ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manifold Flashpoint จุดประกายหายนะ

    ลำดับตอนที่ #7 : [พยาน] บทที่ 6 - นักเล่นกลจากนรก

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 60


    Stranger from Hell


         นิโคลเองไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดถึงมีการเพิ่มระดับรักษาความปลอดภัย

         เป็นเวลาหกปีแล้วที่เธอกับสามีย้ายมาที่บาเซิล ซึ่งเธอใช้เวลาปีแรกหมดไปกับการเรียนทั้งภาษาฝรั่งเศสและเยอรมัน เพียงเพื่อจะพบว่าเพื่อนร่วมงานใหม่ของเธอเกือบทั้งหมดพูดอังกฤษได้คล่องปรื๋อ

         ตึกออคคิวลัสแห่งนี้เป็นทั้งสำนักงานและศูนย์เก็บรวมรวมผลงานจากมันสมองนักวิทยาศาสตร์ผู้อุทิศตนต่อการกุศล ชื่อได้มาจากโครงสร้างรูปโดมหกชั้น รวมใต้ดินอีกสอง มองจากมุมสูงดูคล้ายกับดวงตาขนาดใหญ่

         “นี่ เธอสังเกตมั้ยว่าวันนี้รปภ.หน้าใหม่เต็มไปหมดเลย” แจ็คกี้ หรือ แจ็คเกอลีน อีแวนส์ เพื่อนร่วมงานของบิโคลตั้งข้อสังเกต เธอเป็นนักชีวเคมีจากอังกฤษ “วงในไม่มีข่าวอะไรเลยเหรอ?

         “ไม่มีเลย” นิโคลตอบ ที่จริงแล้วเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “วงใน” ที่แจ็คกี้หมายถึงคืออะไร

         “เราทำงานให้องค์กรไม่หวังกำไรนะ” แจ็คกี้บ่น “ถ้าเกิดเราเป็นพวกแม็กนัสฯก็ว่าไปอย่าง ของพวกนั้นมีแต่ของแพงๆ ถ้าใครจะมาปล้นอะไรคงไม่บ้ามาที่นี่หรอก”

         พูดถึง แม็กนัสผู้ค้าความตายและเจ้าแห่งโลกทุนนิยมไม่ได้ทำให้เธอชื่นใจเท่าใดนัก จริงอยู่ที่แม็กนัสฯมีส่วนนำโลกนี้ก้าวสู่ยุคใหม่ที่เทคโนโลยีหลายๆอย่างไม่ได้เป็นแค่ความฝันอีกต่อไป แต่เธอไม่ลืมว่าแม็กนัส คอร์ปอเรชั่นสร้างตัวขึ้นมาจากชีวิตของผู้คนนับแสนนับล้าน ถึงพวกเขาเหล่านั้นจะถูกตราหน้าว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของโลกก็ตาม

         “อาจเป็นมาตรการฝึกซ้อมก็ได้” นิโคลพยายามไม่ให้เพื่อนกังวล “ตั้งแต่มาทำงานเราไม่ค่อยเห็นพวกรปภ.ฝึกซ้อมอะไรเลย ฝ่ายรักษาความปลอดภัยอาจเพิ่งได้คำสั่งมาอีกทีมั้ง”

         “เลือกวันได้ถูกจังนะ” แจ็คกี้ยังไม่เลิก “เราจะทำงานได้ยังไงกันถ้าเกิดมีคนถือปืนกลเพ่นพ่านอยู่ทั่วตึก”

         นิโคลก้มดูนาฬิกา “ก็เราเลิกงานแล้วไม่ใช่เหรอ ได้ยินว่าเย็นนี้เธอมีนัดกับแฟน ฉันว่าเราเลิกบ่นแล้วรีบๆกลับกันเถอะ”

         “แต่เธอก็รู้ว่าฉันชอบกลิ่นเสื้อคลุมแล็ป ซึ่งวันนี้เราไม่ได้ใส่--

         “แจ็คกี้….

         “โทษที” เพื่อนนักวิจัยยิงฟันเป็นเชิงแก้เขิน “เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้ชอบทำงานเกี่ยวกับสถิติหรืออะไรเทือกนั้นเลย”

         พูดให้ถูกคือ นิโคลและนักวิจัยในแผนกคนอื่นๆต้องใช้เวลาทั้งวันศึกษากรณีของ ดร.ริชาร์ด เฟรอล ซึ่งนิโคลไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน เขาอาจเป็นแค่นักวิทยาศาสตร์ธรรมดาๆที่เคยทำงานที่นี่ อย่างไรก็ตาม ไฟล์ของเขามีเนื้อหาค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวถึงแม้มันจะมีอายุ 20 กว่าปีแล้ว นิโคลมารู้ช่วงพักเที่ยงว่าไฟล์ถูกสร้างช่วงวัน "เอสเดย์" ซึ่งหนึ่งในผลกระทบของมันถึงการถือกำเนิดขององค์กรระวังภัยทางปรมาณูหรือ "อาโซ" (Atomic Hazard Security Organization - AHSO) ที่นิโคลสังกัดอยู่ มีหน้าที่สอดส่อง คาดการณ์ และบรรเทาทุกข์

         นิโคลยังจำบทสนทนาระหว่างเธอกับ ดร.อองตวน โคลแบร์ หัวหน้าทีมของเธอได้ดี

         “พูดจริงๆนะ คุณปาสคาล” นักวิจัยหนุ่มใหญ่ชาวฝรั่งเศสเช็ดหน้าผาก ถึงแม้บุคลิกจะดูอยู่ไม่สุข มอซอ ท่าทางสติเฟื่องแบบนักวิทยาศาสตร์ในภาพยนตร์ แต่ด้วยความขยันและมันสมอง เขาจึงได้เป็นหัวหน้าผ่านการเลือกโดยทุกคนในทีม“ผมยังเคืองอยู่เลยว่า ทาง ยูเอ็น หรือ อียู หรืออเมริกา หรือใครก็ช่างเถอะ--มัวรออะไรอยู่ถึงได้เอาไฟล์นั่นมาส่งได้ล่าช้าขนาดนี้”

         “แต่ดอกเตอร์คะ ไฟล์นั่นมันเนื้อหาตั้ง 20 ปีก่อน อาจไม่สลักสำคัญเลยก็ได้นะคะ”

         “ผมลืมบอกกับคนอื่นว่าพวกนั้นส่งมาให้ผมก่อน เมื่อคืนวานนี้เอง” ดร.โคลแบร์พรมนิ้วลงบนโต๊ะแบบคนที่อยู่ไม่ค่อยนิ่ง “ตอนแรกผมก็คิดแบบคุณนี่แหละ แต่ขอโทษนะครับ—พระเจ้า! นั่นมันของสำคัญสุดๆเลย แล้วพวกเขาเพิ่งจะมาให้เราจนป่านนี้เนี่ยนะ แล้วนายเฟรอลที่เขียนไฟล์เนี่ยผมเสียดายชะมัด ถ้าเขาอยู่คงช่วยเราได้เยอะเลย”

         “หมายความว่ายังไงเหรอคะ ดอกเตอร์?” นักวิทยาศาสตร์สาวขมวดคิ้ว “ฉันไม่เคยได้ยินหรือเห็นชื่อ “ริชาร์ด เฟรอล” มาก่อนเลย ไม่ว่าจะในข่าวในตำราไหนๆ คุณกำลังจะบอกว่าเรากำลังเจอกับหมาป่าเดียวดายเหรอคะ?

         “ราชสีห์เดียวดายต่างหากล่ะ” โคลแบร์ตอบ “ถ้าที่เขาเขียนไว้มันถูกขึ้นมา เท่ากับพวกรัฐบาลทั้งหลายหลอกให้เรางมโข่งเลย พอผมติดต่อถึงที่มาไฟล์ ทางนั้นตอบมาว่า องค์การอนามัยโลกส่งมา ฝ่ายรังสีน่ะ ส่วนริชาร์ด เฟรอลเขาหายไปเฉยๆเลย มีแค่ประวัติการทำงานนิดหน่อย แต่พอหลังวันเอสเดย์ไม่นานเขาก็หายไป ถ้าให้ผมเดาเขาอาจโดนรังสีด้วย คงรู้ตัวว่าไม่รอดเลยใช้มาตรการกักตัว น่าเสียดายจริงๆ”

         “ประทานโทษนะคะ แต่เรายังไม่รู้ว่า เอ่อ--ทฤษฎีของเขาน่ะเชื่อถือได้แค่ไหน”

         “จริงๆแล้ว ผมใช้ลางสังหรณ์ล้วนๆอย่าเพิ่งมองผมแบบนั้น คุณปาสคาล คุณลองคิดดูสิ! พวกเขาบอกว่าที่อาโซเกิดได้เพราะวันเอสเดย์ แต่งานที่เราทำ ทั้งหลายทั้งปวงก่อนที่คุณหรือผมจะเข้าร่วมเนี่ย ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้สคาโตเนียเลย ไม่ว่าจะตัวอย่าง กรณีศึกษา ภาพ ไม่มีเลย! ไม่แค่กระดาษสถิติแบบที่แม้แต่เด็กส่งเอกสารยังหลับตาพิมพ์ได้--

         พอกันที

         “ด้วยความเคารพนะคะ สำหรับดิฉันมันไม่สำคัญหรอกคะ ตราบใดที่จุดประสงค์ของเราเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์” นิโคลสุดลมหายใจเข้าลึก เตรียมรับคำตอบที่อาจไม่ค่อยสวยหรู แต่หนุ่มใหญ่แค่มองหน้าเธอก่อนถอนหายใจ

         “โอเค ผมเข้าใจ อุดมการณ์ของคุณน่าชื่นชมนะคุณปาสคาล” โคลแบร์เหมือนจะจมลงไปในเก้าอี้ของเขา “ผมขอโทษที่อาจทำคุณเสียเวลา แต่ผมว่าคุณหรือหลายคนอาจยังไม่เข้าใจ ผมไม่โทษหรอก บางทีผมอาจด่วนสรุปไปเองก็ได้ ขอโทษจริงๆที่ผมอาจทำคุณไม่สบายใจ”

         นิโคลเริ่มใจเย็นลง เธอขยับเก้าอี้ไปด้านหน้าเล็กน้อย เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นความกระตือรือร้นหายไปจากแววตาของหัวหน้า “คุณโอเคมั้ยคะ?

         “ผมแค่ไม่อยากจะเชื่อว่าจะต้องงมโข่งมาหลายปี” เขาหยิบกล่องบุหรี่ออกมาจากใต้ลิ้นชักก่อนหยิบมาถือมวนหนึ่ง “คุณพูดถูกนะที่ผมอาจคิดไปเอง พวกนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกเราเรื่องสคาโตเนีย บางทีนายเฟรอลอะไรนี่อาจโดนรังสีจนคิดไปเอง แต่พูดก็พูดเถอะ สำนวนของเขาไม่เหมือนคนใกล้ตายเลย”

          “มันไม่สำคัญหรอกค่ะ ตราบใดที่สิ่งที่เราทำนั้นเพื่อช่วยชีวิตของผู้คนที่ลำบาก นั่นไม่ใช่เหรอคะที่เราถึงได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่” เธอพยายามพูดให้เขาสบายใจ จริงๆแล้วเธอเองก็ทำอะไรไม่ถูกในสถานการณ์นี้ซึ่งเธอไม่คาดคิดมาก่อน

         โคลแบร์จ้องมวนบุหรี่ของเขาอยู่พักหนึ่งก่อนจะเงยหน้ากลับขึ้นมา

         “คุณพูดถูก” เขาถอนหายใจ “ผมว่าเรากลับไปทำงานดีกว่า ดูซิว่าในไฟล์จะยังมีอะไรที่เราพอใช้ได้บ้าง”

         “ค่ะ หัวหน้า”

         “แล้วถ้าเกิดมีใครบ่นว่าข้อมูลส่วนสุดท้ายเหมือนมันไม่สมบูรณ์ บอกพวกเขาด้วยว่าเราได้มาแค่นั้นแหละ ผมไม่ได้ลบอะไรทิ้ง”

         นิโคลไม่แน่ใจว่าเธอเดินใจลอยมานานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีก็จะถึงทางออกจากตึกออคคิวลัสแล้ว

         “นั่นพวกรปภ.มุงอะไรกันน่ะ?” แจ๊คกี้ชี้ไปทางประตูซึ่งมีเครื่องตรวจจับอุปกรณ์อยู่

         ตรงนั้นเหมือนมีปัญหาเล็กน้อย รปภ.ในชุดเกราะกันกระสุนกว่าครึ่งโหลกำลังล้อมชายคนหนึ่ง ดูเหมือนกำลังตรวจค้นกันอยู่ นิโคลและแจ็คกี้กำลังเดินผ่านเครื่องตรวจจับ ถ้าเกิดรปภ.นายหนึ่งไม่ขวางไว้ซะก่อน

         “ประทานโทษครับ ขออภัยในความไม่สะดวก”

         ด้านหลังของเธอมีผู้คนเริ่มทยอยกันออกมา ต่างดูงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นิโคลเธอได้กลิ่นคล้ายพลาสติกไหม้ เมื่อเธอหันไปหาแจ็คกี้ก็พบว่าอีกฝ่ายทำจมูกย่นเหมือนได้กลิ่นเช่นกัน

         “ช่วยเช็กอีกทีหน่อยครับครับ” ชายที่ถูกล้อมไว้พูดเสียงเรียบด้วยสำเนียงบริติช เขาเป็นชายร่างสูง ผมสีน้ำตาลออกส้มเช่นเดียวกับหนวดเคราเตียนๆ ดวงตาสีเขียวปนเทา เขาสวมเสื้อสูทสีดำไม่ผูกเนกไท “ผมคิดว่าผมมีนัดที่นี่”

         “ถึงคุณมีนัด แต่เสียใจด้วย นี่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว ผมเกรงว่าคุณต้องมาใหม่พรุ่งนี้ในเวลาทำงาน”

         “ผมก็มีงานการเหมือนกันนะครับ” ชายแปลกหน้ายิ้มที่มุมปาก “ที่ผมมาน่ะ เป็นเรื่องด่วนซะด้วย”

         รปภ.รายเดิมยังไม่ยอมแพ้ “ผมจะไม่เตือนซ้ำสองแล้วนะ วันนี้มีมาตรการความปลอดภัยขั้นพิเศษ เพราะฉะนั้นผมขอให้คุณ--

         “อ๋อใช่ สถานการณ์พิเศษ” คนแปลกหน้ายังคงยิ้ม กลิ่นพลาสติกไหม้แรงขึ้นเรื่อย จนรปภ.ที่กั้นนิโคลไว้ทำจมูกฟุดฟิด “ที่ว่าอาจมีผู้บุกรุกใช่มั้ย?

         เหล่ารปภ.มองหน้ากันอย่างงุนงง นิโคลเองก็ไม่แพ้กัน แจ็คกี้หันมาพูดเสียงกระซิบ “เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย นิโคล?” ซึ่งเธอตอบกลับด้วยการส่ายหน้า แต่แล้วเธอก็เหลือบไม่เห็นอะไรบางอย่าง คราวนี้นิโคลพอจะเดาออกแล้วว่ากลิ่นพลาสติกมาจากไหน

         กล้องวงจรปิดตัวที่อยู่เหนือโต๊ะประชาสัมพันธ์มีควันลอยออกมา เมื่อเธอกวาดสายตามองรอบๆก็พบว่ากล้องทุกตัวเป็นเหมือนกันหมด

         “แจ็คกี้--” นิโคลสะกิดเพื่อนและรปภ.ที่อยู่ใกล้ๆ “ฉันว่าฉันรู้แล้วว่ากลิ่นไหม้มาจากไหน”  ซึ่งรปภ.เห็นแล้วก็พยายามใช้วิทยุแจ้งไปยังศูนย์ ซึ่งมีแต่เสียงซ่าๆเหมือนไม่มีคลื่น

         “แล้วทำไม่สัญญานกันไฟไม่ดังล่ะ กล้องไหม้ซะขนาดนี้” แจ็คกี้ถาม แต่แล้วจู่ชายแปลกหน้าก็ดึงความสนใจของทุกคน

         “โอเค ผมรู้ว่าวันนี้อาจมีผู้บุกรุก ก็ทำไงได้ ผมเป็นคนแจ้งเอง” เขาพูดสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว

         “คุณเป็นใคร?” รปภ.รายเดิมถาม นิโคลก้าวถอยหลังออกมาอย่างไม่รู้ตัวเช่นเดียวกับแจ็คกี้ เมื่อเพื่อนสาวที่ให้ดูว่ารปภ.ทุกคนตรงนั้นเอื้อมมือไปที่ซองปืนประจำกาย

         ดูเหมือนชายคนนั้นจะเห็น แต่เขาก็ไม่สนใจ พลางล้วงเข้าไปในเสื้อ ก่อนหยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่ง “โอเค สมมุติว่ามีผู้บุกรุก คุณจะทำยังไง?

         รปภ.คนนั้นมีสีหน้างุนงง ขณะที่ชายแปลกหน้ายิ้มเห็นฟันที่ขาวเป็นประกาย เขายังคงยิ้มอยู่ตอนที่ยกเท้าขึ้นถีบรปภ.คนนั้นเข้าเต็มหน้าอก นิโคลไม่ทันได้กรีดร้องด้วยซ้ำตอนที่ร่างของผู้โชคร้ายลอยไปชนเข้ากับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ วินาทีถัดมา ทั้งอาคารเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องอย่างหวาดผวาและเสียงตะโกนของรปภ. บอกให้ชายคนนั้นยกมือขึ้นบนหัว นิโคลและแจ็คกี้ก้าวถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชายประหลาดทำตามที่พวกรปภ.สั่ง เขามีสีหน้าขบขันขณะที่ยกมือขึ้น หนึ่งในรปภ.เดินอ้อมไปด้านหลังของผู้บุกรุก

         ชายลึกลับหมุนตัวเตะรปภ.คนที่พยายามจับตัวเขากระเด็นทะลุประตูกระจก ร่างของผู้โชคร้ายลอยหายไปจากสายตา คราวนี้ทุกคนที่ไม่ใช่รปภ.ต่างกรีดร้อง วิ่งหนีหาที่ซ่อนตัว นิโคลไปซ่อนตัวที่หลังเสาต้นใกล้ๆในขณะที่แจ็คกี้ไปหลบอยู่หลังเสาถัดไป เธอเห็นพวกรปภ.ยกปืนขึ้นเล็งไปที่ชายคนนั้นทั้งจากทางเข้าและจากเฉลียงของชั้นสองซึ่งพวกนั้นมีปืนกลขนาดเล็กด้วย ผู้บุกรุกชูมือขึ้นในท่ายอมจำนน ขณะที่กวาดตามองรอบๆด้วยสีหน้าขบขัน รปภ.สามสองคนก้าวเข้าไปประชิดตัวช้าๆ

         แต่แล้วเขาก็ดีดนิ้ว เสียงดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งอาคาร

    พวกรปภ.ต่างลดปืนลง แต่ละคนยืนตรงไม่ขยับเขยื้อน มีสองสามคนที่หลีกทางให้ขณะที่ชายลึกลับก้าวยาวๆมายังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

         จู่ๆเก้าอี้มีล้อที่อยู่ตรงนั้นก็เลื่อนเข้ามาหาเขา แต่เขายังไม่นั่งลง ชายประหลาดใช้ปากคาบบุหรี่ไว้ก่อนล้วงเอาสิ่งของออกมาอีก คราวนี้เป็นอะไรซักอย่างที่ลักษณะคล้ายตลับหรือแผ่นกลมๆ เขาถือมันไว้ด้วยฝ่ามือซ้าย เขาจ้องเจ้าสิ่งนั้นไม่นาน สิ่งที่ดูคล้ายภาพโฮโลแกรมทรงกลมก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือ

         “คุณที่อยู่ตรงนั้นน่ะ” เสียงของชายลึกลับดังก้อง ทั้งๆที่เขาไม่ได้ตะโกน ดวงตายังจับจ้องไปที่ภาพโฮโลแกรม “คนที่กำลังจะออกไปตอนนั้นน่ะ  ผมขอรบกวนอะไรหน่อยสิ”

         ไม่นะ ไม่ใช่ฉัน

         “คุณคนสวยคนนั้นที่ชื่อว่านิโคลน่ะ ผมหมายถึงคุณ ออกมาหาผมหน่อยครับ”

         ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สมองเธอสั่งทุกส่วนในร่างกายว่าไม่ให้ฟังที่เขาพูด แต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดบอกเธอว่าถ้าไม่ทำตาม นิโคลจะไม่ได้มีโอกาสกลับบ้านไปหาโธมัสอีก เมื่อเธอหันไปสบตากับแจ็คกี้ อีกฝ่ายส่ายหน้าด้วยความพรั่นพรึง แต่เธอตัดสินใจแล้ว

         “ดีมาก ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ” ชายลึกลับพูด ผายมือไปที่เก้าอี้ “นั่งก่อนครับ”

         นิโคลพยายามไม่สบตา ขาของเธอดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อเข้าใกล้ชายคนนี้ มือไม้สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เธอรู้สึกว่ามีสายตาชะโงกมามองดูเธอจากทั่วบริเวณ

         พระเจ้า...โธมัส…..ใครก็ได้พาฉันออกไปจากที่นี่ที…..

         ตอนนี้ในหัวเธอมีแต่ใบหน้าของโธมัสและคำสวดอ้อนวอนถึงใครก็ตามที่รับฟัง ริมฝีปากด้านชาไปหมดเพราะเธอกัดมันไว้ พยายามอย่างยิ่งไม่ให้ตัวเองปล่อยโฮออกมา เมื่อเธอหันไปทางเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ก็เห็นร่างรปภ.นอนอยู่ เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากปากและตาที่เบิกโพลงของเขา ชั่วครู่เธอคิดว่ากล้ามเนื้อเขายังคงกระตุก

         พระเจ้า.....

         “ฟังผมนะ นิโคล” เธอก้มลงมองดูมือที่สั่นเทา “ผมต้องการเข้าถึงไฟล์เก่าๆอันหนึ่ง ซึ่งผมพบว่าใครซักคนเพิ่งล็อกมันไว้เป็นไฟล์เฉพาะแผนก แปลว่าผมต้องเป็นนักวิจัยแผนกคุณถึงจะมีรหัสเข้าได้ และโชคร้ายจริงๆที่ผมไม่มีปากกามากรอกแบบฟอร์มสมัคร ถึงมี--ผมก็ไม่ได้เรียนจบทางนี้มาด้วย เพราะฉะนั้น….รบกวนเงยหน้ามองนี่หน่อยครับคุณผู้หญิง”

         นิโคลสูดหายใจเข้าพลางเช็ดน้ำตาที่เอ่อ ก่อนรวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นมอง โฮโลแกรมทรงกลมอยู่ตรงหน้าเธอพอดี ซึ่งชายลึกลับก็นั่งยองๆประจันหน้ากับเธอ

         โฮโลแกรมนี่เหมือนเป็นลูกโลกที่มีพื้นผิวเป็นชุดตัวเลข อักขระแปลกๆสีเขียว ซึ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มันหมุนมาที่อีกด้านหนึ่ง เป็นแป้นตัวเลข 0-9 ที่เป็นสีแดง

         “คุณรู้นะว่าต้องทำอะไร นิโคล” เขาปาดน้ำตาให้เธอด้วยนิ้วโป้ง

         นิโคลยกนิ้วที่สั่นเทาขึ้นมา วินาทีนี้เธอคิดแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด สิ่งต่อมาที่เธอรู้คือเธอจิ้มไปที่ตัวเลขเป็นรหัสเข้าระบบของเธออย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แป้นตัวเลขสลายไป เปลี่ยนเป็นตัวอักษรสีเหลืองเขียนว่า

         เชื่อมการติดต่อ….

         นิโคลได้ยินเพียงเสียงหัวใจเต้นโครมครามอยู่ในอก และแล้วตัวหนังสือสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นแทนที่

         ได้รับอนุญาตให้เข้าระบบ

         “บราโว่” ชายลึกลับพูด เขาเอานิ้วแตะที่ปลายบุหรี่และมีควันลอยออกมา

         “เริ่มค้นหา” เสียงคอมพิวเตอร์คล้ายเสียงผู้หญิงดังออกมาจากโฮโลแกรม

         “พบข้อมูลที่ถูกต้อง เริ่มการดาวน์โหลด”

         นิโคลเหมือนถูกตรึงไว้กับเก้าอี้ สองมือกำที่พนังเก้าอี้ราวกับตัวเธอจะลอยขึ้น ขณะที่ชายลึกลับจ้องเข้าไปในโฮโลแกรมที่ตอนนี้ใจกลางของมันเป็นตัวเลข 67% แสงสีเขียวส่องใบหน้าของเขาทำให้มันดูชั่วร้ายขึ้นอย่างบอกไม่ถูกในความคิดของนิโคล

         70%....

         86%....

         99%....

         “การดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์---คำเตือน….ไฟล์ถูกดัดแปลง”

         “ก็ชิ้นหนึ่งของจิ๊กซอว์” ชายลึกลับพูด ภาพโฮโลแกรมหายไปก่อนที่ชายคนนั้นจะเก็บมันเข้าไปในเสื้ออีกครั้ง “ผมว่าคงหมดธุระแล้ว ยังไงก็ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะครับ คุณผู้หญิง”

         เขายิ้ม ก่อนหันหลังเดินจากไป มีเพียงเสียงรองเท้ากระทบพื้นดังก้องไปทั่ว เครื่องตรวจจับวัตถุส่งเสียงเตือนเมื่อเขาเดินผ่านออกไป และตรงนั้นเองที่เขาหยุดเดินก่อนยกมือขวาขึ้นระดับหู ก่อนจะดีดนิ้วอีกครั้ง

         "โชว์จบแล้ว! ขอบคุณครับ....ขอบคุณที่รับชม"

         เหล่ารปภ.ต่างยกปืนขึ้น เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้งเมื่อรปภ.ทุกคนสอดปืนเข้าไปใต้คางตัวเอง นิโคลก้มหัวลงสองมือปิดหู เธอร้องให้อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

         โอ้ พระเจ้า ขอร้องล่ะ ให้มันจบซะที!!! ฉันยอมแล้ว

         กระนั้นสองมือก็ไม่อาจปิดกั้นเสียงปืนที่บาดลึกความรู้สึก นิโคลได้แต่ภาวนาว่ามันจะจบลง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×