ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Prince[ss] Diary บันทึกเรื่องราวฉบับSimCin

    ลำดับตอนที่ #4 : Love of Angle

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 56


    สวรรค์...ดินแดนสีขาวที่มีเหล่าเทวดานางฟ้าอาศัยกันอย่างสงบสุข รักใคร่กลมเกลียว มีแต่ความสุขตลบอบอวลไปทั่วดินแดน
     

    นรก...ดินแดนแห่งความมืดและความทุกข์ระทม เต็มไปด้วยคนบาปหนาและอสูรกายแห่งอเวจี ดินแดนที่แตกต่างกันในทุกๆอย่าง
     

    แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน...ความแตกแยก...ชาวสวรรค์และนรกต่างทำสงความกันมายาวนานหลายร้อยปีเลือดสีเงินและดำต่างไหลนองอาบพื้นดินจนเกิดเป็นสรรพสิ่งทั้งหลายบนโลกมนุษย์ ที่มีทั้งดีและเลว ขึ้นอยู่กับปริมาณของเลือดที่ได้เสกสรรปั้นแต่งมนุษย์ขึ้นมา
     

    "อยู่นั่นไง ตามมันไป!!!"
     

    ปีกสีขาวบริสุทธิ์กระพือเสียงดังเพื่อเร่งให้เกิดความเร็วที่มากพอจะหลีกหนีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังตามตนมา แต่คนที่กำลังถูกไล่ตามนั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะหันไปมองด้านหลัง ร่างบอบบางในชุดคลุมสีขาวปักเลื่อมทองตวัดเป็นเถาวัลย์ เร่งความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหนีจาก กลุ่มบุคคลปริศนาในชุดสีดำสนิท ใบหน้าปกปิดด้วยเกราะเหล็กสีเดียวกันกับเสื้อ มีเพียงรูระบายอากาศเพียงไม่กี่รูเท่านั้น ปีกสีดำกระพืออย่างฉับไวเพื่อเร่งให้ไล่ตามทันคนข้างหน้าที่เริ่มจะทิ้งห่างไปทุกที
     

    "บ้าเอ้ย! ถ้าไม่จับให้ได้นี่ พวกเราต้องโดนท่านผู้นั้นว่าแน่นอน"
     

    หนึ่งในกลุ่มคนปริศนาสบถอย่างหัวเสียเพราะไลาตามมานานก็ยังตามจับไม่ได้ซักทีจนตอนนี้เข้าสู่เขตของดินแดนสวรรค์แล้ว หากไม่ใช่คำสั่งให้จับเป็นตนเองคงจะจับฆ่าเด็ดปีกทิ้งไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้รอดมาถึงถิ่นของผู้บุกรุกเช่นนี้แน่นอน
     

    "พวกเจ้าถอยไป ข้าจัดการเอง"
     

    ทหารทั้งหลายต่างแหวกทางให้หนึ่งในชายชุดดำ มือที่สวมถุงมือหนังสีน้ำเงินดำยื่นออกมาด้านหน้า ไอพลังสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นที่ฝ่ามือหนาก่อนพุ่งตรงไปยังร่างบางที่อยู่ด้านหน้า ลำแสงสีดำพุ่งทะลุผ่านปีกสีขาวบริสุทธิ์จนเกิดเป็นรูกว้าง ทำให้เสียความสมดุลในการจะพยุงตัวเองให้ไปต่อ ร่างบอบบางค่อยๆลดระดับลงที่ละนิดก่อนจะทิ้งดิ่งลงสู่พื้นดินเบื้องล่าง
     

    "ไอ้บ้าเอ้ยย เจ้าปล่อยให้มันตกลงไปยังดินแดนมนุษย์ทำไม"
     

    ทหารคนสุดท้ายโวยวายอย่างหัวเสียเมื่อพบว่าเหยื่อของตนเองตกลงไปยังดินแดนที่ชาวสวรรค์หรือแม้แต่มนุษย์ไม่อยากแม้แต่จะย่างกรายเข้าไป ดินแดนที่คั่นกลางระหว่างสวรรค์กับนรก "ดินแดนมนุษย์"
     

    "กลิ่นของพวกมนุษย์จะดับกลิ่นไอบริสุทธิ์ของพวกเทวดานางฟ้าได้ง่ายๆ ทำไมไม่ใช้สมองก่อนจะยิงมัน?"
     

    "ข้าไม่รู้ ตอนแรกข้าเล็งไปที่หลังของมันทำไมไปโดนปีกมันได้ข้าก็ไม่รู้"
     

    "ยังไงก็ตามเรากลับไปหาท่านผู้นั้นก่อนดีกว่า รอคำสั่งต่อไปจากท่านผู้นั้นก่อน"
     

    ........

    ....

    ...
     

    หน้าฝนเป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุดสำหรับใครหลายๆคน อย่างเช่นคนๆนี้
     

    "ตกได้ตกดี รถก็ไม่มีแล้วจะกลับบ้านยังไงเนี่ย"
     

    ร่างสูงในชุดเสื้อกั๊กหนังแขนยาวสีดำตัดกับเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาเดป ยืนมองฝนอย่างหัวเสีย เมื่อพบว่าวันนี้ตัวเองคงต้องกลับบ้านช้าเพราะฝนหลังจากโดนเจ้านายเรียกไปบ่นเรื่องการแต่งตัวของตนเอง แม้จะเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวออฟฟิศ ยังไงมันก็ไม่ถูกต้องสำหรับการทำงานในบริษัท
     

    ชเว ซีวอน หนุ่มน้อยอายุ เกือบ ยีสิบหก เงยหน้ามองท้องฟ้าที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสายก่อนจะตัดสินในเดินตากฝนกลับบ้านเพราะต่อให้ยืนบื้ออยู่หน้าบริษัทตนเองก็ไม่มีอะไรทำ สู้กลับบ้านไปนอนดูทีวี อ่านหนังสือจะดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้อย่างงั้น ซีวอนก็จัดการเอาเสื้อกั๊กขึ้นมาคลุมหัวและค่อยๆออกเดินไปตามท้องถนนที่ผู้คนเริ่มบางตาเพราะฝนจากฟ้าที่ไล่ผู้คนไปจนเกือบหมด
     

    "เมื่อไหร่จะหยุดตกนะ"
     

    ร่างสูงเงยหน้ามองฟ้าอย่างเซ็งๆ ก่อนจะสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ จากตอนแรกบนท้องฟ้ามีเพียงสะเก็ดดาวส่องแสงระยิบระยับแต่จู่ๆดาวดวงที่ซีวอนเห็นกลับขยายใหญ่ขึ้นและพุ่งตกลงไปยังสวนสาธาณะที่จัดแต่งเหมือนป่าขนาดย่อมๆ ด้วยความอยากรู้ร่างสูงจึงวิ่งไปตามทิศที่ดาวตกไปทันที
     

    "!!!!"
     

    สิ่งที่พบนั้นแทบจะทำให้ร่างสูงตะลึงค้าง เมื่อเห็นร่างบอบบางในชุดคลุมสีขาวยาวถึงข้อเท้าเปื้อนโคลนจนเป็นรอยกระดำกระด่าง เส้นผมสีน้ำตาลแดงอ่อนๆยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนฟุบกับแขนเรียว ดวงตาปิดสนิทไร้การรับรู้ถึงสิ่งใดรอบกาย ซีวอนสลัดหัวไล่อาการตะลึงงันออกก่อนจะค่อยย่างกรายเข้าไปใกล้ๆ มือหน้าแตะที่ไหล่เนียนก่อนจะเขย่าเบาๆ เพื่อเรียกสติคนที่นอนหมดสติอยู่
     

    "เฮ้ย! นายๆ ตื่นๆ มานอนตากฝนอะไรอยู่ตรงนี้"
     

    เมื่อเขย่ายังไงก็ไม่มีที่ท่าว่าจะตื่น ร่างสูงจึงพลิกตัวร่างบางให้หันหน้ามา ไม่มีเวลาให้สำรวจใบหน้าหวานที่นอนนิ่งราวกับหยุดหายใจ ร่างสูงก้มหน้าลงเอาหูแนบกับหน้าอกแบนราบเพื่อฟังเสียงหัวใจเต้น
     

    'ยังมีชีวิตอยู่ แต่ทำไม...นมแบนจังวะ'
     

    ซีวอนยืนขึ้น ยีหัวที่เปียกชื้นเพราะน้ำฝน ใบหน้าคมหันซ้ายหันขวามองหาใครซักคนแต่ก็ต้องหน่ายใจเมื่อพบว่าไม่มีใครเลย
     

    'ช่วยไม่ได้'
     

    ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆย่อตัวลงเพื่อจะช้อนร่างบางขึ้น แต่ก็ต้องชักมือหนีเมื่อรู้สึกถึงอะไรนิ่มๆเป็นแพยาวที่ๆกลางหลังของคนที่นอนอยู่ ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าสิ่งที่โดนแขนตนเมื่อกี้นั้น คือปีกขนนกสีชาวบริสุทธิ์ มีรอยเปื้อนเล็กน้อยจากโคลน และที่น่าตกใจยิ่งกว่าเมื่อพบว่า ปีกข้างนึงนั้นเป็นรูโหว เลือดสีเงินไหลซึมรอบบริเวรปากแผล
     

    "น...นี่มันอะไรกัน"
     

    ร่างสูงอุทานเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจถอดเสื้อกั๊กหนังของตนเองใส่คลุมให้ร่างบางเพื่อปิดบังปีกขนาดใหญ่ก่อนจะค่อยๆช้อนตัวร่างบางขึ้นออกเดินอย่างระวังเพื่อไม่ให้คนในอ้อมกอดตื่น
     

    "ตื่นมาจะถามให้ละเอียดยิบเลยว่าเธอเป็นตัวอะไรกันแน่"
     

    ร่างสูงพึมพำกับตัวเองขณะพาร่างบางเดินตากฝนกลับบ้านของตนเอง


    ........
    .....
    ...


    "อะไรนะ!!!"


     4 ทหารในหมวกเกราะสะดุ้งตัวโยนเมื่อสุรเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธดังทั่วท้องพระโรงสีดำ ดวงตาสีดำจดจ้องไปยังลูกน้องของตน4คนที่ทำงานพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย


    "ข้าสั่งให้ไปนำตัวมันมาแต่พวกเจ้ากลับยิงมันร่วงตกลงไปยังโลกมนุษย์!! มันน่าจับควักสมองออกมาขยี้ยิ่งนัก!!!"


    "ก...กระหม่อมขออภัย ต..แต่ว่า..."


    "หุบปาก!! ตั้งแต่วันที่ท่านลูซิเฟอร์จากไป ดินแดนของเราก็อ่อนแอลง ทหารก็มีแต่พวกไร้สมอง ข้าล่ะอยากร่ำไห้ยิ่งนัก"


    ชายวัยกลางคนแต่ใบหน้านั้นยังคงดูอ่อนเยาว์ในชุดลำลองสีดำสนิทตัดกับเส้นผมสีน้ำเงินเข้ม มีทีท่าอ่อนลงเมื่อระงับความโกรธของตนลงได้ ร่างสูงถอนหายใจอยากหนักก่อนจะเดินไปนั่งยังบัลลังค์ของตนเอง


    "ไปจับตัวมันมาให้ได้หากมนุษย์ผู้ใดขัดขวาง ก็จัดการซะ"


    "ครับท่าน!!!"


    ........
    ......
    ....


    ไม่ใช่แค่ฝั่งดินแดนนรกเท่านั้นที่กำลังหาตัวคนที่หายไป ฝั่งดินแดนสวรรค์เองก็โกลาหลเช่นเดียวกันเมื่อทราบว่าบุคคลสำคัญคนหนึ่งของดินแดนหายตัวไป


    "ทำไงดีๆ โถ่เอ้ย ไม่น่าเลยย"


    ร่างบอบบางใช้ชุดคลุมสีขาว ตัดกับเส้นผมสีทองอร่ามที่ถูกรวบไว้สูง เดินวนไปมาในห้องนอนขนาดใหญ่ ใบหน้าหวานปรากฎริ้วรอยความกังวลบนใบหน้าเมื่อพบว่าคนในการดูแลของตนแอบหนีออกไปจากห้องอีกแล้ว


    "ใจเย็นๆก่อนสิครับ ท่านจองซู ข้าว่าเขาต้องไม่เป็นไรแน่นอน"


    บุรุษในร่างกำยำดูแข็งแกร่งในชุดทหารสีขาวเกราะทอง ที่เอวเหน็บดาบเนื้อดี ผมซอยสั้นประบ่าสีเปลือกไม้ เอ่ยปากบอกอย่างละเหี่ยใจเมื่อคนตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินไปเดินมา จนพื้นหินอ่อนเนื้อดีจะสึกอยู่แล้ว


    "จะไม่เป็นไรได้อย่างไรเล่า ท่านคังอิน ท่านก็รู้ว่าเด็กคนนั้นซนขนาดไหน หากถูกฝั่งศัตรูจับได้ขึ้นมา..."


    ริมฝีปากบางถูกปิดด้วยนิ้วเรียวยาวของคนรัก คิม ยองอุน หรืออีกชื่อคือ คังอิน ยิ้มละมุนให้กับคนรักก่อนจะรั้งร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมกอด มือหนาค่อยๆสางผมสีทองสลวยอย่างเบามือ


    "เขาต้องไม่เป็นไร ท่านมีบุญบารมีมากพอ ข้าเชื่อเช่นนั้น เพื่อความสบายใจของเจ้า ข้าจะส่งคนออกไปตามเพิ่ม"


    ร่างบางยิ้มหวานก่อนจะเอนซบอกคนรักของตนที่ไม่ว่าจะยามไหนก็สามารถปลอบใจตนได้ตลอดเวลา แต่ไม่ทันจะได้สร้างโลกสีชมพูสดใสบานประตูไม้สลักลายเถาวัลย์ก็เปิดผ่างพร้อมทหาร1นายที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามา จนทำให้ทั้ง2คนต้องรีบผละออกจากกันโดยทันที


    "มีรายงานเข้ามา พบว่าคนของท่านโดนชาวดินแดนนรกไล่ตามจนตอนนี้หายตัวไป ที่สุดท้ายที่พบคือดินแดนมนุษย์"


    "ดินแดนมนุษย์!!!"


    ทั้ง2ผสานเสียงพร้อมกันอย่างตื่นตะลึง จองซูแทบจะยืนไม่อยู่เมื่อทราบข่าว ใบหน้าหวานเริ่มฉายแววกังวลมากขึ้น


    "ส่งคนไปยังโลกมนุษย์ รีบตามตัวท่านกลับมาก่อนชาวอเวจีจะได้ตัวไป"


    "ขอรับ"


    นายทหารชั้นผู้น้อยโค้งให้ตนก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป คังอินเดินไปนั่งข้างๆคนรักที่นั่งอยู่ปลายเตียงไร้ร่องรอยของเจ้าของ มือหนารั้งศีรษะเล็กให้เอนซบตน ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าไปใกล้ๆใบหูเล็กก่อนจะกระซิบปลอบอย่างแผ่วเบา


    "เขาจะต้องปลอดภัย ข้าขอสาบานด้วยชีวิตข้า"


    ร่างบางระบายยิ้มนิดๆก่อนจะหลับตาลงเพื่อผ่อนคลาย ในใจภาวนาให้บุคคลสำคัญของดินแดนปลอดภัย


    ........
    ....
    ..


    ณ ห้องนอนขนาดใหญ่ ใครคนหนึ่งบนเตียงกำลังเริ่มขยับ เปลือกตาบางค่อยๆปรือขึ้นช้าๆ เพื่อปรับภาพให้ชัดเจน ร่างบางลุกพรวดขึ้นมองสำรวจไปรอบๆอย่างตกใจระคนสงสัย


    "ที่นี่มัน...ที่ไหน..."


    ร่างบางนั่งนิ่งปล่อยให้สมองประมวลข้อมูล ต่างๆที่เกิดขึ้น


    จริงสิ...เราตกลงมายังโลกมนุษย์


    "งั้นนี่คงจะเป็น..."


    "รู้สึกตัวแล้วเหรอ?"


    ดวงตากลมโตสีเงินยวงตวัดไปมองผู้มาใหม่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาวกับกางเกงขาเดบสีดำ ยืนกอดอกมองมาที่ตนเอง ซีวอนส่งยิ้มอบอุ่นให้ก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบอบบางที่ทำท่าจะขยับตัวหนีแต่ก็ต้องชะงักเมื่อความรู้สึกเจ็บแปล๊บเเล่นเข้ามาที่สมอง ร่างบางหันไปมองที่มาของความเจ็บปวดก็พบว่า ปีกของตนเองที่เคยโดนยิงจนเป็นรู้นั้นตอนนี้ถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลสีขาวสะอาดตา


    "ฉันทำแผลให้เองล่ะ"


    ร่างบางหันมามองผู้มาใหม่อีกครั้ง สายตาไล่สำรวจร่างสูงอย่างไม่ไว้ใจ


    "ที่นี่ที่ไหน? เจ้าเป็นใคร?"


    "ฉันชื่อ ชเว ซีวอน ตอนนี้นายอยู่บ้านของฉัน ฉันเห็นนายนอนหมดสติอยู่เลยพาหลบฝนมาที่นี่"


    "เจ้าช่วยชีวิตข้า?"


    ร่างสูงพยักหน้านิดๆก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆร่างบางที่ขยับตัวหนีเล็กน้อย


    "ไม่ต้องกลัวน่า ฉันไม่ทำร้ายนายแน่นอน"


    "ข้าจะเชื่อใจพวกมนุษย์ได้ยังไง?"


    "พูดซะตัวเองไม่ใช่มนุษย์งั้นล่ะ"


    ร่างสูงหัวเราะกับตัวเอง เพราะขนาดตนเองยังไม่อยากยอมรับเลยว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนยิ่งตอนที่ทำแผลให้ที่ปีกของร่างบางยิ่งไม่อยากจะเชื่อว่าอะไรที่ไม่ใช่คนยังมีอยู่บนโลกนี้อีก


    "ข้าไม่ใช่มนุษย์ ข้าเป็นชาวสวรรค์"


    "สวรรค์?"


    "ถูกต้อง เจ้าไม่เคยได้ยินตามเรื่องเล่าของมนุษย์หรือไง?"


    "เคยแต่ไม่ค่อยอยากเชื่อแม้จะได้เห็นกับตา"


    "มนุษย์นี่แปลกจริงๆ"


    ซีวอนหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินร่างบางนั้นวิจารณ์มนุษย์เพียงคนเดียวในห้องนี้ ใบหน้าคมหันไปสบตาร่างบางที่ยังคงจ้องตนนิ่ง ดวงตาสีเงินยวงยิ่งมองยิ่งรู้สึกหลงไหล จนเหมือนโดนสายตาคู่นั้นดูดเข้าไป


    "ฉันยังไม่รู้ชื่อนายเลย"


    "ฮีชอล...เรียกข้าว่าฮีชอล"


    "ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฮีชอล"


    ร่างบางพยักหน้าก่อนจะค่อยๆเอนตัวลงนอนต่อ ดวงตาค่อยๆปรือลงช้าๆ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าต้องการพักผ่อนร่างสูงจึงลุกขึ้นแต่ก่อนจะเดินออกจากห้องก็ได้หันมาหาคนที่กำลังจะหลับ


    "นายกินอาหารได้ใช่มั้ย?"


    "อืม..."


    "ดี งั้นเดี๋ยวฉันจะทำอาหารให้ ตื่นเมื่อไหร่มากินนะ"


    ไม่มีการตอบรับจากร่างบางนอกจากลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอที่เป็นตัวชี้ว่าคนตรงหน้านั้นได้เข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว ซีวอนส่ายหัวนิดๆก่อนจะลอบมองของแปลกที่ตนไม่ยักกะตื่นเต้นหรือตกใจแต่อย่างใด 


    .........

    ......

    ....


    "เพราะงั้นเลยกลายเป็นเงือกอย่างที่พวกเจ้าเรียกกัน"


    "เห....เพิ่งรู้นะเนี่ย"


    "ยังมีอะไรอีกเยอะที่พวกเจ้าไม่รู้"


    บทสนทนาเล็กน้อยที่มักจะมีเกือบทุกวันจนกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตของซีวอนไปแล้ว หลังจากที่ร่างบางหายดี และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ซีวอนจึงตัดสินใจให้ร่างบางอยู่กบดานที่นี่ก่อนโดยอ้างว่า ด้านนอกนั้นมีอะไรที่อันตรายยิ่งกว่าชาวนรกอยู่ด้วย


    "ให้ข้าช่วยนะ"


    ร่างบางลุกจากเก้าอี้เดินตรงไปหาร่างสูงที่กำลังยืนล้างจานอยู่


    "ชาวสวรรค์ล้างจานเป็นด้วยเหรอ?"


    ฮีชอลยืนท้าวสะเอว อมลมแก้มป่องเมื่อร่างสูงหันมาแขวะพร้อมส่งยิ้มล้อเลียนมาที่ตนเอง


    "มนุษย์ชอบดูถูกผู้อื่นกันขนาดนี้เลยเหรอ?"


    ร่างบางถามอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินไปข้างๆร่างสูงที่ยืนล้างจานอยู่ก่อนจะดันคนตัวโตให้ออกไปจากบริเวรอ่างล้างจาน มือเล็กเริ่มหยิบจับจานชามในอ่างขึ้นมาเช็ดทำความสะอาด โดยไม่สนใจคนตัวโตที่ยืนมองมาทางตนเองหลังจากโดนแย่งพื้นที่ไป


    กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวร่างบางลอยมากระทบโสตประสาทของร่างสูงทำเอาคนยืนมองรู้สึกแปลกๆ กลิ่นหอมนี้นั้นมันมีบางอย่างแอบแฝงจนทำให้ร่างสูงรู้สึกปลอดโปร่ง เคลิบเคลิ้มกับกลิ่นไอที่บริสุทธิ์จากคนตัวเล็กตรงหน้า


    "อ๊ะ..."


    ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อ วงแขนแกร่งค่อยๆเลื่อนโอบรอบเอวเล็กและรั้งให้เข้ามาแนบชิดกับอกแกร่ง จมูกโด่งก้มลงสูดดมเส้นผมสีน้ำตาลแดงอ่อนๆทำเอาร่างบางหวั่นไหวไปกับสัมผัสแปลกใหม่ที่ตนไม่เคยเจอ


    "ซ...ซีวอน...จ...เจ้าจะทำอะไรของเจ้าน่ะ"


    ร่างบางร้องถามเสียงสั่นเมื่อจมูกโด่งเริ่มไล่มาที่หลังลำคอขาวและซุกไซร้อยู่นานมาก


    "นายรู้มั้ยว่ากลิ่นตัวของนายทำฉันแทบจะเป็นบ้า"


    ซีวอนกระซิบเบาๆที่ข้างใบหูซึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนจะคลายอ้อมกอดออก ร่างบางหันมามองด้วยใบหน้าที่แดงไม่แพ้ใบหูตนเองพร้อมกับริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง


    "จ...เจ้าคนหื่นกาม!"


    "เอ๋...นายรู้ด้วยเหรอว่าหื่นกามเป็นยังไง"


    "เจ้า...เจ้า...ฮึ่ย!!!"


    ร่างบางชี้หน้าด้วยนิ้วที่สั่นระริกด้วยความโกรธและเขินอาย เมื่อโดนย้อนพร้อมสีหน้ายียวนกวนประสาทของอีกคน ร่างบางสะบัดหน้าหนีและเดินปึงปังไปที่อื่นทันที ร่างสูงหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะเดินตามไปง้อเทวดาตัวน้อยของเขา...ที่เริ่มจะเข้ามาเสกมนตร์ใส่หัวใจที่ไร้รักของตนเอง


    ......

    ....

    ...


    จากอาทิตย์เริ่มเปลี่ยยนเป็นเดือน ความสัมพันธุ์ของฮีชอลกับซีวอนก็เริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญร่างบางเองก็เริ่มจะคุ้นชินกับการใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ว่า...ความสุขนั้นมักไม่ยั้งยืน...


    "วันขอบคุณพระเจ้า?"


    "ใช่ ฉันอยากพานายไปดูว่าวันขอบคุณพระเจ้ามันเป็นยังไง"


    "มันก็คือวันที่พวกเจ้าขอบคุณพวกเราชาวสวรรค์ตามความเชื่อแต่โบราณไม่ใช่เหรอ?"


    "ก็จริง แต่ที่อยากให้นายไปดูคืองานเทศกาลของเมืองที่มักจะจัดขึ้นทุกปีมากกว่า ได้ยินว่าปีนี้ยิ่งใหญ่ด้วย"


    "อะที่เจ้าอยากให้ข้าไปดูนักนะ"


    ร่างบางบ่นอุบอิบ ซีวอนระบายยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกระซิบเบาๆที่ใบหูขาวเนียน


    "เดี๋ยวนายก็จะได้รู้"


    และเเล้ววันที่ตั้งตารอก็มาถึง กลางจตุรัสเมือง ประดับประดาด้วยโคมไฟระย้าหลากสี อาหารมากหน้าหลายตาหลายประเทศตั้งเรียงรายเป็นแถว ผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ไปมา จตุรัสกลางเมืองมีเวทีการแสดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งเป็นไฮไลท์ของวันขอบคุณพระเจ้า


    "ว้าววววววววววว"


    เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างลืมตัวเมื่อเห็นบรรยากาศรื่นเริงที่ตนไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัส ร่างบางหันมองรอบๆตนเองที่รายล้อมไปด้วยอาหารมากหน้าหลายตา ซีวอนยิ้มนิดๆเมื่อเห็นร่างบางเดินไปซุ้มโน้นทีซุ้มนี้ทีอย่างตื่นเต้น ยิ่งเสื้อผ้าที่แต่งมาในวันนี้ยิ่งชวนให้ตนไม่สามารถละสายตาไปได้ ฮีชอลที่ปกติมักจะใส่แต่เสื้อคลุมยาวสีขาวตอนนี้เปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ๊ดสีขาวชมพูตัดกับกางเกงรัดรูปดูสมส่วน


    นับว่าคุ้มค่าจริงๆที่บังคับคนตัวบางให้เเต่งแบบนี้สำเร็จไม่งั้นได้กลายเป็นเป้าสายตาของคนแน่นอน


    "ซีวอนๆ อยากกินอันนี้อะ"


    ร่างบางวิ่งเข้ามาดึงมือร่างสูงให้เดินตามตนเองไปยังซุ้มขายต็อกปกกิอาหารขึ้นชื่อของเกาหลี ร่างบางตาเป็นประกายเมื่อได้กลิ่นหอมและสีสันที่ชวนให้ลิ้มลอง ซีวอนหยิบเงินออกมาควักจ่ายและรับถ้วยต็อกขนาดพอดีมือมา2ชามก่อนจะส่งให้ร่างบางกิน


    "ระวังร้อนนะ"


    ร่างบางยิ้มหวานก่อนจะลงมือจิ้มต็อกในชามกินอย่างสนุกสนาน จนใกล้จะถึงเวลาสำคัญเมื่อการแสดงที่ทำต่อกันมานานของเมืองกำลังจะมีขึ้น


    ดนตรีเริ่มบรรเลงขึ้นช้าๆเป็นทำนองที่ฟังแล้วลื่นหู คล้ายเพลงในโบสถ์ ซักพักนักแสดงในชุดยาวสีขาวก็เริ่มเดินออกมากลางเวทีและร่ายรำไปตามบทเพลง ร่างบางตั้งใจมองอย่างสนใจในการแสดงตรงหน้ามาก ซีวอนเหลือบมองร่างเล็กเป็นพักๆ ก่อนจะลอบยิ้มอย่างมีความสุข สำหรับเขานั้นไม่ค่อยจะชอบดูอะไรแบบนี้เท่าไหร่ อย่าว่าแต่ดูเลย จะเชื่อในเรื่องพระเจ้าตนเองก็ไม่ค่อยอยากเชื่อ แต่พอได้อยู่กับคนๆนี้ ตนเองก็เริ่มเปลี่ยนไปขนาดเขาเองยังแปลกใจ งานครั้งนี้เขาก็ติดตามเป็นอย่างดีเพราะคิดว่าร่างบางอาจจะสนใจ


    ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ที่ฉันเริ่มสนใจในตัวนาย นางฟ้าตัวน้อย


    การแสดงจบลงพร้อมเสียงปรบมือดังสนั่นแถวเวที ก่อนที่นักแสดงจะเดินออกมาโค้งให้กับผู้ชมทั้งหลาย แต่เมื่อซีวอนจะลุกขึ้นเพื่อพาร่างบางเดินไปเที่ยวที่อื่นต่อ ก็เกิดสิ่งที่คาดไม่ถึงขึ้น 1ในนักแสดงได้กล่าวเชิญชวนให้ คนดูลองขึ้นมาร่ายรำกับพวกตนบนเวที ทำเอาร่างบางตาโต


    "ข้าอยากลองขึ้นไปจัง"


    "นายจะเต้นได้เหรอ?"


    "ได้สิ บนสวรรค์ก็มีเต้นบ่อย"


    "คุณผู้ชายตรงนั้นสนใจมั้ยคะ"


    นักแสดงหญิงหันมาถามซีวอนที่กำลังคุยกับร่างบางอย่างสนอกสนใจ ซีวอนกำลังจะอ้าปากปฎิเสธไปแต่ว่าร่างบางข้างๆตนนั้นกลับขัดขึ้นมา


    "ผมขอลองได้มั้ยครับ?"


    "ยินดีเลยค่ะ"


    นักเเสดงสาวยิ้มหวาน ร่างบางเดินขึ้นไปบนเวที ทำนองเพลงเริ่มเปิดอีกครั้ง ร่างบางจดจ้องไปยังซีวอนก่อนจะยิ้มหวานมาให้ ร่างบางค่อยๆหลับตาพร้อมกับขยับร่างกายไปตามทำนองเพลง


    นี่คือคำขอบคุณของฉัน การร่ายรำของนางฟ้าเพื่อนาย...ซีวอน


    ทุกสายตาจดจ้องมาทางร่างบางเป็นตาเดียว ต่างตะลึงทึ่งในท่วงท่าที่อ่อนช้อยเกินชาย แสงสะท้อนจากเส้นผมยาวสลวยช่วยขับให้ดวงหน้าหวานยิ่งน่ามอง นักแสดงที่ตอนเเรกเต้นด้วยนั้นต่างเริ่มหยุดนิ่งจดจ้องร่างบอบบางตรงกลางที่เต้นอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร ซีวอนจดจ้องร่างบอบบางอย่างตะลึงงัน โดยไม่ได้สังเกตเห็นออร่าบางๆจากตัวร่างบางที่แผ่ออกมาทำให้คนโดยรอบรู้สึกสงบ
     

    เมื่อดนตรีจบลง ทุกอย่างเงียบกริบก่อนจะเริ่มมีเสียงปรบมือดังระงมไปทั่ว บรรดานักแสดงเข้าไปรุมคุยกับร่างบางอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นการเต้นรำที่เหมือนกับนักแสดงจริงๆ จนซีวอนต้องขึ้นไปพาร่างบางออกมา โดยทุกการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของคนๆหนึ่งที่แสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว


    ...........

    ......

    ...


    "ฮ้าาาา สนุกที่สุดเลย ขอบคุณนะซีวอน"


    "ไม่เป็นไรหรอก ขอแค่นายชอบก็พอแล้ว"


    ร่างบางยิ้มหวาน ขณะเดินตามร่างสูงเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่ว่าซักพักทั้ง2ก็หยุดเดินไปซะเฉยๆ


    "มีอะไรเหรอซีวอน"


    "ฉันนึกได้ว่า ลืมของน่ะ คอยแป๊บนะ"


    ซีวอนยีหัวร่างบางเบาๆก่อนจะวิ่งกลับไปยังทางเก่าที่เดินออกมา ร่างบางยืนยิ้มมองไปรอบๆอย่างอารมณ์ดีก่อนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้ขนบนตัวลุกเกรียวความรู้สึกอึดอัดเริ่มก่อตัวรอบๆร่างบาง หลังจากไม่ได้สัมผัสมานาน


    ความรู้สึกนี้ หรือว่า...


    "ในที่สุดก็เจอตัว  ท่านฮีชอล..."


    "เจ้า!!!"


    ยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดอะไรออกมา ร่างกายของร่างบางก็เกิดขยับขึ้นมาไม่ได้ซะเฉยๆ แม้แต่ขยับปากก็ยังทำไม่ได้


    เสร็จกัน...


    "ทีนี้ก็คุยกันง่ายขึ้นหน่อย"


    ชายชุดดำ สวมหมวกสีดำปกปิดใบหน้า เงยหน้าขึ้นมองร่างบางเล็กน้อย ริมฝีปากค่อยๆปรากฏรอยยิ้มขึ้นช้าๆ ก่อนจะวาดเเขนทั้ง2ข้างขึ้นบนบ่าเล็ก ใบหน้าภายใต้หมวกขยับไปใกล้ๆดวงหน้าหวาน เพื่อให้ดูเหมือนกำลังจะจูบกัน เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่เดินผ่านไปมาสงสัย


    "หาตัวตั้งนาน รู้มั้ยว่าเจ้าทำให้พวกข้าเสียเวลามากแค่ไหน"


    'เจ้าต้องการอะไรจากข้า!!'


    "เห...คุยทางจิตได้ก็ไม่บอก มาเข้าเรื่องกันดีกว่า นายเหนือต้องการตัวเจ้าเป็นๆ เจ้าจงเลือกมา ว่าจะกลับไปกับพวกข้าดีๆหรือไม่ เผื่อโทษของเจ้าจะลดลงบ้าง"


    'ข้าไม่กลับ!!!'


    "กะแล้วว่าเจ้าต้องพูดแบบนี้ แล้วถ้า...ข้าฆ่าชายคนที่แสนจะใจดีกับเจ้าคนนั้นเจ้าก็คงไม่สะทกสะท้านอะไรสินะ"
     

    ร่างบางเบิกตากว้าง จดจ้องไปยังคนตรงหน้าที่แสยะยิ้มอย่างถือไพ่เหนื่อกว่า


    "แต่ก็นะ ก็แค่มนุษย์คนหนึ่งเจ้าก็คงไม่สนใจใยดีอะไรหรอก"


    "........."


    "ข้าจะให้เวลาเจ้า1วัน จงมาหาข้าที่จตุรัสเมื่อกี้ หากเจ้าไม่มา อย่าหาว่าฆ่าไม่เตือน"


    ชายชุดดำผละจากตัวร่างบางและหมุนตัวหายจากไปพร้อมกับร่างกายของรร่างบางที่กลับมาขยับตัวได้อย่างปกติ


    "เดี๋ยวก่อน!!!"


    ร่างบางตะโกนเรียกเสียงดัง แต่ก็สายไปแล้วเมื่อชายคนนั้นหายไปเหลือแค่ร่างบางตัวคนเดียว ริมฝีปากบางเม้มกันแน่น กลั้นเสียงสะอื้นกับความสุขที่ได้มาเพียงไม่นาน และก็ต้องจบลง...


    "ฮีชอล มาแล้วล่ะ"


    ร่างบางรีบป้ายน้ำตาออกทันทีก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกที่ตนคุ้นเคย ก็เห็นร่างของซีวอนกำลังวิ่งเข้ามาหาตน


    "มาแล้วเหรอ"


    "โทษทีที่ให้รอนะ เรากลับกันเถอะ หืม...ทำไมสีหน้าดูไม่ดีเลย"


    "ม...ไม่มีอะไรหรอก เรารีบกลับกันดีกว่านะ"


    ร่างบางรีบจับมือซีวอนและออกแรงดึงร่างสูงไปอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาก เมื่อมาถึงห้องนั้นก็มือแล้ว ร่างบางนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงที่ตนเองกับซีวอนนั้นมักจะนอนด้วยกันเป็นประจำ คำพูดของชายคนที่ไล่ตามร่างบางมาตั้งแต่ตอนแรกยังคงดังก้องอยู่ในหัว ยิ่งคิดหัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเหี่ยวเมื่อต้องพบเจอกับความจริงที่ตนนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้


    "ฮีชอล ไปอาบน้ำสิ"


    ซีวอนเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวที่ปกปิดส่วนล่าง ร่างบางลุกขึ้นหยักหน้าช้าๆก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ ซีวอนเดินไปที่โต๊ะซึ่งตนได้แอบไปซื้อของบางอย่างให้กับร่างบาง มือหนาค่อยๆเปิดกล่องออกมาช้าๆ สร้อยคอปีกขนนกคู่ประดับเพชรเม็ดเล็กๆตรงกลาง ส่องประกายจ้าเมื่อต้องกับแสงไฟ ร่างสูงค่อยๆหยิบมันออกมาดูอย่างพินิจพิจารณาขณะใช้ความคิดว่าตนเองจะมอบให้ร่างบางยังไงดี


    แอดดด


    "อาบเสร็จแล้วเหรอฮี...."


    คำพูดที่จะพูดกลืนหายไปในลำคอทันที เมื่อร่างบางตรงหน้าเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ชุดคลุมตัวบางที่แนบกับผิวที่เปียกจากละอองน้ำจนมองเห็นเรือนร่างทุกส่วนบนร่างกาย เส้นผมสีน้ำตาลแดงเปียกชื่นยาวปลกดวงหน้าหวานมีละอองน้ำเล็กประปราย ทำเอาซีวอนแทบจะคุมอารมณ์ที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นมาไม่ได้


    "น...นายลืมผ้าเช็ดผมเหรอ?"


    ซีวอนเดินเข้าไปหาพร้อมกับจะจูงมือร่างบางเพื่อไปนั่งเช็ดผมให้แต่แล้วร่างบางกลับกอดหมัยเข้าที่เอวสอบแน่น โดยที่ลืมไปว่าคนตรงหน้าตนนั้นก็แทบไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเหมือนกัน


    "ฮ...ฮีชอล"


    ร่างสูงอุทานเสียงเบา รู้สึกแปลกใจไม่น้อยเพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาตนเองไม่เคยเห็นฮีชอลเป็นอย่างงี้


    "ซีวอน...ถ้าเกิด...วันหนึ่งข้าต้องจากเจ้าไป เจ้าจะคิดถึงข้ามั้ย?"


    ร่างสูงนิ่งค้างไปเมื่อได้ยินคำถามที่ตนไม่เคยฉุกคิด


    จริงสิ...ยังไงซะคนกับเทวดาก็คงอยู่ร่วมกันไม่ได้


    "คิดสิ...คิดถึงมากด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉันคงนั่งนับวันตาย"


    "ทำไม?"


    "เพราะถ้าฉันตายฉันก็จะได้ไปหานายบนนั้นไง"


    ร่างสูงระบายยิ้มนิดๆ มือหนาวางเบาๆบนศีรษะ กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวร่างบางลอยเข้ามาในโสตประสาทของตนอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับหอมหวนและชวนให้สัมผัสยิ่งกว่าทุกครั้ง


    "แล้ว...ถ้าเกิดข้าถูกพาตัวไปยังที่ๆไกลแสนไกล...ที่ๆต่อให้ทำยังไงเจ้าก็จะไม่สามารถหาข้าเจอ เจ้าจะทำยังไง"


    "ฉันจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นฮีชอล หากเป็นอย่างงั้นต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหรือตายอีกกี่ชาติฉันก็จะต้องตามหานายให้เจอ ไม่ก็..."


    "...."


    "ฉันจะเด็ดปีกของนายทิ้งซะ ให้นายอยู่กับฉัน อยู่กับมนุษย์ธรรมดาทีอาจหาญจะช่วงชิงนางฟ้าจากสวรรค์"


    "ทำไม...ทำไมต้องทำเพื่อข้าขนาดนี้...ข้าไม่เข้าใจ"


    น้ำใสๆเริ่มไหลอาบแก้มเนียน ซีวอนจดจ้องดวงหน้าหวานที่เริ่มจะมีน้ำตาไหลออกมาช้าๆ


    "อย่าร้อง...ฮีชอล นายไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ"


    "ฮึก...ตอบช้ามา ซีวอน...ทำไมเจ้าต้องทำเพื่อข้าขนาดนี้ ข้าเป็นแค่เทวดาโง่เขลาตนหนึ่งที่ไม่เคยคิดจะมองมนุษย์อย่างพวกเจ้าเลยซักครั้ง"


    "เพราะรัก...ฮีชอล ฉันรักนาย"


    ร่างบางเบิกตากว้างเงยหน้าสบตาร่างสูง นิ้วเรียวค่อยๆปาดน้ำตาออก ก่อนจะประคองใบหน้าหวานให้สบตากับตนเอง


    "เพราะฉะนั้น ฉันไม่เสียใจกับการกระทำของฉัน ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เจอนาย นางฟ้าของฉัน"


    "ซีวอน..."


    ร่างบางครางออกมาเบาๆ รู้สึกเจ็บและเป็นสุข


    ข้าอยากอยู่กับเจ้า...แต่คงเป็นไปไม่ได้..


    "!!!"

    ----------------------------------------------------------ตัดฉับ----------------------------------------------------------------------
     

    "รัก...ข้ารักเจ้า..." ร่างบางกระซิบเบาๆก่อนจะซุกอกแกร่งไปด้วยความเหนื่อยอ่อน


    "ฉันก็รักนาย นางฟ้าตัวน้อย" ร่างสูงกระซิบเบาๆ ก่อนจะค่อยๆหยิบสร้อยขึ้นมาใส่ที่คอของร่างบางช้าๆ สำรวจความเรียบร้อยก่อนจะกระชับอ้อมกอดและเข้าสู่นิทราไปพร้อมกับร่างในอ้อมกอด โดยไม่ได้เอะใจเลยว่าวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ตนจะได้เจอกับคนๆนี้


    ..........

    .......

    ....


    จตุรัสกลางเมือง ช่วงใกล้รุ่งเป็นช่วงที่ยังไม่มีคนมามากนัก ร่างในชุดคลุมสีดำยืนเด่นอยู่บนเวที รอคอยการมาของใครบางคนและในขณะที่ความอดทนของตนกำลังจะหมด ก็ปรากฏร่างบอบบางในชุดคลุมสีขาว ปีกสีขาวเป็นเอกลักษณ์สยายออกกว้าง ลอยเด่นอยู่บนฟ้าพร้อมร่างของใครบางคนที่จดจ้องมายังตนเองด้วยสายตาเรียบเฉย


    "มาจริงๆซะด้วย"


    "รีบไปได้แล้ว"


    ร่างบางพูดเสียงนิ่ง ดวงตาไร้ความกลัวจดจ้องมายังชายแปลกหน้าซึ่งที่จริงแล้วก็คือสมุนของผู้ปกครองดินแดนนรก ทหารหนุ่มในชุดดำสยายปีกสีดำขนาดใหญ่บินขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกันกับร่างบาง


    "ตามข้ามา อย่าคิดหนี ไม่งั้นคนๆนั้นของเจ้าตาย"


    สั่งเสียงแข็งและออกบินไปทันที ร่างบางหันมามองจตุรัสที่ตนกับซีวอนเพิ่งจะได้เดินเล่นกันเมื่อวานก่อนจะออกบินตามคนตรงหน้าไป แม้ในใจจะนึกกระหวัดหาร่างของใครบางคนที่อาจจะยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว


    ทันทีที่ตื่นขึ้นมาไม่เห็นร่างของใครบางคนที่ตนกอดทั้งคืน ซีวอนก็แทบจะเป็นบ้า และยิ่งเห็นสร้อยคอที่ตนเป็นคนใส่ให้ร่างบางเองกับมือวางอยู่ข้างๆขนนกเพียงอันเดียว ก็ทำให้ตนเองนั้นรู้สึกใจคอไม่ดี ซีวอนเดินวนไปมาในห้องรู้สึกเป็นห่วงร่างบางสุดหัวใจ ก่อนจะนึกได้ว่าร่างบางคงกลับไปยังที่ๆตนจากมาแล้ว ทำให้ร่างสูงหวนนึกถึงการกระทำของร่างบางเมื่อคืน


    "จะไปก็น่าจะบอกกันซักหน่อยนะ นางฟ้า..."


    ร่างสูงทรุดตัวลงนอนกับเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน มือหนากำที่สร้อยแน่น พร้อมกับหัวใจที่เจ็บปวด เมื่อดวงใจของตนได้บินหายลับไปและไม่มีทางจะกลับมา...แต่ตนเองก็เศร้าได้ไม่นานเมื่อรู้สึกได้ว่ากำลังมีใครบางคนอยู่ในห้องและไม่ได้มีแค่คนเดียว


    "!!!!!!!!!!"


    ซีวอนตาค้างเมื่อเห็นเทวดาสองตน คนหนึ่งใส่ชุดคล้ายร่างบางแตกต่างกันแค่ใบหน้าและสีผม อีกคนอยู่ในชุดทหารพร้อมกับดาบเล่มใหญ่


    "พ...พวกนายเป็นใคร"


    "อย่าตกใจไป ชเว ซีวอน พวกเรามาถามหาใครบางคนน่ะ"


    ทหารหนุ่มกล่าวอย่างเป็นมิตร


    "ฮีชอล?"


    "ใช่ ตามข้อมูลเจ้าน่าจะอยู่กับเขาไม่ใช่เหรอ"


    ใบหน้าของซีวอนสลดลงทันที ร่างบางที่จับสังเกตได้เริ่มรู้สึกถึงลางบางอย่างที่เกิดขึ้น


    "เจ้าไม่ได้อยู่กับเขาหรือ?"


    "ฮีชอลไปแล้ว เพิ่งไปเมื่อเช้านี้เอง"


    "!!!!!!!!!"


    สองผู้มาใหม่มีสีหน้าตกใจทันทีที่ได้ยิน เซ็นส์บางอย่างกับความรู้สึกเป็นกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ


    "นี่อย่าบอกนะว่า..."


    "เรามาช้าไป"


    "ทั้ง2คนหมายความว่าไง?"


    "ฮีชอลไม่ใช่คนที่จะไปทั้งๆอย่างงี้ มีความเป็นไปได้ว่า เขาจะถูกชาวนรกจับตัวไปแล้ว"


    "ว่าไงนะ!!!"


    ร่างสูงผุดลุกขึ้น เดินเข้าไปใกล้เทวดา2ตน มือหนาวางบนบ่าบางของเทวดาร่างเล็ก พร้อมถามอย่างซ่อนความวิตกกังวลเอาไว้ไม่ได้


    "ทำไม? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาไม่บอกผมว่า กำลังโดนเล่นงาน ผมไม่เห็นเขาบอกอะไรเลย"


    "นั่นเพราะว่า พวกมันคงคิดจะฆ่าเจ้าหากท่านฮีชอลไม่ยอมไปกับพวกมัน"


    "......"


    ร่างสูงนิ่งไปทันทีที่ได้ยินคำตอบจากทหารหนุ่ม ความรู้สึกผิดเริ่มก่อตัวขึ้นมาทีละนิด หากเขารู้ตัวไวกว่านี้เขาอาจหาทางที่ดีกว่านี้ช่วยได้ ร่างบางมองเด็กมนุษย์อย่างรู้สึกสงสารก่อนจะวางมือลงบนมือหนาอย่างปลอบประโลม


    "ท่านฮีชอลคงรักท่านมาก ถึงได้ทำเช่นนี้"


    ซีวอนมองมาที่ร่างบางอย่างงงๆ ร่างบางไม่ทำไรนอกจากระบายยิ้มเล็กน้อยให้กับร่างสูง


    "ข้า..จองซู ส่วนท่านผู้นี้คือคังอินคนรักของข้า พวกข้าลงมาตามหาฮีชอลเพื่อพาไปคุ้มกัน"


    "คุ้มกัน?"


    "ใช่...ท่านฮีชอลกำลังถูกตามล่า จากใครบางคนที่หวังจะยึดครองดินแดนทั้ง2 หากเสียท่านฮีชอลไป ดินแดนของเราก็จบ"


    "ฮีชอลเป็นใคร? ทำไมถึงมีความสำคัญขนาดนี้"


    "ท่านฮีชอล...เป็นเชื้อสายสุดท้ายของผู้ปกครองดินแดนสวรรค์ และ...ลูกหลานของแม่ทัพสวรรค์ มิคาเอล"


    ซีวอนเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่น่าเชื่อจาก เทวดาร่างบาง ร่างสูงยืนอึ้งอยู่นานกว่าจะรวบรวมสติได้


    "คงไม่ต้องเดาแล้วสินะว่าใครที่คิดจะจับตัวท่านไป"


    ..........

    .....

    ...


    ณ ดินแดนนรก บุรุษในชุดดำบนบัลลังค์ขนาดใหญ่ ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้เห็นของกำนัลอย่างดีที่ตนนั้นตั้งตารอมานาน


    "ยินดีต้อนรับสู่ดินแดนสวรรค์ สายเลือดแห่งมิคาเอล"


    "เป็นเกียรติ์จริงๆที่ได้เห็นหน้าตาอันโสมมบ้าในลาภยศของท่าน ลิเวียธาน"


    เจ้าของชื่อ หัวเราะในลำคอ ก่อนจะลุกขึ้นจากบัลลัง เดินตรงมาหาร่างบางที่ถูกล็อคแขนเอาไว้ทำให้ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ นิ้วเรียวที่มีรอยเหี่ยวย่นบ่งบอกถึงอายุ ค่อยๆเชยคางร่างบางให้จ้องสบตาตน ขณะที่ลูบไล้ไปตามแก้มเนียนช้าๆ แต่ร่างบางไม่รู้สึกดีด้วยแม้แต่น้อย


    "ข้าจะถือว่าเป็นคำชม เพราะอีกไม่นานเจ้าจะต้องเป็นของข้า! นำตัวมันไปขังในห้องจนกว่าจะถึงเวลา"


    หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วร่างสูงก็ยังคงยืนกรานที่จะตามไปยังดินแดนนรกด้วย แม้จะฟังคำเตือนจากคังอินและจองซูยังไงเขาก็ยังยืนยันที่จะไป


    "ให้ผมไปเถอะ ผมอยากไปช่วยฮีชอล"


    "มนุษย์อย่างเจ้าจะไปทำอะไรได้?"


    "ผมไม่รู้ แต่ผมอยากไปช่วยเขา ได้โปรดเถอะ ให้ผมไปเถอะนะ ฮีชอลเป็นคนรักของผม เขาต้องกำลังร้องหาผมแน่นอน"


    อีทึกกับคังอินมองหน้ากันซักพักก่อนจะลอบถอนหายใจ คังอินกอดอกมองหน้าซีวอนอย่างใช้ความคิด


    "ช่วยไม่ได้ อยู่ข้างหลังพวกข้าเอาไว้ละกัน"


    ซีวอนก้มหัวให้ทั้ง2คนอย่างรู้สึกขอบคุณ


    คอยก่อนนะฮีชอล ฉันกำลังจะไปหาแล้ว


    .......

    ....

    ...


    ร่างบางนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ในห้องนอนขนาดใหญ่ประดับด้วยเครื่องตกเเต่งสีดำสนิท ในใจนึกถึงคนที่โอบกอดตนเอาไว้แทบจะทุกคืน รสสัมผัสทุกอย่างยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงความรู้สึก


    ซีวอน...ข้าคิดถึงเจ้า...


    บานประตูเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับเหล่าทหาร ร่างบางเงยหน้ามองก่อนจะป้ายน้ำตาออก จ้องมองผู้มาใหม่นิ่ง


    "ได้เวลาแล้วครับ"


    ร่างบางเดินออกไปโดยไม่คิดจะมองหน้าใครทั้งนั้น ณ ใจกลางท้องพระโรง เสาหินขนาดเล็กถูกตั้งไว้พร้อมกับอ่างขนาดเล็กสีดำ ด้านในบรรจุของเหลวแดงเลือด ข้างๆอ่างคือร่างของผู้ปกครองดินแดนแห่งความตาย ลิเวียธาน หยิบแก้วทองในมือ ลงไปตักเครื่องดื่มหน้าตาสยองขึ้นมา ก่อนจะส่งให้ร่างบางถือ


    "ดื่ม...เพื่อเป็นสักขีพยานว่าเจ้าจะภักดีต่อข้า เท่านี้ดินแดนของเจ้าก็จะกลายเป็นของข้า"


    "ดินแดนนั้นไม่มีวันเป็นของเจ้า ต่อให้ข้าดื่มไอ้เครื่องดื่มนี้ ชาวสวรรค์จะไม่ยอมสิโรราภให้กับเจ้า"


    เพียะ!


    ดวงหน้าหวานหันไปตามแรงตบด้วยน้ำมือของชายมีอายุ ลิเวียธานตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ มือหนาบางคางร่างบางแน่นก่อนจะจ้องดวงหน้าที่สบตาตนโดยไร้ความกลัว


    "ปากกล้านักนะ ลองดูละกันว่าคืนนี้เจ้าจะยังปากดีได้อีกมั้ย"


    "มันคงไม่ถึงคืนนี้หรอก ลิเวียธาน"


    "!!!!"


    เสียงปริศนาดังขึ้นพร้อมกับร่างของเทวดาหนุ่มที่เข้าประมือกับทหาร หมัดและพลังมนตร์สาดใส่ทหารยามจนลงไปนอนหมอบ


    "ท่านคังอิน ท่านอีทึก ซีวอน!!"


    คนสุดท้ายทำเอาร่างบางแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ชเว ซีวอนซึ่งอยู่ในสภาพเหมือนบุกป่าฝ่าดง กำลังยืนส่งยิ้มให้ร่างบาง ในมือมีดาบที่แย่งมาจากทหารยามที่เฝ้าประตูท้องพระโรงเมื่อกี้


    "ขอโทษที่มาช้านะ ฮีชอล"


    "พวกเจ้า!! เข้ามาได้ไงกัน"


    "ก็บุกเข้ามาน่ะสิ ถามได้"


    คังอินยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน ปลายดาบชี้ไปยัง ลิเวียธานที่ยังคงจับตัวร่างบางเอาไว้"


    "ส่งตัวฮีชอลคืนมานะ"


    "ถ้าคิดว่าแย่งกลับไปได้ก็ลองดู"


    ลิเวียธานสลัดร่างบางทิ้ง ก่อนจะดีดตัวพุ่งเข้าหาทหารหนุ่ม คทาสีดำฟาดลงมาไม้ยั้งมือ คังอินรับดาบเอาไว้ได้ทันท่วงที แต่กำลังของทหารหนุ่มไม่มากพอจะประมือกับผู้ปกครองดินแดนคนล่าสุดได้ ร่างหนาดีดตัวหนี ก่อนจะพุ่งเข้าประมือกันอีกครั้ง เสียงดาบดังกึกก้องไปทั่วท้องพระโรง ช่วยอาศัยความชุนมุน ซีวอนกับอีทึกก็เข้าไปดูร่างบางทันที


    "ไม่เป็นไรนะ ฮีชอล"


    "ท่านฮีชอล"


    "ซีวอน...เจ้ามาช่วยขาเหรอ...แต่...ได้ยังไง"


    ร่างสูงไม่ตอบ มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะบรรจงสวมสร้อยคอให้ร่างบางอีกครั้ง


    "คราวนี้อย่าาถอดอีกนะ"


    "อัก!!"


    "ซีวอน ระวัง!!!"


    เสียงร้องห้ามของจองซูเรียกให้ซีวอนรู้สึกตัว ร่างสูงผลักร่างบางออกห่างก่อนจะยกดาบขึ้นรับส่วนหัวของคทาจากลิเวียธานที่เพิ่งเล่นงานทหารหนุ่มจนลงไปนอนหมอบกระแต แรงกดทับมหาศาลแทบจะทำให้ซีวอนทรงตัวไม่อยู่ ลิเวียธานแสยะยิ้มโรคจิต ดวงตาสีนิลน์จดจ้องมาที่มนุษย์ตรงหน้าที่คิดจะมาต่อกรตนเอง


    "เจ้าเหรอ ซีวอน ก็แค่มนุษย์โง่เขลา คิดว่าจะชนะข้าได้งั้นเหรอ?"


    "มนุษย์ก็มีกึ๋นกว่าปีศาจอย่างพวกท่านละกัน"


    ลิเวียธานกดคทาลงไปเเรงขึ้นจนเข่าข้างหนึ่งเริ่มงอแต่ ซีวอนก็พยายามฝืนแรง ก่อนจะสลัดคทาทิ้งและออกและตวัดดาบ แต่ลิเวียธานก็อาศัยความไวหลบออกไป ไอพลังสีดำเริ่มก่อตัวก่อนจะพุ่งตรงมาที่ร่างสูง ซีวอนปัดมันออกไปอย่างว่องไว้ก่อนจะมองอีกฝ่ายเหงียดๆ


    "ผู้ปกครองนรกมีดีแค่นี้เองเหรอ?"


    "ลองดูให้ดีๆก่อนละกัน"


    "ท่านฮีชอลลลล!!"


    เสียงกรีดร้องของอีทึกดังลั่นเรียกให้ซีวอนหันไปดูก่อนจะเบิกตากว้าง ไอพลังสีดำพุ่งตรงไปยังร่างบางที่ได้แต่ยืนมองไม่รู้จะหลับไปทางไหน ร่างบางหลับตาปี๋รอรับชะตากรรม


    "อ๊ากกกกกกกกก!!"


    ร่างบางลืมตาโพลงเมื่อเสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเป็นเสียงทีตนรู้จักดี ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของร่างสูงกำลังจ้องมาที่ตนเองยิ้มๆ แต่ว่าด้านหลังนั้นคือกลุ่มก้อนพลังสีดำที่ตรงเข้าอัดหลักของซีวอนจะกระอักเลือด เมื่อพลังนั้นหายไปร่างของซีวอนก็ล้มลงไปนอนกับพื้นทันที


    "ซีวอน!ซีวอน!"


    "อึก...ปลอดภัยนะ"


    "จ...เจ้า...มนุษย์อย่างเจ้านี่มัน..."


    "โง่...ฉันฟังจนเบื่อแล้วล่ะ...อา..."


    "ซีวอน!!"


    ร่างบางเขย่าร่างที่นอนนิ่งพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรูออกมา เลือดเริ่มอาบไหลร่างทีละน้อยๆ อีทึกกับคังอินได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างเวทนา ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้


    "เอ้าๆ อย่าลืมสิว่าข้ายังอยู่ตรงนี้"


    "เจ้าคนขลาด!! ใช้วิธีสกปรก ข้าเกลียดเจ้ายิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น ข้าจะไม่ยอมเจ้าอีกแล้ว อย่าหวังว่าจะได้ร่างกายของข้า เพราะร่างกายของข้าเป็นของ ชเว ซีวอนเพียงผู้เดียวว!!"


    ลิเวียธานการชากร่างของฮีชอลจนลอยไปติดกำแพง มือหนาบีบเข้าที่ลำคอเรียวเล็กจนร่างบางเริ่มขาดอากาศหายใจ


    "ถ้าอยากตายตามมันขนาดนั้น ข้าจะสงเคราะห์ให้"


    ลิเวียธานแสยะยิ้มอีกครั้งก่อนจะเริ่มออกแรงบีบมากขึ้น ทางด้านซีวอนที่สติเริ่มจะไม่ค่อยเหลือแล้ว ดวงตาพร่ามัวพยายามจับจ้องไปยังศัตรูของตนเองที่ตอนนี้เริ่มทำร้ายหัวใจของตนเอง ริมฝีปากกระซิบเสียงเบาหวิวเหมือนพยายามจะสั่งอะไรบางอย่าง


    "อย่า..."


    แต่พูดไปก็เท่านั้นเมื่อคนๆนั้นยังคงทำร้ายร่างของคนรัก ทำเอาตนเองรู้สึกแค้น เจ็บใจที่ไม่สามารถช่วยคนรักได้ ความโกรธ เสียใจ และเจ็บใจเริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจของร่างสูงมากขึ้นเรื่อยๆ


    "อย่านะ..."


    ร่างสูงพยายามยันตัวลุกขึ้นแต่ก็ไร้ผล ความโกรธเริ่มพุ่งทะยานมากขึ้น จนบรรยากาศรอบๆตนเริ่มเปลี่ยนแปลง ดวงตาสีดำเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ


    "อย่าทำ...."


    เเละเหมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับซีวอนเมื่อร่างบอบบางเริ่มไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน ร่างสูงลุกขึ้นตะโกนเสียงกร้าว พร้อมกับบรรยากาศรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว


    "อย่าทำร้ายดวงใจของข้า!!!!!!!!!!!!!!"


    ตูมมมม!!!


    สิ้นเสียงของซีวอน ร่างของชายหนุ่มก็เกิดการระเบิดขึ้น จนทำเอาทุกคนมองตาค้าง ลมพายุรุนแรงก่อตัวขึ้นอย่างปริศนาภายในห้อง พร้อมกับกลุ่มก้อนไอพลังสีดำที่มาจากทั่วสารทิศพุ่งตรงมายังร่างของชายหนุ่มที่ยืนนิ่ง


    "น...นี่มัน..."


    สิ่งที่เห็นแทบจะทำให้ทุกคนตกตะลึง เมื่อร่างกายของชายหนุ่มตรงหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนไปทีละน้อย เส้นผมสีดำสนิทที่มักจะสั้น เริ่มยาวจรดกลางหลัง บาดแผลเริ่มสมานตัวจนไม่เหลือแม้แต่รอยแผลเป็น เครื่องแต่งกายจากเสื้อเชิ๊ตกางเกงขายาวธรรมดาเปลี่ยนเป็นชุดคลุมสีดำปักเลื่อมทองคำขาว ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือปีกสีดำสนิท3คู่ที่สยายออกกว้าง ณ กลางหลังของร่างสูง ชเว ซีวอนที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีแดงก่ำ เพียงแค่มองก็สร้างบรรยากาศกดดันไปทั่วบริเวร


    "ร่างนั้น..."


    อีทึกรำพึงออกมาเหมือนเพิ่งนึกได้


    "ท....ท่านลูซิเฟอร์"


    ลิเวียธานปล่อยมือออกจากร่างบางทันที ฮีชอลสำลักเอาอากาศเข้าปอดก่อนจะเงยหน้ามองสิ่งผิดปกติ ก่อนจะตกใจสุดขีดเมื่อรูปร่างของคนรักแปรเปลี่ยนไปจนตนเองแทบจะจำไม่ได้ ถ้าไม่ติดที่เค้าโครงหน้าที่ตนจำได้ขึ้นใจ ร่างบางคงคิดว่าเป็นคนอื่น


    "ซีวอน..."


    ดวงตาสีแดงก่ำจดจ้องมาที่ร่างบางวูบหนึ่งก่อนจะหันมาที่ลิเวียธานที่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว


    "ลิเวียธาน...เองเหรอ?"


    "ค...ขอรับ ท...ท่าน...ค...คือ..."


    "อ๋อ...ร่างนี้น่ะเหรอ?"


    ร่างสูงรำพึงเบาๆก่อนจะ ยกมือของตนเองขึ้นมาสำรวจ


    "ไม่รู้สิ...พอเห็นเจ้า...กำลังทำร้ายคนของข้า พลังมันก็เลยตื่นขึ้น"


    "พ...พลัง...ง...งั้นก็หมายความว่า..."


    "ใช่...เจ้าคนทรยศ"


    อั๊ก!!!


    คมมีดเสียบเข้าทะลุร่างของลิเวียทานอย่างรวดเร็ว โดยที่ร่างสูงไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว ดวงตาแข็งกร้าวจดจ้องไปที่ร่างของอดีตลูกน้องที่ตนเคยไว้ใจอย่างไร้อารมณ์


    "เพราะเจ้า...หักหลังความไว้ใจของข้า...ทำให้ข้ากับเทพท่านต้องตาย...ใส่ความให้ทั้ง2ฝ่ายคิดว่ามันเป็นการลอบหักหลังกันของแต่ละฝ่าย เพราะความอิจฉาในตัวของเจ้าที่ข้าไปแย่งคนที่เจ้าแอบรัก!!!"


    คมดาบค่อยถูกถอนออกมาจากมือที่มองไม่เห็น เลือดสีดำเข้มค่อยๆไหลรินออกมานองเต็มพื้น ซีวอนไม่คิดจะแยแสอดีตลูกน้องของตน ยังคงยืนนิ่งจ้องมองร่างอาบเลือดที่ร้องครวญครางอย่างทรมาร


    "เจ้าคงคิดสินะ ถ้าหากข้าตายและไปเกิดเป็นมนุษย์ ข้าจะไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวโลกทั้ง2ได้ เจ้าจะได้ดำเนินการได้อย่างที่ต้องการ...แต่เจ้าลืมไปอย่าง...ไม่ว่าจะกี่ชาติข้าก็ยังเป็นราชาแห่งดินแดนนี้ เจ้าแห่งปีศาจลูซิเฟอร์ พลังในกายข้าจะไม่มีวันเสื่อมสลาย!!"


    มือหนายื่นออกมาข้างหน้า ไอพลังสีดำก่อตัวขึ้นที่ฝ่ามือของร่างสูง พร้อมกับร่างของลิเวียธานที่เริ่มสลายไปเพราะพลังของซีวอน


    "และพอข้ากับเทพท่านตายเจ้าก็มาลงกับเชื้อสายแห่งนาง คิดช่วงชิงความเป็นใหญ่ คนอย่างเจ้าข้าจะเผาผลาญไม่ให้เหลือแม้แต่วิญญาณ!!"


    จบคำพูดมือหนาก็กำกันแน่นพร้อมกับร่างของลิเวียธานที่สลายหายไป ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคน


    ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ ร่างของคนที่ตนรักโผล่พรวดมาตรงหน้าตน มือหนาลูบเบาๆบริเวรลำคอขาวที่มีรอยแดงจากการบีบรัด เพียงลูบเบาๆ รอยเหล่านั้นก็หายไป


    "เจ็บมากมั้ย?"


    คำถามที่แฝงไปด้วยความห่วงใยเรียกให้ร่างบางเงยหน้า ดวงตาสีแดงเลือดแฝงไปด้วยความห่วงใย เรียกให้ใจดวงน้อยกระตุกสั่นไหว


    "ย...อย่าเข้าใกล้ข้า...ท่านไม่ใช่ซีวอนของข้า"


    ร่างบางออกแรงผลักอีกคนออกก่อนจะถอยหลังไปติดข้างฝา ร่างสูงมองท่าทางที่เปลี่ยนไปของอีกคนงงๆ


    "นี่ข้าเองนะ ฮีชอล ซีวอนของเจ้าไง"


    "ไม่...ท่านคือลูซิเฟอร์ เจ้าแห่งนรก ไม่ใช่ซีวอนที่ข้าเคยรู้จัก...อ๊ะ...ปล่อยข้านะ"


    "ท่านคังอิน ท่านจองซู ข้าฝากจัดการเรื่องที่เหลือหน่อยนะ ขอไปเคลียร์กับนางฟ้าตนนี้ก่อน"


    ซีวอนหันไปบอกคังอินกับจองซูที่มองมาอย่างงงๆโดยไม่สนร่างบางที่ร้องโวยวายเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าจัดการช้อนตนเองขึ้น ปีกทั้ง6สยายออกกว้างก่อนจะกระพือขึ้น มุ่งสู่ดินแดนที่เชื่อมต่อระหว่างโลกทั้ง3 ป่าเอเดน


    ..............

    .......

    ...


    "ปล่อยข้านะ ซีวอน ปล่อยสิ!!"


    ร่างบางโวยวายเสียงดังขณะที่ถูกตนตัวสูงกว่ากำลังบินพาไปที่ไหนก็ไม่รู้


    "หากข้าปล่อยเจ้าก็บินหนีข้าไปสิ นางฟ้าของข้า"


    "ข้าไม่ใช่นางฟ้าของเจ้า อื้ออออออออออ~"


    ร่างบางหุบปากเงียบทันทีเมื่อ ริมฝีปากตนเองถูกปิดด้วยกลีบปากของอีกคน ลิ้นร้อนสอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดเล็กจนร่างบางแทบจะอ่อนระทวย สัมผัสคราวนี้มันช่างดำมืดและหอมหวานในคราวเดียวกัน ร่างสูงค่อยๆถอนริมฝีปากออกช้าๆ จ้องมองใบหน้าหวานที่แดงกล่ำเพราะขาดอากาศหายใจ


    "ทีนี้ยอมฟังข้าได้ยัง?"


    ร่างบางหุบปากเงียบ ร่างสูงหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะค่อยๆร่อนลง ณ ลำธารเล็กๆใน ป่าเอเดน ดินแดนของผู้ที่ถูกเลือกและเทพทั้ง2ดินแดนเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้ามา ร่างสูงค่อยๆนั่งลงที่หินก้อนหนึ่งที่อยู่ใกล้กับลำธาร ในขณะที่ดึงให้คนตัวเล็กนั่งซ้อนอยู่บนตักตนเอง วงแขนแกร่งโอบรอดเอวบางแน่น จมูกโด่งเริ่มซุกไซร้ไปทั่วลำคอระหง


    "ท่านมีเรื่องอะไรต้องบอกข้า"


    "ใจร้ายจังนะ ที่ตอนข้ายังเป็นมนุษย์เจ้าไม่เห็นมีท่าทางเยี่ยงนี้เลย"


    "ก็นั่นมันตอนนั้น นี่มันตอนนี้"


    "เจ้าไม่ชอบที่ข้ากลายเป็นแบบนี้งั้นเหรอ?"


    ร่างบางก้มหน้าเงียบไม่ยอมพูดอะไร ร่างสูงก้มมองร่างเล็กเพื่อรอว่าเมื่อไหร่คนในอ้อมกอดจะพูดออกมา


    "ข้า...แค่กลัว..."


    "....."


    "เมื่อกี้...ที่เจ้าฆ่าลิเวียธาน เจ้าทำไปเพื่อข้าหรือเพราะคนรักเก่าของเจ้า ข้าเริ่มสับสนว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่ข้าควรรัก มนุษย์ธรรมดาชื่อ ชเว ซีวอน หรือว่าท่าน เจ้าแห่งอเวจีลูซิเฟอร์.."


    "ฮีชอล..."


    "และ...ข้ากลัว...เจ้าจะหมดรักข้า...เพราะความทรงจำของเจ้ากลับมาหมดทุกอย่างและความทรงจำใหม่ของเจ้าในฐานะ ซีวอน...จะหายไป"


    มือหนาเชยคางร่างบางขึ้นมาก่อนที่ริมฝีปากหนาจะกดจูบที่ริมฝีปากบางเบาๆ เส้นผมสีน้ำตาลแดงถูกเสยออกเบาๆเพื่อให้เห็นดวงหน้าหวานได้อย่างชัดเจน


    "อย่ากลัวไป นางฟ้าของข้า ไม่ว่าจะตอนนี้หรือว่าตอนไหน ข้ากับซีวอนก็คือคนๆเดียวๆกัน และคนที่ข้าและเขารักก็คือเจ้า...ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน เจ้าคือผู้กุมหัวใจของข้าเพียงคนเดียว"


    "...."


    "หากเจ้าไม่ชอบใจ ข้าจะสละพลังทุกอย่างที่ข้ามี กลับไปเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ขอเพียงแค่ได้เจ้ากลับมาอยู่ข้างกายข้าอีกครั้ง"


    "ฮึก...."


    "ข้ารักเจ้า...นางฟ้าของข้า ได้โปรดกลับมาหาปีศาจแห่งอเวจีผู้นี้เถอะนะ อย่าคิดบินหนีจากข้าไปอีกเลย"


    "ข...ข้าก็รักท่าน ซีวอน...ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือตอนไหน ข้าก็รักท่าน รักแต่เพียงผู้เดียว"


    วงแขนแกร่งกระชับอ้อมกอดร่างเล็กอีกครั้ง พร้อมกับรสจูบที่ลึกล้ำเป็นเครื่องเตือนถึงความรักที่มอบให้กับคนตรงหน้า


    ......

    ....


    "ได้โปรดเถอะท่านจองซู"


    "ยังไงก็ไม่ได้ ท่านลูซิเฟอร์ ท่านฮีชอลต้องกลับไปครองบัลลังค์สวรรค์ตามกฏของสวรรค์"


    "แต่ข้ากับฮีชอลจะแต่งงานกัน"


    "ยังไงก็ไม่ได้ หากแต่งกัน ท่านฮีชอลก็จะต้องอยู่ที่นี่ แล้วใครกันที่จะปกครองดินแดน?"


    บทสนทนาที่ไม่มีทีท่าจะจบลงของเจ้าแห่งนรกกับผู้รักษาการแทน ปาร์ค จองซู ซึ่งหัวข้อสนทนานั้นก็ยังคงเหมือนเดิมมานานกว่า1ชั่วโมง ส่วนคังอินกับฮีชอลก็ได้แต่มองคน2คนเถียงกันไปมา และไม่สามารถเข้าไปยุ่งหรือออกความคิดเห็นได้ แม้จะรู้สึกดีที่ได้เห็นมาดหลุดๆของ เจ้าแห่งนรก แต่ก็อดสงสารคนที่แทบจะกอดขาอ้อนวอน ผู้มีตำแหน่งด้อยกว่าอย่างจองซูเพียงเพื่อให้ได้แต่งงานกับตนเอง


    "ปกติท่านซี เอ้ย...ท่านลูซิเฟอร์เป็นแบบนี้รึเปล่า?"


    ฮีชอลส่ายหน้ามองขำๆ กับท่าทางของคนรักที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนสิงโตอดเนื้อมา3วันแล้ว


    "ข้าไม่เคยเห็นซีวอนยอมใครขนาดนี้นอกจากข้า"


    "แต่คงต้องเว้นท่านจองซูไว้คน"


    เมื่อเห็นว่าบทสนทนาของคน2คนไม่มีวันจบ ร่างบางจึงเสนอตัวเข้าไปทันทีไม่งั้นวันนี้ตนเองกับคังอินคงไม่ได้มีเวลาอยู่กับคนรักของตนแน่นอน


    "พอเถอะน่า อีทึก ให้ข้าตัดสินใจเองได้แล้ว ข้าโตแล้วนะ"


    "แต่ว่าหากท่านตัดสินใจ ท่านก็ต้องเลือกจะแต่งงานกับเขา แล้วดินแดนสวรรค์ล่ะจะเป็นยังไง?"


    "ตลอดเวลาหลายปี ใครที่เป็นคนดูแลดินแดนแทนข้า?"


    "กระหม่อม"


    "แล้วทุกครั้งที่เหตุการณ์ไม่ปกติ ใครกันที่ทำแทนข้า"


    "ก็กระหม่อมขอรับ"


    "งั้นข้าขอสละอำนาจทั้งหมด และขอแต่งตั้งท่าน ปาร์ค จองซู ขึ้นเป็นเทพท่านแทนข้า"


    ร่างบางผู้รักษาการเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่ไม่น่าจะหลุดออกมาจากนายเหนือของตนเอง แต่ก่อนจะได้ขยับปากพูดอะไรมือบางก็ยกขึ้นปราม


    "ข้าตัดสินใจแล้ว ชาวสวรรค์รักและเอ็นดูในตัวท่าน บางครั้งที่ข้าแอบหนีเที่ยว ผู้คนต่างสรรเสริญท่าน ชาวสวรรค์ได้ผู้ครองที่ดีแล้ว"


    "แต่ว่า..."


    "ท่านลองมองกลับกันดูสิ หากเป็นท่านกับคังอินต้องโดนแยกจากกันอย่างที่ท่านกำลังคิดจะทำ ท่านจะรู้สึกเช่นไร?"


    ชเว ซีวอนหรือว่าลูซิเฟอร์จ้องมองคนรักของตนเองอย่างภูมิใจ คนรักของเขาทำไมถึงได้โตวัยอะไรขนาดนี้นะ จองซูถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะจับจ้องไปยังคนทั้ง2ที่กุมมือกันแน่น ร่างบางก้มหัวให้กับฮีชอลอย่างเคารพ


    "ขอบพระทัยที่ได้มอบตำแหน่งที่สูงส่งนี้ให้ กระหม่อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ท่านคาดหวัง"


    ร่างบางหันไปมองชายหนุ่มในชุดดำที่ยืนรอเหมือนรู้อยู่แล้ว


    "ข้าฝากท่านฮีชอลด้วย หากวันใดที่ท่านทำร้ายเขา ข้าจะพาท่านฮีชอลกลับไปยังดินแดนของเราและจะไม่ยอมให้ท่านย่างกรายเข้าไปในดินแดนแม้แต่ก้าวเดียว"


    "ข้าสาบานจะรักและดูแลคนๆนี้ยิ่งกว่าชีวิตของข้า ท่านอย่าได้กังวล"


    ร่างสูงรับคำพร้อมกับให้สัตย์สาบานจนร่างบางที่อยู่ข้างๆรู้สึกกระดากเขินกับคำสาบานที่คนรักมอบให้กับตนด้วยใจ


    พิธีอภิเษกและสถาปาเทพถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ดินแดนสวรรค์ ผู้คนทั้ง2ดินแดนต่างแสดงความปิติยินดี ที่ในที่สุดสงคราวก็จบลงพร้อมกับการกลับมาของเจ้าแห่งอเวจีลูซิเฟอร์ เพียงแค่ก้าวผ่านประตูสวรรค์ สายตาทุกคู่ก็จับจ้องมาเป็นตาเดียวด้วยความตื่นตะลึงในความหล่อและน่าเกรงขามของร่างสูง


    ร่างบางในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์มองสบตาคนรักที่แต่งตัวมาเต็มยศในชุดคลุมสีดำสนิท พร้อมดาบประจำกาย ผมถูกรวบไว้เป็นหางม้าอย่างเรียบร้อย รอยยิ้มที่จะมองดูกี่ครั้งยังคงอ่อนโยนถูกส่งมาให้ร่างบางที่ยืนเขินอายกับการแต่งกายในครั้งนี้


    จองซูยืนมองคนสองคนในขณะที่คนรักของตนยืนกุมมืออยู่ข้างๆ รู้สึกเป็นสุขเมื่อได้เห็นคนสองคนที่รักกันและเป็นเหมือนเสาหลักที่เชื่อมความสัมพันธุ์ระหว่างสองดินแดน


    "เจ้าสวยมาก นางฟ้าของข้า"


    ร่างสูงเอ่ยชมให้ได้ยินกันเพียง2คนร่างบางก้มหน้างุดๆ ไม่ยอมเงยหน้าขึ้น มือหนาถือวิสาสะจับมือนิ่มขึ้นมากุมไว้ก่อนจะพาร่างบางออกเดินไปยังแท่นทำพิธีที่ เทพท่านที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเสร็จสรรพกำลังยืนรออยู่


    งานแต่งผ่านไปอย่างเรียบง่าย หลังจากที่แลกแหวนแต่งงานและจูบสานบานแล้ว มือหนาก็จัดการช้อนร่างบางขึ้น ก่อนจะกางปีกสีดำสนิทมุ่งหน้าออกจากดินแดนสวรรค์โดยมีสายตาที่จ้องมองร่างสองร่างหายไปจนลับตา จองซูก้มลงมองอัญมณีสีแดงเลือดในมือพร้อมกับคำพูดที่ร่างสูงได้กำชับตนไว้


    'ท่านนำอัญมณีนี้ไปติดที่กระจกบานเท่าตัว เท่านี้ดินแดนทั้ง2ก็จะสามารถเชื่อมโยงกันได้ เมื่อใดที่ท่านต้องการพบฮีชอลเพียงแค่เดินผ่านกระจกที่ติดอัญมณีนี้เท่านั้น'


    จองซูระบายยิ้มนิดๆ ก่อนจะเงยหน้ามองเส้นทางที่คนที่ตนเลี้ยงดูเป็นอย่างดีหายลับไป


    ขอให้ท่านมีความสุขกับคนของท่าน ท่านฮีชอล


    .........

    ......

    ...


    -----------------------------------------------------------------ตัดฉับ---------------------------------------------------------------
     

    "จะกี่ทีๆ เจ้าก็ทำข้าอดใจไว้ไม่ได้ทุกทีสินะ"


    "เพราะท่านหื่นไง"


    ร่างสูงหัวเราะหึๆ ในลำคอ วงแขนแกร่งตวัดโอบรอบเอวเล็ก ร่างบางหลับตาพริ้ม รู้สึกอิ่มเอมไปทั่วทั้งหัวใจ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงเสียงเล็กที่ดังลอดออกมาจากอีกห้องหนึ่ง ร่างสูงหัวเราะเบาๆก่อนจะค่อยๆวางร่างบางลงและหยิบผ้ามาเหน็บเอวของตนเอง


    "เจ้านอนพักเถอะ ข้าจะไปดูลูกให้"


    ร่างบางพยักหน้านิดๆก่อนจะนอนหลับตาอย่างหมดแรง ณ ห้องอีกห้องที่อยู่ติดกับห้องนอนของเจ้าแห่งอเวจี เป็นห้องที่ถูกตกเเต่งจนดูสดใสผิดแปลกจนดูไม่น่าจะใช่ห้องนอนของชาวนรก มือหนาค่อยๆตระกองอุ้มสิ่งมีชีวิตตัวน้อยในเปลนอน ทำจากเหล็กปูด้วยที่นอนอย่างดี


    "ร้องไห้ทำไมเหรอ ปีศาจตัวน้อยของพ่อ"


    ร่างเล็กค่อยๆเงียบเสียงลงก่อนจะปรือตาหลับ ร่างสูงระบายยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจูบที่หน้าผากเล็กอย่างเอ็นดู ร่างสูงค่อยๆวางร่างเล็กลงนอนในเปล มือหนาเกลี่ยเส้นผมสีดำแดงอย่างทะนุถนอมก่อนจะจัดเด็กน้อยให้นอนดีๆ เผยให้เห็นปีกเล็กสีเทา สามคู่ ลู่ไปเตียง ซีวอนมองยิ้มๆกับเลือดผสมของตนกับคนรักอย่างเอ็นดูก่อนจะปล่อยให้ลูกครึ่งเทวดาตัวน้อยนอนหลับอย่างสบายอารมณ์
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×