ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวเชลย

    ลำดับตอนที่ #2 : เริ่มต้นชีวิตใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 48


    “ โอ๊ย..เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ท่านการิมจะไม่กินข้าวหรือพักบ้างหรือไร เป็นหุ่นยนต์กินกาแฟแทนข้าวใช่ไหม “ อัสซันตะโกนออกมาให้เพื่อนคู่หูหรืออีกนามหนึ่งคืออาซัสทั้งคู่เป็นทั้งเพื่อน พี่น้อง และเพื่อนร่วมงานที่เข้าขากันมากที่สุดเพราะเล่นมากันตั้งแต่เด็กและร่วมชะตาเสี่ยงตายกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนเลิกนับแล้วเพื่อป้องกันบุคคลที่เป็นที่รักยิ่งเหมือนกันก็คือเจ้าชายการิม อัลหะมาร์แห่งประเทศธีบิส



    “ จะบ่นไปทำไม ทำไมไม่เข้าไปเตือนท่านชายว่าถึงเวลาอาหารแล้ว อ้อ..เกินมากแล้ว 3 ชม. ตั้งแต่เช้าได้กินอะไรหรือยัง เราพึ่งกลับจากประชุมแทนพระองค์ที่ไปตรวจสอบเรื่องการชลประทานและมีผลสรุปให้กับพระองค์ด้วย” อาซัสบอกเพื่อนด้วยอารมณ์ที่ดีแม้ว่าจะไม่ชอบเรื่องที่ได้ยิน เพราะท่านการิมไม่ยอมออกมาจากที่ทำงานเสียที



    “ ก็บอกท่านแล้วและท่านก็ให้เราไปกินก่อนส่วนท่านบอกว่าขอดูงานอีกนิดแล้วจะออกไปหาอะไรกิน และจะไปตรวจงานต่อที่โรงแรมโรสและจะไปดูว่าจะส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวได้อย่างไร “ พูดไปแล้วได้แต่ส่ายหน้าเพราะรู้ว่ากว่าจะตรวจงานเสร็จคงใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชม.



    “ ถ้าอย่างนั้นเรายังไม่เอาข้อสรุปเรื่องชลประทานไปให้ท่านชายดีกว่าไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้กินข้าวแน่”



    “ เราก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน อยากให้ท่านชายมีเวลาทำอย่างอื่นบ้างไม่ใช่เรื่องงานอย่างเดียว “



    “ นั้นนะซิ ทำไมเจ้าชายของเราก็ออกจะหล่อเหลา ทั้งคมเข้ม ทำไมท่านชายของเราไม่มีใครสนใจเสียทีท่านจะได้ใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปเสียที ไม่ใช่งาน...งาน...งาน”



    “ พูดดีๆ..หน่อยท่านชายเป็นหมายปองของสาวๆ ทั่วประเทศยังน้อยไปต้องบอกว่าทั่วโลก แล้วยังบอกว่าไม่ว่าไม่มีใครสน ถ้าเป็นนายค่อยบอกได้ว่าไม่มีใครสนใจ “ พูดมาแล้วก็ทำให้หัวเราะออกมาได้



    “ ก็พูดผิดนิดเดียว ข้าหมายถึงว่าเจ้าชายไม่สนใจใครต่างหาก ส่วนเจ้าก็เหมือนกันทำเป็นพูดดีก็ไม่มีใครสนเหมือนกัน ถ้าพูดจริงเรา 2 คนจะเอาเวลาที่ไหนมีแต่งานๆ ทั้งนั้น “ พูดเสร็จคนพูดได้แต่ปลงคงมีสักวันที่จะมีใครมาทำให้เจ้าชายของเขารู้สึกรักมากกว่างาน



    “ อัสซัน...อัสซัน ...เจ้าไปกินข้าวหรือยังถ้ายังเข้ามาหาเราหน่อย ” เสียงตะโกนที่มีอำนาจ นุ่ม ลึก แต่เด็ดขาด ไม่มีใครกล้าขัดเลยสักครั้ง ดวงเนตรที่คม กล้า ไม่มีใครกล้าที่จ้องมองตรงๆ เพราะแววตาจะส่งถึงพลังอำนาจที่น่ากลัวทำให้คนที่มองรู้สึกว่าไม่สามารถจะปกปิดความคิดได้เลยเหมือนจะอ่านออกมาได้อย่างถูกต้อง และริมฝีปากได้รูปสวยก็มีรอยเย้ยหยันอยู่เสมอ



    “ พระเจ้าขา อาซัส ข้าด้วยกันเลยจะได้พาพระองค์ออกไปกินข้าวเลย “ พูดจบชายหนุ่มก็พาเพื่อนเข้าไป



    ภายในห้องทำงานของท่านการิมดูเป็นสง่า มีเอกสารมากมายกองอยู่บนโต๊ะ และชายหนุ่มร่างสูงใหญ่น่าเกรงขามหลังอยู่หลังเอกสารมากมายไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลย



    “ มาแล้วหรือ อาซัสการประชุมเป็นอย่างไรบ้างและหัวหน้าชุดที่จะมาประจำเพื่อดูแลเรื่องชลประทานที่มาจากประเทศไทยมาหรือยัง ชื่ออะไรนะ ข้าจำไม่ได้ ” ชายหนุ่มถามสหายหรือองค์รักษาประจำตัว



    “ ชื่อ นายแผ่นดิน รักษาภรณ์ ครับ แต่ตามรายงานน่าจะมาถึงวันนี้ครับ แต่กำหนดการรายงานตัวอีก 2 วัน คงจะเข้าพักที่โรงแรมก่อนค่อยไปพักที่บ้านพักที่จัดไว้ให้ก่อนเพื่อความสะดวกครับ “ อาซัสไม่สงสัยเลยว่าพระองค์ทราบได้อย่างไรว่าเขาเข้ามากับอัสซันทั้งๆที่เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย เพราะรู้ว่าพระองค์มีประสาทสัมผัสที่เร็วกว่าคนธรรมดา



    “ ก็ดีดูแลความเรียบร้อยให้เขาด้วยเพราะเขาจะได้ทำงานได้สะดวก เก่งมากไม่ใช่หรือ ที่สำคัญเขาสามารถพูดภาษาของเราได้ด้วยไม่ใช่หรือจะได้ไม่ปัญหาอะไร “ เจ้าชายการิมกล่าว



    “ เจ้าชายการิมครับผมว่าวันนี้เราพอแค่นี้ก่อนดีกว่านะครับเราจะได้ไปทานอาหารกันดีกว่า ผมหิวจะแย่แล้วถ้ารอจนกว่าเจ้าชายจะเสร็จงานมีหวังอีก 10 ชาติก็ไม่เสร็จ “ อัสซันกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

    “ ก็ได้ไปกินกันที่โรงแรมโรสเลยแล้วกันจะได้ไปดูเรื่องการส่งเสริมท่องเที่ยวไปถึงไหนแล้ว “ พูดจบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก็ก้าวออกมา โดยมี 2 องค์รักษ์เดินตามเป็นปกติเวลาไปไหน



    ณ. โรงแรมโรสซึ่งเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของนครธีบิส และมีคนใช้บริการมากที่สุดและเป็นโรงแรมของเจ้าชายการิม เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวมีสระว่ายน้ำมีห้องสำหรับให้แขกพักถึง 80 ห้อง มีห้องจัดสัมนาขนาดใหญ่และมีร้านค้ามากมายแถมยังปลอดภาษีอีกด้วยไว้คอบริการนักท่องเที่ยวที่นับวันมีจำนวนเพิ่มขึ้น



    เมื่อชายหนุ่ม 3 คนที่มีร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศรู้จักก็จะรีบมาตอบรับหรือแสดงความนับถือย่อกายลงเป็นทิวแถว เมื่อหญิงสาวเห็นดังนั้นจึงสะกิดพี่ชายให้หันไปดูแต่ไม่ทันเพราะชายทั้ง 3 คนเดินเร็วมาก



    “ พี่ดิน ดูสิพวกนั้นเขาทำอะไรกันนะ “ ภาพที่เห็นทำให้ฟ้าใสสงสัยและอยากรู้เป็นที่สุด ฟ้าใสกับพี่ชายมาถึงที่ธบิสตั้งแต่เมื่อวานแล้วและกำลังจะให้พี่ชายพาไปเดินเล่นที่ในเมืองตอนเย็นเห็นไกด์ที่นี้บอกว่าตลาดของพวกเขามีสินค้ามากมายที่น่าสนใจและมีชุดประจำชาติของที่นี้ขายด้วยในราคาถูก ซึ่งทำให้ฟ้าใสสนใจอยากได้ไว้ใส่เล่นสักชุด



    “ โวยวายอะไรยัยฟ้า พูดเบาก็ได้เห็นไหมพี่กำลังเก็บของอยู่ “ เมื่อมองตามที่น้องสาวชี้ให้ดูก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะไม่รู้เมื่อกันว่ามีอะไรเกิดขึ้น



    “ ไม่รู้ ... ไปยุ่งกับพวกเขาทำไมสงสัยพวกที่มีอำนาจมั้ง ไปเที่ยวตลาดกันดีกว่า “ พูดจบก็คว้าร่างบางตามไป ตั้งแต่มาถึงที่ธีบิสเค้าก็ไม่เคยให้น้องสาวอยู่เฉยๆ เลยต้องพาไปนู้นไปนี้ตลอดเวลา เพื่อจะได้ไม่ทำให้น้องสาวของเขามีเวลาคิดมาก เพราะเขาทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วและโมโหเจ้านิกมาถ้าตอนนี้ยังอยู่ที่ประเทศไทยมีหวังเจ้านิกต้องตายหรือไม่ก็ต้องพิการเป็นแน่แท้ ได้ก็ยังดีที่น้องสาวเขาทำใจได้เร็วมันจึงทำให้เขาได้คิดว่าน้องสาวของเขาไม่ได้รักเจ้านิกอย่างที่เจ้าตัวเข้าใจ คิดว่าที่เสียใจคงเพราะรู้สึกถูกหักหลังมากกว่าเพราะยายหวานเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยที่เรียน ดีแล้วที่เจ้านิกแสดงนิสัยออกมาเสียก่อนไม่อย่างนั้นน้องสาวของเขาจะเสียใจมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน



    “ พี่ดินดูนี้ซิ ชุดนี้สวยหรือเปล่า คิดอะไรอยู่ได้“ ชุดที่ฟ้าใสให้เขาดูนั้นเป็นชุดแบ่งเป็น 3 ส่วน คือมีเสื้อตัวในสั้นเปิดช่วงเอวเป็นสีฟ้าและกางเกงรัดข้อเป็นสีเดียวกันแต่ผ้าคลุมเป็นสีฟ้าอ่อนกว่าเสื้อและกางเกง



    “ ชื่อฟ้าใสเลยต้องใช้สีฟ้าหรือ ก็สวยดีจะเอาจริงหรือ ใส่เป็นหรือเปล่าลองให้แม่ค้าช่วยใส่ให้เอาไหม ใส่กลับไปเลยที่โรงแรม เข้าตามสุภาษิตไทยที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามเลย “ พูดเสร็จก็หัวเราะเสียงดังทำให้น้องสาวส่งค้อนมาให้หลายอัน



    “ รู้สึกว่าตั้งแต่พี่ดินมาที่ธีบิส อารมณ์ดีเหลือเกินนะ รู้อย่างนี้ฟ้าพาพี่มาตั้งนานแล้ว พี่ดินรอฟ้าก่อนนะเดี๋ยวฟ้าจะไปคุยกับแม่ค้าก่อนและจะได้ลองด้วย “ หญิงสาวพูดเสร็จก็เดินเข้าหาเจ้าของร้าน

    เมื่อฟ้าใสเดินออกมาทำให้พี่ชายของเขามองด้วยตาที่โตกว่าเดิมเพราะหญิงสาวที่ใส่ในชุดประจำชาติของธีบิสใส่ได้สวยมาก



    จนพี่ชายอย่างเขาไม่คิดว่าเมื่อน้องสาวใส่แล้วจะดูอ่อนหวานและงามสง่าอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เขามองจนน้องสาวแก้มที่มีสีเผือนมาหลายวันตอนนี้กลับแดงขึ้น สงสัยจะอายมากเพราะเขาไม่เคยมองน้องสาวอย่างนี้มาก่อน



    “ พี่ดิน ดูซิมองฟ้าทำไมกัน เขินหมดแล้วหรือว่ามันน่าเกียจมาหรือกลับไปใส่ชุดเดิมก็ได้” หญิงสาวพูดจบก็จะเดินกลับไปที่ในร้ายใหม่ เขารีบคว้ามือน้องสาวไว้



    “ ไม่ต้องฟ้า รู้ไหมตั้งแต่เป็นพี่น้องกันมาพี่ก็พึ่งเห็นเราเป็นผู้หญิงที่สวยก็วันนี้เอง” พูดจบก็หัวเราะออกมา



    “ บ้าแล้วพี่ดิน มายอกันเองได้อย่างไรใครรู้เข้ามีหวังหาว่าพี่ดินบ้ายอ น้องตัวเอง” หญิงสาวยังยิ้มแบบแจ่มใสให้กับพี่ชายของตัวเอง



    “ฟ้าไม่ต้องไปเปลี่ยนหรอก ใส่ชุดนี้ก็ดีแล้ววันนี้พี่ขอชวนน้องสาวคนสวยของพี่ออกเดท

    แล้วกัน “ ว่าแล้วสองพี่น้องก็เดินกลับไปที่โรงแรม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×