คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ลำดับตอนที่ 2
บทที่2 <ช่วยชีวิต>
ออดเลิกเรียนดังขึ้นหลังจากวิชาพุทธศาสนาจบลงเป็นคาบสุดท้ายของวัน เล่านักเรียนต่างเก็บข้าวเก็บของ
กลับบ้านกัน บางคนก็ทำเวรความสะอาดกวาดห้องถูห้องกันเกะกะตา แต่กลุ่มหญิงล้วนที่ยังนั่งกันอยู่มองหน้ากันไปมารอความเห็นแต่ละคนว่าเย็นนี้พวกเธอจะเที่ยวไหนกันดี
“ฉันว่านะเราไปเดินห้างกัน”
“ม่ายดีกว่ากิ๊ก ฝ้ายว่าไปดูหนังกันนะ”
“จะดูเรื่องอะไรฝ้าย เธอน่ะดูหมดโรงแล้ว”ฝันค่อนขอด
ฝ้ายส่งค้อนให้วงใหญ่ แล้วเชิดหน้าถามออกไป
“งั้นมีความคิดอื่นที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ”
“มลว่าไง”หญิงหวานของกลุ่มถามเพื่อนสาวที่นั่งเงียบอยู่
“ฉันว่าเราไปผับกันเถอะ”
“หา!!!”ทั้งสี่อุทานพร้อมกันเสียงดังจนคนในห้องมองงงๆ
“ไม่ต้องหาอะไรหรอก ฉันบอกว่าเราน่าจะไปเที่ยวผับแต่ว่ามันก็เป็นแนวนั้นล่ะนะแต่จิงๆแล้วเด็กเข้าได้”
“แล้วข้างในมีของมึนเมาหรือเปล่า?”
“ไม่มีหรอก ก็ได้มากสุดแค่โค้ก”
“อืมๆไปซิ”
“ตกลงตามนี้นะไปเปลี่ยนเสื้อก่อนแล้วเจอกันที่เดิมนะ”
ทั้งห้าต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้พร้อมออกมาเที่ยวตอนเย็นนี้กัน วิลาสินีถึงจะเรียบร้อยแต่เธอก็ไม่ได้อ่อนต่อโลกจนเกินไป ดังนั้นเธอจึงไม่ได้โอดครวญอะไรที่เพื่อนชวนไปผับ หญิงสาวกลับมาถึงบ้านพร้อมรอยยิ้มพิมใจที่คนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า
“วิ กลับมาแล้วเหรอลูก”
“ค่ะแม่”
“ไงเราเห็นวันนี้โทรมาขอแม่เค้าไปเที่ยวตอนเย็นเหรอ”
“โห พ่อได้ข่าวไวจังเลยค่ะ”
“แล้วว่าๆไงล่ะ”
“ข่าวจากแม่น่ะเป็นข่าวกรองร้อยเปอร์เซ็นค่ะพ่อ หึหึ”
“เดี๋ยวเถอะลูกคนนี้”ผู้เป็นแม่เดินถือถ้วยลอดช่องออกมาจากในครัวทันได้ยินที่ลูกสาวพูดไว้
“แล้วให้ไปหรือเปล่าคะ”หญิงสาวกระแซะผู้เป็นแม่อย่างออดอ้อน
“แม่แล้วแต่คุณพ่อจ๊ะ”
“อ้าวคุณ โบ้ยมาให้ผมเรื่อยเลยนะ”
“ว่าไงคะๆ”
“อาๆได้แต่ ต้องระวังตัวด้วยนะลูก ถึงจะบอกกลับหัวค่ำก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี”
“รับทราบค่ะ”หญิงสาวรับคำและกระโดดตัวลอยอย่างดีใจและไม่รีรอเธอรีบวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนชุดรวดเร็ว
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ”
“นี่ยัยวิแล้วไม่อยู่รอทานข้าวกับน้องก่อนเหรอลูก”
“ไม่ค่ะ ฝากขอโทษเจ้าตัวเล็กด้วยนะคะ”
สวนสาธารณะซึ่งเป็นที่นัดประจำของกลุ่มเพราะเป็นจุดศูนย์กลางระหว่างบ้านของทั้งห้าคน
“มาครบแล้วไปกันเลยนะ”
“นำไปเลยมล โกๆ”
เมื่อมาลงจากแท็กซี่ทั้งห้าก็มาถึงร้านแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า”ผับ”เป็นร้านที่เรียกได้ว่าอยากได้อะไร อยากทำอะไรให้มาที่ได้หมด มีทั้งดูหนัง ร้องคาราโอเกะ ช็อปปิ้ง และอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ที่สำคัญจะมีร้านอาหารให้นั่งทานด้วย
“ว้าว! เริ่ดมากเลยมลเธอมาบ่อยเหรอ”
“บ่อยซิ”
“ไม่เห็นชวนเราบ้างเลย”
“น้อยใจไปได้สองสาวก็มาตอนปิดเทอมนี่นา”
“จะเสียเวลาอีกนานมะ ลุยเลยเหอะ”กิ๊กว่าอย่างอารมณ์เสีย
ทั้งห้าตกลงใจเลือกโซนที่เป็นคาราโอเกะมานั่งพักหลังจากเดินซื้อของกันจนเต็มมือ
“กี่โมงแล้วเนี่ย เดินเพลินมาก”
“สองทุ่มแล้ว”
“อย่างกะกลางวันอยู่เลยแหะ”กิ๊กอุทานตาโต เพราะผับนี้จะเปิดไฟสว่างจ้าอยู่ตลอดเวลา และบนเพดานของตึกก็ยังเขียนเป็นรูปท้องฟ้ายามกลางวันที่แจ่มใสอีกต่างหาก ทำให้ลูกค้าทั้งหลายหลงอยู่ในวังวนอย่างลืมวันลืมคืนกันเลยทีเดียว
“นี่ เดี๋ยววิไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“อุ๊ย! ดีเลยวิเราไปเข้าด้วย”
วิรู้สึกโล่งใจที่มีมลตามมาเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนเนื่องจากมลสันทัดกับที่นี่ดีกว่าเธอที่เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก
“นี่วิ เธอว่าผับที่นี่เป็นยังไงบ้าง”
“หืม ก็ดีนี่จ๊ะมีทุกอย่างเลยวิชอบ”
“อืมดีแล้ว อย่างนี้ต่อไปกลุ่มเรานัดเป็นที่ประจำแทนดีมะ”
“ก็ดีนะ อุ๊ย!”วิลาสินีอุทานแล้วหยุดเดินกะทันหันทำให้ นฤมลตกใจหันกลับมาดูด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรวิ เจ็บตาเหรอ”วิลาสินีส่ายหัวไปมา
“เปล่าจ๊ะ แค่คอนแทคเลนส์หลุดเท่านั้นเอง”
“อ้าว แล้วหาเจอไหม”
“ยังไม่เจอเลย คงต้องไปเอาอันสำรองที่รถล่ะจ๊ะ”
“อืมๆให้เราไปเป็นเพื่อนไหม”
“ไม่เป็นไรหรอก มลไปเข้าห้องน้ำเถอะ”
นฤมลพยักหน้าตกลงพร้อมยื่นกุญแจรถให้แล้วจึงหันหน้าเดินต่อไปทางห้องน้ำหญิงส่วนวิลาสินีก็มุ่งหน้าไปยังที่จอดรถซึ่งอยู่ภายนอกตัวอาคารและเป็นสงนย่อมดูเปลี่ยวๆ
เมื่อออกมาจากตัวตึกแล้วจึงเห็นได้ชัดว่าภายนอกนั้นไม่มีแสงอาทิตย์อีกแล้วผู้คนไม่พลุกพล่านมีเป็นบางกลุ่มเท่านั้นที่ออกมานั่งสูบบุหรี่อยู่นอกร้าน วิลาสินีเดินผ่านกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าด้วยใจระทึกจนมาถึงรถหรูราคาแพงสีดำสนิทขอนฤมลที่เธอรับอาสาเป็นสารถีพาเพื่อนมาในวันนี้
“เอ? มันอยู่ไหนนะ จำได้นี่ว่าวางไว้ที่เบาะหลัง”
“อ๊ะๆ! หาอะไรอยู่เหรอจ๊ะน้องสาว”
วิลาสินีสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังของเธอ ก่อนจะหันหน้าไปและทำยิ้มแหยๆสู้อย่างเคย
“ไม่สำคัญหรอกค่ะ ไม่ต้องช่วยก็ได้”
“แหม๋ แต่พี่ว่ามันต้องสำคัญนะจ๊ะไม่งั้นน้องคงไม่ออกมาเอาตอนมืดๆคนเดียวอย่างนี้หรอกจริงไหม”
ชายคนนั้นว่าก่อนจะหันไปเรียกเสียงสมทบจากเพื่อนๆที่อยู่ด้านหลังราว4-5คน แต่ละคนไว้หนวดไว้เคราหน้ากลัว
“เอ่อ ไม่สำคัญจริงๆค่ะพี่ หนูไม่เอาแล้วละขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวซิจ๊ะ น้องจะรีบไปไหนพวกพี่ยังไม่ได้มีโอกาสช่วยเลยนะ”แล้วผู้ชายที่คิดว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มและเป็นคนเดียวกับที่พูดมาตลอดกางมือขวางหล่อนเอาไว้
ก่อนที่เธอจะไปไหนได้ทันมือใหญ่ข้างที่เหลือจากโอบเอวไว้ก็บุกรุกอย่างถือโอกาสควานเข้าทั่วเสื้อยืดรัดรูปของเธอ
“ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันร้องให้คนช่วยแน่”
“ฮะ ว่าไงนะ เฮ้ยฟังดิวะนางนี่มันว่าจะร้องให้คนช่วยเว้ย”
“ฮะฮะฮ่า น้องไม่รู้หรือไงจ๊ะว่าแถวเนี้ยถิ่นพวกพี่”
“จะ..จะถิ่นใครฉันไม่สน แค่มีคนมาช่วยฉันก็รอด”
“แล้วเธอคิดว่าใครจะมาช่วยได้เล่าหะ มาอย่าเสียเวลาเลยตามพี่มาทางนี้ดีกว่านะจ๊ะ พี่จะได้ช่วยหาของในตัวน้องได้ทั่งหน่อยไงนะ เฮ้ยพวกมึงอ่ะคอยดูต้นทางให้ดีนะเดี๋ยวกูเสร็จก็เรียงคิวเข้มาเลย”พวกลิ่วล้อพยักหน้าเข้าใจแล้วจึงแยกย้ายไปหระจำตามจุดต่างๆ
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วย...”หมัดหนึ่งต่อยเข้าที่ท้องน้อยเธอเต็มลักทำให้จุกจนร้องไม่ออก มีเพียงน้ำตาเล็ดออกมาเท่านั้น
แล้วเสียงเอะอะโวยวายด้านนอกก็ดังเข้ามาเรียกความสนใจของหนุ่มบ้ากามได้ทันจังหวะก่อนที่มันจะได้ทำร้ายเธอ
“เฮ้! จัดการมันเด้เร็วเข้าอย่าให้เข้าไปในสวนได้”
“อะไรวะ! พวกมันปล่อยแมงเม่าเข้ามาเรอะ”ชายคนนั้นว่าอย่างหัวเสียก่อนจะผละออกจากหญิงสาวแล้วมัดหล่อนไว้กับต้นไม้ข้างก่อนลุกออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก
วิลาสินีนั่งคอยอยู่อย่างหมดแรง เธอได้ยินเสียงต่อสู้อย่างดุเดือดโดยไม่รู้ผลเป็นอย่างไรเธอก็หมดสติไปเสียก่อน
******************************************
ความคิดเห็น