ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "แต่เล็กจนโต..." #specialproject #noteapp67 [นทแอป]

    ลำดับตอนที่ #1 : # แต่เล็ก 1

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 56




    # แต่เล็ก 1



    เช้าที่ไม่สนุก....เช้าที่น่าเบื่อ..เช้าที่น่ารำคาญ



    “ตื่นจิ!!!





    เสียงเล็กโวยวายขณะที่เดินติดกระดุมเสื้อผ้าอยู่ตรงหน้า ขาน้อยปีนขึ้นมาบ่นเตียงเพื่อปลุกคนขี้เซาร่วมห้องที่ไม่รู้ว่าม่ะม๊ากับป่ะป๊าของเธอจะเอามาอยู่ด้วยกันทำไมก็ไม่รู้ตั้งหลายเดือน




    “อะ...อื้อออ”





    มือเล็กๆของเด็กขี้เซาที่ว่าปัดพัลวันเมื่อถูกรบกวนจากการที่อีกคนกำลังเอาปลายผมแหย่ไปที่รูจมูกเล่น...และสุดท้ายการปลุกคนขี้เซาให้ไปโรงเรียนแผนแรกก็ไม่สำเร็จอีกตามเคย






    “ตื่นจิ ตื่น...ไปอาบน้ามแต่งตัวไปโรงเรียนเลยน้าาา...ย๊าาา”







    ทั้งฉุดทั้งลากทั้งดึงลงจากเตียงแต่ก็ทำได้แค่นั้น นทน้อยก็เลยเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาเสียอย่างนั้น คนขี้เซาที่ร่วมเตียงด้วยกันกำลังจะเป็นเหตุให้เธอไปโรงเรียนสายอีกแล้ว






    “ม่ะม๊าาา...น้องแอปไม่ตื่นอ้าาา จะให้พี่นทปลุกยางงายยยยย”







    ตะโกนลั่นออกไปนอกห้องให้ม่ะม๊าที่แสนน่ารักของตัวเองได้ยิน...แต่ดูเหมือนม่ะม๊าที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอจะไม่ได้สนใจกับความยากลำบากของเด็กสี่ห้าขวบคนนี้เลยสักนิดเดียว







    “นี่....จะไม่ตื่นช่ายม้ายยยยย...พี่นทโกรธแล้วนะ โกรธน้องแอปแล้ว”





    สุดท้ายคนที่ดูมีปัญหาในตอนนี้ก็ลงไปนั่งกอดอกมองคนที่ตัวเองลากลงมาจากเตียงได้ด้วยผ้าห่มผืนที่อีกคนนอนทับอยู่ที่พื้นในตอนนี้อย่างใช้ความคิด



    “โอ๊ยยยย ทำไมน้องแอปขี้เซาอย่างนี่อ้ะ นทน้อยกลุ้ม”






    หมดทางเยียวยาแล้วเด็กหญิงนท พนายางกูรผู้สามารถคุยกับตัวเองได้ตลอดเวลา...สายตาหวานใสมองไปที่คนที่หลับไม่รู้เรื่องด้วยแววตาระยิบระยับ




    “ย๊าาา...วันนี้จะไม่ยอมไปสายแล้ว ฮึบ ฮึบ ฮึบ”






    เสียงออกแรงของเด็กน้อยวัยห้าขวบดังขึ้นขณะที่กำลังลากผ้าห่มที่มีมนุษย์ขี้เซานอนอยู่ด้วยความพยายามอย่างหนักหน่วง ไม่นานร่างคนขี้เซาก็มากองอยู่หน้าห้องน้ำ






    “อย่างแรก...ต้องอาบน้ามมม”







    เร็วกว่าสิ่งใด มือเล็กก็จัดการปลดชุดนอนของอีกคนออกเร็วๆ แล้วพลิกร่างนั้นไปอยู่ในกะละมังอาบน้ำขนาดใหญ่ ทันทีที่สายน้ำไหลกระทบกาย ร่างคนขี้เซาก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาทันที...และเป็นดวงตาใสแจ๋วที่จ้องอีกคนที่อยู่ในสภาพเปลือยกายตาไม่กระพริบ






    “เย่ๆ...น้องแอปตื่นแล้ว...เย่ๆ พี่นทไม่สายแล้ว ไม่สายแล้ว”







    “อ๊าาาา....ห้ามมองเค้านะ....ออกปายเดี๋ยวนี้เยยยย”






    มือเล็กๆวักน้ำใส่อีกคนด้วยคามเขินอาย ก่อนเสียงประตูห้องน้ำจะปิดดังปังพร้อมร่างตัวต้นเหตุที่วิ่งเร็วจี๋ออกมาด้วยสภาพเปียกไม่น้อย...คนจอมบงการวิ่งหน้าตาตื่นไปที่โต๊ะอาหารอย่างรวดเร็วจนคนเป็นมารดาเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย






    “เป็นอะไรพี่นท...แล้วนี่ไปทำอะไร ตัวเปียกแบบนี้”






    “พี่นทไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย...น้องแอปต่างหาก...น้องแอปขี้เซา ม่ะม๊าคอยดูนะ ถ้าป่ะป๊าจะเอารถออกไปทำงานแล้วคราวนี้น้องแอปยังไม่เสร็จพี่นทจะบอกให้ป่ะป๊าไปเลย ไม่รอน้องแอปแล้ว...พี่นทไปสายทุกทีเลยอ้ะ”





    “ก็ม่ะม๊าบอกให้พี่นทปลุกน้องแอปเช้าๆไง..แล้วทำไมน้องแอปยังตื่นสายอีกล่ะ หืมมม”






    “พี่นทปลุกตั้งนาน...ปลุกตั้งนานแล้วด้วย แต่น้องแอปไม่ตื่นอ้ะ ถามม่ะม๊าก็ไม่ตอบอ้ะว่าจะให้พี่นททำยังไง”






    เสียงเล็กๆพูดเจื้อยแจ้วเป็นนกขุนทองยามเช้าขณะตักอาหารเข้าปาก ก่อนข้าวในชามจะค่อยๆลดปริมาณลงไปช้าๆ ร่างของคนขี้เซาเมื่อครู่ก็โผล่ออกมาจากห้องนอนด้วยท่าทางงัวเงียไม่หาย





    “น้องแอปตื่นรึยังคะเนี่ย...มานั่งนี่มาเดี๋ยวคุณน้าถักผมให้นะ”






    มารดาของเจ้าตัวแสบประจำบ้านเรียกเด็กหญิงอีกคนให้เดินเข้ามา ก่อนจะย้ายร่างนั้นมานั่งบนตัก และจัดการกับทรงผมของเด็กน้อยที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จอย่างชำนาญ





    “พี่นทมาป้อนข้าวน้องแอปเร็วๆ...อย่าอิดออดนะถ้าพี่นทไม่อยากไปโรงเรียนสาย”





    “ทุกทีเลยอ้ะ...ต้องเดือดร้อนเขาทุกทีเลยอ้ะ”






    “ตัวแค่นี้ขี้บ่นจังนะเราน่ะ...มาเร็วๆเข้า เดี๋ยวป่ะป๊าไม่รอทั้งคู่ไม่รู้ด้วยนะ”






    คำขู่นั้นได้ผล...ร่างเล็กของเด็กตัวแสบเดินเร็วจี๋มาคว้าช้อน ก่อนจะตักโจ๊กสำหรับเด็กขึ้นมาเป่าค่อยๆแล้วป้อนให้คนขี้เซาที่ตัวเองไม่ค่อยชอบขี้หน้ากลืนเข้าปากไปอย่างง่ายดาย






    “อ่ะ...คราวนี้ก็ไปโรงเรียนได้แล้ว...พี่นทดูแลน้องแอปดีๆด้วย รู้มั้ย”






    “พี่นทรู้แล้ว...ม่ะม๊าบอกทุกวันจนพี่นทจำได้แล้ว...ข้อหนึ่งให้พี่นทส่งน้องแอปถึงห้องเรียน...ข้อสองให้พี่นทไปรับน้องแอปที่ห้องเรียนไปรอป่ะป๊าพร้อมกันตอนกลับบ้าน...ข้อสามห้ามไม่ให้พี่นททิ้งน้องแอปไปไหนคนเดียว รับทราบคับป๋ม”






    “ทราบก็ดีแล้ว...งั้นพาน้องแอปออกไปรอป่ะป๊าเอารถออกที่หน้าบ้านเลย”





    “อ่าา”






    พอรับคำปุ๊บ...และด้วยความที่ไม่อยากไปโรงเรียนสายจนโดนเพื่อนล้อ มือเล็กๆก็จัดการจับข้อมืออีกคนลากออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระโดดขึ้นรถป่ะป๊าของตัวเองอย่างรวดเร็ว




    “ไปเล้ยยยยยย โกทูสคูลนะป่ะป๊าา”






    เช้านี้เหมือนอารมณ์เจ้าตัวแสบประจำบ้านจะสดใสเป็นพิเศษ ไม่นานรถของบ้านพนายางกูรก็เดินทางมาถึงโรงเรียนอนุบาลเอกชนชื่อดัง ร่างเล็กทะมัดทะแมงกระโดดลงฉิวและไม่ลืมที่จะลากอีกคนลงมาด้วยอย่างรวดเร็ว






    “ป่ะป๊า สวัสดีค่ะ พี่นทไปเรียนแล้วน้า...ป่ะไปน้องแอป...ไปห้องเรียนพี่นทไปส่ง”




    แน่สิ...วันนี้เด็กหญิงนท  พนายางกูรอารมณ์ดีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะวันนี้มาถึงโรงเรียนก่อนเสียงเพลงเคารพธงชาติ นี่คือความสุขระดับขึ้นสุดยอดของเด็กอนุบาลสามเชียวนะ





    “ตื่นรึยังเนี่ย...น้องแอป...ตอนเย็นๆพี่นทจะมารับที่ห้องนะ...เข้าใจม้ายยยย”

    พยางค์สุดท้ายเด็กตัวแสบตะโกนสุดเสียงจนคนขี้เซาเผลอสะดุ้งขึ้นมาแล้วพยักหน้าหงึกๆเป็นการตอบรับ และมันก็ทำให้นทน้อยยิ้มร่าก่อนจะเดินไปที่ห้องเรียนชั้นอนุบาลสามของตัวเอง





    “นทลูกแหง่...กลัวเด็กอนุบาลหนึ่ง แบร่”





    “หยุดล้อนทเลยนะ...ไม่ได้กลัวสักหน่อย”






    ใครหนอช่างสิ้นคิดล้อเลียนเด็กนทจอมแสบเข้าให้...ร่างเล็กที่ไม่เคยกลัวสิ่งใดถกแขนเสื้อขึ้นมาก่อนจะกำหมัดขึ้นแล้วพุ่งไปที่ใบหน้าของเด็กชายกวนประสาทคนนั้นด้วยความหงุดหงิด





    “แงงงงง...คุณครู....นทแกล้ง ฮือออออ”





    “ฮึ่ยยยย...เชอะ”





    เมื่อเห็นว่าอีกคนวิ่งไปฟ้องครู จากอารมณ์ดีๆเมื่อเช้า ความฉุนเฉียวก็บังเกิดแก่เด็กห้าขวบทันที





    “น้องนทต่อยเพื่อนจริงๆรึเปล่า”




    “ค่ะ”





    ม่ะม๊าสอนว่ากล้าทำต้องกล้ารับ...แต่ถ้ามีเรื่องม่ะม๊าต้องมาเคลียร์ให้เธอด้วยแล้วกัน





    “ไปต่อยเพื่อนทำไมคะ”





    “เพื่อนล้อนท...บอกว่านทลูกแหง่ บอกว่านทกลัวเด็กอนุบาลหนึ่ง นทไม่ได้กลัวสักหน่อย”




    “เอ่อะ”





    คุณครูประจำชั้นอึ้งไปหลายวินาทีก่อนจะบอกให้คนทำผิดขอโทษเพื่อนเสีย มันคงจะดีถ้าเด็กนักเรียนที่น่ารักสองคนจะยอมพูดขอโทษง่ายๆแบบนั้น




    “นทไม่ขอโทษ”





    “แต่น้องนททำผิด”






    “นทไม่ได้ทำผิด...เขาล้อนท...เขานิสัยไม่ดีก่อน”






    จนปัญญาแล้ว...คุณครูประจำชั้นที่แสนน่าสงสารเปลี่ยนจากลงโทษเด็กเป็นการขู่ด้วยการต่อสายถึงผู้ปกครองแทน...และมันได้ผลเมื่อเจ้าเด็กตัวแสบยอมเอ่ยเสียงขอโทษอย่างอ้อมแอ้มออกมา





    “ขะ...ขอโทษ”





    “เป็นเด็กน่ารักแบบนี้...ดีจังเลยน้องนท”






    คนถูกชมไม่ได้จะสนใจ ร่างเด็กหญิงเดินหนีไปที่โต๊ะเรียนตัวเองแล้วด้วยอารมณ์บูด...พาลอารมณ์เสียก็โทษไปที่ใครอีกคนที่เป็นตัวต้นเหตุ...เด็กอนุบาลหนึ่งที่ทำให้เธอมีกรณีพิพาทกับเพื่อนร่วมชั้น





    “ย๊าาา”







    เมื่อเสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น ร่างทโมนตัวน้อยก็แทบหิ้วกระเป๋าตัวเองตรงรี่ไปที่ห้องชั้นอนุบาลหนึ่งอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดจะแวะซื้อขนมตามประสาเด็กเลยสักนิด





    “มารับแล้ว”






    “อ้าวน้องนท...ทำไมวันนี้มารับน้องสาวเร็วจัง น้องแอปหลับอยู่ตรงนู้นค่ะ น้องนทเดินไปปลุกได้เลยนะ”





    “อีกแล้วหรอคะ”






    ปากก็บ่น...แต่เท้าก็เดินเข้าไปที่ห้องเด็กอนุบาล...ยังไม่ทันจะได้เข้าไปถึงตัวเป้าหมาย ก็พบว่าตัวเองถูกเด็กอนุบาลหนึ่งในนั้นรุมกอดเต็มไปหมดจนไม่อาจเลี่ยงไปทางไหนได้เลย





    ให้ตายเถอะ....ไม่ได้อยากจะเป็นซะหน่อย....พี่นทขวัญใจเด็กอนุบาลหนึ่งน่ะ





    “ปล่อยพี่นทจิ”






    “อ๊าาา....พี่นทมาแล้ว...ปล่อยน้าา ปล่อยพี่นทของเค้าเลยน้าา”






    นั่นแหล่ะ...ก็เพราะมีเด็กขี้เซาวัยสามขวบกว่าอยู่ข้างๆ เธอถึงรอดพ้นจากเงื้อมมือเด็กอนุบาลหนึ่งมาจนถึงทุกวันนี้



    “ป่ะกลับบ้าน”






    “พี่นทหน้าบึ้งอีกแล้วอ่ะ...โกรธอะไรเค้าหรอ”






    “หึ”



    เด็กหญิงแอปเปิ้ล...ได้ตื่นเต็มตาแล้ว...ตื่นอย่างไร้ความงัวเงียเมื่อพบว่าอีกคนกุมมือตัวเองเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย...และไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงเป็นอย่างนั้น




    “พี่นท..ปะ เป็น....”





    “พี่นทไปเป็นของน้องแอปตั้งแต่ตอนไหนกัน ห๊าา...ไปเป็นตอนไหนกัน เบื่อแล้วนะ...เพื่อนล้ออีกแล้ว...ล้อเรื่องน้องแอปอีกแล้ว...อะไรก็ไม่รู้อ้ะ”







    เสียงตวาดนั่นกลับไม่ได้ทำให้อีกคนหวาดกลัว มากพอๆกับที่มือคู่นั้นไม่อาจละออกจากกันได้...ปากก็บ่นว่าเบื่อไปอย่างนั้น ทั้งที่มันก็เป็นแบบนี้มาจะครบหนึ่งปีเข้าไปแล้ว



    “อ่า...เค้าขอโทษ”





    “ขอโทษทามมาย...พวกนั้น...พวกนั้นต่างหากเล่า...ต้องมาขอโทษพี่นท”







    เดินมาจนจะถึงรถที่ป่ะป๊าจอดไว้  นทก็หยุดยืนรอ วันนี้อารมณ์ไม่ดีเอาเสียแล้ว...โดนเพื่อนผู้ชายล้อทุกวันจนหมดทางจะแก้ไข...เพราะตัวต้นเหตุข้างกายที่ไม่รู้ว่าทำไมทั้งที่โกรธแต่ก็ไม่อาจปล่อยมือหรือทิ้งเอาไว้ให้อยู่คนเดียวได้






    “เมื่อไหร่จะโตสักทีเนี่ยน้องแอป....พี่นทขี้เกียจโดนล้อแล้วนะ”





    “เค้า....”






    “ไม่ต้องขอโทษเลยนะ....พี่นท...”





    “อย่าเบื่อเค้านะ”







    มือเล็กๆเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายกอดแขนอีกคนไว้แทน ใบหน้าจิ้มลิ้มยิ้มออดอ้อนคลอเคลียอยู่กับแขนกลมๆของอีกคนไม่ห่าง ไม่นานรถประจำบ้านพนายางกูรก็เดินทางมาถึง พร้อมโดยสารเด็กน้อยสองคนกลับไปถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ










    สองร่างน้อยๆวิ่งเข้าบ้านก่อนจะเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาทานอาหารเย็นตามกิจวัตรทุกวัน...เวลาที่เหลือหลังจากนั้นคือเวลาทำการบ้านที่ไม่ได้มากมายสำหรับเด็กอนุบาลนักอยู่บนเตียงนอน






    “น้องแอป...ทำการบ้านจิ...นอนอีกแล้วอ้ะ...ทำไมชอบนอนเรื่อยเลย”






    “ก็เค้าง่วงนิ”






    “แล้วก็มาตื่นตอนดึกอ้ะ...ตอนเช้าก็ไม่ยอมตื่น พี่นทต้องปลุกทุกวันเลย”






    คำบ่นนั้น แอปเปิ้ลก็ออกจะเคยชินมันไปเสียแล้ว...หรือจะเรียกให้ถูกคงเป็นชินชาจนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยต่างหาก แล้วก็เป็นเด็กอีกคนที่ดูโตเกินวัยกำลังถอนหายใจยาวเหยียดกับความไม่ได้อย่างใจ






    “ถ้าไม่ตื่น...จะจับไปอาบน้ามมม เอาม้ายยยย อาบน้าม แบบเมื่อเช้าอ่ะ”







    ดูเหมือนนี่จะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ร่างมนุษย์ขี้เซาเด้งขึ้นมาทำการบ้านได้อย่างรวดเร็ว จนคนขู่ยิ้มพอใจกับผลงานตัวเองไม่น้อย...เป็นครั้งแรกที่ปลุกคนขี้เซาให้ตื่นโดยไม่ต้องเปลืองแรง






    “ที่จริงน้องแอปไม่ดื้อ พี่นทก็ไม่เหนื่อยด้วยอ้ะ...ไม่เหนื่อยที่นี้ก็ไม่เบื่อ”





    “เค้าง่วงนี่นา”






    ปากเล็กๆบ่นขมุบขมิบ จนคนที่นั่งทำการบ้านอยู่ฟังตรงข้ามย้ายตัวเองมานั่งประชิดอีกคนเอาไว้ ใบหน้ายื่นไปดูที่การบ้านอีกคนอย่างสนใจ





    “ใช่ที่ไหน....น้องแอปทำผิดอีกแล้ว...ทุกทีเลยอ้ะ”





    “เค้าง่วงนี่”





    “อาบน้ามม้ายยยย”





    “ไม่เอา เค้าไม่อาบแล้ว”







    อีกคนตอบกลับมาเสียงงัวเงีย ก่อนจะโดนมือนุ่มนิ่มจู่โจมดินสอในมือแล้วจับมาบังคับไว้ในมืออย่างเหนือกว่า ปลายดินสอถูกลากเป็นเส้นสองเส้นกากบาททับกันที่รูปภาพอย่างช้าๆ





    “นี่...ต้องอันนี้ต่างหาก”




    “อ่าา”





    “อ้ะรีบทำจิ....จะได้นอนงายยย”






    คราวนี้นทปล่อยดินสอออกมาแล้วหันไปหยิบการบ้านตัวเองมาทำอยู่ข้างๆร่างคนงัวเงียแทน ด้วยสมาธิสูงสุดทำให้ทั้งห้องเงียบลง แต่เพียงไม่นานก็ต้องสะดุ้งอีกรอบเมื่อพบว่ามีวัตถุบางอย่างกระทบลงอยู่ที่หน้าตักตัวเอง





    “อย่างนี้ทุกทีอ้ะ...หลับอีกแล้ว ฟู่วววว”







    บ่นก่อนจะพ่นลมหายใจใส่ใบหน้าอีกคนแล้วหันมาทำการบ้านของตัวเองต่อจนเสร็จ และไม่อาจลืมที่จะเปิดสมุดการบ้านของอีกคนขึ้นมาดูต่อ...ไม่ถึงสิบนาทีการบ้านอีกเล่มก็เสร็จลง และทั้งสองเล่มก็ถูกเก็บใส่กระเป๋าทั้งสองใบอย่างเรียบร้อย






    “แล้วแบบนี้...พี่นทจะเลิกโดนล้อเมื่อไหร่อ้ะ”





    “งืมมมมม....งืมมมม จั๊บ จั๊บ จั๊บ”







    นอกจากขี้เซาแล้วยังสามารถนอนละเมอได้ด้วย นทพึงตระหนักของคุณสมบัติของมนุษย์ขี้เซาวัยสามขวบผู้นี้ได้เป็นอย่างดี หากแต่ก็ไม่วายเอานิ้วตัวเองแหย่ลงไปแกล้งที่ปากอีกคนอย่างหมั่นไส้ขึ้นมา





    “จั๊บ จั๊บ จั๊บ”





    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า”





    “งั่ม งั่ม งั่ม”






    จากดูดเบาๆ เจ้าของเรียวปากนั้นเปลี่ยนมาเป็นดึงนิ้วนั่นเข้าไปกัดแทนเสียแล้ว ก่อนใบหน้านั่นจะผละความสนใจไปซุกตรงที่หน้าท้องอีกคนแทน แล้วกัดมันเบาๆอย่างไม่รู้ตัว






    “เหวออออออ...ทำงี้ด้ายง๊ายยยยย น้องแอปทามงี้ด้ายง้ายยยยย ม่ะม๊า ให้น้องแอปทามงี้กับพี่นทม่ายด้ายน้าาา”




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×