ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : มีแค่ 2 เรา
เมื่อหญิงสาวเดินกลับที่พักก็เห็นการิมเตรียมที่นอนให้ตัวเองไว้หน้าเต้นท์ ส่วนของฟ้าใสอยู่ในเต้นท์ ฟ้าใสก็ยิ้มน้อยนึกถึงความเป็นสุภาพบุรุษของชายหนุ่ม เมื่อการิมเห็นฟ้าใสเดินมาก็เดินไปนั่งที่หน้าก่อไฟแล้วก็เรียกให้ฟ้าใสมานั่งด้วยกัน
“ เชิญ เจ้าหญิงนั่งตรงนี้ก่อนแล้วกันนะครับเดี๋ยวค่อยเข้าไปนอน มานั่งคุยกันก่อน ” ชายหนุ่มขยับตัวไปที่ริมก่องไฟและชี้ให้ฟ้าใสนั่งข้างๆ
ทั้งสองนั่งกันเงียบๆแต่ในความเงียบกับรู้สึกอบอุ่นและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก  การิมมองฟ้าใสที่นั่งสบายๆ
เห็นดวงหน้าด้านข้างซึ่งแสงกระทบของไฟทำให้แก้มของหญิงสาวเป็นสีนวลกระจ่างดูงดงามมาก ริมฝีปากบางได้รูปมีรอยยิ้มน้อยๆ จมูกที่โด่งแต่เชิดขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับคนรั้นนิดๆ ดวงตาที่มีประกายสดใสกระจ่างชัดเหมือนมีดวงดาวอยู่มากมายเขาไม่เคยเห็นดวงตาที่ไหนจะสวยซึ้งเท่ากับฟ้าใสเลย  การิมมองจนเพลิน ใจอยากจะจับดูว่าเป็นภาพจริงหรือความฝันของเขากันแน่
“ มองอะไรการิม... ไม่เคยเห็นหน้าฟ้าหรือมองอยู่ได้ “ ฟ้าใสร้องถามออกมา
เขินจะแย่อยู่แล้วก็ดูซิสายตาที่เขามองมาเหมือนกับฟ้าเป็นขนมหวานที่อยากจะกินจนใจจะขาด คนอะไรก็ไม่รู้บอกแล้วยังไม่ยอมมองไปทางอื่นอีก หน้าของฟ้าใสร้อนผ่าวไปหมดแล้ว
“ ฟ้าใส.....ช่วยเล่าเรื่องของฟ้าให้ผมฟังบางซิ “ การิมถามเสียงพร่าแต่ไม่ถอนสายตาออกจากใบหน้าของหญิงสาวได้เลยทั้งๆที่รู้ว่าหญิงสาวเขิน ยิ่งเขินก็น่ารัก ยิ่งหน้าแดงก็ยิ่งสวย แล้วจะให้เขาไม่มองได้อย่างไร
“ เรื่องของฟ้าไม่มีอะไรน่าสนุกหรอกค่ะ แต่ของการิมน่าจะมีนะค่ะเพราะไม่เจอคนมากมายโดยเฉพาะสาวๆ เคยไหมค่ะจะต้องเจอลูกทัวร์แบบฟ้าที่ทำให้คุณเดือดร้อนแบบนี้ และครอบครัวของคุณไม่ว่าหรือที่จะต้องออกเดินทางตลอดเวลา ” หญิงสาวหันไปถามตาเป็นประการแบบเด็กๆ ที่อยากจะรู้เรื่องราวของเขา
“ เรื่องของผมก็ไม่มีอะไรมาก...... แต่ผมไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเหมือนคุณสักคน คนที่ผมตามหามาตลอดและรู้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของผมที่ขาดหายไป และในที่สุดผมก็พบ.... “ การิมกล่าวออกมาด้วยเสียงมั่งคงแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนเข้มแข็งและจริงใจ
แววตาที่แสดงออกมามีแต่ความนุ่มนวลอ่อนหวานและสัญญาว่าพร้อมที่จะปกป้องอันตรายทั้งหลายไม่ให้มาเข้าใกล้หญิงสาว มันทำให้หัวใจของหญิงสาวที่เคยถูกทำลายมาแล้วครั้งหนึ่ง กับมาชุ่มชื่นขึ้นอีกครั้งเหมือนต้นไม้ที่ใกล้ตาย แต่แล้วเสมือนมีน้ำทิพย์มาชโลมรดลงทำให้หัวใจที่เคยแห้งผากกับไปมีชีวิตชีวาอีกครั้งหน้าที่แดงอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งแดงขึ้นอีกจนกลัวว่ามันจะระเบิดออกมา
แต่สายตามีแววความกังวลและไม่แน่ใจตัวเอง เพราะตอนนี้ฟ้าใสยังไม่แน่ใจตัวเองขอเวลาฟ้าสักนิดนะการิม แล้วฟ้าจะบอกได้ว่าการิมจะเป็นส่วนอีกครึ่งหนึ่งของฟ้าหรือไม่ ฟ้าใสเลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อลดความเขินและสับสนที่ยังให้คำตอบเขาไม่ได้
“ การิมฟ้าว่าจะถามหลายครั้งแล้ว แต่มีเรื่องอื่นมาขัดทุกที การิมกับฟ้าเคยเจอกันมาก่อนใช่ไหมฟ้าว่าฟ้าเคยเจอการิมที่โรงแรมโรส การิมเข้าไปทำอะไรที่นั้นหรือ “
ฟ้าใสรีบหลบสายตาที่การิมมองมาไม่กล้าต่อสายตาด้วยเพราะยังไม่แน่นใจตัวเองว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นเป็นอย่างไรเพราะเวลาที่เจอกันน้อยเหลือเกิน การิมเข้าใจก็เลยไม่ลุกต่อแต่อยากให้เวลาของหญิงสาวเพิ่มขึ้นเพราะเขาก็ไม่รีบร้อนอยู่แล้วเลยยอมให้หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง
“ ครับ ผมเข้าไปเรื่องทำทัวร์นะ วันนั้นผมเห็นฟ้ามากับผู้ชายคนหนึ่งด้วยเขาเป็นใคร “ การิมแกล้งถามทั้งๆที่เขารู้เรื่องของแผ่นดินแล้ว
“ พี่ชายของฟ้าเองค่ะ พี่ดิน พี่ดินเขามาทำงานที่นี้ฟ้าเลยตามมาด้วยแต่ตอนนี้นี้ฟ้ากำลังตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำงานดีหรือจะเที่ยวต่อไปเพราะฟ้าเพิ่งเรียนจบแล้วกำลังว่างงาน ”
ทั้งสองชวนกันคุยเรื่อยเปื่อยจนดึกมากแล้วการิมก็เลยให้ฟ้าเข้านอนได้แล้วเพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกันอีกไกล
ฟ้าใสกลับเข้าไปนอนที่เต้นท์ส่วนการิมก็นอนอยู่หน้าเต้นท์เพื่อป้องกันอันตรายให้กับฟ้าใส เมื่อฟ้าใสเข้านอนเมื่อหลับตาลงก็เห็นแต่หน้าของการิมและคำพูดของขาก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นหัวใจขอเวลาฟ้าหน่อยนะการิมแล้วฟ้าจะให้คำตอบที่การิมต้องพอใจ
เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ทำให้นอนหลับได้ในที่สุด ส่วนการิมเองก็เหมือนกับฟ้าใสพอหลับตาลงก็จะเห็นหน้าของฟ้าใสที่กำลังหน้าแดงตอนที่เขาได้พูดความในใจให้ฟัง ผมจะรอคำตอบของคุณ ฟ้าใสซึ่งจะต้องเป็นคำตอบที่ผมดีใจ เมื่อคิดดังนั้นใบหน้าก็มีแต่รอยยิ้มน้อยๆก่อนจะหลับตามฟ้าใสไปอีกคน
ในขณะที่ทางฟ้าใสและการิมกำลังมีความสุขเหมือนว่าทั้งโลกนี้มีเพียงเขา 2 คน แต่อีกด้านหนึ่งมีแต่ความสับสนวุ่นวายและกังวลสารพัด
แผ่นดิน เขาไปที่โรงแรมโรสเพื่อไปรับน้องสาวแต่ปรากฏว่าทางด้านฝ่ายคณะทัวร์กับมาบอกว่าน้องสาวของเขาเดินทางมายังไม่ถึงเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่พรุ่งนี้ตอนเย็นฟ้าใสก็จะกลับมาได้
แผ่นดินถามรายละเอียดแล้วว่าถ้าพรุ่งนี้ฟ้าใสยังไม่มาถึงเขาจะให้ทางคณะทัวร์รีบออกตามฟ้าใสทันทีแผ่นดินกลับบ้านไปด้วยอามรณ์ที่หงุดหงิดและเป็นห่วงน้องสาวของเขามากแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เขาคิดว่าถ้าพรุ่งนี้เช้าเขาจะเดินทางไปรอฟ้าใสด้วยตัวเองที่ชานเมืองจุดที่คณะทัวร์ไปส่งฟ้าใสเพื่อเปลี่ยนจากรถเป็นม้าเข้าไปในทะเลทราย หรือไม่ก็จะจ้างคนนำทางให้พาเขาไปในทะเลทรายเลย
อีกฟากหนึ่งก็เกิดความกระวนและวิตกไม่แพ้กันก็คือ อาซัสกับอัสซัส ซึ่งปรึกษากันอยู่ที่ห้องทำงานของเจ้าชาย
“ อัสซัสเจ้ากลับมาก่อนเจ้าชายการิมได้อย่างไร แล้วดูซิตอนนี้เจ้าชายยังไม่กลับแล้วเราจะทำอย่างไรกันดี โอ๊ย!! ถ้าท่านชิดรู้ไม่เป็นเรื่องใหญ่ไปอีกหรือ” อาซัสกล่าวอย่างโมโหในขณะที่อัสซันได้แต่กระสับกระส่าย
“ แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า เจ้าชายให้ข้าจับเจ้าโจส่งกลับ นี้ถ้าเจ้าไปด้วยก็ยังมีคนอยู่กับเจ้าชายนี่เป็นเพราะเจ้าไม่ยอมไปด้วยต่างหากแล้วจะมาโทษข้าคนเดียวได้อย่างไร แต่ข้าไม่ห่วงเจ้าชายเท่าไรหรอกเพราะเจ้าชายเอาตัวรอดได้แน่ แต่ถ้าท่านชิครู้เรื่องก็เตรียมตัวตายได้ แต่ไม่ต้องถึงท่านชิคหรอกแค่เจ้าหญิงฟารีดาคนเดียวจะรับมือได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย ” อัสซัน กล่าวด้วยท่าทีที่ร้อนใจ
ใจอยากจะติดตามเลยแต่ก็ติดที่พายุทะเลทรายมาทำให้ออกเดินทางไปไม่ได้และกว่าพายุจะสงบก็เย็นมากแล้วไม่รู้จะตามรอยได้อย่างไรแต่พรุ่งนี้เช้าคงต้องออกเดินทางแต่เช้าและไปตามหาเจ้าชายอีกที แต่แล้วเหมือนกับสวรรค์จะแกล้งเขากับเพื่อนเพราะพูดถึงเจ้าหญิงฟารีดา เจ้าหญิงก็เสด็จมาถึงพอดี
“ อ้อ.....วันนี้อยู่กันพร้อมหน้าดีนี่ อ้าวแล้วนี่ท่านพี่การิมไปไหนละ “ หญิงสาวหันไปหาชายหนุ่มทั้ง 2 แต่สีหน้าของชายหนุ่มทั้งสอง ตอนแรกทำท่าตกใจแต่แล้วสักพักก็ตีหน้าตายทั้งสองคนแต่แววตามีแววกระวนกระวายทำให้เจ้าหญิงฟารีดารู้จะต้องมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับท่านพี่การิมแน่
“ ว่าอย่างไร อาซัส ท่านพี่ไปไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่บอกพวกเจ้าเดือดร้อนแน่ “ เสียงของหญิงสาวกร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้ง2 มองหน้ากันไม่รู้ว่าจะบอกว่าอย่างไรถ้าไม่บอกก็ไม่ได้ อาซัสส่งสายตาเกี่ยงให้อัสซันเป็นคนตอบเพราะอัสซันอยู่ในเหตุการณ์มากกว่าเขา อัสซันเห็นสายตาเพื่อนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อัสซันก็เลยหันไปบอกกับเจ้าหญิงฟารีดาแต่ยังคอยหลบสายตา
“ คือว่าเจ้าชายการิมไม่ได้อยู่ที่นี่เจ้าค่ะ เจ้าชายทรงเสด็จไปเที่ยวที่ทะเลทรายกับกระหม่อมแต่ทรงพัดหลงกันแล้วผมก็รีบกลับมาเพราะคิดว่าเจ้าชายมาถึงแล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าชายยังกลับมาไม่ถึง “
“ เจ้าว่าอย่างไรนะ !!!!  เจ้าปล่อยให้ท่านพี่ไว้ที่ทะเลทรายคนเดียวได้อย่างไรและเจ้ากับท่านพัดหลงกันได้อย่างไรไม่มีทางเจ้าพูดอะไรไม่มีทางเป็นไปได้ ท่านพี่นะเก่งจะตายเวลาอยู่ทะเลทราย ทะเลทรายเหมือนเป็นบ้านของท่านพี่ก็ว่าได้แล้วเจ้าบอกว่าหลงกันนี่นะ “ เสียงเจ้าหญิงฟารีดา ตะโกนออกมาด้วยความโมโหมาก แล้วแทบมากระชากร่างของอัสซัน
“ พอดีเกิดพายุทะเลทรายขึ้นแล้วทำให้เรา 2 คนพัดหลงกัน หม่อมฉันก็คิดว่าเจ้าชายการิมทรงกลับมาก่อนก็เลยรีบกลับมาแต่เมื่อเจ้าชายยังไม่กลับ หม่อมฉันว่าจะออกเดินทางอีกทีพรุ่งนี้เช้า “ อัสซันกล่าว
“ ก็ดี...... พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปด้วย “ ฟารีดากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแล้วเดินกลับไป
“ ทำอย่างไรดีละทีนี้ ถ้าเจ้าหญิงเจอกับคุณฟ้าใส เจ้าชายมีหวังฆ่าเรา 2 คนแน่ “ อัสซันกล่าว
“ นั้นนะซิ แต่อย่างไรเจ้าหญิงฟารีดาก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี ว่าเจ้าชายทรงรู้สึกอย่างไรกับคุณฟ้าใส ทีนี้เราก็ต้องดูกันละว่าเจ้าชายทรงจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ “ อาซัสกล่าว
“ เจ้าไม่ได้ไปกับข้าเจ้าไม่รู้หรอกว่า ท่านการิมนะเรียกได้ว่ารักคุณฟ้าใสมากเลย ถ้าใครลองทำอะไรคุณฟ้าใสซิข้าว่า เจ้าหญิงฟารีดาก็เจ้าหญิงเถอะ ไม่มีทางทำอะไรคุณฟ้าใสได้หรอก ไม่เชื่อเจ้าก็ลองดูซิ ดีไม่ดีเจ้าหญิงต้องรู้เสียทีว่าท่านการิมมิได้รักท่านหญิงแบบชู้สาวแต่รักแบบน้องสาว เจ้าหญิงจะได้ตัดใจได้เสียที” อัสซันกล่าว
แต่เขารู้ว่าปัญหามันไม่จบง่ายๆหรอกเพราะท่านหญิงคงไม่ยอมง่ายๆ ปัญหายังมีอีกมากที่กำลังรอท่านการิมอยู่ พรุ่งนี้ก็รู้กันแล้วว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ฟ้าใสตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของชายหนุ่มเรียก และมีมือมาเขย่าเบาๆ เริ่มรู้สึกตัวแต่มันไม่อยากลุกนี้ ก็คนมันขี้เกียจนะ ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้หรือเรียกกันอยู่ได้
“ ฟ้า....ตื่นได้แล้วคนขี้เซา เร็วผมจะให้ดูอะไร “ เสียงของการิมมันตื่นเต้น
“ เดี๋ยวของฟ้านอนอีกหน่อยไม่ได้หรือ“ เสียงยังง่วงอยู่เลยก็มันไม่อยากลุกนี่
“ ก็ได้เราก็หวังดีอุตสามาปลุกให้ไปดูลูกกวางที่กำลังมากินน้ำกับแม่แต่ถ้าไม่ดูก็ได้ ผมไปคนเดียวก็ได้ “
พูดจบก็ทำท่าจะเดินไป พอหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็รีบลุกขึ้นอย่างเร็ว แล้วคว้ามือของชายหนุ่มทันที
“ จริงหรือ !! มันเป็นไปได้หรือกวางอะไรมันจะมาอยู่ในกลางทะเลทราย ถ้าโกหกและน่าดู “ หญิงสาวรีบออกไปที่ริมน้ำและก็เห็นลูกกวาง 2 ตัวกำลังกินน้ำอยู่ ก็นึกสงสัยว่ามันมาอยู่ได้อย่างไร
“ ก็กวางพวกนี้ถูกมาปล่อยไว้เพราะท่านชิคได้ทรงให้มีการอนุรักษ์สัตว์ป่าและทรงปล่อยสัตว์ไว้ที่โอเอซิสเกือบทุกแห่งในประเทศธีบิส เพราะท่านบอกว่าจะได้มีไว้ให้คนรุ่นหลังมีโอกาสได้รู้จักพวกมันและห้ามไม่ให้ล่าสัตว์เด็ดขาด สัตว์พวกนี้เลยไม่ค่อยกลัวคนเท่าไร “ การิมอธิบายให้หญิงสาวฟัง
ซึ่งหญิงสาว ซึ่งหญิงสาวก็รับฟังและพยักหน้าน้อยๆ และหันกลับไปมองดูกวางตัวน้อยๆ ต่ออย่างมีความสุข
ส่วนการิมก็หันมาเตรียมตัวกลับ ทั้งๆทีใจเขาก็ไม่อยากกลับแต่กลัวว่าพวกท่านพ่อจะเป็นห่วงที่หายไปและจะส่งคนตามหาให้ทั่วเขายังไม่อยากให้หญิงสาวรู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร เขาไม่กล้าคิดเลยถ้าหญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นใครหญิงสาวจะมีทำอย่างไรไม่รู้จะโกรธหรือเปล่า
โอ๊ย! ยังไม่อยากคิด เมื่อหญิงสาวเดินกลับขึ้นมาก็มาช่วยเขาเก็บของและของตัวไปทำธุระส่วนตัว เมื่อหญิงสาวกับขึ้นมามีหน้าสดใสและผมเปียกไปหมดเขาสงสัยว่าคงไปอาบน้ำและสระผมแน่เลย ก็เลยขอตัวบ้าง
เมื่อทั้งสองได้ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็กินอาหารเช้ากันและเตรียมตัวกลับ ทั้งสองเก็บของเรียบร้อยแล้วการิมก็พาฟ้าใสขึ้นม้าเขาก็ขึ้นม้าตามนั่งกันเหมือนเมื่อวานให้ฟ้าใสนั่งหน้าส่วนเขาหลังข้างหลัง แล้วพาเจ้าลัคกี้ออกเดินไปอย่างช้าๆ
ฟ้าใสหันไปมองทางโอเอซิสอย่างเสียดายที่ต้องรีบกลับ การิมเห็นดังนั้นก็รัดวงแขนแน่นขึ้นเพื่อให้ฟ้าใสรับรู้ว่ายังมีเขาอยู่
“ การิมฟ้าคงต้องคิดถึงที่นี่แน่เลย ใจจริงก็ยังไม่อยากกลับหรอกแต่กลัวว่าพี่ดินจะเป็นห่วง และการิมคงต้องไปทำงานต่อ แต่ถ้ามีโอกาสการิมพาฟ้ามาเที่ยวอีกนะ “ ฟ้าใสกล่าวออกมาด้วยความจริงใจ
“ ไม่ต้องห่วงหรอกฟ้าอีกไม่นานผมจะพาคุณมาอีกอย่างแน่นอนผมสัญญา” การิมกล่าวออกมาอย่างจริงจัง แววตาที่ทอดมาเปรียบเป็นคำสัญญา แล้วทั้งสองก็ออกเดินทาง
                        .....................................................................................................
“ เชิญ เจ้าหญิงนั่งตรงนี้ก่อนแล้วกันนะครับเดี๋ยวค่อยเข้าไปนอน มานั่งคุยกันก่อน ” ชายหนุ่มขยับตัวไปที่ริมก่องไฟและชี้ให้ฟ้าใสนั่งข้างๆ
ทั้งสองนั่งกันเงียบๆแต่ในความเงียบกับรู้สึกอบอุ่นและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก  การิมมองฟ้าใสที่นั่งสบายๆ
เห็นดวงหน้าด้านข้างซึ่งแสงกระทบของไฟทำให้แก้มของหญิงสาวเป็นสีนวลกระจ่างดูงดงามมาก ริมฝีปากบางได้รูปมีรอยยิ้มน้อยๆ จมูกที่โด่งแต่เชิดขึ้นเล็กน้อยเหมือนกับคนรั้นนิดๆ ดวงตาที่มีประกายสดใสกระจ่างชัดเหมือนมีดวงดาวอยู่มากมายเขาไม่เคยเห็นดวงตาที่ไหนจะสวยซึ้งเท่ากับฟ้าใสเลย  การิมมองจนเพลิน ใจอยากจะจับดูว่าเป็นภาพจริงหรือความฝันของเขากันแน่
“ มองอะไรการิม... ไม่เคยเห็นหน้าฟ้าหรือมองอยู่ได้ “ ฟ้าใสร้องถามออกมา
เขินจะแย่อยู่แล้วก็ดูซิสายตาที่เขามองมาเหมือนกับฟ้าเป็นขนมหวานที่อยากจะกินจนใจจะขาด คนอะไรก็ไม่รู้บอกแล้วยังไม่ยอมมองไปทางอื่นอีก หน้าของฟ้าใสร้อนผ่าวไปหมดแล้ว
“ ฟ้าใส.....ช่วยเล่าเรื่องของฟ้าให้ผมฟังบางซิ “ การิมถามเสียงพร่าแต่ไม่ถอนสายตาออกจากใบหน้าของหญิงสาวได้เลยทั้งๆที่รู้ว่าหญิงสาวเขิน ยิ่งเขินก็น่ารัก ยิ่งหน้าแดงก็ยิ่งสวย แล้วจะให้เขาไม่มองได้อย่างไร
“ เรื่องของฟ้าไม่มีอะไรน่าสนุกหรอกค่ะ แต่ของการิมน่าจะมีนะค่ะเพราะไม่เจอคนมากมายโดยเฉพาะสาวๆ เคยไหมค่ะจะต้องเจอลูกทัวร์แบบฟ้าที่ทำให้คุณเดือดร้อนแบบนี้ และครอบครัวของคุณไม่ว่าหรือที่จะต้องออกเดินทางตลอดเวลา ” หญิงสาวหันไปถามตาเป็นประการแบบเด็กๆ ที่อยากจะรู้เรื่องราวของเขา
“ เรื่องของผมก็ไม่มีอะไรมาก...... แต่ผมไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเหมือนคุณสักคน คนที่ผมตามหามาตลอดและรู้ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของผมที่ขาดหายไป และในที่สุดผมก็พบ.... “ การิมกล่าวออกมาด้วยเสียงมั่งคงแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนเข้มแข็งและจริงใจ
แววตาที่แสดงออกมามีแต่ความนุ่มนวลอ่อนหวานและสัญญาว่าพร้อมที่จะปกป้องอันตรายทั้งหลายไม่ให้มาเข้าใกล้หญิงสาว มันทำให้หัวใจของหญิงสาวที่เคยถูกทำลายมาแล้วครั้งหนึ่ง กับมาชุ่มชื่นขึ้นอีกครั้งเหมือนต้นไม้ที่ใกล้ตาย แต่แล้วเสมือนมีน้ำทิพย์มาชโลมรดลงทำให้หัวใจที่เคยแห้งผากกับไปมีชีวิตชีวาอีกครั้งหน้าที่แดงอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งแดงขึ้นอีกจนกลัวว่ามันจะระเบิดออกมา
แต่สายตามีแววความกังวลและไม่แน่ใจตัวเอง เพราะตอนนี้ฟ้าใสยังไม่แน่ใจตัวเองขอเวลาฟ้าสักนิดนะการิม แล้วฟ้าจะบอกได้ว่าการิมจะเป็นส่วนอีกครึ่งหนึ่งของฟ้าหรือไม่ ฟ้าใสเลยรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อลดความเขินและสับสนที่ยังให้คำตอบเขาไม่ได้
“ การิมฟ้าว่าจะถามหลายครั้งแล้ว แต่มีเรื่องอื่นมาขัดทุกที การิมกับฟ้าเคยเจอกันมาก่อนใช่ไหมฟ้าว่าฟ้าเคยเจอการิมที่โรงแรมโรส การิมเข้าไปทำอะไรที่นั้นหรือ “
ฟ้าใสรีบหลบสายตาที่การิมมองมาไม่กล้าต่อสายตาด้วยเพราะยังไม่แน่นใจตัวเองว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นเป็นอย่างไรเพราะเวลาที่เจอกันน้อยเหลือเกิน การิมเข้าใจก็เลยไม่ลุกต่อแต่อยากให้เวลาของหญิงสาวเพิ่มขึ้นเพราะเขาก็ไม่รีบร้อนอยู่แล้วเลยยอมให้หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง
“ ครับ ผมเข้าไปเรื่องทำทัวร์นะ วันนั้นผมเห็นฟ้ามากับผู้ชายคนหนึ่งด้วยเขาเป็นใคร “ การิมแกล้งถามทั้งๆที่เขารู้เรื่องของแผ่นดินแล้ว
“ พี่ชายของฟ้าเองค่ะ พี่ดิน พี่ดินเขามาทำงานที่นี้ฟ้าเลยตามมาด้วยแต่ตอนนี้นี้ฟ้ากำลังตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำงานดีหรือจะเที่ยวต่อไปเพราะฟ้าเพิ่งเรียนจบแล้วกำลังว่างงาน ”
ทั้งสองชวนกันคุยเรื่อยเปื่อยจนดึกมากแล้วการิมก็เลยให้ฟ้าเข้านอนได้แล้วเพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกันอีกไกล
ฟ้าใสกลับเข้าไปนอนที่เต้นท์ส่วนการิมก็นอนอยู่หน้าเต้นท์เพื่อป้องกันอันตรายให้กับฟ้าใส เมื่อฟ้าใสเข้านอนเมื่อหลับตาลงก็เห็นแต่หน้าของการิมและคำพูดของขาก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกอบอุ่นหัวใจขอเวลาฟ้าหน่อยนะการิมแล้วฟ้าจะให้คำตอบที่การิมต้องพอใจ
เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ทำให้นอนหลับได้ในที่สุด ส่วนการิมเองก็เหมือนกับฟ้าใสพอหลับตาลงก็จะเห็นหน้าของฟ้าใสที่กำลังหน้าแดงตอนที่เขาได้พูดความในใจให้ฟัง ผมจะรอคำตอบของคุณ ฟ้าใสซึ่งจะต้องเป็นคำตอบที่ผมดีใจ เมื่อคิดดังนั้นใบหน้าก็มีแต่รอยยิ้มน้อยๆก่อนจะหลับตามฟ้าใสไปอีกคน
ในขณะที่ทางฟ้าใสและการิมกำลังมีความสุขเหมือนว่าทั้งโลกนี้มีเพียงเขา 2 คน แต่อีกด้านหนึ่งมีแต่ความสับสนวุ่นวายและกังวลสารพัด
แผ่นดิน เขาไปที่โรงแรมโรสเพื่อไปรับน้องสาวแต่ปรากฏว่าทางด้านฝ่ายคณะทัวร์กับมาบอกว่าน้องสาวของเขาเดินทางมายังไม่ถึงเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่พรุ่งนี้ตอนเย็นฟ้าใสก็จะกลับมาได้
แผ่นดินถามรายละเอียดแล้วว่าถ้าพรุ่งนี้ฟ้าใสยังไม่มาถึงเขาจะให้ทางคณะทัวร์รีบออกตามฟ้าใสทันทีแผ่นดินกลับบ้านไปด้วยอามรณ์ที่หงุดหงิดและเป็นห่วงน้องสาวของเขามากแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เขาคิดว่าถ้าพรุ่งนี้เช้าเขาจะเดินทางไปรอฟ้าใสด้วยตัวเองที่ชานเมืองจุดที่คณะทัวร์ไปส่งฟ้าใสเพื่อเปลี่ยนจากรถเป็นม้าเข้าไปในทะเลทราย หรือไม่ก็จะจ้างคนนำทางให้พาเขาไปในทะเลทรายเลย
อีกฟากหนึ่งก็เกิดความกระวนและวิตกไม่แพ้กันก็คือ อาซัสกับอัสซัส ซึ่งปรึกษากันอยู่ที่ห้องทำงานของเจ้าชาย
“ อัสซัสเจ้ากลับมาก่อนเจ้าชายการิมได้อย่างไร แล้วดูซิตอนนี้เจ้าชายยังไม่กลับแล้วเราจะทำอย่างไรกันดี โอ๊ย!! ถ้าท่านชิดรู้ไม่เป็นเรื่องใหญ่ไปอีกหรือ” อาซัสกล่าวอย่างโมโหในขณะที่อัสซันได้แต่กระสับกระส่าย
“ แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า เจ้าชายให้ข้าจับเจ้าโจส่งกลับ นี้ถ้าเจ้าไปด้วยก็ยังมีคนอยู่กับเจ้าชายนี่เป็นเพราะเจ้าไม่ยอมไปด้วยต่างหากแล้วจะมาโทษข้าคนเดียวได้อย่างไร แต่ข้าไม่ห่วงเจ้าชายเท่าไรหรอกเพราะเจ้าชายเอาตัวรอดได้แน่ แต่ถ้าท่านชิครู้เรื่องก็เตรียมตัวตายได้ แต่ไม่ต้องถึงท่านชิคหรอกแค่เจ้าหญิงฟารีดาคนเดียวจะรับมือได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย ” อัสซัน กล่าวด้วยท่าทีที่ร้อนใจ
ใจอยากจะติดตามเลยแต่ก็ติดที่พายุทะเลทรายมาทำให้ออกเดินทางไปไม่ได้และกว่าพายุจะสงบก็เย็นมากแล้วไม่รู้จะตามรอยได้อย่างไรแต่พรุ่งนี้เช้าคงต้องออกเดินทางแต่เช้าและไปตามหาเจ้าชายอีกที แต่แล้วเหมือนกับสวรรค์จะแกล้งเขากับเพื่อนเพราะพูดถึงเจ้าหญิงฟารีดา เจ้าหญิงก็เสด็จมาถึงพอดี
“ อ้อ.....วันนี้อยู่กันพร้อมหน้าดีนี่ อ้าวแล้วนี่ท่านพี่การิมไปไหนละ “ หญิงสาวหันไปหาชายหนุ่มทั้ง 2 แต่สีหน้าของชายหนุ่มทั้งสอง ตอนแรกทำท่าตกใจแต่แล้วสักพักก็ตีหน้าตายทั้งสองคนแต่แววตามีแววกระวนกระวายทำให้เจ้าหญิงฟารีดารู้จะต้องมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับท่านพี่การิมแน่
“ ว่าอย่างไร อาซัส ท่านพี่ไปไหน บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่บอกพวกเจ้าเดือดร้อนแน่ “ เสียงของหญิงสาวกร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้ง2 มองหน้ากันไม่รู้ว่าจะบอกว่าอย่างไรถ้าไม่บอกก็ไม่ได้ อาซัสส่งสายตาเกี่ยงให้อัสซันเป็นคนตอบเพราะอัสซันอยู่ในเหตุการณ์มากกว่าเขา อัสซันเห็นสายตาเพื่อนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อัสซันก็เลยหันไปบอกกับเจ้าหญิงฟารีดาแต่ยังคอยหลบสายตา
“ คือว่าเจ้าชายการิมไม่ได้อยู่ที่นี่เจ้าค่ะ เจ้าชายทรงเสด็จไปเที่ยวที่ทะเลทรายกับกระหม่อมแต่ทรงพัดหลงกันแล้วผมก็รีบกลับมาเพราะคิดว่าเจ้าชายมาถึงแล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าชายยังกลับมาไม่ถึง “
“ เจ้าว่าอย่างไรนะ !!!!  เจ้าปล่อยให้ท่านพี่ไว้ที่ทะเลทรายคนเดียวได้อย่างไรและเจ้ากับท่านพัดหลงกันได้อย่างไรไม่มีทางเจ้าพูดอะไรไม่มีทางเป็นไปได้ ท่านพี่นะเก่งจะตายเวลาอยู่ทะเลทราย ทะเลทรายเหมือนเป็นบ้านของท่านพี่ก็ว่าได้แล้วเจ้าบอกว่าหลงกันนี่นะ “ เสียงเจ้าหญิงฟารีดา ตะโกนออกมาด้วยความโมโหมาก แล้วแทบมากระชากร่างของอัสซัน
“ พอดีเกิดพายุทะเลทรายขึ้นแล้วทำให้เรา 2 คนพัดหลงกัน หม่อมฉันก็คิดว่าเจ้าชายการิมทรงกลับมาก่อนก็เลยรีบกลับมาแต่เมื่อเจ้าชายยังไม่กลับ หม่อมฉันว่าจะออกเดินทางอีกทีพรุ่งนี้เช้า “ อัสซันกล่าว
“ ก็ดี...... พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปด้วย “ ฟารีดากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแล้วเดินกลับไป
“ ทำอย่างไรดีละทีนี้ ถ้าเจ้าหญิงเจอกับคุณฟ้าใส เจ้าชายมีหวังฆ่าเรา 2 คนแน่ “ อัสซันกล่าว
“ นั้นนะซิ แต่อย่างไรเจ้าหญิงฟารีดาก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี ว่าเจ้าชายทรงรู้สึกอย่างไรกับคุณฟ้าใส ทีนี้เราก็ต้องดูกันละว่าเจ้าชายทรงจะทำอย่างไรกับปัญหานี้ “ อาซัสกล่าว
“ เจ้าไม่ได้ไปกับข้าเจ้าไม่รู้หรอกว่า ท่านการิมนะเรียกได้ว่ารักคุณฟ้าใสมากเลย ถ้าใครลองทำอะไรคุณฟ้าใสซิข้าว่า เจ้าหญิงฟารีดาก็เจ้าหญิงเถอะ ไม่มีทางทำอะไรคุณฟ้าใสได้หรอก ไม่เชื่อเจ้าก็ลองดูซิ ดีไม่ดีเจ้าหญิงต้องรู้เสียทีว่าท่านการิมมิได้รักท่านหญิงแบบชู้สาวแต่รักแบบน้องสาว เจ้าหญิงจะได้ตัดใจได้เสียที” อัสซันกล่าว
แต่เขารู้ว่าปัญหามันไม่จบง่ายๆหรอกเพราะท่านหญิงคงไม่ยอมง่ายๆ ปัญหายังมีอีกมากที่กำลังรอท่านการิมอยู่ พรุ่งนี้ก็รู้กันแล้วว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ฟ้าใสตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของชายหนุ่มเรียก และมีมือมาเขย่าเบาๆ เริ่มรู้สึกตัวแต่มันไม่อยากลุกนี้ ก็คนมันขี้เกียจนะ ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้หรือเรียกกันอยู่ได้
“ ฟ้า....ตื่นได้แล้วคนขี้เซา เร็วผมจะให้ดูอะไร “ เสียงของการิมมันตื่นเต้น
“ เดี๋ยวของฟ้านอนอีกหน่อยไม่ได้หรือ“ เสียงยังง่วงอยู่เลยก็มันไม่อยากลุกนี่
“ ก็ได้เราก็หวังดีอุตสามาปลุกให้ไปดูลูกกวางที่กำลังมากินน้ำกับแม่แต่ถ้าไม่ดูก็ได้ ผมไปคนเดียวก็ได้ “
พูดจบก็ทำท่าจะเดินไป พอหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็รีบลุกขึ้นอย่างเร็ว แล้วคว้ามือของชายหนุ่มทันที
“ จริงหรือ !! มันเป็นไปได้หรือกวางอะไรมันจะมาอยู่ในกลางทะเลทราย ถ้าโกหกและน่าดู “ หญิงสาวรีบออกไปที่ริมน้ำและก็เห็นลูกกวาง 2 ตัวกำลังกินน้ำอยู่ ก็นึกสงสัยว่ามันมาอยู่ได้อย่างไร
“ ก็กวางพวกนี้ถูกมาปล่อยไว้เพราะท่านชิคได้ทรงให้มีการอนุรักษ์สัตว์ป่าและทรงปล่อยสัตว์ไว้ที่โอเอซิสเกือบทุกแห่งในประเทศธีบิส เพราะท่านบอกว่าจะได้มีไว้ให้คนรุ่นหลังมีโอกาสได้รู้จักพวกมันและห้ามไม่ให้ล่าสัตว์เด็ดขาด สัตว์พวกนี้เลยไม่ค่อยกลัวคนเท่าไร “ การิมอธิบายให้หญิงสาวฟัง
ซึ่งหญิงสาว ซึ่งหญิงสาวก็รับฟังและพยักหน้าน้อยๆ และหันกลับไปมองดูกวางตัวน้อยๆ ต่ออย่างมีความสุข
ส่วนการิมก็หันมาเตรียมตัวกลับ ทั้งๆทีใจเขาก็ไม่อยากกลับแต่กลัวว่าพวกท่านพ่อจะเป็นห่วงที่หายไปและจะส่งคนตามหาให้ทั่วเขายังไม่อยากให้หญิงสาวรู้ความจริงว่าเขาเป็นใคร เขาไม่กล้าคิดเลยถ้าหญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นใครหญิงสาวจะมีทำอย่างไรไม่รู้จะโกรธหรือเปล่า
โอ๊ย! ยังไม่อยากคิด เมื่อหญิงสาวเดินกลับขึ้นมาก็มาช่วยเขาเก็บของและของตัวไปทำธุระส่วนตัว เมื่อหญิงสาวกับขึ้นมามีหน้าสดใสและผมเปียกไปหมดเขาสงสัยว่าคงไปอาบน้ำและสระผมแน่เลย ก็เลยขอตัวบ้าง
เมื่อทั้งสองได้ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็กินอาหารเช้ากันและเตรียมตัวกลับ ทั้งสองเก็บของเรียบร้อยแล้วการิมก็พาฟ้าใสขึ้นม้าเขาก็ขึ้นม้าตามนั่งกันเหมือนเมื่อวานให้ฟ้าใสนั่งหน้าส่วนเขาหลังข้างหลัง แล้วพาเจ้าลัคกี้ออกเดินไปอย่างช้าๆ
ฟ้าใสหันไปมองทางโอเอซิสอย่างเสียดายที่ต้องรีบกลับ การิมเห็นดังนั้นก็รัดวงแขนแน่นขึ้นเพื่อให้ฟ้าใสรับรู้ว่ายังมีเขาอยู่
“ การิมฟ้าคงต้องคิดถึงที่นี่แน่เลย ใจจริงก็ยังไม่อยากกลับหรอกแต่กลัวว่าพี่ดินจะเป็นห่วง และการิมคงต้องไปทำงานต่อ แต่ถ้ามีโอกาสการิมพาฟ้ามาเที่ยวอีกนะ “ ฟ้าใสกล่าวออกมาด้วยความจริงใจ
“ ไม่ต้องห่วงหรอกฟ้าอีกไม่นานผมจะพาคุณมาอีกอย่างแน่นอนผมสัญญา” การิมกล่าวออกมาอย่างจริงจัง แววตาที่ทอดมาเปรียบเป็นคำสัญญา แล้วทั้งสองก็ออกเดินทาง
                        .....................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น