ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "แต่เล็กจนโต..." #specialproject #noteapp67 [นทแอป]

    ลำดับตอนที่ #5 : # จนโต 2

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 56


     

     

    “พี่นทมาเรียนครบอาทิตย์แล้ว เรื่องโรงอาหาร เวลากลับบ้าน แอปคงไม่ต้องบอกแล้วใช่ไหมคะ ?

     

    แอปเปิ้ลถามคนข้างหลังที่เดินตามเธอต้อยๆมาตลอดวันด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ระหว่างเดินผ่านโรงอาหารที่คราคร่ำไปด้วยเด็กมัธยมต้นลงมาทานมื้อเที่ยง คำถามที่ให้คนตอบอย่างนท ต้องพยักหน้าเบาๆอย่างรู้สึกขัดเขินแปลกๆ

     

    สายตาของแอปเปิ้ลที่จ้องมองกันมันทำให้นทไม่เป็นตัวเอง เธอแทบไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าผู้หญิงหน้าตาน่าเอ็นดูคนนี้คือน้องแอปของเธอในวันวาน น้องแอปที่หาเรื่องรำคาญให้เธอได้ไม่เว้นวัน!

     

    ถ้าจะมีอะไรมาย้ำเตือนว่านี่คือน้องแอปของเธอจริงๆ ก็คงเป็น แววตาสดใสคู่เดิม คู่นี้ละมั้ง

    ที่ทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวเดิมๆจนต้องอมยิ้มด้วยความอบอุ่นในหัวใจ

     

    น้องแอปที่เธอต้องคอยปลุกทุกเช้า น้องแอปที่ไม่ชอบอาบน้ำจนเธอเอาเป็นเรื่องขู่ให้ตื่นนอน น้องแอปที่ขี้เซาไม่ยอมทำการบ้าน น้องแอปที่ชอบกัดชอบงับตามเนื้อตัวให้เธอจั๊กจี๊ และน้องแอปที่งอแงจะตามเธอขึ้นป.หนึ่งทั้งที่ตัวเองก็ตัวเล็กนิดเดียว

     

    ทั้งหมดของน้องแอป กำลังทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อ ว่าเด็กน้อยตัวกลมๆแก้มป่องๆคนนั้น จะโตขึ้นมาแล้วสวยขาดบาดใจเธอขนาดนี้

     

     

     

    ดูโครงหน้าที่โคตรจะสมบูรณ์แบบนั่นดิ

    ดวงตาเรียวเล็ก ที่ยิ้มทีเหมือนโลกจะละลายไปทั้งใบ

    จมูกโด่งคมปริ๊บ จะหันซ้ายหันขวาก็ดูดีจนอดหลงใหลไม่ได้

    แก้มแดงๆที่แสนจะน่าหยิก นุ่มนิ่มนวลเนียนน่าสัมผัสเข้าสักที

    แล้วก็ริมฝีปากบางเฉียบสีชมพูธรรมชาติ

     

     

    “พี่นทจะทานมื้อเที่ยงเลยไหมคะ?

     

    แค่เธอยิ้มก็ทำให้ใจฉันละลาย ก็รู้ไหมเธอ ไอเลิฟยัวสมาย

     

     

    “พี่นท พี่นทคะ พี่นท”

     

    “เอ้ยยยยย !

     

    แอปเปิ้ลแทบจะทำหน้าไม่ถูก เมื่ออยู่ดีดี พี่นทของเธอก็ทำท่าตกอกตกใจซะมากมายเกินไปขนาดนั้น เธอก็สังเกตมาสักระยะแล้วล่ะว่าพี่นทด้วยสายตาแบบไหน แล้วจะให้เธอปล่อยไว้น่ะเหรอ ไม่เอาอ่ะ !

     

    โธ่ มันอดเขินไม่ได้นี่นา

     

    ดูพี่นทสิ ทำหน้าตาตลกชะมัดเลย

     

     

    “เอ่อ เมื่อกี๊ เอ่อ น้องแอปถามพี่นทว่าอะไรนะ ?

    ได้ยินสรรพนามเฉพาะตัวที่อีกคนเรียกกัน แอปเปิ้ลก็เขินหน้าแดงขึ้นมาราวกับถูกกระตุ้นอะไรสักอย่างเข้า จากที่เคยยิ้มขำเขา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มีคนหน้าแดงสองคนยืนคุยกัน มือยุ่งๆสองข้างของพี่นทเลื่อนมาลูบหน้าลูบตาราวกับจะปลุกตัวเองให้ตื่นทั้งที่ก็ไม่ได้หลับ หน้าตาเหวอๆของพี่นท อย่างกับคนที่หัวใจไม่อยู่กับตัวมาตั้งนาน

     

     

    “คือ แอปถามว่า พี่นทจะทานมื้อเที่ยงตอนนี้เลยไหมคะ ? หรือว่าจะรอพร้อมพักเที่ยงของม.ปลาย ดี

     

    “พี่ พี่นทยังไงก็ได้ น้องแอปหิวหรือยัง ? อยากกินเลยปะ”

     

    สีหน้าพี่นทกระตือรือล้นจนแอปเปิ้ลอยากจะหัวเราะ ทั้งที่ตัวเองก็เป็นไม่แพ้เขา พี่นทรีบตอบแต่มันก็ยังดูติดๆขัดๆไม่เป็นปกติอยู่ดี ก็พอเข้าใจล่ะนะว่าพี่นทคงเขินกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้นี่นา

     

    เห็นหน้าพี่นทแบบนี้แล้ว ก็พาให้คิดถึงตัวเองจนได้

    ตัวเองตอนที่รู้ว่าจะมีพี่นทกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง

     

    วันนั้น โลกทั้งใบของเธอมันกลายเป็นสีฟ้าเชียวนะ

    ฟ้าสดใส สีที่พี่นทชอบเลย

     

     

     

     

    “น้องแอป ! เจ็ดโมงแล้ว !!! ตื่นได้แล้ว ไปโรงเรียน !!!!!!!!!

     

    เสียงจากสวรรค์ดังลั่นบ้านในเช้าวันจันทร์แรกของเทอมใหม่ ปลุกกันดังๆอย่างไม่เกรงใจราวกับเธอเป็นคนไม่รู้จักเวล่ำเวลา หึ ! ทำไมคนขี้เซาตรงนี้จะไม่รู้ว่านี่มันกี่โมงแล้ว เธอเพิ่งจะปิดนาฬิกาปลุกนรกแตกไปเมื่อไม่ถึงห้านาทีนี้เองนะ

     

    “อ๋อย ~ คุณแม่ขา น้องแอปขอห้านาทีน้าา”

     

    เสียงเล็กเสียงน้อยแบบเด็กๆของน้องแอป ถูกเรียกมาใช้อีกครั้งในยามจำเป็น และเธอคาดหวังไว้เต็มเปี่ยม เสียงขอห้านาทีของเธอจะต้องสัมฤทธิ์ผลเหมือนทุกๆครั้งที่เคย

     

    ใบหน้าจิ้มลิ้มซุกเข้ากับหมอนนุ่มๆอย่างขี้เซา ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา หมอนใบนี้เป็นเพื่อนแท้ที่ดีที่สุดของเธอ

    เจอกันทีไรเธอได้หลับใหลทุกที

     

    “ไม่ได้นะน้องแอป! วันนี้คุณแม่ไม่ยอมนะ ลุกเลย !

     

    แต่แล้วคนขี้เซาก็ต้องผิดหวัง แขนขาเรียวยาวที่โผล่พ้นผ้าห่มถูกดึงแรงๆจนเธอทนแทบไม่ไหว แม้ศีรษะสวยๆจะซุกเข้าหมอนเท่าไรแต่ก็ไม่อาจหลับตานอนได้อีกต่อไป แม้กระทั่งเพื่อนแท้คนสุดท้าย ก็ถูกคุณแม่ใจร้ายดึงออกจนศีรษะกลมๆกระแทกที่นอนดังปุป

     

    สุดท้าย แอปเปิ้ลก็ต้องเป็นฝ่ายยกธงขาว ยอมแพ้จากการนอนหลับแล้วลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิด้วยท่าทางงอแงงี่เง่าที่สุด !

     

    แอปเปิ้ลกำลังง่วงนอนอย่างเต็มข้อ พยายามจะปรือตามองหน้าแม่แล้วแต่ก็มองไม่ชัดสักที

     

    งื้ออออ ! ขี้ตาเต็มตาเธอเลยอ่ะ!!!!!

     

    “คุณแม่อ๊า ! น้องแอปง่วงนอนน้า ง่วงนะเนี่ย !!!!!

     

    แม้ปากเล็กสีชมพูระเรื่อนั่นจะร้องประท้วงเสียงดัง แต่คุณแม่ที่โดนประท้วงกลับเอาแต่ยิ้มมีเลศนัย เธอว่าเธอเห็นรอยยิ้มของแม่มันดูมีอะไรแปลกๆนะเนี่ย

     

    “น้องแอปรีบอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนเถอะ คุณแม่ว่าน้า ถ้าน้องแอปรู้ว่าวันนี้มีอะไรที่โรงเรียน ขี้คร้านจะเหาะไปซะเดี๋ยวนี้แน่ๆ

     

    “มีอะไรอ่าคุณแม่ อะไรอ่า”

     

    แอปเปิ้ลส่งเสียงงุ้งงิ้งถามอย่างไม่อยากจะหายง่วง เธอเดาไม่ออกเลยว่าอะไรที่จะทำให้เธอกระตือรือล้นไปโรงเรียนได้ขนาดนั้น

     

    โรงเรียนที่เธอเบื่อหน่ายมานานแสนนาน

     

    ก็ไม่ใช่เพราะสถานที่นี้หรือ ที่พรากเอาใครบางคนไปจากชีวิตเธอเนิ่นนานถึงสี่ซ้าห้าปี

    หรือเธอต้องโทษตัวเองดี ที่นานจนป่านนี้ยังไม่ยอมลืมเขา

     

     

    แอปเปิ้ลเบะปากพาลจะร้องไห้เอาให้ได้เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ จะเช้าทีไรเธอก็ต้องคิดถึงเขาตลอด เขาที่คอยปลุกคนขี้เซาอย่างเธอด้วยความยากลำบากตั้งแต่เล็กจนเกือบจะโต เขาที่ไม่มีวันจะเอาตัวมาเจอกันอีกแล้วแม้เธอจะมีความหวังลมๆแล้งๆมากมายแค่ไหน

     

     

    และอาการแบบนี้ คุณแม่ของน้องแอป รู้และเข้าใจลูกสาวดี

    คนเป็นแม่ยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆลูกสาวจอมงอแง เอื้อมเอามือนุ่มๆนั่นมาวางไว้ให้มือตัวเองแล้วบีบเบาๆอย่างเอาอกเอาใจ

     

    ก่อนเสียงนุ่มหูจะเกริ่นเรื่องบางเรื่อง ที่เร่งจังหวะหัวใจเด็กหญิงวัยสิบห้าหยกๆสิบหกหย่อนๆให้เต้นแร็พ จนแทบกระเด็นออกมานอกอก

     

    “น้องแอปจำได้ไหมเรื่องที่คุณแม่บอกว่าพี่นทเขาจะย้ายไปอยู่กับคุณลุงเขาน่ะ ตอนนี้เขาไปอยู่กับคุณลุงแล้วน้า

     

    แอปเปิ้ลหันไปมองหน้าคุณแม่ พยักหน้าช้าๆ รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติของเรื่องนี้ และความไม่ปกตินั้นก็ยิ่งชัดเจน เมื่อสายตาคุณแม่ของเธอมีแต่เรื่องน่าดีใจมากมายเต็มไปหมด

     

    “แล้วคุณลุงเขาน่ะ ก็เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนคนเก่าของน้องแอปไง

     

    หืออออ !!!!!!!!!!

     

    ดูสิ เธอกำลังตื่นเต็มตาแล้วนะ !

     

     

    “คุณแม่คะ !!!!!! คุณแม่ คุณแม่อย่าบอกน้องแอปนะว่า

     

     

    “อ้าว ตกลงไม่ให้คุณแม่พูดเหรอ ว่าเทอมนี้น่ะ พี่นทเขาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับน้องแอปนะ”

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด คุณแม่ !!! น้องแอปดีใจที่สุดเล้ยยยยยยยยยยยยย”

     

     

     

     

    แน่นอน เธอกรี๊ดลั่นบ้าน ไม่สิ ลั่นหมู่บ้านด้วยซ้ำ

    ก็คนมันดีใจนี่นะ

     

    หลังจากวันนั้นที่เธอรู้ว่าพี่นทกำลังจะมาเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน เธอก็แอบติดตามพี่นทไปทุกที่ราวกับเด็กโรคจิต เธอเห็นพี่นทนั่งมองมือถือร้องไห้แทบทุกเที่ยง เห็นพี่นทถูกยื่นใบทัณฑ์บนทั้งสามใบ และรู้ดีว่าอันดับต่อไปพี่นทต้องเจอกับใคร

     

    ครูยุพิณ คุณครูที่ปรึกษาของเธอสี่ปีซ้อน เธอและคุณครูสนิทกันอย่างกับแม่ลูกในไส้

     

    ตามธรรมเนียมปฏิบัติของโรงเรียนเก่าแก่เช่นโรงเรียนเธอ เรื่องราวน่ารักๆที่ยึดถือกันมานานคือประเพณีพี่ดูแลน้อง ในทุกๆปีที่มีน้องใหม่ น้องคนนั้นจะต้องมีรุ่นพี่หนึ่งคนคอยดูแลติดสอยห้อยตามไปทุกที่ สอนทุกการใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างมืออาชีพ คอยเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำจนมั่นใจว่าน้องคนนั้นจะสามารถมีชีวิตในโรงเรียนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นเวลาหนึ่งเทอมไม่ขาด แต่มักเกิน

     

    ที่จริงประเพณีนี้ทำกันในหมู่นักเรียนม.หนึ่งกับม.หก แต่ก็ถูกนำมาใช้บ้างเมื่อมีนักเรียนใหม่เข้ามา และเมื่อแอปเปิ้ลเดาทางออกว่าพี่นทต้องอยู่ในความดูแลของใคร เธอก็ทั้งเสนอทั้งโน้มน้าวและอ้อนวอนให้เธอเป็นผู้ดูแลพี่นทให้ได้

    จนวันนี้เธอได้เป็น

    พี่นท ที่คอยดูแลเธอมาตั้งแต่เด็ก

     

     

     

     

    แอปเปิ้ลยิ้มหวานมองพี่นทอย่างรู้สึกดี ถอดถอนความคิดออกจากเรื่องราวที่เธอจมนิ่งไปสักพัก ก่อนคำตอบจากเสียงหวานๆจะถูกถ่ายทอดออกมาให้คนฟังยิ้มไปพร้อมๆกัน

    “ทานเลยก็ได้ค่ะแอปก็หิวๆพอดี”

     

    “โอเค. มา เดี๋ยววันนี้พี่นทเลี้ยงน้องแอปเอง

    พี่นทของเธอยิ้มแป้น ก่อนสรรพนามแสนน่ารักจะถูกพี่นทหยิบมาใช้ให้เธอได้หน้าแดงขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้ มือนุ่มๆที่เธอเคยจับจูงไว้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ คว้าหมับเข้าที่มือเธอแล้วออกแรงดึงลากกันราวกับเป็นผู้ดูแลเธอเสียเอง

     

    พฤติกรรมเหล่านี้ทำแอปเปิ้ลใจเต้นรัว เธอพยายามห้ามตัวเองแล้วไม่ให้แทนตัวเองว่าน้องแอปอย่างที่เคย บอกตรงๆ ว่ามันเขินเกินไปที่จะแทนตัวเองเหมือนตอนอนุบาลแบบนั้น

     

    แต่พอได้ฟังพี่นทเรียกกัน เธอก็อบอุ่นและรู้สึกดีจนระงับอาการไม่ได้

     

    “น้องแอปจะทานอะไรคะ

     

    พี่นทหันหน้ามาถามกันราวกับคนขี้อายคนนั้นได้เดินลับหายไปแล้ว หรือไม่แน่ คนขี้อายคนนั้นอาจมาสิงเธอแทน ให้เธอร้อนไปทั้งหน้าแบบนี้

     

    ดูพี่นทยิ้มหวานเยิ้มอย่างนั้นสิ

     

    พี่นทจะช่วยทำให้เธอหยุดคิดเรื่องอดีตสักทีได้ไหมเนี่ย

     

     

     

      

      

      “พี่นทมาป้อนข้าวน้องแอปเร็วๆ...อย่าอิดออดนะถ้าพี่นทไม่อยากไปโรงเรียนสาย

     

      

    “ทุกทีเลยอ้ะ...ต้องเดือดร้อนเขาทุกทีเลยอ้ะ”

     

    “ตัวแค่นี้ขี้บ่นจังนะเราน่ะ...มาเร็วๆเข้า เดี๋ยวป่ะป๊าไม่รอทั้งคู่ไม่รู้ด้วยนะ”

     

    คำขู่นั้นได้ผล...ร่างเล็กของเด็กตัวแสบเดินเร็วจี๋มาคว้าช้อน ก่อนจะตักโจ๊กสำหรับเด็กขึ้นมาเป่าค่อยๆแล้วป้อนให้คนขี้เซาที่ตัวเองไม่ค่อยชอบขี้หน้ากลืนเข้าปากไปอย่างง่ายดาย

     

    “อ่ะ...คราวนี้ก็ไปโรงเรียนได้แล้ว...พี่นทดูแลน้องแอปดีๆด้วย รู้มั้ย”


      

      

       

      

    ไม่รู้ที่พี่นทดูแลเธอดีแบบตอนนั้น เพราะถูกคุณน้ากำชับอย่างหนักแน่น หรือเพราะพี่นทอยากทำมันเองกันแน่

     

    แต่มันก็เป็นภาพที่คิดถึงทีไร ก็มีความสุขทุกทีเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ทานเสร็จแล้ว แอปจะพาพี่นทเดินให้ทั่วตึกเรียนนะคะ เพราะเราต้องเดินเรียน สำคัญมากที่พี่นทต้องรู้ว่าตึกไหน ชั้นไหน เป็นกลุ่มสาระอะไร

     

    ไกด์ตัวน้อยๆบอกกล่าวกันระหว่างมื้อเที่ยงที่แสนจะน่ารัก พี่นทของเธอสู้อุตส่าห์ต่อแถวยาวๆนั่นแล้วให้เธอนั่งรอเฉยๆ เดินกลับมาเหงื่อโทรมพร้อมกับข้าวสองจาน เจ้าอร่อยที่เธอได้ทานไม่บ่อยนัก เพราะเธอขี้เกียจต่อแถวรอ

     

    แต่พี่นทของเธอบอกว่า “ต่อไปนี้พี่นทจะต่อแถวยาวๆให้น้องแอปทุกวันเลย ดีป้ะ ?

     

    ดูดิ ><.

    พี่นทของเธอน่ารักกว่าใครทั้งหมดเลย

     

     

    “ได้สิๆเนี่ยๆพี่นทกินเสร็จแล้ว น้องแอปนั่งรอเดี๋ยวก่อนนะ ขอไปซื้อน้ำปั่นแปปนึง น้องแอปเอาน้ำแตงโมใช่ไหม รอนะ !

     

    พูดเองเออเองคนเดียวเสร็จสรรพ ไม่ทันได้ตอบรับหรือปฏิเสธ พี่นทก็วิ่งตื๋อไปร้านน้ำปั่นอีกฝั่งโรงอาหารเสียแล้ว แอปเปิ้ลทั้งปลื้มใจทั้งขำจนต้องอมยิ้มจนเดียวซ้ำๆ น่ารักชะมัดเลยพี่นท น่ารักจนเธออยากจะอ้อนจะกอด เหมือนที่เคยทำบ่อยๆตอนยังเป็นเด็กๆ

     

    พุงนุ่มๆ ซอกคออุ่นๆ ที่เธอเคยทั้งซุก ทั้งซบ ทั้งกัดด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

    จะยังเหมือนเดิมไหมน้อ

     

    หืมมมม แค่คิดถึงก็จั๊กจี้แล้วอ่ะ

    ><.

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เช้าตรู่ของวันพุธที่แสนสดใสนทในชุดนักเรียนเรียบร้อยเดินตัวลีบมานั่งยังโต๊ะอาหารกลางของบ้านที่ใหญ่โตแล้วยาวเหยียดจนมากเกินไปตรงข้ามกับคุณลุง ประมุขของบ้านที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และจิบกาแฟอยู่อย่างสบายๆ

     

    แต่คนที่ไม่ค่อยสบาย เหงื่อแตกพลั่กเต็มตัวก็เห็นจะเป็นเธอนี่แหล่ะ

     

    เธอกำลังจะมาขอคุณลุงทำในสิ่งที่คุณลุงคงไม่อนุญาตแต่ก็อยากลองเสี่ยงดู

     

    คุณลุงคะ

    นทรวบรวมความกล้าส่งเสียงสั่นๆออกไปดึงความสนใจของคุณลุงจากข่าวสารบ้านเมืองและไม่ทันจะวินาที หนังสือพิมพ์ก็ถูกร่นลงจากระดับสายตา ให้เธอได้เห็นดวงตาที่ถูกสวมทับด้วยแว่นตาของคุณลุงจ้องเขม็งมาที่เธออย่างน่ากลัว

     

    นทหายใจเข้าออกรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้ายถ้าลองขอก็50-50 แต่ถ้าไม่ขอ ก็ไม่ได้เลยนะไอ้นท !

     

    วันนี้วันนี้นทขอกลับบ้านเองได้ไหมคะคุณลุง!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

    พี่แกรนด์ วันนี้มารับนทที่โรงเรียนหน่อยนะ”

    เสียงสดใสดังเจื้อยแจ้วใส่คู่สายสนทนาอย่างมีความสุข ผลตอบแทนช่างคุ้มค่ากับการที่เธอยอมแลกด้วยบรรยากาศที่ดำทะมึนตลอดการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน วันนี้เธอได้กลับบ้านเองแล้ว

     

    ไม่สิ กลับบ้านกับคนสวย คนส๊วยสวยที่เธอคิดถึงใจแทบขาดต่างหาก

     

    “ไอ้เซี้ยว ไปขอคุณลุงอีท่าไหนเนี่ย ไม่อยากเชื่อเลยว่านทจะขอได้

    ปลายสายที่นทกำลังคลั่งไคล้ นั่งอมยิ้มอยู่ตรงพื้นที่เบาะข้างคนขับอย่างมีความสุข ระหว่างที่คุยโทรศัพท์ ก็มีขนมชิ้นเล็กจากคนข้างๆคอยป้อนมาไม่หยุดหย่อน แกรนด์หันไปยิ้มหวานใส่สุดที่รักข้างๆเธออย่างรักมากนักหนา และหนุ่มตี๋ที่ขับรถอยู่นั้นก็ยิ่งฉีกยิ้มน่ารักคืนกลับมาเป็นเท่าตัว บรรยากาศในรถเป็นสีชมพูฟุ้งกระจาย แกรนด์หลงรักบรรยากาศอบอุ่นแบบนี้สุดใจ ทั้งที่มือก็ยังถือสายสนทนาจากน้องสาวตัวเซี้ยวอยู่

     

    “นทขอได้แล้วกัน ตกลงเย็นนี้มารับนทนะ นทไม่อยากกลับโรงเรียนคนเดียวอ่ะ นะๆ”

    นททำสายตาท่าทางอ้อนวอนราวกับพี่แกรนด์ของเธอนั่งอยู่ตรงหน้า แม้จะจับได้ว่าปลายสายมีน้ำเสียงสดชื่นผิดปกติ แต่นทก็รู้ดีว่าคงไม่ใช่เพราะเรื่องของเธอ

     

    “ได้สิ  รออยู่ที่โรงเรียนนะ ถึงแล้วจะโทรหา”

    และคำตอบจากพี่สาวสุดที่รัก ก็ดังออกมาตรงใจ ให้นทได้ยิ้มแย้มแจ่มใสจนหน้าบานเป็นกระด้ง

     

    “เย้ พี่แกรนด์น่ารักมากกกก น่ารักที่สุด น่ารักกว่าใครทั้งหมดดดด เจอกันเย็นนี้นะค้า จุ้บๆ”

     

     
     

    ความสุขกำลังลอยฟุ้งไปในโลกทั้งใบของนท รอยยิ้มกำลังถูกระบายเต็มสีหน้าเด็กหญิงตัวกระเปี๊ยกเธอสูงร้อยหกสิบหรืออาจจะน้อยกว่านั้น และมันดูสมดุลดีเมื่อยืนข้างพี่แกรนด์

     

    เกือบๆแปดปีที่เธอมีพี่แกรนด์ในชีวิต คนเดียวที่เป็นแสงสว่างและเป็นแรงบันดาลใจ ให้เธอได้เดินไปตามทางที่งดงาม เธอมีพี่แกรนด์เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต แต่ก่อนที่จะเป็นแบบอย่าง พี่แกรนด์เคยเป็นเป้าหมายของเธอ หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ที่พาให้เธอมาเป็นเธอวันนี้

     
     

    ตอนป.หก เธออุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือ เรียนวิชาภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น เมื่อรู้ว่ารุ่นพี่ที่เธอชอบเขาเอามากๆไปเรียนโรงเรียนนานาชาติที่ค่าเทอมแพงหูฉี่ โรงเรียนนานาชาติ นั่นหมายความว่าการเรียนการสอนต้องเป็นภาษาอังกฤษ เธอที่โคตรจะโง่ภาษาอังกฤษจึงต้องขยันตั้งใจมากขึ้นอีกเป็นกอง เด็กหญิงนทวัย12ขวบสู้อุตส่าห์หาเหตุผลร้อยแปดมาขอคุณแม่ให้ยอมให้เธอเรียนที่นั่น การสอบเข้าโรงเรียนมัธยมรัฐบาลชื่อดังอย่างเด็กปอหกทั่วๆไปถูกพับเก็บไว้ เธอได้เข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติแห่งนั้น และได้พบเจอพี่แกรนด์ของเธอ สนิทสนมกันสมใจ

     

    เธอรู้ตัวว่าเธอหลงรักพี่สาวคนนี้มาแปดปีเต็ม แม้เขาจะหนีเธอไปเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแต่เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยเขาไป ในระยะเวลาเท่านั้น เธอทั้งทุ่มเทพยายามทำทุกอย่างให้โดนรักจนเหนื่อยท้อไปหมด แต่พี่แกรนด์ก็ยังดีแสนดีที่รักษาเธอไว้ด้วยคำว่าพี่น้องตลอดมา ทั้งที่เธอยังมีความหวังอยู่เท่าเดิม

     
     

    ก่อนที่บทสรุปของความสัมพันธ์จะเฉลยออกมาเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่มีโอกาสอันแสนริบหรี่ไว้เพื่อเธออีกแล้ว พี่แกรนด์พูดถูกมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็เป็นได้แค่นี้ แต่ที่ยังน่าดีใจอยู่บ้าง เธอได้รับความรักจากพี่แกรนด์มาตลอด เพียงแต่ไม่ใช่ในแง่ที่เธอต้องการ

     
     

    แต่กระนั้นพี่แกรนด์ของเธอก็ยืนยันให้เธอชื้นใจ ว่าความรักแบบที่เรามีให้กัน จะเนิ่นนานและมั่นคงกว่า

    และเธอวางใจได้ว่าชีวิตพี่แกรนด์จะมีความสุขดี ผู้ชายคนนั้นเขาดีแสนดี ดีกว่าเธอไม่รู้ต่อกี่เท่า

     
     

     

    นทรู้ดีว่าในอกเธอเจ็บแปลบๆทุกทีที่นึกถึงเรื่องนั้น แตมันก็ไม่ได้เจ็บมากมาย เหมือนกับว่าเธอทำใจกับเรื่องนี้มาแล้วเนิ่นนาน หรือไม่แน่ ก็อาจจะเพราะเธอมีเรื่องบางเรื่อง จากคนบางคน มาให้คิดถึงและเป็นสุขใจมากกว่า

     

    แอปเปิ้ล เด็กน้อยตัวป่วนของเธอ น้องแอป สาวสวยสะพรั่งที่ทำให้ความหอมหวานในอดีตของเธอผลิบาน

     

    นทเดินอมยิ้มกับตัวเองไปเรื่อยๆ ในสมองคิดวนเวียนแต่เรืองอดีตที่เธอฝันถึงมาตลอดตั้งแต่เจอหน้ากัน ในปัจจุบัน

     

    น้องแอปผู้ที่ควบคุมจังหวะหัวใจเธอได้ง่ายๆด้วยเวทมนตร์ที่ใช้ แค่เพียงมุมปาก

     

     

     “ไม่ต้องร้องไห้โยเยนะน้องแอป...น้องแอปโตแล้วนะรู้มั้ย?”

     

    “ฮือออ...เค้า..ไม่อยากโต”

    เสียงร้องไห้ของเด็กป.สี่ตัวน้อยดังก้องกังวาน และเธอก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากกอดร่างเล็กๆนั่นเอาไว้ ปลอบประโยนคนที่อ้างตัวว่าเป็นของเธอด้วยความอบอุ่นเท่าที่เด็กสิบสองขวบคนนึงจะให้ได้

     

    มีเท่าไร เธอให้น้องแอปทั้งหมดเลย

     

     

     

    นทหัวเราะกับตัวเองอย่างอดไม่ได้ เมื่อดันเดินไปเปิดเจอเรื่องราวนี้ในลิ้นชักแห่งความทรงจำเข้า น้องแอปที่น่ารัก ร้องไห้โยเยไม่ยอมให้เธอไปท่าเดียว แถมยังเอาแต่พร่ำบอกไม่อยากโต ทั้งที่เมื่อไม่ทันจะครบปีก่อนหน้านี้ ก็เป็นยัยตัวเปี๊ยกคนเดิมนี่แหล่ะ ที่เอาแต่ร้องไห้อยากโตเท่าเธอไม่เว้นแต่ละวัน

     

    อ๊ะ นั่นไง คนไม่อยากโต เดินมาโน่นแล้ว

     

    “พี่นท

    เสียงสดใสเรียกเธอ รอยยิ้มหวานฉ่ำถูกส่งให้เธอ ส่งมากระชากหัวใจเธอให้หลุดลอยไปตามลม

     

     

    นทยิ้มค้าง เหมือนโดนน็อค

    น้องแอป ไหนว่าไม่อยากโตไง

     

    แต่ทำไมนะ ทำไมถึงได้

     

    โตแล้วสวยขนาดนี้ก็ไม่รู้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “วันนี้ให้แอปไปทานข้าวด้วยไหมคะพี่นท

    เที่ยงตรง น้องสาวคนสวยของพี่นทเดินมารับกันที่หน้าห้องเรียน พร้อมกับส่งคำถามที่ทำให้นทอยากจะพยักหน้าจนคอหลุด คนตัวเล็กยิ้มจนหน้าบาน ก่อนที่มือนุ่มๆคู่เดิมจะคว้าเอามืออีกคนเอาไว้แล้วลากจูงไปด้วยความสุขที่ล้นลามในหัวใจ

     

    สองคนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เสียงหัวร่อต่อกระซิกดังเรื่อยๆอย่างที่คนสองคนไม่สนใจใคร แอปเปิ้ลกับนทกำลังตกหลุมรักนาทีนี้ที่มีเพียงเราสองคน มือสองมือจับจูงกันไว้

     

    โดยที่นทไม่รู้หรอก ว่าในขณะที่เธอกำลังถูกความรักบังตาทั้งสองดวง ใครต่อใครมากมายต่างเมียงมองและแอบสังเกตคนสองคน แถมยังเอาไปพูดกันแบบไหน

     

    เรื่องนี้แอปเปิ้ลรู้ดี แต่เธอไม่สนใจหรอก

    เธอไม่ใช่พี่นทนะ ที่โดนเพื่อนล้อ แล้วต้องมาโกรธกันเป็นฟืนเป็นไฟแบบตอนเด็กๆ แบบนั้น

     

    “น้องแอปนั่งรอเดี๋ยวนะ พี่นทไปซื้อข้าวให้ เอาแบบเมื่อวานใช่ป้าววว…?

     

    “ค่ะ

     

    พี่นทวางโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์เอาไว้ แล้วหยิบเอาธนบัตรสีแดงอมส้มติดมือก่อนจะวิ่งตื๋อไปต่อแถวที่ยาวเหยียดเหมือนทุกวัน แอปเปิ้ลยิ้มหวานมองตาม พี่นทน่ารักและเอาใจใส่เธอ จนเธอรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นน้องแอปตัวน้อยๆ น้องแอปตัวป่วนที่คอยทำให้พี่นทวุ่นวายอีกครั้ง

     

     

    ตื๊ด ตื๊ดดด ตื๊ดดดด

     

    ไอโฟนเครื่องดำสนิท ทั้งแผดเสียงร้องทั้งสั่นจนโต๊ะไหว เรียกร้องความสนใจจากคนที่กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้อย่างง่ายดาย มีใครสักคนโทรศัพท์เข้ามา แอปเปิ้ลหันหน้าไปมองมัน พร้อมกับที่ชะโงกหน้ามองหาพี่นทไปด้วย

     

    พี่นทหายไปไหนแล้วไม่รู้ คนในโรงอาหารเยอะจนเธอมองใครไม่เจอ

     

    “แอปขออนุญาต รับสายนะคะพี่นท”

    แอปเปิ้ลขออนุญาตราวกับอีกคนอยู่ตรงหน้า แล้วก็อนุญาตตัวเอง โดยการหยิบมือถือพี่นทมาไว้ในมือแล้วเตรียมจะสไลด์ยาวๆไปตามหน้าจอเพื่อรับสาย

     

    หน้าจอขนาดห้านิ้วโชว์ชื่อและใบหน้าที่ทำเอาแอปเปิ้ลต้องตีคิ้วเป็นโบว์อย่างไม่ค่อยจะถูกใจเท่าไรนัก รูปผู้หญิงสองคนที่หน้าแนบชิดจนติดกัน หนึ่งในนั้นคือพี่นท ส่วนอีกคน ก็คงไม่พ้นสายสนทนาที่กำลังร้องเรียกเข้ามา

     

    เหนือรูปภาพ มีชื่อโชว์หรา “พี่แกรนด์” ที่ต่อท้ายด้วยอีโมติคอนรูปหัวใจสีชมพูมีประกายสีเหลืองระยิบระยับ

     

    ปึก !

     

    หมดอารมณ์จะรับแล้ว แอปเปิ้ลวางไอ้โทรศัพท์ราคาแพงนั่นลงโต๊ะอย่างหงุดหงิด คนสวยนั่งเท้าคางเมินไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง ปล่อยให้มันร้องเรียกไปแบบนั้นล่ะ เธอไม่ขอยุ่งเกี่ยว

     

    แกรนด์ ผู้หญิงคนนั้น คนนั้นของพี่นท !

    ผู้หญิงที่ทำให้เธอต้องหงุดหงิดทุกทีที่ได้ยินชื่อ ผู้หญิงที่เอาแต่สวยขึ้นสวยขึ้นจนเธออยากจะกรี๊ดใส่หน้าว่าให้ไปพ้นๆจากชีวิตพี่นทของเธอสักที นี่มันกี่ปีผ่านมาแล้วตั้งแต่ประถม ! คนคนนี้ยังมีตัวตนอยู่ในชีวิตพี่นทของเธออยู่ได้ !

     

    คำถามมากมายเกิดขึ้นในใจเด็กขี้อิจฉา ที่กำลังใช้แววตาเรืองๆจ้องโทรศัพท์เครื่องน้อยๆนั่นราวกับจะระเบิดมันเป็นจุณ

     

    พี่แกรนด์นะพี่แกรนด์ ! ตัวเองน่ะ ! ตัวเองก็สวยเลิศเลอจะตาย

     

    แล้วจะมาตอแยกับของของเธอทำไม !

    หรือหากจะกรุณา ก็ช่วยไปสวยไกลๆพี่นทของเธอได้หรือไม่ !!?

     

    ฮืออ !

     

     

    “น้องแอป กับข้าวร้อนๆอุ่นๆ จากร้านที่อร่อยที่สุดในโรงเรียน มาเสิร์ฟแล้วค่า”

     

     

    นทวิ่งเหงื่อโทรมมาพร้อมกับข้าวสองจานคล้ายกับทุกวัน แต่ที่ไม่เหมือนกันคือไม่มีรอยยิ้มจากคนที่นั่งรอกันอยู่ที่โต๊ะให้นทได้ชื่นใจหายเหนื่อย แอปเปิ้ลนั่งหน้านิ่ง ในแววตาที่เคยซุกซนสดใสนั้นซ่อนอารมณ์มากมายเต็มไปหมดและแม้เธอจะส่งเสียงเรียกร้องความสนใจไปเท่าไร คนสวยตรงหน้าก็ไม่มีวี่แววจะกลับมาสนใจกันสักนิด

     

    จนคนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก นี่เธอเผลอไปทำอะไรผิดมานะ

     

    “เอ่อ น้องแอป น้องแอปค่อยๆทานไหมคะ พี่นทว่า

     

    นทส่งเสียงปรามอีกคนอย่างกล้าๆกลัว เมื่อน้องแอปตรงหน้าเริ่มยัดทานข้าวจานอร่อยนั่นจนมันร่อยหรอลงไปทุกที ความเร็วในการกินวันนี้ของน้องแอปอย่างกับติดสปีดเทอร์โบx4 ทั้งที่ปกติ คนสวยแสนเรียบร้อยของเธอคนนี้จะนั่งละเลียด อมยิ้ม ชวนเธอคุยเรื่องราวสัพเพเหระราวกับว่ากำลังนั่งปิกนิกกันอยู่ในสวนสาธารณะ

     

    แต่นี่น้องแอปรีบกินอย่างกับแข่งกินเร็ว แถมยังทำหน้าตาดุดันให้เธอใจไม่ดี

     

    นี่เธอ ทำอะไรผิดเนี่ย

     

    “เอ่อ น้องแอปคะ”

     

     

    “วันนี้แอปรีบขึ้นเรียน คงอยู่เป็นเพื่อนพี่นทจนทานเสร็จไมได้ แอปขอตัวเลยแล้วกันนะคะ

     

    แอปเปิ้ลผุดลุกขึ้นแล้วกล่าวอำลาทันทีเมื่อข้าวเม็ดสุดท้ายในจานถูกตักเข้าปาก ทิ้งนทให้นั่งเหวออยู่อย่างไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างนทกระพริบตามองแอปเปิ้ลปริบๆ จะเอ่ยรั้งก็ไม่กล้า จะให้ถามว่าเป็นอะไรเธอยังกลัวๆอยู่เลยในตอนนี้

     

    แอปเปิ้ลหยิบเอาจานข้าวขึ้นมาถือ ก่อนที่ดวงตาคมกริบจะจ้องมองเธอให้ได้สั่นสะท้านไปทั้งตัว และหัวใจ

     

    คำทิ้งท้ายที่ทำเอานทหน้าซีดเผือด เข้าใจทันที ว่าแอปเปิ้ลโกรธกันเรื่องอะไร

     

    “เมื่อกี๊มีสายสำคัญของพี่นทโทรมา แอปเผอิญเห็นว่าเป็น พี่แกรนด์เลยไม่กล้ารับสายน่ะค่ะ รีบโทรกลับสิคะ พี่เขาคงรออยู่

     

     

    โจทก์เก่าของแอปเปิ้ลนี่เอง โธ่. พี่แกรนด์ เธอถือโทรศัพท์ไว้ในมือทั้งวัน ดันไม่โทร จะโทรมาตอนนี้ทำไมนะ !

     

     

     

    แอปเปิ้ลทิ้งสายตาน้อยอกน้อยใจมองพี่นทอีกเกือบๆห้าวินาที ก่อนจะสะบัดหน้าจากไปอย่างแสนงอน ไม่รู้ล่ะ ถึงเธอจะไม่สามารถอธิบายความผิดของพี่นทได้ แต่เรื่องนี้พี่นทต้องรู้ด้วยตัวเอง พี่นทต้องรู้ว่า ต่อให้ในเวลาที่ไม่มีเธออยู่ใครคนนั้นจะเคยสำคัญแค่ไหน แต่วันนี้พี่นทมีเธอแล้วใครคนนั้นก็ต้องห้ามมีความสำคัญมากไปกว่าเธอ เธอที่เป็นของพี่นททั้งหัวใจ

     

     

    แต่แอปเปิ้ลไม่รู้หรอก ว่าผู้หญิงในสายคนนั้น ไม่เคยมีความสำคัญเกินหน้าเธอ แม้แต่ครั้งเดียว

     

     

    นทมองตามแอปเปิ้ลไปอย่างยากลำบากใจ อยากจะพูดอยากจะอธิบายแต่ก็กลัวเรื่องราวเหล่านั้นมันจะเกินจากสิ่งที่เราเป็นในตอนนี้ได้แต่ส่งสายตาขอความเห็นใจ ทั้งที่รู้ดีว่าอีกคนจะไม่มีวันเห็น

     

    แต่ก็นั่นแหล่ะ แอปเปิ้ลยังเป็นเด็กหญิงขี้งอนคนเดิม ที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาทำให้เธอป่วนไปทั้งใจในทุกนาที

     

     

     

    ตั้งแต่เล็กจนโต

     

     

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงงงง

     

    เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้นในคาบสุดท้ายของวันนี้  เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบแทบจะกระโจนออกจากห้องเรียน แล้วพาตัวเองตรงลิ่วไปที่ห้องเรียนของเด็กประถมชั้นปีที่สี่อย่างรวดเร็ว

     

    ดวงตาใสแจ๋วกระพริบมันอยู่หลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดที่เห็นคนแปลกหน้าเป็นคนที่ตัวเองอุตส่าห์วิ่งอย่างกระหืดกระหอบเพื่อมาเจอเขา

    ไล่ความสับสนมึนงงอยู่หลายนาที...แอปเปิ้ลก็พบว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดจริงๆ

     

    นั่นพี่นท...พี่นทของเธอ...พี่นทที่กำลังส่งยิ้มหวานให้ผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก

     

    “อ้าว...น้องแอป”

     

    ฉับพลันนั้นร่างคนสติหลุดก็สะดุ้งทันทีที่โดนใครอีกคนแตะที่แขน ใบหน้าหวานคุ้นตาลอยอยู่ตรงหน้าคล้ายจะโน้มเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนเท้าเล็กๆนั่นเผลอถอยไปเองอย่างไม่รู้ตัว

     

    “น้องสาวนทหรอ”

     

    “ไม่ใช่สักหน่อย”

    คำตอบนั่นดังขึ้นทันทีที่เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่อายุมากที่สุดในที่นั้น และเร็วกว่าที่ตัวป่วนตรงหน้าจะได้พูดอะไรมือนุ่มๆก็ย้ายมาปิดปากคนข้างๆเอาไว้อย่างรวดเร็ว

    “อื้อออ อี้อ๊ดอ่าา”

     

    “ค่ะพี่แกรนด์ นี่น้องสาวนทเอง ชื่อแอปเปิ้ล”

    นทรีบพูดอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้อีกคนประท้วงได้ และเป็นคนที่ถูกเรียกว่าพี่แกรนด์นั่นแหล่ะที่หันมายิ้มหวานเอ็นดูเด็กน้อยตรงหน้า

     

    “น้องสาวนทน่ารักจัง”

     

    “เอ่อะ!!!

    อุทานได้แค่นั้นเพราะไม่รู้จะหาความจริงข้อนั้นเจอได้ที่ไหนกัน...แอปเปิ้ลนี่หรือน่ารัก...ทั้งขี้เซา เอาแต่ใจ เป็นตัวป่วนตัวน้อยๆที่ทำให้เธอปวดหัวทุกวัน

     

    “โอ้ยยยยย น้องแอปปปปปป กัดพี่นททำไม”

     

    “เค้าไม่ใช่น้องสาวพี่นทซักหน่อย ไม่ใช่สักหน่อย เค้าไม่เป็นนะ”

    ประโยคสุดท้ายเหมือนเสียงนั้นจะตั้งใจประกาศไปให้ใครอีกคนเข้าใจ สายตาคมๆคู่นั้นกวาดมองไปที่คนอายุมากสุดอย่างแน่วแน่ และพี่แกรนด์คนสวยก็มองเห็นบางอย่างในสายตานั้น...ก่อนจะส่งยิ้มออกมา

     

     

    “หืมมม...ไม่เป็นน้องสาว...แล้วแอปเปิ้ลเป็นอะไรกับนทคะ”

     

    คนที่ดูกระอักกระอ่วนที่สุดในตอนนี้กำลังทำท่าเหมือนไก่โดนเชือดก็ไม่ปาน นทแทบจะอยากร้องไห้ให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อรู้ว่าคำตอบคืออะไร...แต่ครั้งนี้เธอไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้นหรอก

     

    ด้วยความเร็วกว่าสิ่งใด สองแขนก็แทบรั้งร่างน้อยนั่นเข้ามากอดเอาไว้กอดจะกึ่งอุ้มกึ่งลากร่างนั้นให้ออกไปจากที่ตรงนี้อย่างรวดเร็ว

     

    “นทกลับบ้านก่อนนะพี่แกรนด์ ป่ะป๊ามารับแล้ว บ้ายบายย”

     

    “อ๊าาา...เค้าไม่ใช่น้องสาวนะ....เค้าเป็นคุณคนขี้เซาของพี่นทต่างหากเล่า...เค้าเป็นของพี่นทต่างหาก”

     

    เสียงหวานนุ่มอดไม่ได้ที่จะตะโกนกลับไปจนคนที่ยืนฟังอยู่ไกลๆอึ้งไปหลายวินาที

     

    น้องแอปเปิ้ลคนนั้นเป็น..เอ่อ...ของนท อย่างนั้นหรอกหรือ

     

     




     

    วันนั้นเธอจำได้ดีว่าโดนใครบางคนงอนกันไปทั้งคืน เธอทุ่มทุนซื้อไอศกรีมของโปรดมาง้อแต่อีกคนก็ยังไม่สนใจ

     

    แอปเปิ้ลหาว่าเธอรักคนอื่นมากกว่า มากกว่าตัวเอง มากกว่าน้องแอปตัวน้อยที่มอบให้เธอทั้งหัวใจ

     

    น้ำหูน้ำตาของเด็กหญิงแอปเปิ้ลไหลลาม เนื้อตัวนุ่มนิ่มสะบัดสะบิ้งไม่ยอมให้เธอสัมผัสทั้งที่ในเวลาปกติ ก็มีแต่อีกคนเท่านั้นที่จะคอยเอาเนื้อตัวมาถูกกัน

     

    ภาพเหล่านั้นย้อนมา ให้นทได้ปวดหัวย้อนหลังแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้เลย

     

     

     

    ที่แอปเปิ้ลเป็นในตอนนี้ ใช่งอนเธอหรือเปล่านะ

    แล้วถ้าหากใช่ มันเป็นเพราะน้องแอปหวงเธอเหมือนตอนนั้นหรือเปล่า?

     

    และถ้าน้องแอปเจอพี่แกรนด์ของเธออีกครั้ง สาวสวยคนนี้จะกล้าประกาศกร้าวว่าเป็น คุณคนขี้เซาของเธออีกหรือไม่

     

     

     

     

    นทเขี่ยข้าวในจานไปมาอย่างไม่ค่อยอยากจะกินมันเท่าไรนัก เธอรู้สึกว่าการต่อแถวยาวเหยียดของเธอในวันนี้ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย เมื่อได้มาแล้วมันก็ไมได้อร่อยอย่างที่เคย

     

    หรืออาจเป็นเพราะวันนี้ไม่มีใครมานั่งให้จ้องตา เล่าเรื่องราว หัวเราะและแลกเปลี่ยนความรู้สึกดีดีให้กัน

     

    ถ้าเป็นเพราะเหตุผลนั้น

    ก็คงไม่มีมื้อไหนอีกแล้วที่จะอร่อย ถ้าขาดผู้หญิงคนนี้ไป

     

     

    น้องแอปของเธอ











     

    ....




    ตอนพีนทจะขึ้นมอหนึ่ง พี่นทอยู่ปอหกไงคะ กำลังจะขึ้นมอหนึ่ง...
    น้องแอปอยู่ปอสี่ กำลังจะขึ้นปอห้าไง:)


    จุ้บๆ เลิฟยูนะเบบี้
    <3
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×