ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวเชลย

    ลำดับตอนที่ #8 : เมื่อความจริงเปิดเผย

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 48


    การิมกับฟ้าใสกำลังจะมาถึงที่ชานเมือง การิมเริ่มเงียบลงทำให้ฟ้าใสสงสัย



    “ การิมมีอะไรหรือเปล่าค่ะ ทำไมคุณถึงเงียบไปละค่ะ “ ฟ้าใสถาม



    “ คือว่า ฟ้าใสผมอยากจะขออะไรคุณสักหน่อยได้ไหม ว่าถ้าผมทำอะไรให้คุณขุ่นเคือง หรือไม่พอใจ ผมอยากให้คุณอย่าโกรธผมได้ไหม ที่ผมทำไปไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไม่ดีหรอก แต่อาจทำให้คุณโกรธก็ได้ “ การิมกล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่นและกอดฟ้าใสแน่นขึ้นเหมือนกับกลัวว่าถ้าเขาบอกความจริงไปแล้วฟ้าใสจะไม่เข้าใจและเกลียดเขาในที่สุด



    “ การิมทำอะไรไว้ละค่ะ ถึงได้กลัวว่าฟ้าโกรธ “



    “ เดี๋ยวสักพักผมจะเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้ผมอยากเป็นแบบนี้ไปก่อนไม่อยากคิดอะไรเพราะช่วงเวลา 2 – 3 วันนี้ผมมีความสุขมาก ผมอยากเก็บวันเวลานี้ไว้ให้นานๆ คุณจะให้ผมได้ไหม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราต้องคุยกันก่อน คุณต้องถามเหตุผลผมก่อนจะตัดสินใจทำอะไรผมขอแค่นี้ “ การิมมองไปที่ฟ้าใสที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาที่สงสัยแต่มีความมั่นใจว่าเขาจะไม่ทำอะไรที่เธอเสียใจแน่นอน



    “ ก็ได้ค่ะ ฟ้าสัญญาว่าไม่ว่าการิมจะทำอะไร หรือจะทำอะไรที่ผิดพลาดฟ้าจะให้โอกาสคุณได้อธิบายและจะพยายามไม่โกรธคุณนะค่ะ แต่ถ้าฟ้าโกรธคุณ คุณก็ต้องให้เวลาฟ้าด้วย “ ฟ้าใสตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มแจ่มใส จนชายหนุ่มอดที่จะก้มลงมาหอมแก้มแรงๆ ทำให้ฟ้าใสตกใจและหยิกเขาทันที



    “ โอ๊ย!!!! ขอหอมเพื่อเป็นกำลังใจหน่อยก็ไม่ได้คนอะไร ใจดำ แต่ถึงอย่างไรก็คุ้ม “ การิมกล่าวออกมาพร้อมยิ้มแจ่มใส และหัวเราะเบาๆ ส่วนฟ้าใสของเราก็ก้มหน้างุดเลยที่เดี๋ยวไม่ยอมเงยหน้ามองชายหนุ่มอีกเลย แต่วงแขนของชายหนุ่มแน่นขึ้น



    “ ผมสัญญาว่าถึงแม้ว่าตอนนี้ผมยังไม่บอกความจริงกับคุณทั้งหมดได้ในตอนนี้แต่ในอนาคตข้างหน้าผมจะไม่วันโกหกคุณอีกไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นของให้คุณมั่นใจในตัวผมนะ “ การิมกล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่นมั่งคง



    “ ค่ะ ฟ้าจะเชื่อใจคุณเหมือนกัน “ ฟ้าใสกล่าวด้วยเสียงที่มั่งคงเช่นกัน



    การิมและฟ้าใสเดินทางด้วยความสุข แต่ทางฝ่ายอาซัสและอัสซัสกับมีแต่ความทุกข์และกังวลใจเมื่อเจ้าหญิงฟารีดามาแต่เช้าพร้อมกับญาดาที่เป็นเพื่อนสนิทของเจ้าหญิง





    “ จัดของเสร็จหรือ อัสซันจะได้ไปกันสักทีชักช้าอยู่ได้ “ เจ้าหญิงฟารีดาพูดเสียงเข้มมองมาที่อัสซันและอาซันด้วยดวงตาที่ดุดัน และปลายตามองมาที่ญาดา ซึ่งเห็นส่งสายตาแบบว่าขอโทษชายหนุ่มแทนเพื่อนของตน



    “ ญาดาไปได้แล้วมัวแต่ส่งสายตาให้ 2 คนนั้นอยู่ได้น่ารำคาญแล้วเข้าไปที่รถได้แล้ว ” เจ้าหญิงฟารีดาตะโกนว่าญาดาออกมาทำให้หญิงสาวอายนะ ได้แต่ก้มหน้าตามหญิงสาวออกมาที่รถ ซึ่งเจ้าหญิงได้ขึ้นไปนั่งรออยู่ก่อน



    “ ท่านหญิงใจเย็นๆ สิค่ะพวกพี่อาซัสและพี่อัสซันก็เสร็จแล้วเดี๋ยวก็ไปกันแล้ว ท่านหญิงคิดดีแล้วหรือค่ะว่าจะไปญาดาว่าอย่าเพิ่งไปดีกว่าไม่อย่างนั้นท่านการิมจะไม่พอใจนะค่ะที่ท่านหญิงไปวุ่นวาย “  ญาดากล่าวออกไปเสียงอ่อน ซึ่งพอมองไปที่ท่านหญิงก็เจอสีหน้าที่ดุ กร้าว จนต้องหลบสายตา



    “ ทำไมฉันจะไปเธอมีสิทธิอะไรที่จะมาห้ามฉัน ส่วนท่านพี่นะเดี๋ยวฉันจัดการเองไม่ต้องกลัว “ เจ้าหญิงฟารีดาบอกอย่างไม่ใส่ใจก็ไม่มีใครเคยขัดใจอะไรเธอได้

    ทั้งหมดออกเดินทางโดยอาซัสกับอัสซันนั่งรถคนละคันกับเจ้าหญิงฟารีดา ส่วนทางด้านแผ่นดินก็ออกเดินในเวลาเดียวกันโดยนางรถไปกับไซอาที่ได้รับทราบข่าวว่าฟ้าใสยังไม่กลับก็ร้องไห้เสียมากมายจนเขาต้องพามาด้วยไม่อย่างนั้นคุณเธอไม่ยอม แต่กลุ่มของผู้ไปตามหาเจ้าชายการิมและฟ้าใสกับมีแต่ความกังวลไปคนละแบบ



    เมื่อคณะตามหาเจ้าชายมาถึงที่พักจุดที่เปลี่ยนจากรถเป็นม้าแล้ว อาซัสและอัสซันเดินเขาไปที่คอกม้าเพื่อไปดูว่าเจ้าชายกลับมาหรือยังแต่ถ้าเจ้าชายยังไม่กลับก็จะออกเดินทางตอนบ่ายๆเพราะจะได้ไม่พลัดกับเจ้าชายถ้าเจ้าชายกับเข้ามา เจ้าหญิงฟารีดาและญาดารออยู่ที่รถ ส่วนทางแผ่นดินเขาไปที่คอกม้าเมื่อไปที่คอกม้าได้ก็แปลกใจที่เห็น อาซัสและอัสซัน เพราะเขาไม่คิดว่าจะเจอ 2 คนนี้



    “ อ้าว!!! คุณแผ่นดิน คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ “ อาซัสแกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าแผ่นดินต้องเป็นห่วงน้องสาวของเขาอยู่แล้ว



    “ สวัสดีครับคุณอาซัส ผมมาตามหาน้องสาวผมครับก็ตั๋วที่คุณให้ฟ้าใสไปเที่ยวแล้วปรากฏว่าฟ้าใสเกิดเหตุขัดข้องนิดหน่อยทำให้กลับไม่ได้เมือวาน ผมเป็นห่วงก็เลยมาดูและว่าจะไปตามหาฟ้าใสผมรอที่บ้านไม่ไหวครับเป็นห่วงเหลือเกินไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างปานนี้ “ แผ่นดินกล่าวด้วยท่าทีไม่สบายใจมาก

    จนอาซัสเริ่มกลุ้มใจมากขึ้นเพราะนอกจากเจ้าหญิงฟารีดาก็กลุ้มจะแย่นี้ยังมีพี่ชายของคุณฟ้าใสอีก หันไปสบตากับอัสซันแล้วได้แต่กลอกตา อัสซันเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากอาซันเท่าไร และอาซันก็แนะนำให้อัสซันและแผ่นดินรู้จักกัน



    “ ครับยินดีที่ได้รู้จักคุณแผ่นดินครับ “ อัสซันกล่าว



    “ ครับผมก็ยินดีที่ได้รู้จักพวกคุณครับ แล้วพวกคุณมาทำอะไรที่นี่ครับ “ แผ่นดินถามออกไปก็เห็นแววตาที่มีความวิตกอยู่บางๆ



    “ พวกผมมาคอยรับเสด็จเจ้าชายการิมครับ คือท่านเดินทางไปเที่ยวที่ทะเลทรายกับผมแต่มีเรื่องนิดหน่อยผมกลับมาก่อนและกำลังเป็นกังวลว่าเจ้าชายยังไม่กลับมาเสียทีแต่ถ้าเจ้าชายยังไม่กลับบ่ายนี้พวกผมก็จะเดินทางเข้าไปในทะเลทราย “ อัสซันกล่าว แต่เมื่อหันไปอีกทางก็พบว่าเจ้าหญิงฟารีดากับญาดาเดินมาที่ทางพวกตน



    “ มัวแต่คุยกันอยู่ตรงนี้ละ ไม่ไปดูว่าท่าพี่กลับมาหรือยัง “ เจ้าหญิงส่งเสียงดังเข้ามาทให้ทุกคนหันมามอง

    สิ่งที่แผ่นดินเห็นครั้งแรกทำให้เขารู้สึกแปลกเลยทีเดียวก็ผู้หญิง 2 คนที่เดินมาทางนี้มีความสวยชนิดที่ไม่มีใครที่จะไม่มองซ้ำได้เลย คนแรกที่พูดออกมาด้วยเสียงที่ดังนั้นเรียกได้ว่าสวยมากมีความ สง่างามท่าเดินก็ดุลนางหงษ์ ใบหน้าเรียว สวยหวาน จมูกรั้นๆ ริมฝีปากบางเฉียบแต่งหน้ากำลังพองามแต่สายตากลับมีแววดุดันทำให้รู้สึกเสียดายแทนเจ้าของที่ให้เสนห์ของเธอลดลงยิ่งได้ยินเสียงที่ตะโกนออกมาอีกยิ่งทำให้ความงามไม่มีความหมายในทันที

    ผิดกลับอีกคน คนนี้เป็นสาวหน้าหวานยิ่งดูยิ่งน่ารักกริยาดูนุ่มนวลแต่เขารู้สึกว่าแข็งๆเหมือนกับแกล้งทำอย่างไรไม่ทราบและเธอคอยแต่หลบสายตาหรือไม่ก็ก้มหน้าทำให้เสียกริยาลงไป ชายหนุ่มคิดในใจ



    “ อ้าว......ท่านหญิงพวกกระหม่อมถึงว่าท่านหญิงจะรอที่รถเสียอีก พวกหม่อมฉันไปถามพวกที่คอกม้าแล้วแต่พวกเขาบอกว่ายังไม่มีใครเห้นท่านชายแต่สักพักคิดว่าท่านชายเดินทางออกจากทะเลทรายก็คงจะมาถึงแล้วละครับผมว่าเชิญเจ้าหญิงไปทานอะไรก่อนดีกว่าที่ร้านอาหารที่ท่านชายชอบไปกินดีกว่า” อาซัสกล่าวและพาทุกคนเดินตามไป

    แต่แผ่นดินจะแยกไปอีกทางหนึ่ง อัสซันก็เลยเชิญให้แผ่นดินไปด้วยกันจะได้รอเจ้าชายและฟ้าใสด้วย แผ่นดินก็ว่าจะไม่ไปแต่พอเห็นสายตาที่ไม่ชอบของเจ้าหญิงฟารีดาก็เลยเปลี่ยนใจไปกับพวกอัสซัน



    “ อัสซันนั้นเธอจะพานายคนนั้นไปกับเราด้วยหรือ “ มองด้วยสายตาดูถูก



    “ คุณแผ่นดินเป็นเพื่อนของพวกกระหม่อมพวกเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันด้วย “ อาซันเป็นคนกล่าว



    “ เพื่อนเธอแต่ใช่เพื่อของฉันแล้วจะไปกินข้าวกับฉันได้อย่างไร “ เจ้าหญิงกล่าวอย่างไม่พอใจ



    “ อาซันผมว่าพวกคุณไปเถิด เดี๋ยวผมจะไปกินกับ ไซอาเองตอนนี้ไซอารอผมอยู่ที่รถ” แผ่นดินกล่าวเมื่อเจ้าหญิงได้ยินชื่อไซอาก็ทำตาโต



    “ นี่นาย..นายรู้จักไซอาด้วยหรือ ไซอาเป็นพี่เลี้ยงของเจ้าชายการิมนี่แล้วทำไมถึงมากับนายได้ “ เจ้าหญิงกล่าวเสียงเข้ม

    อาซัสกับอัสซันได้แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้และรีบพาแผ่นดินเดินออกมาไม่ให้แผ่นดินได้ตอบคำถาม ปล่อยให้เจ้าหญิงยืนอยู่กับญาดาด้วยสีหน้าที่หมกหมุ่นในท่าทางของทั้ง 2 คน ที่รีบพาแผ่นดินเดินไป เจ้าหญิงรีบเดินไปที่ร้านอาหารตามทั้งสามคน เพื่อจะได้ไปพบกับไซอาว่าจะเป็นคนเดียวกับไซอาพี่เลี้ยงของการิมหรือไม่



    เจ้าหญิงฟารีดารีบเดินตามแผ่นดินไปและเขาก็มองเห็นไซอาที่รออยู่



    “ ไซอา เธอมาทำอะไรที่นี้ แล้วมากับนายคนนี้ได้อย่างไร “ เสียงของเจ้าหญิงดังมาจนทำให้ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นหันมามองด้วยความสนใจ ส่วนไซอาหน้าซีดลงเลย



    “ ท่านหญิงฟารีดา !!! คือว่าหม่อนฉันมารอรับคุณฟ้าใสกับคุณแผ่นดินค่ะ ...“ ไซอาพูดเสียงเบา



    “ ก็นั้นนะซิแล้วเธอรู้จักนายแผ่นดินอะไรนี้ได้อย่างไรแล้วยายคนนั้นมันสำคัญอย่างไรเธอถึงต้องทิ้งเจ้าชายมาอยู่กับคนพวกนี้ ทีฉันบอกให้เธอมาอยู่กับฉันไม่เห็นเคยมาเลย “ เจ้าหญิงฟารีดากล่าวเสียงเครียด



    “ คือว่า.....อุ๊ย!!! นั้นเจ้าชายกับคุณฟ้าใสนี้ “ ไซอากล่าวออกมาด้วยความดีใจ ทำให้ทุกคนในที่นั้นหันกลับไม่มองและเห็นเจ้าชายขี่ม้าตัวเดียวกันกับฟ้าใส

    คนในที่นั้นมีอารมรณ์แตกต่างกันเห็นได้ชัด   อาซัสและอัสซันและไซอามองด้วยสายตาที่อ่อนลงและดีใจ ส่วนแผ่นดินและญาดามองด้วยความงุนงงว่าฟ้าใสมากับเจ้าชายได้อย่างไร

    ส่วนเจ้าหญิงฟารีดามองด้วยความตกใจและโกรธแค้น สายตาของเธอแทบจะเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวได้เลย

    เจ้าหญิงก็วิ่งไปที่คอกม้าซึ่งการิมกำลังลงจากหลังม้าและกำลังจะประคองฟ้าใสลงมาโดยที่เจ้าชายไม่ทันตั้งตัว เจ้าหญิงเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มและผลักเจ้าชายอย่าแรงและดึงฟ้าใสให้ตกลงมาและเข้าไปทุบตีฟ้าใสอย่างแรง

    ทุกคนในที่นั้นได้แต่ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก เจ้าชายที่ตั้งตัวได้แล้วก็รีบผลักเจ้าฟญิงฟารีดาออกไป และทุกคนในที่นั้นก็รีบจับตัวเจ้าหญิงฟารีดาไว้



    “ จะบ้าหรือน้องหญิง ทำอะไรอย่างนี้ “ การิมโกรธมากและสายตาที่มองเจ้าหญิงมีแต่ความแข็งกร้าว น้ำเสียงเฉียบขาด และรีบก้มดูว่าฟ้าใสเป็นอย่างไรบาง



    “ ฟ้าใสเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า “ เสียงการิมสั่นเครือ แววตาที่มองมาอย่างอ่อนโยน



    “ ฟารีดาไม่ได้บ้า แต่ท่านพี่ซิบ้าไปแล้ว และนังผู้หญิงคนนี้เป็นใครท่านพี่ถึงได้ห่วงใยมันนัก ท่านพี่บอกน้องมาเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยเราเดี๋ยวนี้เราจะตบนังผู้หญิง^_^ให้ตายเลย ปล่อยเราเดี๋ยวนี้ “ เจ้าหญิงฟารีดาตะโกนออกมาด้วยเสียงแข็งกร้าวและโมโหมาที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะอาซัสจับไว้แน่นจะดิ้นออกอย่าไรก็ไม่เป็นผล



    “ หยุดเดี๋ยวนี้เลยน้องหญิงก่อนที่พี่จะโมโหมากว่านี้ พูดอะไรให้ระวังปากไว้ไม่อยากนั้นจะเสียใจภายหลัง “ การิมกล่าวออกมา

    และจะอุ้มฟ้าใสที่นั่งอยู่แววตาตอนนี้ของฟ้าใสมีแต่ความเจ็บปวด สับสนและตกใจไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาฉุดจนตกม้าและเข้ามาทุบตี สายตาเหลือบไปเห็นพี่ชายเข้าก็เลยตะโกนเรียกพี่ชาย



    “ พี่ดิน ช่วยฟ้าด้วย เอาฟ้าออกไปจากตรงนี้ที “ เสียงของฟ้าใสแหบพร่า และตกใจกลัวอย่ามาก



    “ เจ้าชายการิมเดี๋ยวผมขอตัวเอาน้องสาวผมไปพักก่อนแล้วค่อยมาพูดกันที่หลังแล้วกัน ไซอาไปด้วยกันนะจะได้ดูด้วยว่าฟ้าเจ็บหรือเปล่า คนเริ่มมุงกันแล้วเราไปก่อนดีกว่า “ พูดจบก็เข้าไปอุ้มน้องสาวเขาออกมาจากเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วมุ่งไปที่โรงแรมข้างหน้า

    เจ้าชายการิมสั่งให้อาซัสกับอัสซันไปดูแลฟ้าใสเพื่อว่าแผ่นดินจะใช้อะไรและให้ฟ้าใสกับแผ่นดินรอเขาก่อนจะกลับเข้าในเมือง ญาดามองมาที่เจ้าหญิง เจ้าหญิงก็พยักหน้าให้ญาดาไปรอที่รถ เจ้าชายการิมกับเจ้าหญิงฟารีดาอยู่กัน 2 คน



    “ ฟารีดาเธอทำเกินไปแล้วนะ เธอมีสิทธิ์อะไรที่ทำฟ้าใสแบบนี้ “ การิมกล่าวเสียงกร้าว แววตาดุดันน่ากลัว เจ้าหญิงฟารีดานึกกลัวแต่ก็ทำท่าว่าไม่กลัวและไม่แคร์



    “ ทำไมน้องจะทำไม่ได้ ก็นังผู้หญิงคนนั้นมันจะมาแย่งท่านพี่ไปจากน้องนี้ น้องก็จะทำให้มันรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร “ ฟารีดาบอกอย่าไม่แยแส



    “ มันจะมากเกินไปแล้วนะฟารีดา ฉันเป็นอะไรกับเธอ เธอถึงจะมาบอกว่าฉันควรคบกับใครหรือไม่ควรคบกับใคร เธอก็เป็นแค่น้องไม่มีสิทธิจะมายุ่งกับฉัน “ การิมกล่าวเสียงดัง ทำให้เจ้าหญิงเริ่มกังวลใจ



    “ ก็เสด็จลุงบอกว่าจะให้ท่านพี่แต่งงานกับน้อง ทำไมน้องถึงไม่มีสิทธิ “ ฟารีดากล่าวอย่างไม่ยอมแพ้



    “ ท่านพ่อไม่เคยพูดอย่างนั้นเลยกับฉัน เธอคิดเองไปคนเดียว และขอเตือนไว้ก็นะว่าอย่าได้มายุ่งเรื่องของฉันอีกแต่ถ้าพูดแล้วไม่ฟัง ฉันจะส่งเธอกับไปอยู่กับแม่ของเธอที่อเมริกาและไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกเข้าใจไหม “ การิมพูดจบก็เดินจากไป



    ” ท่านพี่เรื่องนี้มันยังไม่จบง่ายๆหรอก นังฟ้าใสวันนี้แกชนะแต่แกไม่มีทางที่จะชนะได้ตลอดไปหรอก ระวังตัวให้ดีแล้วกัน “ เจ้าหญิงกล่าวเสียงเข้มแล้วเดินไปขึ้นรถที่ญาดารออยู่ด้วยอารมณ์ที่โกรธแค้นและชิงชัง



    ................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×