ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "แต่เล็กจนโต..." #specialproject #noteapp67 [นทแอป]

    ลำดับตอนที่ #2 : # แต่เล็ก 2

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 56





    # แต่เล็ก 2




    ฤดูฝนเวียนมาอีกครั้ง นั่นหมายความว่าภาคเรียนใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ปีนี้นทน้อยถูกจับแยกออกมาจากรั้วของเด็กอนุบาลแล้ว และดูเหมือนว่าเจ้าตัวแสนจะตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนวันแรกในฐานะเด็กประถมเหลือเกิน




    มีก็แต่...ใครบางคนที่ยังทำหน้าบูดร้องโยเยไม่อยากจะไปโรงเรียนในวันที่ไม่มีพี่นทเรียนชั้นอนุบาลด้วยกัน





    เป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงขี้เซายอมตื่นเช้า เพียงเพื่อมาประท้วงเอาอะไรสักอย่าง....อะไรสักอย่างที่ทำให้เด็กประถมคนหนึ่งปวดหัวเหลือเกิน






    “น้องแอปปปป...พี่นทบอกว่าอย่าซนง๊ายยยย พี่นทจะแต่งตัวอ้ะ น้องแอปก็ไปแต่งตัวซี่”







    เสียงหวานเล็กตะโกนลั่นห้องเมื่อรู้สึกว่ามีมือของใครบางคนพยายามจะยื่นมาช่วยกันแต่งตัวเหลือเกิน ทั้งที่ตัวเองก็ยังอยู่ในสภาพผ้าเช็ดตัวพันรอบกายผืนเดียวอย่างนั้น






    “ไม่อาวววว เค้าไม่ให้พี่นทขึ้นปอหนึ่งนะ ม่ายห้าย ม่ายห้ายยย”






    เอ่อะ...ที่บอกว่าช่วยแต่งตัวคงเข้าใจผิดไป มือเล็กๆนั่นแทบจะยื่นมาช่วยปลดกระดุมเสื้อของเด็กหญิงนทเสียจนจะหมดทุกเม็ด คนหนึ่งติดใหม่ คนหนึ่งไล่ปลดตาม






    “ม่ะม๊าาา...พี่นทไม่ไหวแล้วน้าาา”






    หมดหนทางจนปัญญา ปากเล็กๆจึงร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งที่รู้ว่าม่ะม๊าไม่มีทางจะสนใจปัญหาของเด็กปอหนึ่งคนนี้เลย และกลายเป็นว่าจากที่ไล่ปลดกระดุม เจ้าตัวเล็กยังทำท่าจะปีนป่ายเกาะเอวกันไว้จนแน่น






    “อ๊าาา...น้องแอปปป...พี่นทจะโกรธแล้วนะ จะโกรธน้องแอปแล้ว”






    “เค้าไม่ยอมน้า....พี่นททิ้งเค้าไว้ที่อนุบาลคนเดียวด้ายงายอ่า”





    มือเล็กคู่เดิมเลื่อนลงมาเป็นกอดรอบเอวอีกคนไว้จนแน่น ใบหน้าซุกอยู่ที่หน้าท้องอีกคน ไม่ถึงนาทีเอ็ฟเฟ็กน้ำตาก็ถูกปล่อยออกมาจนนทยืนอึ้งตะลึงทำอะไรไม่ถูก





    “ฮึกๆ...เค้าม่ายหาย ฮึกกก ฮืออออ ปายย ฮือออ”






    จบแล้ว...ความตื่นเต้นที่จะได้เป็นเด็กประถมวันแรก โดนน้ำตามนุษย์ขี้แงกลบมันลงไปเสียจนหมด นทถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเลื่อนมือไปกอดอีกร่างเอาไว้หลวมๆอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป





    “พี่นทไม่ได้ทิ้งน้องแอปซะหน่อยอ้ะ”





    “เค้าอยากขึ้นปอหนึ่งด้วย เค้าจะเรียนปอหนึ่งอ่ะ อยากเรียนปอหนึ่ง”





    ศีรษะเล็กๆส่ายไปมาอยู่ตรงหน้าท้องของคนที่สวมเสื้อนักเรียนที่ยังไม่ได้ติดกระดุมสักเม็ดอย่างออดอ้อน สุดท้ายคนที่แพ้ก็ต้องยอมย่อตัวลงไปกับพื้นแล้วหันไปคว้าเสื้อนักเรียนของเด็กอนุบาลสองมาสวมให้อีกคนแทน





    “น้องแอปโตน้อยกว่าพี่นทนี่...ตอนนี้น้องแอปก็อยู่อนุบาลสองไปก่อนจิ...พอโตเท่ากันค่อยขึ้นปอหนึ่ง”






    สวมเสื้อเสร็จมือเล็กๆที่แสนคล่องแคล่วก็หันไปปลดผ้าเช็ดตัวออกก่อนจะหยิบกระโปรงมาสวมให้ร่างเล็กตรงหน้าอย่างรวดเร็วด้วยหวังเพียงว่ามันจะสำเร็จไปด้วยดี






    “จริงนะ”




    “จริงสิ”






    นทตอบรับก่อนจะทำการติดกระดุมสองเม็ดของเสื้อเข้ากับรังดุมตรงกระโปรง ขั้นตอนสุดท้ายคือการสวมเสื้อเอี๊ยมสำหรับอนุบาลก็เป็นอันเสร็จสิ้น





    “อ้ะ...เสร็จละ...ตานี้ให้พี่นทแต่งตัวบ้างนะ”





    “เค้าช่วยยยยย”





    “ม่ายยยยยยยย”






    เช้าแห่งความวุ่นวายจบลงด้วยสภาพไม่สู้ดีนัก...ทว่ามันยังคงดำเนินต่อไปได้เหมือนทุกครั้ง






















    ซ่า ซ่า ซ่า




    เม็ดฝนกระทบลงสู่พื้นสนามฟุตบอล เด็กนักเรียนชายพากันวิ่งกรูเข้าสู่อาคารเรียนในช่วงหลังเลิกเรียนเพื่อรอผู้ปกครองมารับ...และดูเหมือนว่าภาพทั้งหมดจะทำให้ใครบางคนเริ่มนึกอะไรได้ขึ้นมาบ้าง





    “น้องแอปปปป”






    ช้าไปเสียแล้ว...เมื่อสิ่งที่เพิ่งนึกได้เดินมาปรากฏอยู่ตรงหน้าพาให้นทยืนกระพริบตาปริบๆมองร่างน้อยตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนอย่างอึ้งระคนหงุดหงิดไม่น้อย






    “เดินออกมางี้ได้ไง...พี่นทบอกให้รอที่ห้องเรียนไง...จะไปรับอ้ะ”





    “คะ...เค้า หนาวววว”





    ร่างเด็กหญิงตัวเล็กที่พึ่งถูกดุตอบเสียงสั่น พลางกอดอกเพื่อหาไออุ่นให้ตัวเอง และเป็นคนมองที่กำลังร้อนอกร้อนใจไม่ต่างกัน มือบางยื่นไปคว้ากระเป๋าเด็กอนุบาลที่เปียกละอองน้ำเนื่องด้วยเนื้อผ้ากระเป๋าเป็นชนิดกันน้ำจึงทำให้หนังสือด้านในยังอยู่ในสภาพดี แต่สำหรับเสื้อนักเรียนธรรมดาก็ไม่เลย






    “ถอดนี่ออกก่อนจิ”






    ทันทีที่หยิบกระเป๋าไปวางที่ข้างระโต๊ะเรียนด้านในห้องเรียนได้ มือเล็กแสนว่องไวคู่เดิมก็หันมาจัดการช่วยอีกคนถอดเสื้อเอี๊ยมของเด็กอนุบาลออกผ่านทางศีรษะอย่างรวดเร็ว





    “เค้าหนาวอ่า”





    “พี่นทรู้แล้ว”






    เพราะเป็นความผิดของตัวเอง โทษฐานลืมไปรับใครอีกคนทั้งที่สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ทำให้สมองน้อยๆของเด็กประถมเริ่มคิดหาทางแก้ไขความผิดครั้งนี้อยู่นาน ก่อนจะเป็นฝ่ายยื่นมือไปจับอีกคนจูงไปที่ห้องน้ำแทน






    “พี่นทจะพาเค้าปายหนายยย”





    “ไปทำให้น้องแอปหายหนาวไง..เดินเร็วๆซี่”






    ว่าแล้วไม่ทันใจก็กลายเป็นลากอีกคนที่ขาสั้นกว่าให้เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน ก่อนจะจัดการลอกคราบตัวเองกับเด็กอีกคนจนหมดเกลี้ยง







    “อ๊าา...ถอดเสื้อเค้าทามมายอ่า”






    “อ้ะ...ใส่”






    เสื้อนักเรียนแขนยาวของเด็กปอหนึ่งถูกส่งมาให้เด็กอนุบาลสองเพื่อเป็นคำตอบในครั้งนี้...และด้วยความคิดพิเรนทร์ๆทำให้ตัวเองต้องสวมเสื้อกั๊กที่เป็นยูนิฟอร์มตัวนอกแทนเสีย ก่อนจะหันไปถอดกระโปรงและปลดเข็มขัดนักเรียนออกแล้วหันไปสวมให้อีกคนที่ถูกลอกคราบออกจนหมดแทน







    “อยู่นิ่งๆสิน้องแอป...จะได้หายหนาวไง”






    “เค้าอายนี่”






    “ไม่เห็นต้องอายเลยอ้ะ...ก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน”






    เจ้าคนที่เหลือกางเกงที่ตัวเองชอบสวมมาด้านในกระโปรงกับเสื้อกั๊กแขนกุดหนึ่งตัวบนร่างบ่นพึมพำขณะกำลังร่นเข็มขัดให้รัดกระโปรงตัวหลวมของตัวเองให้พอดีกับเอวอีกคน





    “เสร็จละ..คราวนี้น้องแอปเหมือนเด็กปอหนึ่งเลยอ้ะ...แต่โตไม่เท่าพี่นท อิอิ”






    ก็นั่นน่ะสิ...ถ้าโตกันเสื้อแขนยาวคงไม่ยาวจนเลื่อนมาคลุมแขนจนมิดแบบนี้ กระโปรงตัวนั้นคงไม่ต้องพึงเข็มขัดรัดให้เหนื่อยหน่ายจนกระโปรงยับยุ่งเหยิง






    “ป้ะ...ไปรอป่ะป๊ามารับกัน”






    ออกมาจากห้องน้ำได้ คนจอมบงการก็ไม่ลืมที่จะคว้าเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มนั่นออกมาด้วย ส่วนมืออีกข้างก็ไม่วายจะจูงอีกคนให้ตามมาไวไว


    พ้นเขตห้องน้ำออกมานทก็แทบวิ่งเมื่อเห็นร่มคันคุ้นตาของป่ะป๊าอยู่ตรงหน้า ไม่นานทั้งหมดก็ถูกจับเข้าไปนั่งในรถอย่างเรียบร้อย





    “ฮัดชิ้วววว”





    “พาน้องแอปตากฝนมาเหรอพี่นท...สารภาพมาซะดีๆเลยพี่นท ป่ะป๊าจะยกโทษให้”






    “ง่า...พี่นทไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย..ก็น้องแอปไม่ยอมรอที่ห้องอ้ะ...พี่นทจะไปรับอยู่แล้วแต่น้องแอปเดินมาหาพี่นทก่อนนี่”





    คนรับฟังคำแก้ตัวของลูกสาวหัวเราะเบาๆในลำคอ นี่ลูกสาวเขาลืมคนทั้งคนได้อย่างไร แต่ก็ต้องขบขันเมื่อเห็นวิธีคิดของลูกสาวตัวเองจนต้องมาอยู่ในสภาพกางเกงกับเสื้อกั๊กหนึ่งตัวแบบนั้น





    “ฮัดชิ้ววว”





    “นั่นไงพี่นท...พาน้องแอปขึ้นไปอาบน้ำสระผมก่อนเลย เราก็ด้วย เดี๋ยวจะเป็นไข้ไป แล้วลงมาทานข้าวด้วยนะเข้าใจรึเปล่า”





    “ค่าๆๆ”






    รับคำเสร็จ ทันที่รถจอดสนิทนทก็แทบจะลากอีกคนขึ้นห้องนอนไปด้วยกัน จัดการส่งร่างที่ทำท่าจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ยัดใส่เข้าไปในห้องน้ำพร้อมตัวเองอย่างรวดเร็ว





    “รีบๆอาบนะน้องแอป...ป่ะป๊าบอกว่าเดี๋ยวเป็นไข้ มานี่พี่นทสระผมให้”






    “หวาา....พี่นทหันไปทางอื่นซี่”





    “ก็ได้อ้ะ”







    การอาบน้ำของเด็กสองคนเสร็จลงที่สองร่างนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำพร้อมกัน ความวุ่นวายของเด็กประถมไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น







    ตกกลางคืน...ร่างเล็กแทบผงะเมื่อสัมผัสตัวอีกคนที่ร้อนจี๋จนแทบจะชักมืออกไม่ทัน สองเท้าวิ่งด้วยความเร็วสูงไปเคาะห้องป่ะป๊ากับม่ะม๊ารัวๆอย่างไม่คิดจะเกรงใจอีกต่อไป






    “ม่ะม๊าาา...ป่ะป๊าาา...พาน้องแอปไปหาหมอที...ป่ะป๊าได้ยินพี่นทม้ายยยย น้องแอปตัวร้อนจี๋เลย”







    จบประโยคนั้น...รู้ตัวอีกทีตัวเองก็มายืนอยู่ที่คลินิกเด็กเสียแล้ว เสียงร้องไห้โยเยของคนในห้องทำให้ร่างเล็กวัยหกขวบนั่งไม่ติดเก้าอี้จนคนเป็นบิดาเวียนศีรษะขึ้นมากับอาการลูกสาวคนเดียว






    “ป่ะป๊า...คุณหมอทำอะไรน้องแอปอ้ะ”






    “คุณหมอจะฉีดยา...พี่นทจะเข้าไปดูน้องมั้ยล่ะ”







    เจอบิดาย้อนเข้าให้คนฟังก็แทบจะวิ่งกลับมานั่งที่แทบไม่ทัน สงบเสงี่ยมลงทันใดเมื่อได้ยินคำว่าฉีดยาจากปากป่ะป๊าของตัวเอง เด็กที่ไหนไม่กลัวเข็มฉีดยา...คงไม่มี






    “ฮือออ....ฮืออออ”






    เสียงร้องไห้ดังออกมาทางด้านห้องคุณหมอ พร้อมกับร่างน้อยในอ้อมกอดของมารดาทำให้สายตาที่ก้มต่ำมองพื้นเมื่อครู่แทบจะเงยขึ้นมามองคนร้องไห้อย่างน่าสงสารทันที





    “เจ็บหรอน้องแอป”





    “ฮือออ พี่นท..ฮืออออ”







    เร็วกว่าสิ่งใดคือคนร้องไห้ในอ้อมกอดทำท่าจะโน้มตัวลงมากอดอีกร่างที่เดินตามาใกล้ๆ จนสุดท้ายเป็นผู้ใหญ่หนึ่งคนที่อ่อนใจปล่อยให้เด็กน้อยที่เพิ่งโดนฉีดยามาลงไปอยู่ในอ้อมกอดของลูกสาวตัวเองอย่างช่วยไม่ได้





    “ฮึก..ฮือออ”






    “โอ๋ๆนะ...พี่นทโอ๋ๆน้องแอปนะ...ไม่ร้องน้า”





    “ฮึกๆๆ...เค้ากลัวเข็ม..ฮึก”





    คนร้องไห้กอดอีกคนจนแน่นแม้กระทั่งตอนอยู่บนรถ เสียงสะอื้นก็ยังคงดังมาตลอดทาง จนคนที่นั่งใกล้ที่สุดต้องยกมือมาลูบผมนุ่มนิ่มนั่นเอาไว้เพื่อให้อีกคนสงบลง จนคนที่เหน็ดเหนื่อยจากการร้องไห้ก็ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดอุ่นๆของคนตัวโตกว่าข้างๆในที่สุด





    “ดูสิป่ะป๊า..หลับทั้งคู่เลย”






    กว่าจะถึงบ้านอันแสนอบอุ่น...สองร่างน้อยๆก็หลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันไปเสียแล้ว จนคนมองไปเห็นอดเอ็นดูไม่ได้ ก่อนจะช่วยกันอุ้มเด็กน้อยทั้งสองไปส่งที่ห้องนอนอย่างเงียบสงบที่สุด






    บรรยากาศค่ำคืนของวันนั้นจึงกลายเป็นภาพน่ารักที่หนึ่งร่างกางแขนให้อีกคนซุกเข้ามาในอ้อมกอดอย่างเต็มที่เพื่อทดแทนความอบอุ่นจากผ้าห่มที่ตัวเองเผลอดึงมาจนหมด






    “อื้อออ”






    ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดอยู่ตรงที่ซอกคอของร่างน้อยวัยหกขวบจนต้องเผลอส่งเสียงเบาๆออกมาจากการถูกรบกวน และก็พบว่ามันไม่เป็นประโยชน์อะไรเมื่อความรู้สึกนั้นกลับทวีคูณขึ้น





    “จั๊บ จั๊บ จั๊บ”






    “ง่า...น้องแอปอีกแล้วนะ อีกแล้ว”






    อาการเดิมๆของคนข้างๆทำให้อีกคนเริ่มหงุดหงิดเมื่อลืมตามาพบว่าตัวเองกำลังถูกปากเล็กๆกเม้มเบาๆอยู่ที่ผิวเนื้อต้นคอตัวเอง..แต่ด้วยความงัวเงียทำให้เจ้าของดวงตาที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาปิดเปลือกตากลับไปอีกรอบพลาง ก่อนจะดังอีกคนเข้ามากอดจนแน่น





    “คืนนี้คืนเดียวนะน้อง...พี่นทให้คืนเดียวนะ”






    “งืมมมม”






    “เอ้ยยย...ตอบด้ายงายยย”





    ร่างน้อยแทบสะดุ้ง...แต่ก็พบว่ามันเป็นแค่อาการละเมอของอีกคนเท่านั้น





    ที่สุดโลกนิทราก็มาเยือนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง พร้อมกับร่างอุ่นๆที่โหยหาไออุ่นเข้ามาซุกกายกอดกันอยู่ใกล้ๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×