ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาการแอบรัก #KrisYeol

    ลำดับตอนที่ #10 : EP10- จุดอ่อนจากการที่ไว้ใจ ครบ 100%

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 56





    "มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ...ไม่ใช่อย่างที่พวกพี่กำลังเข้าใจ" คริสตัดสินใจเอ่ยบอกกับรุ่นพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้




    ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากของพวกรุ่นพี่....มีแต่เพียงสายตาที่ยังคงจับจ้องไปยังร่างของคริสและแบคฮยอนในตอนนี้


    ร่างสูงโปร่งของคริสยืนลังเลสักพัก....ดวงตาคมเหลือบมองไปยังร่างเล็กที่กอดเข่าร้องไห้ไม่ห่างจากเขานัก......


    "แบคฮยอน!! นายมานี่เลย!! เรามีเรื่องต้องคุยกัน" มือหนากระชากร่างของแบคฮยอนให้ลุกขึ้นจากพื้นด้วยความโมโห



    คริสเดินตรงออกมาจากบริเวณนั้นด้วยความหงุดหงิดใจและกระชากแขนแบคฮยอน เสียงห้ามปรามของพวกรุ่นพี่ดังอยู่ที่ด้านหลังแต่ก็ไม่อาจทัดทานอารมณ์เกรี้ยวกราดของคริสในตอนนี้ได้.....ในสมองของคริสตอนนี้มีแต่เพียงชานยอลที่กำลังรอเขา และเรื่องของแบคฮยอนที่ควรจะเคลียร์ให้จบในวันนี้




    "พี่คริสจะทำอะไรผม" เสียงเล็กของแบคฮยอนเอ่ยถามขณะที่ถูกคริสฉุดกระชากออกมา



    "ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก....แค่นี้ฉันก็ขยะแขยงนายจะแย่ละ แบคฮยอน" คริสสะบัดมือออกจากแขนของแบคฮยอนเมื่ออยู่ในสถานที่ปลอดคน



    มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตนออกจากแก้มขาวใส ดวงตาที่มีน้ำตากลับกลายเป็นยิ้มเยาะเมื่อเห็นท่าทางของคริสที่กำลังเครียดเกี่ยวกับตัวเขา ร่างเล็กของแบคฮยอนเดินตรงไปยืนด้านข้างคริส....ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่บัดนี้ใบหน้าของเขามีแต่ความกังวลใจ....



    "พี่คริสทำให้ผมต้องใช้แผนนี้......เรื่องนี้จะไม่รู้ถึงหูของชานยอลถ้าพี่ขอร้องผม" ปากบางยิ้มเยาะอย่างเป็นต่อ.....แขนเรียวสองข้างยกขึ้นมากอดอกเมื่ออากาศข้างนอกเริ่มหนาวเหน็บ



    "แบคฮยอน นายต้องการอะไรกันแน่!!" มือหนากระชากแขนของแบคฮยอนอีกครั้งและเขย่าร่างเล็ก...คริสไม่เข้าใจในสิ่งที่แบคฮยอนคิดและกำลังจะทำ



    "ผมต้องการพี่ไง!! ต้องการแค่พี่เท่านั้น!" ดวงตาเล็กฉายแววจริงจังกับคำพูด แบคฮยอนตอบไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงต้องการในตัวคริสมากขนาดนี้....เขาริษยาชานยอลทุกครั้งที่อยู่ใกล้ชิดกับคริส แบคฮยอนต้องการเป็นคนเดียวที่ยืนเคียงข้างคริสแค่คนเดียวเท่านั้น



    ร่างเล็กโผเข้าสวมกอดคริสด้วยความเสียใจ.....น้ำตาที่เอ่อล้นของแบคฮยอนค่อยๆไหลลงมาอีกครั้ง......คริสคือคนที่แบคฮยอนแอบมองทุกวันและคือคนที่เขาใฝ่ฝันตั้งแต่แรกเห็น.....เขาไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำอย่างไรให้คริสเหลียวกลับมามองเขาบ้างซักนิดก็ยังดี.....



    "แบบนี้หรือเปล่าที่ต้องการ....."



    คริสจับร่างเล็กของแบคฮยอนให้ผละจากอ้อมอกเขา มือหนาจับไหล่ทั้งสองข้างของแบคฮยอนที่กำลังสั่นเทาเพราะเสียงสะอื้น.....ใบหน้าคมค่อยๆโน้มลงไปที่ริมฝีปากบางของแบคฮยอนใกล้ขึ้นเรื่อยๆ.....ดวงตาเล็กหลับตาพริ้มรอสัมผัสรสจูบที่หอมละมุนจากคริส.....คริสเปลี่ยนตำแหน่งจากริมฝีปากบางไปที่ข้างหูของแบคฮยอน พร้อมกับกระซิบและจงใจพูดให้แบคฮยอนเข้าใจเขาซักที



    "คนที่ฉันจะจูบด้วยความเต็มใจ.......มีแค่ชานยอลคนเดียวเท่านั้น"



    ดวงตาที่หลับพริ้มลืมตาขึ้นมาช้าๆด้วยความเจ็บปวด......มือเล็กเหวี่ยงลงตรงใบหน้าของคริสด้วยความโมโหก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งหนีจากบริเวณนั้นไปเหมือนคนที่พ่ายแพ้ คนเย็นชาอย่างคริสที่จะมีความอบอุ่นหอมละมุนให้กับคนที่เขารักเท่านั้น....เขาเป็นผู้ชายที่เย็นชาเหลือเกินในความรู้สึกของแบคฮยอน.....






    เวลานี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน......ชานยอลผลอยหลับไปบนเตียงนุ่มในขณะที่มือบางก็ยังคงกำโทรศัพท์ไว้แน่น.....หลายครั้งที่ชานยอลโทรหาคริสแต่ไม่มีผู้รับสาย....


    ....มือหนาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง......หน้าจอโทรศัพท์โชว์ Miss call เกือบ 10 สายที่โทรเข้ามา.....ซึ่งทุกสายที่โทรเข้ามาคือเบอร์ของชานยอล




    ร่างสูงโปร่งเดินตรงไปยังลานจอดรถพร้อมหยิบกุญแจรีโมทรถเฟอร์รารี่สีแดง....ไม่นานนักรถสปอร์ตคันหรูก็ขับออกไปด้วยความรวดเร็วจากคาราโอเกะย่านอับกูจอง...ระยะทางจากคาราโอเกะมาถึงที่บ้านของชานยอลไม่ไกลกันนัก......




    รถคันหรูค่อยๆเคลื่อนตัวมาจอดสงบนิ่งที่หน้าบ้านของชานยอล.....คริสตัดสินใจดับเครื่องยนต์เพื่อไม่ให้เสียงนั้นไปรบกวนคนในบ้านของชานยอล.....ดวงตาคมสอดส่ายสายตาหาก้อนหินก้อนเล็กๆและเขาจะใช้มันเพื่อปลุกชานยอลอย่างที่เขาเคยทำตอนเด็กๆ....เสียงก้อนหินเล็กๆกระทบกับกระจกห้องนอนดังขึ้นเบาๆ.....แค่เพียงหินก้อนที่ 4 ที่ 5 ชานยอลก็สะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับรีบเดินตรงมายังหน้าต่างของห้องนอน....




    ใบหน้าคมคายของคริสแย้มยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นคนรักเดินมาเปิดหน้าต่างทั้งๆที่หน้าตายังงัวเงีย.....คริสรีบกวักมือเรียกร่างบางให้ลงมาหาข้างล่างด้วยความคิดถึง.....



    "ขอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน" ชานยอลพูดออกมาเบาๆแบบไม่มีเสียงเพราะกลัวว่าคนในบ้านจะตื่น



    "ไม่ต้องเปลี่ยน....ใส่ชุดนอนแบบนี้น่ารักดี" คริสโต้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม.....จนชานยอลเขินอาย...



    มือบางรีบคว้ากระเป๋าสะพายที่เขาเตรียมไว้ตั้งแต่เย็นและเดินลงมาจากห้องนอนด้วยเสียงฝีเท้าที่เบาที่สุด.....ประตูหน้าบ้านถูกเปิดออกช้าๆโดยมีร่างบางของชานยอลค่อยๆย่างก้าวเดินมา...คริสเปิดประตูรถพร้อมกับเอื้อมเข้าไปหยิบผ้าพันคอผืนหนาของเขาที่พาดไว้ตรงเบาะที่นั่งคนขับ.......


    มือหนาจับผ้าพันคอเพื่อคล้องลงบนลำคอขาวของชานยอล....คริสกระชับผ้าพันคอผืนนั้นให้หนาขึ้นเพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างเย็น....ดวงตากลมโตของชานยอลจับจ้องไปที่ใบหน้าของคริสด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ......ในชีวิตไม่เคยมีใครพันผ้าพันคอให้เขาเลยสักครั้ง....มือหนาค่อยๆจับไปที่แก้มใสทั้งสองข้างของชานยอลไว้เพื่อให้ความอุ่นก่อนที่จะยิ้มให้กับชานยอลด้วยความอ่อนโยน



    "หนาวมากไหม.....รู้สึกอุ่นขึ้นหรือยัง....ฉันขอโทษนะที่มาช้า" คริสเอ่ยพูดกับชานยอลด้วยความรู้สึกผิดในจิตใจ



    "แล้วทำไมถึงมาช้า.....ฉันรอนายจนหลับเลยนะอู๋ฟาน" ปากอิ่มยู่เข้าหากันพร้อมด้วยใบหน้ากระเง้ากระงอด



    "ไว้จะเล่าให้ฟังนะ ขึ้นรถเถอะ" คริสพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา.....แต่ในเวลานี้คงไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาอธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น




    รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวออกมาจากบริเวณหน้าบ้านชานยอล....ฝ่ามือหนากุมมือของชานยอลมาตลอดทางระหว่างที่เขากำลังขับรถกลับมาที่บ้านของตนเอง คริสกำลังชั่งใจอยู่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เขาควรจะเล่าให้ชานยอลฟังก่อนดีหรือไม่.......อย่างน้อยชานยอลก็ควรจะรู้ความจริงจากปากของเขาไม่ใช่รู้มาจากคนอื่น.....



    ชานยอลลอบสังเกตใบหน้าของคริสเป็นระยะๆเนื่องจากคริสดูเงียบไปและเหมือนกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง.....



    "มีอะไรหรือเปล่า .....คิดอะไรอยู่เหรออู๋ฟาน" ดวงตากลมโตเลิกถามคริสด้วยใบหน้าที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์



    "หืม...ไม่มีนี่" คริสส่ายหน้าช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามฝืนให้เป็นปกติที่สุด



    ใช้เวลาไม่นานทั้งคริสและชานยอลก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เป็นสถานที่พักพิงของคริส....บ้านหลังใหม่ที่คริสเคยพาชานยอลมานอนพักครั้งแรกที่เจอกันที่ผับ.......คริสเดินถือกระเป๋าสะพายเป้ของชานยอลออกมาจากรถและเดินนำชานยอลขึ้นไปที่ห้องนอนห้องใหญ่........ภาพของวันแรกที่ชานยอลตื่นขึ้นมาและพบว่านอนอยู่ในห้องนี้ก็ย้อนกลับมาในความทรงจำอีกครั้ง



    "นายน่าจะบอกฉันตั้งแต่วันแรกที่ฉันมานอนบ้านว่านายคืออู๋ฟาน" ชานยอลเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เขาเดินสำรวจห้องนอนของคริส



    "บอกวันนั้นแล้วยังไง.....จะได้ไม่ต้องรอจนถึงที่ทะเลเหรอ" ใบหน้าคมยกยิ้ม....คำพูดที่คริสตั้งใจหยอกล้อคนรัก ชานยอลเขินอายจนคว้าหมอนใบเล็กบนโซฟาขว้างใส่ร่างสูง



    "ฉันไปอาบน้ำก่อนละกันนะชานยอล....นายนั่งเล่นไปก่อน" คริสหยิบหมอนสี่เหลี่ยมใบเล็กขึ้นมาจากพื้นก่อนจะวางมันลงที่เดิมและพูดกับชานยอลด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ



    ชานยอลเดินดูหนังสือในชั้นวางหนังสือของคริสไปเรื่อยเปื่อย........รูปในวัยเด็กและภาพตอนที่เขาเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลที่แคนาดา.....เหรียญทองหลายเหรียญและถ้วยรางวัลคือเครื่องการันตีว่าคริสมีความสามารถทางด้านกีฬามากแค่ไหน มือบางลูบไล้ไปตามเหรียญทองที่คริสเคยให้ไว้กับเขา......มันคือเหรียญทองเหรียญแรกในชีวิตของคริสที่มอบให้กับชานยอล....



    ปากอิ่มแย้มยิ้มด้วยความสุขใจ.......เสียงข้อความเข้าที่โทรศัพท์ของชานยอลคือเสียงที่ปลุกให้ชานยอลตื่นจากภวังค์ในอดีต......ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดข้อความอ่าน.....เบอร์ที่ส่งข้อความมาหาชานยอลไม่คุ้นนัก แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะเปิดอ่านมัน




    - - คืนนี้ผู้ชายของฉันนอนอยู่ข้างนายหรือเปล่า.....บอกพี่คริสด้วยนะว่าเมื่อครู่เขาร้อนแรงมาก.....อ่อ ฉันฝากนายประคบรอยแดงที่ต้นคอข้างขวาของพี่คริสด้วยนะ นายมันก็แค่คนตายด้านวันยังค่ำ! - - แบคฮยอน



    มือบางกดปิดข้อความด้วยหัวใจที่เต้นระรัว......ความรู้สึกทั้งหมดปะปนกัน....ทั้งความกลัว โกรธ เสียใจ และไม่เชื่อในสิ่งที่แบคฮยอนบอกเขา.....ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆเพื่อห้ามความรู้สึกและพยายามช่วยให้ขอบตาที่ร้อนผ่าวผ่อนคลาย...ไม่นานร่างสูงโปร่งของคริสก็เดินออกมาจากห้องน้ำ....คริสสวมชุดนอนด้วยเสื้อเชื๊ตแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของเขา....



    "ชานยอล....นายง่วงหรือยัง" คริสเอ่ยถามกับชานยอลขณะที่เขากำลังใช้ผ้าขนหนูขยี้เบาๆบนผมสีทองที่อ่อนนุ่มของเขา




    "ยัง" ปากอิ่มตอบไปสั้นๆก่อนที่จะรวบรวมความกล้าเดินตรงไปยังร่างสูงโปร่งของคริส



    "คืนนี้ยังพอมีแรงไหมอู๋ฟาน.....หรือนายหมดแรงกับใครไปแล้ว" ดวงตากลมโตพยายามเก็บงำความรู้สึก....หัวสมองของชานยอลกำลังสับสนกับเรื่องบางอย่างที่เขาต้องการจะพิสูจน์ความจริง




    "นายพูดถึงเรื่องอะไรชานยอล" ร่างสูงเปรยออกมาด้วยความงุนงงพร้อมกับมองไปยังใบหน้าขาวใสของคนรักตรงหน้า....




    ไม่มีเสียงตอบจากชานยอล.....มือบางค่อยๆโอบกอดรอบต้นคอของคริส พร้อมกับประกบจูบไปยังริมฝีปากของคริส........ริมฝีปากหนาของคริสจูบชานยอลตอบกลับไปด้วยความประหลาดใจ.....หรือชานยอลกำลังคิดถึงเขามาก....แต่มันก็แปลกใหม่ดีนะ.....มือหนาของคริสบรรจงลูบไล้ไปตามเสื้อตัวบางของชานยอลพร้อมกับจูบสัมผัสไปตามแก้มเนียนใสของคนรัก.....ชานยอลค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของคริสออกเพื่อให้เผยถึงร่องรอยบางอย่างบนตัวเขา.....ริมฝีปากบางไล่จูบไปตามซอกคอแกร่งของคริสที่ข้างขวา....และในที่สุดชานยอลก็ได้เห็นร่องรอยที่เขากำลังตามหาตามคำพูดของแบคฮยอน




    หยาดน้ำตาที่ชานยอลพยายามกลั้นไว้ค่อยๆไหลออกมาจากดวงตากลมโตขณะที่คริสกำลังซุกไซร้ที่ต้นคอขาวเนียนของชานยอล....ปากหนาพรมจูบไปตามซอกคอขาวพร้อมกับขบเม้มมันไว้เบาๆ.....จากตำแหน่งซอกคอยาวระหงส์คริสก็เปลี่ยนมาเป็นริมฝีปากบางและจึงสังเกตถึงน้ำตาหยดใสที่ไหลลงมาอาบแก้มของคนรัก......



    "นายร้องไห้ทำไมชานยอล" มือหนาจับใบหน้าของชานยอลไว้ด้วยความตกใจกับภาพตรงหน้า



    "ฉันไว้ใจใครไม่ได้เลยใช่ไหมอู๋ฟาน.....ทุกคนเหมือนกันหมด" ดวงตากลมโตยังคงมีน้ำตาหลั่งใหลลงมา...พร้อมกับเสียงสะอื้นที่เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ



    "ชานยอล....นายเป็นอะไร" นิ้วมือเรียวยาวเกลี่ยน้ำตาออกจากใบหน้าของชานยอลด้วยความเป็นห่วง



    "ทำไมมันต้องเกิดกับฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า......ทำไมอู๋ฟาน"



    "ชานยอล.......นาย..." คริสมีสีหน้ากังวลเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น



    "อู๋ฟาน!! นายไปกับแบคฮยอนมาใช่ไหม! นายไปนอนกับแบคฮยอนมาใช่ไหมอู๋ฟาน!! ตอบฉันสิ ตอบฉัน!" ร่างบางตรงเข้าไปเขย่าแขนคริสและทุบตีเขาด้วยความเสียใจพร้อมเสียงสะอื้นที่ดังออกมาจากปากของชานยอล




    "มันไม่ใช่อย่างนั้นนะชานยอล.....ฉันอธิบายได้" คริสกอดชานยอลที่กำลังร้องไห้ไว้ในอ้อมแขนแกร่ง....เด็กน้อยของเขาสะอื้นจนตัวโยนและเริ่มหายใจหอบหนักขึ้น



    "อธิบายเหรอ!! รอยแดงที่คอของนายก็คงพออธิบายได้มั้ง......ถึงฉันจะเคยนอนกับนายแค่คนเดียว แต่ฉันก็ไม่โง่ถึงขนาดที่ไม่รู้ว่านั่นคือรอยอะไร!!" ชานยอลผลักคริสออกจากร่างของเขา ร่างบางรีบเดินตรงไปคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าและสะพายมันพร้อมเดินออกไปจากห้องทั้งน้ำตา.....



    "ปาร์คชานยอล! อย่าไป ฉันขอร้อง.....ชานยอล ...... 8 ปีของฉันมันทำให้นายเชื่อใจฉันไม่ได้ใช่ไหม!" คริสตะโกนไล่หลังชานยอลและรีบวิ่งตามร่างบางออกมาที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่




    คริสวิ่งตามชานยอลออกไปไม่ห่าง.....แต่แล้วร่างบางก็รีบโบกรถแท๊กซี่ที่หน้าบ้านของคริสและเดินตรงขึ้นรถ โดยไม่สนใจร่างสูงโปร่งที่กำลังเร่งฝีเท้าตามเขามาด้วยความรีบร้อน.....




    "จะให้ผมจอดไหมครับคุณ" โชว์เฟอร์เอ่ยถามกับชานยอลเมื่อเขามองไปที่กระจกหลังและเห็นร่างของคริสที่วิ่งตามชานยอลมาล้มลงที่พื้นคอนกรีต.....ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งด้วยความเสียใจที่ยังไม่ได้อธิบายความจริงกับคนรัก



    "ไม่ต้องฮะ....." ชานยอลออกคำสั่งกับคนขับและเหลือบมองไปทางด้านหลัง......ร่างสูงโปร่งของคริสล้มลงนั่งที่พื้นถนนด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจไม่แพ้ชานยอล..... มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาของตนเองออกจากใบหน้าและเบือนหน้าหนีภาพของคริสที่เขาเห็นเมื่อครู่........ทำไมเขาจึงรู้สึกเจ็บปวดใจเจียนตายขนาดนี้....ทั้งๆที่ชานยอลเองก็ผ่านเรื่องราวแบบนี้กับจื่อเทามาแล้ว....หรือเป็นเพราะว่าความรู้สึกที่ชานยอลมีต่ออู๋ฟานและจื่อเทาไม่เหมือนกัน....





    END 60% --------------



    40% ----------------------



    มือบางกดโทรศัพท์ในมือหลายครั้งแต่ปลายสายก็เป็นเพียงระบบฝากข้อความ..........ในเวลานี้ชานยอลไม่มีใครเป็นที่พึ่งนอกจากคยองซูเพื่อนรักของเขา......ดวงตากลมโตยังคงมีน้ำตาคลอหน่วงอยู่ตลอดเวลา....ภาพที่อี้ฟานมีร่องรอยแห่งความสุขระหว่างเขาและแบคฮยอนย้อนกลับมาอีกครั้ง....แก้มใสเปรอะเปื้อนน้ำตาแห่งความเสียใจ....ชานยอลยกหลังมือขึ้นมาปาดมันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่คงลบภาพความทรงจำแห่งความเจ็บปวดออกไปไม่ได้......

     



    หลังจากที่คริสวิ่งกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็วเพื่อหยิบกุญแจรถยนต์.....เขาก็รีบสตาร์ทขับตามชานยอลออกไป......หัวสมองมึนตึบ ความรู้สึกในใจเจ็บหน่วง.....น้ำตาของคนรักต้องมาหลั่งรินเพราะเขา...คริสไม่รู้ตัวเลยว่าตอนที่เขาไม่ได้สติ แบคฮยอนได้ฝากร่องรอยบางอย่างไว้บนต้นคอของเขา.....มือหนาขยี้ผมสีทองด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับตบพวงมาลัยระบายอารมณ์ด้วยความโมโหเมื่อรถติดตรงบริเวณสี่แยกไฟแดง.....

     


    ที่หน้าบ้านหลังเล็กปิดไฟมืด....ชานยอลหยิบธนบัตรจ่ายค่ารถให้กับแท๊กซี่ที่เขาโดยสารมาก่อนที่ร่างบางจะลงมายืนมองไปยังห้องนอนของคยองซู.....ชานยอลตัดสินใจเสียมารยาทกดกริ่งหน้าบ้าน....แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลามืดมากแล้วแต่ปกติคยองซูเป็นคนที่เข้านอนดึกมาก ไฟในห้องไม่น่าจะปิดในเวลาอย่างนี้.....

     


    ไม่นานนักคนรับใช้ในบ้านก็เดินออกมาดูแขกที่มาเยือน.....

     


    "อ่าว คุณชานยอล....มาซะดึกเชียวค่ะ ......คุณคยองซูไม่อยู่นะคะ เธอไปธุระกับคุณพ่อคุณแม่ที่นอกเมืองเมื่อเย็นนี้ น่าจะกลับเย็นๆพรุ่งนี้เลย"

     


    "อ่า....งั้นไม่เป็นไรฮะ"

     


    .... ชานยอลโค้งศรีษะก่อนที่จะเดินออกมาด้วยความผิดหวัง....ชานยอลรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนตัวคนเดียวในโลก...ตอนนี้คงไม่มีใครเป็นที่พึ่งให้กับเขาได้แล้ว....ถ้าจะกลับบ้านในเวลานี้คนที่บ้านต้องถามว่าเขาหายไปไหนมาในสภาพชุดนอนแบบนี้....ร่างบางเดินมาตามทางเรื่อยๆด้วยหัวใจที่เศร้าหมอง....ชานยอลโบกแท๊กซี่อีกครั้งโดยบอกจุดหมายปลายทางเป็นที่แห่งหนึ่ง.....ที่ที่เขาสามารถอยู่ได้ทั้งคืนเพื่อรอจนกว่าจะเช้า.....

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .



    รถสปอร์ตคันหรูขับวนเวียนไปมาด้วยความร้อนรนใจ.......คริสขับวนหารถที่คล้ายกับรถแท๊กซี่คันนั้น....รวมถึงสถานที่ต่างๆที่ชานยอลน่าจะไปแต่ทุกอย่างก็ว่างเปล่า ไม่เจอแม้กระทั่งเงาของคนที่เขารัก....มือหนากดโทรศัพท์หาคยองซูหลายครั้งแต่ก็เข้าสู่ระบบฝากข้อความทุกครั้ง....ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจโทรหาจงอินเพื่อนรักเพื่อสอบถามถึงคยองซู...

     


    "แกอยู่กับคยองซูหรือเปล่า"  เสียงร้อนรนของคริสกรอกไปตามสาย

     


    "ไม่อยู่เว้ย....คยองซูไปธุระกับที่บ้าน....โทรมาทำไมดึกดื่นวะ"  น้ำเสียงงัวเงียของจงอินเอ่ยตอบเพื่อนรัก

     


    "แล้วชานยอลจะไปที่ไหน" ....... คริสพูดเปรยออกไป ไม่ใช่ประโยคที่เขาจะบอกจงอินแต่เขากำลังพูดกับตนเอง....

     


    คริสกดวางโทรศัพท์โดยไม่บอกลาเพื่อน....จงอินวางสายไปด้วยความงุนงง  แต่ความง่วงทำให้เขาล้มตัวลงนอนอีกครั้งโดยไม่ได้โทรกลับไปหาคริสอีกครั้ง....

     



    ในผับย่านคังนัมที่หรูหราสถานที่เดิมที่อู๋ฟานเจอกับชานยอลครั้งแรกในคืนที่เขาเมา.....มีร่างบางของใครคนหนึ่งสะพายกระเป๋าเป้สวมชุดนอนยืนอยู่ตรงทางเข้าประตู.....ทั้งการ์ดและรปภ.ได้กักตัวของชานยอลไว้โดยที่ไม่ให้เขาเข้าไปในนั้นเนื่องจากการแต่งกายของเขาที่ไม่สุภาพ ทั้ง 3 ยืนโต้เถียงกัน....สายตาของคนในบริเวณนั้นเหลือบมามองตามเสียงพร้อมกับซุบซิบนินทาการแต่งกายของชานยอล.....
     



    "ผมมีเงินจ่าย!!จะดูเครดิทการ์ดผมไหม!!"  ชานยอลสบถออกไปด้วยความโมโห...แต่ก็ไม่เป็นผล...

     


    ดวงตาคมของใครคนหนึ่งจับจ้องไปยังร่างบางที่คุ้นเคยนั้นหลังจากได้ยินเสียงของชานยอล.....ร่างสูงโปร่งแบบนักกีฬาเดินตรงเข้ามาทางด้านหลังพร้อมกับโอบเอวบางของชานยอลไว้และดึงเขาเข้ามากอดหลวมๆ.....

     


    "เขามากับผม.....ทีนี้จะให้เขาเข้าไปได้หรือยัง" บุคคลที่สามพูดพลางโชว์บัตร VIP Card ของผับนี้ให้รปภ.ข้างหน้าดู....ทั้งรปภ.และการ์ดต่างโค้งศรีษะนอบน้อมและขอโทษขอโพยก่อนที่จะปล่อยให้ชานยอลเข้าไป....

     


    ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่โอบกอดเขาอยู่คือจื่อเทา อดีตคนรักที่ทำให้เขาเจ็บปวด......ชานยอลไม่ได้ดื้อดึงกับสัมผัสนั้นเนื่องจากตอนนี้เขาคงต้องพึ่งให้เทาพาเขาเข้าไปที่นี่ก่อน....ร่างบางเดินตามเทาไปอย่างว่าง่าย....ก่อนที่จะหย่อนกายลงนั่งที่โซฟาตัวใหญ่....

     


    "ทำไมใส่ชุดนอนมาเที่ยว....เปลี่ยนสไตล์แล้วเหรอชานยอล"  เทาเอ่ยถามพร้อมกับยกยิ้ม

     


    ....ไม่มีเสียงตอบจากชานยอล...มีเพียงแววตาของคนที่กำลังเศร้าใจฉายออกมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น......จื่อเทารู้จักชานยอลดี แม้จะไม่หลายปีอย่างคริสแต่เขาก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้ชานยอลคงกำลังทุกข์ใจกับเรื่องราวบางอย่าง.....

     


    "นายมาคนเดียวเหรอจื่อเทา" ... ริมฝีปากบางเอ่ยถามอดีตคนรักด้วยความสงสัย....

     


    คืนนี้จื่อเทาออกมาหาความสำราญใจแค่เพียงคนเดียว.....หากมีใครที่สนใจจะวันไนท์แสตนด์ (ความสัมพันธ์แบบคืนเดียวจบ) กับเขา เขาก็ไม่รังเกียจ.....ผิดกับชานยอลที่ไม่ได้ออกมาหาความสำราญใจ แต่มาที่นี่เพื่อระบายความทุกข์ใจต่างหาก.....



    ...มือบางคว้าแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตรงหน้าขึ้นมาจิบครั้งเดียวหมดก่อนที่จะใช้หลังมือปาดเช็ดปากเมื่อเครื่องดื่มเลอะริมฝีปากบางของเขา  ดวงตาคมของจื่อเทาเหลือบมองใบหน้าของชานยอลที่กำลังใช้เหล้าเพื่อปลดปล่อยความทุกข์....แก้วที่สองถูกกระดกลงลำคอของชานยอลอีกครั้ง........สายตาของจื่อเทาบ่งบอกถึงความเป็นห่วง....แม้จื่อเทาจะเป็นคนเจ้าชู้...แต่คนที่จื่อเทามีความรู้สึกดีๆด้วยรวมถึงคนที่เขายกย่องให้เป็นคนรักก็มีเพียงชานยอล...มือหนาคว้าแก้วที่ชานยอลกำลังถืออยู่พร้อมกับเตือนเขา

     


    "ทำไมต้องกินเหล้าหนักขนาดนั้น....มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"

     


    "อย่ามายุ่งกับฉันน่ะ"  ชานยอลคว้าแก้วเครื่องดื่มในมือของเทากลับมาอีกครั้งด้วยท่าทีฉุนเฉียว...

     


    "มีปัญหากับคริสเหรอ............"  คำถามที่ทำให้ชานยอลต้องหยุดชะงักขณะที่รินเครื่องดื่มลงไปที่แก้วบางใสนั้นอีกครั้ง...

     


    "แบคฮยอนใช่มั้ย.....คนอย่างแบคฮยอนถ้าอยากได้อะไรเขาจะทำทุกวิถีทาง"  เทายกเครื่องดื่มของตนขึ้นจิบบ้างก่อนที่จะเหลือบมองคนรักเก่าที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ข้างๆ

     


    "ที่ฉันไม่เข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างนายกับคริส....เพราะฉันรู้สึกผิด....ในเมื่อนายไม่เลือกฉัน....ฉันก็หวังว่านายจะมีความสุขดีกับคริส"  เทาเอ่ยความรู้สึกที่แท้จริงในใจของเขา....เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชานยอลและคริสเขารับรู้มาตลอด....เขายินดีจะปล่อยวางถ้าชานยอลเจอคนที่ดีกว่าเขา

     


    วันเวลาผ่านไปสักพัก......เมื่อแอลกอฮอล์เริ่มทำปฎิกิริยาในร่างกายของคนก็ทำให้ชานยอลกล้าพูดระบายความในใจของเขาออกมาบ้าง....

     


    "ทำไมต้องเป็นแบคฮยอน......"  ปากบางพร่ำพูดกับตัวเองลอยๆ.....แก้วเครื่องดื่มถูกยกขึ้นจิบอีกครั้งพร้อมกับดวงตากลมโตที่เริ่มมีน้ำตามาคลอหน่วง

     


    " 8 ปีของอู๋ฟานกับฉัน.....สุดท้ายต้องมาพ่ายแพ้กับแบคฮยอนงั้นเหรอ"  น้ำตาหยดใสเริ่มรินไหลลงมาอีกครั้งหลังจากเขานึกถึงเรื่องราวในอดีต

     


    " 8 ปี .....อู๋ฟาน นายหมายถึง.....??"  สีหน้าของเทางุนงงกับคำพูดของชานยอล

     


    "คริสกับอู๋ฟานคือคนเดียวกัน.....ฉันรู้จักกับเขามานานแล้ว...."  มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาหยดใสออกจากใบหน้าด้วยดวงตาที่เหม่อลอย

     


    จื่อเทาใช้ความคิดกับคำพูดของชานยอล....แม้เขาจะไม่รู้จักคริสดีแต่ 8 ปีระหว่างคริสกับชานยอลคงมีเรื่องราวต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นกับเขาทั้งสอง.....ส่วนแบคฮยอนจื่อเทารู้จักคนๆนี้ดี.....แม้จื่อเทาจะไม่มั่นใจว่าคริสจะมีสัมพันธ์กับแบคฮยอนจริงหรือไม่....แต่วันนั้นที่อาคารเรียน ทั้ง 4 คนเผชิญหน้ากันโดยที่คริสก็อยู่ในเหตุการณ์และวิ่งตามออกไปกับชานยอล

     


    "ชานยอล......เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด...ฉันขอโทษนะ......ฉันไม่หวังว่านายจะอภัยให้ฉัน....ฉันรู้ว่าฉันผิด.....แต่หากนายไม่มีใคร....ฉันอยากให้นายรู้ไว้ว่ายังมีฉัน......ในฐานะเพื่อนก็ยังดี"  มือหนาเอื้อมไปกุมมือของชานยอลที่กำลังสั่นระริกด้วยความเสียใจ.....

     


    ดวงตากลมที่มีน้ำตาจับจ้องไปยังใบหน้าของจื่อเทา....แม้ชานยอลจะไม่ได้รักจื่อเทาแล้ว....แต่ความรู้สึกดีๆที่ผ่านมาก็ช่วยให้เขาอบอุ่นใจได้บ้าง....มือหนาเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าของชานยอลออกไปช้าๆ....หัวใจที่บอบบางของชานยอล ในตอนนี้เขาต้องการแค่ใครซักคนที่ปลอบโยนให้เขารู้สึกดีขึ้น....ร่างบางโผเข้ากอดเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น....แผ่นหลังบางหอบเบาๆเนื่องจากการร่ำไห้....

     


    "จื่อเทา.....ฉันรักเขา.....ฉันรักเขามาก.....ฉันขอโทษที่ฉันไม่ได้รักนายอย่างอู๋ฟาน...ฉันขอโทษ"  มือหนาลูบไปตามแผ่นหลังของชานยอลเด็กน้อยที่กำลังสะอึกสะอื้น  แม้คำพูดของชานยอลจะทำให้คนฟังอย่างเขารู้สึกเจ็บปวดนิดๆแต่จื่อเทาก็เข้าใจดีว่าเรื่องที่เขาทำต่อชานยอลมันยากเกินรับได้....และมันก็มากมายหลายครั้งที่เขาทรยศต่อชานยอล

     


    "อือ...ไม่เป็นไร.....ฉันว่าจะทวงนายคืนจากคริส.....แต่ในเมื่อตุ๊กตาที่แสนสวยของฉันไม่อยากกลับมาหาเจ้าของเดิม...ฉันก็จะไม่ฝืนใจใคร" จื่อเทาโอบกอดร่างของชานยอลไว้อย่างนั้นพร้อมกับซุกใบหน้าลงตรงไหล่ของชานยอล...กลิ่นหอมละมุนจากชานยอลที่เขาเคยได้สัมผัส....แม้จะไม่เคยมีอะไรกันแต่การได้กอด ได้หอม ได้สัมผัสริมฝีปากบางนั้นก็ทำให้เขาลืมชานยอลไม่ลง....

     


    จื่อเทาผละออกจากอ้อมกอดของชานยอล....มือหนาถอดเสื้อคลุมสวมใส่ให้กับชานยอลเมื่อเสื้อนอนตัวบางอาจจะให้ความอบอุ่นแก่เขาไม่ได้......เทาเอ่ยปากจะไปส่งชานยอลที่บ้าน แต่ชานยอลยังยืนยันว่าเขาจะอยู่ที่ผับนี้ยันเช้าและจะเดินทางกลับบ้านเอง.......จื่อเทาจึงชวนชานยอลไปนอนค้างที่บ้านเขา....เทารู้ดีว่าชานยอลยังคงไม่ไว้ใจในตัวเขาและยิ่งในสถานการณ์แบบนี้.....

     


    "ฉันไม่ปล้ำนายหรอกน่ะ ถ้าฉันจะทำ คงทำไปนานแล้วทั้งๆที่มีโอกาสหลายครั้ง"

     


    ประโยคนี้คือประโยคที่ทำให้ชานยอลใจอ่อนยอมไปนอนค้างที่บ้านของจื่อเทาโดยดี........

     

     


    ร่างสูงโปร่งยังคงเดินกระวนกระวายในห้องนอนทั้งคืนจนเกือบรุ่งเช้า......โทรศัพท์มือถือมีเบอร์ที่ถูกกดโทรออกเป็นร้อยครั้ง....เบอร์มือถือของชานยอลปิดเครื่อง.....ความทุกข์ใจทำให้คริสนอนไม่หลับทั้งคืน.....มีเพียงแก้วกาแฟบนโต๊ะที่ถูกดื่มจนหมดวางเรียงกันหลายแก้วเป็นเพื่อนเขาเท่านั้นในค่ำคืนนี้....

     

     


    "เมื่อคืนหลับสบายไหม" จื่อเทาเอ่ยถามชานยอลเมื่อถึงเวลารุ่งเช้า

     


    เมื่อคืนนี้ชานยอลนอนในห้องคนเดียวโดยที่จื่อเทายังคงรักษาสัญญา....แม้เขาจะเป็นเพล์บอยแต่เขาก็ไม่ชอบฝืนใจใคร....การมีอะไรกันโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมไม่เคยอยู่ในหัวสมองของจื่อเทา

     


    "อือ....แต่นอนไม่ค่อยหลับหรอก"  ดวงตากลมโตยังคงมีร่องรอยบอบช้ำจากการร้องไห้อย่างหนัก

     


    "เชื่อใจฉันนะชานยอล.....เรื่องนี้ฉันจะช่วยนายพิสูจน์เอง.......ฉันไม่ได้จะช่วยคริส.....แต่ฉันต้องการจะพิสูจน์อะไรบางอย่างเท่านั้นว่าเขารักนายจริงหรือเปล่า"  ดวงตาคมแฝงความนัยน์....จื่อเทานึกถึงแผนการที่จะพิสูจน์เรื่องระหว่างคริสและแบคฮยอนให้ได้...

     


    "ถ้าเขารู้จักนายมา 8 ปี เขาจะไม่ปล่อยนายไป.....แต่ถ้าเขายอมจากไปง่ายๆ....นั่นคือเขาปันใจให้แบคฮยอนแล้ว"  ความรู้สึกของเทาบ่งบอกว่าถ้าคริสรักชานยอลมาได้ 8 ปีและทนรอให้เขากับชานยอลเลิกกันได้....ผู้ชายคนนี้ต้องไม่ยอมจากคนที่เขารักไปง่ายๆแน่......เกมส์นี้น่าจะสนุกถ้าฉันจะเป็นคนตั้งกติกาขึ้นมา.....

     

     

     



    และแล้วเช้าวันจันทร์ก็มาถึง....ที่มหาวิทยาลัยวันนี้มีเสียงร่ำลือถึงคริสและแบคฮยอน....ข่าวลือต่างๆออกมาจากกลุ่มของนักกีฬาบาสที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น  จาก 1 คนเป็น 2 คนจนข่าวลือแพร่สะพัดออกไปอย่างห้ามไม่ได้...คงมีแต่แบคฮยอนเท่านั้นที่ยินดีกับข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงนั้น....ส่วนคนที่มีสีหน้าเคร่งเครียดก็คงไม่พ้นคริส นักกีฬาบาสสุดฮอทของมหาลัย......

     


    ร่างสูงโปร่งของคริสกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องเรียนของชานยอล....มือหนายกขึ้นดูนาฬิกาข้อมือด้วยความเร่งรีบ.... เขาติดต่อชานยอลไม่ได้มา 2 วันแล้วรวมถึงวันนี้ด้วย.....สายของเขาถูกปฎิเสธทุกครั้งที่โทรเข้าไปที่เครื่องของชานยอล  วันนี้คริสตั้งใจจะมาอธิบายความจริงต่างๆที่เกิดขึ้นในร้านคาราโอเกะวันนั้น....

     


    "เห็นปาร์คชานยอลไหมครับ" ใบหน้าหล่อคมคายของคริสเอ่ยถามกับนศ.หญิงในห้องเรียน....แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือชานยอลออกไปจากห้องได้สักพักแล้ว....

     


    ร่างสูงวิ่งตรงไปยังด้านหลังของมหาลัย....สนามกีฬาขนาดเล็กสถานที่ที่คริสและชานยอลชอบไปนั่งเล่นที่ม้านั่งด้วยกัน.......คริสยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นชานยอลกำลังเดินมาทางเขาไกลๆ....ร่างสูงเตรียมวิ่งตรงไปข้างหน้าแต่ก็มีมือบางมาดึงร่างของเขาไว้

     


    "พี่คริส.....พี่จะไปไหนฮะ....วันนี้พี่ปล่อยให้ผมผจญกับข่าวลืออยู่คนเดียว....พี่จะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองเลยเหรอ"  เสียงเจื้อยแจ้วของแบคฮยอนยังคงเอ่ยไม่หยุดพร้อมใบหน้าบึ้งตึง

     


    "ข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง....คนที่รู้ดีคือนายไม่ใช่เหรอ"  คริสแกะมือของแบคฮยอนออกจากการเกาะกุมแขนแกร่งของเขา

     


    "ไม่เป็นความจริงงั้นเหรอ!!.......อย่างน้อยรอยแดงที่ต้นคอของพี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้นะว่าพี่ไปมีอะไรกับผมมา"  ใบหน้าเล็กยิ้มร้ายออกมาด้วยความสะใจพร้อมปรายตาไปมองยังร่างของชานยอลที่กำลังเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ

     


    "ฝีมือของนายทั้งหมดใช่ไหม แบคฮยอน!!" มือหนากระชากข้อมือของแบคฮยอนอย่างแรงพร้อมฉุดกระชากร่างเล็กให้เดินไปพร้อมกับเขาเพื่อจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ชานยอลฟัง

     


    "ชานยอลลล.......มารอฉันนานแล้วสิ" เสียงจื่อเทาตะโกนไล่หลังชานยอลมาพร้อมกับวิ่งไปหาร่างบางพร้อมกับโอบเอวของชานยอลไว้หลวมๆ

     



    ชานยอลมีท่าทางกระอักกระอ่วนเล็กน้อยแต่ก็ต้องจำยอมเฉยเมยต่อการกระทำของจื่อเทาเพื่อการพิสูจน์หาความจริงตามความต้องการของจื่อเทา.....คริสจับจ้องไปที่มือหนาที่กำลังโอบเอวบางของชานยอล....ส่วนดวงตากลมโตของชานยอลก็จับจ้องไปที่มือแกร่งของคริสที่จับข้อมือของแบคฮยอนไว้..... ทั้ง 4 คนยืนเผชิญหน้ากันด้วยบรรยากาศที่ดูอึดอัด....

     



    "ปาร์คชานยอล....เรามีเรื่องต้องคุยกัน"  คริสปล่อยมือจากแบคฮยอนและคว้าข้อมือของชานยอลไว้ด้วยอารมณ์คุกรุ่น....ทั้งร่างกายของชานยอลเป็นของเขา...จื่อเทาไม่มีสิทธิมาแตะต้อง

     


    จื่อเทายกยิ้มเมื่อคริสเริ่มเข้าทางเขา.....เขาเอื้อมมือไปคว้าแขนของชานยอลไว้อีกข้างพร้อมใบหน้าที่ดุดัน.....

     


    "คริส!!......ถ้านายดูแลชานยอลไม่ดี ฉันก็จะทวงชานยอลของฉันคืน!!......ข่าวลือระหว่างนายกับแบคฮยอนคงพิสูจน์ได้แล้วว่านายทำให้ชานยอลเสียใจแค่ไหน.....เพราะฉะนั้น ปล่อยชานยอลไปซะ!!" 

     


    คำพูดที่เกรี้ยวกราดของเทาทำให้ชานยอลตกใจ....ดวงตากลมโตมองใบหน้าของคริสกับจื่อเทาสลับกันไปมา.....ทั้งสองกำลังจับจ้องกันอย่างเอาเป็นเอาตาย...คริสขบกรามแน่นด้วยความโมโห....พร้อมกำข้อมือของชานยอลไว้.... 8 ปีของเขากับชานยอลไม่มีทางที่จะจบลงเพราะความเข้าใจผิดเรื่องของเขากับแบคฮยอนเด็ดขาด....

     


    ภาพตรงหน้าของแบคฮยอนทำให้ความริษยาของแบคฮยอนพลุ่งพล่านมากขึ้น......มือบางทั้งสองข้างของชานยอลถูกผู้ชายที่ได้ชื่อว่าหล่อเหลาดั่งเทพบุตรฉุดรั้งไว้คนละฝั่ง.....ใบหน้าหวานใสของชานยอลบ่งบอกแต่ความเจ็บปวดทั้งจากจิตใจและร่างกาย....ตอนนี้ชานยอลทำได้แต่เงียบและหวังแต่เพียงว่าเหตุการณ์จะไม่รุนแรงไปมากกว่านี้เท่านั้น

     


    "ฉันกับแบคฮยอนไม่เคยมีอะไรกัน!!.....คืนนั้นฉันถูกวางยา" ......คริสพูดออกไปเสียงดังด้วยความโมโห....

     


    "แล้วรอยแดงนั่นฉันก็....."

     


    "พี่คริส!!........พี่จะไม่รับผิดชอบผมเหรอ!!.......คืนนั้นพี่เมาแล้วเราก็มีความสุขกันในห้องรับรองที่คาราโอเกะ"  แบคฮยอนตะโกนออกไปเพื่อทักท้วง.....ใบหน้าเล็กพยายามเว้าวอนและเล่นละครให้ถึงบทบาทที่เขาวางแผนไว้

     


    "พี่ทั้งกอดผม จูบผม....พร่ำเพ้อ ครวญครางถึงแต่ชื่อของผมแม้พี่จะเมาก็ตาม พี่ต้องให้ผมบอกไหมว่าพี่มีรอยสักตรงไหนบ้าง!!"

     


    "แบคฮยอน!!....."  คริสตะคอกใส่แบคฮยอนด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด

     


    "พอซะที หยุดซะที!! พวกนายเห็นฉันเป็นตัวอะไร หยุดทำร้ายจิตใจฉันซะที"  ชานยอลสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของคริส  ร่างบางกำลังยืนสั่นด้วยความเสียใจ....น้ำตาก็พาลจะไหลออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่แบคฮยอนกำลังพูด

     


    จื่อเทาดึงร่างบางของชานยอลมายืนข้างๆเขาก่อนที่จะโอบร่างนั้นไว้พร้อมกับลูบศรีษะปลอบให้ชานยอลหยุดร้องไห้......ร่างบางยืนนิ่งให้ให้จื่อเทาโอบกอดอยู่อย่างนั้น....คริสจ้องมองทั้งสองด้วยความเจ็บปวดและแรงโทสะที่พลุ่งพล่าน

     



    "นายไปเคลียร์ตัวเองกับแบคฮยอนก่อนดีกว่านะคริส"  เทาต่อว่าคริสด้วยสายตาพร้อมกับคำพูดเรียบๆ

     


    "ปล่อยมือจากชานยอลซะ......"  คริสออกคำสั่งกับจื่อเทาด้วยความโมโหและแววตาจริงจัง

     


    จื่อเทายังคงไม่สนใจคำพูดของคริสแต่ยิ่งกระชับอ้อมกอดที่เอวบางของชานยอลให้แน่นขึ้นอีกพร้อมกับยกยิ้มมุมปากด้วยความสะใจ 

     

    "ฉันบอกให้ปล่อยไง!!"  คริสออกคำสั่งกับจื่อเทาอีกครั้งโดยที่คนตรงหน้าก็ไม่สนใจต่อคำพูดของคริส

     


    "ไม่ปล่อยใช่ไหม!!"  ร่างสูงโปร่งตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของจื่อเทาก่อนที่จะเหวี่ยงเขาลงไปที่พื้นสนาม.....คริสคร่อมไปบนร่างของจื่อเทาและง้างหมัดชกไปที่ใบหน้าของเทาหลายครั้งด้วยความโมโห

     


    ทั้งสองชกต่อยและต่อสู้กันโดยที่แบคฮยอนยืนดูด้วยความตกตะลึง......มีแต่เพียงชานยอลที่ตรงเข้าห้ามและผลักร่างของคริสออกจากจื่อเทาด้วยความเป็นห่วง...คริสเสียหลักล้มลง....ความเจ็บปวดที่ใบหน้าและร่างกายคงไม่เท่ากับจิตใจของคริส  ร่างสูงโปร่งของคริสยันตัวลุกขึ้นและยืนดูจื่อเทาที่มีชานยอลค่อยๆประคองร่างของเขาให้ลุกขึ้น.....ดวงตาคมฉายแววเสียใจลึกๆกับภาพตรงหน้า....คนที่ชานยอลจะต้องช่วยประคองขึ้นมาต้องเป็นเขาไม่ใช่หรือ....

     


    " 8 ปีของเราจะจบลงตรงนี้ใช่ไหมชานยอล"  น้ำเสียงตัดพ้อด้วยความเสียใจของคริสเรียกความสนใจจากชานยอลให้หันกลับมามองเขา

     


    " 8 ปีที่ฉันแอบรักนายมาตลอด....จะจบลงแบบนี้ใช่ไหม" มือหนายกขึ้นปาดเลือดสีแดงสดออกจากมุมปากและค่อยๆเดินห่างออกไปจากบริเวณสนามกีฬา......ชานยอลยืนนิ่งกับคำพูดของคริส....น้ำตาไหลรินเป็นสายจากถ้อยคำนั้น...ร่างเล็กของแบคฮยอนวิ่งตามคริสไปไม่ห่างด้วยความเป็นห่วง.....

     



    บรรยากาศในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับโศกนาฎกรรมของความรัก.....คน 4 คนกับวังวนของความรัก ความลุ่มหลง.....ทางออกที่มีเหลือน้อยเต็มทีหากไม่มีใครที่ยอมเสียสละความรักของตน...................

     


    END EP10 --------------------------------------------------------------------------------------------------



    Writer Talk :: ฝากติชมคอมเม้นท์ในนี้หรือติดแทค #อาการแอบรัก ในทวิตได้นะคะ เราจะตามอ่าน :)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×