของคริสและขืนตัวไว้ เขายังคงพูดพร่ำเรื่องของตัวเองไม่หยุดด้วยน้ำเสียงที่หากไม่ตั้งใจฟัง....ก็คงจะฟังไม่ออกว่าหนุ่มน้อยคนนี้ต้องการจะพูดอะไร...
"ทิ้งไปให้หมดเลย ทิ้งเราเลย หนีไปเลยนะ อย่ากลับมา" คริสยังคงทำหน้างุนงงในสิ่งที่หนุ่มน้อยคนนั้นกำลังพูด เพื่อนของคยองซูดูท่าจะไม่ไหวแล้วเขาคงต้องรีบพาออกไปและให้คยองซูพาเพื่อนกลับบ้าน...
"เดินไหวมั้ย เดี๋ยวฉันพยุงไปนะ"
คริสยังคงยืนนิ่งเป็นรูปปั้นปล่อยให้เพื่อนขี้เมาของคยองซูยืนซบอยู่อย่างนั้น ไม่นานนักหลังจากใช้ความพยายามจับร่างบางของหนุ่มน้อยที่ยืนก้มหน้า ร่างของเขาก็โงนเงนอีกครั้งและโถมตัวลงมาที่หน้าอกของคริส...ครั้งนี้คริสรู้สึกถึงความชื้นและเปียกที่หน้าอกข้างขวาของเขา เมื่อเขาก้มมองดูก็ถึงตกใจพร้อมกับส่ายศรีษะเบาๆ.....อาเจียน เพื่อนของคยองซูอาเจียนใส่เสื้อราคาแพงของคริส...โดยที่คริสไม่มีโอกาสจะดิ้นรนเพื่อหลบหลีกเลย...
"นาย....อ้วก ใส่ ฉัน" คริสจับเสื้อของตนเองสะบัดช้าๆเพื่อให้คราบอาหารที่ติดอยู่บนเสื้อหลุดออกไป...นี่มันเรื่องบ้าอะไร คริสได้แต่สบถในใจถึงเหตุการณ์ตอนนี้
"นี่ นายขี้เมา!นายทำฉันเลอะไปหมด ...ยืนดีๆเลย ฉันบอกให้ยืนดีๆ!"
คริสดันร่างของหนุ่มน้อยให้ยืนประจันหน้ากับเขา...คราบอาหารยังคงติดที่มุมปากของหนุ่มน้อยคนนั้น เมื่อหนุ่มน้อยคนนั้นเสียการทรงตัว เขาก็เริ่มหงายหลังและหงายหน้าทำท่าเหมือนจะล้มลงไปข้างหลัง...ฉับพลันนั้นมือแกร่งของคริสก็โอบรอบหลังและดึงแขนเขาเอาไว้...
ผมที่ปรกหน้าปรกตาถูกสะบัดไปด้านหลังเมื่อหนุ่มน้อยขี้เมาเสียหลัก ....ดวงหน้าขาวใสภายใต้แสงไฟในห้องน้ำเผยให้เห็นดวงตากลมโตที่สะลึมสะลือ ขนตายาวที่กำลังกระพริบถี่ๆเหมือนคนง่วงนอน แก้มสีชมพูระเรื่อบางๆเมื่อยามต้องแสง...ปากอิ่มได้รูปที่ตอนนี้ดูไม่งามนักเนื่องจากมีคราบอาหารติดอยู่เล็กน้อย...
คริสรู้สึกคุ้นหน้าหนุ่มน้อยคนนี้อย่างบอกไม่ถูก หากเขาลืมตาขึ้นมาคริสคงจะพอจำได้ว่าเขาคนนี้เป็นใคร....ดวงตากลมโตของเขาปรือขึ้นมาช้าๆเมื่อคริสลูบไปที่เส้มผมที่กำลังหล่นมาปรกหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นออกอีกครั้ง....คริสเอื้อมไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงของเขาเพื่อเช็ดที่มุมปากของหนุ่มน้อยตรงหน้าเบาๆและเพ่งพินิจไปที่ใบหน้าขาวใสนั้นอีกครั้ง...
"คุณคนแคนาดา.....คุณ...ดูหล่อดีนะ..." ดวงตากลมโตของหนุ่มน้อยจ้องมองไปที่ใบหน้าของคริสพร้อมกับใช้ปลายนิ้วชี้ไล้ไปตามปลายจมูกโด่งของคริสช้าๆ....
"เดี๋ยวก่อน!...นายชื่ออะไร นี่รู้สติมั้ย ตอบสิว่านายชื่ออะไร" คริสจับร่างของหนุ่มน้อยตรงหน้าเขาเขย่าด้วยความตื่นเต้น เขากำลังคิดว่าคนในอ้อมกอดเขา หนุ่มน้อยที่อาเจียนรดตัวเขาในตอนนี้คือคนที่เขากำลังตามหาและคนที่เขากำลังรอคอย...
หนุ่มน้อยคนนั้นเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยตอบออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดใจ
"ถามทำไม!..หึ....เอิ๊ก....เราบอกก็ได้....เรา..ชื่อ...ปาร์ค...ชาน..ยอล"
สิ้นเสียงประโยคสุดท้ายของชานยอล หนุ่มน้อยขี้เมาคนนี้ก็โผเข้าซบที่ร่างของคริสอีกครั้งพร้อมกับคริสที่กำลังตกตะลึงและค่อยๆใช้อ้อมแขนแกร่งของเขาโอบรอบตัวชานยอลเพื่อดึงรั้งร่างบางและช่วยไม่ให้เขาล้มลงไปที่พื้น....
----------------40%------------------
(แล้วจะมาต่อที่เหลือ 60% ให้นะคะ ><)
-----------อีก 60% ที่เหลือค่ะ--------------
ร่างสองร่างในห้องน้ำยืนโงนเงนไปมา คริสกระชับอ้อมกอดของเขาแน่นขึ้นเมื่อได้ยินชื่อของ"ปาร์คชานยอล" คนที่เขากำลังตามหา ในตอนนี้เขาทั้งดีใจและมีความสุขระคนกัน....สถานที่แห่งนี้น่ะเหรอที่คริสได้เจอกับชานยอลอีกครั้งหลังจากที่พลัดพรากจากกันมา 6 ปี.....คริสอมยิ้มขำๆเมื่อชำเลืองมองชานยอลที่ยืนหลับตาและซบลงมาที่ตัวเขา หากเขาไม่ใช่นักกีฬาที่แข็งแรงก็คงจะล้มลงไปที่ห้องน้ำพร้อมๆกับชานยอลเมื่อครู่นี้แล้ว
หลายปีที่ผ่านมาเขาคิดถึงแต่ชานยอลเพื่อนคนแรกและคนเดียวของเขาในเกาหลี....และการกลับมาที่เกาหลีครั้งนี้ก็เพื่อมาตามหาชานยอล...ไม่น่าเชื่อว่าพรหมลิขิตของเขาทั้งสองจะเกิดขึ้นในห้องน้ำชายของผับแห่งนี้....
"นายไม่เปลี่ยนไปเลยนะชานยอล ยังดูเหมือนเดิมทุกอย่าง.....น่ารักกว่าเดิมด้วยซ้ำ" คริสพูดเบาๆพร้อมกับใช้มือหนาของเขาลูบสัมผัสไปตามแก้มใสของชานยอลช้าๆด้วยสายตาที่อ่อนโยน
"ฉันไม่เปลี่ยนหรอก มีแต่คนอื่นล่ะะะะ" ปากอิ่มสีชมพูของชานยอลกำลังพร่ำพูดพร้อมกับเบ้ปากและยังคงหลับตาพูดกับคริสโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้านี้คือใคร...ความมึนเมาของชานยอลทำให้ตอนนี้เขาขาดสติไม่มีแรงแม้กระทั่งจะให้ยืนพยุงร่างของตนเองไว้โดยไม่เอนไปซบที่ไหล่กว้างของคริส
"กลับโต๊ะได้ละ ฉันจะพาไป" คริสสอดมือหนาของเขารอบเอวบางของชานยอลและประคองเขาด้วยความห่วงใย....ถ้าเขาไม่เกรงใจคนในผับตอนนี้เขาคงจะอุ้มชานยอลเดินไปที่โต๊ะแล้ว
ชานยอลเดินกอดคอคริสออกมาพร้อมกับเดินโซซัดโซเซอย่างคนอ่อนแรง....คริสต้องเดินโค้งศรีษะขอทางคนในผับมาตลอดทางระยะทางจากห้องน้ำมาถึงโต๊ะไม่ได้ไกลมาก แต่การที่ต้องประคองคนเมามันทำให้ระยะทางสั้นๆที่ว่ากลับดูยาวนานกว่าปกติ....
คริสพรูลมหายใจออกมาและรู้สึกโล่งใจหลังจากที่ชะโงกดูที่โต๊ะของเขาและไม่พบร่างหญิงสาวปากแดงคนนั้นแล้ว มีเพียงคยองซูและจงอินที่ยังคงหัวเราะคุยกันอย่างคู่รักที่กำลังมีความสุข เมื่อถึงที่โต๊ะคริสค่อยๆปล่อยร่างของชานยอลให้นั่งบนโซฟารวมถึงเขาเองก็หย่อนกายลงนั่งข้างๆชานยอล คยองซูและจงอินแกล้งแซวที่ทั้งสองหายไปนานกว่าปกติ คริสยิ้มเขินๆก่อนจะเอ่ยคำพูดแก้เขินขึ้นมา
"เพื่อนนายอาเจียนรดฉัน....คยองซู" คริสแกล้งสะบัดเสื้อสูทของเขาให้คยองซูและจงอินดูร่องรอยที่ชานยอลสร้างไว้
"ตายแล้วคริส นายเลอะเทอะมากเลยสิ....ชานยอลดูท่าจะไม่ไหวแล้ว" คยองซูร้องออกมาด้วยความตกใจและอายแทนเพื่อนที่ทำอะไรขายหน้าแบบนี้
คริสหัวเราะขำๆโดยที่ไม่ต่อว่าอะไร เมื่อเขาฉุกคิดบางอย่างได้ก็ลองแกล้งสอบถามข้อมูลบางอย่างของชานยอลกับคยองซู......
"เอ่อ...คยองซู นาย...เป็นเพื่อนกับชานยอลนานแล้วเหรอ..รู้จักกันได้ยังไง?"
คริสเริ่มรัวคำถามใส่คยองซู เพราะคยองซูคือกุญแจสำคัญที่จะไขข้อมูลของชานยอลได้...
"เราเรียนที่เดียวกันไง ชานยอลเป็นเพื่อนเราในกลุ่ม....วันนี้ก็คงมีเรื่องไม่สบายใจอีกตามเคย...เห้ออออ พอรู้ว่าเราจะมาหาจงอินที่ผับก็เลยขอมาด้วย....แล้วก็อยู่ในสภาพนี้ล่ะ" คยองซูปรายตาไปมองเพื่อนของเขาที่นอนฟุบอยู่ข้างๆคริสและก็บังเอิญเหลือบเห็นว่าคริสยังคงเอามือโอบหลังชานยอลไว้ไม่ปล่อย
"เรียนที่เดียวกันเหรอ!มหาลัยเดียวกันที่ฉันกับจงอินกำลังจะไปติดต่อพรุ่งนี้ใช่ไหม" คริสยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ชานยอลกับเขาจะได้เรียนที่เดียวกันอีกครั้งโดยลืมถามถึงปัญหาบางอย่างที่ทำให้ชานยอลต้องเมามายขนาดนี้
"อื้อ...ใช่.." คยองซูพยักหน้าช้าๆพร้อมมีสีหน้างุนงงกับอาการของคริส
"คริสแกดีใจอะไรนักหนาวะ.....อย่าบอกว่าแอบชอบชานยอล?" จงอินแกล้งพูดพร้อมหรี่ตาและทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ใส่เพื่อนของเขา
"อย่าไวไฟนักสิวะคริส....เพิ่งเจอกันครั้งแรกเองนะเว้ย" จงอินยังคงไม่หยุดแซวและหัวเราะขบขันในท่าทีของเพื่อนสนิท
คริสไม่โต้ตอบอะไรแต่แกล้งหยิบน้ำเปล่าในแก้วตรงหน้าขึ้นมาดื่มแก้เขิน....เขาเหลือบมองไปที่ชานยอลที่นอนคอพับคออ่อนอยู่ข้างๆดูท่าทางจะเมื่อยคอไม่น้อย คริสใช้แขนของเขาค่อยๆดึงร่างชานยอลเข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้น พร้อมกับยกศรีษะของชานยอลขึ้นมาวางบนตักของเขาเบาๆด้วยความทะนุถนอม....
ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของจงอินและคยองซูที่กำลังมองดูด้วยความสงสัยแต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยถามคริสว่าทำไมถึงดูห่วงใยชานยอลมากขนาดนั้น...ทั้งๆที่เขาทั้งสองเพิ่งพบกัน....คริสเองก็รู้ดีว่าทั้งสองคงกำลังสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขา จงอินที่เป็นเพื่อนสนิทของคริสและรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเขาทุกอย่าง เมื่อถึงเวลาที่สมควรเขาพร้อมที่จะบอกกับจงอินและเล่าเรื่องทั้งหมดให้จงอินฟังว่า"ปาร์คชานยอล"คนที่นอนไม่ได้สติตอนนี้คือคนเดียวกับคนที่คริสกำลังตามหาและกลับมาเพื่อจะเจอกันอีกครั้ง
"นอนตักฉันละกัน....นายจะได้ไม่เมื่อยนะชานยอล" คริสพูดพึมพำเบาๆซึ่งทั้งจงอินและคยองซูคงไม่ได้ยินเสียงเขาเนื่องจากเสียงเพลงที่ดังอึกทึกในขณะนี้...
เวลาผ่านไปสักพักหลังจากทั้ง 4 คนนั่งในผับดนตรีเบาๆเริ่มบรรเลงขับกล่อมและถึงช่วงท้ายของการเปิดเพลงในผับ....คยองซูจัดแจงเก็บกระเป๋าและกำลังตั้งท่าจะปลุกชานยอลขึ้นมาให้ตื่นขึ้น....เขาตัดสินใจจะให้จงอินขับรถพาชานยอลไปส่งที่บ้านเนื่องจากวันนี้คยองซูไม่ได้เอารถมา
"เดี๋ยวฉันไปส่งเอง" คริสพูดสั้นๆพร้อมกับเขย่าเรียกชานยอลเบาๆให้เขารู้สึกตัว...
"อย่าเลยคริส แกเพิ่งมาเกาหลีวันนี้นะเว้ย จำถนนหนทางได้เหรอ บ้านชานยอลไม่ได้อยู่แถวนี้" จงอินห้ามปรามไว้เพราะกลัวว่าคริสจะหลงทางเพราะวันนี้เขาเพิ่งเดินทางมาถึงเกาหลีหลังจากไม่ได้กลับมาที่นี่หลายปี
"ฉันจะไปส่งเอง ...คยองซู บ้านชานยอลอยู่ที่ไหน....." คริสยังคงดื้อรั้นและค่อยๆโอบดึงร่างชานยอลที่อ่อนปวกเปียกให้ลุกนั่งและเริ่มพยุงตัวให้เขาลุกขึ้นยืน
หลังจากรู้ที่อยู่บ้านของชานยอลแล้ว คริสก็เดินไปยังรถเฟอร์รารี่คันหรูสีแดงของเขา สายตาของคนในผับหลายคนจ้องมองมาที่คริสและชานยอล...หนุ่มหล่อหน้าตาดีพยุงร่างของหนุ่มน้อยร่างบางตรงไปยังรถพร้อมกดรีโมทเปิดประตูรถ คริสวางร่างของชานยอลลงตรงเบาะด้วยความทะนุถนอม...พร้อมกับปรับเบาะเอนให้ชานยอลได้นอนอย่างสบายในรถ....จงอินและคยองซูเดินตามมาดูคริสและชานยอลด้วยความเป็นห่วง...อีกคนเป็นห่วงเพื่อนที่เมา อีกคนเป็นห่วงเพื่อนที่กลัวจะหลงทาง
"ขับรถดีๆนะคริส เราฝากชานยอลด้วย" คยองซูยินยอมให้คริสไปส่งชานยอลแทนเขาเพราะคริสยืนยันและดื้อรั้นที่จะไปด้วยตนเอง...รวมถึงจงอินก็ออกปากว่าคริสเป็นคนที่ไว้ใจได้ คงไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับชานยอลอย่างที่คยองซูกังวล
คริสพยักหน้าตอบรับคยองซูและจงอินจากในรถพร้อมทั้งออกตัวเฟอร์รารี่สีแดงไปช้าๆ....เขากดตั้งค่าจีพีเอสที่เครื่องและตั้งระยะจุดหมายปลายทางคือที่บ้านชานยอล...รถหรูขับเคลื่อนไปเรื่อยๆตามท้องถนน สถานที่ที่คริสมาเขาไม่ค่อยคุ้นเคยนัก...จริงอย่างที่คริสสงสัยไว้ ชานยอลย้ายที่อยู่จากเดิมเพราะก่อนที่เขาจะกลับมาเกาหลีเขาเคยตามหาชานยอลที่อยู่เก่าแต่ไม่พบเพราะคนแถวนั้นบอกว่าชานยอลย้ายบ้านไปนานแล้ว
ในขณะที่คริสขับรถไปตามทางเขาก็เหลือบมองชานยอลเป็นระยะๆด้วยความเป็นห่วง...อากาศภายนอกเริ่มหนาวเหน็บขึ้นเรื่อยๆจนคริสรับรู้ได้และเพิ่มอุณหภูมิฮีทเตอร์ในรถของเขา จีพีเอสยังคงบอกทางตามหน้าที่ของมัน...เมื่อคริสใกล้ถึงปลายทางที่เป็นพื้นที่บ้านชานยอล เขามองไปที่หน้าจอของจีพีเอสอีกครั้งและเขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขาขับมาในพื้นที่ที่มันตรงกันข้ามกับบ้านของชานยอล...
"บ้าชะมัด! นี่ฉันหลงจริงๆเหรอเนี่ย" คริสสบถกับตัวเองก่อนที่จะพยายามตั้งค่าที่หน้าจอจีพีเอสใหม่อีกครั้ง
"ก็หน้าจอมันบอกให้ไปทางนี้ ฉันก็ไปแล้วนี่นา....ซอยไหนแน่วะ" คริสยังคงพึมพำกับตัวเองด้วยความหงุดหงิดใจ
"ปาร์คชานยอล!บ้านนายอยู่ไหน...."คริสหันไปคว้าข้อมือชานยอลที่นอนหลับอยู่บนเบาะข้างๆเขา...ชานยอลยังคงนอนหลับสบายไม่ไหวติงพร้อมกับพลิกตัวหลบหลีกแขนของคริสที่กำลังเขย่าตัวเขาเพื่อปลุก....
คริสขับวนอยู่แถวนั้นเกือบชั่วโมงในขณะที่ร่างบางของชานยอลยังคงนอนคุดคู้หลับใหลอย่างสบายอารมณ์....ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจตั้งค่าจีพีเอสใหม่โดยจุดหมายปลายทางคือย่านคังนัมบ้านของเขาอีกครั้ง....
"ไปนอนบ้านฉันก่อนละกัน .....เช้ามาค่อยว่ากันอีกทีนะคุณหนูชานยอล"
คริสกลับรถในละแวกนั้นและมุ่งตรงไปในทางที่เขาเพิ่งขับผ่านมา....เวลานี้เองก็ดึกมากแล้วหากเขาไม่หลงทางป่านนี้ชานยอลคงหลับสบายภายใต้ผ้าห่มแสนอุ่นคริสพยายามเร่งคันเร่งให้เร็วขึ้นด้วยความรู้สึกที่เขาอยากจะถึงบ้านให้เร็วที่สุด รวมถึงรุ่งเช้าต้องทำธุระที่มหาลัย...ส่วนชานยอลหากได้นอนพักสักนิดก็คงจะมีสติมากกว่านี้...
ด้วยความเร็วของเครื่องยนต์รถเฟอร์รารี่คันหรูก็ทำให้คริสถึงบ้านพักแถวย่านคังนัมได้ในระยะเวลาไม่นาน...คฤหาสถ์หลังใหญ่ถูกเปิดประตูออกช้าๆด้วยรีโมทในรถคริส...รั้วสีทองหน้าบ้านเผยให้เห็นพื้นที่บ้านที่กว้างขวางและลานน้ำพุหน้าบ้าน...บ้านที่น่าอยู่ขาดแค่เพียงคนพักอาศัยเท่านั้นเพราะนานๆทีกว่าจะมีคนกลับมาพักที่นี่....
คริสจอดรถในลานจอดรถพร้อมกับฉุดร่างของชานยอลออกมาจากเบาะข้างคนขับ...เขาตบหน้าชานยอลเบาๆเพื่อเรียกสติก่อนที่จะตัดสินใจอุ้มร่างของชานยอลขึ้นพาดบ่าและเดินตรงเข้าไปในตัวบ้าน...
"เห็นตัวผอมๆบางๆนายก็หนักเหมือนกันนะเนี่ย"
คริสบ่นเบาๆตอนที่เขากำลังก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ที่ซึ่งเป็นห้องนอนของเขา....จริงๆที่บ้านของคริสก็มีห้องรับรองของแขก แต่เขาไม่ต้องการทิ้งชานยอลให้นอนที่นั่นคนเดียวเพราะหากชานยอลตื่นขึ้นมาคงจะตกใจว่าตนเองอยู่ที่ไหน...
ที่นอนสปริงสีขาวแสนนุ่มโอบอุ้มร่างของชานยอลไว้และยวบยาบไปตามน้ำหนักของเขาขณะที่เขาพลิกตัว...หลังจากที่คริสอาบน้ำชำระล้างร่างกายของตัวเองที่เลอะเทอะเศษอาหารที่ชานยอลอาเจียนใส่เขา...เขาก็เดินตรงมาดูชานยอลที่นอนหลับสนิทบนเตียง...
คริสนั่งลงบนเตียงข้างๆร่างของชานยอล...พร้อมกับลูบผมที่ปรกหน้าผากของชานยอลออกช้าๆด้วยผ้าเย็นที่เขานำมาจากในตู้เย็น เขากำลังเช็ดหน้าให้ชานยอลด้วยความอ่อนโยน....ดวงตากลมโตของชานยอลที่ดูสดใสเป็นประกายและปากบางที่มีรอยยิ้มให้อู๋ฟานทุกครั้งที่เขาเจอเรื่องร้ายๆเข้ามาในชีวิต...ภาพในวัยเด็กของอู๋ฟานย้อนกลับมาในหัวสมองของเขาอีกครั้ง...เมื่อชานยอลตื่นขึ้นมาและพบเขา ชานยอลจะดีใจมากไหมนะ
คริสนั่งมองชานยอลอยู่อย่างนั้นสักพัก ความคิดถึงที่คริสมีต่อชานยอลมันแทบจะล้นออกมาจากหัวใจ...วันสุดท้ายที่คริสต้องบอกลาชานยอล ไม่มีใครรับรู้เลยว่าตลอดทางที่เขาปั่นจักรยานกลับมา เขายังคงมีน้ำตาไปจนถึงสนามบิน...
คริสใช้นิ้วมือเรียวยาวของเขาเกลี่ยไปตามแก้มใสของชานยอลช้าๆ ปากเรียวบางที่เคยคาบเปโปโร่ยื่นให้เขา....จะผิดไหมหากตอนนี้เขาจะขอโน้มลงไปเพื่อสัมผัสมันอีกครั้ง ใบหน้าคมคายของคริสค่อยๆโน้มลงไปใกล้ปากอิ่มสีชมพูที่นอนอยู่ตรงหน้า...เสียงหัวใจของคริสดังออกมาจนแทบจะทะลุออกมานอกอก
ปลายจมูกโด่งเป็นสันใกล้ชิดกับปลายจมูกของชานยอลจนคริสได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆจากลมหายใจของนายขี้เมา...ริมฝีปากหนากำลังจะประทับเข้าหาปากบางช้าๆ แต่แล้ว.........ก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของชานยอล เสียงริงโทนดังซ้ำๆไปมาเพื่อเรียกคริสให้หลุดจากภวังค์ ชานยอลเก็บโทรศัพท์มือถือของเขาไว้ในกระเป๋ากางเกง คริสค่อยๆเอื้อมมือของเขาไปหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงของชานยอลเผื่อว่าคยองซูอาจจะโทรมาถามว่าเขาทั้งสองถึงบ้านหรือยังและปลอดภัยหรือไม่...
คริสดูเบอร์ที่หน้าจอโทรศัพท์ของชานยอลซึ่งเขารับสายไม่ทัน....คยองซูโทรเข้ามาจริงๆแต่สายหลุดไปก่อนที่เขาจะรับ...ก่อนที่คริสจะวางโทรศัพท์ลงข้างตัวชานยอลพลันสายตาเขาก็เหลือบไปมองภาพหน้าจอของชานยอลซึ่งปรากฎขึ้นหลังจากคริสกดวางสาย...หน้าจอโทรศัพท์ของชานยอลปรากฎรูปของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเล่นบาสในสนามกีฬา....สนามกีฬาแห่งหนึ่งที่คริสไม่คุ้นเคย...มีมิสคอลเข้ามาที่เครื่องชานยอลหลายครั้งแต่ชานยอลไม่ได้รับสาย รวมถึงข้อความใน Kakao ที่คริสเห็นโชว์อยู่ที่หน้าจอ....
"อย่าทำตัวไร้สาระแบบนี้ ฉันไม่ชอบ!!"
"ชานยอล นายช่วยมีเหตุผลหน่อย ฉันบอกว่าจะไปกับเพื่อนไม่ใช่กับคนที่นายคิดไว้"
"ชานยอล นายกำลังทำให้ฉันหมดความอดทน!"
คริสมองไปยังร่างของชานยอลที่นอนหลับอยู่บนเตียงนุ่มของเขาด้วยความรู้สึกหวั่นใจ...ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังเกิดขึ้นกับเขา...ความอยากรู้อยากเห็นมีมากเกินไปทำให้คริสตัดสินใจเสียมารยาทเปิดอ่านข้อความ Kakao เก่าๆของชานยอลที่ส่งหาใครคนหนึ่งในข้อความของวันนี้เป็นการโต้เถียงกันระหว่างชานยอลกับใครคนนั้น.....มือของคริสเริ่มสั่นเทาเมื่อเขาเปิดเจอข้อความก่อนหน้าที่เป็นข้อความของคนรักที่กำลังคุยกันและมักมีปัญหากันเรื่อยๆมาในแต่ละวัน....บางข้อความเป็นข้อความของคนรักที่ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
.....คริสตัดสินใจกดปิดข้อความลงเมื่อเขาอ่านไปได้สักระยะ......เขาบอกไม่ถูกว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร....คริสรู้สึกทั้งมึนและหน่วงในจิตใจของเขา...นี่มันคืออะไรกัน......ปาร์คชานยอลมีคนรักแล้ว....
ปาร์คชานยอล....ลางสังหรณ์ที่ฉันมีมันเกิดขึ้นจริงๆ.....นายไม่ได้รอฉัน.....นายมีคนที่นายกำลังรักใช่มั้ย....ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อมาพบความจริงที่ว่า...นายมีคนอื่นอยู่แล้ว.....น้ำตาแห่งความเสียใจของคริสไม่ได้ไหลออกมาเพียงแต่มันกำลังเอ่อล้นอยู่ตรงขอบตาของเขาเท่านั้น
คริสทรุดกายลงนั่งข้างๆชานยอลอีกครั้งพร้อมกับหัวใจที่ปวดหนึบ....ชานยอลไม่ผิดที่ชานยอลเลือกรักใคร....คนที่ผิดคือเขา...ฉันกลับมาที่นี่ทำไม...จะมีประโยชน์อะไรอีกที่ฉันจะบอกว่าฉันกับอู๋ฟานคือคนๆเดียวกัน....ฉันมาช้าไปใช่ไหมชานยอล...คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวสมองของคริส...เขาสับสนไปหมดว่าตอนนี้หัวใจเขารู้สึกยังไง ควรดีใจกับชานยอลหรือควรเสียใจกับความรู้สึกของตัวเอง....
คริสค่อยๆลุกขึ้นเดินตรงไปที่โซฟาตรงข้ามเตียง เขานั่งมองชานยอลที่กำลังหลับใหลอยู่ด้วยความเสียใจ....เขาไม่สามารถหลอกตัวเองได้ว่าเขายินดีกับชานยอล เขาเสียใจมากกว่าที่เขาไม่ใช่คนที่กำลังครอบครองชานยอลอยู่....
คืนนั้นทั้งคืนคริสไม่ได้นอนหลับแม้ซักนาที....เขายังคงนั่งมองชานยอลจนถึงรุ่งสาง....ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเช้าวันใหม่ เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ของชานยอลดังขึ้นพร้อมๆกับชานยอลที่กำลังได้สติตื่นขึ้นมาช้าๆ....ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆเพื่อหลบแสงแดดที่กำลังสาดส่องเข้ามาในห้องนอนของคริส....ชานยอลบิดขี้เกียจสองสามครั้งด้วยความงัวเงียพร้อมกับจับศรีษะของตัวเองที่กำลังปวดหนึบจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
ร่างบางของชานยอลลุกขึ้นมานั่งบนเตียงช้าๆพร้อมกับส่ายศรีษะเบาๆ....หลังจากชานยอลมองไปรอบๆห้องเขาก็ต้องเบิกตากลมโตของเขาด้วยความตกใจตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ห้องนอนหรูหราที่เขาไม่คุ้นเคย....ชานยอลยังคงมองไปตามเสื้อผ้าและร่างกายของเขาว่ามันปกติดีหรือไม่...
"ตื่นแล้วเหรอ" คริสเอ่ยทักชานยอลหลังจากที่เขาเปิดประตูเข้ามาดูชานยอลในห้องหลังจากที่เขาลงไปอาบน้ำชำระร่างกายที่ห้องด้านล่าง
"นะ นาย นายเป็นใคร!" ชานยอลตกตะลึงเมื่อเห็นคริสอยู่ตรงหน้าเขา ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าตาดีซึ่งชานยอลจำไม่ได้ว่าเขาคือใคร รวมถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ก็เช่นกัน
"นายจำเรื่องของเราไม่ได้เหรอชานยอล" คริสพูดพลางเดินเข้ามาเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกเสื้อคลุมที่เขาจะใส่ไปในวันนี้
"เรื่องของเราเมื่อคืนนี้......ทั้งในห้องน้ำที่ผับ...รวมถึงในห้องนอนนี้ด้วย" คริสแสร้งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับเดินหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่งไปโยนให้ชานยอลบนเตียง
"นี่มันเรื่องบ้าอะไร!คยองซูไปไหน!แล้ว...แล้ว นายเป็นใครพาฉันมาที่นี่ได้ยังไง" ชานยอลลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปยังใบหน้าของคริส ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลาจนเรียกว่าเพอร์เฟคเลยก็ว่าได้...แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาสนใจหน้าตาของผู้ชายคนนี้
"ฉันเป็นเพื่อนของจงอิน จงอินเป็นคนรักของคยองซู ทีนี้นายจะเลิกโวยวายได้หรือยังชานยอล" คริสเดินตรงมาที่โซฟาและนั่งลงมองชานยอลที่กำลังตกใจและโวยวายกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"นายทำอะไรฉันหรือเปล่า!......ทำไม ทำไม เสื้อผ้าฉันเลอะเทอะขนาดนี้..." ชานยอลก้มลงมองเสื้อผ้าของตนเองและเปิดคอเสื้อดูเพื่อหาร่องรอยว่าผู้ชายหน้าตาดีที่ไม่น่าไว้ใจคนนี้ทำอะไรเขาเมื่อคืนหรือเปล่า...
"จะกลัวทำไม...ทำอย่างกับเป็นครั้งแรกที่นอนกับผู้ชาย" คริสจงใจพูดให้ชานยอลโกรธ ในเมื่อตัวเองก็มีคนรักอยู่แล้วเรื่องพวกนี้ชานยอลจะหวงตัวไปทำไม....อีกอย่างเขาเองก็อยากรู้ว่าถ้าเขาพูดแบบนี้ชานยอลจะตอบเขาว่าอย่างไร
ชานยอลโกรธจัดกับคำพูดของคริส เขาขว้างหมอนบนเตียงใส่หน้าคริสด้วยความโมโห ทำไมคนที่เขาเพิ่งเจอกันครั้งแรกถึงกล้าหยาบคายใส่เขาขนาดนี้
"นายมีสิทธิอะไรมาพูดหยาบคายใส่ฉัน!เพื่อนของจงอินนี่แย่จริงๆ" ชานยอลต่อว่าคริสพร้อมกับจะเดินออกไปนอกห้อง เขาไม่ต้องการอาบน้ำด้วยผ้าขนหนูที่คริสยื่นให้และต้องการออกไปจากบ้านหลังนี้ให้เร็วที่สุด...
คริสคว้าข้อมือบางของชานยอลดึงรั้งไว้ ก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่ลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของชานยอลมากกว่าเดิม....
"ใครคือฮวางจื่อเทา....คนจีนที่นายพูดพร่ำเพ้อถึงคือจื่อเทาคนนี้ใช่มั้ย!...เมื่อคืนนี้ทั้งกอดทั้งซบฉัน นายจำไม่ได้เลยเหรอชานยอล"
คริสเองก็พูดด้วยความโมโห เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องโมโหใส่ชานยอล รู้แต่เพียงว่าเขาเสียใจที่คำพูดที่ชานยอลสลักไว้บนต้นไม้ว่าจะรอเขามันเป็นแค่เพียงคำลวง คำโกหกของเด็กๆที่ปลอบใจเพื่อนอย่างเขาเท่านั้น....ชานยอลคนที่เขาหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันจนถึงวันนี้เปลี่ยนไปแล้วใช่มั้ย....
ชานยอลรู้สึกหน้าชาและงุนงงกับคำพูดของคริส เมื่อคืนเขาอยู่กับคริสแล้วเขาทำตัวยังไง คริสถึงพูดจาหยาบคายและเสียมารยาทใส่เขาแบบนี้...หรือเมื่อคืนเขาจะมีอะไรกับคริสจริงๆ....ชานยอลใช้ความคิดอย่างหนักถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแต่ก็จำได้เพียงลางๆเท่านั้นว่าเขากอดกับผู้ชายคนหนึ่งในห้องน้ำของผับและลูบไล้ไปตามใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา....
"ฉันจะกลับบ้าน!" ชานยอลพยายามผลักคริสออกให้ไกลจากตัวเขาเพราะในตอนนี้เขาเริ่มไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้แล้ว
"ไปอาบน้ำ ฉันจะรีบไปมหาลัย!.....ฮึ..ปาร์คชานยอล ดีใจมั้ยที่เราจะได้อยู่มหาลัยเดียวกัน" คริสพูดพร้อมกับเดินเข้าไปประชิดตัวใกล้ๆชานยอล ท่าท่างของคริสดูเจ้าเล่ห์ เขายกยิ้มมุมปากอย่างที่เขาไม่เคยทำกับใคร...มือหนาของคริสแกล้งลูบจับไปตามแก้มใสของชานยอลพร้อมกับแววตาที่ดูเปลี่ยนไป มันไม่ใช่แววตาของอู๋ฟานอย่างที่ชานยอลเคยเจอ แต่มันคือแววตาของคริส ผู้ชายคนใหม่ที่ดูหล่อเพอร์เฟคจนใครๆก็ต้องเหลียวมอง
ปาร์คชานยอลในเมื่อนายเปลี่ยนไปแล้ว.......นายไม่ใช่คนเดิม....แล้วฉันจะเป็นอู๋ฟานคนเดิมไปเพื่อใคร...คำตอบของหัวใจฉันคือนายคนเดียวเสมอมาตั้งแต่เด็ก แต่ฉันกลับไม่ใช่คำตอบของนาย....จื่อเทาคือผู้ชายคนนั้น คนที่เขาทำร้ายให้นายเสียใจคือผู้ชายจีนคนนั้น ไม่ใช่ฉันที่ชื่ออู๋ฟาน.....
END EP4---------------------------------------- Writer Talk เรื่องวุ่นไปกันใหญ่แล้ว ชานยอลจะแย่ไหมนะ อู๋ฟานหึงแล้วโมโหแรงด้วยอ่ะ >< ฝากเม้นท์และแทค #อาการแอบรัก ในทวิตด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ :)
ความคิดเห็น