ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Manifold Flashpoint จุดประกายหายนะ

    ลำดับตอนที่ #4 : [อลิสแตร์] บทที่ 3 - TBC [รีไรท์ครั้งที่ 2]

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 60


    TBC
     



         

         อัลมาถึงที่ทำงานเช้ากว่าปกติแต่กลับมีเด็กฝึกงานกลุ่มหนึ่งยืนขวางทางเขาอยู่ พวกนั้นกำลังสุมหัวดูอะไรบางอย่างกันอยู่

         "แกดูนี่ดิ ของจริงเลยนะเว้ย" ในเมื่อเรียกแล้วไม่หัน อัลจึงติดสินใจยืนฟังพวกนั้น "แกเห็นมั้ยว่ามันเป็นสีฟ้าจริงๆ"

         "น่าขนลุกว่ะ" หนึ่งในนั้นพูดสำเนียงสก๊อต "แกว่าตายมั้ยวะ"

         "แรงกระแทกขนาดนี้ไม่ตายก็เก่งแล้วเว้ย" คนร่างสูงสำเนียงลอนดอนว่า "ข่าวพวกอเมริกันบอกว่าศพกลายเป็นขี้เถ้า เลยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้จอห์น โดคนนี้มันชื่ออะไร"

         หนึ่งในนั้นที่เป็นหนุ่มร่างผอมผมทองหน้าเหมือนตัววีเซิลหันมา ตอนแรกอัลนึกว่าหมอนี่จะขยับให้เขาไปได้ "นายต้องได้เห็นนี่เว้ยพวก" เขายื่นโทรศัพท์ที่เล่นคลิปวีดิโอคุณภาพต่ำให้เขาดู ภาพแตกเสียจนอัลนับได้ว่ามีกี่พิกเซล "ข่าวดังของชั่วโมงนี้ นายคิดว่าพวกมืออาชีพจะว่ายังไงถ้าเราเอานี่ไปเขียนกัน" ก็คงดีหรอก ถ้าไม่มีใครไวกว่าพวกแกล่ะนะ

         "ถ้าเป็นฉันจะไล่ไปหาวีดีโอนี่มีพิกเซลเยอะกว่านี้ว่ะ" อัลตอบตามความจริงในเมื่อพวกนั้นอยากได้คำแนะนำจากมืออาชีพ

         "นี่ชัดสุดที่เราหาได้แล้วนะพวก" คนหัวเกรียนที่พูดสำเนียงสก๊อตแย้ง ท่าทางว่าจะมีคนที่ไม่ได้ถูกรับเข้าทำงานเสียแล้ว ก่อนที่จะมีใครว่าอะไรต่อ ก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงมาจากด้านหลัง

         ปรากฏว่าเป็นคอนนี่จากแผนกประชาสัมพันธ์ เธอเป็นสาวร่างเพรียวกับผมสีเงิน "อ้าว มากันพอดีเลย นี่มาตามนัดแรกกันเลยหรือเปล่าคะ?"

         คอนนี่เหลือบมาเห็นอัลจนได้ "เอ้า สวัสดีค่ะ เทอร์เนอร์ ทำไมยังไม่ขึ้นไปอีกล่ะคะ?"

         "ผมถูกชวนคุยน่ะ" อัลตอบยิ้มๆ พวกนั้นกระซิบกระซาบกันอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าเพิ่งตีซี้กับพนักงานเต็มตัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ

         “แกว่าใช่มั้ยวะ?” คนตัวที่สูงสุดกระซิบ โชคร้ายไอ้หมอนี่กระซิบไม่เก่ง เขาจึงได้ยินเต็มสองหู หัวแดงๆแบบนั้นฉันว่าใช่คุณเทอร์เนอร์ที่พวกนั้นเล่าให้เราฟังแน่ๆ คนที่เคยไปทำสกู๊ปที่แถวยุโรปตะวันออกน่ะ”


         "ไม่มั้ง เจอร์รี่ ที่เราเคยเป็นในรูป เคราไม่ได้รกแบบนี้นี่ จำไม่ได้เหรอ?" คนที่หน้าเหมือนวีเซิลพูด


         โกนได้ก็ไว้ใหม่ไว้เว้ย นานแล้วที่ไม่มีใครทักเขาเรื่องหัวแดง เล่นกับพวกเด็กๆซักหน่อยคงไม่เป็นไร


         “โทษทีอัลหันมา “หนวดมันขึ้นใหม่ได้"


         จู่ๆคุณน้องตัวโย่งก็ปิดปากเหมือนว่าเพิ่งสบถด่าปู่ทวดใครซักคนไปตะกี้ "ขอโทษครับ...."


         “นินทาชาวบ้านเป็นเรื่องปกติของที่นี่ ถ้าน้องใหม่อย่างพวกนายปรับตัวได้ไวก็ดีแล้ว เข้าใจที่พูดใช่มั้ย ตัวเล็ก?อัลให้บทเรียนแรก หวังว่าการตบไหล่เบาๆจะทำให้เขาดูเป็นมืออาชีพขึ้นและทำให้พี่โย่งสงบลง แล้วก็...เบาเสียงลงด้วยคราวหลังเพราะหลายคนที่นี่เขาไม่ค่อยใจดีเหมือนฉัน ฝึกงานให้สนุกนะไอ้น้อง บาย---เฮ้ย เกือบลืม เอาเอกสารนี่ไปส่งให้คนที่ชื่อคริสเต็น วัตสันที่ชั้นบนที หาตัวไม่ยากหรอก คนที่ทาลิปสีเขียวบนชั้นนั้นมีคนเดียวนั่นแหละ ถ้าเกิดมีหลายคนก็เอาให้คนที่ทรงผมเจ็บสุด ถ้าจนปัญญาจริงๆก็เอากลับมา โอเคนะ?”


         อัลสงสัยเล็กน้อยว่าเขากลายมาเป็นคนดังของพวกเด็กใหม่ได้ยังไง เจ้าหนุ่มร่างโย่งรับซองเอกสารไปด้วยท่าทางตื่นเต้นเหมือนได้เงินสด เขาหันไปคุยกับเพื่อนๆต่อขณะที่เดินจากไป คอนนี่ยิ้มเป็นเชิงขอโทษแต่อัลไม่ได้ว่าอะไรเธอ ไม่ใช่ความผิดเธอที่จะมีเด็กใหม่คิดว่าเขาเป็นเพื่อน อย่างน้อยก็แปลว่าเขายังดูหนุ่มอยู่


         ถึงเสียทีกับอาณาจักรเล็กๆที่สองของเขา คีย์บอร์ดคู่ใจถูกเอาออกมาใช้ สาวน้อยจอมถึกรายนี้ทนไม้ทนมือเขามาได้พอสมควรสำหรับคีย์บอร์ดรุ่นบาง ส่วนอื่นๆของโต๊ะตอนนี้กลายเป็นกองเอกสาร ภาพตัดแปะ รวมถึงโน้ตเล็กๆตั้งแต่สองเดือนก่อน ต้องขอบคุณหุ่นแม่บ้านที่ไม่กวาดอะไรไปทิ้งแบบซี้ซั้ว นอกเหนือจากคีย์บอร์ดสุดที่รักและหน้าจอคอมที่เช็ดทุกวันแล้ว แก้วเครื่องดื่มดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่สภาพดีที่สุด แต่ตอนนี้เขายังไม่ต้องการอะไรมาล้างคอ ยังคิดไม่ออกว่าจะชาหรือกาแฟดี หรือบางทีอาจน้ำอัดลมซักกระป๋อง


         ออฟฟิศของ TBC สำนักข่าวของช่องเทอร์ร่า บรรยากาศยังคล้ายๆเดิม ทุกคนต่างรอให้ไฟลนก้นเรื่องรอโอกาสทองหล่นบนตักถึงจะได้ย้ายก้นออกจากโต๊ะหรือมุมดื่มชากาแฟ มีไม่กี่คนที่ไม่ได้รอโอกาสแต่คว้ามันเมื่อมันโผล่มาใกล้ๆ อัลก็เช่นกัน เขาไม่ใช่คนทะเยอทะยาน ไม่ใช่คนขยันเป็นมด แค่เกลียดกับการหย่อนก้นในออฟฟิศทั้งวัน การรีบคว้างานทำให้เขามีข้ออ้างออกจากสำนักข่าวก่อนเวลา หลีกเลี่ยงการต้องเลี้ยงเหล้าเพื่อนตัวดี หลีกเลี่ยงที่ต้องทำเป็นไม่คิดอะไรเวลาผู้ประกาศสวยๆมาของานและต้องคิดถึงหน้าโซเฟียตลอดเวลาเหล่านางฟ้าชั้นบนโผล่มา นอกจากนี้การได้งานมารับผิดชอบหมายถึงวันหยุดทราบที่มีงานส่งตามเส้นตาย แปลว่าเวลาที่เขามีกับโซเฟียก็จะมากขึ้นด้วย


         โซเฟียเป็นสาวลอนดอนแต่กำเนิด เติบโตในโรงละครและยึดอาชีพนักแสดงและเล่นไวโอลีนในวงของโรงละคร ซึ่งโชคดีมากที่โรงละครที่เธออยู่ไม่ได้ซ้อมกันเอาเป็นเอาตายจนนักแสดงไม่มีเวลาพัก เธออาจไม่ใช่นักแสดงโด่งดังนักและนานๆทีจะได้เป็นตัวเอก แต่ทั้งเขาและเธอพอใจกับมัน อีกอย่างนึงคือโซเฟียทำความสะอาดเป็น ทำอาหารเก่ง ขอโทษเป็นเวลารู้ตัวว่าทำอะไรไม่เข้าท่าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตอนเธอมีประจำเดือน โอเค การคิดว่าแฟนตัวเองน่ารักแค่ไหนมันทำให้เรารู้สึกขี้เกียจยังไงพิกล ทำงานๆ


         ส่วนข่าววันนี้มีอะไรพอเอาไปใช้บ้าง…..อยากน้อยให้อ่านได้เพลินๆก็ยังดี


         พวกอเมริกันยังเป็นที่หนึ่งเรื่องทำตัวเป็นข่าว แทบทุกวันจะมีวุฒิสมาชิกหรือไม่ก็ดาราฮอลลีวูดออกทีวี ข่าวที่พาดหัววันนี้ไม่พ้นเรื่องเดิมๆ แรพเปอร์ดังพี้ยาแล้วล้วงกางเกงในเมียตัวเองกลางพรมแดง นักร้องหนุ่มเมาแล้วอ้วก ดาราสาวดาวรุ่งดับเพราะยาเสพติด นักการเมืองถูกจับได้ว่าจัดปาร์ตี้พี้ยาคั่วนักเต้นระบำโป๊และเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์ เขาแถบสาบานได้ว่าเคยขุดข่าวเมื่อหลายสิบปีก่อนเนื้อหาทำนองนี้มาอ่าน ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรกับตอนนี้เลย


         โถ ไอ้กันเอ๊ย…..


         เขาเคยไปอเมริกาเพื่อทำข่าว เพียงแต่ตอนนั้นเขายังอายุน้อยกว่าตอนนี้ โง่กว่า โลกแคบกว่าและยังไร้เดียงสา เขาเลยรับเป็นช่างภาพปาปารัซซี่ ก่อนจะลงเอยด้วยดาราที่เขาติดตามอยู่หันมาโบกนิ้วกลางใส่ แต่หมอนั่นทำเงินให้อัลอย่างงามตอนที่อัลตามไปถ่ายรูปตอนเขาเมาและกำลังฉี่ใส่ถังน้ำมันรถซูเปอร์คาร์คันงามของตัวเองจึงถือว่านิ้วกลางนั้นเจ๊ากัน ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะสลัดคำว่า "ฉี่" แล้วก็ "อ้วก"ออกจากหัวได้แล้ว อัลยังคงรู้สึกถึงเรื่องไม่น่าอภิรมณ์ในวันเก่าๆ


         อัลต้องเลื่อนเมาส์อยู่หลายรอบกว่าจะเจอสิ่งที่น่าสนใจ ไอ้ข่าวนี้เองสินะที่กันไม่ให้เราเข้าออฟฟิศ


         ข่าวของพวกอเมริกันเช่นเคยแต่ไม่ได้เกี่ยวกับนิ้วกลางหรือน้องโส คดีฆาตกรรมปริศนากลางเมืองนิวยอร์คที่ล่าสุด FBI กระโดดเข้ามาคุมแล้ว ซึ่งอัลไม่แน่ใจว่ามีอีกกี่หน่วยที่เข้ามาแจมแต่ไม่ออกข่าว ที่แน่ๆเรื่องนี้เกินมือกรมตำรวจนิวยอร์คไปแล้ว


         เขาไม่เคยเห็นพวกอเมริกันตื่นตัวขนาดนี้มาก่อนในรอบไม่กี่ปีนับตั้งแต่มีพวกเหยียดเพศออกมาประท้วงตอนที่เจนนิเฟอร์ คลาร์ค ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเมื่อตอนเขาเป็นนักข่าวใหม่ๆ ส่วนหนึ่งคงเพราะเธอไม่ใช่พวกหัวอนุรักษ์และเป็นผู้หญิงผิวสี ในอังกฤษก็พอกัน อย่าให้เขาต้องเริ่มเลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นเพราะอเมริกาได้ปธน.หญิงมาสองคนแล้วและการเปลี่ยนแปลงแบบเฟมินิสต์สุดโต่งที่ทุกคนกลัวก็ไม่ได้เกิดขึ้น 


         “โอเคอัลกระแอมให้โล่งคอ โชว์ของดีหน่อยอเมริกา”


         ถ้าไม่จนปัญญาสืบก็จงใจปิดข่าว สื่อจากอเมริกาไม่ได้ให้อะไรมากไปกว่าการแถลงของ FBI ที่งมโข่งอยู่บ่อเดียวกับตำรวจนิวยอร์ค เห็นได้ชัดว่าคนร้ายเป็นมืออาชีพและมีความโหดเหี้ยม ทางเราจะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด ขณะนี้ก็ขออย่าได้แตกตื่นและใช้ชีวิตตามปกติ บลาๆๆ


         อัลเคยไปนิวยอร์คหนหนึ่ง ชาวนิวยอร์คโดยกำเนิด แตกตื่นกับอะไรยากมาก เพื่อนอเมริกันคนหนึ่งเคยบอกเขาว่า ต่อให้เอเลี่ยนมาบุกเมืองจริงๆ พวกนั้นก็คงไม่กลัวหรอก


         คงต้องโทษฮอลลีวูดล่ะ จริงๆนะเว้ย ฉันเคยเห็นโจรปล้นร้านสะดวกซื้อ ชักปืนใส่ชาวบ้าน คนคงคิดว่าถ่ายหนังกันถ้าเกิดไอ้หมอนั่นไม่ทำปืนลั่น


         ชายนิรนามโดนเสียบทะลุหน้าอก ร่างถูกโยนลงจากตึกสูงมาโดนรถคันหนึ่งจนพังยับ แถมร่างดันลุกเป็นไฟจนไม่เหลือซากให้รถพยาบาลมาเก็บ ถ้าใครเกิดอุตริถ่ายหนังจริงๆ เขาคิดไม่ออกเลยว่า FBI จะทำหน้ายังไง เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่อเมริกันเท่านั้นที่กำลังสนใจ แต่สำหรับอัลแล้วเขารู้สึกแปลกๆ จะว่าไม่สนใจก็ไม่เชิง แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรกับเรื่องนี้ยกเว้นว่ามันออกจะ….แปลก เขาไม่คิดว่าจะหาคำพูดอื่นมาอธิบายต่อ


         1 ข้อความถึงคุณ


         เขาล่ะชอบระบบนี้จริงๆถึงมันจะไม่ใช่โปรแกรมใหม่มาก คอมส่งข้อความหากันได้โดยตรงแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่เพิ่งอีเมลหรืออะไรทั้งสิ้น หลายสิบปีก่อนยังไม่มีแบบนี้ เด็กฝึกงานจึงทำหน้าที่ไม่ต่างจากม้าเร็วเดินสารที่ต้องคาบข่าวจากพนักงานรุ่นพี่ไปถึงบอสพุงหลามในห้องส่วนตัว


         อยากคุยกับแก รายละเอียดไว้ตอนเจอกัน ทอมมี่


         ตอนอัลลุกจากโต๊ะ เหล่าเด็กฝึกงานได้สลายตัวไปเรียบร้อยแล้ว คาดว่าถ้าไม่ลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ใครก็คงติดแหงกที่ห้องถ่ายเอกสารหรือไม่ก็ช่วยกันคิดพาดหัวเวลาเอาข่าวลงเว็บ


         “ว่าไง ตกลงเย็นนี้ทีเดิมมั้ย พลาดมาสองแล้วนะเพื่อนดไวท์ เพื่อนตัวล่ำจากแผนกข่าวกีฬาเรียก


         “คงต้องสามแล้วว่ะ ทอมมี่เพิ่งเรียกไปตะกี้”


         ท่าทางทีมอาร์เซนอลจะชนะอีกตามเคย หน้าถึงได้มีสีสันขนาดนั้นถึงอัลจะปฎิเสธเลี้ยงเหล้าเขาไปหยกๆ


         หน้าลิฟต์มีแต่สาวๆขาเม้าท์เต็มไปหมด ถ้าจะรอก็หลายคิวแน่นอน อัลจึงเลือกบันได เขาไม่ใช่คนรักสุขภาพแต่บางครั้งการรอลิฟต์ในตึก 62 ชั้นที่คนเข้าออกตลอดเวลาอาจกลายเป็นการเสียเวลาโดยใช่เรื่อง โดยเฉพาะเมื่ออัลต้องการขึ้นไปอีกแค่ 4 ชั้น


         ว่ามาเลย ทอมมี่


         “อัลทอมมี่กำลังซดกาแฟตอนที่เขามาถึง ไม่ได้เจอซะนาน นั่งก่อนสิต่อให้พวกเขาเจอกันทุกวัน ทอมมี่ก็พูดแบบนี้อยู่ดี โธมัส พาร์คหรือทอมมี่ เป็นอดีตนักข่าวสายวิบากและพิธีกรสารคดีเกี่ยวกับอาชญกรรมหรือสงคราม เขานี่แหละที่พาอัลเข้าสู่วงการ นอกจากประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงแล้ว ทอมมี่ยังเป็นคนแนะนำเขาให้กับบริษัทประกันชีวิต เนื่องจากตอนนี้เขามีลูกสองกำลังจะสาม แถมยังมีอพาร์ทเมนท์หรู ทอมมี่จึงหันมาทำอะไรที่เบาๆมากขึ้น เช่นการส่งอัลไปลงพื้นที่แทน สามสี่ปีมานี้จนดูเจ้าเนื้อขึ้นบ้าง แต่กระนั้นก็ยังมีมัดกล้ามให้เห็นว่าในอดีตเขาฟิตแค่ไหน ศีรษะยังไม่ถึงกับล้านแต่เรือนผมสีเข้มของทอมมี่ถูกหน้าผากบุกรุกอย่างเห็นได้ชัด


         “โซเฟียเป็นไงบ้างล่ะ” บรรณาธิการหมุนเก้าอี้มาเผชิญหน้ากับอัล


         “ก็ดีอัลตอบ พักนี้เธอเริ่มเตือนก่อนแล้วเวลาจะมีประจำเดือน”


         ทอมมี่หัวเราะ ฉันยังรอข่าวดีอยู่นะเว้ย”


         ฉันก็เหมือนกันว่ะ ทอมมี่ แต่คงต้องรออีกพักนึงเลยล่ะ อาจพักใหญ่ด้วยเขาหยิบรูปถ่ายบนโต๊ะมาดู นี่รูปอะไรวะ ป้าคนนี้คุ้นๆจัง”


         “แม่ยายฉันกับผัวใหม่ทอมมี่อธิบาย แกฟังถูกแล้ว ผอผึ้งสระอัว ผัว-ใหม่ อายุพอๆกับแกเลย เมียฉันบอกว่าปล่อยๆแม่ไปเถอะ คนแก่มีตังค์เขาอยากได้อะไรเขาก็ต้องได้ทั้งนั้นแหละ แม่เขาเพิ่งส่งรูปนี่ไปอวดทุกคน รวมถึงฉันด้วย”


         อัลวางรูปลงที่เดิม “น่ากลัวฉิบหายเลยว่ะ แม่ยายแก---จะว่าไปครอบครัวแกนี่สนุกดีว่ะ ถ้าไม่ติดว่าโซเฟียสวยกว่าน้องเมียแกล่ะก็....ลืมๆที่ฉันพูดเถอะ ว่าแต่แกคงไม่ได้พาเทรซี่ไปกัดก้อนเกลือนะ?”


         “ก็คิดว่าพออะไรคงตัวจะย้ายกลับไปสูดอากาศที่เคมบริดจ์ทอมมี่ดูใจลอย ไอ้ตัวเล็กท่าจะชอบบรรยากาศแบบ…..โอ๊ะ โทษที คุยกับแกเพลินไปหน่อย ให้ตายเถอะอัล มีแกคนเดียวนี่แหละที่ฉันกล้าคุยด้วยเรื่องแม่ยาย โทษทีนะ แกรีบมั้ยเนี่ย?”


        ไม่ค่อยรีบ ไม่ได้ว่านะแต่ฉันไม่ค่อยอยากรู้เรื่องพ่อตาคนใหม่ของแกหรอก ว่าแต่เรียกมาจะคุยเรื่องอะไร?”


         “ที่จริงไม่ได้เกี่ยวกับสำนักข่าวเราโดยตรงหรอก เพื่อนที่ช่องสารคดีของฉันอยากได้คนไปช่วยนิดหน่อย ถ้าเกิดว่าแกอยากได้เงิน หรือข้อมูลเจ๋งๆมาเขียนสกู๊ป…”


         โอเค ว่ามาเลย ฟังอยู่ ทอมมี่อ่านสีหน้าเขาออกจึงได้พูดต่อ


         “เรื่องที่นิวยอร์คน่ะ พอดีเขากำลังอยากได้ใครที่กล้าๆหรือบ้าพอจะช่วยพวกนั้นขุดหน่อย ถ้าแกสังเกต CNN หรือแม้แต่ BBC ยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ถ้าเกิดช่องเราได้ของดีมาก่อนล่ะก็แกเอ๊ย รับเละทั้งแกทั้งฉันแน่งานนี้”


         “ถ้าเราขุดเจอนะลึกๆแล้วอัลอยากลองเหมือนกัน แต่อะไรบางอย่างบอกเขาว่าเรื่องมันเข้าใจยากกว่าที่เข้าคิด แต่นั่นกลับเป็นสาเหตุกระตุ้นต่อมเผือก แล้วไฟเขียวจะได้ตอนไหน ฉันจะได้แพ็กของถูก แล้วก็เผื่อเวลาเขียนรายการถ้าเกิดว่าโซเฟียจะอยากได้อะไร เผื่อไว้สักครึ่งวันเลยคงดี”


         “ไฟเขียวน่าจะมาสัปดาห์หน้า สรุปว่าโอหรือไม่โอ?”


         “คงจะโอ จริงๆไม่ชัวร์ว่ะ ทอมมี่”


         ทอมมี่ขมวดคิ้ว


         “พูดตรงๆนะ ทอมมี่ เรื่องนี้มันออกแนว….เหนือธรรมชาติอัลตอบ พยายามคิดคำพูดให้ฟังดูเข้าท่าและทำสีหน้าให้ดูสงสัยมากกว่าดูโง่ โอเค ฉันรู้ว่านี้มันปีไหนแล้ว แต่ถ้าเกิดมันไม่มีอะไรแต่เหนือธรรมชาติแต่ถ้าเป็นพวกอเมริกันเล่นอะไรไม่เข้าท่าหรือมีปาหี่อะไรอีก ฉันก็อยากจะรู้ให้แน่เหมือนกันว่ะ”


         “สรุปคือ…”


         “ถ้างั้นตอนบ่ายนี้แล้วก็สัปดาห์นี้ที่เหลือ ฉันขอทำงานที่อพาร์ทเมนท์นะอัลจับที่ลูกบิด ถ้าจะให้ฉันไปจริงๆ มีการบ้านที่ต้องทำอีกเยอะเลยว่ะเพื่อน”

         "เอาที่แกสบายใจเถอะ ขอให้ได้เรื่องละกัน" ทอมมี่หันไปกรอกอะไรลงคอมพิวเตอร์ เป็นสัญญาณว่าเขาหมดเรื่องจะคุยกับอัลแล้วตอนนี้ "เออ--ถ้าแกเห็นลิซซี่ก็บอกเธอขึ้นมาหาฉันหลังพักกลางวันด้วย เรื่องจะสัมภาษณ์ท่านนายกฯอาทิตย์หน้า"


         นี่แหละทอมมี่ ชวนคุยเรื่องแม่ยายมีสามีใหม่รุ่นลูกก่อนจะโยนงานให้ เชื่อเขาเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×